หลังจากสิ้นยุคของ Windows 9x และ Windows 2000 เป็นต้นมา เหล่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่ต่างก็เฝ้ารอถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ทุกๆ อย่างบนหน้าจอสี่เหลี่ยมสามารถทำทุกอย่างได้ง่าย และลงตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งถัดหลังจากนั้นในปี 2004 ทางบริษัท Microsoft ก็ได้ถือกำเนิด OS สายพันธุ์ใหม่นั่นคือ Windows XP โดยได้ให้ความหมายของ XP ว่า Experience หมายถึงประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ผู้ใช้จะได้รับจาก OS ตัวนี้ โดยเมื่อ Windows ตัวดังกล่าวนี้ออกมาสู่พวกเราแรกๆ ต่างก็ทราบดีกันว่ามันสร้างปัญหาให้กับเกมเก่าๆ อยู่ไม่น้อย แต่จากนั้นไม่นานทางผู้พัฒนาเกม ก็เริ่มจูนเข้าหา OS ตัวใหม่ได้ไม่ยากเย็นนัก ซึ่งขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่นั้น ผมก็ยังคงใช้ Windows XP อยู่ ซึ่งเมื่อได้ลองหวนกลับไปคิดถึงเมื่อครั้งใช้ Windows ตัวเก่าๆ ที่ผ่านมาก็ทำให้รู้สึกได้ว่าเสถียรภาพ และการทำงานในด้านต่างๆ ของ Windows XP ปัจจุบันนี้ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจริงๆ
ก็มาถึงในปัจจุบันเราคงได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าจะมี Windows น้องใหม่ นั่นคือ Vista ที่ทาง Microsoft ได้ประกาศศักดาไว้คร่าวๆ เมื่อต้นปี 2006 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้ฝันก็ใกล้เป็นจริงขึ้นมาบ้างแล้ว สำหรับเจ้า Windows Vista ตัวใหม่นี้ ดังนั้นผมจะขอใช้บทความนี้ในการแนะนำเจ้า Windows Vista ให้ท่านได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
Windows Vista มีทั้งหมด 6 Version
เป็นที่ทราบกันดีเมื่อครั้งที่ Windows XP ออกใหม่ๆ ทาง Microsoft เองก็ได้ออกเจ้า XP มา 3 เวอร์ชั่น โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้ตามบ้าน และระดับองค์กร ซึ่งพอมาถึงเจ้าน้องใหม่ Vista ตัวนี้เชื้อก็ยังไม่ทิ้งแถวซึ่งยังคงเจาะตลาด 2 กลุ่มเช่นเดิม โดย Vista ทั้ง 6 Version มีดังนี้
Windows Vista Business
Windows Vista Enterprise
Windows Vista Home Premium
Windows Vista Home Basic
Windows Vista Ultimate
Windows Vista Starter
เริ่มจากทางกลุ่มของผุ้ใช้ตามบ้าน หรือ Home User กันก่อน ซึ่งเจ้า Vista ในกลุ่มนี้จะประกอบไปด้วย
1.Windows Vista Ultimate
มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน โดยได้รวบรวมความบันเทิงทุกรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน และถือได้ว่าเป็นระบบปฎิบัติการที่มาพร้อมกับคุณสมบัติทางด้าน Entertainment, Mobility และ Business ที่พร้อมทั้งหมดในตัวเดียวอีกด้วย เหมาะสำหรับ Gamers , Multimedia Professionals และผู้มีเครื่อง PC ระดับ High-end
2.Windows Vista Home Premium
เป็น Windows ที่มาพร้อมกับ Interface Aero และได้ใส่ความสามารถต่างๆ อาทิ Windows PC Tablet Technology ,Windows Media Center, รวมไปถึงสนับสนุน HDTV อีกด้วย เป็นเวอร์ชั่นที่เหมาะกับสำหรับผู้ที่ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปทั่วไปที่รักการใช้งานด้าน Multimedia และการเล่นเกมทั่วไป
3.Windows Vista Home Basic
จะคล้ายกับ Windows XP Home Edition ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป เช่น ใช้งานอินเทอร์เน็ต, การรับ-ส่งอีเมล์, MSN และงานเอกสารต่างๆ เป็นต้น โดยจะมาพร้อมกับความสามารถใหม่ที่ชื่อว่า Search Explorer, Sidebar และ Parental Controls
4.Windows Vista Starter เป็น Windows ที่ออกมารองรับระบบ 32-Bit เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามบ้านทั่วไปในการทำงานเอกสาร ,รับ-ส่ง E-Mail และเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรเครื่องมากนัก
สำหรับกลุ่มองค์กรธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะมีอยู่ 2 เวอร์ชั่นได้แก่
1. Windows Vista Enterprise
เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ Security ในระดับสูง โดยผ่าน Hardware Encryption Technology (เทคโนโลยีการสร้าง Password ที่ฮาร์ดแวร์เพื่อป้องกันการโจรกรรม หรือการสูญหายของข้อมูล) ,Microsofts Virtual PC และ Multilingual user interface (สนับสนุน GUI หลายภาษา) รวมไปถึงการใช้รูปแบบของ Network ได้อย่างครบครับ
