วิธีฆ่าไวรัสคลิป VDO
ลักษณะของไวรัสคลิป VDO จะอยู่ในรูปของโฟลเดอร์ ที่มีชื่อว่าคลิป VDO ถึงแม้จะทำการลบไวรัสตัวนี้ได้แล้วก็ตาม มันก็จะกลับมาใหม่เพราะมันจะฝังตัวอยู่ในไดร์ฟนั่นเองครับ เอาล่ะ !! เรามาศึกษาวิธีฆ่าเจ้าไวรัสตัวนี้กันเลยครับซึ่งคุณก็สามารถฆ่าได้เอง วิธีการมีดังนี้ครับ
1.เข้าไปที่ windows task manager โดยกด [ Ctrl+Alt+Del ]ไปที่แทบ processes หาไฟล์ที่ชื่อsoundmsg.exe จากนั้นคลิกขวาเลือก end process หรือกด delete แล้วตอบ yes
2.จัดการลบโฟลเดอร์ คลิป VDO ทิ้งได้เลยมันจะไม่กลับมาอีก (จริงๆแล้วมันเป็นไฟล์คลิปVDO.exe แต่มันมีไอคอนรูปโฟลเดอร์ทำให้เราคิดว่ามันเป็นโฟลเดอร์)
3.ไปจัดการกับไฟล์ต้นตอโดยเข้าไปที่ C:\windows\system32 แล้วหาไฟล์ soundmsg.exe มักจะมีไอคอนรูปโฟลเดอร์เหมือนกันกับไฟล์คลิป VDO เลยหรือจะลองใช้วิธี search หาไฟล์ soundomsg.exe ก็ได้ จากนั้นก็จัดการลบมันทิ้ง หรือจะย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ dir\system32ก็ได้ (ถ้ายอยากเก็บเอาไว้เล่น)เพราะทุกครั้งที่ start windowถ้าไฟล์ sondmsg.exe ยังอยู่ใน dir\ system 32 มันจะรันตัวเอง และสร้างไฟล์ คลิป VDO ขึ้นมาใหม่เหมือนเดิม หรือถ้าอยากจะทดลองเล่นก็ลองดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ soundmsg.exe ดูมันจะสร้างไฟล์ VDO ขึ้นมาวิธีแก้ก็ทำตามข้า 1-2 จริง ๆ แล้วมันไม่มีผลอะไรกับเครื่องเลยแค่สร้างความรำคาญเท่านั้น
4.คลิก Start->run พิมพ์ regedit เข้าไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft\Windows\Currentversion\Run]
ลบคีย์ที่ชื่อ Virus test
########################################################################################
ไวรัส flashy.exe
อาการเบื้องต้นของเครื่องที่ติดไวรัส flashy.exe
ไม่สามารถเรียกใช้ Task Manager, Registry Editor และFolder Option ได้ ไม่ว่าจะเรียกด้วยวิธีใด
เครื่องคอมพิวเตอร์จะถูกกำหนดให้มีการตั้งรหัสผ่านสำหรับ Admin ทันที ทำให้เราเข้าเครื่องฯไม่ได้ เพราะไม่ทราบรหัสผ่าน
Flashy.exe จะทำการแก้รหัสของเราใหม่ ทำให้ไม่สามารถ Login เข้าเครื่องของเราได้อีกเลย
เมื่อมีการ plug in Flash Drive หรือ Memory Card เข้าไปใน Card Reader แล้ว หากว่า ใน Memory Card นั้นมี Folder อยู่ Folder เหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนให้ไปอยู่ใน สถานะ Hidden ทำให้เราไม่สามารถมองเห็น Folder เหล่านั้นได้
ฯลฯ
วิธีกำจัดไวรัส flashy.exe
ขั้นตอนต่างๆ ต้องทำ ใน Safe mode ครับ ถึงจะได้ผล
1. ถ้าเครื่องที่มีอาการหนักจะถูกตั้งรหัสผ่าน Administrator เอาไว้ ให้ทำการแก้ไขโดยพิมพ์ คำว่า hacked เป็นรหัสผ่าน ซึ่งหากไม่รู้วิธีแก้ปัญหาโดยการติดตั้ง Windows ใหม่อย่างเดียว
2. เมื่อเราเข้าวินโดว์ได้แล้วให้เราหยุดการทำงานของมันก่อน โดยกด Ctrl+Alt+Delete จะเข้าสู่ Windows task Manager แล้วเลือกคลิก Flashy.exe แล้วคลิก End Process ตรงมุมขวาด้านล่าง
