ชาว INTEL AMD NVIDIA ทุกท่านตกลงจะลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด กันไม้

[micronz]

ไฟเซอร์ ติดเชื้อโควิดได้ภูมิลด
ส่วนซีโนแวค ภูมิลด จนเข้าเมรุ เผาศพ เจอทั้งในอินโดนีเซีย ไทย ชิลี สองเข้มภูมิไม่ทราบเหลือเท่าไหร่
แต่ชีวิตลุ้นหวยเอาละ


http://หมอธีระวัฒน์ ชี้ปมพยาบาลเสียชีวิตแม้ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ร้องขอวัคซีนเข็ม 3 ให้บุคลากรแพทย์ วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 - 08:39 น. FacebookTwitterLINECopy Link หมอธีระวัฒน์ ชี้ปมพยาบาลเสียชีวิตแม้ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ร้องขอวัคซีนเข็ม 3 ให้บุคลากรแพทย์ จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความอาลัยน้องสาวซึ่งเป็นพยาบาลด่านหน้า ที่ติดโควิด ทั้งที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม และหลังจากที่ติดโควิดแค่อาทิตย์เดียวก็เสียชีวิตนั้น อ่านข่าว – สุดเศร้า! พี่สาวโพสต์อาลัยน้องสาวพยาบาลด่านหน้า หลังโควิดคร่าชีวิต ทั้งที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม ล่าสุด นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว พร้อมเรียกร้องขอวัคซีนบูสเตอร์เข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยระบุว่า “วัคซีนซิโนแวค หลังจากฉีดสองเข็มจะเห็นภูมิคุ้มกันที่ยับยั้งไวรัสได้ที่ 30 วัน หลังจากฉีดเข็มที่สอง ในระยะแรก ที่พวกเราทำงานจะไม่ค่อยเห็นบุคลากรทางสาธารณสุขติดเชื้อเท่าไหร่และที่ติดอาการไม่ค่อยมากแต่แน่นอนแพร่เชื้อไปให้คนอื่นได้โดยมีปริมาณไวรัสในจำนวนสูง ในระยะต่อมา พวกเราเริ่มติดเชื้อกันมากขึ้นเรื่อยๆ น้องพยาบาลหมอและเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่นๆ เด็กๆ ที่เพิ่งจบการอบรม กำลังจะไปทำงานที่ต้นสังกัดที่ต่างจังหวัดพบการติดเชื้อเช่นกันและอาการเริ่มดูเหมือนเห็นชัดเจนขึ้น เริ่มมีปอดอักเสบขึ้น แต่ไม่ถึงกับเสียชีวิตและเราก็เชื่อมั่นว่าอย่างน้อยอาการก็ไม่หนัก และจนกระทั่งที่เห็นในรายนี้ ทั้งนี้ เมื่อเราตรวจสอบภูมิคุ้มกันในเลือดของพวกเรากันเองรวมทั้งคนที่ปฏิบัติงานในห้อง lab ที่ต้องเจอเชื้ออยู่ตลอดทุกวัน พบว่าระดับภูมิคุ้มกันลดลงอย่างรวดเร็วแม้ว่าในระยะแรกจะสูงถึง 90% ก็ตกลงมาเหลือ 30 ถึง 40% และเมื่อทำการวิเคราะห์รายที่ภูมิคุ้มกันยังอยู่ในระดับพอใช้ได้คือ 70% ปรากฏว่าสู้กับไวรัสอัลฟ่า และเดลต้าแทบไม่ได้เลย ซึ่งเป็นงานของอาจารย์ ดร.อนันต์ที่ไบโอเทคร่วมกันกับอาจารย์หมอเขตต์ สถาบันโรคทรวงอกและกับพวกเราที่วิเคราะห์ระดับภูมิคุ้มกันในเลือด

[micronz]

ผลวิจัย "ไบโอเทค-มธ." ชี้ฉีคซิโนแวค 2 เข็ม ภูมิลด 50% ทุก 40 วัน

แพทย์ไทยหลายคนระบุเหมือนกันภุมิคุ้มกันไม่คงที่ลดลงในเวลาอันรวดเร็ว

คณะแพทยศาสตร์ มธ. เผยผลวิจัยทางคลินิกร่วมกับทีมวิจัยไบโอเทค สวทช. ระบุกรณีผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม พบว่าระดับภูมิคุ้มกันจะมีค่าลดลงร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่งทุกๆ 40 วัน

เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2564 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์เฟซบุ๊ก "Anan Jongkaewwattana" เกี่ยวกับผลการทดลองจากศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ร่วมมือกับห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี ไบโอเทค ทำโครงการตรวจระดับภูมิคุ้มกันต่อโปรตีน RBD ของเชื้อ COVID-19 จากการวิเคราะห์เบื้องต้นมากกว่า 500 ตัวอย่าง พบประเด็นสำคัญดังนี้

• ระดับของภูมิคุ้มกัน หลังจากได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม จะมีค่าลดลงร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่งทุกๆ ประมาณ 40 วัน

• ระดับของภูมิคุ้มกันในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มนานกว่า 60 วัน จะมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไม่เกิน 60 วัน

• ระดับภูมิคุ้มกันเฉลี่ยใน 60 วันแรกหลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เทียบเคียงได้กับประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม แบบมีอาการประมาณร้อยละ 60-70 แต่ในกลุ่มที่รับวัคซีนครบ 2 เข็มเกิน 60 วัน พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมแบบมีอาการ ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 50

• ยังไม่มีข้อมูลให้เปรียบเทียบประสิทธิภาพของการได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม ในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์กลายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตาและสายพันธุ์อัลฟา

