Announcement

Collapse
No announcement yet.

แบนเหรอแล้วไงผู้ค้าปลีกในเยอรมันก็ยังคงขาย Galaxy Tab 10.1 ที่สั่งมาใหม่ต่อได้อยู่ดี

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    เอ๊ะ ! ข้องใจ ! แอปเปิ้ลไปจ้างศาลบอกให้แอปเปิ้ลชนะรึปล่าว ?? ((ขำ ๆนะ ))

    Comment


    • #17
      ของเค้าดีจริงๆ

      Comment


      • #18
        ผมว่าทนาย apple ไม่ได้ควายหรอกครับ ถ้าติดตามข่าวจริงๆแล้ว apple ฟ้องที่ประเทศเมืองท่าสำคัญของ EU นี่คือการครอบคลุมและจำกัดต้นทุนการฟ้องคดีให้เยอะที่สุดแล้ว แต่ผลคดีมันลักลั่นกันในศาลแต่ละประเทศ บางประเทศว่าผิดตรงนี้ บางประเทศว่าผิดตรงนั้น ผิดไม่เหมือนกัน ถ้าตามข่าวดูจะเห็นว่ามีความพยายามให้ศาลเขตดุลเซดอฟของเยอรมันนีเป็นแม่แบบในการพิจารณาข้อจำกัดด้านทรัพย์สินทางปัญญาครับ

        ในอีกแง่หนึ่ง ต้องเข้าใจว่าการแก้ปัญหาโดยการฟ้องคดีมันอาจไม่สามารถจำกัดไม่ให้ซัมซุงบุกยุโรปได้ทั้งหมด เพราะเอาเข้าจริงอาจผ่านทางกรีซ สเปน ฯลฯ ได้อยู่ แต่ต้นทุนในการขนส่งเพื่อให้เข้าสู่ตลาดใหญ่อย่างเยอรมันนี ฝรั่งเศส อังกฤษย่อมสูงจนข้อได้เปรียบด้านราคาเป็นอันตกไป ศาลเยอรมันเองก็เห็นความเป็นไปได้ในแง่การผูกขาดทางการค้า เมื่อการห้ามการนำเข้าสู่ประชาคมยุโรปไม่ได้ปิดทุกช่องทาง ยิ่งศาลเยอรมันรีบตัดสินแบนซัมซุงก่อนศาลอื่นเร็วเท่าไหร่ ยิ่งทำให้หลุดประเด็นปัญหาการผูกขาดทางการค้าเร็วเท่านั้น

        ก็อยากให้มองหลายๆมุม ทนายใน EU เองก็ต้องมองประเด็นการเปิดเสรีของสินค้าในภูมิภาค EU และประเด็นเรื่องความสอดคล้องกันของมาตรฐานคำตัดสินของศาลในคดีทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเป็นแขนงกฎหมายที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานสากลไม่น้อยไปกว่าแขนงคดีการค้าระหว่างประเทศ

        ลองอ่านเหตุผล http://blogs.wsj.com/tech-europe/201...-ip-plantiffs/ ดูนะครับ อันนี้บอกว่าทำไมต้องศาลเขตดูลเซลดอฟ

        ถามว่าฟ้องที่เนเธอร์แลนด์มั้ยตอบว่าฟ้อง http://www.arirang.co.kr/News/News_V...Ne2&category=2

        แล้วทำไมต้องเริ่มที่ประเทศเหล่านี้ ทำไมถึงต้องเป็นข่าว ดู http://en.wikipedia.org/wiki/List_of...orts_in_Europe นี่คืออันดับเมืองท่าในยุโรป

