Announcement

Collapse
No announcement yet.

30 TIP แบ่งๆกันรู้ แบ่งปันรอยหยัก

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    Originally posted by gumiru View Post
    ผมขอถามคับ
    คือเครื่องผม ไม่สามารถใส่ภาพหน้าจอได้คับ คำสั่งต่างๆมันไม่แอคทีฟ ต้องทำไงคับ
    ตั้งกระทู้ใหม่เลยครับ น่าจะได้คำตอบเร็วกว่า ... ผมเองก็ไม่รู้ครับเดี่ยวรอคนอื่น..

    Comment


    • #32
      ขอบคุณครับ

      Comment


      • #33
        Defrag อย่างไร? ไม่ให้สะดุด!!!


        ไอเดียของวินทิปครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเมื่อเดือนที่แล้วในคอลัมน์ Smart Tip พูดถึงปัญหาการทำ Defragment ที่เริ่มต้นใหม่เอง เมื่อมันทำงานไปได้ 10-20 นาที ซึ่งเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดมาก อย่างไรก็ตาม เราพบว่า นอกจากการแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ได้นำเสนอไปแล้ว หากผู้ใช้ต้องการให้ Defragmenter ทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไป

        ในขณะที่ไอเดียของการแก้ข้อกำหนดเริ่มต้นของการทำงานของวินโดวส์ (Windows Startup) จะช่วยให้การจัดระเบียบฮาร์ดดิสก์ด้วยยูทิลิตี้ Defragmenter สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องแล้ว มันยังมีอีกขั้นตอนหนึ่งที่ทำให้การทำงานของยูทิลิตี้ตัวนี้สะดุด ทำงานช้าลง หรือแน่นิ่งไปเลย นั่นก็คือ โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) บนวินโดวส์ที่มักจะโผล่เด้งขึ้นมาตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแก้ไขในขั้นตอนนี้สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะเพียงแค่เปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับเวลาทำงานของพวกมันก็พอแล้ว

        เนื่องจากโปรแกรมรักษาหน้าจอส่วนใหญ่จะได้รับการกำหนดให้เริ่มทำงานเมื่อไม่มีการแตะต้องเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 15 นาที หรือขึ้นอยู่กับผู้ใช้แต่ละคนกำหนดไว้ ผมไม่ปฏิเสธครับว่า โปรแกรมรักษาหน้าจอมีคุณอนันต์ต่อมอนิเตอร์ แต่หากคุณต้องการรัน Defragmenter แนะนำให้ตั้งค่าเวลาทำงานของโปรแกรมรักษาหน้าจอให้ยาวนานออกไปอีกจะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้น มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้โปรแกรม Defragmenter หยุดชะงักชั่วคราว หรือพักยาวไปเลยก็ได้ เนื่องจากมันทำให้โพรเซสการทำงานโดยรวมของระบบช้าลงนั่นเอง

        บางครั้งผู้ใช้อาจจะได้รับการแจ้งข้อผิดพลาดของการทำงานในลักษณะที่ว่า Defragmenter ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เนื่องจากมันมีภารกิจบางอย่างที่ทำให้ต้องเริ่มทำงานกันใหม่ ซึ่งหาใช่ใครที่ไหนที่ป่วนการทำงานของมัน นอกจากเจ้าโปรแกรมพักหน้าจอที่เรากำลังพูดถึงนั่นเอง





        เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น ให้คุณคลิกขวาบนพื้นที่ว่างของเดสก์ทอป แล้วเลือกคำสั่ง Properties คลิกแท็บ Screen Saver ในช่อง Wait minutes เปลี่ยนช่วงเวลารอคอยของการทำงานเป็น 60 นาที หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่า คอมพิวเตอร์ของคุณจะใช้เวลาดีแฟลกนานแค่ไหน พยายามตั้งค่าเวลาให้มากกว่าก็แล้วกัน เสร็จแล้วคลิกปุ่ม OK การทำเช่นนี้ ก็เพือให้ช่วงเวลาที่รันโปรแกรม Defragmenter ไม่มีอะไรมารบกวนนั่นเอง คราวนี้หลังจากที่ทำ defrag เสร็จแล้ว คุณสามารถกลับไปแก้ไขเวลาทำงานของ Screen Saver เหมือนเดิมได้แล้วครับ อ้อ...ยังไงก็อย่าลืมทำขั้นตอนที่แนะนำให้ Smart Tip ก่อนหน้านี้ด้วยนะครับ

        Comment


        • #34
          อุปกรณ์ยูเอสบี เพี้ยน หรือเปล่า?