3. กรณีถ้าเข้า Windows Task Manager ไม่ได้ (ถ้าเข้าได้ให้ข้ามไปข้อ 6) ให้เราเข้าไปแก้ใน registy แต่ไวรัสยังปิดการเข้าใช้งาน Registry เอาไว้อีก ให้ใช้ตัว Unhookexec.inf ปลดล็อคก่อน โดยดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บ http://www.kku.ac.th/data/services/it/UnHookExec.inf เมื่อโหลดมาแล้วก็คลิกขวา แล้วเลือก Install แต่ถ้าเครื่องไหนที่ติดไวรัส หน้าจอภาษาจีนด้วยต้อง ฆ่าก่อนนะครับไม่อย่างนั้น จะใช้ UnHookExec.inf ไม่ได้ผล
4. จากนั้นก็จะเข้าใช้งานส่วน Registry ได้ครับ เมื่อเข้าได้แล้วก็ไปทำการ แก้ไข Registry ให้เครื่องใช้งาน Task Manager ได้ครับ โดย ไปที่ Start--->Run พิมพ์ regedit กด OK แล้วเข้าไปลบคีย์ตามนี้ครับ
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\system แล้วก็ลบ DisableRedistryTools และ DisableTaskMgr ออกครับ
5. เมื่อลบออกได้แล้วก็ไปทำตาม ข้อ 2 ครับ
6. แล้วตอนนี้มันก็หยุดการทำงานแล้วครับ ต่อไปเราต้องเข้า regedit แล้ว ไปที่ Start--->Run พิมพ์ regedit แล้วเข้าไปลบคีย์ตามนี้ครับ
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Current\Version\Policie\sExplorer ลบ NoFolderOptions
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Current\Version\Explorer\Advanced ลบ HideFileExt
HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\Current\ControlSet\Services\Shared\Access ลบ Start
HKEY_LOCAL_MACHINE\SoftwareMicrosoft\Windows\Current\Version\Run ลบ Flashy.exe
จากนั้นคลิก StartProgramsStartup ลบ SystemID.pif
จากนั้นคลิก Start--->Run พิมพ์ msconfig ไปที่แถบ startup ยกเลิกติ๊กถูกหน้า systemID
รีสตาร์ทเครื่องใหม่ แล้วลองกด Ctrl+Alt+Delete ดูว่า Flashy.exe ยังมีการทำงานอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าเรียบร้อยแล้ว
ต่อไปการแก้ไขส่วนที่ไวรัสสร้าง ให้เราต้องใส่รหัสทุกครั้ง เวลาจะเปิดเครื่อง
คลิก StartControl panelUser accounts
เลือก User แรก (Administrator) จะสังเกตุเห็นว่ามีข้อความแสดงว่า มีการใช้รหัสผ่านป้องกันอยู่
ให้คลิกที่ User แรก (Administrator) แล้วเลือก หัวข้อ Change a password
พิมพ์รหัสผ่าน Hacked ในช่องแรก ( ช่องรหัสผ่านเดิม) ช่องที่เหลือเว้นว่างไว้
ยืนยันการเปลี่ยนรหัสผ่าน แล้วลองรีสตาร์ทเครื่องใหม่
หรือ
เข้า Run พิมพ์ regedit แล้วไปตามนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft\Windows NTCurrent\Version\Winlogon]
แก้สตริงคีย์ตามนี้ครับหากไม่มีก็คลิกขาวเลือก New-->String value
ตามนี้ครับ
"AutoAdminLogon"="1"
"DefaultUserName"=" ชื่อผู้ใช้"
"DefaultPassword"hacked"
** หลังจากทำตามขั้นตอนเสร็จหมดแล้วให้ไปลบตัวไวรัสชื่อ Flashy.exe ใน C:WINDOWSsystem32
ต้องเปิด Show hidden File ก่อนถึงจะเห็น**
