ใครใช้ Notebook อยู่ จะมีประโยชน์มากเลยครับ
1. ตรวจสอบแบตเตอรี่ที่ใช้ว่ายังคงสามารถชาร์จพลังงานได้เต็ม หรือไม่? ซึ่งขั้นตอนของการทดสอบโดยทั่วไปให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน (ดูจาก Power Meter ใน Power Options) จากนั้นปิดโน้ตบุ๊ก ถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อทดสอบว่า มันยังสามารถชาร์จประจุได้เต็ม หรือไม่? โดยมองหาปุ่มที่ใช้ทดสอบที่อยู่บนแบตเตอรี่ ซึ่งบางรุ่นก็จะมีส่วนแสดงผลเล็กๆ ให้สังเกตุได้ง่าย ทั้งนี้จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของผู้ผลิตแต่ละเจ้า
2. ถ้าไม่จำเป็นต้องออนไลน์กับเครือข่ายใดๆ แนะนำให้ออฟไลน์จะดีกว่า (ยกเลิก (disable) การเชื่อมต่อกับเครือข่าย) การเชื่อมต่อเครือข่ายตลอดเวลาจะทำให้โน้ตบุ๊กต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ
3. ถอดอุปกรณ์ USB ออกจากพอร์ต เมื่อไม่ได้ใช้งาน
4. ยกเลิกโพรเซสแบคกราวด์ที่ไม่จำเป็นออกให้หมด อย่างเช่น Rnaap ซึ่งถูกโหลดตอนไดอัลอัพ และค้างอยู่ในหน่วยความจำ หรือ Msmsgs.exe กรณีที่คุณไม่ได้ใช้ Microsoft Messenger เป็นต้น แต่ห้ามยกเลิกโพรเซสของซอฟต์แวร์ไฟร์วอล หรือแอนตี้ไวรัส เพราะมันจะทำให้ระบบของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ยังห้ามลบโพรเซสที่สำคัญของ Windows XP ซึ่งได้แก่ Explorer.exe, LSASS.EXE, services.exe, System และ WINLOGON.EXE ส่วนวิธีกำจัดโพรเซสที่ไม่จำเป็นให้เรียกโปรแกรม Task Manager (กดปุ่ม Ctrl-Alt-Del) แล้วคลิกแท็บ Processes เลือกโพรเซสที่ต้องการลบออกจากหน่วยความจำ คลิกปุ่ม End Process
5. เปลี่ยน Screensaver เป็น “Blank Screen” เพราะมันไม่จำเป็นเลยที่คุณต้องเสียพลังงาน เพื่อแสดงภาพดอกไม้ไฟ, ตู้ปลา หรือข้อความเลื่อนลอย
6. ถึงคุณจะไม่สามารถยกเลิกโพรเซสการทำงานของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส แต่ก็ไม่ควรกำหนดให้ซอฟต์แวร์สแกนระบบโดยสมบูรณ์ขณะที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก เพราะมันจะทำให้พลังงานของแบตฯ หมดเร็วจนน่าใจหายเลยล่ะ (กรณีของการสแกนหาสปายแวร์ด้วย)
7. สำคัญที่สุดคือ เมื่อเวลาที่โน้ตบุ๊กไม่อยู่ในระหว่างการใช้งาน แนะนำให้ชัตดาวน์ระบบ หรืออาจจะเข้าโหมดแสตนด์บาย (standby) หรือไฮเบอร์เนต (hibernate) จะดีกว่าการเปิดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆ
เชื่อว่า หากปฏิบัติตามเทคนิคง่ายๆ ทั้ง 7 ข้อนี้แล้ว คุณจะสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่บนโน้ตบุ๊กได้นานขึ้น ไม่ต้องชาร์จบ่อยเหมือนแต่ก่อน ลองไปทำดูนะครับ สำหรับวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรีให้หมดทุกครั้ง แล้วจึงชาร์จใหม่จนเต็ม และเมื่อเต็มแล้วก็ควรใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการเสียบปลั๊กต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
