Announcement

Collapse
No announcement yet.

Tune-UP Vista Ultimate / Optimize Vista ให้แรงสำหรับ Pro User

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Tune-UP Vista Ultimate / Optimize Vista ให้แรงสำหรับ Pro User

    Tune-UP Vista Ultimate ผู้เขียน Perlnx

    เอาหละ หลังจากที่ Vista ตัวจริงวางจำหน่ายมาได้ 3-4 วันแล้ว อาจจะมีหลายคนที่ได้ลองใช้แล้ว หรือยังไม่ได้ลอง แต่แน่นอนครับ ผมชอบลองของก็เลยจับเอา Vista มาลงเล่นดู (ความจริงก็ลงตั้งแต่ธันวาปีแล้วหละ ตัว RTM) ผมขอสารภาพเลยว่า First Impression (ความประทับใจครั้งแรก) ของผม = " - " ลบครับ แถมลบมากด้วยละซิ แต่ถ้ามันไม่ดีจริง งั้น MS จะทำการออกมันมาทำไม ในเมื่อมันไม่ Work ขนาดนั้น ผมก็เลยทดลองจับไปเรื่อยๆ แล้วในที่สุด ก็ได้คำตอบว่า เป็นเพราะผมเป็น "มือใหม่" สำหรับ Vista หรือ พูดตรงๆก็คือ ผมใช้ไม่เป็นนั่นหละ แต่ทว่าตอนนี้ รู้สึกว่าจะ คุ้นเคยกับมันใช้ได้แล้ว (ใช้มาตั้งเดือนจะให้ไม่คุ้นได้ไง) ผมพบว่า มันมีลูกเล่นอัดมาให้สารพัดเลยหละ ในความรู้สึกส่วนตัว มันทำให้การใช้ Windows ง่ายยิ่งกว่าเดิมอีกเป็นกระบุง แต่ใครบอกว่ามันจะดีเสมอไป ระบบความสวยงามและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ผมก็ต้องแลกกับ Resource ที่เสียไปมากกว่าเดิม คุณอาจจะคุ้นเคยกับการใช้ Windows XP ที่ปริมาณการบริโภคแรมเพียงแค่ 200Mb กว่าๆต้นๆ(ที่กว่าวนี้หมายถึง หลังจากติดตั้ง XP เสร็จหมาดๆล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งโปรแกรมอื่นที่จะทำงานหลัง Startup) แต่พอมาใช้ Vista กลับเสียแรมมากถึง 400Mb เพียงเพื่อรัน Service เพียวๆ ซีเรียสนะเนี่ย หากจะให้ Vista ตัวใหม่ของคุณมอบ Performance ที่น้อยกว่า Windows ตัวเก่าของคุณ แต่มองกลับกัน เอาน่า ขนาดสมัยที่ลง WinMe แล้ว Upgrade มาใช้ Windows XP ยังทำให้ความเร็วในการใช้งานลดลงเลย
    เราต้องยอมรับครับว่า การพัฒนาสู่ของใหม่จะทำให้การบริโภคทรัพยากรเท่าเดิมเป็นไปไม่ได้ ลองนึกแบบนี้ หากคุณเล่นเกมส์สมัยดอส ที่มีภาพแตกๆ นั่นใช้ทรัพยากรเครื่องติ๋วเดียว แต่ถ้าคุณจะมาเล่นเกมส์ใหม่ๆในยุคปัจจุบัน คุณจะเขียนโปรแกรมให้มันกิน Resource เท่ากับเกมส์ในดอสได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ เพราะการรองรับคำสั่งประมวลผลใหม่ๆ ต้องการการคำนวนที่มากขึ้น เนื่องจากโค้ด API ที่เป็นคำสั่งสคริป 3D ได้มีความซับซ้อนมากขึ้น จะให้เครื่องความเร็วแบบดอส มารันคำสั่งที่เพิ่มขึ้น มันก็ต้องใช้เวลาคำนวนเพิ่มเป็นธรรมดา เว้นเสียแต่ทว่า คุณจะทำการ Upgrade เครื่อง ให้สามารถคำนวนได้เร็วมากขึ้นเพื่อชดเชยระยะเวลาการคำนวนที่เพิ่มตามมา นั่นหละ ! การพัฒนา Hardware ก็เลยต้องมีการพัฒนาตลอดเวลาเพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง Vista ก็เป็นก้าวหนึ่งของ Software OS ที่มีการพัฒนาหละ ฉะนั้น การเอาเครื่องที่รัน XP มารัน Vista มันก็ต้องได้ผลลัพท์ที่ "ช้าลง" เป็นธรรมดา ฉะนั้น คำตอบที่สมบูรณ์ที่สุดของคุณคือการ Upgrade Hardware ของคุณได้แล้ว !
    แต่ การ Upgrade มันเป็นเรื่องเกินความจำเป็นไปไหม ในเมื่อ Spec คอมเราในปัจจุบัน สามารถรัน Vista ได้....... งั้น แบบนี้ดีกว่า ผมจะมาแนะนำเทคนิคที่จะช่วยรีดศักยภาพของ Vista จากเครื่องคุณให้ได้มาก ใกล้เคียงกับ XP เลยดีไหม ? รู้สึกอยากใช้ Vista มาหรือยัง ?

    ออกโรงก่อน ผมไม่ได้เป็น Partner กับ Microsoft หรือบริษัทใดๆแต่อย่างใด ทุกอย่างในบทความนี้มาจากประสบการ์ณในการใช้คอมของผมล้วนๆ ซึ่งผมจะมาแชร์ประสบการ์ณกับ User ท่านอื่นๆในบทความนี้ (ที่นานๆทีจะมีซักที) ซึ่งจะเป็นเทคนิคการเค้นประสิทธิภาพของ Vista ให้คุณมี Resource เหลืออีกเยอะแยะสำหรับทำงานอื่นๆได้โดยราบรื่น ซึ่งก่อนที่จะเป็นบทความนี้ หรือกว่าจะเป็น Vista ติดจรวดในแบบฉบับ "Perl" ให้ผมได้นั่งใช้รื่นๆได้ ผมได้ติดตั้ง Vista ใหม่นับ 10 ครั้งแล้ว (บางที Tweak เสร็จแล้ว รีคอมครั้งสุดท้าย ดันไปลงโปรแกรมที่ไม่ Support กับ Vista แล้วทำให้บู๊ตไม่ขึ้นซักโหมดซะงั้น จอฟ้า อยากจะร้องโอ้ยดังๆ) แต่ผมจะแนะนำไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ

    *ผมจะไม่สอนนะครับว่า Vista นี้ใช้ยังไง คำสั่งนี้เปิดได้ที่ไหน(เฉพาะคำสั่งพื้นๆ) แต่ผมจะมากล่าวถึงการปรับแต่งล้วนๆ (วิธีใช้ไปฝึกใช้กันเอง) บทความนี้เหมาะสำหรับ User ระดับ Professional ขึ้นไปนะครับ

    สิ่งสำคัญที่คุณควรทำ หลังจากที่ติดตั้ง Vista มาเสร็จหมาดๆ และกำลังจะลงมือปรับแต่งระบบโดบอ้างอิงบทความนี้

    1.> หากทว่าคุณเพิ่งลง Vista เสร็จมาหมาดๆ คุณ "ไม่ควร" ที่จะ Activation ตอนนี้ เนื่องจาก การปรับแต่ง อาจส่งผลต่อเสถียรภาพการทำงาน หากเกิดข้อผิดพลาด ที่ส่งผลให้ Vista ล่ม ไม่สามารถ Boot ได้ คุณก็จำเป็นที่จะต้อง Setup Vista ใหม่ ซึ่งจะทำให้คุณเสียค่าการ Activation ฟรีๆ (รู้สึกว่า 1 Key จะสามารถ Activation ได้ไม่เกิน 10 ครั้ง) แต่ถ้าหากว่าคุณได้ Activation ไปแล้ว คุณควรที่จะทำการ Backup ระบบก่อนที่จะลงมือ Tweak โดยการทำ Restore Point และ Backup Registry และ Create Snapshot ของโปรแกรม TweakVI เพื่อย้อนคืนค่าในกรณีที่ระบบเกิดปัญหา (หาอ่านได้ในส่วนของการปรับแต่งด้วย TweakVI) หลัง tweak เสร็จก็ค่อย Activation อย่างสบายใจ
    *ผมไม่รับบรอง+รับผิดชอบ ความเสียหายของระบบที่เกิดจากการปรับแต่งที่อ้างอิงบทความนี้นะครับ ใช้พิจารณญาณก่อนลงมือซักนิดนะครับ
    *แนะนำว่าหากคุณมี OS ตัวเดิม และต้องการที่จะลง Vista ลองลง 2 OS ดูก่อนได้ครับ หากไม่ถูกใจ หรือมีปัญหา จะได้ถอยมาใช้ OS ตัวเดิมได้ ถ้าหากว่าพอใจแล้ว ก็สามารถลบ Partition ของ Windows เดิมทีหลังได้ โดยไม่มีปัญหา (เนื่องจาก Bootloader ของ Vista จะถูกกำหนดให้เป็น Master บน MBR แทนจากเดิมที่เป็นของ Windows XP/2k/2k3 เดิมของคุณ)

