1. ใช้รหัสผ่านแบบง่าย ๆ
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่างด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์รหัสผ่านควรมี 8 ตัวอักษรเป็นอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือการเพิ่มตัวเลขหรือ สัญลักษณ์
ระหว่างกลางคำผ่านเช่น houses เป็น hO27usEs! เป็นต้น
2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้นผู้ไม่หวังดี มักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคาร หรือบัตรเครดิตถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัวระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือแสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว (การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)
3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน หรือเพื่อนของเพื่อนหรือตัวคุณเอง เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัวหรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าหรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
4. ระบุชื่อบุตรหลานโดยมีข้อความที่อธิบายหรือคำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ไม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ(tags) หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้นก็ขอให้ช่วยแก้ไข หรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ในป้ายกำกับ(tags) หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไขหรือลบออกด้วย (เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)
5. การบอกว่ากำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้านหรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า ?ไม่อยู่? ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกันให้รอจนคุณกลับถึงบ้าน แล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนานในการเดินทาง หรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุวันเดือนปี ที่เดินทางก็ได้หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน
6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหาพบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัวและเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าวและให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบสามขวบ หรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งานแต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขาหรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา
?เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย? เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต
ยกตัวอย่างเช่นมีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า ?แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน? มักจะบอกทุก ๆ วันในเวลาเดิมเสมอ มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่ (บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)
จาก http://dinsorsee.net/article/interne...-facebook.html
หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดา หรือคำทั่วไปที่สามารถหาพบได้ในพจนานุกรม หรือแม้แต่ตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว ควรใช้การผสมระหว่างด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร ด้วยตัวเลข หรือสัญลักษณ์รหัสผ่านควรมี 8 ตัวอักษรเป็นอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือการเพิ่มตัวเลขหรือ สัญลักษณ์
ระหว่างกลางคำผ่านเช่น houses เป็น hO27usEs! เป็นต้น
2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้นผู้ไม่หวังดี มักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคาร หรือบัตรเครดิตถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัวระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือแสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว (การติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบัตรเครดิต มักจะต้องตอบข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)
3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน หรือเพื่อนของเพื่อนหรือตัวคุณเอง เช่น การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัวหรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่อยู่ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าหรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
4. ระบุชื่อบุตรหลานโดยมีข้อความที่อธิบายหรือคำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ไม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ(tags) หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ และถ้าได้มีคนอื่นหรือเพื่อนคุณทำเช่นว่านั้นก็ขอให้ช่วยแก้ไข หรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ในป้ายกำกับ(tags) หรือมีคำอธิบายหรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไขหรือลบออกด้วย (เป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการก่ออาชญากรรมบางเรื่องได้ง่าย เพราะรู้ว่าเป็นลูกหลานของใครมีฐานะการเงินเป็นเช่นไร)
5. การบอกว่ากำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้านหรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า ?ไม่อยู่? ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกันให้รอจนคุณกลับถึงบ้าน แล้วค่อยบอกถึงการผจญภัยหรือความสนุกสนานในการเดินทาง หรือการใช้วันหยุดพักผ่อน โดยอาจจะไม่ต้องระบุวันเดือนปี ที่เดินทางก็ได้หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน
6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหาพบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณให้ไปที่การค้นหาของ Facebook ข้อมูลส่วนตัวและเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าวและให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้
7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่าสิบสามขวบ หรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งานแต่หลายคนก็ทำการปลอมอายุเข้าไปใช้ได้ ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองใช้ Facebook วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือการเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขาหรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา
?เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย? เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites, ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต
ยกตัวอย่างเช่นมีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า ?แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจาน? มักจะบอกทุก ๆ วันในเวลาเดิมเสมอ มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมากเกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่ (บอกช่วงเวลาที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน คนร้ายอาจกะระยะเวลาก่อกรรมทำชั่วได้ง่ายขึ้น)
จาก http://dinsorsee.net/article/interne...-facebook.html
Comment