Announcement

Collapse
No announcement yet.

++ บทสรุป Dragon Age Origins Walkthrough ++

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • แนวทางการเล่น Arcane Warrior เมื่อ Str ถูกคำนวนโดยใช้ Magic(Spoil Warning)

    หมายเหตุ บทความนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล จงอย่างเชื่อ ขอให้ไปลองเอง

    ทักทายกันก่อน
    ___ผมนั่งนึกอยู่ 2 วันว่าจะเขียนบทความอันนี้ดีหรือปล่าว เนื่องจากเกมส์นี้ก็ออกมานานแล้ว หลายคนก็จบกันไปคนละหลายรอบแล้ว แต่ก็คิดว่าด้วยความดีของเกมส์ บวกกับการได้เป็นเกมส์แห่งปีของ IGN เชื่อว่ายังมีนักเล่นอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่เคยได้ลิ้มลองเกมส์นี้ เลยตกลงใจที่จะเขียนขึ้นมา

    ทำไมต้อง Arcane Warrior
    ___เกมมส์ Dragon Age:Origins นี้แบ่ง Class ออกเป็น 3 Class แต่ละ Class มี Specializations(ต่อจากนี้ขอเรียก Spec) ให้เลือกอีก 4 ชนิดโดยเลือกใช้ได้ 2 ชนิด หลังจาก 2 รอบแรกที่ผมได้เล่น Warrior(จากนี้จะขอเรียกว่า War) และ Rogue ก็ตกลงใจว่ารอบนี้จะเล่น Mage
    ___หลักจากการเล่น 2 รอบแรก ผมก็ได้สัมผัส Mage 2 คนที่รวมคณะ คือน้อง Mory และป้า Wynne ทั้ง 2 คนนี้มี Spec ติดตัวที่ต่างกัน กล่าวคือ Shapeshifter และ Spirit Healer ตามลำดับ พบว่าทั้งสอง spec น่าสนใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ในเมื่อมี Spec เหล่านี้ให้ใช้แล้ว จะสร้างมาอีกทำไม จึงมองไปที่ Spec ที่เหลือ นั่นก็คือ นักเวทย์ฝ่ายมืดผู้ใช้ เลือด แทน mana กับ นักเวทย์โหด ผู้แปลงพลังเวทย์เป็นความแข็งแกร่ง

    ___จากที่ได้อ่านกระทู้ ทั้ง Web นอกและ Web ใน ส่วนของ Blood Mage นั้นค่อนข้างเป็นไปในทางเดียวกัน คือโหด ลื่นไหล ใช้เวทย์ได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องอาศัยการความคุมที่ดี แต่มีความเห็นที่แตกต่างกันในส่วนของ Arcane War หลายคนบอกว่าอ่อน บางคนบอกว่าเทพ อย่ากระนั้นเลย วัยรุ่นต้องลอง
    ___และหลังจากที่ได้ลองแล้วก็พบว่า นี่เป็นอีก Spec หนึ่งนี่เล่นสนุก เป็นลูกผสมของ War และ Mage อาจจะไม่ดีสุดโต่งทั้ง 2 ด้าน แต่ก็ดีพอที่จะเล่นได้ทั้ง 2 ด้านแบบไม่เสียอารมณ์ และผมถือว่านี้เป็น Spec ที่แปลกแตกต่างที่สุดของสาย Mage เลยทีเดียว

    ชีวิตเมื่อเริ่มต้น
    ___"ข้าคือ Mage" แน่นอน 6 Lv แรกวิถีชีวิตของเราไม่ต่างไปจาก Mage อื่นๆ ข้อแนะนำเพียงอย่างเดียวของช่วงนี้คือ "จงใช้ Point ทุกชนิดอย่างประหยัด" เพราะกว่าเราจะรู้ตัวจริงๆว่าเราต้องการอะไร ก็ต่อเมื่อได้เป็น Arcane War ไปแล้ว ใส่ Attributes เท่าที่จำเป็นในการใช้เวทย์หรือของอื่นๆ
    *ผมพบว่า แม้จะเล่นในระดับ Nightmare เราก็สามารถผ่านช่วงแรกของเกมส์จนจบสงครามที่ Ostagar ได้โดยอาศัยแค่เวทย์ 3 ชนิดได้แก่ Arcane Bolt / Paralyze และ Heal

    ปลดล็อค Arcane War
    ___หากเป็นการเล่นรอบแรก หรือท่านที่ยังไม่ได้ปลดล็อค Spec นี้ หลักจากจบศึกที่ Ostagar คุณจำเป็นที่จะต้องตรงไปป่าของเหล่า Elf นั้นคือป่า Mirkwood...คนละเรื่องแล้ว เอาใหม่ นั้นคือป่า Dalish ของพวก Elf ป่า เพื่อรับเควส Nature of the Beast ของฝ่าย Elf แล้วมุ่งไปยัง Lower Ruins เพื่อปลดปล่อยวิญญาณของ Elven Arcane warrior ใน Phylactery ผู้ถูกจองจำมานับร้อยปี แล้วอย่าลืมขอความรู้เพื่อปลดล็อคเป็นรางวัลละ



    Attributes
    Str - ลืมมันได้เลยทั้งในฐานะ Mage และในฐานะ Arcane War คุณไม่จำเป็นจะต้องใช้มัน มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
    Dex - เพื่อถือและมีผลต่อความแรงของอาวุธ"แทง" เพิ่มอัตราการหลบหลีก และความแม่นยำของอาวุธทุกชนิด
    เราอาจต้องใช้ Dex เมื่อรู้สึกว่าฟันศัตรูไม่ค่อยโดน ส่วนเรื่องการหลบหลีกผมถือเป็นของแถม แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งทุ่ม point ลงไป ถ้ายังไม่ใช้ Spell และ Talent ของเพื่อนๆให้ได้ประโยชน์สูงสุด(ติดตามในส่วนของ spell)
    Willpower - ทุก 1 แต้มจะเพิ่ม mana ให้ 5 หน่วย ส่งผลโดยตรงกับจำนวนและความถี่ที่จะใช้เวทย์
    แต่เดี๋ยวก่อนถ้าคุณคิดจะเลือก Blood mage เป็น Spec ที่ 2 แล้วละก็ mana ก็คงไม่ใช่ของจำเป็นเท่าไหร่นัก เอาแค่พอใช้แต่ก็ต้องลง point ไปบ้างเพราะกว่า Spec 2 จะมาก็ปาเข้าไป lv 14 ส่วนเท่าไหร่ถึงจะพอผมคงบอกไม่ได้ คงต้องถามตัวคุณเอง
    Magic - นี่คือแทบทั้งชีวิตของคุณ เมื่อคุณคือ Arcane war Magic จะเป็นทั้งพลังเวทย์มีผลโดยตรงต่อความแรงและระยะเวลาของเวทย์ที่ใช้ และเมื่อมันถูกคำนวนเป็น Str จึงมีผลโดยตรงต่ออาวุธประชิดทุกชนิดยกเว้นมีดสั้น(เป็นอาวุธแทง ใช้ Dex คำนวน) ความสามารถในการใส่เกราะหนักและความสามารถในการถืออาวุธ แล้วคุณจะพบว่า คุณสามารถใส่เกราะได้ทุกชนิด
    ข่าวด่วน Arcane War ใช้ Magic คำนวนแทน Str ในทุกสถานะการ นั้นแปลว่า มันถูกนำไปคำนวนเมื่อคุณ"ข่มขู่"(intimidation) ด้วยเช่นกัน
    Cunning - เกือบไร้ประโยชน์ ปล่อยให้ Rogue ประจำทีมอัพไปจะดีกว่า 16 แต้มเพื่อ Coercion ขั้น Master น่าจะเพียงพอ
    Cons - ทุก 1 แต้มจะเพิ่มเลือดให้คุณ 5 หน่วย เราคงต้องลงใช้ส่วนนี้บ้างเพื่อไม่ให้ Arcane War ของเรานิ่มเกินไป
    และเช่นกัน ถ้าวางแผนจะเป็น Blood mage นี่คงเป็น Attribute ที่ 2 ที่จะลงทุนให้มัน


    Skill เนื่องจาก Mage จะได้ skill point ทุกๆ 3 lv เราจึงไม่ค่อยมีแต้มให้ลงนัก ผมจะขอกล่าวสั้นก็แล้วกัน
    Coercion-เพิ่มทางเลือกสนทนา อัพให้เต็มถ้าต้องการบทพูดที่หลากหลาย และประโยชน์จากเควสที่มากกว่า แต่ต่อให้ไม่อัพเลย คุณก็จบเกมส์นี้ได้
    Stealing-ลักเล็กขโมยน้อย ลืมมันไปซะ ถ้า Rogue ในทีมแต้มเหลือจะอัพก็แล้วแต่
    Trap-Making-สร้างและดักจับกับดัก มีประโยชน์ แต่ให้คนอื่นอัพแทนก็ไม่เสียหาย
    Survival-ดักจับศัตรูที่หายตัวและ"รู้สึก"ถึงศัตรูที่อยู่ไกลออกไป เพิ่ม Nature Resistance มีประโยชน์ แต่ก็อีกละเพื่อนยังว่างอยู่หรือปล่าว
    Herbalism-ปรุงยา มีประโยชอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนเองจะให้ป้า หรือน้อง mory อัพแทนก็ได้ พวกนั้นเค้ามี skill เบื่องต้นมาแล้ว
    Poison-Making-สร้างและใช้พิษ ในหลายสถานะการการใช้พิษอาจช่วยให้อะไรง่ายขึ้น เรียนขั้นต้นเพื่อสามารถใช้พิษได้ทุกชนิด ที่เหลือให้เกย์ประจำทีมฝึกให้จะแจ่มกว่า
    Combat Training-ช่วยให้รับ damage ได้มากขึ้นก่อนที่จะถูกยกเลิกการร่ายเวทย์(interrupts) และในขั้น 2 ช่วยเพิ่มอัตราการฝื้น Mana ถ้าไม่ยื่นร่ายเวทย์ใหญ่กลางดงติงก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ เรียน 2 ชั้นเพื่อ mana regeneration ก็พอไหว
    Combat Tactics-เพิ่ม tactics slot เกือบไร้ประโยชน์ถ้าเราคุมตัวเราเอง ถ้า point เหลือ ใส่ไว้ซักแต้มสองแต้มก็แล้วแต่ชอบ

    อาวุธประจำกาย
    อันที่จริงส่วนนี้น่าจะอยู่หลังจากเรื่องของเวทย์ แต่ผมคิดว่าเรื่องเวทย์คงต้องร่ายกันยาว เลยยกส่วนนี้มาเขียนก่อน
    เนื่องจาก Arcrane War นำ Magic มาคำนวนแทน Str ทำให้เราสามารถถืออาวธได้แทบทุกชนิดจะยกเว้นแค่ มีดสั้น และ ธนู ที่ใช้ Dex ในการถือและคำนวนความแรง ผมจึงขอตัดอาวุธทั้งสองอย่างนั้นทิ้งไปก่อน