2. Windows Vista Business
จะมาพร้อมกับ Interface ใหม่ ที่เรียกว่า Windows Aero และระบบ Navigation สำหรับทางด้านจัดการเอกสารทางธุรกิจต่าง ๆ มากมาย รวมถึงได้ใส่ความสามารถของ Desktop Search โดยใน Windows Viata Business นั้นจะเทียบเท่ากับ Windows XP Professional ซึ่งรองรับ Windows Server domains, IIS (Internet Information Services) web server, Windows Tablet PC Technology ซึ่งจะช่วยทำงานร่วมกับปากกาดิจิตอลหรือใช้ปลายนิ้วสัมผัสแทนการใช้คีย์บอร์ด
ก็มาถึงในปัจจุบันเราคงได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าจะมี Windows น้องใหม่ นั่นคือ Vista ที่ทาง Microsoft ได้ประกาศศักดาไว้คร่าวๆ เมื่อต้นปี 2006 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนี้ฝันก็ใกล้เป็นจริงขึ้นมาบ้างแล้ว สำหรับเจ้า Windows Vista ตัวใหม่นี้ ดังนั้นผมจะขอใช้บทความนี้ในการแนะนำเจ้า Windows Vista ให้ท่านได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
Windows Vista มีทั้งหมด 6 Version
เป็นที่ทราบกันดีเมื่อครั้งที่ Windows XP ออกใหม่ๆ ทาง Microsoft เองก็ได้ออกเจ้า XP มา 3 เวอร์ชั่น โดยเจาะกลุ่มผู้ใช้ตามบ้าน และระดับองค์กร ซึ่งพอมาถึงเจ้าน้องใหม่ Vista ตัวนี้เชื้อก็ยังไม่ทิ้งแถวซึ่งยังคงเจาะตลาด 2 กลุ่มเช่นเดิม โดย Vista ทั้ง 6 Version มีดังนี้
Windows Vista Business
Windows Vista Enterprise
Windows Vista Home Premium
Windows Vista Home Basic
Windows Vista Ultimate
Windows Vista Starter
เริ่มจากทางกลุ่มของผุ้ใช้ตามบ้าน หรือ Home User กันก่อน ซึ่งเจ้า Vista ในกลุ่มนี้จะประกอบไปด้วย
1.Windows Vista Ultimate
มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบครัน โดยได้รวบรวมความบันเทิงทุกรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน และถือได้ว่าเป็นระบบปฎิบัติการที่มาพร้อมกับคุณสมบัติทางด้าน Entertainment, Mobility และ Business ที่พร้อมทั้งหมดในตัวเดียวอีกด้วย เหมาะสำหรับ Gamers , Multimedia Professionals และผู้มีเครื่อง PC ระดับ High-end
2.Windows Vista Home Premium
เป็น Windows ที่มาพร้อมกับ Interface Aero และได้ใส่ความสามารถต่างๆ อาทิ Windows PC Tablet Technology ,Windows Media Center, รวมไปถึงสนับสนุน HDTV อีกด้วย เป็นเวอร์ชั่นที่เหมาะกับสำหรับผู้ที่ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์เดสก์ทอปทั่วไปที่รักการใช้งานด้าน Multimedia และการเล่นเกมทั่วไป
3.Windows Vista Home Basic
จะคล้ายกับ Windows XP Home Edition ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไป เช่น ใช้งานอินเทอร์เน็ต, การรับ-ส่งอีเมล์, MSN และงานเอกสารต่างๆ เป็นต้น โดยจะมาพร้อมกับความสามารถใหม่ที่ชื่อว่า Search Explorer, Sidebar และ Parental Controls
4.Windows Vista Starter เป็น Windows ที่ออกมารองรับระบบ 32-Bit เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ใช้ตามบ้านทั่วไปในการทำงานเอกสาร ,รับ-ส่ง E-Mail และเกมที่ไม่ใช้ทรัพยากรเครื่องมากนัก
สำหรับกลุ่มองค์กรธุรกิจต่างๆ ซึ่งจะมีอยู่ 2 เวอร์ชั่นได้แก่
1. Windows Vista Enterprise
เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการ Security ในระดับสูง โดยผ่าน Hardware Encryption Technology (เทคโนโลยีการสร้าง Password ที่ฮาร์ดแวร์เพื่อป้องกันการโจรกรรม หรือการสูญหายของข้อมูล) ,Microsofts Virtual PC และ Multilingual user interface (สนับสนุน GUI หลายภาษา) รวมไปถึงการใช้รูปแบบของ Network ได้อย่างครบครับ
2. Windows Vista Business
จะมาพร้อมกับ Interface ใหม่ ที่เรียกว่า Windows Aero และระบบ Navigation สำหรับทางด้านจัดการเอกสารทางธุรกิจต่าง ๆ มากมาย รวมถึงได้ใส่ความสามารถของ Desktop Search โดยใน Windows Viata Business นั้นจะเทียบเท่ากับ Windows XP Professional ซึ่งรองรับ Windows Server domains, IIS (Internet Information Services) web server, Windows Tablet PC Technology ซึ่งจะช่วยทำงานร่วมกับปากกาดิจิตอลหรือใช้ปลายนิ้วสัมผัสแทนการใช้คีย์บอร์ด
Comment