Announcement

Collapse
No announcement yet.

ป่วน!!!ลือทั่งวงการ!!! ((( 5บอร์ด TOT สละเก้าอี้หวั่นซวยถูก AIS ฟ้องกลับ )))

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ป่วน!!!ลือทั่งวงการ!!! ((( 5บอร์ด TOT สละเก้าอี้หวั่นซวยถูก AIS ฟ้องกลับ )))

    ประเด็นหลัก
    รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทีโอที 5 คน ประกอบด้วย นางวณี ทัศนมณเฑียร, นายวิรไท สันติประภพ, นายชิต เหล่าวัฒนา, นางนุชนารถ ปัณฑวังกูร และนายวันชาติ สันติกุญชร เตรียมยื่นลาออก ซึ่งมีสาเหตุมาจากกรณีที่ทีโอทีได้เตรียมฟ้องร้อง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) มูลค่า 7 หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการปรับแก้สัมปทานมือถือ เพราะ การพิจารณาการฟ้องร้องบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เนื่องจากวันที่ 26 ก.พ.นี้ คดีจะหมดอายุความ หลังจากที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า การแก้ไขสัญญาสัมปทานของเอไอเอส ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องของพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วม การงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) รวมถึงคดีข้อพิพาทอื่นๆ อีก เกือบ 100 คดี
    แหล่งข่าวจากบอร์ดทีโอทีรายหนึ่งกล่าวว่า สาเหตุที่กรรมการบอร์ดทีโอที 4 คนยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการบอร์ด เพราะถูกการเมือง สั่งการด้วยวาจาว่าให้บอร์ดทีโอที ที่จะมีการประชุมในวันที่ 25 ก.พ.ที่จะถึงนี้พิจารณาอนุมัติให้ทีโอทีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเอไอเอส 7 หมื่นกว่าล้านบาท พร้อมทั้งขู่ว่าหากบอร์ดไม่ทำตามนั้นจะถูกร้องทุกข์กล่าวโทษว่าละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157
    ‘การที่บอร์ด 4 คนลาออก ไม่ใช่เป็นเรื่องโครงการ 3G TOT เหมือนที่พยายามกุเรื่องสร้างภาพแต่อย่างใด เพราะเรื่องการขยายโครงข่าย 3G TOT การเมืองและบอร์ดมีความเห็นตรงกันว่าเป็นความจำเป็นสำหรับทีโอที ต้องเร่งให้เสร็จโดยเร็ว แต่สำหรับการฟ้องร้องเอไอเอส บอร์ดมีความเห็นต่างกับการเมืองอย่างสิ้นเชิง และยอมรับไม่ได้ที่การเมืองเข้ามาแทรกแซงบอร์ดอย่างรุนแรง ถึงขนาดขู่ว่าถ้าไม่ฟ้องเอไอเอส จะโดน 157’
    นายชิตกล่าวยอม รับว่า ได้ตัดสินใจลาออกเพราะไม่ต้องการทำหน้าที่นี้ต่อไปด้วยเหตุส่วนตัว ไม่ขอเปิดเผย ส่วนจะมีกรรมการอื่นๆ ลาออกตามมาอีกหรือไม่ ไม่ทราบได้
    _______________________________________________________
    5บอร์ดทีโอทีสละเก้าอี้หวั่นซวยถูกฟ้อง
    บอร์ดทีโอทีเล็งลาออก 5 คน หลังหวั่นฟ้องเอไอเอส สัญญาในโครงการ 3จี คาดผลประมูลอาจล่ม กสทช.ขอพิจารณาสัญญาทรู-กสทฯ ให้รอบคอบก่อน
    รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทีโอที 5 คน ประกอบด้วย นางวณี ทัศนมณเฑียร, นายวิรไท สันติประภพ, นายชิต เหล่าวัฒนา, นางนุชนารถ ปัณฑวังกูร และนายวันชาติ สันติกุญชร เตรียมยื่นลาออก ซึ่งมีสาเหตุมาจากกรณีที่ทีโอทีได้เตรียมฟ้องร้อง บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) มูลค่า 7 หมื่นกว่าล้านบาท เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการปรับแก้สัมปทานมือถือ
    นอกจากนี้ รวมไปถึงกรณีโครงการสัญญาโครงการจัดสร้างโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง เนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค. กิจการร่วมค้าแซดทีอี-หนึ่งในผู้ยื่นเข้าประมูลในโครงการดังกล่าว ได้ยื่นฟ้องทีโอทีในคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้า หน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และในวันที่ 26 ม.ค.บริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้ยื่นฟ้องทีโอทีในกรณีเดียวกัน
    ทั้งนี้ จากการตัดสินใจลาออกของบอร์ดทั้ง 5 คน อาจทำให้วันที่ 25 ก.พ.นี้ ไม่น่าจะมีการประชุมแต่อย่างใดเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งจะทำให้การพิจารณาเซ็นสัญญาในโครงการสัญญาโครงการจัดสร้างโครงข่าย โทรศัพท์เคลื่อนที่ 3จี ซึ่งคอนซอร์เตียมเอสแอล ที่มี บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น เป็นแกนนำ เป็นผู้ชนะการประมูล ต้องเลื่อนออกไป รวมไปถึงการพิจารณาแต่งตั้งนายอานนท์ ทับเที่ยง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ ต้องเลื่อนออกไป จากเดิมที่มีกำหนดนำให้บอร์ดพิจารณาในการประชุมครั้งนี้
    นายชิตกล่าวยอมรับว่า ได้ตัดสินใจลาออกเพราะไม่ต้องการทำหน้าที่นี้ต่อไปด้วยเหตุส่วนตัว ไม่ขอเปิดเผย ส่วนจะมีกรรมการอื่นๆ ลาออกตามมาอีกหรือไม่ ไม่ทราบได้
    ด้าน พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ว่าที่ประชุมยังไม่มีการพิจารณาในรายละเอียดสัญญาที่ บมจ.กสท โทรคมนาคม ลงนาม ร่วมกับ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้บริการโทรศัพท์มือถือระบบ 3จี บนคลื่นความถี่เดิม 850 เมกะเฮิรตซ์ (เอชเอสพีเอ) เนื่องจากทางสำนักงาน กสทช. อ้างว่า มีข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นแง่กฎหมายที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ จึงขอเลื่อนออกส่งรายงานให้แก่ที่ประชุมที่กำหนดไว้
    ออกไป โดยคาดว่าจะจัดทำรายงานแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 ก.พ.
    ไทยโพสต์
    _______________________________________________________
    บอร์ดทีโอที ป่วน ลาออกรายวัน

