Tune-UP Vista Ultimate ผู้เขียน Perlnx
เอาหละ หลังจากที่ Vista ตัวจริงวางจำหน่ายมาได้ 3-4 วันแล้ว อาจจะมีหลายคนที่ได้ลองใช้แล้ว หรือยังไม่ได้ลอง แต่แน่นอนครับ ผมชอบลองของก็เลยจับเอา Vista มาลงเล่นดู (ความจริงก็ลงตั้งแต่ธันวาปีแล้วหละ ตัว RTM) ผมขอสารภาพเลยว่า First Impression (ความประทับใจครั้งแรก) ของผม = " - " ลบครับ แถมลบมากด้วยละซิ แต่ถ้ามันไม่ดีจริง งั้น MS จะทำการออกมันมาทำไม ในเมื่อมันไม่ Work ขนาดนั้น ผมก็เลยทดลองจับไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุด ก็ได้คำตอบว่า เป็นเพราะผมเป็น "มือใหม่" สำหรับ Vista หรือ พูดตรงๆก็คือ ผมใช้ไม่เป็นนั่นหละ แต่ทว่าตอนนี้ รู้สึกว่าจะ คุ้นเคยกับมันใช้ได้แล้ว (ใช้มาตั้งเดือนจะให้ไม่คุ้นได้ไง) ผมพบว่า มันมีลูกเล่นอัดมาให้สารพัดเลยหละ ในความรู้สึกส่วนตัว มันทำให้การใช้ Windows ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกเป็นกระบุง แต่ใครบอกว่ามันจะดีเสมอไป ระบบความสวยงามและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ผมก็ต้องแลกกับ Resource ที่เสียไปมากกว่าเดิม คุณอาจจะคุ้นเคยกับการใช้ Windows XP ที่ปริมาณการบริโภคแรมเพียงแค่ 200Mb กว่าๆต้นๆ(ที่กว่าวนี้หมายถึง หลังจากติดตั้ง XP เสร็จหมาดๆล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งโปรแกรมอื่นที่จะทำงานหลัง Startup) แต่พอมาใช้ Vista กลับเสียแรมมากถึง 400Mb เพียงเพื่อรัน Service เพียวๆ ซีเรียสนะเนี่ย หากจะให้ Vista ตัวใหม่ของคุณมอบ Performance ที่น้อยกว่า Windows ตัวเก่าของคุณ แต่มองกลับกัน เอาน่า ขนาดสมัยที่ลง WinMe แล้ว Upgrade มาใช้ Windows XP ยังทำให้ความเร็วในการใช้งานลดลงเลย
เราต้องยอมรับครับว่า การพัฒนาสู่ของใหม่จะทำให้การบริโภคทรัพยากรเท่าเดิมเป็นไปไม่ได้ ลองนึกแบบนี้ หากคุณเล่นเกมส์สมัยดอส ที่มีภาพแตกๆ นั่นใช้ทรัพยากรเครื่องติ๋วเดียว แต่ถ้าคุณจะมาเล่นเกมส์ใหม่ๆในยุคปัจจุบัน คุณจะเขียนโปรแกรมให้มันกิน Resource เท่ากับเกมส์ในดอสได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะการรองรับคำสั่งประมวลผลใหม่ๆ ต้องการการคำนวนที่มากขึ้น เนื่องจากโค้ด API ที่เป็นคำสั่งสคริป 3D ได้มีความซับซ้อนมากขึ้น จะให้เครื่องความเร็วแบบดอส มารันคำสั่งที่เพิ่มขึ้น มันก็ต้องใช้เวลาคำนวนเพิ่มเป็นธรรมดา เว้นเสียแต่ทว่า คุณจะทำการ Upgrade เครื่อง ให้สามารถคำนวนได้เร็วมากขึ้นเพื่อชดเชยระยะเวลาการคำนวนที่เพิ่มตามมา นั่นหละ ! การพัฒนา Hardware ก็เลยต้องมีการพัฒนาตลอดเวลาเพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Vista ก็เป็นก้าวหนึ่งของ Software OS ที่มีการพัฒนาหละ ฉะนั้น การเอาเครื่องที่รัน XP มารัน Vista มันก็ต้องได้ผลลัพท์ที่ "ช้าลง" เป็นธรรมดา ฉะนั้น คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุดของคุณคือการ Upgrade Hardware ของคุณได้แล้ว !
แต่ การ Upgrade มันเป็นเรื่องเกินความจำเป็นไปไหม ในเมื่อ Spec คอมเราในปัจจุบัน สามารถรัน Vista ได้....... งั้น แบบนี้ดีกว่า ผมจะมาแนะนำเทคนิคที่จะช่วยรีดศักยภาพของ Vista จากเครื่องคุณให้ได้มาก ใกล้เคียงกับ XP เลยดีไหม ? รู้สึกอยากใช้ Vista มาหรือยัง ?
ออกโรงก่อน ผมไม่ได้เป็น Partner กับ Microsoft หรือบริษัทใดๆแต่อย่างใด ทุกอย่างในบทความนี้มาจากประสบการ์ณในการใช้คอมของผมล้วนๆ ซึ่งผมจะมาแชร์ประสบการ์ณกับ User ท่านอื่นๆในบทความนี้ (ที่นานๆทีจะมีซักที) ซึ่งจะเป็นเทคนิคการเค้นประสิทธิภาพของ Vista ให้คุณมี Resource เหลืออีกเยอะแยะสำหรับทำงานอื่นๆได้โดยราบรื่น ซึ่งก่อนที่จะเป็นบทความนี้ หรือกว่าจะเป็น Vista ติดจรวดในแบบฉบับ "Perl" ให้ผมได้นั่งใช้รื่นๆได้ ผมได้ติดตั้ง Vista ใหม่นับ 10 ครั้งแล้ว (บางที Tweak เสร็จแล้ว รีคอมครั้งสุดท้าย ดันไปลงโปรแกรมที่ไม่ Support กับ Vista แล้วทำให้บู๊ตไม่ขึ้นซักโหมดซะงั้น จอฟ้า อยากจะร้องโอ้ยดังๆ) แต่ผมจะแนะนำไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ
*ผมจะไม่สอนนะครับว่า Vista นี้ใช้ยังไง คำสั่งนี้เปิดได้ที่ไหน(เฉพาะคำสั่งพื้นๆ) แต่ผมจะมากล่าวถึงการปรับแต่งล้วนๆ (วิธีใช้ไปฝึกใช้กันเอง) บทความนี้เหมาะสำหรับ User ระดับ Professional ขึ้นไปนะครับ
สิ่งสำคัญที่คุณควรทำ หลังจากที่ติดตั้ง Vista มาเสร็จหมาดๆ และกำลังจะลงมือปรับแต่งระบบโดบอ้างอิงบทความนี้
1.> หากทว่าคุณเพิ่งลง Vista เสร็จมาหมาดๆ คุณ "ไม่ควร" ที่จะ Activation ตอนนี้ เนื่องจาก การปรับแต่ง อาจส่งผลต่อเสถียรภาพการทำงาน หากเกิดข้อผิดพลาด ที่ส่งผลให้ Vista ล่ม ไม่สามารถ Boot ได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้อง Setup Vista ใหม่ ซึ่งจะทำให้คุณเสียค่าการ Activation ฟรีๆ (รู้สึกว่า 1 Key จะสามารถ Activation ได้ไม่เกิน 10 ครั้ง) แต่ถ้าหากว่าคุณได้ Activation ไปแล้ว คุณควรที่จะทำการ Backup ระบบก่อนที่จะลงมือ Tweak โดยการทำ Restore Point และ Backup Registry และ Create Snapshot ของโปรแกรม TweakVI เพื่อย้อนคืนค่าในกรณีที่ระบบเกิดปัญหา (หาอ่านได้ในส่วนของการปรับแต่งด้วย TweakVI) หลัง tweak เสร็จก็ค่อย Activation อย่างสบายใจ