        ผมว่าการเป็นทนายความคดีธุรกิจมันต้องดูหลายประเด็น และต้องอธิบายลูกความได้ว่าเฮ่ย ท่านฟ้องไปเนี๊ยะ มันห้ามขายทั้งยุโรปไม่ได้หรอกนะ เพราะถึงห้ามซัมซุงในประเทศยุโรปได้หมด ก็ห้ามรายย่อย หรือกองทัพมดไม่ได้หรอกนะ เอาเป็นว่าเราฟ้องที่ศาลเมืองท่าหลักๆ และเร่งๆเน้นๆไปศาลที่ดูว่าเรามีความหวังชนะก่อนล่ะกัน ถ้าผลคำพิพากษาออกมาเข้าข้างเรา คดีถึงที่สุดเมื่อไหร่ เดี๋ยวค่อยบริษัทนำเข้าอิสระก็ได้ ไอ้แค่การเลือกทุ่มทรัพยากรไปที่ศาลเขตดูลเซลดอฟนี่ผมก็ว่าทนายความ apple มีกึ๋นพอตัวนะครับ

        ในกรณีของ apple ไม่มีทนายคนไหนที่ตรัสรู้ได้ว่าใครมันจะทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับคดี ทำตัวเป็นผู้นำเข้าซ้อนนอกจากสาขาของซัมซุง มีแต่ทำยังไงให้เกิดแนวคำพิพากษาไว้เป็นเครื่องมือไล่ฆ่าพวกปฏิปักษ์ที่ริอ่านจะท้าทายอำนาจ apple ผมคิดอย่างนี้นะ
        Last edited by Susansaraly; 16 Sep 2011, 19:49:34. Reason: แก้นิดนึง เขียนเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเรื่องภาษีศุลกากร

        Comment


        • #19
          ถ้าเป็นเยอรมันจะไม่เอาแนวคำพิพากษามาดูหรอกครับ มันไม่ใช่บ้านเรา ระบบของเยอรมัน สนแต่ตัวบทเป็นหลัก อย่าไปปนกับอเมริกาหรืออังกฤษ
          เป็นบ้านอื่นเมืองอื่นถ้าฟ้องแล้วรายอื่นก็นำเข้าไม่ได้ครับ เรื่องนำเข้าซ้อนมันใช้กรณีปัญหาระหว่างตัวแทนจำหน่ายกับผู้นำเข้า
          แต่กรณีนี้ไม่ว่าใครจะนำเข้าถ้าเป็นสินค้าที่ละเมิดสิทธิบัตร ถ้าจะฟ้องก็ต้องฟ้องละเมิดสิทธิบัตรไป

          กรณีนี้ Apple หัวหมอโดยการใช้สื่อครับจากข่าวที่ออกมาชัดเจนด้วยคำว่า uphold injunction คือคงไว้ซึ่งคำสั่ง
          แต่ในเว็บของ Apple ดันใช้คำว่า Permanent ban พอไปอ่านในเนื้อข่าวคนเขียนข่าวมันหัวหมอออกข่าวชัดๆ
          คำสั่งแบนก็ต้องมีผลจากการฟ้องคดีเรื่องละเมิดสิทธิบัตรก่อนถึงจะร้องขอให้แบนชั่วคราวได้

          ไม่สงสัยกันบ้างหรือว่าจู่ๆทำไมคดีมาอยู่ในศาลสูงได้ทั้งๆที่ศาลล่างไม่มีคำพิพากษา มีแต่คำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งผิดหลักมากๆ
          ส่วนจะบอกว่าทนายไม่ตรัสรู้คงไม่ได้ มันเปนเรื่องที่ควรจะรู้มากกว่า

          ส่วนเรื่องกองทัพมดแอบขายมันไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้วถ้าเป็นคนทำคดีมันก็น่าจะรู้ตัวอยู่แล้วว่า คงไม่เอาคำพิพากษาเปล่าไปเป็นเศษกระดาษ
          ในเคสนี้ยังเป็นแค่เรื่องแบนเฉยๆยังไม่มีคำพิพากษา และใน Netherlands ศาลกลับให้ความเห็นในเรื่องที่ฟ้องต่างออกไป

