Tweet
โดยส่วนตัวก็ได้ใช้ NAS ในการเก็บข้อมูล แชร์พื้นที่อยู่แล้ว และครั้งนี้ได้รับโอกาสดีๆ ไปร่วม Workshop กับทาง Overclock Zone และ Synology
ทำให้พบว่า NAS นั้นมี Feature ให้เล่นอีกเยอะแยะ ไม่ใช่แค่เก็บและแชร์ไฟล์แบบเดิมอีกต่อไป
Workshop ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน NAS จากทาง Synology มาเป็นรุ่น DS218+ ที่สามารถใน Harddisk ได้จำนวน 2 ลูก
และยังสามารถเพิ่มจำนวน Harddisk ได้อีกด้วย (มีอุปกรณ์เสริม) และแอบมี Surprise
เล็กๆ จาก WD มอบ WD Red ขนาด 2TB มาให้ลองเล่นกันอีก 1 ลูกด้วย
หลังจากได้ลองเล่นดูพบว่า NAS ตัวนี้นอกจากจะทำตัวเป็น File Sharing แล้ว ยังมีอะไรเด็ดๆ อีกมากมาย เช่น Synology Drive ทำให้ NAS กลายเป็น Private Cloud สามารถเก็บไฟล์และ Sync กับอุปกรณ์ต่างได้เช่นเดียวกับ Google Drive หรือ DropBox
หรือจะเป็น Moments ที่จะคอย Sync ภาพถ่ายจากในโทรศัพท์มือถือ แล้วเอามาทำเป็นอัลบัมหรือแสดงภาพแบบ Timeline ได้ด้วย
แต่ Feature นึงที่อยากจะพูดถึงคือ DS218+ ยังกลายเป็น NVR (Network Video Recorder) ได้อีกด้วย
แล้วทำไมถึงต้องเอา NAS มาทำ NVR ด้วยหล่ะ??? กล้องก็บันทึกได้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ก็จริงอยู่สำหรับใครที่ใช้ กล้อง IP Camera แบบที่มี SD Card มันก็บันทึกได้เลยนะ
แต่ใส่การ์ดความจุได้ไม่เยอะนี่สิ ทำให้บันทึกเพื่อดูย้อนหลังไปหลายๆ วันก็ทำไม่ได้หรืออยากติดกล้องสัก 1-2 ตัว แล้วต้องทำ PC มาเป็นเครื่องบันทึกก็เปลืองไฟ NAS จึงเอามาเป็นทางเลือกได้ครับ
หรือจะเป็นระบบใหญ่ๆ หลักร้อย หลักพันกล้อง และทำการควบคุมแบบรวมศูนย์ก็สามารถทำได้
ซึ่งการนำ NAS มาทำ NVR นี้สามารถรองรับกล้องได้หลายรุ่น หลากยี่ห้อ ซึ่งสามารถเข้าไปดูรุ่นที่รองรับได้จาก https://www.synology.com/en-global/compatibility/camera
ว่าแล้วก็มาแกะกล่องดูกันดีกว่าว่าในกล่อง Synology DS218+ มีอะไรให้มาบ้าง โดยตัว NAS นี้มาในกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดค่อนข้างพอดีตัว ซึ่งภายในกล่องประกอบด้วยตัว NAS DS218+ พร้อมด้วย Adaptor ภายนอก สาย LAN และคู่มืออีก 1 เล่ม
โดยส่วนตัวรู้สึกชอบการออกแบบ แบบเรียบๆ แต่หรูดีครับ ที่มาพร้อมกับความจุขนาด 0TB (อ่านไม่ผิดหรอกครับ ความจุ 0TB จริงๆ) คืออยากได้ความจุเท่าไหร่ก็สามารถเลือกซื้อ Harddisk ใส่ได้เลย (รองรับ Harddisk สูงสุดลูกละ 12TB จำนวน 2 ลูก)
