Announcement

Collapse
No announcement yet.

++รวมพลคนใช้ EACAN ++

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Originally posted by firsthand View Post
    ตอนแรกผมก็เข้าใจแบบนั้นครับ ว่าวัตต์ลำโพงสูงกว่าสิ ถึงจะปลอดภัย

    แต่เท่าที่ผมศึกษามาจากในเว็บ เหมือนจะมีคนแอมป์พังเพราะทำแบบที่ผมคิดตอนแรกนี่แหละครับ

    เอาเป็นว่า ลองปฏิบัติจริงดีกว่าครับ ดูว่าแบบไหนเสียงแตก

    1. วัตต์ลำโพงสูงกว่าแอมป์ เปิดสุด
    2. วัตต์แอมป์สูงกว่าลำโพง เปิดสุดเหมือนกัน

    ท่านใดทดลองแล้วรบกวนบอกผลหน่อยนะครับ
    Originally posted by firsthand View Post
    ไปเจอในบอร์ดพันธุ์ทิพย์มาครับ เอาจากคนที่น่าเชื่อถือได้ดีกว่านะครับ

    http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hi...TM2061646.html

    ผมก๊อบคอมเมนต์ของคุณมั่นคงมาให้อ่านนะครับ

    สรุปตามที่เข้าใจคือ แอมป์จะมีปัญหาเมื่อเร่ง gain สูงๆ ซึ่งเรามักจะเร่ง gain มากขึ้นในกรณีที่เสียงจากลำโพงเบาเกินไป

    สาเหตุหนึ่งที่เสียงเบาคือวัตต์ที่ลำโพงต้องการนั้นสูงกว่ากำลังขับของแอมป์ ทำให้แอมป์เกิดอาการคลิปหรือเสียงแตกเมื่อเร่ง gain สูงๆ

    อันนี้เจอมากับตัวครับ แต่เป็นแอมป์กีตาร์ ผมเร่ง gain เต็ม แล้วคอยปรับโวลุ่มที่ master vol. แทน เสียงนี่เละเลยครับ

    ในขณะเดียวกัน วัตต์ของแอมป์ที่สูงกว่า ทำให้เสียงออกจากลำโพงได้ง่าย แม้ไม่ต้องเร่ง gain มาก

    ทำให้แอมป์มีโอกาสเสียงแตกได้ยาก

    ที่คุณ Jansilp พูดมาอาจจะถูกครับ ว่าแอมป์กำลังมากขับลำโพงแล้วลำโพงจะแตก แต่ผมไม่เคยลองเหมือนกัน

    ในความเป็นจริงคงไม่มีใครไปเร่ง gain เยอะหรอกครับ เพราะแอมป์วัตต์ยิ่งมาก เสียงยิ่งดังง่าย ทำให้เร่ง gain น้อยลง

    สรุปคือโอกาสที่แอมป์จะเสียมันก็มาจากการที่แอมป์วัตต์น้อยขับลำโพงวัตต์มาก ทำให้เสียงเบาเกินไป แล้วก็ต้องเร่ง gain ขึ้นจนเกินภาระที่แอมป์รับไหวนั่นล่ะครับ
    โดยปกติแล้วลำโพงเป็น Transducer ที่จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า (Wattage;W) ให้เป็นพลังงานกลในที่นี้คือคลื่นเสียง (Sound Pressure Level;dBi-intensity) หรือในทางกลับกันก็ได้

    โดยตัวที่ทำหน้าที่รับพลังงานไฟฟ้าคือ Voice coil ซึ่งก็คือขดลวดนั่นเอง โดยจะถูกพันเข้ากับแกนกระดาษทรงกระบอก โดยที่ลวดที่มี diameter ใหญ่กว่าจะสามารถนำกระแสได้มากกว่าลวดที่ขนาดเล็กกว่า

    โดยปกติแล้ว PA (Power Amp) จะมองลำโพงเป็นโหลดตัวนึง ซึ่งมีอิมพิแดนซ์ (Z) ค่าๆหนึ่ง เช่น 8,6 หรือ 4 โอห์ม แล้วแต่ spec ซึ่งจะถูกมองว่าค่านี้คงที่ตลอดย่านความถี่