          ถ้าจะฟ้องกันจริงๆจังๆเรื่องสิทธิบัตรไอ้ที่ไปลอกเค้ามาก็ตัว Apple นั่นแหละลองหั่นเครื่องในดูจะเจออีกเพียบล่าสุดก้โจทก์ฟ้อง Apple ไม่ใช่น้อย

          Comment


          • #20
            ผมไม่ค่อยจะสนิทใจกับประโยคที่ว่า "ถ้าเป็นเยอรมันจะไม่เอาแนวคำพิพากษามาดูหรอกครับ มันไม่ใช่บ้านเรา ระบบของเยอรมัน สนแต่ตัวบทเป็นหลัก อย่าไปปนกับอเมริกาหรืออังกฤษ"แน่นอนว่าคำพิพากษาไม่ใช่บ่อเกิดของกฎหมายในระบบ civil law อย่างเยอรมันนี แต่ถึงจะเป็น civil law ก็ต้องมีมาตรฐานของคำพิพากษาครับ ในการศึกษากฎหมายระบบเยอรมันนีเองก็มุ่งเน้นการวิเคราะห์และให้คุณค่าคำพิพากษาไม่น้อยไปกว่าตัวบท การศึกษาแนวคำพิพากษาและวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษาในเยอรมันนีผมว่าคงเป็นเรื่องธรรมดาครับ ต่อไปนี้เรื่องฟังหูไว้หูนะครับ

            ฟังๆมาจากอาจารย์ที่จบจากที่นั่นหลายท่าน ผมเคยถามว่านักกฏหมายในเยอรมันนีเมื่อเขาถือว่าระบบกฎหมายของตัวเองก็เป็นเอกอุในหมู่ civil law และเขาให้คุณค่าแก่ BGB ว่าเป็นมรดกทางปัญญาที่เหนือกว่า Civil Code ของนโปเลียนแล้วเขายังจะศึกษาคำพิพากษาอยู่รึปล่าว อาจารย์ตอบว่าแม้คำสั่งหรือคำพิพากษาไม่ใช่บ่อเกิดของกฎหมายในเยอรมันนี แต่มันคือผลลัพธ์ของมันสมองนักกฎหมายที่แปลความกฎหมายที่เขียนอย่างทั่วไปให้สามารถจัดการปัญหาเฉพาะได้ และหากวิพากษ์วิจารณ์แล้วคำพิพากษาสอดคล้องกับตัวบท ก็คือการยกย่องภูมิปัญญาของผู้ร่าง ด้วยการศึกษาเชิงวิพากษ์วิจารณ์และให้คุณค่า จึงทำให้คำพิพากษาของศาลในเยอรมันนีมีมาตรฐานสูงเสียยิ่งกว่าคำพิพากษาของศาล common law เสียอีก (อันนี้ผมว่าติดลูกโม้ ศิษย์เก่าดอยช์ลันด์จะให้ชมพวก common law ก็แปลก) กล่าวโดยสรุปแล้วเยอรมันนีเขาก็อ่านฎีกากันเหมือนบ้านเราในฐานะวัตถุแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ และหากมันผ่านการวิพากษ์วิจารณ์จนเป็นที่ยอมรับ มันก็จะถูกยกเป็นมาตรฐานที่สะท้อนบริบทและภูมิปัญญาในการตีความกฎหมายในเวลาที่เขียนคำพิพากษานั้นครับ