    2.> คุณควรลง Driver อุปกรณ์ให้สมบูรณ์ก่อนลงมือ Tweak เพื่อความเสถียรของระบบ ซึ่งอุปกรณ์ตัวใดหากไม่ถูกพบและลง Driver ให้โดยอัตโนมัติโดย Vista คุณสามารถใช้ Driver ของ Windows XP ติดตั้งแทนได้โดยไม่มีปัญหา (แนะนำว่าติดตั้งผ่าน Inf ไฟล์ ไม่ควร Setup ติดตั้งเฉพาะ Driver ที่ขาดเท่านั้น อุปรณ์ที่มี Driver ที่มีอยู่ใน Vista อยู่แล้วอย่าไปลง Driver ทับอีกที เช่น Bluetooth /USB2 มิฉะนั้นอาจจะส่งผลต่อกับการ Detect Driver ของอุปกรณ์ตัวอื่นๆได้) คุณสามารถใช้ Windows Update เพื่อหา Driver สำหรับอุปกรณ์ของคุณบน Vista ได้ (แนะนำให้ทำส่วนนี้ก่อนที่จะใช้ Driver XP) และ Driver โดยเฉพาะการ์ดจอ คุณต้องใช้ Driver สำหรับ Vista เท่านั้น สำหรับการ์ดจอ 3D ของ ATI/Nvidia (การ์ดจอยี่ห้ออื่นๆที่ไม่มีคุณสมบัติ 3D แรงๆอย่างพวก Onboard คิดว่าสามารถใช้ Driver เก่าได้ เพราะยังไง Vista ก็คงไม่เปิด Aero Desktop ให้อยู่แล้ว ซึ่งการ์ดจอประเภทนี้ จะไม่มีปัญหาเรื่องความไม่เข้ากันของ Driver การ์ดจอ[ส่งผลให้จอฟ้า] หากไม่มีการรันเกมส์ 3D / สำหรับผู้ใช้การ์ดจอ Onboard ของ Intel สามารถหา Driver Vista ได้จากเว็บ Intel โดยตรง หรือทาง Windows Update ซึ่งเจ้านี้ บางตัวสามารถรองรับ Aero ได้ และ การ์ดจอ ATI/Nvidia สามารถหา Driver Vista ได้จากเว็บไซต์ผู้ผลิต หรืออกีทางที่ http://www.guru3d.com ซึ่งคุณสามารถที่จะหา Mobile GPU Driver หรือ Driver การ์ดจอบนแลปท็อปได้ด้วย[หากในเว็บผู้ผลิตแลปท็อปไม่มีให้] หรือผ่านทาง Windows Update [สำหรับผู้ใช้ของเถื่อน ไม่ต้องกลัวเรื่องการตรวจจับ Activation เพราะผมมีวิธีให้แล้ว สามารถหาอ่านได้ในส่วนของการใช้ Windows Update])

    คุณควรสำรวจเว็บไซต์ผู้ผลิต Mainboard ของคุณด้วยว่ามี Update Bios ล่าสุดสำหรับ Vista ของคุณหรือยัง ? หรือถ้าหากยังไม่มี คุณก็ควรจะ Update Bios ให้ใหม่ที่สุด เนื่องจากการยกเลิกการสนับสนุน Energy Star ของ Vista ทำให้ระบบ ACPI Power Management ได้มีการเปลี่ยนแปลงไป คุณอาจพบปัญหาในเรื่องการ Turn off Monitor หลังเวลาที่ได้กำหนดแล้ว เมื่อทำการเรียกกลับมา จอกลับไม่ตอบสนอง หรือเกิดอาการ crash ไปเลย (ในเมืองนอกมีปัญหานี้กันเยอะครับ) ดังนั้น คุณควร Update Bios ของคุณนะครับ โดยเฉพาะ แลปท็อป คุณสามารถสำรวจ Bios ตัวใหม่ได้ที่เว็บไซต์ ของผู้ผลิตแลปท็อปของคุณนะครับ (ของผม Bios ตัวใหม่พึ่งโผล่มาวันนี้เอง รอส่องดูเว็บมาตั้งแต่เดือนธันวาแล้ว T T )


    3.> สเปกสำหรับกาารติดตั้ง Vista ที่จะสามารถทำงานได้แบบราบรื่น ได้แก่สเปกคอมทั่วๆไปที่อยู่ในยุค "ปัจจุบันนี้" เท่านั้นนะครับ คอมที่ซื้อมาเมื่อ 2-3 ปีก่อนอันนั้นไม่เรียกว่ายุคนี้นะ......... สื่งที่ต้องมีเลยคือ CPU ทำงานที่ความเร็ว 1.5GHz เป็นต้นไป (ก็เป็นของปรกติทั่วๆไปนะหละ) การสนับสนุนการทำงานแบบ Multi-Tasking จำนวนมากๆของ CPU ก็จะเป็นสิ่งช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งก็เริ่มตั้งแต่ CPU พวก Hyper-Trading / Dual Core / Duo Core และ Core 2 แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ลงได้ (แต่ไม่รับรองความเร็ว) มาที่แรมขั้นต่ำ ควรเป็นชนิดแบบ DDR (ปัจจุบันนี้ก็ DDR2 แล้ว) และ ขนาดแรมที่เป็นมาตรฐานการทำงานในปัจจุบันนี้ 512 MB ฉะนั้น บทความนี้ ผมก็เลยจะถอดแรมในเครื่องของผมออก ให้เหลือ 512 ซึ่งผมจะมาวัดประสิทธิภาพให้เห็นเลยว่า แรม 512 ก็เล่นได้สบายๆ ส่วน HDD ใช้เท่าไหร่ก็ได้ (ภายหลังการติดตั้ง Vista จะใช้พื้นที่ติดตั้งประมาณ 10GB) และ Interface การส่งข้อมูลบน Hdd ก็สำคัญ อย่างน้อย Hdd แบบ Sata จะให้การส่งข้อมูลที่เร็วกว่า ATA อยู่เล็กน้อย (ATA สูงสุดที่ 133mb/s ส่วน Sata1 อยู่ที่ 150mb/s [Megabyte ต่อ วินาทีนะครับ แต่เอามาคำนวนขณะใช้งานจริงๆ จะช้ากว่านี้ซักแค่ไหน(เร็วกว่านี่ไม่มีแน่นอน) ขึ้นอยู่กับปัจจัยคอขวดภายในนะครับ (อาทิ buffer / ระบบตาราง partition) ก็อย่างที่รู้กันนั่นหละครับว่า Hdd เป็นอุปกรณ์ pc ที่ทำงานได้ช้าที่สุด และเป็นคอขวดตัวหลักของ pc เลยทีเดียว ฉะนั้นก็พิจารณากันให้ดีๆนะครับ สำคัญเลยทีเดียว])

    4.> ระบบ Vista ที่คุณควรลงตอนนี้ คือ 32 Bit หรือ x86 เนื่องจากการรองรับของ Application แบบ 64 Bit ที่ยังไม่หลากหลาย การใช้ Vista x64 จะทำให้เพิ่มความยุ่งยากให้กับการทำงานของคุณ อีกทั้ง Driver สำหรับ 64บิต ยังมีไม่มากนัก ซึ่ง Vista หากคุณลง Driver อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง หรือไม่ได้ลงเพราะหาไม่ได้ อาจส่งผลกระทบต่อความเสถียรระบบเลยทีเดียว เพราะอุปกรณ์ตัวที่ไม่ได้ลง Driver จะไปรบกวน Resource กับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ / หากทว่าคุณใช้ 64 Bit คุณจะยังคงสามารถใช้ Application แบบ 32 Bit ได้ แต่ จะส่งผลต่อความเร็วในการทำงานที่ลดลง เนื่องจาก Vista x64 ต้องทำการจำลองตัวเองจาก 64 Bit เป็น 32 Bit เพื่อให้สามารถรัน Application เหล่านั้นได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระขั้นตอนการทำงานให้ซับซ้อนขึ้น และเสีย Resource ไปโดยไม่จำเป็น (อีกทั้ง x64 ต้องการช่องทางแบนด์วิทที่สูงขึ้น การใช้แรมเพียงแค่ 512 อาจน้อยไปบนระบบ x64)

    สเปกที่ผมนำมา Tweak นี้ เป็น Laptop ซึ่งหมายความว่า หากคุณใช้ Desktop PC คุณอาจจะได้ Performance ที่มากกว่าผม โดยมีข้อแม้ว่า PC มีเสปกใกล้เคียงของผมเป็นอย่างต่ำ เนื่องจากการส่งข้อมูลของ CPU / HDD ของแลปท็อป จะทำงานได้ ช้า กว่า PC (ห้ามเถียงว่า Core2 รุ่นเดียวแบบเดียวกันบน Laptop กับ PC มีความเร็วในการใช้งานจริง ที่เท่ากันนะ ผิดถนัด)