########################################################################################
วิธีแก้ไวรัส Hacked
ไวรัส Hacked เป็นไวรัสตัวใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ จัดเป็น spyware ที่ก่อกวนการทำงานมากกว่าจะทำลายข้อมูล โดยจะเป็นการติดผ่าน Handy Drive และ Floppy Disk เท่านั้น
ลักษณะอาการ
1. เครื่องจะไม่สามารถดับเบิ้ลคลิกเปิดไดร์ฟต่างๆได้ แต่จะคลิกเมาส์ขวาเพื่อเปิดไดร์ฟโดยเลือกเมนู Open หรือ Explore
2. มีข้อความปรากฏบน Title Bar ของ Internet Explorer ว่า “Hacked By Godzilla”
วิธีการแก้ไขเมื่อติดไวรัส Godzilla
1. ดับเบิ้ลคลิก ไอคอน My Computer ที่เดสก์ท็อป ที่เมนู Tools เลือก Folder Options คลิกแท็ป View ติ๊กเลือก Show Hidden files and folders
2. ปลดเครื่องหมายถูกหน้า Hide extention… และ Hide protected operating system file ออก คลิก OK
3. กดปุ่ม [Ctrl+Alt+Delete] ที่คีย์บอร์ด เพื่อเรียก Task Manager คลิกแท็ป Processes คลิกเลือกเมนู Image Name (เพื่อ sort File) คลิกเลือกไฟล์ wscript.exe (ทีละตัว) คลิกปุ่ม End Process
4. เปิดไดร์ฟ (โดยคลิกขวาเลือก Explore ห้ามดับเบิ้ลคลิกไดร์ฟ ) ทำการลบไฟล์ autorun.inf และ MS32DLL.dll.vbs ออก (โดยกด Shift+Delete ) ทุกไดร์ฟที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งรวมทั้ง Handy Drive และ Floppy disk ด้วย
5. เปิดโฟลเดอร์ C:\WINDOWS เพื่อลบไฟล์ MS32DLL.dll.vbs ออก (โดยกด Shift+Delete )
6. ไปที่ปุ่ม Start->Run พิมพ์ regedit คลิก OK เข้าไปที่คีย์ [HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Current Version\Run] ลบไฟล์ MS32DLL (โดยการกดปุ่ม Delete ที่คีย์บอร์ด )
7. เข้าไปที่คีย์ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\Main] ลบไฟล์ที่ Window Title “Hacked by Godzilla” (โดยการกดปุ่ม Delete ที่คีย์บอร์ด )
8. คลิกปุ่ม Start->Run พิมพ์ gpedit.msc กดปุ่ม OK คลิกเลือก [User Configuration->Administrative Templates->System] ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ Turn Off Autoplay เลือก Enabled เลือก All drives คลิก OK เพื่อป้องกันการเปิดไดร์ฟอัตโนมัติ ในกรณีที่นำแผ่นซีดี หรือ Handy Drive มาใช้งานซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้เกิดการติดไวรัสได้ง่ายขึ้น
9. คลิกปุ่ม Start->Run พิมพ์คำสั่ง msconfig กดปุ่ม OK คลิกแท็ป Startup ปลดเครื่องหมายถูกหน้า MS32DLL ออก คลิกปุ่ม Apply คลิกปุ่ม OK (หรือ Close) เลือก Exit Without Restart
10. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน Mycomputer ที่เดสก์ท็อป ที่เมนู Tools เลือก Folder Options คลิกแท็ป View ติ๊กถูกหน้า Hide extention… และ Hide protected operating system file คลิก OK
11. คลิกขวาที่ไอคอน Recycle bin เลือกคำสั่ง Empty Recycle bin เพื่อยืนยันการลบไฟล์ไวรัสออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
