ชาว INTEL AMD NVIDIA ทุกท่านตกลงจะลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด กันไม้

[THEFOOL]

อ้าว

[micronz]

ข่าวหน้าที่ แล้วสังไฟเซอร์นำเข้า ไป 100 ล้่านโดส จากนั้นซื้อสิทธิ์ จาก เยอรมันมาผลิตต่อ
ผู้นำจีนก็ยอมรับว่า mRNA เหนือกว่าซีโนฟาร์ม ข่าวไทยรัฐ
https://www.thairath.co.th/news/fore..._MP0O7I2UpQ-b4

ผู้ผลิต mRNA ลิขสิทธิ์ ไบโอเทคเลยครับ จ้าวใหญ่แห่งเอเซีย 5555



เดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ จีนจะเริ่มผลิต “วัคซีน mRNA” เพื่อฉีดฟรีให้กับประชาชนจีนกว่า 1,400 ล้านคน เป็น “เข็มที่ 3” หลังจากที่ฉีดวัคซีนเชื้อตาย ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ไปแล้ว เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จีนยอมรับว่า วัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม มีประสิทธิภาพต่ำกว่า วัคซีนไฟเซอร์ โมเดอร์นา ของอเมริกา แต่ผู้นำจีนก็ไม่ดื้อรั้น ชีวิตของประชาชนสำคัญกว่า ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ก็พิสูจน์แล้ว จีนจึงไปจับมือกับ บริษัท BioNTech ของเยอรมนี ซึ่งผู้ร่วมคิดค้น วัคซีน mRNA ร่วมกับ บริษัทไฟเซอร์ ของสหรัฐฯเพื่อผลิตวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ mRNA มาฉีดให้กับคนจีน สร้างภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นสู้กับไวรัสโควิด–19 กลายพันธุ์

ไม่มีการสร้างดราม่า “ด้อยค่าวัคซีน” แบบสังคมไทย เพราะข้อเท็จจริงสามารถพิสูจน์ได้ด้วย ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่วาทกรรม


ข่าวแนะนำ

• สื่อนอกจับตาไทย หลังประกาศใช้วัคซีนผสมสูตร ซิโนแวค+แอสตราเซเนกา
  
  
  

• Premium Content
  
  เนื้อหาพิเศษสำหรับสมาชิกไทยรัฐออนไลน์เท่านั้น สมัครสมาชิก
• หมาก-คิม-ญาญ่า เรียกร้องวัคซีน mRNA ฟรีให้คนไทย หลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
• เบื้องหลังวัคซีนแดนมังกร ไขคำตอบคนจีนฉีด “ซิโนฟาร์ม” หรือ “ซิโนแวค”กันแน่ ?
  
  
  

นายอู๋ ยี่ฟาง ประธานบริษัท โฟซัน ฟาร์มา (Fosun Pharma) เปิดเผยกับผู้ถือหุ้นที่นครเซี่ยงไฮ้วันที่ 14 ก.ค. ว่า บริษัทจะเริ่มทดลองผลิตวัคซีน mRNA ในประเทศภายในสิ้นเดือนสิงหาคม โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า Cominaty เพื่อฉีดเป็น เข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3) ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ค. จีนฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 1,460 ล้านโดส เป็นวัคซีนเชื้อตาย ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ซึ่งทางการจีนยอมรับว่ามีประสิทธิภาพต่ำกว่าวัคซีน mRNA

เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โฟซัน ฟาร์มา ได้เจรจาร่วมทุนกับ ไบโอเอนเทค ของเยอรมนี เพื่อตั้งโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ เป็นแห่งแรก