• ระดับของระดับของภูมิคุ้มกัน โดยรวมมีแนวโน้มลดลงตามช่วงอายุ โดยกลุ่มที่อายุ 40 ปีขึ้นไป มีระดับภูมิคุ้มกันเฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มที่อายุน้อยกว่า 40 ปี

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา มีกรณีที่นักแสดงชื่อดัง เผยแพร่ภาพเอกสารผลการตรวจ COVID-19 พร้อมระบุว่า ไม่พบเชื้อ แต่ได้เข้าตรวจภูมิคุ้มกันหลังฉีดวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม เป็นเวลา 28 วัน ได้ผล 1098.5 AU/mL ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยตรวจภูมิคุ้มกันหลังจากฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เป็นเวลา 14 วัน ได้ผล 1286.4 AU/mL

[micronz]

ฮ่องกงพบฉีด “ซิโนแวค” ภูมิขึ้นต่ำกว่า “ไฟเซอร์”

---

ผลการศึกษาในฮ่องกงชี้ว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จะมีระดับภูมิคุ้มกันต่ำกว่าผู้ที่รับวัคซีนโควิดของไฟเซอร์ ไบโอเอ็นเทคค่อนข้างมาก จึงอาจต้องมีการฉีดเข็ม 3
หนังสือพิมพ์ เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกง รายงานอ้างอิงผลวิจัยของทีมนักระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง (HKU) ที่ติดตามระดับภูมิคุ้มกันโควิด-19 ของประชาชน 1 พันคน ที่ได้รับวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อนี้ พบว่าระดับภูมิคุ้มกันในกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ จะสูงกว่าภูมิคุ้มกันของผู้ที่ฉีดซิโนแวคมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่ทางการจะแนะนำให้กลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค เข้ารับวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเป็นบูสเตอร์ กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เพิ่มขึ้น



ส่อง "แคมเปญฉีดวัคซีนโควิดต่างประเทศ" บางประเทศกระจายล่าช้า คนไม่เชื่อมั่นรัฐบาล และขาดแคลนวัคซีน



เปิดสาเหตุ ชาวฮ่องกงฉีดวัคซีนน้อย เหตุไม่มั่นใจรัฐบาล

[micronz]

เปิดผลวิจัย ฉีดซิโนแวค ครบ 2 เข็ม ภูมิคุ้มกันลดลงครึ่งหนึ่งทุก 40 วัน
อ้าวภูมิลดตลอดมิน่า ในไทยฉีดซีโนแวคยังติดกันตลอด

เคสที่ตายทุกวันก็ไม่ทราบฉีดแล้วหรือไม่ฉีด
COVID-19


workpointTODAY | Writer

12 ก.ค. 2564Advertisement
SHARE
ADVERTISEMENT

นักวิจัย เผยผลการทดลองผู้ที่ฉีด ‘ซิโนแวค’ 2 เข็ม พบภูมิคุ้มกันลดลงร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่ง ทุกๆ 40 วัน

วันที่ 12 ก.ค. 2564 ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักวิจัยด้านไวรัสวิทยา ไบโอเทค โพสต์ผลการทดลองจากศูนย์วิจัยทางคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ ห้องปฏิบัติการ ไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี BIOTEC ใช้ 500 ตัวอย่าง จากผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ดังนี้

ADVERTISEMENT

ระดับของภูมิคุ้มกัน หลังจากได้รับวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็ม จะมีค่าลดลงร้อยละ 50 หรือครึ่งหนึ่ง ทุกๆ ประมาณ 40 วัน

ระดับของภูมิคุ้มกันในกลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม นานกว่า 60 วันจะมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่ากลุ่มที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มไม่เกิน 60 วัน

ระดับภูมิคุ้มกันเฉลี่ยใน 60 วันแรกหลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เทียบเคียงได้กับประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม แบบมีอาการประมาณร้อยละ 60-70 แต่ในกลุ่มที่รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เกิน 60 วัน พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมแบบมีอาการลดลงเหลือเพียงร้อยละ 50

[micronz]

รองนายแพทย์สาธารณสุขอุดร ยันสาววัย 47 ฉีดซิโนแวค 2 เข็มเสียชีวิต เหตุภูมิคุ้มกันไม่พอ

สยามรัฐออนไลน์ 14 กรกฎาคม 2564 19:28 น. ภูมิภาค โควิด-19


รองนายแพทย์ สสจ.อุดรฯ ยืนยันแล้ว ผู้เสียชีวิตที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มจริง แต่เสียชีวิตเพราะภูมิคุ้มไม่มากพอ ขณะที่สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นยังน่าห่วง บวกอีก 48 รายห่วง 2 คลัสเตอร์ศูนย์พักพังและโรงงานผลิตอุปกรณ์ทันตกรรม ที่บ้านเลื่อม ยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง

วันนี้ (14 ก.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุดร หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจ.อุดรธานี แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ในจ.อุดรธานี โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 48 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,442 ราย กลับบ้านแล้ว 709 ราย รักษาอยู่ 717 ราย ตอนนี้มีอยู่ 2 คลัสเตอร์โควิดที่น่าเป็นห่วง คือ คลัสเตอร์ศูนย์พักพิงผู้สูงอายุฯ ล่าสุดยอดผู้ติดโควิด เพิ่มเป็น 45 ราย และคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานผลิตอุปกรณ์ทันตกรรม ที่บ้านเลื่อม ผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 17 คน สำหรับคลัสเตอร์ศูนย์ดูแลพักพิงผู้สูงอายุ พบว่า มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดในกลุ่มเป็นก้อนนี้อยู่ 45 คน ถ้าแบ่งในกลุ่มนี้จะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องกันอยู่ 3 ส่วน ส่วนแรกจะเป็นส่วนผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงโรคความดันเบาหวาน ส่วนใหญ่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ซึ่งในกลุ่มนี้ติดเชื้อไปทั้งหมด 12 คน ในกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งก็มีผู้ดูแลทั้งหมด 14 คนด้วยกันเพราะมีการติดเชื้อไปทั้งหมด 9 คน กลุ่มสุดท้าย เป็นกลุ่มเป็นกลุ่มผู้ดูแลระบบที่เป็นทำงานแบบ ชั่วคราวที่มีอยู่ทั้งหมด 54 คน กลุ่มนี้ซึ่งเรียนจบแล้วก็มาทานที่จุดนี้การพักอาศัยอยู่หอพักอยู่ร่วมกันได้ก็มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 22 คนในกลุ่มนี้

