Announcement

Collapse
No announcement yet.

Foobar2000 DSP Resampler

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Foobar2000 DSP Resampler

    เรียงจากที่คิดว่าเสียงดีที่สุด

    SOX
    http://www.hydrogenaudio.org/forums/...3&#entry668463
    เลือกโหลดตัวบนสุดล่าสุด แตกมาแล้วใช้ตัว SSE2 สำหรับเครื่องที่ประมาลผลได้เร็ว ใช้ Normal สำหรับเครื่องไม่เร็ว
    เสียงเหมือนซีดี sox นี่ใช้ในโปรแกรม cMP (cics Memory Player) อยู่

    SRC
    http://www.mega-nerd.com/SRC/fb2k.html
    โหลดด้านล่าง foo_dsp_src9.zip
    ตัวนี้เสียงแนวครบๆ

    SSRC
    http://otachan.com/foo_dsp_ssrc.html
    ตัวนี้ใครชอบเสียงแนวร้องต้องจัดเลย

    SSRCX
    http://foobar2000.xrea.jp/up/files/up881.zip
    เสียงดีกว่า PPHS ถ้าปรับ Otachan Ultra high

    SOX, SSRCX ใช้ได้กับ Foobar ทุกรุ่น
    SRC, SSRC ใช้ได้กับเฉพาะ Foobar Version 1.00 ลงไป
    ถ้าจะลองพร้อมๆกันทุกตัวต้องลง Foobar Version ต่ำกว่า 1.00
    foobar2000 0.9.6.9
    http://www.apponic.com/free-download...r2000-0.9.6.9/
    ทุกไฟล์โหลดมาแล้ว เอาไฟล์ .dll ไปวางที่ C:\Program Files\foobar2000\components
    แล้วเข้าไปปรับ DSP ด้วยเลือกเป็น high หรือ ultra ปรับเป็น192KHz ก็เสียงดี
    ใน foobar ตรง buffer length ปรับให้ต่ำสุด เสียงเทพ ของผมปรับได้70ms
    อย่าลืมลง asio4all v2 http://www.tmeta.com/show/16
    ถ้าซาวด์การ์ด มี ASIO อยู่แล้วก็ใช้ของการ์ดเลย ไม่ต้องลงด้านบนทั้งหมด
    ASIO Buffer Size ยิ่งต่ำยิ่งดี ผมใช้256
    ถ้าไม่ใช้ ASIO ก็ใช้ KS ได้เสียงอีกแบบ
    คิดว่าเอเอสไอโอเสียงเพราะ เคเอสจะเสียงชัด
    ใครมีลูกเล่นอะไรอีกมาแชร์กัน

    ใครที่ใช้ Foobar ไม่เป็นก็ใช้ J.RIVER Media Jukebox เสียงอาจด้อยกว่านิดแต่สวยและง่ายดาย ข้อมูลจากบริษัทเครื่องเสียงแนะนำให้ใช้
    Last edited by naraklive; 12 Jun 2010, 09:06:00.

  • #2
    อืมน่าลอง

    ผมสงสัยว่า foobar ทำไมไม่ทำแบบ Full มาซะ มีอะไรยัดมาให้ครบ ไม่ต้องหา DSP มาเพิ่มให้รุงรัง

    เนี่ยจะแปลง Flac เป็น MP3 ต้องมานั่งหาอยู่อีก ปวดกระบาล

    Comment


    • #3
      มั่นใจหรอคับว่าใช้ Resampler แล้วเสียงดีขึ้นกว่าเดิม

      Comment


      • #4
        บางตัวลองแล้วโอเคนะผมว่า แล้วแต่ชอบด้วยอะ
        บางอันผมลองปรับแล้วเสียงแข็งๆไงไม่รู้ แต่ต้องนั่งตั้งใจฟังเลย

        Comment


        • #5
          ขึ้นอยู่กับ dac หรือ soundcard ด้วยนะผมว่า
          dac ผมมัน noneresampling ของท่าน timespiner อะ แต่รองรับ 192/24 ผมใช้สาย usb เลยได้แค่ 48/16
          ก็ต้อง up resampler ไป 48k/16 ถ้าจะอัพเกินได้ต้อง ใช้สาย coaxial มั้งนะ หรือไปปรับตรงวินโดก็ได้ ตรง advance มั้งนะ รอผู้รู้อีกทีครับ

          ส่วนใช้ออนบอร์ดกมันอัพได้ถึง 192/24 ยุ แต่เสียงก็ยังห่วยไม่เปลี่ยน หาความต่างไม่ออกเทียบกับ 44k/16

          Comment


          • #6
            คำถามคือ ทำไม DAC เสียงดีกว่า Soundcard?
            ทำไมต้องตามหา Soundcard ชิพดีๆอย่าง Envy 24HT-S กัน?