    ดาบใหญ่-ขวานยักษ์ (Two-Hand Weapon)Strength modifier 1.1 ในที่นี้คือ Magic modifier นั้นแปลว่า ยิ่ง magic สูงตัวคูณความแรงก็ทำให้ Damage สูงขึ้นด้วย แต่ด้วยอัตราการโจมตีที่ช้า และ Arcane War ก็ไม่แน้นความแม่นยำนัก ถ้าวึดบ่อยๆก็แลดูจะปล่าวประโยชน์ และเมื่อไม่มี Talent ทดแทนข้อเสียเหมือนพวก Warrior แท้ๆเค้ามีกัน จุดอ่อนจุดนี้เลยยิ่งเด่นชัด นอกเสียจากรักจะเล่นสายนี้จริงๆ คงต้องแบ่ง Attribute ไปลง Dex ให้มากขึ้น
    อาวุธมือเดียว ใช้ง่าย มีหลายเล่มให้เลือกใช้ในเกมส์ ด้วยอัตราการโจมตีที่ดีกว่าก็ดูเหมือนจะเหมาะกว่า ยิ่งถ้ามี enchants ด้วยแล้วจะยิ่งเห็นผลว่า ถี่กว่า ย่อมดีกว่า
    ดาบ+โล่ เหมือนข้างบน ในเมื่อมือยังว่างถือโล่ไว้อุ่นใจกว่า เพิ่มการหลบหลีกและกันธนู"นิดหน่อย" แถมด้วย option ที่มากับโล่ ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
    ดาบ+มีด ข้อดีคือจำนวนการโจมตีที่เพิ่มขึ้นต่อรอบ ถ้าอาวุธผ่านการ enchants มาทั้ง 2 ชิ้นไม่ว่าจะด้วยเวทย์หรือด้วย Rune ก็จะส่งผลเพิ่ม แต่ข้อเสียคือเมื่อไม่มี Talent การถืออาวุธ 2 มือจะโดนหัก Damage ออกไปส่วนหนึ่ง และมีดสั้นยังอาศัย Dex ในการถือ ทำให้ไม่สามารภถือมีดสั้นระดับสูงได้ ถ้าอยากถือจริงๆก็ต้องเสีย Attribute ไปมาก ซึ่งแลดูจะไม่คุ้มนัก
    ไม้เท้าเวท จริงอยู่ชาติกำเนิดเราคือ mage แต่ผมไม่คิดว่าเราจะเหมาะกับไม้เท้าอีกต่อไป เพราะ Damage ที่ได้จากไม้เท้านั้นเทียบไม่ได้เลยกับอาวุธประชิด ขอดีข้อเดียวที่คุณยังควรพกมันอยู่คือ มันไม่มีวันพลาดเป้า หรือคุณอาจเอาไว้ยิงสวนพวกนักธนูที่ชอบยืนบนที่สูง สลับกับการยิงเวทย์ถ้าขี้เกียจวิ่งขึ้นไปหวด(กลับมารับบท mage ตามเดิม) และพวกมอนกึ่งบอสทั้งหลายที่หวดโดนยากเหลือเกิน พกไว้ซักอันกันเหนียวก็ดี
    สรุป ผมคิดว่าถือดาบมือเดียวเป็นอาวุธหลักจะใช้โล่หรือมีดสั้น(ระดับต่ำ)ขึ้นอยู่กับสถานะการ และมีไม้เท้าไว้ซักอันที่อาวุธ set ที่ 2 น่าจะลงตัว

    ชุดเกราะ
    ในส่วนนี้ผมก็คงไม่เขียนอะไรมากอีกเช่นกัน แค่ต้องการจะย้ำอีกครั้งว่า คุณสามารถใช้ชุดเกราะได้ทุกชนิดในเกมส์ ตั้งแต่เสื้อคลุมเวทย์จนไปถึง Massive Armor แล้วแต่ละอย่างต่างกันอย่างไร
    ต่างกันที่ค่า Fatigue ผมเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนเล่นเกมส์นี้ทั้งๆที่ยังไม่เข้าใจถึงค่า Fatigue ถ้าแปลตรงๆก็จะแปลว่า "ความเหนื่อยล้า" "ความอ่อนเพลีย"
    มีผลอย่างไร ยิ่งค่านี้มากเท่าไหร่ เราก็ต้องใช้ mana หรือ Stamina เพิ่มขึ้นเท่านั้น โดยค่านี้จะแสดงเป็น % ตัวอย่างง่ายๆ
    ตัวอย่างที่ 1
    Arcane War ของเราใส่เกราะเบา Fatigue รวม 10% ร่าย Heal ใช้ mana ปรกติ 20 หน่วย ใช้เพิ่ม 10% = 22 หน่วย
    ตัวอย่างที่ 2
    Arcane War ของเราใส่เกราะหนัก เปิด Combat Magic Fatigue รวม 80% ร่าย Heal ใช้ mana ปรกติ 20 หน่วย ใช้เพิ่ม 80% = 36 หน่วย
    ตัวอย่างที่ 3
    Arcane War ของเราใส่เกราะหนัก เปิด Combat Magic Fatigue รวม 80% ร่าย Blizzard ใช้ mana ปรกติ 70 หน่วย ใช้เพิ่ม 80% = 126 หน่วย
    อย่าเพิ่งตกใจ มันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด จะขอกล่าวในส่วนของ Spell และเทคนิคการควบคุม
    โปรดทราบ ค่า Fatigue ไม่นำไปคำนวนเมื่อเปิดใช้ Sustained เพราะการเปิดใช้ Sustained คือการดึง mana ออกไปจาก mana pool ไม่ใช่การใช้แบบ Activated หรือพูดอีกอย่างก็คือ ค่า Fatigue นำไปคิดเมื่อใช้ Spell หรือ Talent แบบ Activated เท่านั้น

    ที่ว่ามาเหมือนจะมีแต่ข้อเสีย ข้อดีละ เนื่องจากเกราะในเกมส์นี้มีเกราะ set อยู่หลาย set นั่นทำให้เราสามารถเลือกใช้ได้ในหลายๆสถานะการ เช่น
    Arcane War ของเราใส่เกราะ Wade's Superior Drakeskin Armor Set +70 Fire Resistance + Heroic Defense = 80%++ Fire Resistance
    ปรกติโดนมังกรพ้นไฟ เสีย Hp 70 หน่วย หัก Fire Resistance เหลือ 14 หน่วย
    แหล่ม
    หรือด้วยเกราะ Massive + Rock Armor รวม 35++ Armor เราก็เป็น Tank ยืนรับ Damage ได้ชิลๆ

    Spell
    Spell เป็นส่วนที่มีลายละเอียดมากส่วนหนึ่งของเกมส์ เพื่อให้ไม่บทความส่วนนี้ยาวเกินไป ผมจะกล่าวถึงเฉพาะเวทย์ที่เห็นว่าน่าสนใจสำหรับ Arcane War

    Arcane Warrior Spells มี 4 spell เหมือน Spec อื่นๆ และแน่นอน ควรค่าแก่การพูดถึงทั้ง 4 Spell
    Combat Magic - Sustained / Upkeep: 50 (ไม่บอกในเกมส์ แต่ถูกหักเมื่อใช้) / Fatigue: 50% / Cooldown: 10s
    - Spell ประจำ Spac ของ Arcane ไม่ว่าจะเปิดใช้หรือไม่ Mage ผู้มี spell นี้ติดตัวจะนำค่า Magic ไปคำนวนแทน Str เพื่อสวมใส่อาวุธและชุดเกราะ ด้วย spell นี้ จะทำให้ mage นิ่มๆคนเดิมกลายเป็น mage สารพัดประโยชน์ Arcane War จะสามารถสวมใส่ และถืออาวุธได้แทบทุกชนิดในเกมส์
    และเมื่อเปิดใช้ค่า Magic จะถูกนำไปแทน Str เพื่อคำนวนค่า Damage เท่านั้นยังไม่พอ ยังนำไปคำนวนเป็น Attack Bonus อีกด้วย นั้นหมายความว่านอกจากจะตีแรงขึ้น ยังตีแม่นขึ้นอีกด้วย
    Attack Bonus: 5.0 + (Spellpower / 5.0) / Damage Bonus:นำ Magic ไปคำนวนแทน Str
    Aura of Might - Passive Spell เสริมความสามารถของ Combat Magic เพิ่ม bonus ให้ค่า attack และ damage ให้มากขึ้น พร้อมของแถม + bonus ให้ค่า defense อีกต่างหาก
    Shimmering Shield - Sustained เกราะเวทย์ ที่ลดความเสียหายด้วยการเพิ่ม bonus armor และ resistances ทุกชนิดอีก 75 % ข้อเสียข้อเดียวคือมันจะกิน mana ไปเรื่อยๆจน mana คุณเหือดไปหมดหลอด แล้วเกราะนี้ก็จะหายไป ด้วย Spell นี้ คุณสามารถเป็น Tank ได้เลย
    Fade Shroud - Passive เมื่อ Combat Magic เปิดใช้ คุณจะอยู่ระหว่างโลกแห่งความจริงและ The Fade เพิ่มค่า mana regeneration และทำให้หลบการโจมตีได้ เป็น spell สุดท้ายที่เหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม แต่ผมก็คิดว่าไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่คุณจะไม่ฝึกมัน นอกเสียจากว่าคุณอยากได้ Point ไปอัพอย่างอื่นจริงๆ

    Primal เวทย์กลุ่มธาตุ เวทย์กลุ่มนี้ถือเป็นพื้นฐานของนักเวทย์สายโจมตี แต่ก็มีเวทย์สนับสนุนอยู่ด้วย
    Fire
    Flaming Weapons
    enchant อาวุธด้วยไฟ ใช้ได้ดีโดยเฉพาะกับพวก undead ทั้งหลาย ///
    Fireball โยนนำเข้าไป ได้ทั้งสร้าง Damage ล้ม และ Damage Overtime
    Earth
    Rock Armor
    Sustained ที่ช่วยเพิ่ม Armor ตลอดการใช้งาน ข้อที่ดีกว่า Shimmering Shield คือมันไม่ดูด mana ///
    Stonefist ข้อดีคือ ยิงไปที่ศัตรูที่ถูกแช่หรือทำเป็นหิน ตูมเดียวดับ (shattering)
    Cold
    Frost Weapons
    enchant อาวุธด้วยน้ำแข็ง แรงน้อยกว่าธาตุไฟ แต่ก็เอาไว้ใช้กับพวกกันไฟ หรือพวกปีศาจธาตุไฟได้เป็นอย่างดี ///
    Cone of Cold เวทย์แช่แข็งหมู่ ที่มีประโยชน์มาก ได้ทั้งรุกและรับในเวทย์เดียว สามารถผสมเพื่อทำ shattering ได้อีกด้วย ถือเป็นเวทย์ที่ขาดไม่ได้เลย ///
    Blizzard พายุหิมะลูกนี้ ผมแทบไม่เคยใช้มันเดี่ยวๆเลย เพราะนี้คือส่วนผสมของเวทย์ที่รุนแรงยาวนานที่สุดของเกมส์ "Storm of the Century"
    Electrical
    Tempest และแน่นอน นี่คือส่วนผสมของ "Storm of the Century"
    Chain Lightning เวทย์โจมตีหมู่ที่รุนแรงมากทีเดียว แรงโดยไม่ต้องผสม