จากการสอบสวนพบว่า คนแรกที่นำเชื้อเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งพบตามก็คือในรายที่ผู้ดูแลผู้ป่วยในรายที่ 1142 อายุ 21 ปี เป็นผู้ดูแลผู้ป่วย ตรวจสอบแล้วพบรายนี้มีสามีมีการเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 64 ที่ผ่านมา ตรวจสอบย้อนไปแล้วก็พบว่าเพื่อนในที่ทำงานมีการติดเชื้อด้วย ในรายนี้มาครั้งแรกที่เข้ามาแล้วก็กักตัวอยู่ที่บ้านร่วมกับภรรยาไม่ได้ออกไปไหน แต่ตรวจครั้งแรกไม่พบติดเชื้อแล้วก็กักตัวครบ 14 วัน เมื่อพบว่ามีผู้ป่วยเกิดขึ้นเหล่านี้ในการสอบสวนติดตามทั้งหมดแล้ว ก็นำมาตรวจอีกครั้งหนึ่งก็เพราะว่าเป็นผู้ติดเชื้อด้วย จากผลแล็ปพบว่าปริมาณเชื้อในร่างการมีน้อยมาก รายนี้น่าจะเป็นผู้นำเชื้อมาแพร่ทั้งหมด เพราะรายอื่นไม่ได้มีประวัติเดินทางออกไปไหน

ส่วนคลัสเตอร์ที่ 2 คือ โรงงานผลิตอุปกรณ์ทันตกรรมแห่งหนึ่งที่ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี มีพนักงานทั้งหมด 34 คน และตรวจครั้งแรกติดเชื้อ 8 คน ตอนนี้พบเชื้ออีกรวมเป็น 17 คน ส่วนต้นเหตุในการเกิดคลัสเตอร์นี้ เพราะว่าบิดาของผู้ติดเชื้อคนหนึ่งได้มีการตั้งวงดื่มเหล้ากันกับกลุ่มหนึ่งที่เป็นพนักงานที่อู่ซ่อมรถ ซึ่งมีพนักงานขับรถทัวร์สายอุดร-สกล และสายอุดร- กทม. พนักงานประจำอู่ ก็มีโอกาสที่จะมีได้รับเชื้อจากพนักงานขับรถทัวร์

นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี กล่าวถึงกรณีผู้เสียชีวิตของจังหวัดอุดธานี ติดเชื้อโควิด-19 แล้วเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นสาววัย 47 ปี จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าได้มีการฉีดวัคซีนยี่ห้อ “ซิโนแวก” ครบ 2 เข็มจริง โดยเข็มแรกฉีดเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 64 เข็ม 2 ฉีดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 64 โดยผู้เสียชีวิตคนนี้ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20-26 มิถุนายน 64 แล้วได้รับเชื้อที่กรุงเทพฯ และมาฉีดวัคซีนเข็ม 2 ในวันที่ 29 มิถุนายน ฉะนั้นมีคำถามว่า ทำไมมีการเสียชีวิตและรุนแรง ถ้าดูจากไทม์ไลน์แล้วก็ชัดเจนว่าฉีดเข็มแรกเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 64 เข็มที่ 2 ฉีกหลังจากได้รับเชื้อ ก็คือไปรับเชื้อในช่วงวันที่ 20 -26 มิถุนายน 64 ได้รับเชื้อแล้ว สาเหตุก็เพราะภูมิคุ้มกันที่ได้รับจากวัคซีนเข็ม 1 ไม่มากพอที่จะคุ้มกันจึงติดโรคได้ง่ายและป้องกันความรุนแรงยังไม่ได้ เมื่อมารับวัคซีนเข็ม 2 หลังจากรับเชื้อไปแล้วผู้ป่วยจึงมีอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้

สำหรับจำนวนการฉีดวัคซีนของจังหวัดอุดรธานี โดยมีเป้าหมายคือประชาชนทุกคน ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,163,713 คน และตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน - 14 กรกฎาคม 2564 จ.อุดรธานี ได้รับการจัดสรรวัคซีนและทำการฉีดไปแล้ว 2 ยี่ห้อ คือ AstraZeneca, Sinovac และซิโนฟาร์ม โดยเข็มที่ 1 ฉีดไปแล้ว 90,129 คน คิดเป็น 7.7% ของกลุ่มเป้าหมาย เข็มที่ 2 ฉีดไปแล้ว 33,701 คน คิดเป็น 2.9% ของกลุ่มเป้าหมาย

[micronz]

หัวหน้าทีมทดลองวัคซีนซิโนแวคในอินโดนีเซีย เสียชีวิต คาดติดโควิด

ไทยรัฐออนไลน์
9 ก.ค. 2564 03:05 น.
บันทึก
SHARE
หัวหน้าทีมทดลองวัคซีนซิโนแวคในอินโดนีเซีย เสียชีวิต คาดติดโควิด