เพราะแบตฯจะเสื่อมเร็วครับ
1. ตรวจสอบแบตเตอรี่ที่ใช้ว่ายังคงสามารถชาร์จพลังงานได้เต็ม หรือไม่? ซึ่งขั้นตอนของการทดสอบโดยทั่วไปให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มก่อน (ดูจาก Power Meter ใน Power Options) จากนั้นปิดโน้ตบุ๊ก ถอดแบตเตอรี่ออก เพื่อทดสอบว่า มันยังสามารถชาร์จประจุได้เต็ม หรือไม่? โดยมองหาปุ่มที่ใช้ทดสอบที่อยู่บนแบตเตอรี่ ซึ่งบางรุ่นก็จะมีส่วนแสดงผลเล็กๆ ให้สังเกตุได้ง่าย ทั้งนี้จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแบตเตอรี่ของผู้ผลิตแต่ละเจ้า
2. ถ้าไม่จำเป็นต้องออนไลน์กับเครือข่ายใดๆ แนะนำให้ออฟไลน์จะดีกว่า (ยกเลิก (disable) การเชื่อมต่อกับเครือข่าย) การเชื่อมต่อเครือข่ายตลอดเวลาจะทำให้โน้ตบุ๊กต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ
3. ถอดอุปกรณ์ USB ออกจากพอร์ต เมื่อไม่ได้ใช้งาน
4. ยกเลิกโพรเซสแบคกราวด์ที่ไม่จำเป็นออกให้หมด อย่างเช่น Rnaap ซึ่งถูกโหลดตอนไดอัลอัพ และค้างอยู่ในหน่วยความจำ หรือ Msmsgs.exe กรณีที่คุณไม่ได้ใช้ Microsoft Messenger เป็นต้น แต่ห้ามยกเลิกโพรเซสของซอฟต์แวร์ไฟร์วอล หรือแอนตี้ไวรัส เพราะมันจะทำให้ระบบของคุณตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ยังห้ามลบโพรเซสที่สำคัญของ Windows XP ซึ่งได้แก่ Explorer.exe, LSASS.EXE, services.exe, System และ WINLOGON.EXE ส่วนวิธีกำจัดโพรเซสที่ไม่จำเป็นให้เรียกโปรแกรม Task Manager (กดปุ่ม Ctrl-Alt-Del) แล้วคลิกแท็บ Processes เลือกโพรเซสที่ต้องการลบออกจากหน่วยความจำ คลิกปุ่ม End Process
5. เปลี่ยน Screensaver เป็น “Blank Screen” เพราะมันไม่จำเป็นเลยที่คุณต้องเสียพลังงาน เพื่อแสดงภาพดอกไม้ไฟ, ตู้ปลา หรือข้อความเลื่อนลอย
6. ถึงคุณจะไม่สามารถยกเลิกโพรเซสการทำงานของซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส แต่ก็ไม่ควรกำหนดให้ซอฟต์แวร์สแกนระบบโดยสมบูรณ์ขณะที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก เพราะมันจะทำให้พลังงานของแบตฯ หมดเร็วจนน่าใจหายเลยล่ะ (กรณีของการสแกนหาสปายแวร์ด้วย)
7. สำคัญที่สุดคือ เมื่อเวลาที่โน้ตบุ๊กไม่อยู่ในระหว่างการใช้งาน แนะนำให้ชัตดาวน์ระบบ หรืออาจจะเข้าโหมดแสตนด์บาย (standby) หรือไฮเบอร์เนต (hibernate) จะดีกว่าการเปิดเครื่องทิ้งไว้เฉยๆ
เชื่อว่า หากปฏิบัติตามเทคนิคง่ายๆ ทั้ง 7 ข้อนี้แล้ว คุณจะสามารถใช้พลังงานจากแบตเตอรี่บนโน้ตบุ๊กได้นานขึ้น ไม่ต้องชาร์จบ่อยเหมือนแต่ก่อน ลองไปทำดูนะครับ สำหรับวิธียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ แนะนำให้ใช้พลังงานจากแบตเตอรีให้หมดทุกครั้ง แล้วจึงชาร์จใหม่จนเต็ม และเมื่อเต็มแล้วก็ควรใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนการเสียบปลั๊กต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ
เพราะแบตฯจะเสื่อมเร็วครับ
Comment