    บอร์ดทีโอที ป่วน ลาออกรายวัน “ชิต - วีรไท” เดินตามวันชาติ-วณี ส่งผลเหลือบอร์ดเพียง 7 คน จากทั้งหมด 12 คน...

    มี รายงานว่า คณะกรรมการ(บอร์ด) ทีโอที มีการลาออกรายวัน วานนี้ (23 ก.พ.) นายชิต เหล่าวัฒนา และนายวีรไท สันติประภพ ได้ยื่นใบลาออกแล้วเช่นกัน จากก่อนหน้านี้ นายวันชาติ สันติกุญชร นางวณี ทัศนมณเฑียร ได้ลาออกไปแล้ว ทำให้บอร์ดทีโอทีเหลือ 7 คน จาก 12 คน โดยบอร์ดทีโอที มีกำหนดการจะประชุมในวันที่ 25 ก.พ.นี้ มีวาระการพิจารณาอนุมัติ 3 เรื่องหลัก คือ 1. การอนุมัติจ้างผู้ชนะประมูลสร้างโครงข่าย 3 จี คือเอสแอล คอนซอร์เตียม ประกอบด้วยบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท โนเกีย-ซีเมนส์ จำกัด บริษัท หัวเว่ย จำกัด เพื่อทีโอทีจะได้ลงนามในสัญญาจ้างต่อไป

    2.การพิจารณาการฟ้อง ร้องบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เนื่องจากวันที่ 26 ก.พ.นี้ คดีจะหมดอายุความ หลังจากที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาว่า การแก้ไขสัญญาสัมปทานของเอไอเอส ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องของพ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วม การงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) รวมถึงคดีข้อพิพาทอื่นๆ อีก เกือบ 100 คดี

