...สวัสดีวันสงกรานต์ครับทุกท่าน
ส่วน การคำนวณ Gflops ของท่านตาร์ก็นิ่งขึ้นมากครับ ไม่แกว่งแบบจาก 49 ไป 51 เหมือนก่อนหน้า อันนี้อยู่ภายในระดับจุดทศนิยมเท่านั้น
และแน่นอนว่า ก็มีผลมาจากระดับแรงดันไฟฟ้าในระบบเรานั่นเองครับ
ก็ตัวที่ท่านตาร์ไปปรับนั้นแหละ ไอ้เจ้า GTL Voltage Reference ทราบมั้ยครับคืออะไร มันคือเครื่องมือปรับแรงดันไฟอย่างละเอียด ของระบบบัส โดยเฉพาะ
บัสที่ใช้ในการเชื่อมต่อเพื่อรับ-ส่งข้อมูลระหว่าง เมมโมรี และ ซีพียูอ่ะครับ
ซึ่งเจ้าตัว GTL Voltage Reference นี้จะทำงานร่วมกันกับ VTT หรือในไบออสเราจะใช้ชื่อว่า FSB Termination Voltage ที่ท่านตาร์ตั้งไว้ที่ 1.30 Volt (จริงๆได้ถึง 1.36 Volt ครับ)
ส่วนค่าที่แสดงในช่อง GTL Voltage Reference ทั้ง (0/1) และ (2/3) ที่ท่านตาร์ตั้งค่านั้น เป็น %ผลลัพท์ที่คิดคำนวณร่วมกับค่า VTT นี้เอง
บางเมนบอร์ด จะป้อนเป็นค่าตัวเลขระดับ mV (มิลลิโวลต์) ได้เลย อย่างเมนบอร์ดผม หรือเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต X38 X48 ใครมี P5E3 Pro ลองเช็คดูครับ ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่
....เรื่องนี้ผมคิดมาหลายทีแล้วว่าจะอธิบายให้เพื่อนๆฟัง(อ่าน) ง่ายๆ ได้อย่างไร ไม่ให้เหมือนมานั่งจดเล็คเชอร์วิชา Digital 101
อืมม...
:::: ลองดูซักตั้งละกัน ใครไม่เข้าใจจุดไหนถามได้เลยนะครับ เพราะผมบางทีพยายามไม่ทับศัพท์เกินไปจนอาจอ่านไปแล้วไม่เข้าใจหนักไปอีก ::::::::::::::::::::::::::
บัส(Bus) ที่เราพูดถึงหรือได้ยินกันบ่อยๆ นี่จริงๆ แล้วมันก็คือ เส้นลวดตัวนำไฟฟ้า(ในบอร์ดเรา ก็เป็นลักษณะเหมือนเส้นบางๆ มีอยู่หลายชั้นด้วย) ที่เราเห็นลากจากใต้ซ็อคเก็ตซีพียู ไปยังซ้อคเก็ตเมมโมรี จะสังเกตว่ามันจับกลุ่มกันไปเป็นแผงๆ เลย
มีอีกแผงที่มาจาก PCIE(การ์ดจอ) ไปยังซีพียูด้วย
ทีนี้พื้นฐานไฟฟ้าเบื้องต้น เมื่อเส้นลวดตัวนำมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เราสามารถคิดคำนวณหาค่าได้ 3 ค่าคือ
1.) ค่า I กระแสไฟฟ้า มีหน่วยเป็น แอมแปร์
2.) ค่า V แรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โวลต์
3.) ค่า R ค่าความต้านทานกระแสไฟฟ้าของลวดตัวนำไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โอม
ทั้ง 3 ค่านี้ หากอยากให้เกิดค่าอะไรไปทางใดทางหนึ่ง เราก็สามารถปรับเปลี่ยนแต่ละค่า เพื่อให้ผลแต่ละค่าต่างกันไป
เช่น เราสามารถลดค่าต้านทาน R เพื่อให้ค่า กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และเมื่อกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แรงดันไฟฟ้า(V) ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
จากความสัมพนธ์นี้เราก็จะได้สูตร