          ถาม: ผมมักจะใช้อุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมๆ กัน (กล้องดิจอล ปาล์ม ฯลฯ) ต่อเชื่อมกับฮับยูเอสบีเพียงตัวเดียว โดยต่อมาจากพอร์ตยูเอสบีบนเครื่องคอมพ์อีกทีหนึ่ง ปัญหาที่พบคือ บางทีอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับฮับยูเอสบีก็หยุดทำงานเสียดื้อๆ และพอผมเสียบเครื่องอ่านการ์ดหน่วยความจำแฟลชเข้าไป คอมพิวกลับมองไม่เห็นอุปกรณ์ดังกล่าวอีกด้วย อยากทราบว่า ผมควรจะทำอย่างไรดีครับ?
          ตอบ: ขั้นแรก ลองถอดเครื่องอ่านการ์ดหน่วยความจำออกจากฮับ แล้วต่อตรงกับพอร์ตยูเอสบี (USB) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้ายังคงได้รับข้อความแจ้งเหมือนเดิม อาจเป็นไปได้ว่า เครื่องอ่านการ์ดหน่วยความจำของคุณต้องการไดรเวอร์ ซึ่งไดรเวอร์ของมันอาจมีปัญหาก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง ผมว่า ลองหาเครื่องอ่านการ์ดรีดเดอร์ตัวใหม่ดีกว่า
          อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสงสัยก็คือ อุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณใช้เชื่อมต่อกับพอร์ตยูเอสบีไม่ได้ใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าของตัวเอง แต่ใช้ไฟจากพอร์ตยูเอสบีบนคอมพิวเตอร์ ซึ่งลำพังแค่ปาล์ม หรือกล้องดิจิตอล พอร์ตยูเอสบีก็คงสามารถจ่ายไฟเพื่อทำงานกับอุปกรณ์เหล่านั้นได้เพียงพอ
          แต่การที่คุณเสียบอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับฮับยูเอสบี โดยเฉพาะฮับยูเอสบีที่ไม่มีแหล่งพลังงานเป็นของตนเอง แต่ใช้พลังงานไฟฟ้าโดยตรงจากพอร์ตยูเอสบีบนคอมพิวเตอร์โดยตรง นอกจากแหล่งพลังงานไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะถูกใช้ไปโดยฮับยูเอสบีแล้ว พลังงานไฟฟ้าที่เหลือยังถูกแบ่งออกไป เพื่อจ่ายให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับมันอีกด้วย ซึ่งในกรณีที่อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเป็นสแกนเนอร์ หรือเครื่องพิมพ์ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะพวกมันมีแหล่งพลังงานเป็นของตนเอง
          ในกรณีของคุณ หลังจากที่เสียบกล้องดิจิตอล และปาล์มเข้าไปในฮับแล้ว มันอาจจะไม่มีพลังงานไฟฟ้าเหลือพอที่จะจ่ายให้กับการ์ดรีดเดอร์ของคุณก็ได้ ถ้าคุณยังจำเป็นต้องใช้ฮับยูเอสบี แนะนำให้มองหาชนิดที่มีพาวเวอร์ซัพพลายเป็นของตนเอง (มีอะแดปเตอร์) น่าจะช่วยได้ครับ