ไทยรัฐออนไลน์


นักวิทยาศาสตร์หญิง ผู้นำการทดลองวัคซีนซิโนแวคในอินโดนีเซีย เสียชีวิตแล้ว โดยเชื่อว่าสาเหตุมาจากการติดเชื้อโควิด-19 ท่ามกลางข้อกังขาในประสิทธิภาพของวัคซีนจากจีนตัวนี้


สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ดร.โนฟิเลีย ชาฟรี บัคเตียร์ นักวิทยาศาสตร์หญิงจากบริษัทเภสัชกรรม ‘ไบโอฟาร์มา’ รัฐวิสาหกิจในอินโดนีเซีย และเป็นผู้นำการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของซิโนแวค เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันพุธที่ 7 ก.ค. 2564 โดยยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
ข่าวแนะนำ

• ผลวิจัยชี้ วัคซีนจอห์นสันฯ-ซิโนฟาร์ม ประสิทธิภาพลดลงเมื่อเจอโควิดเดลตา
• สื่อนอกชี้ไทยกำลังสู้โควิด ติดเชื้อพุ่ง ชาติเดียวในอาเซียนไม่ร่วมโคแวกซ์
• จอห์นสันตัดสินใจแปลก

อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นของอินโดนีเซียอย่าง คุมปาราน (Kumparan) ระบุว่า นางโนฟิเลียเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ส่วนสำนักข่าว ซินโดนิวส์ รายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ของบริษัท ไบโอฟาร์มา ว่า ร่างของนางโนฟิเลียเข้าพิธีฝังศพตามระเบียบที่ใช้ในช่วงการระบาดของโควิด-19

ด้านนาย เอริค โตเฮียร์ รัฐมนตรีกระทรวงรัฐวิสาหกิจ โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจผ่านอินสตาแกรม โดยระบุว่า การเสียชีวิตของนางโนฟิเลีย เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของไบโอฟาร์มา ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนซิโนแวคในอินโดนีเซีย แต่เขาไม่เปิดเผยว่าเธอเสียชีวิตด้วยสาเหตุใด

[micronz]

ข่าว 22 กค. 2564
ผู้นำจีนก็ยอมรับว่า mRNA เหนือกว่าซีโนฟาร์ม ข่าวไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/news/fore..._MP0O7I2UpQ-b4




เดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ จีนจะเริ่มผลิต “วัคซีน mRNA” เพื่อฉีดฟรีให้กับประชาชนจีนกว่า 1,400 ล้านคน เป็น “เข็มที่ 3” หลังจากที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ไปแล้ว เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จีนยอมรับว่า วัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพต่ำกว่า วัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา ของอเมริกา แต่ผู้นำจีนก็ไม่ดื้อรั้น ชีวิตของประชาชนสำคัญกว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์แล้ว จีนจึงไปจับมือกับ บริษัท BioNTech ของเยอรมนี ซึ่งผู้ร่วมคิดค้น วัคซีน mRNA ร่วมกับ บริษัทไฟเซอร์ ของสหรัฐฯเพื่อผลิตวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ mRNA มาฉีดให้กับคนจีน สร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นสู้กับไวรัสโควิด–19 กลายพันธุ์

ไม่มีการสร้างดราม่า “ด้อยค่าวัคซีน” แบบสังคมไทย เพราะข้อเท็จจริงสามารถพิสูจน์ได้ด้วย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่วาทกรรม


ข่าวแนะนำ

• สื่อนอกจับตาไทย หลังประกาศใช้วัคซีนผสมสูตร ซิโนแวค+แอสตราเซเนกา
  
  
  

• Premium Content
  
  เนื้อหาพิเศษสำหรับสมาชิกไทยรัฐออนไลน์เท่านั้น สมัครสมาชิก
• หมาก-คิม-ญาญ่า เรียกร้องวัคซีน mRNA ฟรีให้คนไทย หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
• เบื้องหลังวัคซีนแดนมังกร ไขคำตอบคนจีนฉีด “ซิโนฟาร์ม” หรือ “ซิโนแวค”กันแน่ ?
  
  
  

นายอู๋ ยี่ฟาง ประธานบริษัท โฟซัน ฟาร์มา (Fosun Pharma) เปิดเผยกับผู้ถือหุ้นที่นครเซี่ยงไฮ้วันที่ 14 ก.ค. ว่า บริษัทจะเริ่มทดลองผลิตวัคซีน mRNA ในประเทศภายในสิ้นเดือนสิงหาคม โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Cominaty เพื่อฉีดเป็น เข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ค. จีนฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 1,460 ล้านโดส เป็นวัคซีนเชื้อตาย ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ซึ่งทางการจีนยอมรับว่ามีประสิทธิภาพต่ำกว่าวัคซีน mRNA

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โฟซัน ฟาร์มา ได้เจรจาร่วมทุนกับ ไบโอเอนเทค ของเยอรมนี เพื่อตั้งโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ เป็นแห่งแรก

