โดย นิตยสารคอมพิวเตอร์.ทูเดย์
อัพเดต 4 กันยายน 2006 เวลา 08:27 น.
ถาม: จู่ๆ คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ก็แจ้งเตือนว่า “Windows is increasing your virtual memory” ซึ่งดิฉันไม่เข้าใจความหมายของมันจริงๆ ค่ะ แล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดีคะ?
ตอบ: Virtual memory หรือหน่วยความจำเสมือน ซึ่งถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาตามฟังก์ชันของมันแล้ว ผมว่า น่าจะเรียก “หน่วยความจำสำรอง” มากกว่า เนื่องจากเวลาที่คอมพิวเตอร์ใช้หน่วยความจำหลักที่มากับเครื่อง (RAM: Random Access Memory) ไปจนเกือบหมดแล้ว ระบบปฏิบัติการก็จะใช้วิธียืมพื้นที่บางส่วนของฮาร์ดดิสก์ (ราคาถูกกว่าหน่วยความจำ แต่ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลช้ากว่า) มาใช้แทนหน่วยความจำที่ระบบต้องการ
กรณีที่คอมพิวเตอร์มีความจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำเสมือนมากๆ จะทำให้ทั้งระบบทำงานได้ช้ามาก เพราะมันต้องคอยลบ และเขียนข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์แทนหน่วยความจำหลัก แถมยังมีเสียงรบกวนเนื่องจากการทำงานของฮาร์ดดิสก์อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม หน่วยความจำเสมือนไม่ได้เป็นสิ่งไม่ดีนะครับ เนื่องจากระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จะทำงานในระบบหลายงาน (multitasking) ซึ่งระบบจะทำงานโดยจับแอพพลิเคชันที่คุณกำลังใช้ไว้ใน RAM เพื่อให้ทำงานได้เร็ว ในขณะที่โยนแอพพลิเคชันที่คุณยังไม่ได้ใช้ขณะนั้นไว้บนฮาร์ดดิสก์ (บริเวณที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำเสมือน) ก่อนที่จะสลับมันมาลงหน่วยความจำหลัก (RAM) อีกทีหนึ่ง เมื่อคุณเรียกใช้โปรแกรมนั้นๆ ประเด็นก็คือ เมื่อคุณจำเป็นต้องรันโปรแกรมหลายตัว และต้องเรียกใช้งานกลับไปกลับมาบ่อยครั้ง คุณจะรู้สึกเบื่อกับการรอคอยให้โปรแกรมแต่ละตัวสลับกันเข้าออกจากหน่วยความจำหลักกับหน่วยความจำเสมือน (ฮาร์ดดิสก์) อย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย
สำหรับวิธีปัญหาที่เกิดขึ้นก็คุณอย่างมีประสิทธิภาพก็คือ การติดตั้งหน่วยความจำหลักเข้าไปในระบบ เนื่องจากระบบกำลังเตือนว่า ขนาดของหน่วยความจำเสมือนที่กำหนดไว้ไม่พอแล้ว ซึ่งปกติคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows XP หรือ Mac OS X ควรจะมีหน่วยความจำอย่างน้อย 512MB อย่างไรก็ตาม ก่อนติดตั้ง RAM เพิ่มเติม อยากให้สแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อนด้วยว่า ไม่ได้ถูกแอบเขมือบหน่วยความจำโดยไวรัส สปายแวร์ หรือแอดแวร์ต่างๆ เพราะไม่งั้น การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นก็เป็นได้ ขอให้โชคดีในการแก้ปัญหานะครับ
อัพเดต 4 กันยายน 2006 เวลา 08:27 น.
ถาม: จู่ๆ คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ก็แจ้งเตือนว่า “Windows is increasing your virtual memory” ซึ่งดิฉันไม่เข้าใจความหมายของมันจริงๆ ค่ะ แล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดีคะ?
ตอบ: Virtual memory หรือหน่วยความจำเสมือน ซึ่งถ้าจะเรียกให้เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาตามฟังก์ชันของมันแล้ว ผมว่า น่าจะเรียก “หน่วยความจำสำรอง” มากกว่า เนื่องจากเวลาที่คอมพิวเตอร์ใช้หน่วยความจำหลักที่มากับเครื่อง (RAM: Random Access Memory) ไปจนเกือบหมดแล้ว ระบบปฏิบัติการก็จะใช้วิธียืมพื้นที่บางส่วนของฮาร์ดดิสก์ (ราคาถูกกว่าหน่วยความจำ แต่ความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลช้ากว่า) มาใช้แทนหน่วยความจำที่ระบบต้องการ
กรณีที่คอมพิวเตอร์มีความจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำเสมือนมากๆ จะทำให้ทั้งระบบทำงานได้ช้ามาก เพราะมันต้องคอยลบ และเขียนข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์แทนหน่วยความจำหลัก แถมยังมีเสียงรบกวนเนื่องจากการทำงานของฮาร์ดดิสก์อีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม หน่วยความจำเสมือนไม่ได้เป็นสิ่งไม่ดีนะครับ เนื่องจากระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จะทำงานในระบบหลายงาน (multitasking) ซึ่งระบบจะทำงานโดยจับแอพพลิเคชันที่คุณกำลังใช้ไว้ใน RAM เพื่อให้ทำงานได้เร็ว ในขณะที่โยนแอพพลิเคชันที่คุณยังไม่ได้ใช้ขณะนั้นไว้บนฮาร์ดดิสก์ (บริเวณที่ทำหน้าที่เป็นหน่วยความจำเสมือน) ก่อนที่จะสลับมันมาลงหน่วยความจำหลัก (RAM) อีกทีหนึ่ง เมื่อคุณเรียกใช้โปรแกรมนั้นๆ ประเด็นก็คือ เมื่อคุณจำเป็นต้องรันโปรแกรมหลายตัว และต้องเรียกใช้งานกลับไปกลับมาบ่อยครั้ง คุณจะรู้สึกเบื่อกับการรอคอยให้โปรแกรมแต่ละตัวสลับกันเข้าออกจากหน่วยความจำหลักกับหน่วยความจำเสมือน (ฮาร์ดดิสก์) อย่างแน่นอนไม่ต้องสงสัย
สำหรับวิธีปัญหาที่เกิดขึ้นก็คุณอย่างมีประสิทธิภาพก็คือ การติดตั้งหน่วยความจำหลักเข้าไปในระบบ เนื่องจากระบบกำลังเตือนว่า ขนาดของหน่วยความจำเสมือนที่กำหนดไว้ไม่พอแล้ว ซึ่งปกติคอมพิวเตอร์ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows XP หรือ Mac OS X ควรจะมีหน่วยความจำอย่างน้อย 512MB อย่างไรก็ตาม ก่อนติดตั้ง RAM เพิ่มเติม อยากให้สแกนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณก่อนด้วยว่า ไม่ได้ถูกแอบเขมือบหน่วยความจำโดยไวรัส สปายแวร์ หรือแอดแวร์ต่างๆ เพราะไม่งั้น การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นก็เป็นได้ ขอให้โชคดีในการแก้ปัญหานะครับ
Comment