    เวทย์กลุ่มธาตุนี้นับว่าขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมส์นี้ หรือแม้แต่เกมส์ RPG อื่นๆ แต่ ถ้าคุณมีนักเวทย์มากกว่า 1 คน ผมแนะนำว่า ยกหน้าที่ร่ายเวทย์กลุ่มนี้ให้เพื่อนคุณจะดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคุณมีน้อง Mory ข้างกายเป็นประจำ เธอมีเวทย์กลุ่มน้ำแข็งติดตัวถึง 2 ขั้น สายฟ้า 1 ขั้น แต่นั้นก็แล้วการจัดทีม style ของคุณเอง
    แจ้งให้ทราบ enchant ธาตุไฟ Flaming Weapons และ ธาตุน้ำแข็ง Frost Weapons ไม่สามารถทับกันได้ จึงเป็นการดีที่จะมอบหน้าที่เปิดใช้ 2 เวทย์นี้โดยนักเวทย์คนเดียวกัน แล้วเลือกเปิดตามสถานะการ
    Creation เวทย์กลุ่มสนับสนุน ผมขอกล่าวแค่สั้นๆในกลุ่มนี้ เพราะส่วนใหญ่ไม่มีอะไรซับซ้อนทั้งในส่วนตัวเวทย์เองละการใช้งาน
    Healing Spells ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเวทย์กลุ่มนี้ดี ขอสังเกตเดียวคือ ถ้านักเวทย์ของคุณพอจะมี Point มีเหลือ Heal และ Rejuvenate น่าจะมีติดตัวทุกคน(ไม่มีก็ไม่เสียหาย)
    Enhancement เวทย์กลุ่ม Buff ใช้งานได้ดีทุกเวทย์ ทั้งเสริมโจมตีและเสริมป้องกัน แต่ผมพบว่า กับศัตรูปรกติคุณแทบไม่จำเป็นต้องพึ่งมันเลย ถ้าคุณชอบไปไหนมาไหนกับป้า Wynne ให้ป้ารับภาระนี้จะดูเหมาะกว่า
    Glyph Spells คู่ควรแก่การกล่าวถึงที่สุดในกลุ่มนี้
    Glyph of Warding เพิ่มอัตราการหลบ missile attacks เพิ่ม mental resistance และที่พลาดไม่ได้ เพิ่ม bonus defense ให้ฝ่ายเราทุกคนที่อยู่ในวงอีก 30 แต้ม
    Glyph of Repulsion ผลักศัตรูที่เข้ามาในวงให้ล้มลงคือผลโดยตรง แต่ที่เด็ดคือ มันสามารถผสมกับ Glyph of Paralysis เพื่อสร้าง "ระเบิดนะจังงัง" Palalysis Explosion เป็นเวทย์ซื้อเวลาที่ช่วยได้มากทีเดียว(เด็ดดวงมาก ขอบอก)
    Glyph of Neutralization ภายใต้วงแหวงเวทย์นี้จะลบทุกอย่างที่เป็นเวทย์ ทั้งสถานะทุกชนิด Mana และ mana regeneration นี่ทำให้นักเวทย์ง่อยเปลี้ยเสียขากันเลยทีเดียว ข้อควรระวังอย่างยิ่ง ถ้าคุณคือ Arcane War คุณก็คือนักเวทย์ หากทะลึ่งวิ่งเข้าไปหวดศัตรูที่อยู่ในวงเวทย์นี้ คุณก็จะได้รับผลเช่นเดียวกัน
    Summoning Spells เวทย์กลุ่ม Summon นี้ผมว่าไม่เหมาะกับ Arcane War เท่าไหร่ Spell Wisp ช่วยเพิ่ม WillPower แลกกับ Upkeep 30 ถือว่าไม่มาก แต่ถ้าคุณไม่คิดจะร่ายเวทย์สายโจมตีบ่อยๆผมว่าไม่ค่อยเห็นผล Stinging Swarm ถือว่าโหดเอาเรื่อง แมลงพวกนี้จะเปลี่ยนเป้าหมายถ้าเป้าเก่าตาย แถมไม่กัดฝ่ายเรา แต่ทางผ่าน 2 Spell หาโอกาศใช้ได้น้อยและไม่ค่อยสะดวก แล้วแต่ชอบเลยครับ
    Spirit Spells
    Anti-Magic Spells กลุ่มป้องกันและลบล้างเวทย์ เวทย์กลุ่มนี้แน้นลบล้างผลของเวทย์ทั้ง Buff และ De-buff ความเห็นส่วนตัวถ้าไม่ได้ใช้บริการ Alistair ผมว่ามี Dispel Magic ติดไว้ก็อุ่นใจดี ส่วน Spell Shield ลืมมันไปเถอะ เรามีอะไรที่แจ่มกว่านั้นอยู่แล้ว
    Mana Alteration Spells กลุ่มเวทย์ที่เล่นกับ mana Spell Might ถือเป็นของจำเป็นหากต้องการใช้ "Storm of the Century" ส่วน Mana Clash ก็น่าสนใจไม่น้อย นอกจากจะลบ mana เป้าหมายแล้วยังกลายเป็น Spitir damage เป็นอีกเวทย์ที่เอาไว้จัดการกับพวกนักเวทย์ด้วยกัน
    Death Spells เวทย์กลุ่ม Necromencer ความรุนแรงของระเบิดศพทั้งหลายถือว่าน่าสนใจ แต่ปัญหาคือการควบคุมที่ลำบาก ทำให้ควานน่าใช้ลดลงไปมาก
    Telekinesis Spells เวทย์กลุ่มสุดท้ายของสาย Spirit Mind Blast ระเบิดจิตที่จะทำให้ศัตรูรอบๆ stun ไม่ยาวนานนัก แต่ก็นานพอจะพาตัวเองออกจากสถานะการณ์รุมกินโต๊ะ ถือเป็นเวทย์เอาตัวรอดที่ไม่น่าพลาด Telekinetic Weapons enchant ที่เพิ่มพลังทำลายเกราะ armor penetration เอาไว้ซัดพวกเกราะหนาดีนักแล Crushing Prison หยุดการเคลื่อนไหวพร้อม spirit damage เป็นอีกเวทย์ที่น่าสนใจ
    Entropy เวทย์กลุ่มสุดท้าย ที่แน้นไปในทาง De-buff
    Debilitation Spells
    Weakness ลด attack และ defense แถมด้วยการเคลื่อนที่ที่ช้าลง ทำให้ศัตรูพลาดบ่อยขึ้น ในขณะที่เราพลาดน้อยลง ช่วยแก้ที่บอกว่านักเวทย์วึดบ่อยได้อย่างดี
    Paralyze หยุดการเคลื่อนไหวศัตรู 1 ตัว ใช้ได้ดียันจบเกมส์
    Miasma นี่คือ Sustained ที่ผมเปิดเกือบตลอดทั้งเกมส์ มันคือ Aura of Weakness ศัตรูที่เข้ามาในรัศมี ถ้าความต้านทานไม่สูงพอจะติด Weakness โดยทันที และจะไม่หายจนกว่าจะออกจากรัศมี
    Mass Paralysis ตรงตัวตามชื่อ Paralysis หมู่
    Hex Spells ยันต์สั่งตาย Vulnerability Hex และ Affliction Hex ให้ผลการลด resistance เหมือนกัน แต่ Affilction มีผลถึงตัวรอบๆด้วย ที่เด็ดจริงๆขอเวทย์กลุ่มนี้คือ
    Misdirection Hex ทำให้การโจมตีปรกติของศัตรูพลาด และ critical กลายเป็นการโจมตีธรรมดา
    Death Hex ทำให้การโจมตีปรกติของเรากลายเป็น Critical
    Sleep Spells เวทย์หลับหลอนซ่อนตาย
    Horror เป็นอีกเวทย์ที่เปิดโอกาศให้เราซัดฟรี(หรือหนีรอด) และหากศัตรูติด Sleep อยู่แล้วก็จะกลายเป็น Nightmare โดน Spirit damage อย่างหนัก ถึงตายกันเลยทีเดียว
    Draining Spells
    มาถึงเวทย์ชุดสุดท้ายแล้วครับ Drain Life ใช้ได้ดีในช่วงแรก ช่วงหลังๆอาจไม่ค่อยเห็นน้ำเห็นเนื้อนัก แต่อย่างน้อยก็ยิงขั้นเวลาระหว่างรอ cool time เวทย์อื่นได้ ที่น่าใช้ของกลุ่มนี้คือเวทย์คำสาปสุดแสบ Curse of Mortality ที่ทำ spirit damage แบบ overtime แถมยังกันการ heal ทุกชนิดอีกต่างหาก ต้องจัดการด้วยการล้างเวทย์อย่างเดียว
    Specializations
    Arcane War ไม่ใช่ Spec เดียวของสายเวทย์ และแน่นอน คุณยังเลือกได้อีก 1 สาย แต่จะเลือกอะไรดี

    Shapeshifter ผู้จำแลงร่าง ทันทีที่คุณแปลงเป็นสัตว์อื่นผลของ Spell Arcane War ก็จะหายไป ... ผมว่านี่ไม่ใช่ทางเลือก T T

    Blood Mage เวทย์แห่งเลือด ด้วย spell Sustained อันเป็นที่มาของ Blood mage >
    Blood Magic ที่จะใช้เลือดแทน Mana ในอัตราที่ต่ำกว่า(และจะต่ำลงไปอีกถ้ามี item ของ blood mage 2 ชิ้น) ปัญหา mana ไม่เพียงพอหมดไป เกิดปัญหาใหม่ เลือดไม่พอมาแทน เพราะฉนั้นถ้าใครมองสายนี้เอาไว้ คุณก็ต้องแบ่งแต้ม attribute ลงไปที่ Cons แทนที่จะเป็น willpower
    ปัญหาอีกอย่างหนึ่งของ Blood Mage คือเวทย์ Heal ทั้งหลายจะมีผลลดลง 10 % แต่เนื่องจาก Cool Time ของ Blood magic ที่ต่ำมาก แค่เพียง 10 วินาที การเปิด-ปิด spell นี้จึงเป็นทางเลือกเหนึ่ง หรือจะใช้วิธีโหดๆด้วย spell
    Blood Sacrifice ที่จะดูดเลือดเพื่อนร่วมทีม 50 หน่วย เพื่อมาเติม Hp ของเราได้ 100 หน่วย
    Blood Wound ผมว่านี่เป็นเวทย์โจมตีวงกว้างที่แจ่มสุดๆในเกมส์ เพราะนอกจากมันจะเป็นวงใหญ่ ทำ Damage overtime เหมือนเวทย์อื่นๆแล้ว มันยังทำให้ศัตรูที่โดนเวทย์นี้ ขยับไม่ได้ อีกด้วย นั้นแปลว่า ถ้า physical resistance ไม่สูงพอ ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นจะต้องอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะตาย หรือจนกว่าเวทย์จะหมดลง

    หากใครคิดจะเล่นสายโหด แน้นโจมตี ผมว่า Blood Mage เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

    โปรดทราบ DLC Warden's Keep มี spell อีก 2 อย่างที่เป็นสาย Blood mage ให้ใช้แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็น Blood mage นั่นคือ Dark Sustenance และ Bloody Grasp โดยที่ Dark Sustenance จะสังเวยเลือด 40 หน่วย เพื่อ mana regenerat อย่างรวดเร็วสุดๆ ลองซ้อมใช้ก่อนตกลงใจจะก้าวเข้าสู่สายมืดได้

    Spirit Healer เวทย์สายพ่อพระแม่พระ มาพร้อมกับ 4 Spell เพิ่มเลือดที่น่าใช้ไม่แพ้กัน
    Group Heal ใช้ mana พื้นฐานเพียง 40 หน่วย แต่ให้ผล Heal ทุุกคนในทีม คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
    Revival ชุบชีวิต คือคำอธิบายของ spell นี้ ผมว่านี่ชัดเจนเพียงพอแล้ว(และนี้คือวิธีเดียวในเกมส์ที่จะชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมระหว่างการต่อสู้)
    Lifeward ร่ายใส่เพื่อนหรือตัวเองไว้ หากเลือดลดต่ำลงจนใกล้ตาย spell นี้จะเติมเลือดให้เองทันที
    Cleansing Aura ผู้ที่อยู่ในรัศมีของ Sustained นี้จะได้รับผล Heal ทุกๆ 5 วินาที และยังมีผลในการล้างอาการบาดเจ็บ injury ให้ผู้ที่อยู่ในรัศมี(ไม่นับผู้ร่าย)อีกด้วย ข้อควรระวังคือ มันดูดมานาเรื่อยๆและผลของ spell จะหมดลงเมื่อ mana หมด
    ถึงตรงนี้จะเห็นว่าเกมส์นี้มี spell พื้นฐานถึง 64 ชนิดและสำหรับ spec อีก อย่างละ 4 ชนิด การวางแผนการเรียน spell ไว้ล่วงหน้าจึงน่าจะเหมาะกว่า เพราะนั้นจะทำให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นและได้ใช้ spell ที่ต้องการอย่างแท้จริง
    จากเรื่องของ Armor ที่เคยได้กล่าวไว้ จะเห็นว่า ปัญหาหนึ่งของ Arcane War คือเมื่อเปิด Combat Magic จะมีค่า Fatigue เพิ่มขึ้นอีกถึง 50% และเมื่อรวมกับ Fatigue ของชุดเกราะหนักที่มีประมาณ 20-30% ทำให้มีค่า Fatigue สูงถึง 80% ได้ แต่ Combat Magic ก็เหมือน spell Sustained อื่นๆ คือเปิดและปิดได้ การวางแผนการใช้เวทย์และเปิด-ปิด spell จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้มาก

    เช่นเมื่อเห็นศัตรูอยู่ไกลออกไป ปิด Combat Magic แล้วโยน fireball เข้าไป หรือร่ายเวทยใหญ่นำเข้าไปก่อน วิ่งเข้าไปจับ Paralyze ตัวปัญหา เปิด Combat Magic เปิด Miasma แล้วค่อยลุยพวกที่เหลือ(หรือเก็บตัวปัญหาก่อนก็แล้วแต่)

    Talent
    อย่างเพิ่งงง ผมไม่ได้พิมพ์ผิดแต่อย่างใด จริงอยู่ว่า Arcane War ของเราไม่มี Talent ใช้เหมือนสายบู้ แต่ตราบใดที่คุณไม่ได้เล่นแบบ Solo คุณก็มีสิทธิได้รับผลของ Talent บางประเภทของเพื่อนร่วมทีม

    Champion Talents >> Rally+Motivate เพิ่ม bonus Attack และ Defense อย่างละ 10 แต้มให้ปาร์ตี้ทุกคนในรัศมี
    Bard Talents >> Song of Valor เพิ่ม mana และ stamina regeneration ให้ทุกคนในรัศมี Song of Courage >> เพิ่ม bonus attack , damage และ critical

    COMPANIONS
    ว่าด้วยเรื่องของเพื่อนร่วมทีม มีหลายทางเลือกที่สามารถเป็นไปได้ นั้นขึ้นอยู่กับความชอบและ style การเล่นของแต่ละคนไป และแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะวางตัวหลักของคุณไปในตำแหน่งใด แล้วเรายังต้องการใครอีก...