    3.การคัดเลือกกรรมการผู้ จัดการใหญ่ทีโอที คนใหม่ ที่ได้เปิดให้ผู้สมัครแสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา และคณะกรรมการสรรหา ได้คัดเลือกแล้ว คือนายอานนท์ ทับเที่ยง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการประมูล 3 จี ให้เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ทีโอที คนใหม่ต่อไป
    ไทยรัฐ
    _______________________________________________________
    การเมืองล้วงลูกหนัก บอร์ดทีโอทีไขก๊อก
    บอร์ด ทีโอที แจก ‘คุณธรรม วินัย ยุติธรรม’ การเมือง หลังสั่งการด้วยวาจาให้บอร์ดทีโอทีในการประชุมวันที่ 25 ก.พ.อนุมัติให้ทีโอทีฟ้องเอไอเอสกว่า 7 หมื่นล้านบาท แบบไร้เหตุผล พร้อมขู่หากไม่ฟ้อง โดน 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ กรรมการที่ลาออกลั่น ทำงานด้วยกันไม่ได้กับการเมืองที่ ‘เบื้องหน้าทำตัวเป็นเทพ แต่เบื้องหลังเสพอาจม’

    แหล่งข่าวจากบอร์ดทีโอทีรายหนึ่งกล่าวว่า สาเหตุที่กรรมการบอร์ดทีโอที 4 คนยื่นใบลาออกจากการเป็นกรรมการบอร์ด เพราะถูกการเมือง สั่งการด้วยวาจาว่าให้บอร์ดทีโอที ที่จะมีการประชุมในวันที่ 25 ก.พ.ที่จะถึงนี้พิจารณาอนุมัติให้ทีโอทีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเอไอเอส 7 หมื่นกว่าล้านบาท พร้อมทั้งขู่ว่าหากบอร์ดไม่ทำตามนั้นจะถูกร้องทุกข์กล่าวโทษว่าละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157

    ‘การที่บอร์ด 4 คนลาออก ไม่ใช่เป็นเรื่องโครงการ 3G TOT เหมือนที่พยายามกุเรื่องสร้างภาพแต่อย่างใด เพราะเรื่องการขยายโครงข่าย 3G TOT การเมืองและบอร์ดมีความเห็นตรงกันว่าเป็นความจำเป็นสำหรับทีโอที ต้องเร่งให้เสร็จโดยเร็ว แต่สำหรับการฟ้องร้องเอไอเอส บอร์ดมีความเห็นต่างกับการเมืองอย่างสิ้นเชิง และยอมรับไม่ได้ที่การเมืองเข้ามาแทรกแซงบอร์ดอย่างรุนแรง ถึงขนาดขู่ว่าถ้าไม่ฟ้องเอไอเอส จะโดน 157’

    การฟ้องร้องดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลังจากทีโอทีได้ยื่นโนติ๊สหรือหนังสือแจ้งเตือนให้เอไอเอส ชำระเงินกว่า 7 หมื่นล้านบาทภายในวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นลาภที่มิควรได้จากการแก้ไขสัญญาพรีเพด การโรมมิ่งและภาษีสรรพสามิต ที่ทำให้ทีโอทีเกิดความเสียหาย โดยเอไอเอสปฏิเสธที่จะจ่ายเงินตามที่ทีโอทียื่นโนติ๊ส

    ‘ก่อนหน้านี้ทีโอทีเสนอบอร์ดให้พิจารณาประเด็นดังกล่าว โดยมติบอร์ดให้ฝ่ายบริหารไปดำเนินการทางคดีกับเอไอเอส โดยการพิจารณาของบอร์ดทีโอทีวันนั้น โดนปกปิดข้อมูลจากฝ่ายกฎหมายของทีโอที ทั้งจุรีรัตน์ และพิทักษ์ เนื่องจากอัยการเคยมีความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่าควรดำเนินการตามมาตรา 22 ของพรบ.ร่วมทุนฯปี 2535 หรือ การอาศัยกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ไม่ใช่การฟ้องร้องโดยตรง ซึ่งหากบอร์ดมีข้อมูลครบถ้วน มติคงไม่ออกมาเช่นนั้น’

    นอกจากนั้น การที่บอร์ดมีมติให้ฝ่ายบริหารดำเนินการทางคดีกับเอไอเอส ก็มีความหมายได้ 2 ทางคือการส่งฟ้องหรือเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ แต่หากมีความเห็นอัยการที่ถูกปกปิด บอร์ดคงมีมติให้เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการมากกว่า แต่เข้าใจว่าการปกปิดข้อมูลเป็นเพราะต้องการสนองการเมือง เพื่อเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งของผู้บริหารบางคน

    ‘หากอยากจะฟ้องเอไอเอส ทำไมไม่ฟ้องเองเลย ทำไมต้องมายืมมือบอร์ดทีโอทีด้วย’ อดีตกรรมการบอร์ดทีโอทีกล่าว