            ฟังอาจารย์เล่าอย่างนี้ ผมก็ว่าเยอรมันนีเขาไม่ได้ทิ้งแนวคำพิพากษามั้งครับ ทุกวันนี้ผมก็พยายามหาทางไปพิสูจน์ให้ถึงแก่นว่าเขียนคำพิพากษาแบบดอยช์ลันด์นั้นเจ๋งจริง และสามารถยกมาตรฐานการเขียนคำพิพากษาของบ้านเราได้จริงรึปล่าว บ้านเราทุกวันนี้ปากว่าเป็นระบบ civil law แต่ไม่ค่อยให้คุณค่าการวิพากษ์วิจารณ์คำพิพากษา สักแต่ท่องๆจำๆแนวตามๆกันมา ทำให้เกิดการตีความผิดฝาผิดตัว ผลคำพิพากษาบางเรื่องอิหลักอิเหลื่อ ละทิ้งบริบทคำพิพากษาเดิม ยกทั้งดุ้นมาลงคดีใหม่ที่บริบทต่างกัน บางองค์คณะก็ขยายจับใจความคำกันจนหลุดพ้นเจตนารมณ์แห่งตัวบทกฎหมาย สมัยก่อนเรียนอังกฤษคือเรียนจริงจัง ได้แนวคิดพื้นฐาน เขียนคำพิพากษาแบบชั้นครูออกมามากมาย สมัยนี้สักแต่เรียนให้จบๆจะได้รีบกลับมาสอบผู้ช่วยฯสนามจิ๋วปลายปี ผมว่าเราให้ค่าของปริญญาต่างประเทศเป็นแค่ใบ certificate ภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมายซะแล้วรึปล่าว

            เรื่อง PR เต้าข่าว เขียนข่าวหลอก หรือแปลข่าวผิด เหล่านี้ผมไม่วิจารณ์นะครับ คุณ Khow ก็เขียนไปหมดแล้ว ผมเองก็เห็นด้วยเรื่องมาตรฐานในการพูดความจริง

            มีปล่อยไก่ตัวโต คือ สิทธิบัตรการออกแบบที่ apple เอามาฟ้องเป็นแบบใช้ได้ทั่วทั้ง EU (http://www.scribd.com/doc/61944044/C...000181607-0001) ผมคิดว่า ประเด็นสำคัญในคดีนี้คือ samsung ผลิตสินค้าละเมิดสิทธิบัตรการออกแบบหรือไม่ และถ้าละเมิดจะมีสิทธิจำหน่ายสินค้าละเมิดใน EU หรือไม่ ถ้า apple ชนะในขั้นตอนสุดท้ายก็คิดว่าคงลงเอยในทำนองไม่อาจขายใน EU ได้เลย ผมคาดคะเนนะ เพราะยังไม่เห็นคำฟ้อง ถ้าเป็นอย่างที่ผมคาดคะเนไว้ ผมก็ไม่เห็นประโยชน์อะไรที่ทีมทนายของ apple จะฟ้องใครเป็นจำเลยนอกเหนือจาก samsung อีก ถ้าฟ้องเรื่องผิดสัญญาการนำเข้า หรือเป็นปัญหาเรื่องการนำสินค้าเข้ามาขายนั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องพยายามฟ้องให้คลุมบุคคลที่มีความเป็นไปได้ว่าจะนำสินค้า galaxy tab มาขายใน EU ทั้งหมด

            แต่ขั้นตอนที่เป็นข่าวบ่อยๆนี่อยู่ในช่วงขอคุ้มครองชั่วคราวซึ่งศาลเขตดุลเซลดอฟก็คุ้มครองให้ว่า เอาล่ะ ในระหว่างที่ยังไม่รู้ว่า samsung ผิดมั้ย /ถ้าผิดจะเอายังไง ก็จะยอมคุ้มครองชั่วคราวให้ฝ่าย apple ไปก่อนโดยห้ามนำเข้ามาจำหน่ายแค่เฉพาะในเยอรมันนี คิดว่างั้นนะ เพราะผมก็ไม่ได้อ่านคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของ apple

