Announcement

Collapse
No announcement yet.

D.I.Y.ตอน ต่อแอมป์ 40+40 w. ราคาไม่ถึงพัน

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Originally posted by cleaning View Post
    ขอบคุณครับได้ยินมาว่า DVD ถ้าออกช่อง coax มันจะไม่ผ่านDac ในตัวมันเอง ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่ครับท่านใดพอจะทราบหรือไม่ครับว่าจริงหรือไม่
    ถ้าเอาช่อง LR 5.1 ถึงจะผ่าน dac ในตัวมันครับ
    ลองดูdiagramจากti

    sc/dac/avr/dts decoder / audio codec device อื่นๆ
    โครงสร้าง มันคือๆกันบางตัวก็ตัดอะไรไปบ้าง เพิ่มอะไรไปบ้าง(อาจจะไม่มีในรูปข้างบน) ส่วนติดต่อแต่กับdeviceอื่นอาจจะต่างกันไปขึ้นกับมันใช้งานกับอะไรต่อกับอะไร แค่นั้นแหล่ะ

    ไม่รู้จะเข้าใจที่ผมพยายามสื่อสารรึเปล่าน่ะ
    ----------

    แนวทางการโม pioneerอีกรุ่นครับ ที่headphoneguru
    http://www.headphoneguru.com/forum/i...p?topic=6672.0

    Comment


    • คำตอบเดิมๆ

      ไม่ต้องไปดูถึงโครงสร้างภายในให้ปวดหมอง ไม่ต้องไปดูว่าใช้อะหลั่ยเบอร์เดียวกันรึเปล่าให้ปวดหมอง
      เอาแค่ ... ถ้าเนื้อทองแดงของแผ่นPCBต่างกัน มันก็มีผลให้เสียงต่างกันได้ เหมือนเปลี่ยนสายไฟนั่นแหล่ะ

      แต่เดาล่วงหน้า ปัญหาที่คุณcleaningอาจจะถามเป็นลำดับต่อไป ที่ว่ามันต่างกันเนี่ย ผม(cleaning)จะฟังออกรึเปล่า จะคุ้มรึเปล่า

      อย่าโกรธกันน่ะ
      Last edited by keang; 17 Mar 2012, 10:49:27.

      Comment


      • Originally posted by keang View Post
        คำตอบเดิมๆ

        ไม่ต้องไปดูถึงโครงสร้างภายในให้ปวดหมอง
        เอาแค่ ... ถ้าเนื้อทองแดงของแผ่นPCBต่างกัน มันก็มีผลให้เสียงต่างกันได้ เหมือนเปลี่ยนสายไฟนั่นแหล่ะ

        แต่เดาต่อ ปัญหาที่คุณcleaningอาจจะถามเป็นลำดับต่อไป ที่ว่ามันต่างกันเนี่ย ผม(cleaning)จะฟังออกรึเปล่า
        คือถ้าต่างแต่ต้องระดับหูเทพฟังแว็ปเดียวต่าง แบบนั้นผมคงจะฟังไม่ออกครับ ถ้าผมจะฟังออกต้องคงต้องชัดเจนระดับ10-15% ผมถึงจะฟังออกครับ
        และถ้าช่องออก coax ไม่ผ่าน dac ในตัว DVD แบบนี้ตัวสำคัญก็คือ dac ภายนอกนะซิครับ วัดกันว่าเสียงดีไม่ดีก็ตรง dac น่าจะถูกต้องนะครับ ไม่พูดถึงปัจจัยต่างๆนะครับ ปัจจัยต่างๆเหมือนกันหมดทุกอย่างยกเว้น dvd+dac เท่านั้นครับ

        คำว่าต่างของผมต้องรับฟังชัดเจนครับว่าต่าง คนทั่วๆไปไม่ใช่นักฟังเพลงพอได้ยินก็ว่าต่าง ถ้าต่างแค่ปลายเสียงนิดๆแบบว่าเปลี่ยน R หรือ C ตัวเดียวก็ต่างฟังออกแบบนั้นผมคงจะฟังไม่รู้ออกครับ เปลียนไปก็คงไม่มีประโยชน์ครับ ก็ใช้ตัวเดิมๆไปดีกว่า