    เขายังย้ำว่ารู้สึกผิดหวังกับพฤติกรรมการเมืองมากที่ตีสองหน้า โดยเฉพาะในประเด็นการฟ้องร้องเอไอเอส เพราะหากให้บอร์ดมีมติฟ้องเอไอเอส นอกจากต้องเสียเงินค่าธรรมเนียม ค่าดำเนินการต่างๆ เกือบ 200 ล้านบาทแล้ว บอร์ดก็ไม่เชื่อว่าฟ้องแล้วจะชนะแล้วได้เงินค่าความเสียหายกลับคืนมา ในขณะเดียวกันมีความเป็นไปได้สูงที่เอไอเอสจะฟ้องร้องบอร์ดทุกคนและผู้ บริหารทีโอทีที่เกี่ยวข้อง ในขณะที่การเมืองลอยตัวเพราะเป็นการสั่งการด้วยวาจา

    ‘พฤติกรรมตีสองหน้าอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ภายหลังที่เคลียร์กับเอกชนรายหนึ่งได้ ก็ป้ายสีใส่บอร์ดบางคนว่าอยู่เบื้องหลังการที่แซดทีอีร้องเรียน ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนประสานกับคนชื่อประยูร จูงแซดทีอีเข้ามาประมูล 3G ด้วยซ้ำ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ แถวบ้านผมเรียกว่าไม่ใช่ลูกผู้ชาย หรือ Female Face’แหล่งข่าวกล่าว

    ทั้งนี้วาระการประชุมบอร์ดทีโอทีในวันที่ 25 ก.พ.มีเรื่องให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติให้ทีโอทีฟ้องร้องเอไอเอส ซึ่งเป็นการล้วงลูกจากการเมือง ซึ่งบอร์ด 4 คนได้รับการแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้กระโดดหนีจากพรรคประชาธิปัตย์เสีย โดยบอร์ด 4 คนที่ยื่นหนังสือลาออกเรียบร้อยแล้วประกอบ ด้วยวันชาติ สันติกุญชร ,วีรไทย สันติประภพ ,วณี ทัศนมณเทียร และศ.ดร.ชิต เหล่าวัฒนา นอกจากนี้ยังคาดว่าอาจมีบอร์ดอีก 4 คนทนไม่ไหวกับพฤติกรรมโสมมนักการเมือง อย่างพล.ต.จุลจรูญ แสงงำพาล,สายัณห์ สตางค์มงคล,นุชนาถ ปัณฑวังกูร และกุลิศ สมบัติศิริ

    นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้บอร์ดเห็นว่าคำสั่งการมืองให้ฟ้องเอไอเอสไม่มีเหตุผล คือสิ่งที่เอไอเอสชี้แจงต่อสาธารณชนกรณีที่ทีโอที ได้มีหนังสือถึงเอไอเอส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2554 แจ้งให้เอไอเอสชำระเงินส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติมในกรณีการปรับลดส่วนแบ่งราย ได้บริการบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) การหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) จำนวนเงินรวม 36,995,636,889.80 บาท และการหักค่าภาษีสรรพสามิตออกจากส่วนแบ่งรายได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับ เงินเพิ่ม จำนวนเงินรวม36,816,942,676.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา7.5% ต่อปีให้แก่ ทีโอที ภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554

    โดยเอไอเอสชี้แจงว่าในกรณีการปรับลดส่วนแบ่งรายได้บริการบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) และการหักค่าใช้จ่ายการใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) ตามหนังสือเรียกร้องของทีโอทีได้กล่าวอ้างบางส่วนของคำพิพากษาศาลฎีกาแผนก คดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่อม. 1/2553 เป็นเหตุเรียกร้องให้เอไอเอสชำระเงินดังกล่าว แต่ความจริงแล้ว คำพิพากษาฯ ดังกล่าวหาได้มีผลผูกพันเอไอเอสแต่อย่างใดไม่ เนื่องจากทั้งทีโอทีและเอไอเอสต่างมิได้เป็นคู่ความในคดีศาลดังกล่าวหาได้ วินิจฉัยให้เพิกถอนข้อตกลงต่อท้ายสัญญาอนุญาตให้ดำเนินกิจการบริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ครั้งที่ 6 กรณีบริการบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) และครั้งที่ 7 กรณีการใช้เครือข่ายร่วม (Roaming) แต่อย่างใดไม่