          Comment


          • #35
            หยุด XP ไม่ให้สะกดรอยตามคุณ


            ถาม: เนื่องจาก Windows XP จะมีการบันทึกการใช้งานบางอย่างไว้ในระบบด้วย เช่น รายชื่อไฟล์เอกสารที่เคยเปิดก่อนหน้านี้ (Recent Documents) ซึ่งผมเกรงว่า คนอื่นที่มาใช้เครื่องของผมจะสามารถแอบเปิดไฟล์เหล่านี้ขึ้นมาอ่านได้ ผมเองพอจะทราบวิธีที่จะลบมันออกไป แต่มันก็มีขั้นตอนอยู่พอสมควร แล้วบางทีก็ลืมลบอีกต่างหาก ไม่ทราบว่า พอจะแนะนำวิธีที่ดีกว่านี้ให้ผมได้ไหมครับ?

            ตอบ: ก่อนหน้านั้น ผมเคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะที่คุณว่าเหมือนกัน ตอนแรกก็แปลกใจที่เขารู้เรื่องที่เราพิมพ์ไว้ในไฟล์เอกสารนั้นได้อย่างไร? ทั้งๆ ที่เราซ่อนไว้อย่างดีแล้ว แต่ด้วยความหวังดีของ Windows XP ที่ไม่ต้องการให้ผู้ใช้เสียเวลาค้นหาไฟล์งานที่เพิ่งทำเสร็จก่อนหน้านี้ มันก็เลยก็ทำหน้าที่เป็นสปายสายลับสะกดรอยตาม และจัดเก็บรายชื่อไฟล์เอกสารเหล่านี้ไว้ใน Recent Documents ซึ่งเป็นสาเหตุให้ใครบางคนล่วงละเมิดแอบอ่านเรื่องส่วนตัวของผมเข้าจนได้
            แต่อย่างว่า เหรียญมีสองด้านฉันใด ของที่ดูว่าดีมีประโยชน์ย่อมมีโทษแอบแฝงอยู่ด้วยฉันนั้น ถ้าหากคุณกังวลในเรื่องนี้มาก นายเกาเหลาก็มีวิธีที่จะหยุดไม่ให้ Windows XP เก็บรายชื่อไฟล์เอกสารเหล่านั้นอีกต่อไป โดยให้คุณคลิกขวาบนปุ่ม Start เลือกคำสั่ง Properties จากนั้นคลิกแท็บ Start Menu คลิกปุ่ม Customize แล้วคลิกแท็บ Advanced ที่ด้านล่างของไดอะล็อกบ๊อกซ์ให้ยกเลิกเช็คบ๊อกซ์หน้าข้อความ “List my most recently opened documents” จากนั้นคลิกปุ่ม “Clear List” เพื่อลบรายชื่อไฟล์ที่จัดเก็บก่อนหน้านี้
            เพียงแค่นี้ Windows XP ก็จะไม่คอยติดตามเก็บรายชื่อไฟล์เอกสารที่ถูกเปิดก่อนหน้านี้แล้ว




            อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ผมแนะนำให้คุณเปิดบัญชีผู้ใช้ (User Accounts) สำหรับผู้ใช้คนอื่นๆ ที่ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันกับคุณไปเลยจะปลอดภัยกว่านะครับ

            Comment


            • #36
              ลง MS Office 97 Thai บน Windows XP แล้วเปลี่ยนใช้เมนูภาษาอังกฤษไม่ได้ ??


              สำหรับผู้ที่ชอบใช้งาน Office 97 แต่เอามาลงบน Windows XP จะพบว่าตัว Shortcut ของ Office97 Language Switcher ไม่มีให้ใช้งาน ที่จริงแล้วตัว Shortcut นี้ยังมีอยู่ตามปกติใน C:\Program Files\Microsoft Office แต่จะไม่สามารถใช้งานได้ โดยที่เมื่อกดเลือกเปลี่ยนภาษาของเมนู จะมีข้อความแจ้งผิดพลาด เนื่องจากโปรแกรมตรวจสอบพบว่าไม่ได้ทำงานอยู่บน Windows Thai การแก้ไข ทำได้ง่าย ๆ โดยสร้างไฟล์เปล่า ๆ ขึ้นมาด้วย Notepad โดยไม่ต้องพิมพ์อะไรลงไปเลย จากนั้น save as ให้เป็นชื่อไฟล์ lpkthai.dll แล้วก็ copy ไปใส่ไว้ใน C:\WINDOWS\system32 จากนั้นก็บูตเครื่องใหม่ครั้งหนึ่ง ก็จะใช้งาน Office97 Language Switcher ในการเลือกภาษาของเมนูได้แล้ว