            ที่เขียนมาทั้งหมดนี่ไม่ใช่ว่าเชียร์ apple เกลียด samsung หรอกนะครับ แค่จะแสดงความคิดเห็นว่าบางทีคนที่ทำคดีอยู่จริงๆเขาก็มีมุมมองที่แตกต่างไปจากบุคคลภายนอกคดี ไม่อยากให้หลายคนไหลๆตามกันไปว่าทนายความพลาดโดยที่ยังไม่ทันจะเห็นว่าเรื่องของเรื่องมันมีประเด็น/บริบทอะไรซ่อนอยู่บ้าง ถึงแม้ผมจะตัดสินใจหันหลังให้กับวิชาชีพทนายความไปแล้วเพราะมันไม่ใช่แนวของตัวเอง แต่เห็นเวลาคนวิจารณ์ว่าทนายความพลาดโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีแล้วก็อยากจะช่วยเตะเบรกอารมณ์กองเชียร์หน่อย (เพิ่งมาอินก็อีตอนตัดสินใจบ้ายบายวิชาชีพทนายนี่แหละครับ สมัยเป็นทนายความส่วนใหญ่จะซวยต้องมาตามแก้งานของทนายความคนอื่น อ่านเอกสารที่ลูกความถอนทนายความกลางคันก็ชอบนินทาทนายความคนก่อนว่าโง่เหมือนกัน (ความจริงผมว่าไม่ค่อยเจอทนายโง่ แต่ส่วนใหญ่วางกับดักลูกความตัวเองซะเยอะ มันน่ายุให้ฟ้องมรรยาททนายความเสียจริงๆ ผิดแต่ไม่มีพยานหลักฐานแน่นหนา T_T))

            Comment


            • #21
              จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ลงลึกในส่วนการดำเนินคดีของ Apple ในส่วนละเมิดสิทธิบัตรเพราะมันไม่มีในข่าวสักนิดสำหรับรายละเอียด
              แต่ผมก็จับประเด็นได้แต่แรกว่าจะต้องรอคำพิพากษาในส่วนการละเมิดเสียก่อนรื่องดันไม่บอกกัน
              ยิ่งบล็อกใหญ่ๆที่นึงแปลผิดไปไกลสุดกู่คนก้รับข่าวสารกันผิดๆ
              แต่นี่ยังไม่มีคำพิพากษาออกมาสักนิดแต่ออกข่าวเป็นตุเป็นตะว่าชนะแล้วบ้างซัมซุงละเมิดแล้วบ้าง (ตัดสินรึยังว่าละเมิดไม่เห็นออกมาบอกว่าส่วนไหนละเมิดบ้างดูก็รู้ว่ายังไม่ได้ตัดสิน ในข่าวก็แค่ความเห็นของผู้พิพากษาท่านหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด)
              ไม่เรียกหัวหมอไม่รู้จะว่าไงแล้วครับแถมแปลกันมาผิดๆ คนที่อ่านรู้เรื่องก็ไม่เบรคกันน่ะนะ

              ส่วนเรื่องการคุ้มครองผมก็ตามปกติคุ้มครองแล้วแต่เหมือนไม่ได้คุ้มครองจะร้องขอไปทำไมเสียเงินเสียเวลา
              มันแตกต่างกับกรณีที่ Sony ฟ้อง Geo Hot ค่อนข้างมาก Apple ตุกติกเยอะจนน่าสงสัยด้วยซ้ำ
              ถ้าซัมซุงละเมิดแบบจะๆ ผมว่ามันไม่ออกมารูปแบบนี้หรอก

              Comment


              • #22
                ปกติผมตามอ่านข่าวนี้แค่ใน blognone กับ foss patent รายหลังนี่เรื่อยๆ แต่คนไทยก็คงไม่ตามอ่านกัน ส่วนรายแรก blognone ตอนแรกก็ผิดเยอะ พอมีคนทักก็แก้ไขไป หลังๆข่าวเรื่องที่ฟ้องศาลดูลเซลดอฟก็ค่อนข้างจะไม่ผิดเพี้ยนสักเท่าไหร่ ที่ผิดบ่อยๆก็น่าจะเป็น mxphone รึปล่าวครับ อันนั้นไม่เฉพาะข่าวนี้หรอก ข่าวอื่นก็ผิดบ่อยเหมือนกัน ส่วนใน droidsans เท่าที่ตามๆดูยังไม่เห็นแปลผิด หรือผิดแล้วแก้ทันก็ไม่รู้ ตามเว็บข่าวช่วงแรกคนทักกันเยอะครับว่าเป็นแค่ขอคุ้มครองชั่วคราวไม่ใช่มีคำพิพากษา หลังจากนั้นก็จะตามแนวว่าโฟกัสที่คำขอคุ้มครองชั่วคราวกันมาตลอด