    รวมทั้ง มิได้วินิจฉัยว่าเอไอเอสกระทำผิดโดยไม่ปฏิบัติตามข้อสัญญา หรือวินิจฉัยให้ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาทั้งสองฉบับ ไม่มีผลผูกพันระหว่างทีโอทีและเอไอเอสแต่อย่างใด

    ข้อตกลงต่อท้ายสัญญาอนุญาตฯ ทั้งสองฉบับยังคงมีผลใช้บังคับและผูกพันคู่สัญญาให้ต้องปฏิบัติตามต่อไป อีกทั้งการปฏิบัติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เอไอเอสได้ปฏิบัติตามข้อตกลงต่อท้ายสัญญาฯ ทั้งสองฉบับอย่างครบถ้วนและถูกต้องมาโดยตลอด ดังนั้น เอไอเอสจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินส่วนแบ่งรายได้และเงินอื่นใดตามที่ทีโอ ทีเรียกร้องมา

    ทั้งนี้ เจตนารมณ์และเหตุผลในการทำบันทึกข้อตกลงต่อท้ายสัญญาทั้งสองฉบับ มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดแจ้ง ทั้งที่ทีโอที หรือหน่วยงานทางราชการอื่นว่าเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะเพื่อทำให้ ผู้ใช้บริการโทรศัพท์ เคลื่อนที่ได้รับบริการในราคาที่ถูกลงและทีโอทีก็ได้รับส่วนแบ่งรายได้เพิ่ม เติมสูงขึ้นเป็นอย่างมากจากการนี้

    ส่วนกรณีการนำภาษีสรรพสามิตมาหักออกจากเงินส่วนแบ่งรายได้นั้น ทางเอไอเอสชี้แจงว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการใช้ภาษีสรรพสามิตเป็นเครื่องมือในการจัดแบ่ง เงินรายได้ตามสัญญาสัมปทานบางส่วนไปเป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อเตรียมการแปรสภาพองค์การโทรศัพท์ในขณะนั้นเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลัก ทรัพย์ โดยมีหลักการสำคัญว่า รัฐไม่ได้รับความเสียหายใด โดยรัฐยังคงได้รับส่วนแบ่งรายได้เท่าเดิม ผู้ประกอบการไม่มีภาระเพิ่ม ผู้ใช้บริการไม่ต้องจ่ายค่าบริการเพิ่ม ดังนั้นเมื่อรวมภาษีสรรพสามิตและส่วนแบ่งรายได้ (ที่หักภาษีสรรพสามิตแล้ว) รัฐในที่นี้ คือ กรมสรรพสามิต และทีโอทีซึ่งกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% จึงยังคงมีรายได้เท่าเดิม ไม่มีความเสียหายใด

    ขณะที่ทีโอทีมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐ และ มติคณะรัฐมนตรีที่ออกมาโดยชอบด้วยกฎหมาย และใช้กับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายที่กำหนดให้ผู้ให้บริการ โทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายหักค่าภาษีสรรพสามิตออกจากส่วนแบ่งรายได้ก่อนนำส่ง ให้คู่สัญญาสัมปทาน ซึ่งทีโอทีเป็นฝ่ายแจ้งให้เอไอเอสเป็นผู้ปฎิบัติในการชำระภาษีสรรพสามิตแล้ว นำไปหักออกจากส่วนแบ่งรายได้ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี และเอไอเอสได้ปฏิบัติตามที่แจ้งมานั้นโดยสุจริต

    ศาลดังกล่าวฯ มิได้วินิจฉัยว่า มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมิได้เพิกถอนหรือยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวแต่อย่างใด

    การนำภาษีสรรพสามิตมาหักออกจากเงินส่วนแบ่งรายได้ในระหว่างปี 2546 ถึงปี 2550 นั้นทีโอที ไม่เคยเรียกร้องให้ทางเอไอเอสชำระเงินจำนวนดังกล่าว แต่ได้ยืนยันความถูกต้องว่า ได้รับส่วนแบ่งรายได้ครบถ้วนตามสัญญาแล้ว ด้วยการออกใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษีและคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารที่ ออกเพื่อประกันการชำระเงินส่วนแบ่งรายได้มาโดยตลอด

    ส่วนภาษีมูลค่าเพิ่ม เบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ที่ทีโอทีเรียกร้องนั้น ทางเอไอเอสไม่มีหน้าที่ต้องชำระ เนื่องจาก หากจะมีภาษีหรือภาระดังกล่าวเกิดขึ้นจริงแล้วก็เป็นหน้าที่ความรับผิดของที โอทีในฐานะผู้มีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร อีกทั้งทีโอทีเองก็เป็นฝ่ายโต้แย้งกรมสรรพากรว่า กรมสรรพากรไม่อาจประเมินเรียกเก็บภาษีดังกล่าวได้