              Comment


              • #37
                ลูกกลิ้งกลางปุ่มเมาส์ทำอะไรมากกว่าที่คุณคิด


                ถ้าเมาส์ที่ใช้อยู่เป็นชนิดที่มีปุ่มกลางเป็นลูกกลิ้ง โดยเฉพาะของไมโครซอฟท์คุณอาจจะไม่ทราบว่า มันมีประโยชน์มากกว่าแค่ใช้เลื่อนหน้าเอกสารขึ้นลงเท่านั้น เนื่องจากลูกกลิ้งดังกล่าวสามารถทำหน้าที่เป็นปุ่มได้ด้วยไม่เชื่อลองกดบนตัวมันดูสิครับ

                ถ้าอย่างนั้นเราสามารถใช้ปุ่มลูกกลิ้งทำอะไรได้บ้างละครับ? คุณสามารถพบคำตอบได้โดยกดปุ่ม Windows + R พิมพ์คำสั่ง Control Panel ดับเบิ้ลคลิ้กบนไอคอน Mouse คลิ้กแท็บ Buttons แล้วลองคลิ้กเมนูดรอปดาวน์ของ Wheel Button คุณจะเห็นว่ามันมีฟังก์ชันการทำงานพิเศษให้เลือกเกือบ 30 รายการเลยทีเดียวตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก Start ( Custom) คุณจะสามารถกำหนดให้การกลิ้งลูกกลิ้งที่อยู่ตรงกลางปุ่มเมาส์ หมายถึง การเปิดโปรแกรมหรือ แอพพลิเคชันที่ต้องการได้ เป็นต้น

                ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการทำงานให้กับลูกกลิ้งที่อยู่กลางปุ่มเมาส์ ซ้ายขวาได้เกือบ 30 ฟังก์ชันเลยทีเดียว (ในกรณีที่คุณไม่ใช้เมาส์ของไมโครซอฟท์ ลองตรวจสอบดูว่า เมาส์ที่ซื้อมามีซอฟต์แวร์มาให้ด้วยหรือไม่? เพราะฟังก์ชันพิเศษเหล่านี้อาจจะต้องได้รับการติดตั้งเพิ่มเติมเข้าไปด้วย)

                ทิปจากหนังสือคอมพิวเตอร์ทูเดย์

                Comment


                • #38
                  ขอบคุณมากครับ

                  Comment


                  • #39
                    Very interesting

                    cialis
                    Sildenafil citrate, sold under the names Viagra, Revatio and generically under various other names, is a drug used to treat male erectile dysfunction (impotence) and pulmonary arterial hypertension (PAH), developed by the pharmaceutical company Pfizer.
                    tramadol
                    Even though sildenafil is only available by prescription from a doctor, it was advertised directly to consumers on US TV (famously being endorsed by Bob Dole and Football star Pele'). Numerous sites on the Internet offer Viagra for sale after an "online consultation", a mere web questionnaire.
                    viagra

                    Comment


                    • #40
                      ขอบคุณมากๆครับ หลายๆอันยังไม่รู้เลยครับ

                      Comment


                      • #41
                        เก่าแล้วแต่ก้อขอบคุณครับ

                        Comment


                        • #42
                          สุดยอดครับ

                          Comment


                          • #43
                            เป็นประโยชน์มากๆ ^_^

                            Comment


                            • #44
                              โอ้วว์ ..เพิ่มขึ้นตั้งหลายหยัก ดีมากเลย

                              Comment


                              • #45
                                ขอบคุณคับ

                                Comment

                                Working...
                                X