    ดังนั้นเราสามารถหาค่ากระแส (I) ที่ไหลผ่านลำโพงได้จากกำลัง watt (P) ที่ PA จ่ายออกมาตามสมการ

    I = sqrt(P/Z)

    และโดยทั่วไปแล้ว ในการออกแบบลำโพงตัวหนึ่งๆนั้น ขนาดเส้นลวดของ voice coil จะเป็นปัจจัยหลักในการคำนวนหาค่ากำลัง watt สูงสุดที่ลำโพงจะสามารถทนได้จากสมการ

    P = (I^2)*Z

    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราจ่ายกำลังงานให้กับลำโพงเกินกว่าค่ากำลังสูงสุดของมัน กระแสจะไหลเกินกว่าที่ออกแบบ voice coil จะร้อนเกินค่าที่กำหนด อาจทำให้ฉนวนแตกหรือใหม้หรือทำให้กระดาษที่ voice coil พันรอบอยู่ร้อนและใหม้ ซึงถ้าฉนวนลอกหรือใหม้ก็จะทำให้ลวดที่พันไว้ชอร์ทกัน ซึ่งจะทำให้ค่าอิมพิแดนซ์ลดลง

    เมื่ออิมพิแดนซ์ลดลงจะเกิดอะไรขึ้น PA ก็จะจ่ายกระแสมากขึ้นตามสมการ

    I = sqrt(P/Z)

    จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า Z มีลดลงจนเป็น 0 ผลก็คือ ค่า I = infinity หรือมีค่าสูงมากๆ

    ในกรณีนี้จะทำให้ PA จ่ายกระแสสูงกว่าปกติ ถ้า PA มีวงจรป้องกัน ก็อาจจะช่วยได้โดยการตัดการทำงาน แต่ถ้าไม่มี PA ก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า Overload และ Power Transistor หรือ IC ก็จะพังในที่สุด

    สรุปก็คือ ถ้าลำโพงไม่พัง PA ก็จะไม่พัง ซึ่งเหตุที่จะทำให้ลำโพงจะพังได้ หนึ่งในนั้นคือจ่ายกำลังให้มันเกินกว่าค่าที่มันจะทนได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้าลำโพงทนกำลังได้มากกว่ากำลังที่ PA สามารถจ่ายได้ ความน่าจะเป็นที่ลำโพงจะพังอันเนื่องมาจากขับเกินกำลังก็จะไม่มีครับ

    ส่วนในเรื่องความดังนั้นไม่ได้ขึ้นกับค่ากำลังที่ลำโพงทนได้เลยครับ เป็นคนละเรื่องกันเลย

    จากที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ที่ว่า "ลำโพงเป็น Transducer ที่จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกลในที่นี้คือคลื่นเสียง"

    ค่าที่จะบอกว่าลำโพงตัวหนึ่งๆนั้น มีประสิทธิภาพในการเปลียนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานเสียง มากน้อยเพียงใด ดูได้จากค่าความไว (Sensitivity) หน่วยเป็น dB/W/m ซึ่งเป็นค่าๆหนึ่งใน spec ของลำโพงแต่ละตัว ซึ่งค่านี้สามาถบอกได้ว่าลำโพงตัวใหนจะดังกว่าเมื่อจ่ายกำลังให้ค่าๆหนึ่งซึ่งเท่ากัน หรือบอกว่าลำโพงตัวใหนกิน watt กว่ากัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับค่ากำลัง watt ที่ลำโพงทนได้นะครับ

    แน่นอนครับว่าถ้าใช้ลำโพงที่ความไวต่ำ PA จะต้องจ่ายกำลังงานสูงขึ้น กว่าลำโพงที่ความไวสูง ถ้าต้องการให้เสียงดังเท่ากัน และโอกาสที่เสียงจะแตกหรือสัญญาณถูก clip ก็มีมากกว่าครับ

    ปล 1 .ลองพิจารณาดูนะครับ ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่ที่สิ่งผมกล่าวมาสามารถพิสูจน์ได้ และหาอ่านได้จากตำราทั่วๆไปรวมถึงจาก internet ครับ