*ผมไม่รับบรอง+รับผิดชอบ ความเสียหายของระบบที่เกิดจากการปรับแต่งที่อ้างอิงบทความนี้นะครับ ใช้พิจารณญาณก่อนลงมือซักนิดนะครับ
*แนะนำว่าหากคุณมี OS ตัวเดิม และต้องการที่จะลง Vista ลองลง 2 OS ดูก่อนได้ครับ หากไม่ถูกใจ หรือมีปัญหา จะได้ถอยมาใช้ OS ตัวเดิมได้ ถ้าหากว่าพอใจแล้ว ก็สามารถลบ Partition ของ Windows เดิมทีหลังได้ โดยไม่มีปัญหา (เนื่องจาก Bootloader ของ Vista จะถูกกำหนดให้เป็น Master บน MBR แทนจากเดิมที่เป็นของ Windows XP/2k/2k3 เดิมของคุณ)
2.> คุณควรลง Driver อุปกรณ์ให้สมบูรณ์ก่อนลงมือ Tweak เพื่อความเสถียรของระบบ ซึ่งอุปกรณ์ตัวใดหากไม่ถูกพบและลง Driver ให้โดยอัตโนมัติโดย Vista คุณสามารถใช้ Driver ของ Windows XP ติดตั้งแทนได้โดยไม่มีปัญหา (แนะนำว่าติดตั้งผ่าน Inf ไฟล์ ไม่ควร Setup ติดตั้งเฉพาะ Driver ที่ขาดเท่านั้น อุปรณ์ที่มี Driver ที่มีอยู่ใน Vista อยู่แล้วอย่าไปลง Driver ทับอีกที เช่น Bluetooth /USB2 มิฉะนั้นอาจจะส่งผลต่อกับการ Detect Driver ของอุปกรณ์ตัวอื่นๆได้) คุณสามารถใช้ Windows Update เพื่อหา Driver สำหรับอุปกรณ์ของคุณบน Vista ได้ (แนะนำให้ทำส่วนนี้ก่อนที่จะใช้ Driver XP) และ Driver โดยเฉพาะการ์ดจอ คุณต้องใช้ Driver สำหรับ Vista เท่านั้น สำหรับการ์ดจอ 3D ของ ATI/Nvidia (การ์ดจอยี่ห้ออื่นๆที่ไม่มีคุณสมบัติ 3D แรงๆอย่างพวก Onboard คิดว่าสามารถใช้ Driver เก่าได้ เพราะยังไง Vista ก็คงไม่เปิด Aero Desktop ให้อยู่แล้ว ซึ่งการ์ดจอประเภทนี้ จะไม่มีปัญหาเรื่องความไม่เข้ากันของ Driver การ์ดจอ[ส่งผลให้จอฟ้า] หากไม่มีการรันเกมส์ 3D / สำหรับผู้ใช้การ์ดจอ Onboard ของ Intel สามารถหา Driver Vista ได้จากเว็บ Intel โดยตรง หรือทาง Windows Update ซึ่งเจ้านี้ บางตัวสามารถรองรับ Aero ได้ และ การ์ดจอ ATI/Nvidia สามารถหา Driver Vista ได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต หรืออกีทางที่ http://www.guru3d.com ซึ่งคุณสามารถที่จะหา Mobile GPU Driver หรือ Driver การ์ดจอบนแลปท็อปได้ด้วย[หากในเว็บผู้ผลิตแลปท็อปไม่มีให้] หรือผ่านทาง Windows Update [สำหรับผู้ใช้ของเถื่อน ไม่ต้องกลัวเรื่องการตรวจจับ Activation เพราะผมมีวิธีให้แล้ว สามารถหาอ่านได้ในส่วนของการใช้ Windows Update])
คุณควรสำรวจเว็บไซต์ผู้ผลิต Mainboard ของคุณด้วยว่ามี Update Bios ล่าสุดสำหรับ Vista ของคุณหรือยัง ? หรือถ้าหากยังไม่มี คุณก็ควรจะ Update Bios ให้ใหม่ที่สุด เนื่องจากการยกเลิกการสนับสนุน Energy Star ของ Vista ทำให้ระบบ ACPI Power Management ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป คุณอาจพบปัญหาในเรื่องการ Turn off Monitor หลังเวลาที่ได้กำหนดแล้ว เมื่อทำการเรียกกลับมา จอกลับไม่ตอบสนอง หรือเกิดอาการ crash ไปเลย (ในเมืองนอกมีปัญหานี้กันเยอะครับ) ดังนั้น คุณควร Update Bios ของคุณนะครับ โดยเฉพาะ แลปท็อป คุณสามารถสำรวจ Bios ตัวใหม่ได้ที่เว็บไซต์ ของผู้ผลิตแลปท็อปของคุณนะครับ (ของผม Bios ตัวใหม่พึ่งโผล่มาวันนี้เอง รอส่องดูเว็บมาตั้งแต่เดือนธันวาแล้ว T T )
3.> สเปกสำหรับกาารติดตั้ง Vista ที่จะสามารถทำงานได้แบบราบรื่น ได้แก่สเปกคอมทั่วๆไปที่อยู่ในยุค "ปัจจุบันนี้" เท่านั้นนะครับ คอมที่ซื้อมาเมื่อ 2-3 ปีก่อนอันนั้นไม่เรียกว่ายุคนี้นะ......... สื่งที่ต้องมีเลยคือ CPU ทำงานที่ความเร็ว 1.5GHz เป็นต้นไป (ก็เป็นของปรกติทั่วๆไปนะหละ) การสนับสนุนการทำงานแบบ Multi-Tasking จำนวนมากๆของ CPU ก็จะเป็นสิ่งช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งก็เริ่มตั้งแต่ CPU พวก Hyper-Trading / Dual Core / Duo Core และ Core 2 แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ลงได้ (แต่ไม่รับรองความเร็ว) มาที่แรมขั้นต่ำ ควรเป็นชนิดแบบ DDR (ปัจจุบันนี้ก็ DDR2 แล้ว) และ ขนาดแรมที่เป็นมาตรฐานการทำงานในปัจจุบันนี้ 512 MB ฉะนั้น บทความนี้ ผมก็เลยจะถอดแรมในเครื่องของผมออก ให้เหลือ 512 ซึ่งผมจะมาวัดประสิทธิภาพให้เห็นเลยว่า แรม 512 ก็เล่นได้สบายๆ ส่วน HDD ใช้เท่าไหร่ก็ได้ (ภายหลังการติดตั้ง Vista จะใช้พื้นที่ติดตั้งประมาณ 10GB) และ Interface การส่งข้อมูลบน Hdd ก็สำคัญ อย่างน้อย Hdd แบบ Sata จะให้การส่งข้อมูลที่เร็วกว่า ATA อยู่เล็กน้อย (ATA สูงสุดที่ 133mb/s ส่วน Sata1 อยู่ที่ 150mb/s [Megabyte ต่อ วินาทีนะครับ แต่เอามาคำนวนขณะใช้งานจริงๆ จะช้ากว่านี้ซักแค่ไหน(เร็วกว่านี่ไม่มีแน่นอน) ขึ้นอยู่กับปัจจัยคอขวดภายในนะครับ (อาทิ buffer / ระบบตาราง partition) ก็อย่างที่รู้กันนั่นหละครับว่า Hdd เป็นอุปกรณ์ pc ที่ทำงานได้ช้าที่สุด และเป็นคอขวดตัวหลักของ pc เลยทีเดียว ฉะนั้นก็พิจารณากันให้ดีๆนะครับ สำคัญเลยทีเดียว])