        Comment


        • ที่ผมแซว ประเด็นคือ ควรแยกคำถามเป็น2ส่วน

          - ต่างหรือไม่ต่าง

          - ถ้าต่าง ผลมากน้อยจนถึงขั้นตัวคุณฟังออกหรือเปล่า
          ประเด็นนี้คนอื่นน่าจะตอบแทนหูของคุณเองได้ยาก เพราะจุดสังเกตุในเรื่องเสียงของคุณเองอยู่ตรงไหนบ้างก็คาดเดาได้ยาก
          เพราะถ้าจุดต่างนั้นไปตรงกับจุดสังเกตุของคนอื่นเค้าก็จะรับรู้ได้ และถ้าจุดนั้นไม่ใช่จุดสังเกตุของคุณตัวคุณก็คงบอกไม่ต่าง

          ผมเคยพูดบ่อยๆ หูเทพมันไม่มีตั้งแต่เกิด คนฟังเก่งมันไม่ได้เป็นตั้งแต่เกิด คนช่างสังเกตุมันไม่ได้เป็นตั้งแต่เกิด
          ทุกสิ่งทุกอย่าง มันเกิดจากการตั้งใจพัฒนาเรียนรู้ การรับรู้ประเด็นใหม่ๆเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ
          Last edited by keang; 17 Mar 2012, 10:57:21.

          Comment


          • Originally posted by keang View Post
            ที่ผมแซว ประเด็นคือ ควรแยกคำถามเป็น2ส่วน
            - ต่างหรือไม่ต่าง
            - ถ้าต่าง ผลมากน้อยจนถึงขั้นตัวคุณฟังออกหรือเปล่า เพราะประเด็นนี้คนอื่นน่าจะตอบแทนหูของคุณเองได้ยาก เพราะจุดสังเกตุในเรื่องเสียงของคุณเองอยู่ตรงไหนบ้างก็คาดเดาได้ยาก
            ขอบคุณครับคุณ keang ผมเองฟังแยกยากจริงๆครับ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเห็นเขาว่าไพโอเนียหัวอ่านมันดี มันรู้ว่ามันจะต่างกับตัวอื่นๆหรือไม่ครับ ถ้าผ่าน coax แล้วไม่ผ่านdac ในตัวมันเอง แบบนี้ใช้ dvd ตัวอื่นก็มีค่าเท่ากัน ขอแค่ไม่ใช่เกรดต่ำกว่า1000 ก็น่าจะไม่ค่อยต่างครับ
            แต่ของผมอาจจะไปตันที่ dac แล้วครับ ก็ใช้แต่ Z2 ครับดีที่ยังใส่637ไว้ ไม่งั้นคงไม่ค่อยไหวเท่าไร พอดีโมให้รับ coax ได้ก็เลยเล่นผ่านเครื่อง dvd ครับ ครั้นจะไปถอย cd player ราคาต่ำก็คิดว่าคงแทบไม่ต่างเท่าไร จะเล่นแพงก็ไม่ไหวครับ ไม่เคยมีโอกาศได้ลอง dac ดีๆระดับหมื่นหรือกว่าเลยว่ามันต่างอย่างไร หาโอกาศไม่ได้จริงๆแบบเอามาฟังกับชุดของผมจะได้จับจุดได้ว่าต่างหรือไม่
            ตอนนี้ผมก็ลดขั้นตอนต่างๆลงหมด ก็ต่อ DVD>Z2>PM5004>INFNITY แค่นี้ครับ buffer ไม่ได้ใช้ร่วมแล้วฟังแล้วมันแทบไม่ต่างเลยขนาดว่าใช้หลอดยุโรบ6DJ8 ก็เลยไม่ใช่เลย
            PM5004 มันมีฟังชั่น ที่กดปุ่มแล้วจะยกระดับเบสมากขึ้น ตรงนี้พอกดแล้วแตกต่างชันเจนเลย

            Comment


            • Originally posted by cleaning
              ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเห็นเขาว่าไพโอเนียหัวอ่านมันดี ไม่รู้ว่ามันจะต่างกับตัวอื่นๆหรือไม่ครับ
              ถ้าผ่าน coax แล้วไม่ผ่านdac ในตัวมันเอง แบบนี้ใช้ dvd ตัวอื่นก็มีค่าเท่ากัน
              คุณกำลังมองข้าม ผลจากการใช้ภาคจ่ายไฟที่ต่างกัน (ถึงจะเป็นภาคจ่ายไฟแบบสวิทชิ่งเหมือนๆกันก็เถอะ)

