การใช้งานโปรแกรม Auto Play Media Studio เบื้องต้น (ภาค1,2)

[sak2005]

มีหลายคนเรียกร้องกันมาว่า อยากเรียนรู้การเขียน Script Action ให้มากกว่านี้ ผมก็เลยจัดให้ครับ (เท่าที่จำเป็นต้องนำมาใช้งานเท่านั้น)
ก่อนอื่นให้ท่านสร้างฟอร์มและปุ่ม 1 ปุ่มขึ้นมา เพื่อไว้ทดสอบสคริ๊ปที่เขียน
ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่ม เพื่อเปิดรายละเอียด ..คลิ๊กที่ Script เพื่อเปิด Editor ..คลิ๊กที่ Add Action เพื่อเปิด Wizard
-------------------------------------------------------------------------
1.สคริ๊ป Message Box แบบ คลิ๊กปิดเอง
ที่ Step1 ..เลือกคลิ๊กที่ Dialog
ที่ Step2 ..เลือกคลิ๊กที่ Dialog.Message ..คลิ๊ก Next ..คลิ๊ก Finish ..คลิ๊ก OK
แล้วลองทดสอบดูครับ

[sak2005]

2.สคริ๊ป Message Box แบบ ตั้งเวลาปิดเอง
ที่ Step1 ..เลือกคลิ๊กที่ Dialog
ที่ Step2 ..เลือกคลิ๊กที่ Dialog.TimedMessage ..คลิ๊ก Next ..คลิ๊ก Finish ..คลิ๊ก OK
แล้วลองทดสอบดูครับ (ตัวเลข 2000 หมายถึง ปิดตัวเองภายใน 2 วินาที)

Dialog.TimedMessage("Please Wait...", "Working...", 2000, MB_ICONINFORMATION);

[sak2005]

3.Message Box แบบมีเงื่อนไข
Step1 Dialog
Step2 ใช้ Dialog.Message ..เปลี่ยนจาก MB_OK เป็น MB_YESNO และใช้เงื่อนไข if else ร่วมด้วย
เปลี่ยนตัวแปร จาก result เป็น BtnCode

[sak2005]

4.คำสั่งติดตั้งหรือรันโปรแกรม คำสั่งนี้จะอ้างที่เก็บโปรแกรมที่จะสั่งติดตั้งไว้ที่ CD_root ใน My Documents เสมอ
ซึ่งอยู่ที่ C:\Documents and Settings\Administrator\My Documents\AutoPlay Media Studio 6.0 Projects\My Project\CD_Root\AutoPlay\Docs
ที่ WiZard
Step1 เลือก File
Step2 เลือก File.Run

[sak2005]

5.คำสั่ง ปิดโปรแกรม มีอยู่ 2 คำสั่ง คือ

Application.Exit(0);

Window.Close(Application.GetWndHandle(), CLOSEWND_SENDMESSAGE);

[sak2005]

คำสั่ง Set เป็นคำสั่งที่ใช้กระทำอะไร?บางอย่างบน Object เช่น สั่งโพสท์ข้อความ เป็นต้น คำสั่งที่นำมาใช้มีดังนี้
-โพสท์ข้อความลงบน Progress Bar
นำ Progress Bar มาวางไว้บนฟอร์ม แล้วเขียนโค๊ด ดังนี้ (ใช้ Loop for steb)

[sak2005]

-หยุดการทำงานของปุ่ม หลังจาก กดติดตั้งไปแล้ว ป้องกันการกดปุ่มซ้ำอีกในระหว่างที่กำลังติดตั้ง
Step1 Buton
Step2 ใช้ Button.SetVisible

[sak2005]

-โพสท์หรือเปลี่ยนข้อความบน Label (ฉลาก)
..ให้ติดตั้งLabel ลงบนฟอร์ม
Step1 Label
Step2 ใช้ Label.SetText

-----------------------------------------------------------
หรืออีกแบบหนึ่ง ใส่เปอร์เซ็น ลงบน Progressbar ..ดังตัวอย่าง

min = 0
max = 100
step = 1
for x = min,max,step do
Progress.SetCurrentPos("Progress1", x);
Progress.SetText("Progress1","Current:".. x .."%");
Application.Sleep(100);
if x >= 100 then
Progress.SetCurrentPos("Progress1", 0);
Progress.SetText("Progress1", "");
end
end