วัคซีน mRNA ของ ไบโอเอนเทค มีชื่อว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนตัวเดียวกับ วัคซีนไฟเซอร์–ไบโอเอนเทค ที่สองบริษัทนี้ร่วมกันคิดค้นขึ้น โฟซัน ฟาร์มา แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อต้นเดือน ก.ค. ว่า Fosun Pharma ได้จัดตั้งกิจการร่วมทุนกับ BioNTech โดยถือหุ้นฝ่ายละ 50% เพื่อผลิตและจำหน่ายวัคซีน mRNA จากจีน โดยมีกำลังการผลิต 1,000 ล้านโดสต่อปี และสามารถขยายกำลังการผลิตต่อเดือนได้อีก 100-200 ล้านโดส
การร่วมลงทุนครั้งนี้ โฟซัน ฟาร์มา ลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านเงินสดและโรงงานผลิต ส่วน BioNTech ลงทุนเท่ากัน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านเทคโนโลยีการผลิต กรรมสิทธิ์ ความรู้ และข้อค้นพบต่างๆของบริษัท สัญญาร่วมลงทุนมีอายุ 15 ปี ระหว่างทางอาจมีการขยายฐานความร่วมมือเพิ่มเติม เพื่อนำเทคโนโลยี mRNA ไปต่อยอด
ก่อนหน้านี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ โฟซัน ฟาร์มาซูติคัล กรุ๊ป บริษัทแม่ของ โฟซัน ฟาร์มา ก็ได้ นำเข้าวัคซีน mRNA จาก BioNTech 50 ล้านโดส และไบโอเอนเทครับปากว่า จะส่งวัคซีนให้จีนเพิ่มจนครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2021
เห็นไหมครับ จีนเขาดีลเรื่องการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ดีลเรื่องการจัดซื้อวัคซีน กันอย่างไร เทียบกับ ดีลการร่วมลงทุนผลิตวัคซีนของไทย ดีลการจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาลไทย ที่ ไม่รู้แม้กระทั่งเขาจะส่งวัคซีนให้เมื่อไหร่ เดือนละกี่โดส รู้อย่างเดียวเขาจะส่งวัคซีนให้ในปีนี้ แล้วก็ขายฝัน “วัคซีนทิพย์” กับประชาชน มิ.ย. 5 ล้านโดส ก.ค.-พ.ย. เดือนละ 10 ล้านโดส แล้วทำไอโอกระหน่ำคนที่เรียกร้องให้ซื้อวัคซีน mRNA มาแทนวัคซีนเชื้อตายที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า เป็นพวกด้อยค่าวัคซีน วันนี้จีนได้พิสูจน์ความจริงให้เห็นแล้ว
วัคซีน mRNA (messenger Ribonucleic Acid) เป็นสารตัดต่อพันธุกรรม เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย mRNA จะไปสั่งให้เซลล์ร่างกายผลิตโปรตีนส่วนที่เป็นหนามของไวรัสขึ้นมา โปรตีนที่ผลิตได้จะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Antigen) ในร่างกายให้รู้จักกับเชื้อไวรัสโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ขึ้นมา เพื่อกำจัดหนามโปรตีนออกไป เมื่อร่างกายเจอไวรัสโควิด-19 ของจริง ภูมิคุ้มกันก็จะจดจำเชื้อไวรัสได้และกำจัดมันทันที
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราต้องฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 3 เพื่อ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สู้กับ ไวรัสโควิด-19 สารพัดสายพันธุ์ อ่านจบแล้ว กระทรวงสาธารณสุข ควรรีบไปจองวัคซีน mRNA กับจีนโดยด่วนครับ ผมเชื่อว่าจีนจะผลิตออกมาขายแข่งกับอเมริกาแน่นอน.

[micronz]

mRNA ถล่มโลกเวอร์ชั่น 2.0 จะ final release เดือนตุลาคมแต่จะขายเมื่อไหร่ดูอีกทีครับ

ข่าวคราวจากไฟเซอร์ วัคซีนเวอร์ชั่น 2.0 มาได้เร็วกว่าวัคซีนเชื้อตายแน่ส่วน

ไวรัลเวคเตอร์ ต้องดูกันอีกที

เทคโนโลยี่ใหม่ mRNA..VER 2.0 กับไวรัสเดลต้า น่าจะได้ชมประสิทธิภาพ ระดับ 90*/* กับเดลต้า อัลฟ่า อีกครั้ง

ส่วนชาวไทย ขณะนี้คงต้องฉีดสูตรซูซ่า หมอยงไปก่อนนะครับอย่าช้า
รัฐต้องแก้ปัญหากระจายวัคซีนให้ทั่ว ตอนนี้ล่าช้า คนนอนตายข้างถนน ทุกวัน
-----------------------------

สรุปนะ วัคซีน โควิด 19 ver. 2.0 รองรับ เดลต้า อัลฟ่า ตัวอื่นๆๆที่ระบาด mRNA ด้วยเทคโนโลยี่
เร้วกว่า ทันสมัยกว่า เราจะได้เห้นก่อนเชื้อตายค่อนข้างได้เปรียบพอสมควร

[micronz]

'หมอมนูญ'ยืนยัน'ซิโนแวค'มีประสิทธิภาพ ลดป่วยหนัก-ตาย ดีกว่าไม่มีฉีด แต่ควรหยุดสั่งซื้อรุ่นปัจจุบัน


22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 09:13 น.




22 ก.ค.64- นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ว่า การให้วัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3 แก่บุคลากรการแพทย์ด่านหน้าและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคแล้ว 2 เข็ม มีความจำเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนซิโนแวคไม่มีประสิทธิภาพ

วัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายฉีดคนละ 2 เข็มตามที่มีการขึ้นทะเบียนไว้ ถึงแม้จะป้องกันการติดเชื้อและการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าได้น้อยกว่าวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ ในชีวิตจริง ซิโนแวคยังมีประสิทธิภาพลดการป่วยหนักและเสียชีวิต แม้ว่าจะไม่ถึง 100% แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ฉีดเลย

[THEFOOL]

เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
เสี่ยงกับวัคซีนน่าจะดีกว่านั่นแหละโอกาสของผลข้างเคียงก็ยังดีกว่าเป็นโควิดจังๆเป็นร้อยเท่า
รักษาตัวกันด้วยครับ

[THEFOOL]

ให้ข้อมูลเล็กน้อย..ไว้ประกอบการตัดสินใจ (อย่างมีสติ)
นะจ๊ะ...