และแล้วก็มาเริ่มประกอบเครื่องกันเลยดีกว่า ซึ่งก็ไม่ยากอะไรมาก เพียงแค่เปิดฝาหน้าออก ดึงถาดใส่ Harddisk ออกมา แกะคลิปล็อคด้านข้าง ใส่ Harddisk ใส่คลิปคืน
และใส่ถาดกลับเข้าเครื่อง ปิดฝาเป็นอันเสร็จสิ้น
เสร็จแล้วเสียบปลั๊ก เสียบสาย LAN เปิดเครื่อง
แล้วระหว่างรอ NAS ทำการบูตตัวเองเสร็จ ก็ทำการโหลดโปรแกรม Synology Assistant มาติดตั้งรอไว้ได้เลย ซึ่งโปรแกรมตัวนี้จะช่วยในการตามหาว่า NAS ของเรานั้นได้รับ IP อะไรเพื่อทำการเซ็ต
https://www.synology.com/en-global/s...218+#utilities
ถ้า NAS ทำการบูตเสร็จแล้วจะสังเกตได้จากไฟสีน้ำเงินที่ปุ่ม Power จะติดนิ่งไม่กระพริบ ทีนี้ลองมาดูที่โปรแกรม Synology Assistant จะเห็นว่าโปรแกรมเจอ NAS ของเราแล้ว จากนั้นก็เลือก NAS และกด Connect
หน้าจอ Setup จะเป็นประมาณนี้ครับ โดยเมื่อเรากด Setup ไปแล้ว NAS ก็จะให้เราทำการติดตั้ง DSM หรือตัว OS ของ NAS นั่นเอง ขั้นตออนนี้จะรอประมาณ 10 นาที
หลังจากติดตั้ง DSM เสร็จ หน้าจอจะกลับมาให้เราทำการเซ็ตขอมูลต่างๆของ NAS เช่น ชื่อ NAS, User ที่จะเข้าใช้ NAS, การ Update Software เป็นต้น
ขั้นตอนถัดมา จะกดข้ามก็ได้ครับ แต่แนะนำว่าลงทะเบียนไว้ดีกว่า นั่นคือ QuickConnect ครับ เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าถึง NAS ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน โดยเราจะเข้าได้ด้วยชื่อ http://QuickConnect.to/[QuickConnect ID] ได้เลย
ในที่สุดก็ติดตั้ง NAS เสร็จแล้ว แต่ตอนนี้ NAS ของเรายังไม่พร้อมที่จะเป็น NVR นะครับ
เราต้องทำการติดตั้ง Package ชื่อ "Surveillance Station" เสียก่อน
หลังติดตั้งเสร็จ
เมื่อติดตั้ง Surveillance Station เสร็จแล้วเข้ามาจะเจอเมนูย่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มกล้อง ดูกล้องแบบ Realtime ดูกล้องที่บันทึกย้อนหลัง การจัดการผู้ใช้ เป็นต้น
ก่อนอื่น เราต้องทำการเพิ่มกล้องเข้าสู่ NVR เสียก่อน จากเมนู กล้อง IP > เพิ่มกล้อง > กดค้นหาจากการกดที่รูปแว่นขยาย
ทำการเลือกกล้องที่ต้องการ
เมื่อเลือกกล้องได้แล้วให้กด ?ทดสอบการเชื่อมต่อ? เพื่อดูว่า NVR สามารถเชื่อมต่อกกับกล้องได้แล้ว
จะเห็นว่ามีกล้องเพิ่มขึ้นมาแล้ว
หลังจาก Add กล้องลงไปแล้วเราสามารถปรับแต่งเพื่อเปลี่ยนการบันทึก คุณภาพภาพ และความละเอียดภาพได้
รวมถึงการบันทึกว่าต้องการบันทึกตลอดเวลาหรือเฉพาะช่วงที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อประหยัดพื้นที่บน Harddisk ก็ได้ครับ และยังสามารถตั้งแบบผสมได้อีกด้วย เช่นในตอนกลางวันให้บันทึกตลอดเวลา ส่วนกลางคืนบันทึกเฉพาะมีการเคลือนไหวก็ได้