[sak2005]

รูปแบบการเขียนสคริ๊ปนั้น โดยทั่วไป เราสามารถนำ 'คำนิยาม เปรียบเทียบ' มาใช้ในการเขียนสคริ๊ปได้ ดังตัวอย่าง
เช่นเคยอีกแล้วครับ ต้องสร้างPage From ขึ้นมา พร้อมนำ Progressbar และปุ่ม มาวางบนฟอร์ม
ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่ม เพื่อเปิดรายละเอียด

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คลิ๊กที่เมนู Script เพื่อไปยังหน้า Script Editor ..จัดการเขียนสคริ๊ปลงไปดังนี้ ด้วยตัวช่วยเขียนสคริ๊ป
..ให้คลิ๊กขวาบนพื้นที่ว่างบน Editor ..เลือกคลิ๊กที่ Quick Scripts และเลือกคลิ๊กที่ for loop (with step)


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ได้เป็นสคริ๊ปพื้นฐานออกมา ดังรูป

:คำอธิบาย:
count คือ ตัวแปร
min, max, step คือคำเปรียบเทียบ อ้างอิง ของ string (ตัวเลข)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จัดการแก้ไขสคริ๊ป เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ตามรูปเลย

[sak2005]

การใช้งานScript Action: StatusDlg
StatusDlg เป็นหน้าต่าง Progress Status สำเร็จรูป ที่โปรแกรมมีไว้ให้ เวลาจะใช้ก็ไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นมาอีก เรียกใช้งานจากในโปรแกรมได้เลย
และเขียนสคริ๊ปเพิ่มเติมเข้าไป เพื่อให้ Progress Status ทำงานตามสั่ง ดังนี้
-----------------------------------------------------------
ก่อนอื่นท่านต้องสร้าง Page Form และ Button เพื่อการทดสอบขึ้นมาก่อน (ดังรูป)


-------------------------------------------------------------------
จากนั้นก็ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่ม เพื่อเปิดรายละเอียด เข้าไปเรียกใช้งานและเขียน Action Script ที่ Script Editor ..คลิ๊กที่ Add Action
Step1 ..เลือกคลิ๊กที่ StatusDlg
Step2 ..เลือกคลิ๊กที่ StatusDlg.Show
ต่อไปก็เขียนสคริ๊ปเพิ่มเติม เพื่อสั่งให้ Progressbar ทำงาน ดังนี้


-------------------------------------------------------------------
ลอง Preview ดูครับ Progressbar ก็จะทำงานได้ (ดังรูป)


--------------------------------------------------
อันนี้เป็นการใส่ % และข้อความ ลงไปใน StatusDlg ด้วย ..ดูรูป

StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);
min = 0
max = 100
step = 1
for x = min,max,step do
StatusDlg.SetMeterPos(x);
StatusDlg.SetStatusText("Current Status:" ..x .."%");
StatusDlg.SetMessage("Working...");
Application.Sleep(100);
if x >= 100 then
Application.Sleep(500);
StatusDlg.SetStatusText("Completed.");
StatusDlg.SetMessage("Done.");
Application.Sleep(500);
StatusDlg.Hide();
end
end

[sak2005]

StatusDlg progress to File Copy
การใช้ StatusDlg progress แสดงความคืบหน้า ในการก๊อบปี้ หรือคัดลอกไฟล์
ในกรณีย์นี้ เป็นการก๊อบปี้ไฟล์จาก FlashDrive มาไว้ที่ Desktop
และก๊อบปี้ไฟล์จาก Desktop มาไว้ใน FlashDrive
ก่อนอื่นให้ท่านสร้าง Page Form และ Button ขึ้นมา 2 ปุ่ม (ดังรูป)


--------------------------------------------------------
จากนั้นให้สร้างโฟลเดอร์ขึ้นมาใหม่ 2 โฟลเดอร์ ไว้สำหรับเก็บไฟล์
โฟลเดอร์หนึ่ง นำมาไว้ที่ Desktop ตั้งชื่อให้โฟลเดอร์ว่า.. DestBackup
และอีกโฟลเดอร์ นำมาไว้ใน FlashDrive ตั้งชื่อเสียใหม่ว่า.. FlashBackup
เสร็จแล้วให้ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่ม ชื่อ Desktop to FlashDrive เข้าไปเขียนสคริ๊ปคำสั่ง ดังนี้

StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);
File.Copy("C:\\Documents and Settings\\Administrator\\Desktop\\DestBackup\\*.*", "G:\\FlashBackup\\", true, true, false, true, nil);
error = Application.GetLastError();
StatusDlg.Hide();
if error ~= 0 then
Dialog.Message("Error", "There was an error copying the files to your system. Please try again.", MB_OK, MB_ICONINFORMATION, MB_DEFBUTTON1);
else
Dialog.TimedMessage("", "Completed.", 2500, MB_ICONNONE);
end

----------------------------------------------------------------------------------------------------
ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่ม ชื่อ FlashDrive to Desktop เข้าไปเขียนสคริ๊ปคำสั่ง ดังนี้

StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);
File.Copy("G:\\FlashBackup\\*.*", "C:\\Documents and Settings\\Administrator\\Desktop\\DestBackup\\", true, true, false, true, nil);
error = Application.GetLastError();
StatusDlg.Hide();
if error ~= 0 then
Dialog.Message("Error", "There was an error copying the files to your system. Please try again.", MB_OK, MB_ICONINFORMATION, MB_DEFBUTTON1);
else
Dialog.TimedMessage("", "Completed.", 2500, MB_ICONNONE);
end

------------------------------------------------------------------
แนะนำ:เพื่อความสดวกและรวดเร็ว ให้ก๊อบปี้โค๊ด แล้วนำไป paste ใส่ใน Script Editor ได้เลย.
อนึ่ง..การก๊อบปี้จาก FlashDrive to Desktop จะทำได้รวดเร็วกว่าการก๊อบปี้จาก Desktop to FlashDrive
ลองนำไปประยุกต์ใช้กับการก๊อบปี้จากแผ่นCD ลงสู่เครื่อง หรือ Drive to Drive ก็ได้นะครับ

[sak2005]

(ภาค2) Script Action Wizard
การใช้งาน StatusDialog เบื้องต้น ..StatusDialog เป็น หน้าต่าง Progressbar สำเร็จรูป ที่โปรแกรมมีมาให้ ใช้งานได้ทันที ไม่ต้องสร้างขึ้นมาอีก
:คำสั่งและความหมาย:
-----------------------------------------------------
StatusDlg.Show 'หมายถึง สั่งแสดงหน้าต่าง Progressbar ดังรูป


-----------------------------------------------------
ถ้าจะให้ Progressbar บนหน้าต่าง เกิดการทำงาน ก็ต้องใส่รูปแบบสคริ๊ปคำสั่ง Loop For หรือ While ลงไปดังนี้
(ถ้าต้องการทดสอบ ก็ให้สร้าง Page Form และ Button ขึ้นมา แล้วใส่สคริ๊ปทั้งหมดลงไปที่ปุ่ม)
Loop For

StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);  
Window.Hide(Application.GetWndHandle());  --คำสั่งปิดบัง Page Form ไม่ให้เห็นชั่วคราว เมื่อ StatusDlg ปรากฏขึ้น
for x = 0, 100, 1 do   --คำสั่งวนลูป
StatusDlg.SetMeterPos(x);   --คำสั่งให้แถบ progresbar เคลื่อนที่ ตั้งแต่ต้น(0) จนจบ(100)
Application.Sleep(100);   --คำสั่งหน่วงเวลา
if x >= 100 then
Application.Sleep(1000);
StatusDlg.Hide();
Window.Show(Application.GetWndHandle());   --เมื่อStatusDlg หายไปแล้ว จะปรากฏ Page Form ขึ้นมาแทน
end
end

-----------------------------------------------------------------------------------------------
Loop While

StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);
Window.Hide(Application.GetWndHandle());
x = 0
while (x < 100) do
StatusDlg.SetMeterPos(x);
x = x + 1;
Application.Sleep(100);
if x >= 100 then
Application.Sleep(1000);
StatusDlg.Hide();
Window.Show(Application.GetWndHandle());
end
end

[sak2005]

Function CallBackเป็นชุดคำสั่งที่ใช้สำหรับทำให้ StatusDlg Progressbar แสดงผลอัตโนมัติ
เมื่อกระทำอะไรบางอย่าง เช่น ก๊อบปี้ไฟล์ หรือ ซิปไฟล์ เป็นต้น
เรามาดูตัวอย่างคำสั่งก๊อบปี้ไฟล์ ที่ใช้ CallBack Function และ StatusDlg ..คำสั่งCallBackที่ใช้ก็คือคำสั่ง.. nil
------------------------------------------------------------------------------------------
ให้ท่านสร้าง Page Form และ Button ขึ้นมา ..ดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Button แล้วเขียนสคริ๊ปลงไปดังนี้