วัคซีน mRNA ของ ไบโอเอนเทค มีชื่อว่า BNT162b2 เป็นวัคซีนตัวเดียวกับ วัคซีนไฟเซอร์–ไบโอเอนเทค ที่สองบริษัทนี้ร่วมกันคิดค้นขึ้น โฟซัน ฟาร์มา แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อต้นเดือน ก.ค. ว่า Fosun Pharma ได้จัดตั้งกิจการร่วมทุนกับ BioNTech โดยถือหุ้นฝ่ายละ 50% เพื่อผลิตและจำหน่ายวัคซีน mRNA จากจีน โดยมีกำลังการผลิต 1,000 ล้านโดสต่อปี และสามารถขยายกำลังการผลิตต่อเดือนได้อีก 100-200 ล้านโดส
การร่วมลงทุนครั้งนี้ โฟซัน ฟาร์มา ลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านเงินสดและโรงงานผลิต ส่วน BioNTech ลงทุนเท่ากัน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผ่านเทคโนโลยีการผลิต กรรมสิทธิ์ ความรู้ และข้อค้นพบต่างๆของบริษัท สัญญาร่วมลงทุนมีอายุ 15 ปี ระหว่างทางอาจมีการขยายฐานความร่วมมือเพิ่มเติม เพื่อนำเทคโนโลยี mRNA ไปต่อยอด
ก่อนหน้านี้ บริษัท เซี่ยงไฮ้ โฟซัน ฟาร์มาซูติคัล กรุ๊ป บริษัทแม่ของ โฟซัน ฟาร์มา ก็ได้ นำเข้าวัคซีน mRNA จาก BioNTech 50 ล้านโดส และไบโอเอนเทครับปากว่า จะส่งวัคซีนให้จีนเพิ่มจนครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2021
เห็นไหมครับ จีนเขาดีลเรื่องการจัดตั้งโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ดีลเรื่องการจัดซื้อวัคซีน กันอย่างไร เทียบกับ ดีลการร่วมลงทุนผลิตวัคซีนของไทย ดีลการจัดซื้อวัคซีนของรัฐบาลไทย ที่ ไม่รู้แม้กระทั่งเขาจะส่งวัคซีนให้เมื่อไหร่ เดือนละกี่โดส รู้อย่างเดียวเขาจะส่งวัคซีนให้ในปีนี้ แล้วก็ขายฝัน “วัคซีนทิพย์” กับประชาชน มิ.ย. 5 ล้านโดส ก.ค.-พ.ย. เดือนละ 10 ล้านโดส แล้วทำไอโอกระหน่ำคนที่เรียกร้องให้ซื้อวัคซีน mRNA มาแทนวัคซีนเชื้อตายที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่า เป็นพวกด้อยค่าวัคซีน วันนี้จีนได้พิสูจน์ความจริงให้เห็นแล้ว
วัคซีน mRNA (messenger Ribonucleic Acid) เป็นสารตัดต่อพันธุกรรม เมื่อฉีดเข้าไปในร่างกาย mRNA จะไปสั่งให้เซลล์ร่างกายผลิตโปรตีนส่วนที่เป็นหนามของไวรัสขึ้นมา โปรตีนที่ผลิตได้จะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Antigen) ในร่างกายให้รู้จักกับเชื้อไวรัสโควิด-19 และสร้างภูมิคุ้มกัน (Antibody) ขึ้นมา เพื่อกำจัดหนามโปรตีนออกไป เมื่อร่างกายเจอไวรัสโควิด-19 ของจริง ภูมิคุ้มกันก็จะจดจำเชื้อไวรัสได้และกำจัดมันทันที
นี่คือเหตุผลว่า ทำไมเราต้องฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มที่ 3 เพื่อ กระตุ้นภูมิคุ้มกัน สู้กับ ไวรัสโควิด-19 สารพัดสายพันธุ์ อ่านจบแล้ว กระทรวงสาธารณสุข ควรรีบไปจองวัคซีน mRNA กับจีนโดยด่วนครับ ผมเชื่อว่าจีนจะผลิตออกมาขายแข่งกับอเมริกาแน่นอน.

[micronz]

......