4.> ระบบ Vista ที่คุณควรลงตอนนี้ คือ 32 Bit หรือ x86 เนื่องจากการรองรับของ Application แบบ 64 Bit ที่ยังไม่หลากหลาย การใช้ Vista x64 จะทำให้เพิ่มความยุ่งยากให้กับการทำงานของคุณ อีกทั้ง Driver สำหรับ 64บิต ยังมีไม่มากนัก ซึ่ง Vista หากคุณลง Driver อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้ลงเพราะหาไม่ได้ อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรระบบเลยทีเดียว เพราะอุปกรณ์ตัวที่ไม่ได้ลง Driver จะไปรบกวน Resource กับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ / หากทว่าคุณใช้ 64 Bit คุณจะยังคงสามารถใช้ Application แบบ 32 Bit ได้ แต่ จะส่งผลต่อความเร็วในการทำงานที่ลดลง เนื่องจาก Vista x64 ต้องทำการจำลองตัวเองจาก 64 Bit เป็น 32 Bit เพื่อให้สามารถรัน Application เหล่านั้นได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระขั้นตอนการทำงานให้ซับซ้อนขึ้น และเสีย Resource ไปโดยไม่จำเป็น (อีกทั้ง x64 ต้องการช่องทางแบนด์วิทที่สูงขึ้น การใช้แรมเพียงแค่ 512 อาจน้อยไปบนระบบ x64)
สเปกที่ผมนำมา Tweak นี้ เป็น Laptop ซึ่งหมายความว่า หากคุณใช้ Desktop PC คุณอาจจะได้ Performance ที่มากกว่าผม โดยมีข้อแม้ว่า PC มีเสปกใกล้เคียงของผมเป็นอย่างต่ำ เนื่องจากการส่งข้อมูลของ CPU / HDD ของแลปท็อป จะทำงานได้ ช้า กว่า PC (ห้ามเถียงว่า Core2 รุ่นเดียวแบบเดียวกันบน Laptop กับ PC มีความเร็วในการใช้งานจริง ที่เท่ากันนะ ผิดถนัด)
เสปกที่นำมาอ้างอิงบทความ
Intel Core 2 Duo T550 1.66GHz
DDR2 512 MB
SATA Hdd 120Gb
Geforce Go 7200
ได้ Performance Rate แค่ 2.7 ครับ เพราะถอดแรมออก แต่ถึงยังไงมากสุดผมก็ได้แค่ 2.9 เพราะติดการ์ดจอ (-- --"! (เอาไว้รอได้การ์ดจอแยกก่อนเหอะ)
5.Software เหล่านี้ ห้ามติดตั้งใน Vista เพราะจะทำให้ Vista ไม่สามารถใช้งานได้ (จอฟ้าตอน Boot)
>Mcafee Viruscan 8.0i
>Alcohol 120% /50 % --------------> (ใช้ใน Vista ได้แล้วครับ แต่ต้องเป็น Version ล่าสุดในตอนนี้เท่านั้นนะครับ 1.96.4719)
>Acronis OS Selector
>(ส่วน Software ใดๆที่ใช้แล้ว Vista เน่าบอกได้นะครับจะเพิ่มใน List ให้)
ตกลงกันก่อนเลยนะครับว่า ห้ามถามผมว่าหาโหลด Vista ได้จากที่ไหนบ้าง หรือ Activation ยังไง Crack มีไหม หาได้อย่างไร ไม่รับคำถามแล้วก็ไม่ตอบให้นะครับ และคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับ Application นอกเหนือบทความ อาทิเช่น Gadgets นี้หาได้ที่ไหน (ไม่ PM เกี่ยวกับคำถามเหล่านี้ด้วย) แต่ยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆที่มีในบทความ
เอาหละ เราจะเริ่มที่การปรับแต่งระบบเบื้องต้นก่อน เพื่อให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
(บทความนี้รูปประกอบเยอะ ทำให้การโหลดรูปอาจใช้เวลาอยู่พอสมควรบ้าง ไม่ต้องใจร้อน ค่อยๆอ่านนะครับ แล้วคุณจะได้ Vista ที่มีประสิทธิภาพสำหรับคุณ)
เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ จดจำเอาไว้นะครับ ว่าตอนนี้ผมมีปริมาณการใช้แรมที่ 348MB
อย่าแปลกใจว่าทำไมของคุณเป็น 400 กว่า เนื่องจาก Vista จะมีการลดปริมาณการ Process ของ Service ที่ไม่ได้ถูกเรียกใช้งาน ซึ่งจะคายแรมกลับออกมา แต่จะไม่ได้คายออกมาทีเดียวพรวดพราด แต่จะค่อยๆคายออกมาเมื่อพบว่า Service นี้มีปริมาณการใช้งานที่น้อย เป็นหนึ่งอัลกอริทึมที่ยอดเยี่ยมของ Vista โดยเริ่มแรกจากการ Startup Vista จะมีการใช้แรมที่สูงเพราะต้องมีการเรียกเปิดใช้ Service และโหลดค่าคอมโพเน็นต์ต่างๆจำนวนมาก แต่หลังจากที่โหลด Startup เสร็จแล้ว ระบบก็จะเริ่มคายแรมออกมา ดังนั้นการหาค่าปริมาณการใช้แรมของ Vista ผมก็จะเปิดระบบ Standby ทิ้งไว้เฉยๆ (โดยไม่ทำงาน+เปิดโปรแกรมใดๆ รวมถึงโปรแกรมบน Startup) และ Monitor Task Manager ทิ้งไว้ ซึ่งจะเห็นว่าปริมาณการใช้แรมจะค่อยๆลดเรื่อยๆจนถึงระดับที่คงที่ (ประมาณ 5 นาที) ซึ่งก็จะเป็นปริมาณการใช้งานแรมบน Vista ของผม
(เปรียบเทียบกับใน windows 2003 ของผม ถ้าไม่ได้ปรับแต่งใดๆ จะอยู่ที่ 200 กว่าๆเกือบ 300 ส่วนหลังปรับแต่งจะอยู่ที่ 150 ส่วน Vista ของเราจะได้เท่าใดลองมา Tweak กัน อืม... เอาเป็นผมกำหนดว่ามาตรฐานของ XP ในบทความนี้ ผมให้ที่ 200 MB นะครับ [ถือว่าต่ำนะ ลองเปิด Task Manager ของคุณใน XP สิ ส่วนใหญ่เกิน 300 กันเรียบ] ซึ่งผมจะทำให้ Vista ดูดแรมที่ 200MB ! )
*ผมจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่ลง Vista เสร็จมาใหม่ๆ ซึ่งเราก็ทำขึ้นไปเรื่อยๆเป็นเสตปขั้น
เริ่มปรับแต่งพื้นฐาน หลังจากที่คุณติดตั้ง Vista เสร็จมาใหม่ (First Boot) สิ่งที่คุณจะพบคือ Welcome Center ซึ่งครั้งแรกหลังจากการติดตั้งจะโผล่ออกมา
และหลังจากผ่านการ Restart ครั้งแรกไป หน้าต่าง Welcome Center จะมี Option ให้คุณสามารถปิดหน้าต่างนี้ไม่ให้ออกมาเมือเริ่มต้นระบบได้ ด้วยการเอาติ๊กถูกออกดังรูป
สิ่งต่อมาที่คุณจะพบก็คือ Security Center ตรงบริเวณ System Tray
ซึ่งประกอบด้วย Firewall /Windows Defender / Internet Option /Internet Phising Filter ในที่นี้เราจะปิด Software ที่กิน resource เครื่อง ซึ่งได้แก่
Windows Defender ซึ่งเป็น Software ครบครันเรื่อง Anti-Spyware และ Antivirus จาก Microsoft แต่เนื่องจากว่ากิน Resource เครื่องมากมาย เราก็จะทำการ Turn Off ออกไป (จะคงไว้ก็ได้ หากต้องการที่จะใช้) ซึ่งหากปิดไปล้ว คุณก็สามารถลงโปรแกรม Anti-Virus ตัวอื่นๆได้
โดยเอาติ๊กถูกออกให้หมด ยกเว้น 3 อันดังรูป (เพราะไม่เกี่ยว เอาติ๊กถูกหัวข้อหลักออก ข้อย่อยก็จะอยุดการทำงานไปเองโดยอัติโนมัติ)
หลังจากนั้น ต่อที่การกำหนดค่า Automatic Update (เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสามารถกำหนดป้องกันการ Download Update ที่เราไม่ต้องการให้โหลดมาได้) โดยเลือกที่ Let Me Choose