คราวนี้ก็เสร็จสิ้นการเซ็ตให้ NAS เรากลายเป็น NVR แล้ว และพร้อมที่จะบันทึกแล้ว
ลองมาดูแบบภาพแบบ Live กันบ้าง
โดยเราสามารถดูได้ทั้งใน Computer
และในมือถือด้วย App DS Cam ได้ด้วย
โดยการเข้าดูเราจะใช้ QuickConnect ID ได้เลย
หลังจากบันทึกมาได้สักระยะนึงแล้ว คราวนี้เราจะมาลองดูภาพย้อนหลังกันบ้าง
เท่านี้ก็เท่ากับว่าเราสามารถนำ NAS มาใช้เป็น NVR ได้แล้ว
แต่การนำ Synology NAS มาเป็นนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรายังสามารถใช้ NAS เพิ่อเป็น NVR ในระบบใหญ่ๆ ได้อีกด้วย ด้วยการใช้ฟีเจอร์ที่ชื่อว่า CMS (Central Management System)
ทำให้สามารถรวม NAS หลายๆ ตัวเข้าด้วยกัน รองรับกล้องถึง 5000 ตัว และ NAS ถึง 300 ตัวเลยทีเดียว
และการบันทึกยังสามารถตั้งบันทึกแบบกระจายจุดได้ด้วย เช่น วาง NAS ไว้แต่ละสาขาเพื่อบันทึกกล้องของสาขา และมีระบบรวมที่สำนักงานใหญ่อีก 1 ตัว และใช้ CMS เพื่อทำการรวมกล้องของทุกสาขาก็ได้
หรือการทำ Failover โดยมีการวาง NAS สำรองไว้เผื่อ NAS ตัวใดตัวหนึ่งในระบบเสีย ก็จะสามารถเอา NAS ตัวสำรองขึ้นใช้งานได้ทันที
และถ้าต้องการความปลอดภัยเพิ่มอีกขั้น ยังสามารถทำการ Backup ข้อมูลกล้องออกไปยัง Ext. HDD, Flash Drive หรือจะเป็น Cloud Storage เช่น Google Drive, Dropbox, Amazon Drive ได้อีกด้วย
ปล.. มีอะไรตกหลุมตกร่องไปขออภัยด้วยครับ
ทำให้พบว่า NAS นั้นมี Feature ให้เล่นอีกเยอะแยะ ไม่ใช่แค่เก็บและแชร์ไฟล์แบบเดิมอีกต่อไป
Workshop ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุน NAS จากทาง Synology มาเป็นรุ่น DS218+ ที่สามารถใน Harddisk ได้จำนวน 2 ลูก
และยังสามารถเพิ่มจำนวน Harddisk ได้อีกด้วย (มีอุปกรณ์เสริม) และแอบมี Surprise
เล็กๆ จาก WD มอบ WD Red ขนาด 2TB มาให้ลองเล่นกันอีก 1 ลูกด้วยหลังจากได้ลองเล่นดูพบว่า NAS ตัวนี้นอกจากจะทำตัวเป็น File Sharing แล้ว ยังมีอะไรเด็ดๆ อีกมากมาย เช่น Synology Drive ทำให้ NAS กลายเป็น Private Cloud สามารถเก็บไฟล์และ Sync กับอุปกรณ์ต่างได้เช่นเดียวกับ Google Drive หรือ DropBox
หรือจะเป็น Moments ที่จะคอย Sync ภาพถ่ายจากในโทรศัพท์มือถือ แล้วเอามาทำเป็นอัลบัมหรือแสดงภาพแบบ Timeline ได้ด้วย
แต่ Feature นึงที่อยากจะพูดถึงคือ DS218+ ยังกลายเป็น NVR (Network Video Recorder) ได้อีกด้วย
แล้วทำไมถึงต้องเอา NAS มาทำ NVR ด้วยหล่ะ??? กล้องก็บันทึกได้อยู่แล้วไม่ใช่หรอ ก็จริงอยู่สำหรับใครที่ใช้ กล้อง IP Camera แบบที่มี SD Card มันก็บันทึกได้เลยนะ