                ปัญหาอยู่ที่ผู้รับสาส์นบางคนแยกไม่ออกระหว่างคำว่าคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกับคำพิพากษา เลยเอาไปพูดต่อๆกันใน FB บ้าง พันทิปบ้าง แปลไปคนละเรื่อง

                เรื่องดัดแปลงสัดส่วนรูปนั่นผมว่าถ้าจงใจ (ซึ่งก็คงจงใจ) ทีมทนายไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ แล้วก็ได้รับผลแล้วคือในคดี galaxy sII ศาลเนเธอร์แลนด์ไม่เอาเรื่องสัดส่วนรูปทรงภายนอกมาเป็นข้อพิจารณา ส่วนคดี tab 10.1 ที่ดูลเซลดอฟ ผมว่าซัมซุงคงแก้เกมในทำนองเดียวกันครับ ปัญหาอยู่ที่ขอบเขตของ community patent เรื่องการออกแบบของ apple ที่จดไว้กับ EU มันจะใช้โจมตี tab 10.1 ได้มั้ย เพราะเอาเข้าจริงๆผมว่าไม่เหมือนหรือคล้ายกับ ipad เลย แต่ว่าการได้คุ้มครองชั่วคราวนี่ก็ทำให้ได้ประโยชน์ด้านการแข่งขันไปมากอยู่ครับ กว่า tab 10.1 จะพ้นบ่วง ผมว่าคง out แล้วครับ ถ้าได้เปิดตัวหรือโชว์สักหน่อยในคนใน EU ได้เห็นหน้าค่าตาได้สัมผัส tablet จากซัมซุงบ้าง อาจขยายความนิยมไปยัง galaxy note ที่เก็งกันว่าจะเป็นสินค้าเรือธงตัวใหม่ในปีหน้าของซัมซุงได้ไม่มากก็น้อย

                Comment


                • #23
                  จริงๆในข่าวเขาก็ใช้คำว่า คำสั่ง (injuncton) แต่บ้านเราแปลแบบไหนได้ว่าเป็นคำพิพากษา มีคู่กรณีข้อพิพาทแบบนี้ยังไงก็ต้องทำเป็นคำพิพากษาทำเป็นคำสั่งไม่ได้อยู่ดี
                  ยิ่งหัวข่าวใน Apple Insider ผมเรียกว่า สำนักเสี้ยมเลยครับ บอกว่า Permanent ban
                  มัน ถาวรตรงหว่าคำสั่งคุ้มครองเนี่ย ยืนคำสั่งแล้วถือว่า แบนถาวร ใน blogone ยังมีจุดที่ผิดค่อนข้างเยอะและผิดในจุดสำคัญก็มี
                  ผมเองไม่อยากไปแจ้งหรอกเพราะเดี๋ยวพี่แกจะอ้างอีกว่าให้ไปเล่นที่อื่น (เห็นหลายทีกับเว็บนั้น)
                  แหล่งข่าวต่างประเทศบางเจ้านี่เสี้ยมมาแต่ไกลเลยที่กลางอ่านแล้วพอเข้าใจก็มีของรอยเตอร์ ที่ค่อนข้างตรง
                  แต่ก็อย่างว่าข่าวด้านกฎหมายถ้าไม่เคยแตะไม่เคยสัมผัสหรือเคยเรียนมา เวลาแปลนี่เพี้ยนได้ง่ายๆเพราะมันต้องเข้าใจกระบวนการศาลด้วย

                  Comment


                  • #24
                    มิน่าคนถึเกลียดทนายนัก

                    Comment

                    Working...
                    X