              Comment


              • Originally posted by cleaning View Post
                ขอบคุณครับคุณ keang ผมเองฟังแยกยากจริงๆครับ ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมเห็นเขาว่าไพโอเนียหัวอ่านมันดี มันรู้ว่ามันจะต่างกับตัวอื่นๆหรือไม่ครับ ถ้าผ่าน coax แล้วไม่ผ่านdac ในตัวมันเอง แบบนี้ใช้ dvd ตัวอื่นก็มีค่าเท่ากัน ขอแค่ไม่ใช่เกรดต่ำกว่า1000 ก็น่าจะไม่ค่อยต่างครับ
                แต่ของผมอาจจะไปตันที่ dac แล้วครับ ก็ใช้แต่ Z2 ครับดีที่ยังใส่637ไว้ ไม่งั้นคงไม่ค่อยไหวเท่าไร พอดีโมให้รับ coax ได้ก็เลยเล่นผ่านเครื่อง dvd ครับ ครั้นจะไปถอย cd player ราคาต่ำก็คิดว่าคงแทบไม่ต่างเท่าไร จะเล่นแพงก็ไม่ไหวครับ ไม่เคยมีโอกาศได้ลอง dac ดีๆระดับหมื่นหรือกว่าเลยว่ามันต่างอย่างไร หาโอกาศไม่ได้จริงๆแบบเอามาฟังกับชุดของผมจะได้จับจุดได้ว่าต่างหรือไม่
                ตอนนี้ผมก็ลดขั้นตอนต่างๆลงหมด ก็ต่อ DVD>Z2>PM5004>INFNITY แค่นี้ครับ buffer ไม่ได้ใช้ร่วมแล้วฟังแล้วมันแทบไม่ต่างเลยขนาดว่าใช้หลอดยุโรบ6DJ8 ก็เลยไม่ใช่เลย
                PM5004 มันมีฟังชั่น ที่กดปุ่มแล้วจะยกระดับเบสมากขึ้น ตรงนี้พอกดแล้วแตกต่างชันเจนเลย
                คงกด ราวเนส
                มันยกระดับขึ้นทั้งแผงเลยฟังดูสนุก แต่มันจะไม่ค่อยธรรมชาตินะ
                แต่ถ้าใครลองได้กดแล้วช่วงแรกเห็นติดใจกันทุกคน

                Comment


                • ลอง เฮดโฟน ทำปรี เข้าบัฟหลอด เข้าแอมป์
                  ฟังแล้ว...เข้าท่า ...เสียงร้องออกมาดี
                  พวกเพลงทดสอบ ...ฟังดีมมากเลย
                  พวกเพลงตลาด..เสียงเน่าไปเลย
                  -----------
                  เฮดโฟน 12at7
                  ตัวบัฟลองเอา 6N2P แทน 12au7 เสียงกลายเป็นป่อแป่ ไม่มีกำลังเลย

                  Comment


                  • Originally posted by milestone View Post
                    คงกด ราวเนส
                    มันยกระดับขึ้นทั้งแผงเลยฟังดูสนุก แต่มันจะไม่ค่อยธรรมชาตินะ
                    แต่ถ้าใครลองได้กดแล้วช่วงแรกเห็นติดใจกันทุกคน