    การเรียกร้องของทีโอทีในกรณีดังกล่าวนี้ เป็นการเรียกร้องซ้ำซ้อนกับเงินจำนวนเดียวกันที่ ทีโอที ได้เรียกร้องในเรื่องภาษีสรรพสามิตไว้แล้ว ด้วยวิธีการอนุญาโตตุลาการ ณ สถาบันอนุญาโตตุลาการตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2551 โดยขณะนี้ข้อพิพาทอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ

    แหล่งข่าวกล่าวย้ำว่ากรรมการบอร์ดที่ลาออกไม่สามารถทนกับพฤติกรรมของการ เมือง ที่ไม่ได้ยืนบนเหตุผล หลักการความถูกต้องได้ เพราะหลังจากพิจารณาด้านข้อกฎหมายต่างๆแล้ว กรรมการในส่วนที่ลาออกยังเชื่อว่าข้อพิพาทที่เกิดขึ้นควรเข้าสู่กระบวนการ อนุญาโตตุลาการมากกว่า

    ‘ในเมื่อล้วงลูกหนักขนาดนี้ ก็ทำงานไม่ได้ อยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผมไม่สามารถทำงานให้กับบุคคลที่เบื้องหน้าทำตัวเป็นเทพ แต่ลับหลังเสพอาจมได้’

    ผู้จัดการ
    http://pantip.com/cafe/mbk/topic/T10...T10273511.html




    3G TOT ปีนี้จะเสร็จทันไหมเนี่ย
    Last edited by Au_ninja; 24 Feb 2011, 22:26:14.

  • #2
    จะเป็นเช่นไรต่อไป ประเทศไทยจะได้ใช้ 3G หรือไม่

    Comment


    • #3
      ย้ายไปลาวดีไหม
      ลาวขนาดบ้านนอก ยังมี 3g ใช้เลย เอ้ยประเทศไทย

      Comment


      • #4
        นักการเมืองเดียวก็มาเดียวก็ไป แต่ข้าราชการอยู่ตลอดอย่างมาก็เกษียณไปเลี้ยงหลาน อย่างมากก็ไปขึ้นศาลตลอดแก่

        Comment


        • #5
          คงไม่มีคนแจก ม่ามา แน่เลย

          Comment


          • #6
            "Female Face" โอ้ยเจ็บกับคำนี้

            Comment


            • #7
              ไม่มีอะไรจะเละแล้ว TOT
              สถานีสูบ

              Comment


              • #8
                หึหึ
                AIS เอาสิคับ จะรอดูเอาคืน
                555+

                Comment


                • #9
                  เอาคืน น่าจะมันสสสส

                  Comment


                  • #10
                    ขอโทษนะครับ โทรศัพท์ 3G ผมมันพังไป 2 เครื่องแล้ว
                    และคาดว่า ต่อให้เครื่องปัจจุบันพัง ผมก็ยังไม่ได้ใช้

                    Comment


                    • #11
                      การเมืองสั่งปากเปล่า ถ้าไม่ทำตามฟ้อง ais มีโทษละเว้นหน้าที่ ถ้าทำแล้วโดน ais ฟ้องกลับ ก็รับเองเจ็บเอง การเมืองลอยตัว ผมไม่รู้ไหนละหลักฐาน

                      ต่อหน้าอย่างเทพ ลับหลัง เสพอาจม
                      หรือ อย่าง Female Face บ่งบอกถึงความเป็น.....ได้สุดๆ

                      3g มันดีที่ ทำให้วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ วัยระเริง โตขึ้นนี่เอง

                      Comment


                      • #12
                        ดีครับ จัดหนัก ๆ เลย เอาให้ tot เสียหน้า จ่ายค่าเสียหาย หนัก หนักกลับ ไปเลย
                        เซ้ง เอาอะไรนักหนา ไม่ยอมก้าวหน้าซักที

                        Comment


                        • #13
                          เจอเอาคืนเยอะๆ แล้วมาขูดรีดจากประชาชนต่อ

                          Comment


                          • #14
                            โอ้ววว

                            Comment


                            • #15
                              คดีจะหมดอายุแล้ว ทำไมไม่รีบฟ้องหว่าา

                              Comment

                              Working...
                              X