    เสปกที่นำมาอ้างอิงบทความ
    Intel Core 2 Duo T550 1.66GHz
    DDR2 512 MB
    SATA Hdd 120Gb
    Geforce Go 7200

    ได้ Performance Rate แค่ 2.7 ครับ เพราะถอดแรมออก แต่ถึงยังไงมากสุดผมก็ได้แค่ 2.9 เพราะติดการ์ดจอ (-- --"! (เอาไว้รอได้การ์ดจอแยกก่อนเหอะ)





    5.Software เหล่านี้ ห้ามติดตั้งใน Vista เพราะจะทำให้ Vista ไม่สามารถใช้งานได้ (จอฟ้าตอน Boot)
    >Mcafee Viruscan 8.0i
    >Alcohol 120% /50 % --------------> (ใช้ใน Vista ได้แล้วครับ แต่ต้องเป็น Version ล่าสุดในตอนนี้เท่านั้นนะครับ 1.96.4719)
    >Acronis OS Selector

    >(ส่วน Software ใดๆที่ใช้แล้ว Vista เน่าบอกได้นะครับจะเพิ่มใน List ให้)


    ตกลงกันก่อนเลยนะครับว่า ห้ามถามผมว่าหาโหลด Vista ได้จากที่ไหนบ้าง หรือ Activation ยังไง Crack มีไหม หาได้อย่างไร ไม่รับคำถามแล้วก็ไม่ตอบให้นะครับ และคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับ Application นอกเหนือบทความ อาทิเช่น Gadgets นี้หาได้ที่ไหน (ไม่ PM เกี่ยวกับคำถามเหล่านี้ด้วย) แต่ยินดีให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคต่างๆที่มีในบทความ


    เอาหละ เราจะเริ่มที่การปรับแต่งระบบเบื้องต้นก่อน เพื่อให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างราบรื่น
    (บทความนี้รูปประกอบเยอะ ทำให้การโหลดรูปอาจใช้เวลาอยู่พอสมควรบ้าง ไม่ต้องใจร้อน ค่อยๆอ่านนะครับ แล้วคุณจะได้ Vista ที่มีประสิทธิภาพสำหรับคุณ)

    เพื่อเป็นการเปรียบเทียบ จดจำเอาไว้นะครับ ว่าตอนนี้ผมมีปริมาณการใช้แรมที่ 348MB


    อย่าแปลกใจว่าทำไมของคุณเป็น 400 กว่า เนื่องจาก Vista จะมีการลดปริมาณการ Process ของ Service ที่ไม่ได้ถูกเรียกใช้งาน ซึ่งจะคายแรมกลับออกมา แต่จะไม่ได้คายออกมาทีเดียวพรวดพราด แต่จะค่อยๆคายออกมาเมื่อพบว่า Service นี้มีปริมาณการใช้งานที่น้อย เป็นหนึ่งอัลกอริทึมที่ยอดเยี่ยมของ Vista โดยเริ่มแรกจากการ Startup Vista จะมีการใช้แรมที่สูงเพราะต้องมีการเรียกเปิดใช้ Service และโหลดค่าคอมโพเน็นต์ต่างๆจำนวนมาก แต่หลังจากที่โหลด Startup เสร็จแล้ว ระบบก็จะเริ่มคายแรมออกมา ดังนั้นการหาค่าปริมาณการใช้แรมของ Vista ผมก็จะเปิดระบบ Standby ทิ้งไว้เฉยๆ (โดยไม่ทำงาน+เปิดโปรแกรมใดๆ รวมถึงโปรแกรมบน Startup) และ Monitor Task Manager ทิ้งไว้ ซึ่งจะเห็นว่าปริมาณการใช้แรมจะค่อยๆลดเรื่อยๆจนถึงระดับที่คงที่ (ประมาณ 5 นาที) ซึ่งก็จะเป็นปริมาณการใช้งานแรมบน Vista ของผม
    (เปรียบเทียบกับใน windows 2003 ของผม ถ้าไม่ได้ปรับแต่งใดๆ จะอยู่ที่ 200 กว่าๆเกือบ 300 ส่วนหลังปรับแต่งจะอยู่ที่ 150 ส่วน Vista ของเราจะได้เท่าใดลองมา Tweak กัน อืม... เอาเป็นผมกำหนดว่ามาตรฐานของ XP ในบทความนี้ ผมให้ที่ 200 MB นะครับ [ถือว่าต่ำนะ ลองเปิด Task Manager ของคุณใน XP สิ ส่วนใหญ่เกิน 300 กันเรียบ] ซึ่งผมจะทำให้ Vista ดูดแรมที่ 200MB ! )

    *ผมจะเริ่มต้นตั้งแต่ที่ลง Vista เสร็จมาใหม่ๆ ซึ่งเราก็ทำขึ้นไปเรื่อยๆเป็นเสตปขั้น



    เริ่มปรับแต่งพื้นฐาน หลังจากที่คุณติดตั้ง Vista เสร็จมาใหม่ (First Boot) สิ่งที่คุณจะพบคือ Welcome Center ซึ่งครั้งแรกหลังจากการติดตั้งจะโผล่ออกมา
    และหลังจากผ่านการ Restart ครั้งแรกไป หน้าต่าง Welcome Center จะมี Option ให้คุณสามารถปิดหน้าต่างนี้ไม่ให้ออกมาเมือเริ่มต้นระบบได้ ด้วยการเอาติ๊กถูกออกดังรูป






    สิ่งต่อมาที่คุณจะพบก็คือ Security Center ตรงบริเวณ System Tray
    ซึ่งประกอบด้วย Firewall /Windows Defender / Internet Option /Internet Phising Filter ในที่นี้เราจะปิด Software ที่กิน resource เครื่อง ซึ่งได้แก่
    Windows Defender ซึ่งเป็น Software ครบครันเรื่อง Anti-Spyware และ Antivirus จาก Microsoft แต่เนื่องจากว่ากิน Resource เครื่องมากมาย เราก็จะทำการ Turn Off ออกไป (จะคงไว้ก็ได้ หากต้องการที่จะใช้) ซึ่งหากปิดไปล้ว คุณก็สามารถลงโปรแกรม Anti-Virus ตัวอื่นๆได้



    โดยเอาติ๊กถูกออกให้หมด ยกเว้น 3 อันดังรูป (เพราะไม่เกี่ยว เอาติ๊กถูกหัวข้อหลักออก ข้อย่อยก็จะอยุดการทำงานไปเองโดยอัติโนมัติ)


    หลังจากนั้น ต่อที่การกำหนดค่า Automatic Update (เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสามารถกำหนดป้องกันการ Download Update ที่เราไม่ต้องการให้โหลดมาได้) โดยเลือกที่ Let Me Choose



    และเลือกรูปแบบการ Update เป็น (ดังรูป)



    เป็นการตั้งค่าให้แจ้งเตือนเมื่อมี Update ใหม่ๆ แต่สามารถที่จะเลือกโหลดเฉพาะตัวใดก็ได้ที่เราต้องการ (สำคัญสำหรับการใช้งาน Vista เพราะการใช้งานส่วนใหญ่ถ้าหากต้องการประสิทธิภาพในการทำงาน การ Update เป็นสิ่งที่จำเป็น โดยเฉพาะการลดบั๊กต่างๆที่เกิดขี้นมา [ลำพัง Vista วางจำหน่าววันแรก Update ผุดออกมาตรึม])


    จัดแจงตั้งค่า Security Center นอกเหนือจากนี้ให้เหมาะสมตามการใช้งานของคุณ หลังจากนั้นให้ปิดการแจ้งเตือนของ security Center เนื่องจากอาจจะสร้างความรำคาญให้กับการใช้งาน และเป็นการสิ้นเปลือง Resource โดยไม่จำเป็น โดยกำหนดดังรูป






    ดังที่กล่าวขั้นต้น การ Update เป็นสิ่งสำคัญ ฉะนั้นหลังจากเสร็จสิ้นการติดตั้ง Vista ก็ควรจะทำการ Update ทันทีเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และเป็นการตรวจหา Driver ใหม่ๆที่เข้ากันกับ Hardware ของคุณ [Start>All Program>Windows Update] (ซึ่งหากยังไม่ Activation ก็สามารถใช้การ Update ได้ หรือ Activate แบบไม่ปรกติก็ใช้ได้เช่นกัน) ซึ่งสิ่งแรกก่อนการ Update คือคุณต้องกำหนดค่า Automatic Update ซะก่อน เพื่อไม่ให้ทำการ Update โดยอัตโนมัติ (วิธีการตั้งค่าอยู่ข้างบน) จากนั้นคุณจะสามารถดูรายการ Update ที่ต้องการได้จากตรงนี้ (ถ้าไม่ปรากฏให้เลือก check for update ที่แทปซ้ายเพื่อทำการตรวจสอบเสียก่อน)