ลักษณะของไวรัสคลิป VDO จะอยู่ในรูปของโฟลเดอร์ ที่มีชื่อว่าคลิป VDO ถึงแม้จะทำการลบไวรัสตัวนี้ได้แล้วก็ตาม มันก็จะกลับมาใหม่เพราะมันจะฝังตัวอยู่ในไดร์ฟนั่นเองครับ เอาล่ะ !! เรามาศึกษาวิธีฆ่าเจ้าไวรัสตัวนี้กันเลยครับซึ่งคุณก็สามารถฆ่าได้เอง วิธีการมีดังนี้ครับ
1.เข้าไปที่ windows task manager โดยกด [ Ctrl+Alt+Del ]ไปที่แทบ processes หาไฟล์ที่ชื่อsoundmsg.exe จากนั้นคลิกขวาเลือก end process หรือกด delete แล้วตอบ yes
2.จัดการลบโฟลเดอร์ คลิป VDO ทิ้งได้เลยมันจะไม่กลับมาอีก (จริงๆแล้วมันเป็นไฟล์คลิปVDO.exe แต่มันมีไอคอนรูปโฟลเดอร์ทำให้เราคิดว่ามันเป็นโฟลเดอร์)
3.ไปจัดการกับไฟล์ต้นตอโดยเข้าไปที่ C:\windows\system32 แล้วหาไฟล์ soundmsg.exe มักจะมีไอคอนรูปโฟลเดอร์เหมือนกันกับไฟล์คลิป VDO เลยหรือจะลองใช้วิธี search หาไฟล์ soundomsg.exe ก็ได้ จากนั้นก็จัดการลบมันทิ้ง หรือจะย้ายไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ dir\system32ก็ได้ (ถ้ายอยากเก็บเอาไว้เล่น)เพราะทุกครั้งที่ start windowถ้าไฟล์ sondmsg.exe ยังอยู่ใน dir\ system 32 มันจะรันตัวเอง และสร้างไฟล์ คลิป VDO ขึ้นมาใหม่เหมือนเดิม หรือถ้าอยากจะทดลองเล่นก็ลองดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ soundmsg.exe ดูมันจะสร้างไฟล์ VDO ขึ้นมาวิธีแก้ก็ทำตามข้า 1-2 จริง ๆ แล้วมันไม่มีผลอะไรกับเครื่องเลยแค่สร้างความรำคาญเท่านั้น
4.คลิก Start->run พิมพ์ regedit เข้าไปที่คีย์
[HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft\Windows\Currentversion\Run]
ลบคีย์ที่ชื่อ Virus test
########################################################################################
ไวรัส flashy.exe
อาการเบื้องต้นของเครื่องที่ติดไวรัส flashy.exe
ไม่สามารถเรียกใช้ Task Manager, Registry Editor และFolder Option ได้ ไม่ว่าจะเรียกด้วยวิธีใด
เครื่องคอมพิวเตอร์จะถูกกำหนดให้มีการตั้งรหัสผ่านสำหรับ Admin ทันที ทำให้เราเข้าเครื่องฯไม่ได้ เพราะไม่ทราบรหัสผ่าน
Flashy.exe จะทำการแก้รหัสของเราใหม่ ทำให้ไม่สามารถ Login เข้าเครื่องของเราได้อีกเลย
เมื่อมีการ plug in Flash Drive หรือ Memory Card เข้าไปใน Card Reader แล้ว หากว่า ใน Memory Card นั้นมี Folder อยู่ Folder เหล่านั้นจะถูกเปลี่ยนให้ไปอยู่ใน สถานะ Hidden ทำให้เราไม่สามารถมองเห็น Folder เหล่านั้นได้
ฯลฯ
วิธีกำจัดไวรัส flashy.exe
ขั้นตอนต่างๆ ต้องทำ ใน Safe mode ครับ ถึงจะได้ผล
1. ถ้าเครื่องที่มีอาการหนักจะถูกตั้งรหัสผ่าน Administrator เอาไว้ ให้ทำการแก้ไขโดยพิมพ์ คำว่า hacked เป็นรหัสผ่าน ซึ่งหากไม่รู้วิธีแก้ปัญหาโดยการติดตั้ง Windows ใหม่อย่างเดียว
2. เมื่อเราเข้าวินโดว์ได้แล้วให้เราหยุดการทำงานของมันก่อน โดยกด Ctrl+Alt+Delete จะเข้าสู่ Windows task Manager แล้วเลือกคลิก Flashy.exe แล้วคลิก End Process ตรงมุมขวาด้านล่าง