[micronz]

จับตา! "โฟซัน ฟาร์มา" จับมือ "บีออนเทค" ครองตลาดวัคซีน mRNA

19:32 | 16 กรกฎาคม 2564 | 854แบ่งปัน จีนเป็นอีกประเทศที่ร่วมมือกับบีออนเทคของเยอรมนี ในรูปแบบการจัดตั้งกิจการร่วมทุนขึ้นมาเพื่อผลิตวัคซีน mRNA และจำหน่ายมุ่งเป้าตลาดในประเทศเป็นหลัก โดยโรงงานที่เซี่ยงไฮ้ตั้งเป้ากำลังการผลิตถึงปีละ 1,000 ล้านโดส และอาจขยายการผลิตได้อีกเดือนละ 100-200 ล้านโดส

ชื่อของบริษัทเซี่ยงไฮ้ โฟซัน ฟาร์มาซูติคอล หรือโฟซัน ฟาร์มา เริ่มถูกพูดถึงมากขึ้นในเวลานี้ หลังวัคซีนที่พัฒนาโดยโฟซัน ฟาร์มา กับบีออนเทค ผ่านการตรวจสอบในชั้นคณะผู้เชี่ยวชาญของจีนเรียบร้อยแล้ว

โฟซัน ฟาร์มา มีบทบาทช่วยเจรจาขายวัคซีนให้บริษัทเอกชนไต้หวัน 2 เจ้า เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ก่อนที่บริษัททั้ง 2 แห่งจะนำวัคซีนไปมอบให้ไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความพยายามขัดขวางจากรัฐบาลจีน

รายละเอียดในข้อสัญญาระหว่างไฟเซอร์กับบีออนเทค ข้อความตอนหนึ่งระบุเอาไว้ว่า ไฟเซอร์มีสิทธิในเชิงพาณิชย์ทั่วโลก ยกเว้นจีน เยอรมนีและตุรกี

โดยเยอรมนีและตุรกี เป็นเพียง 2 ประเทศที่บีออนเทคขอสงวนสิทธิ์ทางการตลาดเอาไว้เอง ขณะเดียวกันได้ตั้งกิจการร่วมทุนกับโฟซัน ฟาร์มา เพื่อผลิตและจำหน่ายวัคซีน ชื่อ โคเมอร์นาตี เพราะฉะนั้นวัคซีนไฟเซอร์ บีออนเทค และโคเมอร์นาตี จึงหมายถึงวัคซีน mRNA ตัวเดียวกัน

ไฟเซอร์และบีออนเทค อาจรวมถึงบีออนเทค-โฟซัน เจวี คือชื่อของบริษัทและกิจการร่วมทุน ส่วน BNT162b2 คือชื่อรหัสของการวิจัยวัคซีน และโคเมอร์นาตี คือชื่อทางการค้า

สำหรับความร่วมมือระหว่างโฟซัน ฟาร์มา กับบีออนเทค ถือหุ้นในกิจการร่วมทุนกันฝ่ายละ 50% โดยบีออนเทคจะรับผิดชอบเรื่องความรู้เชิงปฏิบัติการในการผลิตวัคซีน ในขณะที่โฟซัน ฟาร์มาจะสนับสนุนด้านสถานที่ผลิตวัคซีน



สำหรับโรงงานของโฟซัน ฟาร์มาที่เซี่ยงไฮ้ จะเริ่มทดลองผลิตวัคซีนภายในประเทศ ในช่วงสิ้นเดือน ส.ค.นี้ โดย อู๋ ยี่ฟาง ประธานบริษัทโฟซัน ฟาร์มา เปิดเผยว่า โรงงานแห่งนี้ผลิตวัคซีนได้ 1,000 ล้านโดสต่อปี นอกจากนี้อาจขยายการผลิตได้อีกเดือนละประมาณ 100-200 ล้านโดส เพื่อป้อนตลาดในประเทศเป็นหลัก

เป้าหมายคือ การนำวัคซีน mRNA ตัวนี้มาใช้เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 หรือเข็มกระตุ้น สำหรับผู้ได้รับวัคซีนเชื้อตายครบแล้ว โดยโฟซัน ฟาร์มาจับมือกับรัฐบาลจีน ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนสลับชนิดด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อดูประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์