    รายการ Update ที่ไม่ควรติดตั้ง คือ KB931573 และ Windows Vista Validation Update
    เนื่องจากจะทำการตรวจสอบ Activation สำหรับ Vista ที่ Activation ที่ไม่ถูกต้อง (พลาดติดตั้งแล้วแก้ไม่ได้ ต้องลง Vista ใหม่เท่านั้น)
    ซึ่งวิธีการปิดไม่ให้รายการ Update ที่เราไม่ต้องการ ขึ้นมาลิสต์ทุกครั้งที่มีการ Update ให้คลิ๊กขวาที่รายการ Update ตัวนั้นๆ แล้วเลือก Hide Update ซึ่งการ Update ในครั้งต่อไป รายการนี้จะไม่โผล่มาอีก (คุณสามารตรวจสอบว่า Update ตัวใด คืออะไรได้ด้วยการคลิ๊กขวาที่ Update นั้นๆ เลือก View Detail ซึ่งจะบอกคุณสมบัติ และหน้าที่การทำงานของ Update ตัวนั้นๆ)






    ต่อมาสำหรับคนที่ใช้ Lan สังเกตุที่ไอคอนn Network Center ของคุณ ซึ่งไม่มีไฟกระพริบไปมาเหมือน XP ให้คุณคลิ๊กขวา แล้วเลือก Turn On Activity Animation ซึ่งจะแสดงไฟกระพริบบอกกิจกรรมการส่งข้อมูลบเน็ตเวิร์กตามปรกติ






    Startup Logo ของ Vista มีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Mac OSX คือ มีแต่โลโก้ชื่อบริษัทเท่านั้น ฉะนั้นอย่าแปลกใจคิดว่า Vista ของคุณนั้นสมบูรณ์ไหม ? [Microsoft ออกมายืนยันในเรื่องนี้ว่า "By Design" ซึ่งหมายความว่า เขาตั้งใจที่จะออกแบบมาเป็นแบบนั้นหน่ะ ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจครับ] แต่คุณสามารถเปลี่ยนหน้าจอ Boot อีกแบบ ได้ โดยไปที่ run>msconfig ที่แท็ป Boot คุณสามารถเลือก No GUI Boot เพื่อเปลี่ยนหน้าจอบู๊ตแบบแสงออโรร่าของ Vista แทน (หรือจะไม่เลือกก็ได้แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล)






    หน้าจอ User Account Control ที่จะขึ้นมาเพื่อถาม Permission เสมอๆ เมื่อเปิด Application ใดๆ สร้างปัญหาให้กับการทำงาน และความสะดวกสบายในการใช้งานเป็นอย่างมาก (อีกทั้งหน้าจอ UAC นี้ทำให้เกิดการหระพริบของหน้าจอ ซึ่งบางทีอาจส่งผลให้ Vista จอล่มไปชั่วขณะได้) แต่คุณสามารถปิดได้ ผ่านทาง User Account



    โดยไปที่ Control Panel>User Account and Family Safety>User Account และเข้าไปปิดจาก Link ในรูป






    การตั้งค่า Power Plan ก็เป็นสิ่งสำคัญ [คลิ๊กขวาที่ Desktop>Personalization>Screen Saver>Change Power Setting] เนื่องจาก Plan ต่างๆ สามารถกำหนดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ (โดยเฉพาะแลปท็อป) ซึ่ง Power Plan แบบใหม่ของ Vista การตั้งค่า Minimal สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตได้จากปรกติได้ถึง 1 ชม ขึ้นไป ! รวมถึงการตั้งค่า Turn Off Monitor สามารถตั้งได้ในส่วนนี้ (Vista ไม่มีการใช้ระบบ Energy Star Power ฉะนั้นการตั้งค่า Turn Off Minitor จออาจไม่ดับเมื่อถึงเวลา หากว่าคุณไม่ได้ติดตั้ง Driver การ์ดจออย่างถูกต้อง หรืออาจจะดับแล้วไม่สามารถเรียกจอภาพขึ้นมาใหม่ได้..... ฉะนั้น การติดตั้ง Driver ให้ครบเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ Vista ของคุณ) ทั้งคุณยังสามารถกำหนด Advance Power Plan ได้ว่าจะกระทำการใดๆ เมื่อถึง scheme ที่กำหนดไว้ และปุ่ม Turn Off สีแดงบน Start Menu ก็สามารถกำหนดได้เหมือนกันจากส่วนนี้ ว่าให้กระทำการ Restart / Shutdown /Hibernate หรือ Sleep หลักจากที่คุณได้คลิ๊กไป (ค่า Default ของ Vista คือ Restart)



    (แต่ละ Plan นอกจากส่งผลต่อปริมาณการใช้ไฟฟ้าบน PC ของคุณแล้ว ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานที่จะมากน้อยแปรผันตามปริมาณการใช้ไฟเช่นกัน สำหรับบทความนี้จะอิงที่ Hight Performance เพื่อรีดประสิทธิภาพสูงสุดออกมา)
    Last edited by chris123; 16 Apr 2007, 10:17:34.

  • #2
    หน้าตา Theme Vista แบบ Aero (3D) จะสามารถรันได้บนการ์จอที่รองรับ Shadder 2.0 เท่านั้น ซึ่งหากการ์ดจอของคุณรองรับ และได้ทำการลง Driver ถูกต้องเรียบร้อยแล้ว Theme Aero ก็จะโผล่มาให้เลือกแบบนี้ [คลิ๊กขวาที่ Desktop>Personalization ] (สำหรับการ์ดจอที่ไม่รอบรับ อาจสามารถจะใช้งาน Aero ได้ แต่ต้องทำการ Force Aero ลงไปก่อน (ด้วยโปรแกรม TweakVI / Vista Mannager) เป็นการเปิด Aero บท Hardware ที่ไม่รองรับการทำงานอย่างถูกต้อง)



    หลังจากคลิ๊ก Ok แล้ว เมื่อคลิ๊กที่เมนูเดิมอีกครั้งจะเป็นการเลือกลักษณะสีของ Aero แทน



    และจากเมนูนี้ คุณสามารถเลือก-ลบ ไอคอนที่จะแสดงบน Desktop ได้ อาทิ ไอคอน Computer / Network / Document /Internet Explorer (เห็นหลายคน เดิมใน XP นิยมใช้วิธีลากทำ Shortcut My Computer และอื่นๆ ผ่านทาง Start Menu แทน แต่วิธีนี้มีข้อเสียคือจะไม่สามารถคลิ๊กขวาเพื่อเลือก Function พิเศษบนไอคอนได้ เช่น Menu Manage บนไอคอน My Computer หรือ Propertie บนไอคอน Internet Explorer รู้กันแล้วก็อย่าทำแบบผิดๆอีกนะครับ คุณช่างลงโปรแกรมคอมทั้งหลาย บน xp มันก็เลือกแบบนี้ได้เหมือนกันจาก Properties บน Desktop...........)





    ถัดมา หลังจากที่ Icon Computer โผล่มาแล้ว เราก็จะไปที่ Advance System Setting กัน [คลิ๊กขวาที่ Computer>Properties]



    ตั้งค่า Startup Option และค่าต่างๆ ซึ่งจะเหมือนของ XP (ในส่วนนี้ คงจะพอจำกันได้) ซึ่งก็ตั้งค่ากันปรกติกัดังในรูป (ยกเว้น Time to display list operating system หากคุณลง OS ตัวเดียวก็ไม่ต้องเลือก)



    ในส่วนของ Device Manager อุปกรณ์ Harddisk บางรุ่นสามารถเรียกใช้ Feature Write Cacheing On Disk /Advance Performance เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Hdd ได้ ให้คุณเลือกอุปกรณ์ Hdd ของคุณ และเลือก Properties>Policies แล้วติ๊กถูกดังรูป
    หลังจากคลิ๊ก แล้ว สามารถตรวจสอบว่าใช้ได้ไหม โดยเข้ามาดูที่เมนูนี้อีกรอบ หากติ๊กถูกที่เลือกไว้หายไป นั่นหมายความว่า HDD ของคุณไม่ Support ซึ่งข้อความก็จะเปลี่ยนไปเป็น You Device is not support this function
    *โปรดระวังไว้ว่า Function นี้ อาจทำให้เกิดการสูญหายของข้อมูลบน HDD ได้ หากเกิดการกระทำใด ที่ทำให้ PC ของคุณดับโดยกระทันหัน อาทิ ไฟดับ หาก PC ของคุณไม่ได้ตั้งอยู่บนอุปกรณ์สำรองไฟอย่าง UPS หรือใช้งานบน Laptop ที่มีการ Backup ไฟฟ้าด้วย Battery ด้วยแล้ว ฟีเจอร์นี้ควรหลีกเลี่ยงครับ