    Tank อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น Arcane War สามารถเป็น Tank ได้ แต่ผมแนะนำว่า อย่างน้อย ในทีมควรมี 2rd Tank เอาไว้อีกคน เหตุผลก็เพราะว่า Talent ที่มีประโยชน์มากๆของการเป็น tank คือ Taunt และ Disengage มีอยู่ใน Warrior เลือดแท้เท่านั้น คงจะมีปัญหาแน่ๆถ้า DD ของเราสลัดศัตรูไม่หลุด ในขณะที่ตัวหลักก็ทำอะไรไม่ได้ ก็วิ่งตามกันไปเป็นขบวน ในการเล่นระดับปรกติอาจไม่เป็นปัญหานัก แต่ถ้าระดับ Hard ขึ้นไปมันจะน่ากวนใจอย่างยิ่ง และด้วย Talent นี้ยังสามารถนำไปใช้เป็นเทคติกกึ่งโกง "ลากแล้วให้เพื่อนยิง" ได้อีกด้วย

    DD ด้วย Spell สนับสนุนทั้ง Buff และ De-buff เราอาจจะรับหน้าที่นี้ซะเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ด้วย Skill และ Talent ของ Rogue ที่มีประโยชน์ไหนหลายๆสถานะการ จึงเป็นการดีที่จะมี Rogue ไว้ซักคนในทีม อย่างน้อยๆแค่เปิดหีบได้ทุกใบก็ทำให้ไม่เสียอารมณ์แล้ว

    Mage<Healer> ถ้าคุณเลือก Spirit Healer เป็น Spec ที่ 2 ตำแหน่งก็ไม่จำเป็น แต่ถ้าคุณเลือกที่จะเป็น Blood mage ผมว่ามี Healer ไปไหนมาไหนด้วยก็อุ่นใจดี

    Mage<Nuker> ในทางกลับกัน ถ้าคุุณเป็น Healer เองแล้ว การจะมี Mage อีกคนในทีมเพื่อเปิดโอกาสให้สามารถใช้เวทย์ได้มากขึ้นก็เป็นความคิดที่ไม่เลว

    ตัวอย่างการจัดทีม
    Stan>>Tank/DD (Champion) สลับกัน tank ด้วย Taunt และ Disengage เปิด Rally+Motivate เพิ่ม bonus Attack และ Defense
    Zevran>>Rogue/DD (Assassin,Duelist) งาน"เข้าข้างหลัง" เป็นงานโปรดของเค้า
    Wynne>>Mage/Healer(Spirit Healer) ตู้ยาประจำทีม
    Warden>>Mage/Nuker,Tank,Support-Debuff(Arcane War,Blood mage) ยิงเวทย์ใหญ่ตัดกำลัง De-buff ลดสถานะ แล้วหวดด้วยดาบเข้าไปช่วย Tank

    ตัวอย่างการจัดทีม 2
    Stan>>Tank/DD (Champion) สลับกัน tank ด้วย Taunt และ Disengage เปิด Rally+Motivate เพิ่ม bonus Attack และ Defense เหมือนเดิม
    Leliana>>Rogue/Rank DD (Bard,Ranger) อีหนูส่องไกล เปิด Song of Valor เพิ่ม mana และ stamina regeneration
    Morrigan>>Mage/Nuker(Blood mage,Shapeshifter) โจมตีด้วยเวทย์เป็นหลัก ผสมเวทย์ใหญ่ เปิด Flaming Weapons สลับ Frost Weapons เพิ่ม enchant
    Warden>>Mage/Healer,Tank,Support-Debuff(Arcane War,Spirit Healer) เปิด Miasma De-buff ลดสถานะ ช่วย Tank และคอย Heal เพื่อนร่วมทีม

    เทคนิคการใช้เวทย์ใหญ่ "Storm of the Century" ในกรณีที่มีนักเวทย์ 2 คนในทีม
    นักเวทย์คนที่ 1 เปิด Spell Might
    นักเวทย์คนที่ 2 เริ่มร่ายเวทย์ใดเวทย์หนึ่ง
    นักเวทย์คนที่ 1 ร่ายอีกเวทย์ตามทันที
    ผลที่ได้ เมื่อเวทย์แรกลงไปแล้วเวทย์ที่ 2 จะตามลงไปทำให้เกิด "Storm of the Century" ทันที ศัตรูส่วนใหญ่จะตายก่อนออกจากวงเวทย์ได้

    Conclusion
    มาถึงตรงนี้ผมคิดว่าทุกท่านน่าจะเห็นภาพของ Arcane War กันบ้างแล้ว แน่นอนไม่ใช่ทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง ว่าจะปั้นออกมาอย่างไร อย่างไรก็ตามผมจะขอสรุปไว้คร่าวๆ

    -โดย Concept แล้ว Arcane Warrior คือนักเวทย์ผู้เปลี่ยนพลังเวทย์ให้กลายเป็นความแข็งแกร่ง แต่เกมส์ก็เปิดโอกาสให้คุณเล่นได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กลับตัวคุณเอง
    คุณอาจเล่นเป็น Healer แล้วฝึกแค่ Combat Magic เพื่อให้สามารถใส่เกราะหนักได้ แล้วไม่สนใจมันอีกเลย ไม่เปิด Sustained นี้ใช้เลยตลอดทั้งเกมส์...แค่อยากใส่เกราะหนัก

    -ถ้าคุณตัดสินใจจะเข้าไปลุยด้วยตัวเอง รับบทนักเวทย์ในคราบนักรบ นั้นก็แทบไม่ต่างอะไรกับนักรบตัวจริง แต่คุณจะไม่มี Talent เหมือนพวกพันธุแท้เขามีกัน

    -ถึง Arcane War จะไม่มี Talent แต่เรายังมีเวทย์ให้ใช้อีกเป็นโหล ซึ่งบางเวทย์ก็ให้ผลไกล้เคียงกับ Talent เช่น Stonefist ก็อัดให้ล้มได้เหมือนกัน

    -ย้ำกันอีกรอบ ถ้าคุณไม่คิดจะ Solo ยังมี Talent และ Spell ของเพื่อนร่วมทีมที่ส่งผลถึงทุกคนในทีมได้ จงใช้มันให้เป็นประโยชน์

    -ถึง Lyrium_Potion จะมีจำนวนจำกัดกว่า Health Poultice แต่มันก็เติม mana ได้ ในขณะที่ไม่มี item ใดเติม stamina ได้

    -การเปิด Combat magic จะเพิ่มค่า Fatigue อีก 50% ทำให้ต้องใช้ mana ในการร่ายเวทย์ทุกชนิดเพิ่มขึ้น ความถี่ในการใช้เวทย์จะลดลงเหลือ 2 ใน 3 แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเปิด Sustained นี้ตลอดเวลา แถม Cooldown ของมันก็แค่ 10วิ การวางแผนการใช้เวทย์จึงเป็นทางออกของปัญหานี้
    ผมเล่นจนจบเกมส์ในระดับ Nightmare โดยเจอเหตุการ mana ไม่พอใช้น้อยมาก

    -อย่างไรก็ดี Arcane War ที่ใส่เกราะหนักถึงจะไม่เปิด Combat magic ก็จะมี Fatigue อย่างน้อย 20-30% แต่ถ้าไม่ใช่เวทย์ใหญ่แล้ว สัดส่วนเพียงแค่นี้ถือว่าไม่มาก

    -หากมีปัญหา Mana ไม่พอใช้จริงๆ ลองมอง Blood mage เป็น Spec ที่ 2 อาจจะทำให้โลกทัศน์คุณเปลี่ยนไป

    -ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่ได้จริงๆของ Arcane War คือเวทย์บางเวทย์ไม่สามารถร่ายทั้งที่ถืออาวุธได้ เพราะฉนั้นการร่ายเวทย์ขณะตะลุมบอนจึงเป็นข้อแตกต่างหลักของ Arcane War กับนักเวทย์อื่นๆ
    Tip ขณะตะลุมบอนด้วยอาวุธระยะใกล้อยู่ หากต้องการร่ายเวทย์ทันที สามารถใช้วิธีกึ่งโกงด้วยการกด Space Bar"หยุดเกมส์" แล้วกด / เปลี่ยนอาวุธ(โดยอาวุธ set ที่ 2 จะเป็น ไม้เท้า หรือไม่ใส่อะไรไว้เลยก็ได้) แล้วกดใช้เวทย์ Arcane War ของท่านจะร่ายเวทยทันที เมื่อร่ายเสร็จก็กด / เปลี่ยนอาวุธหลักกลับมา อย่างไรก็ตาม เมื่อจะโจมตีต่อด้วยอาวุธหลัก Arcane War ก็ต้องเสียเวลาชักมันออกมาอยู่ดี แต่อย่างน้อยด้วยวิธีนี้ ก็ทำให้ร่ายได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาเก็บอาวุธ
    ด้วยวิธีนี้ทำให้ใช้ Mind Blast หรือ Cone of Cold กลางดงศัตรูได้โดยไม่เสียจังหวะ



    สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
    ผมคงจะจบบทความนี้ไว้แต่เพียงเท่านี้ เชื่อว่านี่จะเป็นประโยชน์ให้ผู้สนในเล่น Arcane War ได้มีข้อมูลและแนวทางบ้าง ส่วนท้ายที่สุดแล้วจะออกมารูปแบบใดก็คง Way ใคร Way มัน

    ข้อมูลทั้งหมดเกิดจากการทดลองด้วยตัวเองรวมทั้งข้อมูลที่มีใน Website และ Webboard ทั้งในและต่างประเทศ หากผิดพลาดประการใดก็ยินดีรับทุกความคิดเห็น

    ขอขอบคุณ
    http://social.bioware.com/forum
    http://dragonage.wikia.com
    http://www.gamefaqs.com/boards/gento...p?board=920668
    http://forums.overclockzone.com
    และทุกๆคนที่อ่านบทความนี้ครับ


    ขอบคุณครับ
    Last edited by neo_com; 27 Jan 2010, 00:56:04.