    Comment


    • มาร่วมด้วยคนครับบ เมื่อสองวันเพิ่งสอย Eacan A-600II จากในเว็บนี้แหละ เสียงพอใจมากครับ เพราะผมฟังเพลงซัก 99% อีก1% ยิงไข่ - - เสียงเป็นที่น่าพอใจมากครับ(นี่ขนาดใช้ซาวออนบอร์ดนะ เหอะๆๆ)เบสไม่หนักมาก กลางชัดคมดีครับ

      ถาม = 1.ช่วยแนะนำสายที่ต้องเปลี่ยนกับรุ่นนี้หน่อยครับว่าควรเปลี่ยนสายไหนบ้าง(ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องเสียงเลยครับ)
      2.แนะนำซาวการ์ดหน่อยครับ งบไม่เกิน1พัน

      ขอบคุณมากๆครับ

      Comment


      • ผมใช้ A200 5.1s ครับ เบสมาหลังคาบ้านสะเทือนเลย
        ซาวน์ผมใช้ SB0090 ครับ ราคาไม่เกิน 1000 บาท

        Comment


        • ลำโพง Sat ลองใช้สาย Lan สิ ... ลองหากระทู้ดูน่าจะมีนะ ...

          Comment


          • Originally posted by wattaa View Post
            ช่วยหน่อยครับ A200 5.1s ตอนเปิด ปิด มันดัง ง่ะ มีวิธีลดเสียงไหมครับ
            ท่าจะเป็นทุกรุ่นนะครับ A600L ของผมก็เป็น

            Originally posted by Jansilp View Post
            โดยปกติแล้วลำโพงเป็น Transducer ที่จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า (Wattage;W) ให้เป็นพลังงานกลในที่นี้คือคลื่นเสียง (Sound Pressure Level;dBi-intensity) หรือในทางกลับกันก็ได้

            โดยตัวที่ทำหน้าที่รับพลังงานไฟฟ้าคือ Voice coil ซึ่งก็คือขดลวดนั่นเอง โดยจะถูกพันเข้ากับแกนกระดาษทรงกระบอก โดยที่ลวดที่มี diameter ใหญ่กว่าจะสามารถนำกระแสได้มากกว่าลวดที่ขนาดเล็กกว่า

            โดยปกติแล้ว PA (Power Amp) จะมองลำโพงเป็นโหลดตัวนึง ซึ่งมีอิมพิแดนซ์ (Z) ค่าๆหนึ่ง เช่น 8,6 หรือ 4 โอห์ม แล้วแต่ spec ซึ่งจะถูกมองว่าค่านี้คงที่ตลอดย่านความถี่

            ดังนั้นเราสามารถหาค่ากระแส (I) ที่ไหลผ่านลำโพงได้จากกำลัง watt (P) ที่ PA จ่ายออกมาตามสมการ

            I = sqrt(P/Z)

            และโดยทั่วไปแล้ว ในการออกแบบลำโพงตัวหนึ่งๆนั้น ขนาดเส้นลวดของ voice coil จะเป็นปัจจัยหลักในการคำนวนหาค่ากำลัง watt สูงสุดที่ลำโพงจะสามารถทนได้จากสมการ

            P = (I^2)*Z

            จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราจ่ายกำลังงานให้กับลำโพงเกินกว่าค่ากำลังสูงสุดของมัน กระแสจะไหลเกินกว่าที่ออกแบบ voice coil จะร้อนเกินค่าที่กำหนด อาจทำให้ฉนวนแตกหรือใหม้หรือทำให้กระดาษที่ voice coil พันรอบอยู่ร้อนและใหม้ ซึงถ้าฉนวนลอกหรือใหม้ก็จะทำให้ลวดที่พันไว้ชอร์ทกัน ซึ่งจะทำให้ค่าอิมพิแดนซ์ลดลง

            เมื่ออิมพิแดนซ์ลดลงจะเกิดอะไรขึ้น PA ก็จะจ่ายกระแสมากขึ้นตามสมการ

            I = sqrt(P/Z)

            จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า Z มีลดลงจนเป็น 0 ผลก็คือ ค่า I = infinity หรือมีค่าสูงมากๆ