    หน้าจอใหม่ของ Explorer อาจสร้างความลำบากให้กับ User ที่ยังไม่เคยงานใช้มาก่อน เนื่องจาก Toolbar ที่เคยมีมาทางด้านซ้ายมือตั้งแต่ Windows XP ได้ถูกตัดออกไป และแทนที่ด้วยแทป Favorite ใหม่ใน Vista ซึ่งดูเหมือนจะสร้างความยุ่งยากให้กับ ผู้ที่คุ้นเคยการใช้งานแทปเดิมนี้อยู่เสมอๆ แต่แท้จริงแล้วแทปนี้มีประโยชน์มากกว่า XP อีกเท่าตัว เนื่องจากคุณสามารถกำหนดเลือก Shortcut ของโปรแกรมที่คุณต้องการในแทปนี้ได้ ด้วยการคลิ๊กขวาในพื้นที่ว่างของ Favorite หลังจากนั้นเลือก Open Favorite Links Folder ซึ่งจะไปยัง Folder ที่เก็บ Shortcut ของแทป Favorite นี้เอาไว้ คุณสามารถลบ Shortcut เดิมที่คุณไม่ต้องการ และแทนที่ด้วย Shortcut ของโปรแกรมที่คุณต้องการ โดยจะแสดงผลออกมาในทันที
    (หรือจะใช้วิธีการลากไอคอนโปรแกรมที่ต้องการลงในแทปนี้เลยก็ได้ ซึ่งจะทำการสร้าง Shortcut ให้โดยอัตโนมัติ)





    สำหรับผู้ใช้ Internet Explorer อาจจะไม่ชอบการแสดงผลตัวหนังสือบน Vista IE7 คุณสามารถแก้ได้ด้วยการยกเลิก Cleartype บน IE ด้วยการตั้งค่าที่ Internet Option > Advanced




    การติดตั้ง Vista ในระยะแรก แนะนำว่าควรติดตั้งเป็นแบบภาษาอังกฤษเสียก่อน เพื่อการสะดวกในการลบ Watermark (สำหรับผู้ใช้ Activation แบบไม่ปรกติ) เนื่องจาก Wartermark ที่ถูกแก้ไขแล้วใช้ Unicode แบบ English หลังจากนั้นจึงค่อยกลับมาเซ็ตภาษาไทยให้กับระบบดังรูป [ Control Panel > Clock, Language and Region ] และตั้ง คีย์ Grave Accent ให้ใช้สำหรับการสลับภาษาที่แทป Kayboard and Language หลังจากที่ Restart แล้ว





    Problem Reports and Solutions เป็นทูลที่มีประโยชน์มากสำหรับ Vista ในกรณีที่คุณมีปัญหาไม่ว่ากับ Application ใดๆ หรือแม้กระทั่งตัว Vista เอง คุณสามารถที่จะตรวจสอบรายการปัญหาที่เกิด และส่งรายงานปัญหาที่เกิดเพื่อตรวจสอบไปที่ Microsoft ซึ่งบางปัญหาคุณจะได้รับคำตอบกลับมาทันทีจากฐานข้อมูลของ Microsoft เอง (ที่บอกว่ามีประโยชน์ เพราะสามารถใช้งานได้จริงๆ บางปัญหาผมยอมรับว่าสามารถแก้ได้ด้วยทูล Solution นี้ จนผมต้องเอา Icon มันมาวางบน Start Menu เพื่อใช้ตรวจสอบปัญหาของระบบเป็นระยะๆเลยทีเดียว) นับว่า Microsoft มาถูกทางเรื่องระบบ Help ที่ให้ความช่วยเหลือแก่ User ได้มาก (Help ของ Vista ก็ยอดเยี่ยมครับ ให้คำตอบที่ละเอียด และ Link สู่ Application ที่เป็นการแก้ปัญหาในหน้าจอ Help ได้ทันที ไม่ต้องไปงมหาโปรแกรมที่บอกทางหน้าจอ Help เหมือน Windows ตัวก่อนๆ ซึ่งทำให้ผมตัดสินใจที่จะไม่ปิด Service Help นี้เลย [เดิมใน Windows ปิดมาตลอด เพราะช่วยอะไรไม่ได้เลย])





    Microsoft ได้ออก Direct X Redist December 2006 ออกมา ซึ่งออกมาหลังจากที่ Vista ได้เสร็จสิ้นการพัฒนาแล้ว อีกทั้ง Redist ตัวนี้ได้แนบตัว Update DirectX 10 มาด้วย หากคุณต้องการที่จะเล่นเกมส์ Directx 9 ที่ส่วนใหญ่ได้แก่เกมส์ปัจจุบันนี้ บน Vista โดยที่ไม่มีปัญหา (เนื่องจากเกมส์บางเกมส์มาเล่นใน Vista แล้วจะฟ้องว่าไม่มี DirectX9 ทันที ทั้งนี้เกมส์ของคุณควรมาจากการ Install อย่างถูกต้องด้วย ไม่ใช่การ copy จาก Folder อื่นมา) ดังนั้นคุณควรที่จะ Update DirectX ของคุณเสียก่อน เนื่องจากจะเป็นการเพิ่มส่วนประกอบบางตัวของ DirectX9L บน Vista ลงไป ทำให้สามารถเล่นเกมส์ DrirectX9 บน Vista ได้อย่างราบรื่น

    คุณสามารถ Download DirectX December 2006 Redist ได้โดยตรงจาก Link นี้ http://download.microsoft.com/downlo...006_redist.exe

    Update Direct X Redist ล่าสุด Febuary 2007 ออกแล้วครับ ที่ http://download.microsoft.com/downlo...007_redist.exe






    Windows Media Player เป็นสิ่งที่ประโยชน์สำหรับ Vista เนื่องจากการดูหนังฟังเพลงตจามปรกติแล้ว ยังสามารถ Sync ข้อมูลกับอุปกรณ์ MP3 พกพาของคุณได้อย่างสะดวกสบาย (การ Sync ข้อมูลโปรดดูที่บทความ "เทคนิคการก็อบเพลงจาก playlist (winamp) ลงเครื่องเล่น mp3" โดย ขุนพลเดียวดาย) ทั้งยังสามารถ Rip เพลงและถูกผนวกเข้ากับระบบ Multimedia บน Vista ที่สำคัญที่สุดอย่าง "Media Center" ทั้งนี้การปรับตั้ง EQ และค่า Enchanment ต่างๆ จะมีผลไปยัง Media Center ของคุณด้วย นอกจากนั้น Media Center ยังให้ประสบการ์ณการฟังเพลงของคุณที่แตกต่างไปจากเดิมอีกมาก (นอกเหนือจากการฟัง Winamp ธรรมดา สามารถหาดูได้จากบทความ Media Center และ Media Player ท้ายบทความ) ดังนั้น คุณควรที่จะติดตั้งลงไป สามารถหาได้จาก Start Menu>All Program>Windows Media Player ซึ่งจะพาเข้าสู่ Wizard การติดตั้งทันที (ไมมีการเชื่อมต่อ Internet แต่อย่างใด) สิ่งที่คุณต้องทำหลังจากนี้คือการคลิ๊ก finish เท่านั้น

    Comment


    • #3
      เสร็จสิ้นการปรับแต่งพื้นฐานแล้ว ทีนี้เราก็จะมาปรับแต่งในขั้นที่สูงขึ้น ด้วยการปรับแต่ง Service

      *ข้อควรระวัง คุณควรที่จะถ่ายภาพ Service เดิมก่อนการปรับแต่งของคุณด้วยปุ่ม Print Screen และ Paste ลงโปรแกรม Paint เพื่อบันทึกค่าเดิมก่อนการปรับแต่ง เพื่อป้องกันในกรณีที่เกิดการปิด Service ที่ผิดพลาดแล้ว ทำให้ Application ของคุณไม่สามารถใช้งานได้ คุณจะได้สามารถย้อนคืนค่า Service เดิมของคุณด้วยการอ้างอิงค่าเดิมที่ได้บันทึกไปแล้ว

      เทคนิคที่นำเสนอนี้ เป็นการปิด Service ที่ไม่ได้ใช้ให้ได้มากที่สุด เหลือคงไว้เฉพาะ Service ที่จำเป็นในการใช้งานจริงๆ โดยเทียบการปรับแต่งกับ Service ของ Safe Mode with Networking และ Service ที่ได้ปรับแต่งแล้วของผมบน Windows Server 2003 ซึ่งหลังคุณปรับแต่งบน Vista แล้วระบบคุณจะสามารถใช้งานได้ตามปรกติ รวมถึงการเชื่อมต่อ Network ที่ยังสามารถทำได้โดยไม่มีปัญหา (แต่บางคุณสมบัติจะไม่ปรากฏ) ซึ่งผมจะอธิบาย ลักษณะของ Service ต่างๆใน Vista นี้ (เนื่องจาก Vista Service มีการเปลี่ยนแปลงจาก XP Service อยู่พอสมควร หลายๆ Service เป็น Service ใหม่ จึงควรระมัดระวังในการปรับตั้งด้วย)