[micronz]

ต้องดูตัวเลข ผู้ฉีดวัคซีน ด้วยนะจ้ะ
จีน บังคับฉีด ออกกฏละเมิดสิทธิมนุยชน
อเมริกา เสรีนิยม มีคนแอนตีั้วัคซีนไม่ยอม ฉีดเกิน 50*/* ทั้งที่มีวัคซีนเหลือเมื่อไม่ยอมฉีดตัวเลขเสียชีวิตย่อมมีมากเป้นธรรมดา
ดูตัวเลขแล้วจะสรุปประสิทธิภาพวัคซีน โดยไม่ดู ตัวเลขค่าประสิทธิภาพเลยอันนี้ไม่ใช่แน่ คนไม่ฉีดครึ่งประเทศจะติดโควิดตาย
เอาไปเทียบ กับคอมมิวนิสต์ ที่เค้าสามารถบังคับ ฉีดซึ่งอันนี้ละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่จีนทำได้ ตัวเลขคนตายเพราะวัคซีน
จีนไม่เคยมีอีก เมื่อบังคับ ฉีด ตัวเลขคนเสียชีวิตโควิดย่อมน้อยกว่า ประเทศที่ มี mRNA แต่ไม่ยอมฉีดจึงไม่ใช่เรือ่งแปลก
-----------------------------------------
ลองพิจารณาเปอร์เซ้นต์ผู้ฉีดวัคซีนของจีนเทียบกับ อเมริกาด้วยสิอย่าดูแต่ตัวเลขคนตาย
เพราะคนตายคือ ผู้ไม่ฉีดวัคซีนนะส่วนมากเหอะๆๆ ในอเมริกาและไม่ยอมฉีดทั้งที่อยากฉีดก็ได้ฉีด
ดังนั้นตัวเลขคนตายจึงไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพวั้คซีนเลย

พอไปดูสถิติ คนติดเชื้อโควิดทั้งทีฉีด สองเข้ม ผลเตะบอล นอกประเทศของซีโนแวค สุดท้่ายประเทศที่ฉีดย่อมดริ่ฟต์
หันมาใช้ไฟเซอร์ ไม่ใช่เรื่องแปลก เลย เดี่ยวเวอร์ชั่น 2.0 มาได้เห็น ประเทศเหล่านี้เท มาใช้ mRNA ได้อีกเยอะ

ลองดูประเทศที่ใช้ซีโนแวค ทัง บราซิล เอกวาดอร์ ลาว อินโด มาเลเซีย เวียดนาม ลาว

ยังหันมุ่งมาสัง ไฟเซอร์ mRNA ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

[micronz]

ลองดูอังกฤษ ดีกว่ามะ ไฟเซอร์ แอสตร้าเซนากร้า
ประเทศนี้ฉีดวัคซีนได้เยอะหน่อย
ติดโควิดแต่ตายโคตรต่ำ มาก

อังกฤษติดโควิดวันเดียวทะลุ 50,000 ราย ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน แต่ยอดเสียชีวิตยังอยู่ในหลักสิบ



โดย THE STANDARD TEAM

17.07.2021

• 2.6k

สหราชอาณาจักรรายงานจำนวนผู้ติดโควิดรายวันที่ 51,870 รายในวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 กรกฎาคม) ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มกราคมปีนี้ ขณะที่มีผู้เสียชีวิต 49 ราย ภายใน 28 วัน หลังทราบผลตรวจโควิดเป็นบวก

ก่อนหน้านี้ ศ.คริส วิตตี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการแพทย์ของอังกฤษ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นราว 2 เท่าทุกๆ 3 สัปดาห์ พร้อมกับเตือนว่า ตัวเลขผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจสูงจนน่ากลัว

ศ.วิตตี ยังกล่าวด้วยว่า สหราชอาณาจักรยังไม่พ้นจากอันตราย และประชาชนยังคงต้องดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ทางการเตรียมยกเลิกมาตรการเว้นระยะ***งทางสังคมในอังกฤษ เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคมนี้

ก่อนหน้านี้สถิติผู้ติดโควิดรายวันสูงสุดในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 68,053 รายในวันที่ 8 มกราคม

รัฐมนตรีสาธารณสุข ซาจิด จาวิด เตือนก่อนหน้านี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้ออาจสูงถึง 50,000 รายต่อวันภายในวันที่ 19 กรกฎาคม และอาจสูงถึง 100,000 รายในช่วงฤดูร้อน

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) เผยให้เห็นว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกในหลายพื้นที่ของสหราชอาณาจักร โดยตัวเลขล่าสุดจากการตรวจ Swab ในชุมชน พบว่า 1 คน ในทุก 95 คนในประเทศอังกฤษ ติดเชื้อ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1 คน ใน 160 คน เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า

ขณะที่ในสกอตแลนด์คาดว่ามีผู้ติดเชื้อ 1 คน ในทุกๆ 90 คน ส่วนในไอร์แลนด์เหนือ ตัวเลขอยู่ที่ 1 คน ใน 290 คน และเวลส์ 1 คน ใน 360 คน

และพบว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่เกือบทุกรายติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

ทั้งนี้ ประมาณการว่าประชากรมากกว่า 650,000 คน หรือ 1% ของประชากรในสหราชอาณาจักร จะมีผลตรวจโควิดเป็นบวกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 กรกฎาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 400,000 คนในสัปดาห์ก่อนหน้า

ONS ระบุว่า อัตราร้อยละของผู้ที่มีผลการตรวจโควิดเป็นบวกยังคงเพิ่มขึ้นในอังกฤษและสกอตแลนด์ ขณะที่ในเวลส์และไอร์แลนด์เหนือนั้นแนวโน้มไม่แน่นอน

ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ทำให้หลายคนต้องแยกกักตัว ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ ขาดแคลนพนักงาน

รายงานระบุว่า ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม ทางการได้ส่งการแจ้งเตือนเรื่องการแยกกักตัวมากกว่า 500,000 ครั้งไปยังผู้ที่ใช้แอปฯ NHS COVID-19 ในอังกฤษและเวลส์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 46% จากสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งนี้ จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปฯ ดังกล่าว เพื่อแจ้งให้บุคคลนั้นๆ ทราบว่าพวกเขาสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และควรแยกตัวเป็นเวลา 10 วัน

จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดโควิดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าในช่วงก่อนหน้านี้อย่างมาก เนื่องจากการฉีดวัคซีน

ตัวเลขล่าสุดระบุว่า ประชากรมากกว่า 46.1 ล้านคนในสหราชอาณาจักร หรือคิดเป็นผู้ใหญ่ 87.6% ได้รับวัคซีนโควิดเข็มแรกแล้ว ขณะที่ผู้ใหญ่มากกว่า 35.5 ล้านคน หรือ 67.5% ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดสแล้ว

จำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นจนทะลุ 50,000 คน มีขึ้นก่อนที่ทางการอังกฤษเตรียมยกเลิกการล็อกดาวน์ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เช่นเดียวกับในสกอตแลนด์ที่เตรียมผ่อนคลายมาตรการในวันเดียวกัน แต่ยังคงกฎข้อบังคับบางอย่าง เช่น การพบปะรวมกลุ่มกัน

ส่วนในเวลส์นั้นจะมีการผ่อนคลายข้อจำกัดเล็กน้อยในวันเสาร์นี้ ในขณะที่ข้อจำกัดส่วนใหญ่จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 7 สิงหาคมเป็นอย่างน้อย

สำหรับในไอร์แลนด์เหนือมีกำหนดยกเลิกการใช้ข้อจำกัดเพิ่มเติมในวันที่ 26 กรกฎาคม

ก่อนหน้านี้ ส.ส. ลูซี เฟรเซอร์ จากพรรคอนุรักษ์นิยม กล่าวว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มสูงขึ้น แต่หากไม่ปลดล็อกดาวน์ก็จะมีผลกระทบตามมาหลายประการ

อย่างไรก็ตาม เธอได้กล่าวกับ Sky News ในเวลาต่อมา

[micronz]

ให้ข้อมูลเล็กน้อย..ไว้ประกอบการตัดสินใจ (อย่างมีสติ)
นะจ๊ะ...

FAKE nEW นะสัง ไฟเซอร์ ไปฉีด ตั้งแต่ธันวาคม 2563 แล้วค้านประเทศจีนผสมฉีด mRNA
ไปด้วย ผมมีข่าวเค้าสัง ไฟเซอร์ 100 ล้านโดสเข้าไปตั้งแต่ธันวาคม 2563 แล้วนะจ้ะ

เค้า ฉีด sinofarm และ ไฟเซอร์ ก็ฉีดไปบางส่วนและ สิงหาคม ปูพรมอัพเข็มสามกับ ไฟเซอร์ ซ้ำอีก
ตามลิ้งค์ นี้อ่านดู
https://workpointtoday.com/china-fosun-biontech/

[micronz]

จีนสั่งวัคซีนโควิด-19 ล่วงหน้าจาก BioNTech 100 ล้านโดส โดยไม่ผ่าน Pfizer

ข่าวต่างประเทศ

workpointTODAY | Writer

16 ธ.ค. 2563




ADVERTISEMENT




บริษัทยาของจีนรายงานการสั่งซื้อวัคซีนของไบโอเอ็นเทค เพื่อนำมาใช้งานเพิ่มเติมจากวัคซีนที่ผลิตในประเทศ
วันที่ 16 ธ.ค. 2563 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานการยื่นเอกสารของ เซี่ยงไฮ้ โฟซุน ฟาร์มาซูติคอล กรุ๊ป (Shanghai Fosun Pharmaceutical Group) ต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยระบุว่าบริษัทสั่งซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นจำนวน 100 ล้านโดส
ADVERTISEMENT




โดยวัคซีนตัวที่สั่งซื้อนี้เป็นการพัฒนาร่วมกันระหว่าง ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ผู้พัฒนาวัคซีนสัญชาติเยอรมนี กับ ไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทยาสัญชาติสหรัฐฯ แต่ในเอกสารกลับไม่ได้ระบุว่าไฟเซอร์มีส่วนร่วมในข้อตกลง
ปัจจุบันรัฐบาลจีนยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้งานวัคซีนโควิด-19 ตัวนี้ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของโฟซุนที่ต้องนำข้อมูลไปยื่นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในลำดับถัดไป
การสั่งซื้อวัคซีนครั้งนี้เป็นแบบจ่ายเงินล่วงหน้าก่อนครึ่งหนึ่งภายในวันที่ 30 ธันวาคม และจะจ่ายส่วนที่เหลือเมื่อวัคซีนได้รับอนุมัติให้ใช้งานในจีน รวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 250 ล้านยูโร หรือราว 9,000 ล้านบาท โดยจะได้รับวัคซีนทั้งหมดภายในสิ้นปี 2564
ADVERTISEMENT




แม้ว่าบริษัทในจีนเองจะกำลังพัฒนาวัคซีนโควิด-19 และใกล้ที่จะได้รับอนุมัติให้ใช้งานในวงกว้างแล้ว แต่การที่จีนมีประชากรมากถึง 1,400 ล้านคน ทำให้ต้องการวัคซีนในปริมาณที่มากตามไปด้วย



