Announcement
				
					Collapse
				
			
		
	
		
			
				No announcement yet.
				
			
				
	
SSD ไม่ควร raid 0 ใช่มั้ยครับ ถ้าไม่ได้ทำงานกับไฟล์ใหญ่ๆ หลายสิบ gb เป็นประจำ
				
					Collapse
				
			
		
	X
- 
	
	
	
		
	
	
		
		
		
		
		
		
		
	
	
 ใช่ครับ ทดสอบอื่นๆ นั้น เอาตามที่ผมเห็นนะครับ คือ ผมว่า มันเอาไว้ดูในการตัดสินใจเฉยๆ ค
 คือ มันแค่ วัดแค่ ความเร็วในการ boot เครื่องเข้าวินโดว์
 ความเห็นในการ ปิดเครื่อง
 ความเร็วในการ รันโปรแกรม หลักๆ มีแค่นี่เองเท่านั้น
 
 ซึ่งผล ข้อดีของการ Raid คือ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ในการ อ่าน และ เขียน ข้อมูล เช่น การลงเกม การ copy
 Comment
- 
	
	
	
		
	
	
		
		
		
		
		
		
		
	
	
- 
	
	
	
		
	
	
		
		
		
		
		
		
		
	
	
 เรื่องการอ่านการเขียนข้อมูลนี่ผมว่าต้องแก้ที่ฝ่ายซอฟแวร์ของเกมส์/โปรแกรมต่างกันเอาครับ เดิมทีโปรแกรมส่วนใหญ่มักจะเขียน I/O Thread แบบ Single Thread เนื่องจากว่าพอร์ตเก่าๆ อย่าง IDE/SATA นั้นรองรับ I/O Thread ได้น้อย(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะสูงสุดแถวๆ แค่ 8 threads) สร้าง I/O Thread ขึ้นมาพร้อมกันมากๆ แล้วจะช้ากว่าเดิมแทนในกรณี HDD
 
 แต่ว่าพอร์ต NVMe นั้นตามสเปคสามารถรอบรับ I/O Thread ได้กว่า FFFE หรือ 65535 threads ซึ่งต่างจากระบบเดิมๆ มาก สังเกตุได้จากการทดสอบอ่านเขียนไฟล์แบบ 4k-64 thread(เขียนไฟล์ขนาด 4k พร้อมๆ กัน 64 I/O Thread) ที่พอร์ต NVMe นั้นทำคะแนนทดสอบออกมาดีกว่า SATA 3 มาก เหมาะสำหรับพวกโปรแกรมช่วยคัดลอกโอนย้ายไฟล์ที่ทำ Multi-thread/parallel copy อย่างเช่น Teracopy หรือ ultracopier เป็นอย่างมาก(เฉพาะระหว่าง NVMe SSD ด้วยกันนะครับ นอกนั้นติดคอขวดเหมือนเดิม แต่กับการใช้งานส่วนใหญ่ของวินโดว์ก็เหลือๆ อยู่แล้ว)
 
 คอขวดในการใช้งานในส่วนของการโยกย้ายไฟล์ยังคงเป็นพอร์ต SATA 3 ซึ่ง Raid 0 อาจจะช่วงตรงนี้ขึ้นมาบ้างแต่ว่า ณ จุดนี้นั้น Raid 0 จะถูกจำกัดความเร็วจากต้นทาง/ปลายทางของเป้าหมายในการโยกย้ายข้อมูลอยู่ดี ทำให้คะแนนที่ทดสอบนั้นไม่เกิดขึ้นในการใช้งานจริง ยกเว้น จะเป็นการโยกย้ายไฟล์ไปยังพอร์ตที่เร็วกว่าเช่นจาก SATA 3 Raid 0 ไปยัง NVMe หรือการโยกย้ายไฟล์ระหว่าง Raid 0 ด้วยกันเช่น Raid 0[C:, D:] ไปยัง Raid 0[E:, F:] เป็นต้น
 