      เทคนิคนี้ เป็นเทคนิคที่ได้มีการทดสอบบนเครื่อง PC ที่มีการเชื่อมต่อ Network ภายไต้ Router กำหนดขอบข่าย IP ด้วย DHCP ไม่มีการเชื่อมต่อ แสกนเนอร์-กล้องดิจิตอล (แต่มีเว็บแคม) ใช้พอร์ตทุกชนิด รวมถึง USB และไม่ได้เชื่อมต่อ Printer แต่อย่างใด และเครื่อง เป็น Client หนึ่งบนเครือข่าย ไม่ได้เป็น Server บริการใดๆแต่อย่างใด และมีการเรียกใช้ Firewall และระบบ Security ทาง Network(เช่น การเข้ารหัสข้อมูล) ....... เอาหละ มาดูซักนิดว่า Service ที่ผมปิดมีอะไรบ้าง

      นี่เป็น Service แบบเริ่มต้นของ Vista ที่ยังไม่ได้ปรับแต่งใดๆ




      หลังจากการปรับแต่งแล้ว หน้าตาของ service จะเป็นดังนี้



      วิธีการปรับแต่ง ง่ายๆ หากคุณมี PC มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับผม (ดังที่กล่าวข้างบน) ให้คุณเลือกปิดให้หมด ยกเว้นรายการดังรูปนี้ได้เลยทันที ส่วนรายการแตกต่างปลีกย่อย ผมจะอธิบายว่าคุณควรจะปิดส่วนไหน และส่วนไหนไม่ควรปิด.......

      จากรูป ดังที่เห็น Service ที่ผมไม่ได้ปิดไปนั้นเป็น Service ที่คุณไม่ควรปิดแทบทั้งสิ้น แต่บางตัวคุณยังสามารถปิดได้อีก (ในกรอบสีเหลือง) ถ้าหากคุณไม่ต้องการที่จะใช้ ซึ่งรายการ Service ที่คุณไม่ควรจะปิดนั้นเป็นของระบบ ผมจะไม่อธิบายว่ามันทำงานอย่างไร (เอาเป็นว่ามันจำเป็นต้องอยู่ในเครื่องของคุณแล้วกัน) แต่ในส่วนกรอบเหลืองที่คุณยังสามารถปิดได้ มีหน้าที่การทำงานดังนี้ (ส่วนมากจะเป็น Service ใหม่ๆของ Vista)


      Application Experience
      Desktop Windows Manager Session Manager
      > 2 อันนี้คู่กันครับ เกี่ยวกับระบบ Windows Aero หากไม่ต้องการใช้ก็ปิดไปเลยครับ (ในส่วนของ Application Experience อาจแตกต่างเล็กน้อย เพราะมันเป็นการเรียกแอพพลิเคชันมาใช้งานร่วมกับ Vista Aero เช่น การแสดงผลแบบ Thumbnail บน Taskbar แต่ถ้าหากคุณไม่ได้ใช้ Aero แล้ว การทำงานของ AE ก็จะเปล่าประโยชน์ครับ)
      *Desktop Windows Manager Session Manager เป็น Service ที่แสดงผล Windows Aero และเป็น Service ที่กิน Resource มากที่สุด โดยมีปริมาณการใช้แรมสูงถึง 28mb

      Diagnostic Policy Service
      Diagnostic System Host
      > Service นี้เกี่ยวกับการวิเคราห์และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับตัว Software ต่างๆที่ทำงานใน Vista หากคุณไม่ต้องการที่จะใช้มัน สามารถที่จะปิด 2 ตัวนี้ลงไปได้ครับ คุณสามารถดูเกี่ยวกับ Application ของ Service นี้ได้ใน Problem Reports and Solutions ข้างบน

      Portable Device Enumerator Service
      > เป็นการเรียกใช้ฟังค์ชันสำหรับ Syncronize กับอุปกรณ์ Media ต่างๆ เช่น เครื่องเล่น MP3 ตัวอย่างได้แก่ ฟีเจอร์ Sync บน Media Player ที่มีไว้สำหรับถ่ายโอนไฟล์เพลงลงสู่เครื่องเล่น และฟีเจอร์อื่นๆ เช่นการ Sync ภาพ ลงบนอุปกรณ์ประเภท Removable Device

      ReadyBoost
      > ฟีเจอร์ ReadyBoost คุณสามารถอ่านได้ท้ายบทความ คุณสามารถปิดได้หากไม่ต้องการใช้งานคุณสมบัตินี้

      Server
      Workstation
      > ฟีเจอร์นี้ควรทำงานควบคู่กัน โดย Server จะทำหน้าที่เปิดการทำงาน file and printer sharing และ Workstation จะรายงาน Server ให้เราเป็น Client หนึ่งในระบบ Network ถ้าหากตัวใดตัวหนึ่งถูกปิดไป คุณจะยังสามารถใช้งาน Network ได้ แต่ไม่สามารถ Browse Network ได้ ซึ่งได้แก่ การแสดงผลรายการ client บน Network Connection และการ Browse ด้วยการพิมพ์ IP ลงไปใน Network Connection เช่น \\192.168.0.1 และไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลบน Network ได้ แค่คุณยังจะสามารถใช้ Internet ที่ทำงานอยู่บนเครือข่าย Network ได้ตามปรกติ (หากคุณไม่คิดว่าจะใช้งานร่วมกับเครื่องอื่นๆในเครือข่าย นอกเหนือจากการใช้เน็ตเพียงอย่างเดียว คุณก็สามารถ Disable ฟีเจอร์นี้ได้)

      Theme
      > ความสวยงามย่อมแลกมาด้วยปริมาณการสิ้นเปลือง Resource นั่นหละ ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกปิดไหม Theme ก็ Desktop Theme ธรรมดาๆนั่นเอง

      Windows Event Log
      > Service ที่มีมานานตั้งแต่ Windows NT ที่จะทำการตรวจสอบ และบันทึกกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในระบบ ที่มีทั้งรายงานสภาพปรกติ รายงานปัญหา รายงานระบบ Security และ Dump File สำหรับ Blue Screen มีประโยชน์สำหรับ User ที่ต้องการตรวจสอบว่าเบื้องหลัง ระบบได้ทำงานแบบราบรื่นหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทำการแก้ไขปัญหาต่างๆที่มาในรายงาน หากคุณไม่ต้องการที่จะตรวจสอบ ก็สามารถ Disable ได้

      Windows Firewall
      > ไม่มีคำอธิบายอะไรมากมาย เอาเป็นว่าคุณจะเลือกใช้ Firewall หรือไม่อันนี้แล้วแต่ครับ

      WLAN AutoConfig
      > การคอนฟิกค่าอัตโนมัติสำหรับ Wiress Lan หากคุณไม่ได้ติดตั้งแลนไร้สายก็ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องใช้ครับ


      ปล.การปรับแต่งโดยอ้างอิงบทความนี้ Service ที่อยู่ในกรอบเหลือง ผมไม่ได้ปิดนะครับ เปิดการใช้งานตามปรกติ



      ในตอนนี้ผมจะกล่าวถึง Service ที่ได้ Disable ไป ซึ่งจะไม่ได้กล่าวทุกตัวนะครับ แค่เฉพาะบางตัวที่มีความสำคัญ ส่วนนอกเหนือจากนี้คุณสามารถอ่านคำอิบาย Service เพิ่มเติมได้จาก Properties ของ Service นั้นๆ

      Internet Connection Sharing (ICS)
      > สำหรับการแชร์ Internet โดยให้เครื่องเราเป็น Gateway

      Messenger Sharing Folders USN Journal Reader service
      > สำหรับเรียกใช้ Share Folder บน Msn Live (ต้องลง Msn Live Messenger ก่อน)

      Offline Files
      > สำหรับการเรียกใช้ File บน Domain ในแบบ Offline และทำการ Syncronize ไฟล์ที่ได้อัพเดตกลับลงใน Domain เมื่อ Host ทำการ Online อีกครั้ง (อันนี้ส่วนมากมีใช้งานในองค์กร)

      Print Spooler
      > สำหรับการเรียกใช้งาน Printer บนเครื่องของคุณ โดย Service นี้จะ Cache ไฟล์ที่ถูกสั่ง Print ลงบน Memory และทำการส่งไปยัง printer อีกทอดหนึ่ง

      Program Compatibility Assistant Service
      > Service นี้เกี่ยวกับ File and Compatibility บน Windows สำหรับรองรับแอพพลิเคชันที่อาจไม่ได้ถูกออกแบบสำหรับ Vista ให้สามารถทำงานได้

      Remote Access Connection Manager
      > Remote Desktop ไง ไม่ต้องอธิบายให้มาก

      Security Center
      > ปิดไปเลย (-- --"!