และเลือกรูปแบบการ Update เป็น (ดังรูป)
เป็นการตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อมี Update ใหม่ๆ แต่สามารถที่จะเลือกโหลดเฉพาะตัวใดก็ได้ที่เราต้องการ (สำคัญสำหรับการใช้งาน Vista เพราะการใช้งานส่วนใหญ่ถ้าหากต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน การ Update เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะการลดบั๊กต่างๆที่เกิดขี้นมา [ลำพัง Vista วางจำหน่าววันแรก Update ผุดออกมาตรึม])
จัดแจงตั้งค่า Security Center นอกเหนือจากนี้ให้เหมาะสมตามการใช้งานของคุณ หลังจากนั้นให้ปิดการแจ้งเตือนของ security Center เนื่องจากอาจจะสร้างความรำคาญให้กับการใช้งาน และเป็นการสิ้นเปลือง Resource โดยไม่จำเป็น โดยกำหนดดังรูป
ดังที่กล่าวขั้นต้น การ Update เป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นหลังจากเสร็จสิ้นการติดตั้ง Vista ก็ควรจะทำการ Update ทันทีเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และเป็นการตรวจหา Driver ใหม่ๆที่เข้ากันกับ Hardware ของคุณ [Start>All Program>Windows Update] (ซึ่งหากยังไม่ Activation ก็สามารถใช้การ Update ได้ หรือ Activate แบบไม่ปรกติก็ใช้ได้เช่นกัน) ซึ่งสิ่งแรกก่อนการ Update คือคุณต้องกำหนดค่า Automatic Update ซะก่อน เพื่อไม่ให้ทำการ Update โดยอัตโนมัติ (วิธีการตั้งค่าอยู่ข้างบน) จากนั้นคุณจะสามารถดูรายการ Update ที่ต้องการได้จากตรงนี้ (ถ้าไม่ปรากฏให้เลือก check for update ที่แทปซ้ายเพื่อทำการตรวจสอบเสียก่อน)
รายการ Update ที่ไม่ควรติดตั้ง คือ KB931573 และ Windows Vista Validation Update
เนื่องจากจะทำการตรวจสอบ Activation สำหรับ Vista ที่ Activation ที่ไม่ถูกต้อง (พลาดติดตั้งแล้วแก้ไม่ได้ ต้องลง Vista ใหม่เท่านั้น)
ซึ่งวิธีการปิดไม่ให้รายการ Update ที่เราไม่ต้องการ ขึ้นมาลิสต์ทุกครั้งที่มีการ Update ให้คลิ๊กขวาที่รายการ Update ตัวนั้นๆ แล้วเลือก Hide Update ซึ่งการ Update ในครั้งต่อไป รายการนี้จะไม่โผล่มาอีก (คุณสามารตรวจสอบว่า Update ตัวใด คืออะไรได้ด้วยการคลิ๊กขวาที่ Update นั้นๆ เลือก View Detail ซึ่งจะบอกคุณสมบัติ และหน้าที่การทำงานของ Update ตัวนั้นๆ)
ต่อมาสำหรับคนที่ใช้ Lan สังเกตุที่ไอคอนn Network Center ของคุณ ซึ่งไม่มีไฟกระพริบไปมาเหมือน XP ให้คุณคลิ๊กขวา แล้วเลือก Turn On Activity Animation ซึ่งจะแสดงไฟกระพริบบอกกิจกรรมการส่งข้อมูลบเน็ตเวิร์กตามปรกติ
Startup Logo ของ Vista มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Mac OSX คือ มีแต่โลโก้ชื่อบริษัทเท่านั้น ฉะนั้นอย่าแปลกใจคิดว่า Vista ของคุณนั้นสมบูรณ์ไหม ? [Microsoft ออกมายืนยันในเรื่องนี้ว่า "By Design" ซึ่งหมายความว่า เขาตั้งใจที่จะออกแบบมาเป็นแบบนั้นหน่ะ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจครับ] แต่คุณสามารถเปลี่ยนหน้าจอ Boot อีกแบบ ได้ โดยไปที่ run>msconfig ที่แท็ป Boot คุณสามารถเลือก No GUI Boot เพื่อเปลี่ยนหน้าจอบู๊ตแบบแสงออโรร่าของ Vista แทน (หรือจะไม่เลือกก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล)
หน้าจอ User Account Control ที่จะขึ้นมาเพื่อถาม Permission เสมอๆ เมื่อเปิด Application ใดๆ สร้างปัญหาให้กับการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก (อีกทั้งหน้าจอ UAC นี้ทำให้เกิดการหระพริบของหน้าจอ ซึ่งบางทีอาจส่งผลให้ Vista จอล่มไปชั่วขณะได้) แต่คุณสามารถปิดได้ ผ่านทาง User Account
โดยไปที่ Control Panel>User Account and Family Safety>User Account และเข้าไปปิดจาก Link ในรูป
การตั้งค่า Power Plan ก็เป็นสิ่งสำคัญ [คลิ๊กขวาที่ Desktop>Personalization>Screen Saver>Change Power Setting] เนื่องจาก Plan ต่างๆ สามารถกำหนดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ (โดยเฉพาะแลปท็อป) ซึ่ง Power Plan แบบใหม่ของ Vista การตั้งค่า Minimal สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตได้จากปรกติได้ถึง 1 ชม ขึ้นไป ! รวมถึงการตั้งค่า Turn Off Monitor สามารถตั้งได้ในส่วนนี้ (Vista ไม่มีการใช้ระบบ Energy Star Power ฉะนั้นการตั้งค่า Turn Off Minitor จออาจไม่ดับเมื่อถึงเวลา หากว่าคุณไม่ได้ติดตั้ง Driver การ์ดจออย่างถูกต้อง หรืออาจจะดับแล้วไม่สามารถเรียกจอภาพขึ้นมาใหม่ได้..... ฉะนั้น การติดตั้ง Driver ให้ครบเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ Vista ของคุณ) ทั้งคุณยังสามารถกำหนด Advance Power Plan ได้ว่าจะกระทำการใดๆ เมื่อถึง scheme ที่กำหนดไว้ และปุ่ม Turn Off สีแดงบน Start Menu ก็สามารถกำหนดได้เหมือนกันจากส่วนนี้ ว่าให้กระทำการ Restart / Shutdown /Hibernate หรือ Sleep หลักจากที่คุณได้คลิ๊กไป (ค่า Default ของ Vista คือ Restart)
(แต่ละ Plan นอกจากส่งผลต่อปริมาณการใช้ไฟฟ้าบน PC ของคุณแล้ว ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่จะมากน้อยแปรผันตามปริมาณการใช้ไฟเช่นกัน สำหรับบทความนี้จะอิงที่ Hight Performance เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดออกมา)