            ส่วนหนึ่งในนั้นคือการเล่นเพลงที่ 44.1kHz/16bit ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Audio CD ได้โดยไม่มีการ Resampling ใดๆ

            Soundcard Creative แทบทุกรุ่น Resampler เองเป็น 48kHz หมด ยกเว้นบางรุ่นเช่น
            - Audigy 4pro
            - Audigy 2 Value
            - X-Fi ในโหมด Audio Creation + Bitmatch Playback

            เพราะผมคิดว่าว่าการ Resampling มีแต่จะบิดเบือนเสียงจากต้นฉบับ ถ้าชอบเสียงที่ถูกปรุงแต่งแล้วจะลง Foobar + ASIO, KS, Wasapi เปลี่ยนสายกันทำไมให้วุ่นวาย

            Comment


            • #7
              จริงอย่างที่ sierra ว่าจริงแฮะ
              แต่บางอย่างมันก็ทำให้ละมุนขึ้นจริงๆนะครับ อย่าง tube sound

              Comment


              • #8
                ผมก็คิดเหมือนกันนะ แต่พอลองเข้าไปดูเวป hifidiscovery นี่โอ่ว ทำไม มันคนแนวเลยแฮะ เขานิยมอัพ ไปเป็น 192/24 กันแฮะ โดยใช้ m2tech hiface แปลงจาก usbเป็น coaxial ต่อเข้า dac เห็นเขาว่ากันว่า ใช้แล้วทำให้ dac เทพขึ้นเยอะ เพราะมันมี clock 2 ตัว bypass ไม่ผ่าน cpu ช่วยลด jitter ไรนี่หละไม่ต้องถูกรบกวนสัญญานจาก cpu ซึ่งมันสามารถแปลงต้นเสียงจาก 44k/16bit ให้เป็น 192k/24bit ได้อย่างเที่ยงตรงมาก เห็นเขาว่างั้น(ซึ่งก็ยกระดับขึ้นไปอีก ต้นทางdigitalเป็น 192/24 วิ่งเข้าไปหา dacที่รองรับ 192/24 ที่นี้ไปออกลำโพงอะไรจะเกิดขึ้น?) แต่ราคามันสูงเชียว 5 พันกว่า แต่ส่วนตัวก็คิดว่า คงดีกว่า ใช้ usb
                แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า upsamplingแบบนี้มันจะไปบิดเบือนต้นฉบับอะดิ
                แต่คิดอีกในแง่นึกก็ เอ๊ะทำไม dac แต่ละตัว มันต้องมี opamp แต่ละอัน ก็เสียงไม่เหมือนกันแม้ในกระทั่งแอมป์ แล้ว เสียงต้นฉบับที่แท้จริง มันคืออะไรกันแน่?

                ผมเลยคิดว่า เสียงแบบไหนที่เราชอบก็คือ เสียงนั้นใช่ อะครับ
                ส่วนตัวคิดเล่นๆว่า ถ้าเสียงธรรมชาติที่สุด คงจะเป็น เสียงจาดเครื่องดนตรี ที่ไม่ใช้ไฟฟ้าเลยอะครับ เช่น เครื่องดนตรีไทย ระนาด กรับ ปี่ ขลุ่ย ไรงี้ หุหุ
                Last edited by lplline; 11 Jun 2010, 22:29:26.

                Comment


                • #9
                  m2tech hiface ผมอ่านดูแล้วมันเป็นอุปกรณ์สำหรับส่งสัญญาณดิจิตอลเกรดสูง แต่ที่เขียนว่า up to 192kHz/24bit นั่นหมายถึงการรองรับการรับ-ส่งสัญญาณสูงสุด ไม่ใช่การ Upsampling นะคับ (ยกตัวอย่าง Player - Support micro SD up to 4Gb นั่นหมายถึงรองรับสูงสุด 4GB ถูกมั๊ยคับ) เพราะถ้าอุปกรณ์ที่ใช้ Upsampling สัญญาณจริงๆ มันต้องมีชิบประมวลที่ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว สังเกตได้จากการใช้ Resampler บนคอมบางท่านยังมีอาการกระตุกเลยคับ

                  เพราะฉะนั้นถ้าใช้ m2tech hiface ส่ง 44.1/16 สัญญาณก็ออกไปเป็น 44.1/16 เท่าเดิมนะคับ เพียงแค่ความแม่นยำอาจจะสูงกว่าตัวส่งธรรมดาๆ
                  Last edited by sierra; 11 Jun 2010, 22:38:41.

                  Comment


                  • #10
                    ครับ พวก DSP มันเหมือนเป็นน้ำจิ้ม หรือ EQ ไม่ใช้จะดีที่สุด
                    ความถูกสมจริงต้องสู้พวก Foobar + ASIO, KS, Wasapi ตรงๆไม่ได้
                    ผมก็งูๆปลาๆ เหมือนกันอิอิ
                    อย่าง MOON 300D DAC

                    ทางด้านซ้ายที่เป็นไฟนั้นจะบอกว่าไฟล์ที่เราส่งเข้าไปในเครื่องนั้นมีค่าเท่าไร
                    แต่เครื่องจะอัพเพื่อส่งออกเป็น DXD Digital eXtreme Definition 24-bit 352.8kHz ลูกเดียว
                    อนาคตผมว่ามันจะขึ้นไปอีก
                    อย่าง MOON 750D The world's first true 32-bit asynchronous Digital-to-Analog converter
                    เลยสงสัยครับว่าเครื่องที่ Up กับ Non up sampling อันไหนจะดีกว่า
                    แต่ตอนนี้ใช้ STX ปรับ192KHz รู้สึกละเอียดดี