      SL UI Notification Service
      > เกี่ยวกับ Software Licensing ของ Microsoft สำหรับการตรวจสอบการลงทะเบียบผลิตภัณฑ์ (ควร Disable หากคุณใช้ Vista ที่ไม่ถูกลิขสิทธ์)

      SSDP Discovery
      > สำหรับการ Browse และ List แสดงรายชื่อของ Client และ Workgroup บนระบบเครือข่าย ( ได่แก่ เวลาที่คุณเข้าไปยังไอคอน Network ซึ่งจะแสดงเครื่องต่างๆบน Network รวมทั้ง Router และ Workgroup ของคุณด้วย หากคุณไม่ต้องการให้แสดงสามารถ Disable ได้ แต่คุณยังสามารถพิมพ์ IP ที่ช่อง Address เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Client ต่างๆแทนได้)

      Tablet PC Input Service
      > สำหรับการใช้ อุปกรณ์บนเครื่อง Tablet PC เช่น ปากกา Styles บนจอ Touchscreen หากคุณไม่ได้ใช้งานบน Tablet PC คุณควร Disable เพื่อเพิ่ม Resource ของระบบ

      TCP/IP NetBIOS Helper
      > เป็นการ ใช้งาน NetBIOS บน TCP/IP ซึ่งเป็นการทำงานบนโปรโตคอลของ Network รุ่นเก่า

      WebClient
      > เป็นการใช้งาน Windows ให้สามารถแก้ไขไฟล์อยู่ใน Internet ได้ ในที่นี้ เช่น FTP Server ผ่านทาง Explorer (แต่คุณสามารถใช้โปรแกรม FTP แทนได้นะ ?)

      Windows Defender
      > หากคุณได้ปิด Windows Defender ที่เนื้อหาด้านบนแล้ว ที่ Service นี้ก็ควรปิดเช่นกัน

      Windows Error Reporting Service
      >การรายงานปัญหาไปยัง Microsoft โดยอัตโนมัติ แค่คุณสามารถเลือกปิดแล้วใช้ Problem Report and Solution ได้

      Windows Media Center Extender Service
      > อนุญาติให้ Media Center ทำการเชื่อมต่อไปยังเครื่องอื่นในเครือข่ายได้ ในที่นี้สำหรับการใช้ Media Center บน Server ในเครือข่าย ซึ่งจะสามารถ รับ-ส่ง แชร์ไฟล์มีเดียบน network ได้

      Windows Search
      > ระบบ Index Service ที่จะคอยสร้าง Index สำหรับเก็บ Address เพื่อไปถึงไฟล์ต่างๆบนเครื่อง มีประโยชน์สำหรับฟีเจอร์ Search ที่จะทำให้การค้นหาไฟล์ทำได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็กินทรัพยากรเครื่องไปในปริมาณที่ไม่น้อย การปิด Index Service จะทำให้การค้นหาทำได้ช้าลง เช่น จากการค้นหาไฟล์บน Windows จากปรกติ 10วิ อาาจะเป็น 20-30 วิได้ (แต่สำหรับผมจะปิดไป เพราะผมรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ค้นหาช้าจนขี้เหร่ซักเท่าไหร่)

      Windows Time
      > Service ที่จะคอย Syncronize เวลาของระบบให้ตรงกับ Server ทีได้ตั้งไว้ (Defult คือ Microsoft Server) สามารถปิดได้ หากเวลาใน Bios ของคุณเดินได้เที่ยงตรง ไม่ได้ผิดเพี้ยนผิดปรกติไปแต่อย่างใด

      Service นอกเหนือจากนี้ ผมตั้งค่าเป็น Manual ซึ่งจะเริ่มระบบเมื่อ Windows ต้องการเรียกใช้
      และ Automatic (Delayed Start) ซึ่งจะทำการ Start โดยอัตโนมัติ แต่ไม่ทำงานในทันทีที่ Startup Windows


      เสร็จสิ้นการ Tweak ด้วย Service หากมีปัญหา Windows ไม่สามารถเรียกใช้งาน Application หรือคำสั่งใดๆที่ถูก Disable ด้วย Service ได้ Windows จะฟ้องร้องว่า This Feature is Disable by Group Policy ซึ่งในหน้าต่าง Error นี้คุณจะยังสามารถ Link ไปยัง Diagnostic เพื่อตรวจสอบ Service ที่ไม่สามารถเรียกใช้งานได้ผ่านทาง Problem Report and Solution



      ต่อไปเราจะมาปรับแต่งระบบด้วยโปรแกรม TweakVI ( http://www.tweakvi.com ) ซึ่งจะสามารถปรับแต่งระบบในส่วนของ System Configuration สำหรับ Vista ได้ ซึ่งจุดเด่นที่สุดของโปรแกรมนี้ก็คือคุณสมบัติของการ Clear Prefetcher ที่ทำให้การบู๊ต Vista ของคุณ ไม่มีวันล่าช้า ?




      เอาหละ เริ่มต้นที่หมวดแรก System Infomation and Tweak




      มาที่เมนูที่ 2 Hard drive information,optimization hard drives, hard drive tweaks...........

      ซึ่งเราจะมาที่แทป Hide Disc drives/Hard drive tweaks (บางแทปผมอาจจะข้ามไม่ได้พูดถึง นั่นหมายความว่า ไม่มีการปรับแต่งที่แทปนั้นครับ)
      สิ่งที่น่าสนในส่วนนี้คือ Disable autorun for...........



      > Hard drives ควรอย่างยิ่งที่จะปิดการทำงานแบบ autorun เอาไว้ เนื่องจากว่าวอร์มสคริปต์ปัจจุบันนี้ มักนิยมทำการแนบสคริปต์ให้เรียก autorun ขึ้นมาจาก root ของ Harddrive ซึ่งสคริปก็จะมีการ Link เพื่อเรียกวอร์มโค้ดขึ้นมาทำงาน ทุกครั้งที่มีการดับเบิ้ลคลิ๊กไดร์ฟ (ใครนะมันคิดเขียนขึ้นมาน่าจับเบิ้ดกะโหลก) ดังนั้นการ Disable Autorun จะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการป้องกันนี้ (ไม่มีผลต่อการ Boot Vista แต่อย่างใด)
      > Removable Discs เหตุผลเช่นเดียวกันกับ Hard drives แต่เปลี่ยนการทำงานมาอยู่บน Removable Drive ของคุณแทน ซึ่งหากถูก autorun ไป ก็มีทางทีจะขยายขอบเขตของการแพร่กระจายลงสู่ Hdd เช่นกัน


      แทปต่อไป 'Prefetcher' and 'Superfetch' optimization



      เทคโนโลยี Prefetcher ที่มีบน Vista สามารถช่วยให้ผู้ใช้ Vista ทำงานได้เร็วขึ้น 15% ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดมาว่าสามารถใช้ feature นี้ใน XP ได้เช่นกัน แต่ทว่า เป็นเรื่องแหกตา เนื่องจาก Prefetcher หรือ Superfetch ใน Windows XP มีตัวทูลนี้อยู่ใน Shell ของ Windows จริง แต่ไม่มีสตริงคำสั่งสำหรับเรียกไฟล์นี้ใน Kernel ของ Windows จึงกลายเป็นว่า ใช้ใน Windows ไม่ได้ครับ แต่ใน Vista ทูลนี้มีประโยชน์ คือสามารถช่วยในการเคลียร์ Log ของ Prefetcher บน Vista ซึ่งผลที่ได้คือ ความเร็วในการบู๊ตที่เพิ่มขึ้นมาทันที หลังจากที่ลง Vista เดิมทีขีดแสดงผลที่หน้าจอบู๊ต คุณอาจมีถึง 20 ขีด แต่การ Optimize นี้ จะช่วยให้ย่นระยะเหลือไม่ถึง 10 ขีด (ของผมได้ 7 ขีด........ แนะนำให้ทำหลังเสร็จสิ้นการปรับแต่งทั้งหมดครับ เพราะการปรับแต่งยังต้องสร้าง Log อะไรขึ้นมาอีกเยอะ.........)