3. กรณีถ้าเข้า Windows Task Manager ไม่ได้ (ถ้าเข้าได้ให้ข้ามไปข้อ 6) ให้เราเข้าไปแก้ใน registy แต่ไวรัสยังปิดการเข้าใช้งาน Registry เอาไว้อีก ให้ใช้ตัว Unhookexec.inf ปลดล็อคก่อน โดยดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บ http://www.kku.ac.th/data/services/it/UnHookExec.inf เมื่อโหลดมาแล้วก็คลิกขวา แล้วเลือก Install แต่ถ้าเครื่องไหนที่ติดไวรัส หน้าจอภาษาจีนด้วยต้อง ฆ่าก่อนนะครับไม่อย่างนั้น จะใช้ UnHookExec.inf ไม่ได้ผล
4. จากนั้นก็จะเข้าใช้งานส่วน Registry ได้ครับ เมื่อเข้าได้แล้วก็ไปทำการ แก้ไข Registry ให้เครื่องใช้งาน Task Manager ได้ครับ โดย ไปที่ Start--->Run พิมพ์ regedit กด OK แล้วเข้าไปลบคีย์ตามนี้ครับ
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Policies\system แล้วก็ลบ DisableRedistryTools และ DisableTaskMgr ออกครับ
5. เมื่อลบออกได้แล้วก็ไปทำตาม ข้อ 2 ครับ
6. แล้วตอนนี้มันก็หยุดการทำงานแล้วครับ ต่อไปเราต้องเข้า regedit แล้ว ไปที่ Start--->Run พิมพ์ regedit แล้วเข้าไปลบคีย์ตามนี้ครับ
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Current\Version\Policie\sExplorer ลบ NoFolderOptions
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\Current\Version\Explorer\Advanced ลบ HideFileExt
HKEY_LOCAL_MACHINE\SYSTEM\Current\ControlSet\Services\Shared\Access ลบ Start
HKEY_LOCAL_MACHINE\SoftwareMicrosoft\Windows\Current\Version\Run ลบ Flashy.exe
จากนั้นคลิก StartProgramsStartup ลบ SystemID.pif
จากนั้นคลิก Start--->Run พิมพ์ msconfig ไปที่แถบ startup ยกเลิกติ๊กถูกหน้า systemID
รีสตาร์ทเครื่องใหม่ แล้วลองกด Ctrl+Alt+Delete ดูว่า Flashy.exe ยังมีการทำงานอีกหรือไม่ ถ้าไม่มีแสดงว่าเรียบร้อยแล้ว
ต่อไปการแก้ไขส่วนที่ไวรัสสร้าง ให้เราต้องใส่รหัสทุกครั้ง เวลาจะเปิดเครื่อง
คลิก StartControl panelUser accounts
เลือก User แรก (Administrator) จะสังเกตุเห็นว่ามีข้อความแสดงว่า มีการใช้รหัสผ่านป้องกันอยู่
ให้คลิกที่ User แรก (Administrator) แล้วเลือก หัวข้อ Change a password
พิมพ์รหัสผ่าน Hacked ในช่องแรก ( ช่องรหัสผ่านเดิม) ช่องที่เหลือเว้นว่างไว้
ยืนยันการเปลี่ยนรหัสผ่าน แล้วลองรีสตาร์ทเครื่องใหม่
หรือ
เข้า Run พิมพ์ regedit แล้วไปตามนี้
HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Microsoft\Windows NTCurrent\Version\Winlogon]
แก้สตริงคีย์ตามนี้ครับหากไม่มีก็คลิกขาวเลือก New-->String value
ตามนี้ครับ
"AutoAdminLogon"="1"
"DefaultUserName"=" ชื่อผู้ใช้"
"DefaultPassword"hacked"
** หลังจากทำตามขั้นตอนเสร็จหมดแล้วให้ไปลบตัวไวรัสชื่อ Flashy.exe ใน C:WINDOWSsystem32
ต้องเปิด Show hidden File ก่อนถึงจะเห็น**