เอาหละ หลังจากที่ Vista ตัวจริงวางจำหน่ายมาได้ 3-4 วันแล้ว อาจจะมีหลายคนที่ได้ลองใช้แล้ว หรือยังไม่ได้ลอง แต่แน่นอนครับ ผมชอบลองของก็เลยจับเอา Vista มาลงเล่นดู (ความจริงก็ลงตั้งแต่ธันวาปีแล้วหละ ตัว RTM) ผมขอสารภาพเลยว่า First Impression (ความประทับใจครั้งแรก) ของผม = " - " ลบครับ แถมลบมากด้วยละซิ แต่ถ้ามันไม่ดีจริง งั้น MS จะทำการออกมันมาทำไม ในเมื่อมันไม่ Work ขนาดนั้น ผมก็เลยทดลองจับไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุด ก็ได้คำตอบว่า เป็นเพราะผมเป็น "มือใหม่" สำหรับ Vista หรือ พูดตรงๆก็คือ ผมใช้ไม่เป็นนั่นหละ แต่ทว่าตอนนี้ รู้สึกว่าจะ คุ้นเคยกับมันใช้ได้แล้ว (ใช้มาตั้งเดือนจะให้ไม่คุ้นได้ไง) ผมพบว่า มันมีลูกเล่นอัดมาให้สารพัดเลยหละ ในความรู้สึกส่วนตัว มันทำให้การใช้ Windows ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกเป็นกระบุง แต่ใครบอกว่ามันจะดีเสมอไป ระบบความสวยงามและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ผมก็ต้องแลกกับ Resource ที่เสียไปมากกว่าเดิม คุณอาจจะคุ้นเคยกับการใช้ Windows XP ที่ปริมาณการบริโภคแรมเพียงแค่ 200Mb กว่าๆต้นๆ(ที่กว่าวนี้หมายถึง หลังจากติดตั้ง XP เสร็จหมาดๆล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งโปรแกรมอื่นที่จะทำงานหลัง Startup) แต่พอมาใช้ Vista กลับเสียแรมมากถึง 400Mb เพียงเพื่อรัน Service เพียวๆ ซีเรียสนะเนี่ย หากจะให้ Vista ตัวใหม่ของคุณมอบ Performance ที่น้อยกว่า Windows ตัวเก่าของคุณ แต่มองกลับกัน เอาน่า ขนาดสมัยที่ลง WinMe แล้ว Upgrade มาใช้ Windows XP ยังทำให้ความเร็วในการใช้งานลดลงเลย
เราต้องยอมรับครับว่า การพัฒนาสู่ของใหม่จะทำให้การบริโภคทรัพยากรเท่าเดิมเป็นไปไม่ได้ ลองนึกแบบนี้ หากคุณเล่นเกมส์สมัยดอส ที่มีภาพแตกๆ นั่นใช้ทรัพยากรเครื่องติ๋วเดียว แต่ถ้าคุณจะมาเล่นเกมส์ใหม่ๆในยุคปัจจุบัน คุณจะเขียนโปรแกรมให้มันกิน Resource เท่ากับเกมส์ในดอสได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะการรองรับคำสั่งประมวลผลใหม่ๆ ต้องการการคำนวนที่มากขึ้น เนื่องจากโค้ด API ที่เป็นคำสั่งสคริป 3D ได้มีความซับซ้อนมากขึ้น จะให้เครื่องความเร็วแบบดอส มารันคำสั่งที่เพิ่มขึ้น มันก็ต้องใช้เวลาคำนวนเพิ่มเป็นธรรมดา เว้นเสียแต่ทว่า คุณจะทำการ Upgrade เครื่อง ให้สามารถคำนวนได้เร็วมากขึ้นเพื่อชดเชยระยะเวลาการคำนวนที่เพิ่มตามมา นั่นหละ ! การพัฒนา Hardware ก็เลยต้องมีการพัฒนาตลอดเวลาเพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Vista ก็เป็นก้าวหนึ่งของ Software OS ที่มีการพัฒนาหละ ฉะนั้น การเอาเครื่องที่รัน XP มารัน Vista มันก็ต้องได้ผลลัพท์ที่ "ช้าลง" เป็นธรรมดา ฉะนั้น คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุดของคุณคือการ Upgrade Hardware ของคุณได้แล้ว !
แต่ การ Upgrade มันเป็นเรื่องเกินความจำเป็นไปไหม ในเมื่อ Spec คอมเราในปัจจุบัน สามารถรัน Vista ได้....... งั้น แบบนี้ดีกว่า ผมจะมาแนะนำเทคนิคที่จะช่วยรีดศักยภาพของ Vista จากเครื่องคุณให้ได้มาก ใกล้เคียงกับ XP เลยดีไหม ? รู้สึกอยากใช้ Vista มาหรือยัง ?
ออกโรงก่อน ผมไม่ได้เป็น Partner กับ Microsoft หรือบริษัทใดๆแต่อย่างใด ทุกอย่างในบทความนี้มาจากประสบการ์ณในการใช้คอมของผมล้วนๆ ซึ่งผมจะมาแชร์ประสบการ์ณกับ User ท่านอื่นๆในบทความนี้ (ที่นานๆทีจะมีซักที) ซึ่งจะเป็นเทคนิคการเค้นประสิทธิภาพของ Vista ให้คุณมี Resource เหลืออีกเยอะแยะสำหรับทำงานอื่นๆได้โดยราบรื่น ซึ่งก่อนที่จะเป็นบทความนี้ หรือกว่าจะเป็น Vista ติดจรวดในแบบฉบับ "Perl" ให้ผมได้นั่งใช้รื่นๆได้ ผมได้ติดตั้ง Vista ใหม่นับ 10 ครั้งแล้ว (บางที Tweak เสร็จแล้ว รีคอมครั้งสุดท้าย ดันไปลงโปรแกรมที่ไม่ Support กับ Vista แล้วทำให้บู๊ตไม่ขึ้นซักโหมดซะงั้น จอฟ้า อยากจะร้องโอ้ยดังๆ) แต่ผมจะแนะนำไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ
*ผมจะไม่สอนนะครับว่า Vista นี้ใช้ยังไง คำสั่งนี้เปิดได้ที่ไหน(เฉพาะคำสั่งพื้นๆ) แต่ผมจะมากล่าวถึงการปรับแต่งล้วนๆ (วิธีใช้ไปฝึกใช้กันเอง) บทความนี้เหมาะสำหรับ User ระดับ Professional ขึ้นไปนะครับ
สิ่งสำคัญที่คุณควรทำ หลังจากที่ติดตั้ง Vista มาเสร็จหมาดๆ และกำลังจะลงมือปรับแต่งระบบโดบอ้างอิงบทความนี้
1.> หากทว่าคุณเพิ่งลง Vista เสร็จมาหมาดๆ คุณ "ไม่ควร" ที่จะ Activation ตอนนี้ เนื่องจาก การปรับแต่ง อาจส่งผลต่อเสถียรภาพการทำงาน หากเกิดข้อผิดพลาด ที่ส่งผลให้ Vista ล่ม ไม่สามารถ Boot ได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้อง Setup Vista ใหม่ ซึ่งจะทำให้คุณเสียค่าการ Activation ฟรีๆ (รู้สึกว่า 1 Key จะสามารถ Activation ได้ไม่เกิน 10 ครั้ง) แต่ถ้าหากว่าคุณได้ Activation ไปแล้ว คุณควรที่จะทำการ Backup ระบบก่อนที่จะลงมือ Tweak โดยการทำ Restore Point และ Backup Registry และ Create Snapshot ของโปรแกรม TweakVI เพื่อย้อนคืนค่าในกรณีที่ระบบเกิดปัญหา (หาอ่านได้ในส่วนของการปรับแต่งด้วย TweakVI) หลัง tweak เสร็จก็ค่อย Activation อย่างสบายใจ
*ผมไม่รับบรอง+รับผิดชอบ ความเสียหายของระบบที่เกิดจากการปรับแต่งที่อ้างอิงบทความนี้นะครับ ใช้พิจารณญาณก่อนลงมือซักนิดนะครับ