Writer
workpointTODAY






podcast



li
สถานการณ์วิกฤต รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ออกหลักเกณฑ์การพิจารณาไม่ใส่ท่อช่วยหายใจผู้ป่วยโควิด-19
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


แชร์ว่อน กรมสารบรรณทหาร ส่งหนังสือสภากาชาดไทย ขอรับวัคซีน 'โมเดอร์นา'
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


สปสช. เผย Antigen Test Kit ตรวจแล้วกว่า 5 หมื่นราย ได้ผลดี เตรียมขยายให้ ปชช. ตรวจเอง
16 ธ.ค. 2563
COVID-19






กรมการแพทย์เตือนปวดคอเรื้อรัง ระวังโรคหมอนรองกระดูกคอทับเส้นประสาท

ในประเทศ


ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยาเผยโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท เกิดได้ทั้งกระดูกสันหลังที่คอและเอว ผู้ป่วยอาจจะมีอาการปวด ชา หรืออ่อนแรง แม้ในบางรายอาจจะไม่มีอาการรุนแรง แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน

วันที่16 ธ.ค.2563 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท นับเป็นอีกหนึ่งโรคที่สร้างความเจ็บปวดและทุกทรมานให้กับผู้ป่วย ซึ่งมักเกิดขึ้นกับกระดูกสันหลังบริเวณคอและเอว เนื่องจากเป็นกระดูกไขสันหลังส่วนที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด สาเหตุสำคัญคือ ความเสื่อมของกระดูกไขสันหลังและหมอนรองกระดูก ซึ่งจะพบในผู้สูงอายุเป็นหลัก แต่ในผู้ป่วยอายุน้อยที่มีการใช้งานของกระดูกสันหลังบริเวณดังกล่าวมากเกินไป หรือท่าทางในการใช้งานไม่ถูกต้อง เช่นการก้มยกของหนัก การออกกำลังกายแบบหักโหม การสั่นหรือโยกศีรษะมากเกินไป หรือความผิดปกติของหมอนรองกระดูกหรือกระดูกสันหลังแต่กำเนิด เป็นต้น ในรายที่มีอาการรุนแรง อาจจะพบว่ามีการกดที่บริเวณไขสันหลังร่วมด้วยได้ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนแรงหรือรุนแรงถึงขั้นอัมพาตได้

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา ระบุว่า อาการของโรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท โดยเฉพาะจากโรคกระดูกคอเสื่อม เมื่อเกิดขึ้นผู้ป่วยจะมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ บางครั้งจะมีอาการปวดร้าวไปที่บริเวณปลายนิ้วข้างใดข้างหนึ่งหรือเป็นทั้งสองข้างได้ และหากมีอาการกดเบียดมากขึ้นหรือรุนแรง อาจจะมีการกดประสาทไขสันหลัง ทำให้มีอาการปวดชาหรืออ่อนแรงของทั้งแขนและขาร่วมด้วยได้ เมื่อมีอาการต้องสงสัย ประสาทศัลยแพทย์ก็จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย และส่งตรวจเอกซเรย์เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและหาสาเหตุ เมื่อพบว่ามีการกดทับเส้นประสาทก็จะพิจารณาให้การรักษาไปตามสาเหตุและระดับความรุนแรง
ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยมีอาการไม่มากหรืออาการไม่รุนแรง อาจจะพิจารณาให้การรักษาด้วยยาบรรเทาอาการ พักผ่อน ลดการเคลื่อนไหวและการทำกายภาพบำบัด แต่หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ตรวจพบว่ามีการกัดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลังก็จะพิจารณาให้การรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันสถาบันประสาทวิทยา มีเทคนิคการผ่าตัดแบบส่องกล้อง และการผ่าตัดแบบเปิดแผลขนาดเล็ก ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยลง และสามารถฟื้นตัวกลับไปดำเนินชีวิตประจำวันหรือทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคระบบประสาทไขสันหลังดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการหรือสงสัยว่าจะเป็นโรคดังกล่าว สามารถเข้ารับการตรวจรักษาที่สถาบันประสาทวิทยา โดยศูนย์ความเป็นเลิศโรคระบบประสาทไขสันหลัง เปิดให้บริการทุกวันและเวลาราชการ



podcast



listen on
Spotify




listen on
Podbean




listen on
Youtube




listen on
Apple Podcasts





บทความที่เกี่ยวข้อง

แอสตร้าฯ ส่งจดหมายถึงคนไทย ยอมรับขาดแคลนวัตถุดิบ ส่งผลต่อการผลิตไม่แน่นอน คาดส่งให้ไทย 5-6 ล้านโดสต่อเดือน
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


นพ.ยง เผย ฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยไวรัลเวกเตอร์ ภูมิต้านทานสูงกว่าฉีด mRNA 2 เข็ม
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


อภ. ลงนามซื้อ-ขาย วัคซีน 'โมเดอร์นา' 5 ล้านโดส ทยอยเข้าไทยไตรมาส 4 ปีนี้
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


ราชกิจจาฯ ขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2 เดือน ระหว่าง 1 ส.ค.-30 ก.ย. 2564
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


นายกฯ ตรวจเยี่ยมการจัดตั้ง รพ.สนาม สโมสรกองทัพบก
16 ธ.ค. 2563
COVID-19


ราชวิทยาลัยฯ เปิดผลข้างเคียง หลังฉีด 'ซิโนฟาร์ม' พบ อาการไม่พึงประสงค์ 769 ราย
16 ธ.ค. 2563
COVID-19




กำลังโหลดบทความถัดไป...

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งาน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ อ่านเพิ่มเติม นโยบ