            ในกรณีนี้จะทำให้ PA จ่ายกระแสสูงกว่าปกติ ถ้า PA มีวงจรป้องกัน ก็อาจจะช่วยได้โดยการตัดการทำงาน แต่ถ้าไม่มี PA ก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า Overload และ Power Transistor หรือ IC ก็จะพังในที่สุด

            สรุปก็คือ ถ้าลำโพงไม่พัง PA ก็จะไม่พัง ซึ่งเหตุที่จะทำให้ลำโพงจะพังได้ หนึ่งในนั้นคือจ่ายกำลังให้มันเกินกว่าค่าที่มันจะทนได้ในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ถ้าลำโพงทนกำลังได้มากกว่ากำลังที่ PA สามารถจ่ายได้ ความน่าจะเป็นที่ลำโพงจะพังอันเนื่องมาจากขับเกินกำลังก็จะไม่มีครับ

            ส่วนในเรื่องความดังนั้นไม่ได้ขึ้นกับค่ากำลังที่ลำโพงทนได้เลยครับ เป็นคนละเรื่องกันเลย

            จากที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ที่ว่า "ลำโพงเป็น Transducer ที่จะเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานกลในที่นี้คือคลื่นเสียง"

            ค่าที่จะบอกว่าลำโพงตัวหนึ่งๆนั้น มีประสิทธิภาพในการเปลียนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานเสียง มากน้อยเพียงใด ดูได้จากค่าความไว (Sensitivity) หน่วยเป็น dB/W/m ซึ่งเป็นค่าๆหนึ่งใน spec ของลำโพงแต่ละตัว ซึ่งค่านี้สามาถบอกได้ว่าลำโพงตัวใหนจะดังกว่าเมื่อจ่ายกำลังให้ค่าๆหนึ่งซึ่งเท่ากัน หรือบอกว่าลำโพงตัวใหนกิน watt กว่ากัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับค่ากำลัง watt ที่ลำโพงทนได้นะครับ

            แน่นอนครับว่าถ้าใช้ลำโพงที่ความไวต่ำ PA จะต้องจ่ายกำลังงานสูงขึ้น กว่าลำโพงที่ความไวสูง ถ้าต้องการให้เสียงดังเท่ากัน และโอกาสที่เสียงจะแตกหรือสัญญาณถูก clip ก็มีมากกว่าครับ

            ปล 1 .ลองพิจารณาดูนะครับ ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ แต่ที่สิ่งผมกล่าวมาสามารถพิสูจน์ได้ และหาอ่านได้จากตำราทั่วๆไปรวมถึงจาก internet ครับ
            ผมไม่ค่อยรู้เรื่องที่คุณอธิบายหรอกครับ ถ้าแปลเป็นภาษาบ้านๆให้คนโง่ๆอย่างผมจะดีมากเลยครับ

            Comment


            • Originally posted by firsthand View Post
              ท่าจะเป็นทุกรุ่นนะครับ A600L ของผมก็เป็น



              ผมไม่ค่อยรู้เรื่องที่คุณอธิบายหรอกครับ ถ้าแปลเป็นภาษาบ้านๆให้คนโง่ๆอย่างผมจะดีมากเลยครับ
              แปลง่ายๆครับ ถ้าหากลำโพงได้กำลังขับจากแอมมากเกินกว่า ค่าที่ลำโพงจะทนไหว อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของตัวคอยของลำโพง หรืออาจใหม้และลัดวงจรทำให้ตัว แอมเสียตามไปได้ครับ

              ซึ่งก้อตรงกับตอนที่ผมเรียนวิชาเครื่องเสียงตอนสมัย ปวช. เลยครับ
              Last edited by tineny; 20 May 2010, 11:41:26.