    Comment


    • Originally posted by ZenJune View Post
      ตรงนี้ ผมกลับมาเล่นรอบ2 ผ่านโดยไม่มีใครตาย ได้หมวกจากทีแกนอ่ะครับ เห็นบอกว่าเป็นของปู่ของปู่ (แต่เล่นรอบแรกไม่ได้ไม่มีใครตายเหมือนกัน) อาจเป็นเพราะรอบสองนี้ ผมไปรวมพวกที่อยู่ในบาร์ กับ dwynnให้มาช่วยสู้ด้วยเลยได้รางวัลมา
      ปล. arcane warrior กับ blood mage ปลดยังไงอ่ะครับ วานบอกที จนปัญญา
      Arcane Warrior ดูในส่วนที่ผมลงไว้ได้เลย ส่วน Blood mage นั้นปลดล็อกใน The Fade ในต่อที่เข้าไปช่วยรักษา Connor โดยตัวหลักจะต้องเป็น mage และจะต้องเข้าไปเอง เมื่อเจอ Desire Demon จะมีบทให้เลือกว่าจะปล่อยไปโดยแลกความรู้เพิ่งปลดล็อก Spec หรือจะไม่คุยแล้วฆ่ามันทิ้งซะ เราก็คุยให้เสร็จแล้วจะโหลดมาฆ่าอีกรอบหรือจะเลยตามเลยก็แล้วแต่

      Comment



      • --------------------------------------------------------------------------------

        อ้างอิง:
        ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ZenJune
        ตรงนี้ ผมกลับมาเล่นรอบ2 ผ่านโดยไม่มีใครตาย ได้หมวกจากทีแกนอ่ะครับ เห็นบอกว่าเป็นของปู่ของปู่ (แต่เล่นรอบแรกไม่ได้ไม่มีใครตายเหมือนกัน) อาจเป็นเพราะรอบสองนี้ ผมไปรวมพวกที่อยู่ในบาร์ กับ dwynnให้มาช่วยสู้ด้วยเลยได้รางวัลมา
        ปล. arcane warrior กับ blood mage ปลดยังไงอ่ะครับ วานบอกที จนปัญญา

        Arcane Warrior ดูในส่วนที่ผมลงไว้ได้เลย ส่วน Blood mage นั้นปลดล็อกใน The Fade ในต่อที่เข้าไปช่วยรักษา Connor โดยตัวหลักจะต้องเป็น mage และจะต้องเข้าไปเอง เมื่อเจอ Desire Demon จะมีบทให้เลือกว่าจะปล่อยไปโดยแลกความรู้เพิ่งปลดล็อก Spec หรือจะไม่คุยแล้วฆ่ามันทิ้งซะ เราก็คุยให้เสร็จแล้วจะโหลดมาฆ่าอีกรอบหรือจะเลยตามเลยก็แล้วแต่
        ขอบคุณครับ สงสัยต้องไปปั้นเมจอีกตัว

        Comment


        • Originally posted by neo_com View Post
          แนวทางการเล่น Arcane Warrior เมื่อ Str ถูกคำนวนโดยใช้ Magic(Spoil Warning)

          หมายเหตุ บทความนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคล จงอย่างเชื่อ ขอให้ไปลองเอง

          ทักทายกันก่อน
          ___ผมนั่งนึกอยู่ 2 วันว่าจะเขียนบทความอันนี้ดีหรือปล่าว เนื่องจากเกมส์นี้ก็ออกมานานแล้ว หลายคนก็จบกันไปคนละหลายรอบแล้ว แต่ก็คิดว่าด้วยความดีของเกมส์ บวกกับการได้เป็นเกมส์แห่งปีของ ING เชื่อว่ายังมีนักเล่นอีกหลายคนที่อาจจะยังไม่เคยได้ลิ้มลองเกมส์นี้ เลยตกลงใจที่จะเขียนขึ้นมา

          ทำไมต้อง Arcane Warrior
          ___เกมมส์ Dragon Age:Origins นี้แบ่ง Class ออกเป็น 3 Class แต่ละ Class มี Specializations(ต่อจากนี้ขอเรียก Spec) ให้เลือกอีก 4 ชนิดโดยเลือกใช้ได้ 2 ชนิด หลังจาก 2 รอบแรกที่ผมได้เล่น Warrior(จากนี้จะขอเรียกว่า War) และ Rogue ก็ตกลงใจว่ารอบนี้จะเล่น Mage
          ___หลักจากการเล่น 2 รอบแรก ผมก็ได้สัมผัส Mage 2 คนที่รวมคณะ คือน้อง Mory และป้า Wynne ทั้ง 2 คนนี้มี Spec ติดตัวที่ต่างกัน กล่าวคือ Shapeshifter และ Spirit Healer ตามลำดับ พบว่าทั้งสอง spec น่าสนใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ในเมื่อมี Spec เหล่านี้ให้ใช้แล้ว จะสร้างมาอีกทำไม จึงมองไปที่ Spec ที่เหลือ นั่นก็คือ นักเวทย์ฝ่ายมืดผู้ใช้ เลือด แทน mana กับ นักเวทย์โหด ผู้แปลงพลังเวทย์เป็นความแข็งแกร่ง

          ___จากที่ได้อ่านกระทู้ ทั้ง Web นอกและ Web ใน ส่วนของ Blood Mage นั้นค่อนข้างเป็นไปในทางเดียวกัน คือโหด ลื่นไหล ใช้เวทย์ได้ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องอาศัยการความคุมที่ดี แต่มีความเห็นที่แตกต่างกันในส่วนของ Arcane War หลายคนบอกว่าอ่อน บางคนบอกว่าเทพ อย่ากระนั้นเลย วัยรุ่นต้องลอง
          ___และหลังจากที่ได้ลองแล้วก็พบว่า นี่เป็นอีก Spec หนึ่งนี่เล่นสนุก เป็นลูกผสมของ War และ Mage อาจจะไม่ดีสุดโต่งทั้ง 2 ด้าน แต่ก็ดีพอที่จะเล่นได้ทั้ง 2 ด้านแบบไม่เสียอารมณ์ และผมถือว่านี้เป็น Spec ที่แปลกแตกต่างที่สุดของสาย Mage เลยทีเดียว

          ชีวิตเมื่อเริ่มต้น
          ___"ข้าคือ Mage" แน่นอน 6 Lv แรกวิถีชีวิตของเราไม่ต่างไปจาก Mage อื่นๆ ข้อแนะนำเพียงอย่างเดียวของช่วงนี้คือ "จงใช้ Point ทุกชนิดอย่างประหยัด" เพราะกว่าเราจะรู้ตัวจริงๆว่าเราต้องการอะไร ก็ต่อเมื่อได้เป็น Arcane War ไปแล้ว ใส่ Attributes เท่าที่จำเป็นในการใช้เวทย์หรือของอื่นๆ
          *ผมพบว่า แม้จะเล่นในระดับ Nightmare เราก็สามารถผ่านช่วงแรกของเกมส์จนจบสงครามที่ Ostagar ได้โดยอาศัยแค่เวทย์ 3 ชนิดได้แก่ Arcane Bolt / Paralyze และ Heal

          ปลดล็อค Arcane War
          ___หากเป็นการเล่นรอบแรก หรือท่านที่ยังไม่ได้ปลดล็อค Spec นี้ หลักจากจบศึกที่ Ostagar คุณจำเป็นที่จะต้องตรงไปป่าของเหล่า Elf นั้นคือป่า Mirkwood...คนละเรื่องแล้ว เอาใหม่ นั้นคือป่า Dalish ของพวก Elf ป่า เพื่อรับเควส Nature of the Beast ของฝ่าย Elf แล้วมุ่งไปยัง Lower Ruins เพื่อปลดปล่อยวิญญาณของ Elven Arcane warrior ใน Phylactery ผู้ถูกจองจำมานับร้อยปี แล้วอย่าลืมขอความรู้เพื่อปลดล็อคเป็นรางวัลละ



          Attributes
          Str - ลืมมันได้เลยทั้งในฐานะ Mage และในฐานะ Arcane War คุณไม่จำเป็นจะต้องใช้มัน มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
          Dex - เพื่อถือและมีผลต่อความแรงของอาวุธ"แทง" เพิ่มอัตราการหลบหลีก และความแม่นยำของอาวุธทุกชนิด
          เราอาจต้องใช้ Dex เมื่อรู้สึกว่าฟันศัตรูไม่ค่อยโดน ส่วนเรื่องการหลบหลีกผมถือเป็นของแถม แต่เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งทุ่ม point ลงไป ถ้ายังไม่ใช้ Spell และ Talent ของเพื่อนๆให้ได้ประโยชน์สูงสุด(ติดตามในส่วนของ spell)
          Willpower - ทุก 1 แต้มจะเพิ่ม mana ให้ 5 หน่วย ส่งผลโดยตรงกับจำนวนและความถี่ที่จะใช้เวทย์
          แต่เดี๋ยวก่อนถ้าคุณคิดจะเลือก Blood mage เป็น Spec ที่ 2 แล้วละก็ mana ก็คงไม่ใช่ของจำเป็นเท่าไหร่นัก เอาแค่พอใช้แต่ก็ต้องลง point ไปบ้างเพราะกว่า Spec 2 จะมาก็ปาเข้าไป lv 14 ส่วนเท่าไหร่ถึงจะพอผมคงบอกไม่ได้ คงต้องถามตัวคุณเอง
          Magic - นี่คือแทบทั้งชีวิตของคุณ เมื่อคุณคือ Arcane war Magic จะเป็นทั้งพลังเวทย์มีผลโดยตรงต่อความแรงและระยะเวลาของเวทย์ที่ใช้ และเมื่อมันถูกคำนวนเป็น Str จึงมีผลโดยตรงต่ออาวุธประชิดทุกชนิดยกเว้นมีดสั้น(เป็นอาวุธแทง ใช้ Dex คำนวน) ความสามารถในการใส่เกราะหนักและความสามารถในการถืออาวุธ แล้วคุณจะพบว่า คุณสามารถใส่เกราะได้ทุกชนิด
          ข่าวด่วน Arcane War ใช้ Magic คำนวนแทน Str ในทุกสถานะการ นั้นแปลว่า มันถูกนำไปคำนวนเมื่อคุณ"ข่มขู่"(intimidation) ด้วยเช่นกัน
          Cunning - เกือบไร้ประโยชน์ ปล่อยให้ Rogue ประจำทีมอัพไปจะดีกว่า 16 แต้มเพื่อ Coercion ขั้น Master น่าจะเพียงพอ
          Cons - ทุก 1 แต้มจะเพิ่มเลือดให้คุณ 5 หน่วย เราคงต้องลงใช้ส่วนนี้บ้างเพื่อไม่ให้ Arcane War ของเรานิ่มเกินไป
          และเช่นกัน ถ้าวางแผนจะเป็น Blood mage นี่คงเป็น Attribute ที่ 2 ที่จะลงทุนให้มัน


          Skill เนื่องจาก Mage จะได้ skill point ทุกๆ 3 lv เราจึงไม่ค่อยมีแต้มให้ลงนัก ผมจะขอกล่าวสั้นก็แล้วกัน
          Coercion-เพิ่มทางเลือกสนทนา อัพให้เต็มถ้าต้องการบทพูดที่หลากหลาย และประโยชน์จากเควสที่มากกว่า แต่ต่อให้ไม่อัพเลย คุณก็จบเกมส์นี้ได้
          Stealing-ลักเล็กขโมยน้อย ลืมมันไปซะ ถ้า Rogue ในทีมแต้มเหลือจะอัพก็แล้วแต่
          Trap-Making-สร้างและดักจับกับดัก มีประโยชน์ แต่ให้คนอื่นอัพแทนก็ไม่เสียหาย
          Survival-ดักจับศัตรูที่หายตัวและ"รู้สึก"ถึงศัตรูที่อยู่ไกลออกไป เพิ่ม Nature Resistance มีประโยชน์ แต่ก็อีกละเพื่อนยังว่างอยู่หรือปล่าว
          Herbalism-ปรุงยา มีประโยชอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเรียนเองจะให้ป้า หรือน้อง mory อัพแทนก็ได้ พวกนั้นเค้ามี skill เบื่องต้นมาแล้ว
          Poison-Making-สร้างและใช้พิษ ในหลายสถานะการการใช้พิษอาจช่วยให้อะไรง่ายขึ้น เรียนขั้นต้นเพื่อสามารถใช้พิษได้ทุกชนิด ที่เหลือให้เกย์ประจำทีมฝึกให้จะแจ่มกว่า
          Combat Training-ช่วยให้รับ damage ได้มากขึ้นก่อนที่จะถูกยกเลิกการร่ายเวทย์(interrupts) และในขั้น 2 ช่วยเพิ่มอัตราการฝื้น Mana ถ้าไม่ยื่นร่ายเวทย์ใหญ่กลางดงติงก็ไม่ค่อยมีประโยชน์ เรียน 2 ชั้นเพื่อ mana regeneration ก็พอไหว
          Combat Tactics-เพิ่ม tactics slot เกือบไร้ประโยชน์ถ้าเราคุมตัวเราเอง ถ้า point เหลือ ใส่ไว้ซักแต้มสองแต้มก็แล้วแต่ชอบ