      วิธีการใช้ คลิ๊ก 1-2 ตามที่เห้นนั่นหละ เป็นลำดับ


      เมนูต่อไป รายการที่ 3 CPU tweaks, CD/DVD tweaks, system cache tweaks and other............
      ซึ่งจะเริ่มที่แทป CPU and system cache related tweaks



      รายการแรก CPU cache tweaks คุณสามารถเลือกชนิดของ CPU ให้ตรงกับที่คุณมีในเครื่องของคุณ เพื่อให้ TweakVI ทำการ tweak system Cache ให้เข้ากับ CPU ของคุณได้ แต่หลังจากที่คุณเลือกแล้ว ให้ทำการติ๊กถูกที่ Enable ข้างๆด้วย เพื่อทำการเรียกใช้งาน (* cpu intel พวกตระกูล core ขึ้นไป ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ core solo ไม่มีให้เลือกนะครับ ดังนั้นไม่ต้องเลือก ซึ่งเราจะไปปรับใน Vista Manager แทน)

      CPU / Memory Usage รายการที่ 2-3 ให้เลือกเป็น Application นะครับ อีกอันมันของพวก File Server

      รายการที่ 4 Core System Performance สำหรับแรมเครื่อง 512 ขึ้นไป ให้ Enable เพื่อทำการ Force Vista Core ลงในแรมระบบนะครับ (สำหรับผู้ที่มีแรมตั้งแต่ 512 ขึ้นไป ซึ่งผู้ที่ใช้วิสต้า ปรกติก็ต้องมีแรม 512 เป็นอย่างต่ำอยู่แล้ว)

      รายการที่ 5 System Cache optimization ให้เลือกขนาด Cache ให้เหมาะสมกับคุณ โดยเทียบกับแรมที่คุณมีในเครื่องของคุณ (ในรายการเลือกจะมีบอกว่า ใช้สำหรับ แรมเท่าใด) อ่อ เลือกเสร็จแล้ว ติ๊กถูก Enable ด้วยนะครับ

      แทปถัดไป CD/DVD Drive and other performance..........



      สิ่งที่น่าสนใจ คือสิ่งที่ผมได้วงไว้ อันดับแรก
      Don't set 'Always to do this' checkbox in.........
      เป็นการกำหนดให้ autorun ไม่จดจำการกระทำของ autorun อาทิเช่น คุณได้กำหนด cd1 ให้เปิดทุกครั้งด้วย media player โดยบังเอิญ เมนูนี้ จะทำการยกเลิก การเปิดโปรแกรมให้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณยัด cd ในรอบต่อไป

      Disable the Windows Vista CD.......................
      ถ้าหากคุณใช้ Software อื่นๆในการเขียนแผ่นอยู่แล้ว เช่น Nero คำสั่งนี้จะเป็นการยกเลิกฟีเจอร์เขียนแผ่นใน Vista ไม่ให้ถูกโหลดขึ้นมาเพื่อดึง Resource โดยไม่จำเป็น

      Windows Vista CPU check routine
      สามารถติ๊กได้ครั้งเดียว ซึ่งในการบู๊ตครั้งต่อไป เมนูนี้ก็จะไม่ถูกติ๊กถูกอีก (มีผลในการใช้งานครั้งเดียว) ซึ่งจะเป็นการสั่งให้ windows เช็ค routine เพื่อสำรวจว่า CPU ของคุณรองรับคำสั่งใดบ้าง และจัดการเกี่ยวกับการบริหารแรมให้เหมาะสมกับเครื่องของคุณในการบู๊ตครั้งต่อไป (กระทำครั้งเดียว แล้ว Vistaจะบันทึกค่า เพื่อโหลดนำมาใช้ในครั้งต่อไปโดยอัตโนมัติ)

      Turn off program compatibility.................
      ปิดการใช้ระบบสนับสนุน compatible mode ที่มีไว้สำหรับ application ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้รองรับ os ต่างๆกันไป (ไม่เกี่ยเกียวกับ compatible mode ใน properties เวลาคลิ๊กขวาที่ shortcut นะครับ สามารถ disable เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับระบบได้ )

      Optimize overall system....................
      ทำการ optimize ระบบโดยการเพิ่มความสำคัญแก่การจัด IRQ และ เวลาใน Bios ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบ

      Automatically close non-respone..............
      ปิดโปรแกรมที่ไม่ตอบสนองโดยอัตโนมัติ โดยสามารถตั้งเวลาที่เหมาะสมกับการปิดได้ (หน่วยเป็น ms)


      เมนูรายการที่ 4 ซึ่งได้แก่ EasyBCD เมื่อคลิ๊กแล้วจะทำการโหลดโปรแกรม EasyBCD จากทาง internet เพื่อทำการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าว โปรแกรมนี้สำหรับจัดการ Bootloader ของ Vista ซึ่งผมจะไม่กล่าวถึงในส่วนนี้ (แต่โปรแกรมนี้ใช้งานได้ไม่ยาก เนื่องจาก Vista ไม่สามารถแก้ไข Bootloader ผ่านทาง boot.ini ได้อีกแล้ว เนื่องจากตรงนี้ เป็นจุดอ่อนของระบบการบู๊ตใน Windows ซึ่ง Vista สามารถให้คุณสามารถปรับแต่งได้ทาง bcdedit ซึ่งเป็นคำสั่งใน command line แทน [ช่างดูแล้วไม่สมกับ OS แห่งอนาคตเลยซักนิด] หรือทางเลือกที่ง่ายกว่านั้น ใช้ Easy BCD นั่นเอง)





      เสร็จสิ้นการปรับแต่งที่หมวดแรก ต่อไปมาที่หมวด Miscellaneous Tweak



      เริ่มต้นที่แทปแรก Miscellaneous Tweak ผมวงไว้ 2 จุด คือ Disable the Windows Vista error report ซึ่งเป็นการยกเลิก Error Reporting บน Vista
      และ Auto-Restart the Shell automatically......... สำหรับการกำหนดให้ Vista เริ่มต้น Explorer ใหม่ทุกครั้งเมื่อ Explorer เกิดอาการ crash

      แทปต่อมา OEM Information สำหรับการกำหนดรายละเอียดของการติดตั้ง Vista ของคุณ ซึ่งได้แก่ ชื่อ-บริษัท ของคุณ รวมถึง CD-Key ของคุณ รวมถึงภาพที่คุณสามารถใส่ลงใน Vista ได้





      เอาหละ ตอนแรกผมคิดว่าจะทำบทความให้จบในกระทู้เดียว แต่ผมคิดว่าด้วยความยาวที่เยอะมากๆ สำหรับผู้ใช้เน็ตที่ช้า คุณจะโหลดภาพเป็นเวลานานมาก......
      อีกทั้ง บทความก็ยังมาได้แค่ครึ่งทาง ดังนั้นผมจึงจะแบ่งบทความนี้ออกเป็น 2 ตอน เตรียมพบกับตอน 2 เร็วๆนี้นะครั้บ (ขึ้นอยู่กับความเร็วในการพิมพ์ของผม และแรงสนับสนุนของทุกๆคนในที่นี้ อาจจะเสร็จวันนี้ก็ได้ ไม่รับรองครับ) ขอให้สนุกกับ OS ตัวใหม่ของคุณนะครับ


      ปล.หากมีเรื่องใดที่ผมได้อธิบายไปผิดพลาด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ เนื่องจากบทความทั้งหมดมาจากความเข้าใจของผมเองล้วนๆ

      Comment


      • #4
        thanks

        Comment


        • #5
          ขอบคุณครับ

          Comment


          • #6
            เห็นว่ามีประโยชน์ดี และผมก็ชอบบทความนี่มากครับ เลยเอามาเล่า

            Comment


            • #7
              ขอบคุณมากครับ

              Comment


              • #8
                Apest นี่ กำลัง บ้า vista อยู่ 5555+

                Comment


                • #9
                  จดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

                  Comment


                  • #10
                    ขอบคุณมากครับ
                    ลดลงมาเยอะพอสมควรเลยครับ
                    (ยังไม่ได้ปิดserviceกับใช้tweak uiเลยอะ)
                    จากเกือบกิ๊กเหลือห้าร้อยกว่าหกร้อยผมก็พอใจแล้วครับ
                    ขอบคุณครับ

                    Comment


                    • #11
                      Tuneจนได้9





                      Comment


                      • #12
                        Tune-UP Vista Ultimate / Optimize Vista ให้แรงสำหรับ Pro

                        มีประโยชน์มากครับ

                        Comment


                        • #13
                          สุดยอด มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก คับ ขอบคุณ

                          Comment


                          • #14
                            เรียนเจ้าของกระทู้

                            ขอเมล์เจ้าของกระทู้ด้วยได้มั๊ยครับ ผมอ่านแล้วพอเข้าใจนิดหน่อย แต่รูปในเวปมันไม่มีเลย รบกวนเจ้าของกระทู้ถ้าเข้ามาอ่านเจอ ส่งเมล์รายละเอียดการ รีดน้องวิตาร์พร้อมรูปมาที kyuttana@hotmail.com (ออนเอม)(เมล์) หรือ kyuttana@ltec.fujikura.co.th ขอบคุณล่วงหน้าครับ จะรอรับความรู้จากพี่ ๆ น๊ะคับ

                            Comment


                            • #15
                              รบกวนส่งมาให้หน่อยนะครับ รูปไม่มีอะ ไม่ค่อยเข้าใจ อยากได้แบบมีรูปอะ
                              ยังไงขอบพระคุณล่วงหน้า
                              orange-xl@hotmail.com

                              Comment

                              Working...
                              X