                    ส่วนเรื่อง hiface ผมเข้าใจว่าแบบนี้หรือเปล่า
                    ถ้าเรามีไฟล์ ที่เป็น 24bit/192KHz ถ้าเราต่อผ่าน ยูเอสบีไฟล์จะถูกลดทอนหรือเปล่า เขาเลยแปลงให้เป็น coax จะได้ไม่สูญเสีย
                    - แบบโคแอ็คเชียล (Coaxial) รับสัญญานดิจิตอลได้สูงสุด 192,000Hz
                    - แบบออฟติคอล (Optical / Toslink) รับสัญญานดิจิตอลได้สูงสุด 96,000Hz.
                    - และแบบยูเอสบี (USB) / Firewire รับสัญญานดิจิตอลได้สูงสุด 48,000Hz., 96,000Hz
                    แต่ตอนนี้มี Dac แบบ asynchronous USB ที่แปลกก็คือท้ายเครื่องเสียบได้แต่ USB ไม่ทำช่องต่อแบบอื่นไว้เลย เจ๋งไหมล่ะ
                    http://www.whatgroupthai.com/whathifi/289/ayre_qb9.html
                    สรุปว่าแต่ละตัวก็มีลูกเล่นของมันครับ ถามคนขาย หรือให้เขาเซ็ตให้ ชัวร์555
                    Last edited by naraklive; 11 Jun 2010, 23:09:54.

                    Comment


                    • #11
                      ครับผม ก็ไม่ทราบลึกเหมือนกัน มือใหม่พึ่งหัดน่ะ
                      รู้แค่ว่า เจ้า hiface นี่มันมีซอฟแวร์ของมันด้วยในการแปลงให้เป็น 192/24 เวลาใช้ กับ foobar เลือกแค่ output เป็นชื่อ hiface แต่ไม่มั่นใจว่า จะเอาdigital 192/24 จากเจ้าต้นทาง hiface ออกไปให้ dac pcm1794 นี่ เรียกว่าอะไร

                      m2tech มันเป็น asynchronous usb หรือ มี clock gen ในตัว ทำการ reclock ใหม่เพื่อลด jitter แทนการใช้ clock จากคอมพิวเตอร์
                      USB->SPDIF 24/192Khz ผมเข้าใจว่า hiface นี้ มันส่ง 192/24 ผ่าน coaxial ไปยัง dac noneresampling เลย ... โดยไปปรับใน software ของhiface มัน
                      Last edited by lplline; 11 Jun 2010, 23:04:57.

                      Comment


                      • #12
                        อยากได้ moon แต่ไม่มีตัง T_T

                        Comment


                        • #13
                          MOON DAC ผมก็ยังไม่ได้ซื้อนะ เห็นฝรั่งมันบอกว่าเล่น DAC อย่าเล่นเกิน 300เหรียญ
                          MOON DAC นี่ผมยืมมาได้ ว่าจะลองเอามาชนทั้ง STX, DAC PCM1704, Audio GD ref1
                          อยากรู้ว่าของราคาต่างกันหลายเท่าเสียงจะต่างกันไหมเทียบกับความคุ้มค่าที่ได้ และลองเทียบของมีแบรนด์กับเครื่อง diy ที่ใส่แต่ของสุดๆเข้าไปอย่าง Audio GD
                          แต่ทุกวันนี้ฟัง STX ปรับ Foobar ให้ดี เอ่อมันก็เสียงดีรับได้ เทียบกับเครื่องเล่นซีดีได้
                          เกือบลืมจุดประสงค์ของการเล่นเสียง เล่นเพื่อให้เสียงสมจริงเหมือนกับการเล่นดนตรีของจริง ซึ่งอาจจะไม่ต้องใช้เงินมาก
                          ไม่ต้องบ้าพลังขนาดว่าต้องอัดมันเข้าไป เอาแอมป์ให้วัตต์ใหญ่ที่สุด
                          บางลำโพงเสียงไม่สมจริงเลยแต่มันฟังแล้ว "สนุก"
                          PS2000 นั่น ผมยังชอบแนวเสียงมันมากกว่า Edifier ตัว TOP อีก
                          Last edited by naraklive; 12 Jun 2010, 00:01:15.

                          Comment


                          • #14
                            เสียงดีไม่ดีอย่าตัดสินง่ายๆ ตราบใดที่หูคนเรายังไม่เท่ากัน

                            อย่าง PS2000 ผมยังชอบกว่า E3350 อีก ทั้งๆ ที่ราคามันคนละเรื่อง

                            DAC เทพๆ ไม่ใด้หมายความว่าเสียงเทพเสมอไป เพราะต้องหาไฟล์เพลงที่คู่ควรด้วย ซึ่งยากยิ่ง

                            Comment


                            • #15
                              แล้วแต่หู แล้วแต่เงิน ของใครมัน หละครับ

                              Comment

                              Working...
                              X