DestFolder = Shell.GetFolder(SHF_MYDOCUMENTS);
Folder.Create(DestFolder.."\\TestBackup");
StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);
File.Copy("AutoPlay\\Docs\\*.*", DestFolder.."\\TestBackup\\", true, true, false, true, nil);
error = Application.GetLastError();
StatusDlg.Hide();
if error ~= 0 then
    result = Dialog.Message("Error", "There was an error copying the files to your system. Please try again.", MB_OK, MB_ICONEXCLAMATION, MB_DEFBUTTON1);
else
    Shell.Execute(DestFolder.."\\TestBackup", "explore", "", "", SW_SHOWNORMAL);
end

--------------------------------------------------------------------------
:รายละเอียด:
DestFolder = Shell.GetFolder(SHF_MYDOCUMENTS);
คำสั่งกำหนดพื้นที่ ที่จะนำข้อมูลเข้าไปวางไว้ ในกรณีย์นี้กำหนดไว้ที่ MyDocuments
----------------------------------------------------------------
Folder.Create(DestFolder.."\\TestBackup");
คำสั่งสร้างโฟลเดอร์ใหม่ ชื่อ TestBackup สำหรับเก็บไฟล์ต่างๆที่ถูกก๊อบปี้ โฟลเดอร์นี้ ถูกกำหนดให้เก็บไว้ใน MyDocuments
-----------------------------------------------------------------
StatusDlg.Show(MB_ICONNONE, false);
คำสั่งให้แสดงหน้าต่าง StatusDlg Progressbar
----------------------------------------------------------------
File.Copy("AutoPlay\\Docs\\*.*", DestFolder.."\\TestBackup\\", true, true, false, true, nil);
คำสั่งก๊อบปี้ไฟล์ต่างๆ จากโฟลเดอร์ Docs ซึ่งเป็นโฟลเดอร์เก็บข้อมูลที่จะก๊อบปี้และเกี่ยวข้องกับการสร้าง Project เปิดดูหรือใช้งานได้ที่ C:\Documents and Settings\Administrator\My Documents\AutoPlay Media Studio 7.0\Projects\My Project\CD_Root\AutoPlay\Docs
----------------------------------------------------------------
คำสั่งเช็ค Error ซ่อน StatusDlg และเปิด explore เมื่อสิ้นสุดการทำงาน
error = Application.GetLastError();
StatusDlg.Hide();
if error ~= 0 then
result = Dialog.Message("Error", "There was an error copying the files to your system. Please try again.", MB_OK, MB_ICONEXCLAMATION, MB_DEFBUTTON1);
else
Shell.Execute(DestFolder.."\\TestBackup", "explore", "", "", SW_SHOWNORMAL);
end
------------------------------------------------------------------------------
รูปตัวอย่าง StatusDlg Progressbar CallBack Function ..กำลังทำงาน

[sak2005]

อีกตัวอย่างหนึ่ง ..คำสั่ง Zip หรือบีบอัดไฟล์ข้อมูลต่างๆ ..ใช้ CallBack Function StatusDlg

archive_files = Dialog.FileBrowse(false, "Files to Add", _DesktopFolder, "All Files (*.*)|*.*|", "", "dat", true, false);
if (archive_files[1] ~= "CANCEL") and (archive_files ~= nil) then
StatusDlg.Show();
Zip.Add(_DesktopFolder.."\\NewArchive.zip", archive_files, true, "", 5, nil, false);
error = Application.GetLastError();
StatusDlg.Hide();
if (error == 0) then
    Dialog.Message("Success", "The files were successfully archived.", MB_OK, MB_ICONINFORMATION);
    File.ExploreFolder(_DesktopFolder, SW_SHOWNORMAL);
else
    Dialog.Message("Error", _tblErrorMessages[error], MB_OK, MB_ICONEXCLAMATION);
end
end