                    พูดถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงก่อนเข้าแอมป์นิผมก็ชอบต่อเล่นไม่ใช่น้อยๆ แต่ช่วงหลังมาเลิกใช้ไปก็เพราะ DAC แท้ๆเรื่องมันมีอยู่ว่า
                    เมื่อก่อนตอนใช้ X-Fi ไม่ได้ทำ DAC อะไรผมก็เป็นพวกบ้าเอานู่นนี้นั้นมาต่อครับ Pre Tone หลอด 4 - 5 อย่าง ทำไว้จนรกบ้าน
                    ทำใหม่ลองฟัึงเสียงที่ต่อจากหลอด ก็ชอบเสียงเพราะไดนามิกเร้นจ์ที่มากขึ้นกับอุปกรณ์ พวกนี้ช่วยเพิ่มคุณภาพของ X-Fi จริงๆครับ
                    มาหยุดเล่นหลอดตอนสร้าง DAC ตัวแรก PCM2702 นิแหละครับ เพราะตอนต่อฟังแรกๆคุณภาพที่ได้จากต้นฉบับเลยนั้นฟังดูดีอยู่แล้ว
                    เลยคิดในใจว่าถ้าเอามาต่อ Pre ต่อ Tone ต่อเขาหลอดมันคงเป็น อะไรที่สุดยอดๆมาก ต่อฟังแรกๆก็เหมือนดีขึ้นครับแต่ลองฟัง
                    เทียบกับไม่ต่อฟังไปฟังมา คิดว่าเสียงออกมาดีขึ้นดูเหมือนจะดังขึ้นมี รายละเอียดมากขึ้น แต่ลองฟังเทียบกับไม่ต่อ
                    ก็พบว่าพื้นเสียงเดิมของ DAC หายไป บุคลิกและตัวตนจาก DAC จริงๆโดนหลอดปรับจนไม่เหลือต้นฉบับเดิม
                    คือมันมีอะไรที่ สูญเสียไปจาก DAC เดิมมากพอสมควรครับคือเข้า 100% ออกมาซะ 60 - 70% หลังจากนั้นก็
                    ไม่ได้ยุ่งกับหลอดหรือ อุปกรณ์พวกนี้เลยครับวางกองทิ้งไว้ เลยเปลี่ยนมาฟังอีกแนวไปเลยคือ เน้นการสูญเสียที่น้อยที่สุด
                    ลดอุปกรณ์ต่อร่วมให้น้อยที่สุด คงบุคลิกและตัวต้นจาก DAC จริงๆให้มากที่สุด ซึ่งจากเป็นคนบ้าต่ออะไร 3 - 4 อย่างก่อน
                    เข้าแอมป์กลายเป็นมาใช้ แอมป์ ต่อกับ DAC จบ คิดว่านี้แหละดีที่สุดแล้วไม่ต้องผ่านอะไรเป็น ธรรมชาติที่สุด
                    หลังๆเวลาผมจะปรุ่งแต่งเสียง DAC ผมจะไม่ให้บุคลิกมันเปลี่ยนครับคือเปลี่ยนได้แต่น้อยๆไม่ได้เปลี่ยนไปเลยคือ
                    พื้นเสียงเดิมมา 100% ผมก็ปรับชดเชยไม่เกิน 10% เพราะอยากฟังบุคลิกและตัวต้นจาก DAC จริงๆ มากกว่าครับ
                    Last edited by MONOLAB; 18 Mar 2012, 02:20:09.

                    Comment


                    • กลับจากที่ทำงาน...ฟิตจัััด ประกอบจน...เสร็จเลย... ตาโหลเลย...

                      เด๋วพรุ่งนี้ ต่อ...เทสเสียง

                      เช็คชุดไฟเรียบร้อยผ่าน..... จ่ายไฟข้างละ 34 v.

                      Last edited by jinn; 18 Mar 2012, 03:39:58.