สิ่งที่น่าจับตามองต่อไปคือ อนาคตของโฟซัน ฟาร์มา ที่จะมีบทบาทในตลาดวัคซีนโลกในอนาคต ขณะที่บีออนเทคเตรียมตั้งโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ที่สิงคโปร์ เพื่อรองรับกับความต้องการวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ส่วนรัฐบาลเวียดนามก็พยายามติดต่อให้มีการตั้งโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ขึ้นในประเทศ เพื่อยึดหัวหาดในแถบอาเซียน


ถือหุ้น เยอรมัน จีน สองบริษัทสองสัญชาติ หุ้น คนละครึ่ง
แถมคลิปให้

[THEFOOL]

จีน เค้าจะผลิตขายจ้า 555+ แย่งส่วนแบ่งตลาดเพิ่มบ้าง อิอิ

[micronz]

ปลายปี ธันวาคม 2563 ผมลงข่าวหน้าที่แล้ว สั่งไฟเซอร์นำเข้ามาใช้ก่อนแล้ว 100 ล้านโดสในจีน
แต่สิงหาคมปีนี้ ฉีดอัพเข็มสามกับ โฟซัน ไฟเซอร์ ผลิตจีนเองเลย
---------------------------------------------------------------------------
ใช่ จีน มันก่ง นะ อย่าเรียกว่าแย่งส่วนแบ่งการตลาด คนจะตาย***หมด
เอาจริง การสัง่ ซีโนแวค นะตอนนี้ มีแน่ เพราะ หลายประเทศ ไปจอง mrna สัญญาปลายเปิดจ่ายเงิน
แต่ของ ไม่มีให้ ดังนั้น ปีนี้ เอาแค่เอเซีย อินโด มาเลย์ มีสั่ง ซีโนแวค อีกแน่นอน แต่เหตุผลต่างนะ
เค้าอยากได้ไฟเซอร์ แต่ของ ส่ง คิวยาวเป้นหางว่าวววววววว ก็ต้องกลับมาสั่ง ซีโนแวค แน่นอน


มีโรงงานโฟร์ซันในจีนนั้นแก้ปัญหา ขาดแคลน และช้า ที่ต้องซื้อกะ เมกา เยอรมันได้อย่างดีเลย
ปีหน้าหวังว่าได้ซื้อ ไฟเซอร์ โฟซันกะจีน

[THEFOOL]

ทั้งหมดละ ทั้ง ขายเองใช้เอง ไม่ต้องซื้อ จีนทำได้ทุกอย่าง ตอนนี้ต้องอวย เวลาผลิตขายขึ้นมาจะได้มีดูดี

[THEFOOL]

แต่เอาจริง ขึ้นมา ถ้าไทย ซื้อมาให้คนฉีด เดี๋ยวต้องมีคนร้อง แน่ ๆ 555+ ไม่ดีโน้นนี้ 55+ คอยดูได้เลย จากจีน บลา ๆ ๆ

[THEFOOL]

[THEFOOL]

เคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์ ท่ามกลางแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาและการกระจายข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับวัคซีน จนอัตราผู้เข้ารับวัคซีนชะลอตัว สถานการณ์ที่กำลังทำให้โรงพยาบาลกลับสู่ภาวะตึงเครียด แพทย์และพยาบาลอ่อนแรง

.

"เจ้าหน้าที่ของเรา พวกเขาผิดหวัง" คำกล่าวของ ชาด นีลเซน ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันเชื้อแห่งบูเอฟ เฮลท์ แจ็คสันวิลล์ โรงพยาบาลในรัฐฟลอริดา ซึ่งจำเป็นต้องยกเลิกการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วน หลังจำนวนผู้ป่วยในโควิด-19 ของโรงพยาบาล เพิ่มเป็น 134 ราย จากระดับต่ำสุด 16 รายในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

.

"พวกเขาเหนื่อยล้า พวกเขากำลังคิดว่านี่มันเป็นเรื่องเดจาวูอีกแล้ว มีอารมณ์โกรธบ้าง เพราะเรารู้ว่ามันเป็นสถานการณ์ที่สามารถป้องกันได้เป็นส่วนใหญ่ แต่ประชาชนไม่ฉวยประโยชน์จากวัคซีน" เขากล่าว

.