 ดังนี้หากการคัดลอกโยกย้ายไฟล์นั้นไม่สามารถทำความเร็วในเชิงการใช้งานจริงได้แล้วและความเร็วในการเปิดโหลดโปรแกรมต่างๆ นั้นแทบไม่ต่างจากปรกติแล้วผมก็มองไม่เห็นว่า Raid 0 SSD นั้นจะช่วยอะไรนอกจากการลดอายุการใช้งานของ SSD พร้อมกันทั้งชุดแทนที่จะเสื่อมไปทีละตัว
 
 กรณีที่จะทำให้ Raid 0 SSD นั้นจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพเท่าที่ผมคิดออกก็คงเป็นการนำไปใช้กับ Server ซึ่งมีการสร้างและอ่านข้อมูลบนชุด Raid 0 นั้นๆ เลยจึงไม่ถูกจำกัดด้วยคอขวดจากปลายถึงเช่นเดียวกับการทดสอบด้วยโปรแกรมทดสอบต่างๆ ที่จะสร้างไฟล์ขึ้นมาแล้วทดสอบการคัดลอกโอนย้ายใน Raid 0 นั้นๆ
 Comment
- 
	
	
	
		
	
	
		
		
		
		
		
		
		
	
	
 ถ้าย้ายไฟล์ภายใน Logical Volume นั้นวินโดว์ลบ Hardlink เก่าแล้วเขียน Hardlink ใหม่เอาก็ได้ครับไม่ต้องคัดลอกโอนย้ายไฟล์จริงๆ
 กรณีที่จะเกิดการคัดลอกโอนย้ายขึ้นจริงนั้นจะต้องเป็นการคัดลอกโอนย้ายระหว่าง Logical Volume ซึ่งโดยปรกติแล้ว Raid 0 เป็นการรวม Physical Volume หลายๆ ตัวมาเป็น 1 Logical Volume
 
 ดังนี้ ถ้าไม่ใช่การสร้างไฟล์ใหม่บน Raid 0 โดยตรงหรือการคัดลอกโอนย้ายระหว่าง Raid 0 สองชุดแล้ว ผมคิดว่าการที่ Raid 0 จะได้ทำงานเต็มประสิทธิภาพนั้นค่อนข้างหายากครับ
 
 ส่วนตัวผมเองก็ค่อนข้างประหลาดใจในตอนแรกที่พบว่า Raid 0 SSD นั้นไม่ได้ช่วยให้เปิดโปรแกรมบูตวินโดว์เร็วขึ้น แต่พอมาคิดดูดีๆ แล้วผมคิดว่าคอขวดตรง Single thread I/O SATA 3 เนื่องจากการโหลดอ่านไฟล์โดยทั่วไปนั้นมักจะเรียกใช้แค่เทรดเดียว ซึ่งความเร็วของ 1 เทรดซาต้า 3 นั้นมันวิ่งจนหัวชนเพดาตั้งแต่ SSD SATA 3 ตัวเดียวแล้ว ต่างจาก HDD ที่พอรวมกันแล้วความเร็วก็ยังไม่ถึงเพดานของ SATA 3 ซึ่งผลการทดสอบนั้นค่อนข้างตรงกับที่ผมเข้าใจ
 
 แบบเทรดเดียว
  
 
 แบบ 64 เทรด
  
 
 เห็นได้ชัดว่าแบบหลายเทรดนั้นความเร็วของ Raid 0 เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวเนื่องจากรวม 2 สาย SATA 3 เข้าเป็น Logical volume เดียว
 
 โดยสรุปแล้วเหตุที่ Raid 0 นั้นไม่เร็วเท่าที่ควรจะเป็นเพราะข้อจำกัดของพอร์ตและคนเขียนซอฟแวร์ที่ยังคงไม่อัพเดตวิธีเขียนโค๊ดในการอ่านโหลดเขียนไฟล์ครับ แม้จะเพิ่มช่องทางอ่านเขียนแต่ถ้าคนเขียนโปรแกรมไม่ใช้ก็ไม่ต่างจากท่อว่างๆ ที่ไม่มีน้ำไหลล่ะครับ
 (แต่ชาว AMD อย่างเราๆ น่าจะคุ้นเคยตรงนี้กันอยู่แล้ว...สมัย FX ออกหลายหัวมาแต่โปรแกรมยังคงเขียนแบบ Single thread เป็นหลักกัน)
 Comment










 
							
						
Comment