                      Comment


                      • Originally posted by MONOLAB View Post
                        พูดถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงก่อนเข้าแอมป์นิผมก็ชอบต่อเล่นไม่ใช่น้อยๆ แต่ช่วงหลังมาเลิกใช้ไปก็เพราะ DAC แท้ๆเรื่องมันมีอยู่ว่า
                        เมื่อก่อนตอนใช้ X-Fi ไม่ได้ทำ DAC อะไรผมก็เป็นพวกบ้าเอานู่นนี้นั้นมาต่อครับ Pre Tone หลอด 4 - 5 อย่าง ทำไว้จนรกบ้าน
                        ทำใหม่ลองฟัึงเสียงที่ต่อจากหลอด ก็ชอบเสียงเพราะไดนามิกเร้นจ์ที่มากขึ้นกับอุปกรณ์ พวกนี้ช่วยเพิ่มคุณภาพของ X-Fi จริงๆครับ
                        มาหยุดเล่นหลอดตอนสร้าง DAC ตัวแรก PCM2702 นิแหละครับ เพราะตอนต่อฟังแรกๆคุณภาพที่ได้จากต้นฉบับเลยนั้นฟังดูดีอยู่แล้ว
                        เลยคิดในใจว่าถ้าเอามาต่อ Pre ต่อ Tone ต่อเขาหลอดมันคงเป็น อะไรที่สุดยอดๆมาก ต่อฟังแรกๆก็เหมือนดีขึ้นครับแต่ลองฟัง
                        เทียบกับไม่ต่อฟังไปฟังมา คิดว่าเสียงออกมาดีขึ้นดูเหมือนจะดังขึ้นมี รายละเอียดมากขึ้น แต่ลองฟังเทียบกับไม่ต่อ
                        ก็พบว่าพื้นเสียงเดิมของ DAC หายไป บุคลิกและตัวตนจาก DAC จริงๆโดนหลอดปรับจนไม่เหลือต้นฉบับเดิม
                        คือมันมีอะไรที่ สูญเสียไปจาก DAC เดิมมากพอสมควรครับคือเข้า 100% ออกมาซะ 60 - 70% หลังจากนั้นก็
                        ไม่ได้ยุ่งกับหลอดหรือ อุปกรณ์พวกนี้เลยครับวางกองทิ้งไว้ เลยเปลี่ยนมาฟังอีกแนวไปเลยคือ เน้นการสูญเสียที่น้อยที่สุด
                        ลดอุปกรณ์ต่อร่วมให้น้อยที่สุด คงบุคลิกและตัวต้นจาก DAC จริงๆให้มากที่สุด ซึ่งจากเป็นคนบ้าต่ออะไร 3 - 4 อย่างก่อน
                        เข้าแอมป์กลายเป็นมาใช้ แอมป์ ต่อกับ DAC จบ คิดว่านี้แหละดีที่สุดแล้วไม่ต้องผ่านอะไรเป็น ธรรมชาติที่สุด
                        หลังๆเวลาผมจะปรุ่งแต่งเสียง DAC ผมจะไม่ให้บุคลิกมันเปลี่ยนครับคือเปลี่ยนได้แต่น้อยๆไม่ได้เปลี่ยนไปเลยคือ
                        พื้นเสียงเดิมมา 100% ผมก็ปรับชดเชยไม่เกิน 10% เพราะอยากฟังบุคลิกและตัวต้นจาก DAC จริงๆ มากกว่าครับ
                        ผมก็เลิกเอาbuffer มาใส่แล้วครับ ฟังแล้วแทบไม่แตกต่างครับ เสียงมันน่าจะไปแนวเดียวกันเลยไม่ค่อยต่าง จะว่าไม่ต่างเลยก็ไม่ใช่ครับนิดหน่อยก็เลยไม่ได้ใช้ก็ย่นระยะมาใช้แค่ dvd+dac+z2+pm5004+jamo
                        ไปประมูลdac cs4398 มา1600 มันฮัมเลยไม่ใช้กองไว้อีก
                        ไปๆมาๆจะไม่รุ่งแล้วครับ diy ครับช่วงนี้เลยพักก่อนครับ ว่าจะไปสอยสำเร็จรูปเลยดีกว่าปัญหาไม่ค่อยมี

                        Comment


                        • ระหว่างรอหม้อแปลงเทอรอยด์ที่ส่งไปแก้ไขเลยลองเอาหม้อแปลงเก่ามาต่อเทียบเสียงกับ เทอรอยด์ดู

                          IMG_3944.jpg

                          เสียงที่ได้เท่าที่ได้ลองฟังมาตัวเทอรอยด์ ให้น้ำหนักเสียงได้ดีกว่า มิติเสียงค่อนข้างชัดส่วน EI นั้นแนวเสียงราบเรียบ เสียงสูงยังสู้เทอรอยด์ไม่ได้จะได้แนวโทนต่ำได้ดีกว่าเทอรอยด์นิดๆ แต่ก็ยังมีข้อแตกต่างของขนาดหม้อแปลงที่ เทอรอยด์ 24-0-24 ขนาด 5A ส่วน EI 20-0-20 ขนาด 4A
                          ทั้ง V และ A ที่แตกต่างก็มีผลด้วย แต่คงได้แนวทางของเสียงที่พอจะนำไปใช้อย่างอื่นเวลาตัดสินใจจะซื้อว่าจะใช้แบบไหน
                          IMG_3946.jpg

                          @ พี่ jinn ลองเอาตัว 47ufตัวบนออกดูไหมครับ ผมลองเอาออกแล้วใช้ลวดต่อตรงเลย ผมว่าเสียงโทนต่ำมันดีกว่า ว่าจะเอา100uf np มาลองอีกที

                          IMG_3973.jpg

                          Comment


                          • Originally posted by LoveHifi View Post

                            @ พี่ jinn ลองเอาตัว 47ufตัวบนออกดูไหมครับ ผมลองเอาออกแล้วใช้ลวดต่อตรงเลย ผมว่าเสียงโทนต่ำมันดีกว่า ว่าจะเอา100uf np มาลองอีกที

                            [ATTACH=CONFIG]1643643[/ATTACH]
                            ผมเล่นลง 100uf nippon...GXE / 2 ตัวเลย ลองดูก่อน... ไม่ work เด๋วเอาออก ครับ....

                            ไม่รูุุ้จะมีเสียงอะ่ป่าว .... กะลังต่ออยู่ครับ...
                            Last edited by jinn; 18 Mar 2012, 12:17:18.