---------------------------------------------------------------------------------------------------------
:รายละเอียด:

archive_files = Dialog.FileBrowse(false, "Files to Add", _DesktopFolder, "All Files (*.*)|*.*|", "", "dat", true, false);
คำสั่งเปิดหน้าต่าง Dialog เพื่อเลือกไฟล์ข้อมูลที่จะบีบอัด
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
Zip.Add(_DesktopFolder.."\\NewArchive.zip", archive_files, true, "", 5, nil, false);
คำสั่งบีบอัดไฟล์ ..เมื่อบีบอัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไฟล์ข้อมูลที่ถูกบีบอัดทั้งหมด จะอยู่ใน NewArchive.zip ..วางอยู่บนเดสก์ทอป
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
if (error == 0) then
Dialog.Message("Success", "The files were successfully archived.", MB_OK, MB_ICONINFORMATION);
File.ExploreFolder(_DesktopFolder, SW_SHOWNORMAL);
else
Dialog.Message("Error", _tblErrorMessages[error], MB_OK, MB_ICONEXCLAMATION);
end
end
คำสั่งเช็ค Error ..แจ้งสิ้นสุดการทำงาน ด้วย MessageBox และเปิด ExploreFolder

[sak2005]

การใช้งาน Input Box ..เป็นตัวอย่างการออกแบบโปรแกรมที่ทุกท่านควรศึกษาไว้ จะได้นำวิธีการ ไปประยุกต์ใช้ในการออกแบบกับโปรแกรมอื่นๆ
ตามสไตล์ที่ท่านอยากให้เป็น ..โปรแกรมตัวอย่างต่อไปนี้ ผมใช้เวลาค้นคว้าทดลอง 1 วันเต็มๆ กว่าจะออกแบบมาได้สำเร็จ เป็นโปรแกรม Auto Install ..ไว้สำหรับตั้งโปรแกรมต่างๆแบบอัตโนมัติ การออกแบบไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก ไม่ยากเกินกว่าที่ท่านจะทำความเข้าใจ
Download:Projectเพื่อการศึกษา
Size:2.3 MB
http://upload.one2car.com/download.a...2GE5KF2TQCTQR2
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ให้ท่านสร้าง Page Form และใส่ Object ลงไปตามรูปเลยครับ


------------------------------------------------------
อันนี้ปรับปรุงมาให้ใหม่ มี Parameter ของโปรแกรมให้เลือกใช้ในตัว


------------------------------------------------------
ส่วนประกอบของโปรแกรมนี้แบ่งออกเป็น6ส่วนด้วยกัน แต่ละส่วนต้องเขียนสคริ๊ปกำกับไว้ดังนี้
1.Page1 หรือ Form

Input.SetEnabled("Input1", false);
Input.SetEnabled("Input2", false);
ComboBox.SetEnabled("ComboBox1", false);
Button.SetEnabled("Button2", false);

------------------------------------------------------
2.Input1 หรือ File Path:

ส่วนนี้ไม่ต้องเขียนสคริ๊ปกำกับ
-------------------------------------------------
3.Button1 หรือ Browse

open_file = Dialog.FileBrowse(true, "Select a File to install:", _DesktopFolder, "Program Files (*.exe;*.msi)|*.exe;*.msi|All Files (*.*)|*.*|", "", "dat", false, false);
Input.SetText("Input1", open_file[1]);
Input.SetEnabled("Input1", true);
ComboBox.SetEnabled("ComboBox1", true);

------------------------------------------------------------------
4.Input2 หรือ Parameter

ส่วนนี้ไม่ต้องเขียนสคริ๊ปกำกับ
-----------------------------------------------------------------
5.ComboBox1 หรือ Switches ..ส่วนนี้ต้องนำเข้า Switch parameter ของโปรแกรมต่างๆ
ที่ต้องใช้งาน เข้าไปอยู่ในลิสท์รายการ Item Text ด้วย ดังรูป

get_text = ComboBox.GetText("ComboBox1");
Input.SetText("Input2", get_text);
Input.SetEnabled("Input2", true);
Button.SetEnabled("Button2", true);

------------------------------------------------------------------------------
6.Button2 หรือ Install

file_install = Input.GetText("Input1");
file_silent = Input.GetText("Input2");
File.Run(file_install, file_silent, "", SW_SHOWNORMAL, true);
Dialog.Message("", "Completed.", MB_OK, MB_ICONNONE, MB_DEFBUTTON3);
Window.Close(Application.GetWndHandle(), CLOSEWND_SENDMESSAGE);