########################################################################################
วิธีแก้ไวรัส Hacked
ไวรัส Hacked เป็นไวรัสตัวใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ จัดเป็น spyware ที่ก่อกวนการทำงานมากกว่าจะทำลายข้อมูล โดยจะเป็นการติดผ่าน Handy Drive และ Floppy Disk เท่านั้น
ลักษณะอาการ
1. เครื่องจะไม่สามารถดับเบิ้ลคลิกเปิดไดร์ฟต่างๆได้ แต่จะคลิกเมาส์ขวาเพื่อเปิดไดร์ฟโดยเลือกเมนู Open หรือ Explore
2. มีข้อความปรากฏบน Title Bar ของ Internet Explorer ว่า “Hacked By Godzilla”
วิธีการแก้ไขเมื่อติดไวรัส Godzilla
1. ดับเบิ้ลคลิก ไอคอน My Computer ที่เดสก์ท็อป ที่เมนู Tools เลือก Folder Options คลิกแท็ป View ติ๊กเลือก Show Hidden files and folders
2. ปลดเครื่องหมายถูกหน้า Hide extention… และ Hide protected operating system file ออก คลิก OK
3. กดปุ่ม [Ctrl+Alt+Delete] ที่คีย์บอร์ด เพื่อเรียก Task Manager คลิกแท็ป Processes คลิกเลือกเมนู Image Name (เพื่อ sort File) คลิกเลือกไฟล์ wscript.exe (ทีละตัว) คลิกปุ่ม End Process
4. เปิดไดร์ฟ (โดยคลิกขวาเลือก Explore ห้ามดับเบิ้ลคลิกไดร์ฟ ) ทำการลบไฟล์ autorun.inf และ MS32DLL.dll.vbs ออก (โดยกด Shift+Delete ) ทุกไดร์ฟที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งรวมทั้ง Handy Drive และ Floppy disk ด้วย
5. เปิดโฟลเดอร์ C:\WINDOWS เพื่อลบไฟล์ MS32DLL.dll.vbs ออก (โดยกด Shift+Delete )
6. ไปที่ปุ่ม Start->Run พิมพ์ regedit คลิก OK เข้าไปที่คีย์ [HKEY_LOCAL_MACHINE\Software\Current Version\Run] ลบไฟล์ MS32DLL (โดยการกดปุ่ม Delete ที่คีย์บอร์ด )
7. เข้าไปที่คีย์ [HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Internet Explorer\Main] ลบไฟล์ที่ Window Title “Hacked by Godzilla” (โดยการกดปุ่ม Delete ที่คีย์บอร์ด )
8. คลิกปุ่ม Start->Run พิมพ์ gpedit.msc กดปุ่ม OK คลิกเลือก [User Configuration->Administrative Templates->System] ดับเบิ้ลคลิกไฟล์ Turn Off Autoplay เลือก Enabled เลือก All drives คลิก OK เพื่อป้องกันการเปิดไดร์ฟอัตโนมัติ ในกรณีที่นำแผ่นซีดี หรือ Handy Drive มาใช้งานซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้เกิดการติดไวรัสได้ง่ายขึ้น
9. คลิกปุ่ม Start->Run พิมพ์คำสั่ง msconfig กดปุ่ม OK คลิกแท็ป Startup ปลดเครื่องหมายถูกหน้า MS32DLL ออก คลิกปุ่ม Apply คลิกปุ่ม OK (หรือ Close) เลือก Exit Without Restart
10. ดับเบิ้ลคลิกไอคอน Mycomputer ที่เดสก์ท็อป ที่เมนู Tools เลือก Folder Options คลิกแท็ป View ติ๊กถูกหน้า Hide extention… และ Hide protected operating system file คลิก OK
11. คลิกขวาที่ไอคอน Recycle bin เลือกคำสั่ง Empty Recycle bin เพื่อยืนยันการลบไฟล์ไวรัสออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์อีกครั้ง
Comment