*แนะนำว่าหากคุณมี OS ตัวเดิม และต้องการที่จะลง Vista ลองลง 2 OS ดูก่อนได้ครับ หากไม่ถูกใจ หรือมีปัญหา จะได้ถอยมาใช้ OS ตัวเดิมได้ ถ้าหากว่าพอใจแล้ว ก็สามารถลบ Partition ของ Windows เดิมทีหลังได้ โดยไม่มีปัญหา (เนื่องจาก Bootloader ของ Vista จะถูกกำหนดให้เป็น Master บน MBR แทนจากเดิมที่เป็นของ Windows XP/2k/2k3 เดิมของคุณ)
2.> คุณควรลง Driver อุปกรณ์ให้สมบูรณ์ก่อนลงมือ Tweak เพื่อความเสถียรของระบบ ซึ่งอุปกรณ์ตัวใดหากไม่ถูกพบและลง Driver ให้โดยอัตโนมัติโดย Vista คุณสามารถใช้ Driver ของ Windows XP ติดตั้งแทนได้โดยไม่มีปัญหา (แนะนำว่าติดตั้งผ่าน Inf ไฟล์ ไม่ควร Setup ติดตั้งเฉพาะ Driver ที่ขาดเท่านั้น อุปรณ์ที่มี Driver ที่มีอยู่ใน Vista อยู่แล้วอย่าไปลง Driver ทับอีกที เช่น Bluetooth /USB2 มิฉะนั้นอาจจะส่งผลต่อกับการ Detect Driver ของอุปกรณ์ตัวอื่นๆได้) คุณสามารถใช้ Windows Update เพื่อหา Driver สำหรับอุปกรณ์ของคุณบน Vista ได้ (แนะนำให้ทำส่วนนี้ก่อนที่จะใช้ Driver XP) และ Driver โดยเฉพาะการ์ดจอ คุณต้องใช้ Driver สำหรับ Vista เท่านั้น สำหรับการ์ดจอ 3D ของ ATI/Nvidia (การ์ดจอยี่ห้ออื่นๆที่ไม่มีคุณสมบัติ 3D แรงๆอย่างพวก Onboard คิดว่าสามารถใช้ Driver เก่าได้ เพราะยังไง Vista ก็คงไม่เปิด Aero Desktop ให้อยู่แล้ว ซึ่งการ์ดจอประเภทนี้ จะไม่มีปัญหาเรื่องความไม่เข้ากันของ Driver การ์ดจอ[ส่งผลให้จอฟ้า] หากไม่มีการรันเกมส์ 3D / สำหรับผู้ใช้การ์ดจอ Onboard ของ Intel สามารถหา Driver Vista ได้จากเว็บ Intel โดยตรง หรือทาง Windows Update ซึ่งเจ้านี้ บางตัวสามารถรองรับ Aero ได้ และ การ์ดจอ ATI/Nvidia สามารถหา Driver Vista ได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต หรืออกีทางที่ http://www.guru3d.com ซึ่งคุณสามารถที่จะหา Mobile GPU Driver หรือ Driver การ์ดจอบนแลปท็อปได้ด้วย[หากในเว็บผู้ผลิตแลปท็อปไม่มีให้] หรือผ่านทาง Windows Update [สำหรับผู้ใช้ของเถื่อน ไม่ต้องกลัวเรื่องการตรวจจับ Activation เพราะผมมีวิธีให้แล้ว สามารถหาอ่านได้ในส่วนของการใช้ Windows Update])
คุณควรสำรวจเว็บไซต์ผู้ผลิต Mainboard ของคุณด้วยว่ามี Update Bios ล่าสุดสำหรับ Vista ของคุณหรือยัง ? หรือถ้าหากยังไม่มี คุณก็ควรจะ Update Bios ให้ใหม่ที่สุด เนื่องจากการยกเลิกการสนับสนุน Energy Star ของ Vista ทำให้ระบบ ACPI Power Management ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป คุณอาจพบปัญหาในเรื่องการ Turn off Monitor หลังเวลาที่ได้กำหนดแล้ว เมื่อทำการเรียกกลับมา จอกลับไม่ตอบสนอง หรือเกิดอาการ crash ไปเลย (ในเมืองนอกมีปัญหานี้กันเยอะครับ) ดังนั้น คุณควร Update Bios ของคุณนะครับ โดยเฉพาะ แลปท็อป คุณสามารถสำรวจ Bios ตัวใหม่ได้ที่เว็บไซต์ ของผู้ผลิตแลปท็อปของคุณนะครับ (ของผม Bios ตัวใหม่พึ่งโผล่มาวันนี้เอง รอส่องดูเว็บมาตั้งแต่เดือนธันวาแล้ว T T )
3.> สเปกสำหรับกาารติดตั้ง Vista ที่จะสามารถทำงานได้แบบราบรื่น ได้แก่สเปกคอมทั่วๆไปที่อยู่ในยุค "ปัจจุบันนี้" เท่านั้นนะครับ คอมที่ซื้อมาเมื่อ 2-3 ปีก่อนอันนั้นไม่เรียกว่ายุคนี้นะ......... สื่งที่ต้องมีเลยคือ CPU ทำงานที่ความเร็ว 1.5GHz เป็นต้นไป (ก็เป็นของปรกติทั่วๆไปนะหละ) การสนับสนุนการทำงานแบบ Multi-Tasking จำนวนมากๆของ CPU ก็จะเป็นสิ่งช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งก็เริ่มตั้งแต่ CPU พวก Hyper-Trading / Dual Core / Duo Core และ Core 2 แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ลงได้ (แต่ไม่รับรองความเร็ว) มาที่แรมขั้นต่ำ ควรเป็นชนิดแบบ DDR (ปัจจุบันนี้ก็ DDR2 แล้ว) และ ขนาดแรมที่เป็นมาตรฐานการทำงานในปัจจุบันนี้ 512 MB ฉะนั้น บทความนี้ ผมก็เลยจะถอดแรมในเครื่องของผมออก ให้เหลือ 512 ซึ่งผมจะมาวัดประสิทธิภาพให้เห็นเลยว่า แรม 512 ก็เล่นได้สบายๆ ส่วน HDD ใช้เท่าไหร่ก็ได้ (ภายหลังการติดตั้ง Vista จะใช้พื้นที่ติดตั้งประมาณ 10GB) และ Interface การส่งข้อมูลบน Hdd ก็สำคัญ อย่างน้อย Hdd แบบ Sata จะให้การส่งข้อมูลที่เร็วกว่า ATA อยู่เล็กน้อย (ATA สูงสุดที่ 133mb/s ส่วน Sata1 อยู่ที่ 150mb/s [Megabyte ต่อ วินาทีนะครับ แต่เอามาคำนวนขณะใช้งานจริงๆ จะช้ากว่านี้ซักแค่ไหน(เร็วกว่านี่ไม่มีแน่นอน) ขึ้นอยู่กับปัจจัยคอขวดภายในนะครับ (อาทิ buffer / ระบบตาราง partition) ก็อย่างที่รู้กันนั่นหละครับว่า Hdd เป็นอุปกรณ์ pc ที่ทำงานได้ช้าที่สุด และเป็นคอขวดตัวหลักของ pc เลยทีเดียว ฉะนั้นก็พิจารณากันให้ดีๆนะครับ สำคัญเลยทีเดียว])
4.> ระบบ Vista ที่คุณควรลงตอนนี้ คือ 32 Bit หรือ x86 เนื่องจากการรองรับของ Application แบบ 64 Bit ที่ยังไม่หลากหลาย การใช้ Vista x64 จะทำให้เพิ่มความยุ่งยากให้กับการทำงานของคุณ อีกทั้ง Driver สำหรับ 64บิต ยังมีไม่มากนัก ซึ่ง Vista หากคุณลง Driver อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้ลงเพราะหาไม่ได้ อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรระบบเลยทีเดียว เพราะอุปกรณ์ตัวที่ไม่ได้ลง Driver จะไปรบกวน Resource กับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ / หากทว่าคุณใช้ 64 Bit คุณจะยังคงสามารถใช้ Application แบบ 32 Bit ได้ แต่ จะส่งผลต่อความเร็วในการทำงานที่ลดลง เนื่องจาก Vista x64 ต้องทำการจำลองตัวเองจาก 64 Bit เป็น 32 Bit เพื่อให้สามารถรัน Application เหล่านั้นได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระขั้นตอนการทำงานให้ซับซ้อนขึ้น และเสีย Resource ไปโดยไม่จำเป็น (อีกทั้ง x64 ต้องการช่องทางแบนด์วิทที่สูงขึ้น การใช้แรมเพียงแค่ 512 อาจน้อยไปบนระบบ x64)