          อาวุธประจำกาย
          อันที่จริงส่วนนี้น่าจะอยู่หลังจากเรื่องของเวทย์ แต่ผมคิดว่าเรื่องเวทย์คงต้องร่ายกันยาว เลยยกส่วนนี้มาเขียนก่อน
          เนื่องจาก Arcrane War นำ Magic มาคำนวนแทน Str ทำให้เราสามารถถืออาวธได้แทบทุกชนิดจะยกเว้นแค่ มีดสั้น และ ธนู ที่ใช้ Dex ในการถือและคำนวนความแรง ผมจึงขอตัดอาวุธทั้งสองอย่างนั้นทิ้งไปก่อน

          ดาบใหญ่-ขวานยักษ์ (Two-Hand Weapon)Strength modifier 1.1 ในที่นี้คือ Megic modifier นั้นแปลว่า ยิ่ง megic สูงตัวคูณความแรงก็ทำให้ Damage สูงขึ้นด้วย แต่ด้วยอัตราการโจมตีที่ช้า และ Arcane War ก็ไม่แน้นความแม่นยำนัก ถ้าวึดบ่อยๆก็แลดูจะปล่าวประโยชน์ และเมื่อไม่มี Talent ทดแทนข้อเสียเหมือนพวก Warrior แท้ๆเค้ามีกัน จุดอ่อนจุดนี้เลยยิ่งเด่นชัด นอกเสียจากรักจะเล่นสายนี้จริงๆ คงต้องแบ่ง Attribute ไปลง Dex ให้มากขึ้น
          อาวุธมือเดียว ใช้ง่าย มีหลายเล่มให้เลือกใช้ในเกมส์ ด้วยอัตราการโจมตีที่ดีกว่าก็ดูเหมือนจะเหมาะกว่า ยิ่งถ้ามี enchants ด้วยแล้วจะยิ่งเห็นผลว่า ถี่กว่า ย่อมดีกว่า
          ดาบ+โล่ เหมือนข้างบน ในเมื่อมือยังว่างถือโล่ไว้อุ่นใจกว่า เพิ่มการหลบหลีกและกันธนู"นิดหน่อย" แถมด้วย option ที่มากับโล่ ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว
          ดาบ+มีด ข้อดีคือจำนวนการโจมตีที่เพิ่มขึ้นต่อรอบ ถ้าอาวุธผ่านการ enchants มาทั้ง 2 ชิ้นไม่ว่าจะด้วยเวทย์หรือด้วย Rune ก็จะส่งผลเพิ่ม แต่ข้อเสียคือเมื่อไม่มี Talent การถืออาวุธ 2 มือจะโดนหัก Damage ออกไปส่วนหนึ่ง และมีดสั้นยังอาศัย Dex ในการถือ ทำให้ไม่สามารภถือมีดสั้นระดับสูงได้ ถ้าอยากถือจริงๆก็ต้องเสีย Attribute ไปมาก ซึ่งแลดูจะไม่คุ้มนัก
          ไม้เท้าเวท จริงอยู่ชาติกำเนิดเราคือ mage แต่ผมไม่คิดว่าเราจะเหมาะกับไม้เท้าอีกต่อไป เพราะ Damage ที่ได้จากไม้เท้านั้นเทียบไม่ได้เลยกับอาวุธประชิด ขอดีข้อเดียวที่คุณยังควรพกมันอยู่คือ มันไม่มีวันพลาดเป้า หรือคุณอาจเอาไว้ยิงสวนพวกนักธนูที่ชอบยืนบนที่สูง สลับกับการยิงเวทย์ถ้าขี้เกียจวิ่งขึ้นไปหวด(กลับมารับบท mage ตามเดิม) และพวกมอนกึ่งบอสทั้งหลายที่หวดโดนยากเหลือเกิน พกไว้ซักอันกันเหนียวก็ดี
          สรุป ผมคิดว่าถือดาบมือเดียวเป็นอาวุธหลักจะใช้โล่หรือมีดสั้น(ระดับต่ำ)ขึ้นอยู่กับสถานะการ และมีไม้เท้าไว้ซักอันที่อาวุธ set ที่ 2 น่าจะลงตัว

          โปรดติดตามตอนต่อไป To Be Continue

          สุดยอดมากครับ *0* เขียนเองเลยหรือนี่ จะรอติดตามตอนต่อไปนะครับ เสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่จะเอาขึ้นหน้าแรกให้ครับผม

          ปล.ในเรื่องที่ว่าค่า intimadation นั้น แน่ใจหรือเปล่าครับว่านำค่า str มาคำนวณด้วย หรือว่าเว็บนอกบอกมาครับ เพราะผมนึกว่าขึ้นกับการอัพ coresion อย่างเดียวนะครับ ?? (confirm หน่อย)
          ปล.2 ผมว่าน่าจะมีส่วนอธิบายข้อดีข้อเสียของ Arcane Warrior เมื่อเทียบกับเมจแบบปกติด้วยนะฮะ

          Comment


          • แจ่มมากครับคุณ neo_com

            ความเห็นส่วนตัวผม ผมใช้ Mage เป็นตัวคุมเกมส์ support เพื่อนๆที่เป็น Tank และ DD ให้ได้มากสุด
            Mana Clash เป็นเวทที่ ต้อง Up สำหรับผมเลย ไม่นับพวกปีศาจที่เป็นนักเวทนะครับพวกไม่มีเลือดเนื้อจะไม่ได้ผล
            และ Mage ที่ร่ายSpell Shieldอยู่ทำไรมันไม่ได้
            ถ้า Mage ที่เป็นคนที่ไม่ติดตัวแดง(พวกบอส) เจอเวทย์นี้เข้าไปไม่ตายก็ร่ายเวทย์ใหญ่ไม่ทัน
            เพราะนอกจากมันจะดูดมานาจากคนโดนยังเอามานาที่ดูดมาทำร้ายต่อ ส่วนใหญ่ตายทันที

            Tip* ใครเล่น Templar อย่าร่าย Cleanse Area ขณะที่เพื่อนใช้เวทอยู่ใกล้อย่าง Animate Dead มันหักล้างกันครับ
            ผมว่าเหตุผลที่ตัว Tank ต้องมี Cleanse Area มันช่วยได้ครับตอนเราติดสถานะอย่างพวก Weakness
            หรือกลุ่ม เวทลดค่าการโจมตีต่างๆถึงไม่ช่วยตัวเองก็ช่วยเพือนที่ถูกได้นะเออ
            Last edited by _darkman799_; 22 Jan 2010, 09:33:58.

            Comment


            • ขอบคุณทุกกำลังใจครับ วันนี้จะพยายามเขียนให้จบ(มาอ่านดูเขียนผิดไปเยอะเหมือนกันนะเนี้ย)

              Originally posted by pongkrit03 View Post
              สุดยอดมากครับ *0* เขียนเองเลยหรือนี่ จะรอติดตามตอนต่อไปนะครับ เสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่จะเอาขึ้นหน้าแรกให้ครับผม

              ปล.ในเรื่องที่ว่าค่า intimadation นั้น แน่ใจหรือเปล่าครับว่านำค่า str มาคำนวณด้วย หรือว่าเว็บนอกบอกมาครับ เพราะผมนึกว่าขึ้นกับการอัพ coresion อย่างเดียวนะครับ ?? (confirm หน่อย)
              ปล.2 ผมว่าน่าจะมีส่วนอธิบายข้อดีข้อเสียของ Arcane Warrior เมื่อเทียบกับเมจแบบปกติด้วยนะฮะ
              เรื่อง intimadation ค่อนข้างแน่ใจครับ ไม่มีแหล่งอ้างอิง อันนี้จากประสบการตรง Arcane War ผมไม่อัพ Str เลยแม้แต่แต้มเดียว(ที่จริงก็ Dex ด้วย) จนถึง lv 18 มีติดตัวอยู่ 11(ไม่รวมของ option) ลองทำการ intimadation ดู สำเร็จทุกครั้ง แต่มีครั้งเดียวที่ไม่ได้ผลคือตอนเจอ Ser Landry ในตลาด พี่แกชวนตีอย่างเดียว ต้องแฉไฉว่าผิดคนแล้วม้าง เดี๋ยวก็ฆ่าผู้บริสุทธิ์หรอก ถึงรอดตัวมาได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจึงขอสรุปว่า Arcane war ใช้ Magic แทน Str ในการ intimadation คอนเฟิร์ม !!!
              ปล. ที่จริงผมไม่ชอบการ intimadation เลยนะ ดูไม่มีวาทะศิลป์ ไม่สมกับการเป็น Mage ผู้ชาญฉลาดเลย -"-

              เรื่องข้อดีข้อเสียเดี๋ยวจะสรุปในส่วนของ conclusion อีกทีนึงครับ


              Originally posted by _darkman799_ View Post
              แจ่มมากครับคุณ neo_com

              ความเห็นส่วนตัวผม ผมใช้ Mage เป็นตัวคุมเกมส์ support เพื่อนๆที่เป็น Tank และ DD ให้ได้มากสุด
              Mana Clash เป็นเวทที่ ต้อง Up สำหรับผมเลย ไม่นับพวกปีศาจที่เป็นนักเวทนะครับพวกไม่มีเลือดเนื้อจะไม่ได้ผล
              และ Mage ที่ร่ายSpell Shieldอยู่ทำไรมันไม่ได้
              ถ้า Mage ที่เป็นคนที่ไม่ติดตัวแดง(พวกบอส) เจอเวทย์นี้เข้าไปไม่ตายก็ร่ายเวทย์ใหญ่ไม่ทัน
              เพราะนอกจากมันจะดูดมานาจากคนโดนยังเอามานาที่ดูดมาทำร้ายต่อ ส่วนใหญ่ตายทันที
              Arcane War สามารถเป็นอะไรที่แตกต่างจาก Support คือเป็นได้ทั้ง 2rd Tank และ DD สามารถเ็ป็น Healer ได้ด้วย แต่นั้นก็ขึ้นอยู่กับการจัดทีม style การเล่น และ spell ที่อัพ

              โดยส่วนตัวผมใช้บริการน้อง Mory เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ร่ายเวทย์ใหญ่(เพราะเธอมี mana pool ที่มากกว่าผม)อย่าง"พายุร้อยปี" ซึ่งจำเป็นต้องมี Spell Might ผมเลยให้เป็นหน้าที่เธอในการอัพ spell สาย Mana Alteration ครับ

              Comment


              • โอ้สงสัย ผมต้องไปลองเล่น Arcane Warrior แล้วทีนี้

                Comment


                • เอาไว้ค่อยหาเวลาเอาตัวเก่ามาเล่นว่าจะลองเก็บ Achievement ให้ครบไม่รู้ทำได้ใหม
                  ตอนนี้เล่นดาบสองมืออยู่ เพื่อตามหาพี่ชายกำลังไปเมืองคนแคระละ
                  จบแล้วว่าจะเล่น City Elf สายดาบสองมือมั่งถ้าไม่เบื่อซะก่อน เพราะเท่าที่เล่นไปต้นเรื่อง ลำบากมากสายนี้

                  ในที่สุดก็หาขวานดีๆได้ละ มี 3 slotซื้อมาจาก Levi ผู้พี่ เดี่ยวเตรียมไว้ให้สมาชิคคนสุดท้าย
                  สะพายดาบเขี้ยวดาว(StarFang)อยู่ ดาบสองมือมันไม่มีOption Ice มาให้ด้วยไม่รู้ใส่หินอันใหนดี