              Comment


              • Originally posted by tineny View Post
                แปลง่ายๆครับ ถ้าหากลำโพงได้กำลังขับจากแอมมากเกินกว่า ค่าที่ลำโพงจะทนไหว อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของตัวคอยของลำโพง หรืออาจใหม้และลัดวงจรทำให้ตัว แอมเสียตามไปได้ครับ

                ซึ่งก้อตรงกับตอนที่ผมเรียนวิชาเครื่องเสียงตอนสมัย ปวช. เลยครับ
                ขอบคุณครับที่ช่วยตอบ ดูท่าผมจะผิดนะเนี่ย 555+

                คือถ้าลำโพงพังแอมป์ก็จะพังตามไปด้วย

                แต่ถ้าแอมป์พัง ลำโพงจะไม่พังใช่มั้ยครับ
                Last edited by firsthand; 20 May 2010, 12:14:45.

                Comment


                • ช่วยหน่อยครับ A500L Mod by etan เสียงหายไปข้างหนึ่ง (R)
                  เบื้องต้นเช็คสายminiแล้วปกติ ขอคำแนะนำหน่อย หรือมีท่านใดรับซ่อมครับ
                  อยู่แถวม.มหิดล ศาลายา

                  Comment


                  • ตอนนี้ถ้าผมสนใจรุ่น EACAN A600II ไม่ทราบว่าหาซื้อที่ไหนได้ราคาถูกบ้างครับ และราคาตลาดตอนนี้เค้าซื้อกันอยู่ที่เท่าไหร่ครับ พอดีไป Pantip มีขายที่ราคา 2,100 บาทครับ แนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณครับ...

                    Comment


                    • Eacan รุ่นไหนที่มีรีโมท(แบบไร้สาย) ทั้ง 2.1 และ 5.1
                      ขอราคาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

                      และถ้าจะไปซื้อที่พันทิพย์ ซื้อร้านไหนดีครับ ที่ไม่ชาร์ตราคา
                      วันนี้ไปถาม Microlab M-200 ที่ร้านชั้น 3 1,190 และไปถามข้างล่างตรงใกล้ธนาคาร 1,490
                      -*- ต่างกันมาก
                      Last edited by merio89; 26 May 2010, 22:07:29.

                      Comment


                      • Originally posted by merio89 View Post
                        Eacan รุ่นไหนที่มีรีโมท(แบบไร้สาย) ทั้ง 2.1 และ 5.1
                        ขอราคาด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

                        และถ้าจะไปซื้อที่พันทิพย์ ซื้อร้านไหนดีครับ ที่ไม่ชาร์ตราคา
                        วันนี้ไปถาม Microlab M-200 ที่ร้านชั้น 3 1,190 และไปถามข้างล่างตรงใกล้ธนาคาร 1,490
                        -*- ต่างกันมาก
                        EACAN A200 ครับใช้อยู่

                        Comment


                        • Originally posted by guide2525 View Post
                          ตอนนี้ถ้าผมสนใจรุ่น EACAN A600II ไม่ทราบว่าหาซื้อที่ไหนได้ราคาถูกบ้างครับ และราคาตลาดตอนนี้เค้าซื้อกันอยู่ที่เท่าไหร่ครับ พอดีไป Pantip มีขายที่ราคา 2,100 บาทครับ แนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณครับ...
                          ผมก็ขายทางเน็ตครับ ราคาเดี่ยวกับที่พันทิพย์นั้นแหละครับ .... แต่ผมจะมีค่าขนส่งครับ แต่ถ้ามารับเองก็ไม่ต้องเสียครับ
                          http://speakers.tarad.com

                          Comment


                          • จะบอกว่าa200สามารถปรับสัญญาณเข้า 2 ช่องให้ออกเป็นลำโพง 5ตัวได้ด้วยนะแบบไม่ต้องพึ่งการ์ดช่วยแต่มีการ์แล้วดีขึ้นเยอะ

                            Comment


                            • เออ คือผมเห็นในเว็บ eacanthai มี A500 แบบ 5.1 ด้วย
                              http://www.eacanthai.com/en_products_a500.php
                              ใครทราบบ้างครับว่ามีขายที่ไหนบ้าง

                              Comment


                              • ในไทยเห็นเเค่บางรุ่นเท่านั้นหละครับ มีไม่ครบ เพราะผมเองก็อยากได้ A-200A 2.1 เเต่มันไม่มี มีเเต่ 5.1
                                http://www.eacanthai.com/en_products_a200.php

                                Comment

                                Working...
                                X