I = V / R ; สังเกตว่าค่าความต้านทาน (R) ก็แปรผกผันกับ กระแสและแรงดันไฟฟ้า เมื่อ R ลด กระแสและแรงดันไฟฟ้าก็จะเพิ่ม
(คุ้นๆ มั้ยครับ อันนี้น่าจะมาจาก ไฟฟ้าเบื้องต้นสมัย ม. ต้น)
แต่ค่าที่เค้านิยมนำมาใช้ปรับเปลี่ยนที่ง่ายที่สุดคือค่า R หรือค่าต้านทาน ถ้าสังเกตดูอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคเราจะประไปด้วยตัวต้าน(รูปร่าง เล็กๆ เหมือนเมล็ดข้าว) มีทั้งแบบมีค่าเดียว(ตายตัว) และแบบปรับค่าได้ เนื่องจากมันผลิตง่าย และถูก
ในเมนบอร์ดเราจะมีความซับซ้อนกว่านั้น โดยจะมีกลุ่มวงจรหรือกลุ่มอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ร่วมกัน เพื่อควบคุมการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดบนเมนบอร์ด ที่เราเรียกว่าภาคจ่ายไฟ และถูกควบคุมโดยโปรแกรมที่อยู่ในไบออสอีกที
อย่างเช่น เมื่อเราปรับค่า AUTO ที่ค่าที่เกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้า(โวลต์) พวก Vcore ,DRAM Volt แต่ไปกำหนดว่า อยากได้ FSB เท่านี้ CAS เท่านั้น ทางวิศวะกรที่สร้างเมนบอร์ดก็จะออกแบบโปรแกรมคำนวณค่าที่เหมาะสม โดยโปรแกรมย่อยๆที่ว่านี้อยู่ใน ไบออสนั่นเอง
หรืออย่างค่า A GTL VRef ที่ส่วนใหญ่มักปล่อย AUTO นั้น ค่าที่ได้มานั้น บางทีก็ไม่เหมาะสม ยังผลให้ระบบไม่เสถียร เราจึงต้องมาปรับเอง
.........................................................................................................
ส่วน การคำนวณ Gflops ของท่านตาร์ก็นิ่งขึ้นมากครับ ไม่แกว่งแบบจาก 49 ไป 51 เหมือนก่อนหน้า อันนี้อยู่ภายในระดับจุดทศนิยมเท่านั้น
และแน่นอนว่า ก็มีผลมาจากระดับแรงดันไฟฟ้าในระบบเรานั่นเองครับ
ก็ตัวที่ท่านตาร์ไปปรับนั้นแหละ ไอ้เจ้า GTL Voltage Reference ทราบมั้ยครับคืออะไร มันคือเครื่องมือปรับแรงดันไฟอย่างละเอียด ของระบบบัส โดยเฉพาะ
บัสที่ใช้ในการเชื่อมต่อเพื่อรับ-ส่งข้อมูลระหว่าง เมมโมรี และ ซีพียูอ่ะครับ
ซึ่งเจ้าตัว GTL Voltage Reference นี้จะทำงานร่วมกันกับ VTT หรือในไบออสเราจะใช้ชื่อว่า FSB Termination Voltage ที่ท่านตาร์ตั้งไว้ที่ 1.30 Volt (จริงๆได้ถึง 1.36 Volt ครับ)
ส่วนค่าที่แสดงในช่อง GTL Voltage Reference ทั้ง (0/1) และ (2/3) ที่ท่านตาร์ตั้งค่านั้น เป็น %ผลลัพท์ที่คิดคำนวณร่วมกับค่า VTT นี้เอง
บางเมนบอร์ด จะป้อนเป็นค่าตัวเลขระดับ mV (มิลลิโวลต์) ได้เลย อย่างเมนบอร์ดผม หรือเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต X38 X48 ใครมี P5E3 Pro ลองเช็คดูครับ ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่
....เรื่องนี้ผมคิดมาหลายทีแล้วว่าจะอธิบายให้เพื่อนๆฟัง(อ่าน) ง่ายๆ ได้อย่างไร ไม่ให้เหมือนมานั่งจดเล็คเชอร์วิชา Digital 101
อืมม...