                  Comment


                  • ใครก็ได้ช่วยสอนวิธีลง 1.02a+crack และ DLC return to Ostaga ให้หน่อยคร้าบ เคยลงแล้วมังเข้าเกมส์ม่ายได้ง่ะ่

                    Comment


                    • Originally posted by neo_com View Post
                      ขอบคุณทุกกำลังใจครับ วันนี้จะพยายามเขียนให้จบ(มาอ่านดูเขียนผิดไปเยอะเหมือนกันนะเนี้ย)

                      เรื่อง intimadation ค่อนข้างแน่ใจครับ ไม่มีแหล่งอ้างอิง อันนี้จากประสบการตรง Arcane War ผมไม่อัพ Str เลยแม้แต่แต้มเดียว(ที่จริงก็ Dex ด้วย) จนถึง lv 18 มีติดตัวอยู่ 11(ไม่รวมของ option) ลองทำการ intimadation ดู สำเร็จทุกครั้ง แต่มีครั้งเดียวที่ไม่ได้ผลคือตอนเจอ Ser Landry ในตลาด พี่แกชวนตีอย่างเดียว ต้องแฉไฉว่าผิดคนแล้วม้าง เดี๋ยวก็ฆ่าผู้บริสุทธิ์หรอก ถึงรอดตัวมาได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ ผมจึงขอสรุปว่า Arcane war ใช้ Magic แทน Str ในการ intimadation คอนเฟิร์ม !!!
                      ปล. ที่จริงผมไม่ชอบการ intimadation เลยนะ ดูไม่มีวาทะศิลป์ ไม่สมกับการเป็น Mage ผู้ชาญฉลาดเลย -"-

                      เรื่องข้อดีข้อเสียเดี๋ยวจะสรุปในส่วนของ conclusion อีกทีนึงครับ
                      อืมมมม คือผมจะบอกว่ามันยังไม่ค่อยชัดเจนนักนะครับ คือ ต้องถามว่าที่ท่านบอกว่าทำ intimadation แล้วสำเร็จเนี่ย ไม่ทราบว่าอัพค่า coerion เต็ม 4 ขั้นหรือเปล่า เพราะปกติถ้าอัพ coerion เต็มเราก็สามารถคุย persuade หรือ intimadation ได้สำเร็จ 100% อยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะอาชีพไหนๆก็ตาม

                      ปกติถ้ามีการใช้ค่า stat มาคำนวณในการสนทนาเนีย มันน่าจะขึ้นมาบอกให้ชัดเจนหรือเปล่าครับ อย่างค่า cunning งี้ willpower มันจะขึ้นวงเล็บไว้ตรงหัวข้อที่เลือกเลยนะครับ ??

                      ยังไงก็ตามแต่ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ

                      ^_^

                      Comment


                      • Originally posted by Admiralce View Post

                        ปล. มีคนผู้ถึงนิยาย dragon age จะบอกว่าผมกำลังอ่านอยู่เลย ฮ่าๆ
                        เล่มนี้เลย จริงๆ มี อีกเล่มแต่เอานี้ให้จบก่อน

                        เป็นเนื้อเรื่องตอนสมัย King Maric (พ่อ ของ Alistair ) ตอนที่เฟลเรลเด้น โดนรุกรานโดย ชาวโอเลย์ มีไอ้เจ้าโลแกนเป็นตัวละครหลักเลยหละ ผมเพิ่งขี้น chapter 3 เอง

                        อ่านแล้วสนุกมั้ย ยังลังเลอยู่เลยว่าจะอ่านดีรึป่าว เพราะได้รับบทเรียนว่า
                        เกมที่สนุกอาจไม่เป็นหนังสือที่สนุกเสมอไป
                        หรือเกมและหนังสือที่สนุกอาจจะไม่เป็นหนังที่สนุกเสมอไป

                        ก็อ่านเรื่องย่อคร่าวๆแล้วไม่ค่อยน่าสนใจด้วยมั้ง
                        แต่คนเขียนนิยายกับคนเขียนเรื่องในเกมมันคนเดียวๆกันนิ
                        ไม่รู้ว่าถ้าอ่านในฐานะบุคคลที่ 3 มันจะสนุกเหมือนเราเล่นเป็นบุคคลที่ 1 รึป่าวด้วย

                        Originally posted by _darkman799_ View Post
                        ไม่ได้ครับเพราะคุรเข้าเต้นกะใครเพื่อนเรามันรู้กันทั้งแคมป์แหละครับ
                        ผมเคยจีบ Lalina เสร็จพอทำเควส Morriganเธอชวนเข้าเต้นผมก็เข้าไป
                        พอกลับมาคุยกับ Lalina เธอโกรธ
                        แถมป้า Wynn เข้าข้าง Lalina ด้วย
                        ขอบอกรู้กันทั้งแคมป์
                        ถ้าหากเรานอนกับหลายคน แล้วเราคุยกับคนสุดท้ายที่นอนด้วย
                        ก็จะมีคำถามเชิงปรึกษาว่าจะเลือกใคร อะไรเงี้ย ตลกดี
                        สถานการณ์ 3 เรานี้ ไม่นึกว่าในเกมไหนจะมีอะ สมจริงเลย


                        บอร์ดนี้ขยันเม้นกันจัง กลับมาอีกทีผ่านไป 5 หน้าและ

                        กลับมาไม่ทันช่วงถกเรื่องฉากโรแมนซ์ 18+ ยาราไนก๊ะเลย ....เสียใจนะเนี้ย ฮ่าๆๆ

                        ทั้งๆที่เซฟรานมันเป็นไบ แต่กลับกลายเป็นที่ยอมรับโดยมิได้นัดหมายว่ามันเป็นเกย์
                        เพราะคนส่วนใหญ่ก็เล่นผู้ชาย แล้วมันดันจีบมาได้อย่างหน้าด้านหน้าทนสินะ ฮ่าๆ(จีบจนเราอาย- -)



                        คนที่เล่นเกมแล้วถึงขนาดเขียนบทสรุปหรือแนะแนวเป็นเรื่องๆได้ไม่ว่าใคร ก็สุดยอดเลยนะ ขอชมจากใจ

                        คนเล่มเกมเดียวกันช่วยกันงี้ เป็นสังคมที่ดีมากเลย(บางที่เล่นเกมเดียวกัน ด่ากันเอง...)



                        เกมนี้ถ้าเล่นในคอมสนุกกว่า ใช้เม้าท์บังคับเวลาสู้มันได้ดังใจกว่าเยอะเลย
                        แต่คอมที่บ้านเน่ามากรุ่นเก่าโคตรๆ ขนาดthe sims คอมยังเน่าเลย

                        ปล. ขออภัยที่เป็นพวกบ้าคอมเม้นยาวๆ
                        ปล2. เป็นพวกชอบใส่เกราะ ใส่อาวุธมั่วๆ จะมีผลกับการเล่นมากไหมคะ 555(แน่นอนว่าเล่นeasy)

                        Comment


                        • Originally posted by Zandle View Post
                          ใครก็ได้ช่วยสอนวิธีลง 1.02a+crack และ DLC return to Ostaga ให้หน่อยคร้าบ เคยลงแล้วมังเข้าเกมส์ม่ายได้ง่ะ่
                          1.02a ไม่แน่ใจนะครับผมยัง 1.02อยู่เลยครับแต่เล่น DLC return to Ostaga ได้ครับ

                          ส่วน DLC return to Ostaga ตัวที่ผมโหลดมาลงได้เลยนะครับ
                          เคยลงแล้วเข้าเกมส์ก่อน1 รอบแล้วให้ออกจากเกมส์ 1 รอบก่อนถึงจะไม่มีบัคครับ

                          Originally posted by ginnesis View Post
                          ปล2. เป็นพวกชอบใส่เกราะ ใส่อาวุธมั่วๆ จะมีผลกับการเล่นมากไหมคะ 555(แน่นอนว่าเล่นeasy)
                          ถ้าไม่ครบชุดก้ไม่เป็นไรนิครับ แต่ถ้าใส่ครบมันจะได้ค่าเสริมเพิ่มขึ้นมาแค่นั้นเอง
                          บางทีถ้าของแต่ละชิ้น Option ดีกว่าใส่เป็นชุดผมก็ใส่เหมือนกันครับ

                          ----
                          ขอตัวมุดขุนเขาในเมืองคนแคระก่อนครับ
                          Last edited by _darkman799_; 22 Jan 2010, 20:11:18.

                          Comment


                          • Originally posted by _darkman799_ View Post
                            1.02a ไม่แน่ใจนะครับผมยัง 1.02อยู่เลยครับแต่เล่น DLC return to Ostaga ได้ครับ

                            ส่วน DLC return to Ostaga ตัวที่ผมโหลดมาลงได้เลยนะครับ
                            เคยลงแล้วเข้าเกมส์ก่อน1 รอบแล้วให้ออกจากเกมส์ 1 รอบก่อนถึงจะไม่มีบัคครับ

                            คุณ ginnesis อ่าน Air Gear ป่าวครับชื่อคุ้นๆหุหุ
                            อ่านๆ แต่อ่านไม่กี่เล่มเองนะ ไม่ใช่แฟนตัวยง ทำไม? มันมีตัวละครชื่อคล้ายๆเหรอ


                            อ้อ ชื่อทีมชองชิมูกะใช่มั้ย คำว่าgenesis มันเป็นคำสวยๆธรรมดา มันเลยมีในการ์ตูนหรืออะไรด้วย

                            เราก็เขียนเป็นคำพ้องเสียง ginnesis แต่ที่จริงไม่มีในพจนาณุกรม จะให้ตัดแล้วได้ชื่อเราพอดี ginn อะไรเงี้ย

                            แต่ไม่ได้เอามาจากair gear ตรงๆหรอก เจอในดิกชันน่ารี่เห็นมันเจ๋งดี
                            Last edited by ginnesis; 22 Jan 2010, 20:55:54.

                            Comment




                            • ลองทำดูเล่นๆครับ เผื่อว่ามีคนสนใจอยากจะเล่นในสายอาชีพนี้
                              ----Guide นี้สำหรับ Dual Weapon ของ Rouge----
                              ----ทุกตารางใน Guide นำมากจาก Prima : Official Guide Book นะครับ


                              =====================================================


                              "การที่จะเป็นสายอาวุธคู่ที่เก่งกาจ ต้องอดทน"

                              เพราะอะไรนะหรือ?
                              1.Dagger ดีๆในช่วงแรกนั้นหายาก ต้องอาศัยความอดทน สักเล็กน้อย
                              2.ชุดก็เช่นกัน ชุด Rouge ดีๆนั้นก็หายาก

                              ดังนั้น การดำเนินเนื้อเรื่องตั้งแต่แรกด้วยการเล่น Dual Weapon เป็นเรื่องยาก เพราะเราจะไม่มีจุดเด่นด้านใดเลย โจมตีเร็วกว่าอาวุธอื่นก็จริง แต่ตีเบา
                              (ตอนยังไม่มีสกิล Momentum ตีเร็วก็จริง พอเปิด Momentum เปิดกับไม่ได้เปิด แตกต่างกันคนละโลกเลย)


                              =====================================================

                              Strength - 1.เกราะสำหรับ Rougeดีๆบางชนิด ต้องอาศัย Strength
                              2. ถ้าต้องการเล่นดาบกับมีดสั้น ดาบดีๆต้องอาศัย Strength
                              3. มีผลต่อการ Intimidation/Phy.resistance
                              4. ข้อนี้ไม่แน่ใจ ว่าถ้าจะเล่นดาบกับมีดสั้นคู่กัน ความแรงของดาบจะขึ้นตาม Strength หรือเปล่า ใครมีข้อมูลที่ชัดเจน ช่วยบอกกล่าวด้วยครับ
                              5. เพิ่มโอกาสการติดคริติคอลของ Rouge
                              สรุป - Strength เป็นค่าที่มีผลทางด้านกายภาพ ซึ่งแล้วแต่ผู้เล่นว่าจะอัพหรือไม่อัพ ส่วนใหญ่มีผลต่อชุดเกราะ อาวุธ และการคริติคอล