สเปกที่ผมนำมา Tweak นี้ เป็น Laptop ซึ่งหมายความว่า หากคุณใช้ Desktop PC คุณอาจจะได้ Performance ที่มากกว่าผม โดยมีข้อแม้ว่า PC มีเสปกใกล้เคียงของผมเป็นอย่างต่ำ เนื่องจากการส่งข้อมูลของ CPU / HDD ของแลปท็อป จะทำงานได้ ช้า กว่า PC (ห้ามเถียงว่า Core2 รุ่นเดียวแบบเดียวกันบน Laptop กับ PC มีความเร็วในการใช้งานจริง ที่เท่ากันนะ ผิดถนัด)
เสปกที่นำมาอ้างอิงบทความ
Intel Core 2 Duo T550 1.66GHz
DDR2 512 MB
SATA Hdd 120Gb
Geforce Go 7200
ได้ Performance Rate แค่ 2.7 ครับ เพราะถอดแรมออก แต่ถึงยังไงมากสุดผมก็ได้แค่ 2.9 เพราะติดการ์ดจอ (-- --"! (เอาไว้รอได้การ์ดจอแยกก่อนเหอะ)
5.Software เหล่านี้ ห้ามติดตั้งใน Vista เพราะจะทำให้ Vista ไม่สามารถใช้งานได้ (จอฟ้าตอน Boot)
>Mcafee Viruscan 8.0i
>Alcohol 120% /50 % --------------> (ใช้ใน Vista ได้แล้วครับ แต่ต้องเป็น Version ล่าสุดในตอนนี้เท่านั้นนะครับ 1.96.4719)
>Acronis OS Selector
>(ส่วน Software ใดๆที่ใช้แล้ว Vista เน่าบอกได้นะครับจะเพิ่มใน List ให้)
ตกลงกันก่อนเลยนะครับว่า ห้ามถามผมว่าหาโหลด Vista ได้จากที่ไหนบ้าง หรือ Activation ยังไง Crack มีไหม หาได้อย่างไร ไม่รับคำถามแล้วก็ไม่ตอบให้นะครับ และคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับ Application นอกเหนือบทความ อาทิเช่น Gadgets นี้หาได้ที่ไหน (ไม่ PM เกี่ยวกับคำถามเหล่านี้ด้วย) แต่ยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆที่มีในบทความ
เอาหละ เราจะเริ่มที่การปรับแต่งระบบเบื้องต้นก่อน เพื่อให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
(บทความนี้รูปประกอบเยอะ ทำให้การโหลดรูปอาจใช้เวลาอยู่พอสมควรบ้าง ไม่ต้องใจร้อน ค่อยๆอ่านนะครับ แล้วคุณจะได้ Vista ที่มีประสิทธิภาพสำหรับคุณ)
เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ จดจำเอาไว้นะครับ ว่าตอนนี้ผมมีปริมาณการใช้แรมที่ 348MB
อย่าแปลกใจว่าทำไมของคุณเป็น 400 กว่า เนื่องจาก Vista จะมีการลดปริมาณการ Process ของ Service ที่ไม่ได้ถูกเรียกใช้งาน ซึ่งจะคายแรมกลับออกมา แต่จะไม่ได้คายออกมาทีเดียวพรวดพราด แต่จะค่อยๆคายออกมาเมื่อพบว่า Service นี้มีปริมาณการใช้งานที่น้อย เป็นหนึ่งอัลกอริทึมที่ยอดเยี่ยมของ Vista โดยเริ่มแรกจากการ Startup Vista จะมีการใช้แรมที่สูงเพราะต้องมีการเรียกเปิดใช้ Service และโหลดค่าคอมโพเน็นต์ต่างๆจำนวนมาก แต่หลังจากที่โหลด Startup เสร็จแล้ว ระบบก็จะเริ่มคายแรมออกมา ดังนั้นการหาค่าปริมาณการใช้แรมของ Vista ผมก็จะเปิดระบบ Standby ทิ้งไว้เฉยๆ (โดยไม่ทำงาน+เปิดโปรแกรมใดๆ รวมถึงโปรแกรมบน Startup) และ Monitor Task Manager ทิ้งไว้ ซึ่งจะเห็นว่าปริมาณการใช้แรมจะค่อยๆลดเรื่อยๆจนถึงระดับที่คงที่ (ประมาณ 5 นาที) ซึ่งก็จะเป็นปริมาณการใช้งานแรมบน Vista ของผม
(เปรียบเทียบกับใน windows 2003 ของผม ถ้าไม่ได้ปรับแต่งใดๆ จะอยู่ที่ 200 กว่าๆเกือบ 300 ส่วนหลังปรับแต่งจะอยู่ที่ 150 ส่วน Vista ของเราจะได้เท่าใดลองมา Tweak กัน อืม... เอาเป็นผมกำหนดว่ามาตรฐานของ XP ในบทความนี้ ผมให้ที่ 200 MB นะครับ [ถือว่าต่ำนะ ลองเปิด Task Manager ของคุณใน XP สิ ส่วนใหญ่เกิน 300 กันเรียบ] ซึ่งผมจะทำให้ Vista ดูดแรมที่ 200MB ! )
*ผมจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่ลง Vista เสร็จมาใหม่ๆ ซึ่งเราก็ทำขึ้นไปเรื่อยๆเป็นเสตปขั้น
เริ่มปรับแต่งพื้นฐาน หลังจากที่คุณติดตั้ง Vista เสร็จมาใหม่ (First Boot) สิ่งที่คุณจะพบคือ Welcome Center ซึ่งครั้งแรกหลังจากการติดตั้งจะโผล่ออกมา
และหลังจากผ่านการ Restart ครั้งแรกไป หน้าต่าง Welcome Center จะมี Option ให้คุณสามารถปิดหน้าต่างนี้ไม่ให้ออกมาเมือเริ่มต้นระบบได้ ด้วยการเอาติ๊กถูกออกดังรูป
สิ่งต่อมาที่คุณจะพบก็คือ Security Center ตรงบริเวณ System Tray
ซึ่งประกอบด้วย Firewall /Windows Defender / Internet Option /Internet Phising Filter ในที่นี้เราจะปิด Software ที่กิน resource เครื่อง ซึ่งได้แก่
Windows Defender ซึ่งเป็น Software ครบครันเรื่อง Anti-Spyware และ Antivirus จาก Microsoft แต่เนื่องจากว่ากิน Resource เครื่องมากมาย เราก็จะทำการ Turn Off ออกไป (จะคงไว้ก็ได้ หากต้องการที่จะใช้) ซึ่งหากปิดไปล้ว คุณก็สามารถลงโปรแกรม Anti-Virus ตัวอื่นๆได้
โดยเอาติ๊กถูกออกให้หมด ยกเว้น 3 อันดังรูป (เพราะไม่เกี่ยว เอาติ๊กถูกหัวข้อหลักออก ข้อย่อยก็จะอยุดการทำงานไปเองโดยอัติโนมัติ)
หลังจากนั้น ต่อที่การกำหนดค่า Automatic Update (เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสามารถกำหนดป้องกันการ Download Update ที่เราไม่ต้องการให้โหลดมาได้) โดยเลือกที่ Let Me Choose