ทั่วทั้งสหรัฐฯ ค่าเฉลี่ย 7 วันของผู้ติดเชื้อใหม่รายวันในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด ขยับขึ้นไปแตะระดับ 37,000 คน ในวันอังคาร (20 ก.ค.) เพิ่มขึ้นจากระดับไม่ถึง 13,700 คน ในวันที่ 6 กรกฎาคม จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปกินส์ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวโทษตัวกลายพันธุ์เดลตาและอัตราการฉีดวัคซีนที่ชะลอตัว

.

จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ พบว่ามีอเมริกันชนเพียงแค่ 56.2% เท่านั้นที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 โดส

.

ในลุยเซียนา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 5,388 คน ในวันพุธ (21 ก.ค.) ถือเป็นจำนวนรายวันสูงที่สุดอันดับ 3 นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นปี 2020 ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เพิ่มเป็น 844 คน เพิ่มขึ้นมามากกว่า 600 ราย นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมิถุนายน

.

ยูทาห์ มีผู้ติดเชื้อที่ถึงขั้นต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 295 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ รัฐแห่งนี้มีค่าเฉลี่ยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 622 คนต่อวัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในช่วงต้นเดือนมิถุนายนถึง 3 เท่า ขณะที่ข้อมูลด้านสาธารณสุขพบว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ยังไม่ฉีดวัคซีน

.

ที่นิวยอร์ก ซิตี เจ้าหน้าที่ประจำโรงพยาบาลต่าง ๆ และคลินิกสุขภาพที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของเมือง จะถูกบังคับให้ฉีดวัคซีนหรือเข้ารับการตรวจเชื้อทุกสัปดาห์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังหาทางต่อสู้กับเคสติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น จากการเปิดเผยของนายกเทศมนตรีบิล เดอ บลาซิโอ ในวันพุธ (21 ก.ค.)

.

คำสั่งของเดอ บลาซิโอ จะไม่บังคับใช้กับครู ตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ของเมือง แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์มุ่งเน้นฉีดวัคซีนของทางเมือง ท่ามกลางการแพร่ระบาดหนักหน่วงขึ้นของตัวกลายพันธุ์เดลตา

.

จำนวนการฉีดวัคซีนรายงานของเมืองนิวยอร์ก ลดต่ำลงมาเหลือไม่ถึง 18,000 เข็มต่อวัน จากระดับสูงสุดมากกว่า 100,000 เข็มต่อวันในช่วงต้นเดือนเมษายน เวลานี้ประชากรวัยผู้ใหญ่เกือบ 65% ฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่อัตราการฉีดวัคซีนวัยผู้ใหญ่ที่เป็นประชากรผิวสีอายุต่ำกว่า 45 ปี มีเพียงแค่ราว ๆ 25% ทั้งนี้มันเป็นอัตราที่น่ากังวลพอสมควร เนื่องจากในบรรดาคนงานในระบบโรงพยาบาลรัฐของทางเมืองนั้น มีถึง 45% ที่เป็นคนผิวสี

.

ในขณะที่เคสผู้ติดเชื้อในนิวยอร์กซีตี เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ระบุว่าตัวกลายพันธุ์เดลตาคิดเป็นมากกว่า 70% ของผู้ติดเชื้อเหล่านั้นเลยทีเดียว "เราต้องการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเราฉีดวัคซีน มันกำลังอันตรายขึ้นจากตัวกลายพันธุ์เดลตา" เดอ บลาซิโอกล่าว

.

ย้อนกลับไปที่ลุยเซียนา มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่นิวออร์ลีนส์กำลังชั่งใจรื้อฟื้นข้อจำกัดบางอย่างเพื่อสกัดการแพร่ระบาด หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยกเลิกไป สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดซาลง "ทุกทางเลือกวางอยู่บนโต๊ะ" จากการเปิดเผยของโฆษกประจำเมือง

.