                              Dexterity - 1.การหลบการโจมตี / เพิ่มความแม่นยำในการโจมตี (คิดว่าใช่นะ)
                              2.เพิ่มความรุนแรงกับอาวุธประเภท Dagger และธนู
                              3.มีความจำเป็นในการอัพสกิล/การใส่อาวุธ และ ชุดเกราะบางชนิด
                              4.เพิ่ม Phy.Resistance
                              สรุป - Dexterity ไม่ต้องพูดอะไรมาก ว่าค่านี้คือค่าที่สำคัญที่สุดของ Dual Weapon ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงในการโจมตี ความจำเป็นในการอัพสกิล ฯลฯ


                              Willpower - 1.เพิ่ม Mana/Stamina 5 หน่วย ต่อการอัพ Willpower 1 แต้ม
                              2.เพิ่ม Mental Resistance
                              สรุป - Willpower ทำให้สามารถใช้สกิลต่างๆได้บ่อยขึ้น ก็ควรที่จะอัพไว้บ้าง หรือไม่อัพก็ไม่เป็นไร


                              Magic - 1.เพิ่มความรุนแรงในการใช้เวทย์มนตร์
                              2.เพิ่มผลของ Potion/Poultices/Salve สำหรับทุกสายอาชีพ
                              3. จำเป็นสำหรับการใช้ Salve ระดับสูง
                              4. เพิ่มค่า Mental Resistance
                              สรุป - Magic ไม่จำเป็นต้องอัพ เพราะ Salve เราก็ใช้แบบ Lesser ก็ได้


                              Cunning - 1.จำเป็นสำหรับการอัพสกิลหลายๆสกิลของ Rouge
                              2.การหาจุดอ่อนของเกราะศัตรูสำหรับ Rouge
                              3.เพิ่มโอกาสในการเจาะเกาะ / Mental Resistance / จำเป็นในการเจรจาพอสมควร
                              สรุป - Cunning เป็นอีกหนึ่งStatus ที่จำเป็นสำหรับ Rouge ควรจะแบ่งกันอัพกับ Dex


                              Constitution - 1.เพิ่ม Health(HP) 5 หน่วยต่อ 1 แต้ม
                              2.เพิ่ม Phy.Resistance
                              สรุป - Constitution ในความเป็นจริง เรามีตัวแทงค์อยู่แล้ว ดังนั้น อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องอัพ แต่อาจจะอัพเผื่อไว้หน่อยก็ได้


                              ====================================================



                              อย่างๆที่รู้กันอยู่ ขึ้นต้นว่า Dual Weapon คงต้องเป็นอะไรที่เป็นคู่ๆแน่ๆ แน่นอน
                              เพราะสายการเล่นนี้ ใช้อาวุธคู่ ในการดึงประสิทธิภาพสกิลออกมาได้สูงสุด

                              1.Dagger + Dagger การผสมผสานของมีดสั้นสองเล่ม ซึ่งอยากที่รู้กันอยู่ว่า Dagger ในเกมดีๆนั้นหายาก
                              D+D มีการโจมตีที่รวดเร็วยิ่งมีสกิล Momentum ไปแล้ว ยิ่งฟันมันส์เข้าไปใหญ่
                              แต่ข้อเสียของ D+D คือ สู้กับพวกเกราะหนักไม่ค่อยจะได้


                              2.Dagger + Other weapon การผสมผสานของมีดสั้นและอาวุธชนิดอื่น ซึ่งการจะใช้ดาบดีๆในเกมต้องอาศัย Strength ในการสวม
                              D+O มีการโจมตีที่คาดว่าน่าจะพอๆกับ D+D เมื่อ Dexterity เราเยอะพอ เพราะการใช้ Sword ต้องอาศัย Strength ในการเพิ่มความรุนแรง (คาดว่านะ)
                              ข้อเสียของ D+O คือ ต้องใช้ Strength ในการสวม ซึ่งมันไม่ใช่ค่าหลักของเรา

                              -ผมไม่แน่ใจในตรงจุดที่ว่า ความแรงของ Sword เมื่อเล่น DW แล้วจะใช้ Strength คิด ใครมีข้อมูลที่ถูกต้อง ช่วยชี้แนะด้วยครับ
                              -อาวุธก็จะแตกต่างกันไปตามละชนิดเช่นกัน เช่น พวก Maces จะเจาะเกราะได้มากกว่า

                              สรุป การเลือกอาวุธ ก็เลือกตามความชอบเลยครับ ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น

                              ความจริง ข้อมูลอาวุธยังมีอีกมากมายครับ ลองโหลด Prima : Official Guide Book มาดูละกันครับ




                              ====================================================



                              ชุดเกราะทั้งหมด มีเป็นระดับขั้น ดังนี้ (ไปตัดมาจาก Prima Official Guide Book มาครับ)


                              ชุดเกราะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
                              1.Clothing เป็นชุดผ้าธรรมดาๆ หรือ ชุดของเมจ ซึ่งไม่มีอะไรมากนัก
                              2.Light Armor เป็นชุดเกราะเบา เป็นชุดที่เหมาะสมสำหรับ Rouge เพราะ Fatigue ไม่เยอะเท่าไหร่ และบางชนิดมีลด Fatigue ให้ด้วย
                              ดังนั้น จึงใช้สกิลได้หลายครั้งแต่บางชนิดต้องใช้ Strengthในการสวมใส่ แต่ไม่มากนัก
                              3.Meduim Armor เป็นชุดเกราะน้ำหนักปานกลาง เป็นอีกชุดที่เหมาะสมสำหรับ Rouge
                              เพราะมี Def ที่ดีกว่า แต่ก็แลกมาซึ้ง Fatigue และ บางชนิดต้องใช้ Strength ในการสวมใส่
                              4.Heavy Armor เกราะหนัก เป็นชุดที่ไม่ค่อยเหมาะกับ Rouge สักเท่าไหร่
                              เพราะเพิ่ม Fatigue ค่อนข้างเยอะ และ ใช้ Strength พอสมควร
                              5.Massive Armor ลืมมันไปเลย เป็นชุดที่ไม่เหมาะกับ Rouge อย่างยิ่ง
                              เพราะเพิ่ม Fatigue มหาศาลซึ่งเหมาะกับตัว Tank


                              อันนี้เป็นตาราง Set เกราะต่างๆ ลองเลือกดูนะครับ


                              ความจริง ข้อมูลชุดเกราะยังมีอีกมากมายครับ ลองโหลด Prima : Official Guide Book มาดูละกันครับ



                              ====================================================



                              โดยปกติแล้ว ถ้าจะเล่นสาย Dual Weapon คนส่วนใหญ่ คงที่จะอัพสายนี้เต็มหมดแล้ว เราจึงจะมาวิเคราะห์ ความน่าใช้ของสกิล และ สถาณการณ์ที่ควรใช้สกิล ลุยครับ
                              ----ขอขอบคุณข้อมูลสกิลจากคุณ Violent ที่ได้แปลสกิลสำคัญๆ ของ Dual Weapon ไว้หมดแล้ว ในหน้าแรกของกระทู้นี้ ----


                              สกิลสาย Rouge



                              Dirty Fighting
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Activated
                              Successive Talent: Combat Movement
                              Requires: 10 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              ทำให้เป้าหมายติด Stun ในระยะเวลาสั้นๆ
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - ถือว่าเป็นสกิลที่ใช้หากินในช่วงแรก
                              เนื่องจากมีท่าโปรยเมล็ดถั่ว (ฮา) ที่ค่อนข้างเร็ว และ ทุกตัวในช่วงแรก แทบจะติด Stun 100%
                              ท่านี้มักจะใช้ไม่ติดท่าศัตรูมีค่า Phy.Resistance ที่สามารถต้านทานได้



                              Combat Movement
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Passive
                              Previous Talent: Dirty Fighting
                              Successive Talent: Coup De Grace
                              Requires: Level 4, 14 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              ทำให้มีโอกาสโจมตีแบบ Backstab เพิ่มมากขึ้น
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็นสกิล passive อยู่แล้ว
                              จึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก คือการอัพให้โจมตีแบบ Backstab มากขึ้น



                              Coup De Grace
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Passive
                              Previous Talent: Combat Movement
                              Successive Talent: Feign Death
                              Requires: Level 8, 18 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              หากศัตรูติดสถานะ Stun หรือ Paralyzed ทำให้เราโจมตีแบบ Backsteb สำเร็จ
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - ถ้าจะเล่นแล้วสาย DW แล้วไม่มี passive นี้ ก็ไม่รู้จะเล่นไปทำไม
                              ใช้กับท่า Dirty Fighting ได้ดียิ่งนัก



                              Feign Death
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Sustained
                              Range: Personal
                              Upkeep: 40
                              Fatigue: 5%
                              Cooldown: 300 seconds
                              Previous Talent: Coup De Grace
                              Requires: Level 12, 22 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              หากใช้ท่านี้จะทำให้ศัตรูไม่สนใจเรา หาเป้าหมายอื่นแทน
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - สกิลแกล้งตาย ! โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่
                              เพราะเล่นอยู่แล้วไม่มีเวลากด และ ท่าแอคชั่นมันค่อนข้างนาน ค่อยๆ ล้มตายไปอย่างช้าๆ



                              Below the Belt
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Activated
                              Range: Personal
                              Activation: 25
                              Cooldown: 15 seconds
                              Successive Talent: Deadly Strike
                              Requires: 10 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              เตะผ่าหมาก และมีโอกาสทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็นสกิลที่ใช้ได้ดีในช่วงแรกอีก 1 สกิล ท่า Action ที่เร็ว แต่ใช้ในช่วงหลังแทบจะไม่มีผลเลย


                              Deadly Strike
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Activated
                              Range: Personal
                              Activation: 25
                              Cooldown: 15 seconds
                              Previous Talent: Below the Belt
                              Successive Talent: Lethality
                              Requires: Level 4, 14 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - ธรรมดา ไม่มีอะไรมาก เป็นสกิลที่ใช้เจาะเกราะ ซึ่งถ้ามีค่า Cunning มากพอ ก็แทบจะไม่มีความจำเป็นต้องกดใช้


                              Lethality
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Passive
                              Previous Talent: Deadly Strike
                              Successive Talent: Evasion
                              Requires: Level 8, 23 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              เพิ่มโอกาสการโจมตี Critical และถ้าหากค่า Cunning ของตัวละครมากกว่า Strength, จะทำให้ความแรงในการโจมตีขึ้นอยู่กับค่า Cunning แทนค่า Strength
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็น Passive ที่ยอดมากๆอีกหนึ่ง passive สมควรมีติดตัวไว้อย่างยิ่งยวด


                              Evasion
                              Class(es): Rogue
                              Category: Rogue
                              Type: Passive
                              Previous Talent: Lethality
                              Requires: Level 12, 35 Dexterity
                              Friendly Fire: No
                              เพิ่มโอกาส 1 ใน 5 ในการหลบหลีกการโจมตีธรรมดา, Stun และ Knocked down
                              ความน่าใช้และประสิทธิภาพโดยรวม - เป็น Passive ที่ยอดมากๆอีกหนึ่ง passive สมควรมีติดตัวไว้อย่างยิ่งยวด




                              โปรดติดตามตอนต่อไป
                              ขอบคุณ Prima : Dragon Age : Origins Official Guide Book
                              ขอบคุณ ท่าน Violent สำหรับแปลสกิลต่างๆ ในหน้าแรก ขอบพระคุณอย่างสูง
                              Last edited by bankbond; 23 Jan 2010, 22:14:10.

                              Comment


                              • เล่นใหม่เป็น Rouge สาย D-O อยู่ครับ เนื่องจากเล่น WR สาย*ดาบ*สองมือแล้วไม่เห็นแววรุ่งเท่าที่ควร(Starfang+maric)

                                ดาบมือเดียวที่ใช้เป็น Starfang ครับ ค่าโจมตีขึ้นกับ STR ล้วนๆ

                                เล่นสาย Duelist + Assassin ครับ โหดได้ใจ

                                Comment

                                Working...
                                X