และเลือกรูปแบบการ Update เป็น (ดังรูป)
เป็นการตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อมี Update ใหม่ๆ แต่สามารถที่จะเลือกโหลดเฉพาะตัวใดก็ได้ที่เราต้องการ (สำคัญสำหรับการใช้งาน Vista เพราะการใช้งานส่วนใหญ่ถ้าหากต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน การ Update เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะการลดบั๊กต่างๆที่เกิดขี้นมา [ลำพัง Vista วางจำหน่าววันแรก Update ผุดออกมาตรึม])
จัดแจงตั้งค่า Security Center นอกเหนือจากนี้ให้เหมาะสมตามการใช้งานของคุณ หลังจากนั้นให้ปิดการแจ้งเตือนของ security Center เนื่องจากอาจจะสร้างความรำคาญให้กับการใช้งาน และเป็นการสิ้นเปลือง Resource โดยไม่จำเป็น โดยกำหนดดังรูป
ดังที่กล่าวขั้นต้น การ Update เป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นหลังจากเสร็จสิ้นการติดตั้ง Vista ก็ควรจะทำการ Update ทันทีเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และเป็นการตรวจหา Driver ใหม่ๆที่เข้ากันกับ Hardware ของคุณ [Start>All Program>Windows Update] (ซึ่งหากยังไม่ Activation ก็สามารถใช้การ Update ได้ หรือ Activate แบบไม่ปรกติก็ใช้ได้เช่นกัน) ซึ่งสิ่งแรกก่อนการ Update คือคุณต้องกำหนดค่า Automatic Update ซะก่อน เพื่อไม่ให้ทำการ Update โดยอัตโนมัติ (วิธีการตั้งค่าอยู่ข้างบน) จากนั้นคุณจะสามารถดูรายการ Update ที่ต้องการได้จากตรงนี้ (ถ้าไม่ปรากฏให้เลือก check for update ที่แทปซ้ายเพื่อทำการตรวจสอบเสียก่อน)
รายการ Update ที่ไม่ควรติดตั้ง คือ KB931573 และ Windows Vista Validation Update
เนื่องจากจะทำการตรวจสอบ Activation สำหรับ Vista ที่ Activation ที่ไม่ถูกต้อง (พลาดติดตั้งแล้วแก้ไม่ได้ ต้องลง Vista ใหม่เท่านั้น)
ซึ่งวิธีการปิดไม่ให้รายการ Update ที่เราไม่ต้องการ ขึ้นมาลิสต์ทุกครั้งที่มีการ Update ให้คลิ๊กขวาที่รายการ Update ตัวนั้นๆ แล้วเลือก Hide Update ซึ่งการ Update ในครั้งต่อไป รายการนี้จะไม่โผล่มาอีก (คุณสามารตรวจสอบว่า Update ตัวใด คืออะไรได้ด้วยการคลิ๊กขวาที่ Update นั้นๆ เลือก View Detail ซึ่งจะบอกคุณสมบัติ และหน้าที่การทำงานของ Update ตัวนั้นๆ)
ต่อมาสำหรับคนที่ใช้ Lan สังเกตุที่ไอคอนn Network Center ของคุณ ซึ่งไม่มีไฟกระพริบไปมาเหมือน XP ให้คุณคลิ๊กขวา แล้วเลือก Turn On Activity Animation ซึ่งจะแสดงไฟกระพริบบอกกิจกรรมการส่งข้อมูลบเน็ตเวิร์กตามปรกติ
Startup Logo ของ Vista มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Mac OSX คือ มีแต่โลโก้ชื่อบริษัทเท่านั้น ฉะนั้นอย่าแปลกใจคิดว่า Vista ของคุณนั้นสมบูรณ์ไหม ? [Microsoft ออกมายืนยันในเรื่องนี้ว่า "By Design" ซึ่งหมายความว่า เขาตั้งใจที่จะออกแบบมาเป็นแบบนั้นหน่ะ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจครับ] แต่คุณสามารถเปลี่ยนหน้าจอ Boot อีกแบบ ได้ โดยไปที่ run>msconfig ที่แท็ป Boot คุณสามารถเลือก No GUI Boot เพื่อเปลี่ยนหน้าจอบู๊ตแบบแสงออโรร่าของ Vista แทน (หรือจะไม่เลือกก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล)
หน้าจอ User Account Control ที่จะขึ้นมาเพื่อถาม Permission เสมอๆ เมื่อเปิด Application ใดๆ สร้างปัญหาให้กับการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก (อีกทั้งหน้าจอ UAC นี้ทำให้เกิดการหระพริบของหน้าจอ ซึ่งบางทีอาจส่งผลให้ Vista จอล่มไปชั่วขณะได้) แต่คุณสามารถปิดได้ ผ่านทาง User Account
โดยไปที่ Control Panel>User Account and Family Safety>User Account และเข้าไปปิดจาก Link ในรูป
การตั้งค่า Power Plan ก็เป็นสิ่งสำคัญ [คลิ๊กขวาที่ Desktop>Personalization>Screen Saver>Change Power Setting] เนื่องจาก Plan ต่างๆ สามารถกำหนดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ (โดยเฉพาะแลปท็อป) ซึ่ง Power Plan แบบใหม่ของ Vista การตั้งค่า Minimal สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตได้จากปรกติได้ถึง 1 ชม ขึ้นไป ! รวมถึงการตั้งค่า Turn Off Monitor สามารถตั้งได้ในส่วนนี้ (Vista ไม่มีการใช้ระบบ Energy Star Power ฉะนั้นการตั้งค่า Turn Off Minitor จออาจไม่ดับเมื่อถึงเวลา หากว่าคุณไม่ได้ติดตั้ง Driver การ์ดจออย่างถูกต้อง หรืออาจจะดับแล้วไม่สามารถเรียกจอภาพขึ้นมาใหม่ได้..... ฉะนั้น การติดตั้ง Driver ให้ครบเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ Vista ของคุณ) ทั้งคุณยังสามารถกำหนด Advance Power Plan ได้ว่าจะกระทำการใดๆ เมื่อถึง scheme ที่กำหนดไว้ และปุ่ม Turn Off สีแดงบน Start Menu ก็สามารถกำหนดได้เหมือนกันจากส่วนนี้ ว่าให้กระทำการ Restart / Shutdown /Hibernate หรือ Sleep หลักจากที่คุณได้คลิ๊กไป (ค่า Default ของ Vista คือ Restart)
(แต่ละ Plan นอกจากส่งผลต่อปริมาณการใช้ไฟฟ้าบน PC ของคุณแล้ว ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่จะมากน้อยแปรผันตามปริมาณการใช้ไฟเช่นกัน สำหรับบทความนี้จะอิงที่ Hight Performance เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดออกมา)
Comment