แต่ใส่การ์ดความจุได้ไม่เยอะนี่สิ ทำให้บันทึกเพื่อดูย้อนหลังไปหลายๆ วันก็ทำไม่ได้หรืออยากติดกล้องสัก 1-2 ตัว แล้วต้องทำ PC มาเป็นเครื่องบันทึกก็เปลืองไฟ NAS จึงเอามาเป็นทางเลือกได้ครับ
หรือจะเป็นระบบใหญ่ๆ หลักร้อย หลักพันกล้อง และทำการควบคุมแบบรวมศูนย์ก็สามารถทำได้
ซึ่งการนำ NAS มาทำ NVR นี้สามารถรองรับกล้องได้หลายรุ่น หลากยี่ห้อ ซึ่งสามารถเข้าไปดูรุ่นที่รองรับได้จาก https://www.synology.com/en-global/compatibility/camera
ว่าแล้วก็มาแกะกล่องดูกันดีกว่าว่าในกล่อง Synology DS218+ มีอะไรให้มาบ้าง โดยตัว NAS นี้มาในกล่องกระดาษสีน้ำตาลขนาดค่อนข้างพอดีตัว ซึ่งภายในกล่องประกอบด้วยตัว NAS DS218+ พร้อมด้วย Adaptor ภายนอก สาย LAN และคู่มืออีก 1 เล่ม
โดยส่วนตัวรู้สึกชอบการออกแบบ แบบเรียบๆ แต่หรูดีครับ ที่มาพร้อมกับความจุขนาด 0TB (อ่านไม่ผิดหรอกครับ ความจุ 0TB จริงๆ) คืออยากได้ความจุเท่าไหร่ก็สามารถเลือกซื้อ Harddisk ใส่ได้เลย (รองรับ Harddisk สูงสุดลูกละ 12TB จำนวน 2 ลูก)
และแล้วก็มาเริ่มประกอบเครื่องกันเลยดีกว่า ซึ่งก็ไม่ยากอะไรมาก เพียงแค่เปิดฝาหน้าออก ดึงถาดใส่ Harddisk ออกมา แกะคลิปล็อคด้านข้าง ใส่ Harddisk ใส่คลิปคืน
และใส่ถาดกลับเข้าเครื่อง ปิดฝาเป็นอันเสร็จสิ้น
เสร็จแล้วเสียบปลั๊ก เสียบสาย LAN เปิดเครื่อง
แล้วระหว่างรอ NAS ทำการบูตตัวเองเสร็จ ก็ทำการโหลดโปรแกรม Synology Assistant มาติดตั้งรอไว้ได้เลย ซึ่งโปรแกรมตัวนี้จะช่วยในการตามหาว่า NAS ของเรานั้นได้รับ IP อะไรเพื่อทำการเซ็ต
https://www.synology.com/en-global/s...218+#utilities
ถ้า NAS ทำการบูตเสร็จแล้วจะสังเกตได้จากไฟสีน้ำเงินที่ปุ่ม Power จะติดนิ่งไม่กระพริบ ทีนี้ลองมาดูที่โปรแกรม Synology Assistant จะเห็นว่าโปรแกรมเจอ NAS ของเราแล้ว จากนั้นก็เลือก NAS และกด Connect
หน้าจอ Setup จะเป็นประมาณนี้ครับ โดยเมื่อเรากด Setup ไปแล้ว NAS ก็จะให้เราทำการติดตั้ง DSM หรือตัว OS ของ NAS นั่นเอง ขั้นตออนนี้จะรอประมาณ 10 นาที
หลังจากติดตั้ง DSM เสร็จ หน้าจอจะกลับมาให้เราทำการเซ็ตขอมูลต่างๆของ NAS เช่น ชื่อ NAS, User ที่จะเข้าใช้ NAS, การ Update Software เป็นต้น
ขั้นตอนถัดมา จะกดข้ามก็ได้ครับ แต่แนะนำว่าลงทะเบียนไว้ดีกว่า นั่นคือ QuickConnect ครับ เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าถึง NAS ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน โดยเราจะเข้าได้ด้วยชื่อ http://QuickConnect.to/[QuickConnect ID] ได้เลย