(ที่มา : เอพี)

https://mgronline.com/around/detail/9640000071547

[THEFOOL]

กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ผลข้างเคียงของจริงของ mRNA COVID vaccine

ผลการศึกษาศักยภาพของวัคซีนเทคโนโลยีใหม่ mRNA ในการป้องกันโรคโควิดนั้น ผลออกมาดีมากจนเรียกว่าแทบจะกลายเป็น Gold Standard ของวัคซีนโควิดไปแล้ว มีรายงานเรื่องผลข้างเคียงออกมาบ้าง แต่ก็ไม่หนักแน่นพอที่จะเลิกใช้วัคซีน ข่าวว่า mRNA จะเข้าไปเกิดกลายพันธุ์นั้น ไม่เป็นความจริง แต่กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ คือ ของจริง !!

ก่อนหน้านี้เราได้รู้จัก VITT ภาวะเกล็ดเลือดต่ำและลิ่มเลือดอุดตัน อันเกิดจากวัคซีนไวรัลเวกเตอร์มาแล้ว พอทราบกลไกและวิธีการรักษา แต่ว่า VITT ยังมีอุบัติการณ์การเกิดต่ำกว่าประชากรทั่วไป คือ ไม่รู้ว่า มันเกิดจากวัคซีนจริงแท้หรือจะเกิดเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงลิ่มเลือดดำอุดตันอยู่แล้ว

รายงานจากวารสาร Circulation (preprint) วารสารลงการศึกษาสรุปผลของนักวิจัยจาก Baylor College of Medicine เท็กซัส สหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอันเกิดจากวัคซีน mRNA กลไกที่อาจเป็นไปได้ การดำเนินโรคและการรักษา สิ่งที่พบคือ

อุบัติการณ์การเกิดกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ก่อนมีวัคซีนคือ 1 ต่อ 100,000 ประชากรต่อปี (อิสราเอล) และประมาณ 10 ต่อ 100,000 ประชากรต่อปีที่อเมริกา แต่หลังจากมีการฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรกลุ่มเดียวกัน ในอิสราเอลพบอุบัติการณ์ถึง 1 ต่อ 20,000 ราย มากกว่าปรกติ 5 เท่า (นี่ไม่ใช่เฉพาะคนรับวัคซีนนะ แต่ในประชากรโดยรวม)

CDC รายงานในกลุ่มประชากรอายุ 12-39 ปี ที่รับวัคซีน mRNA มีรายงานการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมากกว่า ประชากรกลุ่มเดียวกันที่ยังไม่ได้วัคซีนหรือรับวัคซีนยี่ห้ออื่น ถึง 10 เท่า

รายงานในหน่วยงานทหารของอเมริกา 23 คนจากการฉีด 2.8 ล้านเข็ม

แสดงว่าวัคซีน ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจริง พบมากกว่าความชุกของโรคในประชากรปกติก่อนรับวัคซีน กลไกการเกิดเชื่อว่าอาจจะไปกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อตัวเอง และเกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ

แต่ว่าโอกาสการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ "จากการป่วยด้วยโรคโควิด" อยู่ที่ประมาณ 20-30% ทีเดียว ส่วนจากการฉีดวัคซีนแค่ 0.005% ต่างกันกี่เท่าก็ลองคำนวณดูนะครับ ด้วยตัวเลขนี้ เป็นที่ยืนยันว่าแม้ผลแทรกซ้อนกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะเป็นของจริง แต่โอกาสเกิดต่ำ ต่ำกว่าหัวใจอักเสบจากโควิด และประโยชน์มากกว่าโทษแบบไม่เห็นฝุ่น

แล้วใครที่จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ จากตัวเลขที่รวบรวมคือ ส่วนมากเป็นผู้ชาย อายุไม่มาก ไม่เกิน 30-40 ปี โดยไม่จำเป็นต้องมีโรคหัวใจเลย และมักเกิดกับเข็มสองมากกว่าเข็มแรก