:::: ลองดูซักตั้งละกัน ใครไม่เข้าใจจุดไหนถามได้เลยนะครับ เพราะผมบางทีพยายามไม่ทับศัพท์เกินไปจนอาจอ่านไปแล้วไม่เข้าใจหนักไปอีก ::::::::::::::::::::::::::
บัส(Bus) ที่เราพูดถึงหรือได้ยินกันบ่อยๆ นี่จริงๆ แล้วมันก็คือ เส้นลวดตัวนำไฟฟ้า(ในบอร์ดเรา ก็เป็นลักษณะเหมือนเส้นบางๆ มีอยู่หลายชั้นด้วย) ที่เราเห็นลากจากใต้ซ็อคเก็ตซีพียู ไปยังซ้อคเก็ตเมมโมรี จะสังเกตว่ามันจับกลุ่มกันไปเป็นแผงๆ เลย
มีอีกแผงที่มาจาก PCIE(การ์ดจอ) ไปยังซีพียูด้วย
ทีนี้พื้นฐานไฟฟ้าเบื้องต้น เมื่อเส้นลวดตัวนำมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน เราสามารถคิดคำนวณหาค่าได้ 3 ค่าคือ
1.) ค่า I กระแสไฟฟ้า มีหน่วยเป็น แอมแปร์
2.) ค่า V แรงดันไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โวลต์
3.) ค่า R ค่าความต้านทานกระแสไฟฟ้าของลวดตัวนำไฟฟ้า มีหน่วยเป็น โอม
ทั้ง 3 ค่านี้ หากอยากให้เกิดค่าอะไรไปทางใดทางหนึ่ง เราก็สามารถปรับเปลี่ยนแต่ละค่า เพื่อให้ผลแต่ละค่าต่างกันไป
เช่น เราสามารถลดค่าต้านทาน R เพื่อให้ค่า กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และเมื่อกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แรงดันไฟฟ้า(V) ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
จากความสัมพนธ์นี้เราก็จะได้สูตร
I = V / R ; สังเกตว่าค่าความต้านทาน (R) ก็แปรผกผันกับ กระแสและแรงดันไฟฟ้า เมื่อ R ลด กระแสและแรงดันไฟฟ้าก็จะเพิ่ม
(คุ้นๆ มั้ยครับ อันนี้น่าจะมาจาก ไฟฟ้าเบื้องต้นสมัย ม. ต้น)
แต่ค่าที่เค้านิยมนำมาใช้ปรับเปลี่ยนที่ง่ายที่สุดคือค่า R หรือค่าต้านทาน ถ้าสังเกตดูอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคเราจะประไปด้วยตัวต้าน(รูปร่าง เล็กๆ เหมือนเมล็ดข้าว) มีทั้งแบบมีค่าเดียว(ตายตัว) และแบบปรับค่าได้ เนื่องจากมันผลิตง่าย และถูก
ในเมนบอร์ดเราจะมีความซับซ้อนกว่านั้น โดยจะมีกลุ่มวงจรหรือกลุ่มอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ร่วมกัน เพื่อควบคุมการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดบนเมนบอร์ด ที่เราเรียกว่าภาคจ่ายไฟ และถูกควบคุมโดยโปรแกรมที่อยู่ในไบออสอีกที
อย่างเช่น เมื่อเราปรับค่า AUTO ที่ค่าที่เกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้า(โวลต์) พวก Vcore ,DRAM Volt แต่ไปกำหนดว่า อยากได้ FSB เท่านี้ CAS เท่านั้น ทางวิศวะกรที่สร้างเมนบอร์ดก็จะออกแบบโปรแกรมคำนวณค่าที่เหมาะสม โดยโปรแกรมย่อยๆที่ว่านี้อยู่ใน ไบออสนั่นเอง
หรืออย่างค่า A GTL VRef ที่ส่วนใหญ่มักปล่อย AUTO นั้น ค่าที่ได้มานั้น บางทีก็ไม่เหมาะสม ยังผลให้ระบบไม่เสถียร เราจึงต้องมาปรับเอง
.........................................................................................................
Comment