ในที่สุดก็ติดตั้ง NAS เสร็จแล้ว แต่ตอนนี้ NAS ของเรายังไม่พร้อมที่จะเป็น NVR นะครับ
เราต้องทำการติดตั้ง Package ชื่อ "Surveillance Station" เสียก่อน
หลังติดตั้งเสร็จ
เมื่อติดตั้ง Surveillance Station เสร็จแล้วเข้ามาจะเจอเมนูย่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มกล้อง ดูกล้องแบบ Realtime ดูกล้องที่บันทึกย้อนหลัง การจัดการผู้ใช้ เป็นต้น
ก่อนอื่น เราต้องทำการเพิ่มกล้องเข้าสู่ NVR เสียก่อน จากเมนู กล้อง IP > เพิ่มกล้อง > กดค้นหาจากการกดที่รูปแว่นขยาย
ทำการเลือกกล้องที่ต้องการ
เมื่อเลือกกล้องได้แล้วให้กด ?ทดสอบการเชื่อมต่อ? เพื่อดูว่า NVR สามารถเชื่อมต่อกกับกล้องได้แล้ว
จะเห็นว่ามีกล้องเพิ่มขึ้นมาแล้ว
หลังจาก Add กล้องลงไปแล้วเราสามารถปรับแต่งเพื่อเปลี่ยนการบันทึก คุณภาพภาพ และความละเอียดภาพได้
รวมถึงการบันทึกว่าต้องการบันทึกตลอดเวลาหรือเฉพาะช่วงที่มีการเคลื่อนไหวเพื่อประหยัดพื้นที่บน Harddisk ก็ได้ครับ และยังสามารถตั้งแบบผสมได้อีกด้วย เช่นในตอนกลางวันให้บันทึกตลอดเวลา ส่วนกลางคืนบันทึกเฉพาะมีการเคลือนไหวก็ได้
คราวนี้ก็เสร็จสิ้นการเซ็ตให้ NAS เรากลายเป็น NVR แล้ว และพร้อมที่จะบันทึกแล้ว
ลองมาดูแบบภาพแบบ Live กันบ้าง
โดยเราสามารถดูได้ทั้งใน Computer
และในมือถือด้วย App DS Cam ได้ด้วย
โดยการเข้าดูเราจะใช้ QuickConnect ID ได้เลย
หลังจากบันทึกมาได้สักระยะนึงแล้ว คราวนี้เราจะมาลองดูภาพย้อนหลังกันบ้าง
เท่านี้ก็เท่ากับว่าเราสามารถนำ NAS มาใช้เป็น NVR ได้แล้ว
แต่การนำ Synology NAS มาเป็นนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เรายังสามารถใช้ NAS เพิ่อเป็น NVR ในระบบใหญ่ๆ ได้อีกด้วย ด้วยการใช้ฟีเจอร์ที่ชื่อว่า CMS (Central Management System)
ทำให้สามารถรวม NAS หลายๆ ตัวเข้าด้วยกัน รองรับกล้องถึง 5000 ตัว และ NAS ถึง 300 ตัวเลยทีเดียว
และการบันทึกยังสามารถตั้งบันทึกแบบกระจายจุดได้ด้วย เช่น วาง NAS ไว้แต่ละสาขาเพื่อบันทึกกล้องของสาขา และมีระบบรวมที่สำนักงานใหญ่อีก 1 ตัว และใช้ CMS เพื่อทำการรวมกล้องของทุกสาขาก็ได้
หรือการทำ Failover โดยมีการวาง NAS สำรองไว้เผื่อ NAS ตัวใดตัวหนึ่งในระบบเสีย ก็จะสามารถเอา NAS ตัวสำรองขึ้นใช้งานได้ทันที
และถ้าต้องการความปลอดภัยเพิ่มอีกขั้น ยังสามารถทำการ Backup ข้อมูลกล้องออกไปยัง Ext. HDD, Flash Drive หรือจะเป็น Cloud Storage เช่น Google Drive, Dropbox, Amazon Drive ได้อีกด้วย
ปล.. มีอะไรตกหลุมตกร่องไปขออภัยด้วยครับ