อาการที่พบ มีอาการเจ็บแน่นหน้าอกถึง 86% ก็จะคล้ายกับแน่นหน้าอกจากหลอดเลือดหัวใจตีบครับ สองโรคนี้ต้องวินิจฉัยแยกโรคกันอยู่แล้ว มีคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่ผิดปกติ เอนไซม์ที่บ่งชี้การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจสูงขึ้น (สูงสุดที่ประมาณวันที่สามหลังฉีด) ตรวจคลื่นเสียงหัวใจพบผิดปกติได้ถึง 40% ตรวจเอ็มอาร์ไอพบผิดปกติได้ ทั้งหมดที่ผมเขียนมาก็คือสิ่งที่พบในการวินิจฉัย กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบนั่นเอง

นั่นคือ ถ้าไปฉีดวัคซีน mRNA มาและมีอาการแน่นหน้าอกเหมือนโรคหัวใจ นอกจากโรคที่เราต้องแยกตามปรกติ ยังต้องคิดถึงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีนด้วย และแน่นอนแยกจากการติดเชื้อโควิดและสารพัดไวรัสที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบอีกด้วย

เอาล่ะ แล้วถ้ายืนยันว่าไม่มีเหตุอื่น หัวใจอักเสบนี้เกิดจากวัคซีน mRNA แน่นอน จะอันตรายไหม คำตอบคือ ไม่เลย แม้จะพบมากการเกิดโรคมากขึ้น มากกว่าก่อนการมาของวัคซีน แต่ผู้ที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากวัคซีน เกือบทั้งหมดหายเป็นปรกติ ภายในเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ มีส่วนน้อยมาก น้อยมาก ๆ ที่จะต้องรักษาต่อเนื่องยาวกว่าทั่วไปและให้ยาแบบโรคหัวใจล้มเหลว

การรักษาก็ให้ยาต้านการอักเสบ ประคับประคองอาการ ติดตามการทำงานของหัวใจ ในรายที่การบีบตัวหัวใจไม่ดีอาจต้องให้ยาช่วยเรื่องหัวใจล้มเหลว มีรายงานไม่กี่คนที่ต้องใช้ immunoglobulins เพื่อรักษา แต่ผลลัพธ์ก็ดี ทั้งหมดนี้ยังไม่มีแนวทางการรักษาอันเป็นที่ยอมรับแบบทั่วไป เพราะปริมาณที่เกิดและปริมาณผู้ป่วยน้อย เป็นโรคใหม่ที่ยังไม่มีการวิจัยมากนัก ยังต้องรอการศึกษาต่อไป

แต่วันนี้ก็บอกได้ว่า mRNA มีโอกาสเกิดกล้ามเนี้อหัวใจอักเสบจริง เกิดไม่บ่อยและไม่รุนแรง หายเองได้หรือให้การรักษาประคับประคอง ประโยชน์ของวัคซีนยังมากกว่าโทษจากวัคซีน และมากกว่าการไม่ฉีดวัคซีน

ขอบคุณอาจารย์วัยซิ่งปริศนาท่านหนึ่ง ที่เอื้อเฟื้อวารสารต้นฉบับครับ



ที่มา https://www.facebook.com/medicine4la...6026203380060/

[THEFOOL]

[MajesticX]

อันที่จริง ผมไม่ได้ด่าวัคซีนจีนนะครับ แต่เจาะจงไปที่ SV โดยเฉพาะ เพราะมันห่วยเกินไป ได้ Sinopharm ยังดีกว่า อีกอย่าง จีนใช้ SV ไม่ใช่ทั้งหมดของวัคซีนที่ฉีดในประเทศ ตัวหลักเป็น Sinopharm และSV ส่วนในกลุ่มคนมีฐานะจะเป็น mRNA บ้าง(น่าจะ Pfizer แหละนะ) เพื่อนผมคนจีนที่ทำงานด้วยกันบอกมา
แล้วมีข่้อมูล อันนี้ไม่ฟันธงนะครับ แค่ได้ฟังมาเลยมาเล่าให้ฟัง ว่า SV มีฐานการผลิตสองที่สำหรับใช้ในประเทศ และส่งออก โดย 40% ใช้ในประเทศ และ 60% ส่งออกโดยทั้งสองที่เป็นคนละแลปและคนละโรงงานกัน

[sUmmOnEr]

เก็บไว้ให้พ่อมรึงฉีด..

[sUmmOnEr]

นารากร ติยายน