                            Comment


                            • T-1.png


                              พัก DAC มาเล่นแอมป์บ้าง ช่วงนี้เบื่อๆเสียงของ LM
                              เริ่มทดลองโปรเจค T-1 แอมป์สร้างง่ายๆทรานซิสเตอร์ล้วนๆดีกว่า
                              ออกแบบวงจรเสร็จแล้วยังไม่ได้ทดสอบ ยังไม่ขอบอกค่าอุปกรณ์
                              เพราะขอเอาไปทดสอบก่อนเดี๋ยวลำโพงตูมครับ ทดสอบใช้งานได้
                              ดีจะเอามาลงอีกที่พร้อมลายปริ้นครับยังหาคนออกแบบไม่ได้ ToT

                              ที่ออกแบบไว้กำลังน่าจะไม่เกิน 50 watt ทรานซิสเตอร์หลักๆก็เบอร์
                              มหาชน 2N3055+ MJ2955 วงจรเป็น Cass-AB ครับไม่ชอบร้อนมาก
                              แต่ปรับ Bias ให้ทำงานแบบ Cass A ได้แต่ไม่ได้เป็น Cass A แท้ๆเพราะยังมี
                              การป้อนกลับ Feedback อยู่เน้นทางเดินสัญญานน้อยๆสั้นเพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อย
                              ที่สุดเท่าที่จะทำได้ OutPut เป็นแบบ OCL เพราะไม่ชอบแบบ OTL
                              ทรานซิสเตอร์ไดรฟ์ อื่นๆเตรียมมา 3 รุ่น 2N 2SC+2SA BC เพื่อเอามาทดลอง แนวเสียง

                              T1EQ.jpg

                              เตรียมของไว้หมดแล้วยังไม่ได้ประกอบทดลองดู งานนี้ไหม้เป็นไหม้แต่ถ้า สุ้มเสียงออกมา
                              พอชนๆกับพวก LM ก็น่าจะปรับแต่งอะไรเล่นได้อีกเยอะเพราะเป็นวงจรแบบ discrete ครับ

                              Comment


                              • Originally posted by MONOLAB View Post
                                [ATTACH=CONFIG]1643823[/ATTACH]


                                พัก DAC มาเล่นแอมป์บ้าง ช่วงนี้เบื่อๆเสียงของ LM
                                เริ่มทดลองโปรเจค T-1 แอมป์สร้างง่ายๆทรานซิสเตอร์ล้วนๆดีกว่า
                                ออกแบบวงจรเสร็จแล้วยังไม่ได้ทดสอบ ยังไม่ขอบอกค่าอุปกรณ์
                                เพราะขอเอาไปทดสอบก่อนเดี๋ยวลำโพงตูมครับ ทดสอบใช้งานได้
                                ดีจะเอามาลงอีกที่พร้อมลายปริ้นครับยังหาคนออกแบบไม่ได้ ToT

                                ที่ออกแบบไว้กำลังน่าจะไม่เกิน 50 watt ทรานซิสเตอร์หลักๆก็เบอร์
                                มหาชน 2N3055+ MJ2955 วงจรเป็น Cass-AB ครับไม่ชอบร้อนมาก
                                แต่ปรับ Bias ให้ทำงานแบบ Cass A ได้แต่ไม่ได้เป็น Cass A แท้ๆเพราะยังมี
                                การป้อนกลับ Feedback อยู่เน้นทางเดินสัญญานน้อยๆสั้นเพื่อให้เกิดการสูญเสียน้อย
                                ที่สุดเท่าที่จะทำได้ OutPut เป็นแบบ OCL เพราะไม่ชอบแบบ OTL
                                ทรานซิสเตอร์ไดรฟ์ อื่นๆเตรียมมา 3 รุ่น 2N 2SC+2SA BC เพื่อเอามาทดลอง แนวเสียง

                                [ATTACH=CONFIG]1643827[/ATTACH]

                                เตรียมของไว้หมดแล้วยังไม่ได้ประกอบทดลองดู งานนี้ไหม้เป็นไหม้แต่ถ้า สุ้มเสียงออกมา
                                พอชนๆกับพวก LM ก็น่าจะปรับแต่งอะไรเล่นได้อีกเยอะเพราะเป็นวงจรแบบ discrete ครับ
                                น่าสนใจครับ อยากจะเล่น transistor แยกอยู่เหมือนกันครับ

                                Comment

                                Working...
                                X