เปลี่ยน Office ให้ Smart ลดกระดาษทำ PaperLess ด้วย Synology NAS

[hunter@]

Synology DS218+ จัดการไฟล์ข้อมูลอย่างมืออาชีพ

เปลี่ยน Office ให้ Smart ลดกระดาษทำ PaperLess ด้วย Synology NAS

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องที่รักในเทคโนโลยีวันนี้ผมได้มีโอกาศได้มาโชว์ของดีซึ่งน่าจะเหมาะกับทุกท่านในเรื่องของการเก็บข้อมูลและการแชร์งานเอกสาร หรือจัดการไฟล์ต่างๆ ภายในองค์กร ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนก็สามารถจัดการข้อมูลของท่านได้ ทุกวันนี้เราคนหนีไม่พ้นกับการเติบโตของเทคโนโลยีที่อัปเดตวันเป็นรายวันเลยที่เดียวครับ และผมได้มีโอกาศได้ไปร่วม Workshop กับทาง Synology ที่เป็นผู้นำในด้านอุปกรณ์ระบบการจัดเก็บข้อมูลซึ่ง เป็นเทคโนโลยี่ที่พัฒนามาให้งานต่อการใช้งานไม่จำเป็นต้องเก่งไอที ก็สามารถตั้งค่าการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว Synology DS218+ เป็นอุปกรณ์ NAS จัดเก็บข้อมูล ที่นอกเหนือจากเครื่องคอมพิวเตอร์ สามารถแชร์ไฟล์และรองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย สามารถรองรับฮาร์ดดิสได้ 2 ลูกและถูกออกแบบมาให้เปิดใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ประหยัดไฟ และการทำงานที่เงียบเสียงรบกวน สำหรับวันนี้ผมขอเสนอ NAS Synology DS218+ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ไม่ธรรมดา เพราะมีแอปให้ติดตั้งเพิ่มได้ ถ้ามองย้อนไปยุคแรกๆของ NAS ก็เป็นแค่อุปกรณ์จัดเก็บไฟล์แชร์ไฟล์ เท่านั้น แต่ปัจจุบันได้พัฒนาไปมากเพราะมันสามารถติดตั้งแอปหรือแพคเกท เข้าไปได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการใช้งานนั่นเอง สำหรับราคาก็อยู่ที่ประมาณ 12000 บาท ราคาดังกล่าวยังไม่รวม HDD ครับ

สเปคของ Synology DS218+
CPU Intel Celeron J3355 64-bit Dual Core 2.0 burst up to 2.5 GHz
Memory 2 GB DDR3L เพิ่มได้ Memory Expandable up to 6 GB (2 GB + 4 GB)
Storage - Drive Bays 2
? รองรับขนาด 3.5" SATA HDD ,2.5" SATA HDD , 2.5" SATA SSD
? ใส่ 2 ลูก รองรับ 24 TB (12 TB drive x 2)
? ถ้าใส่ HDD ลูกเดียวในการใช้งาน จะรองรับได้ถึง 108 TB
External Ports
? RJ-45 1GbE LAN Port 1
? USB 3.0 Port 3
? eSATA Port 1

ปุ่มและไฟแสดงสถานะ ส่วนPort การใช้งานต่างๆ ก็ตามรูปเลยครับ

สำหรับฮาร์ดดิส ก็ขอแนะนำให้เลือกใช้ HDD ที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานกับ NAS โดยเฉพาะ

อย่าง WD Red หรือจะใช้ยี่ห้ออื่นก็ตามแต่ความชอบครับ สำหรับวันนี้ที่เรานำมาทดสอบคือ HDD 2 TB SATA-III WD Red NAS

2 TB SATA-III WD Red NAS (64MB 5400RPM) ได้รับการสนับสนุนมาจาก WD Thailand ต้องขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ครับ ความสามารถของ HDD รุ่น WD Caviar Red คือถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับใช้งานบนระบบ NAS สามารถใช้ได้กับ NAS Box ได้เกือบทุกรุ่น ออกแบบมาให้รองรับการใช้งาน แบบ 24/7 หรือพูดง่ายๆก็คือเปิดทำงานได้ทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องปิดเครื่อง มีอายุเฉลี่ย 1 ล้านชั่วโมง ซึ่งลองคำนวณแล้วมันเปิดใช้งานได้ถึง 114 ปีเลยทีเดียว (*ถ้าไม่พังจากสาเหตุอื่นๆ เช่นไฟดับ ไฟกระชาก) และที่สำคัญมันมีเทคโนโลยี่
- Notouch ลดการสัมผัสกับตัวจานแม่เหล็ก
- GhockGuard ป้องกันแรงสั่นสะเทือน และ
- 3D Active Balance Plus เป็นเทคโนโลยีการควบคุมความสมดุล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานโดยรวมของ HDD นั่นเองบอกเลยว่าไม่ธรรมดาจริงๆสำหรับ HDD รุ่นนี้

เรามาเริ่มกันเลยนะครับสำหรับการใช้งานจริง ผมขอข้ามขั้นตอนการประกอบและตั้งค่าไปนะครับ

1.เมื่อเรา พิมพ์ IP ของเครื่อง NAS เรา เช่น 192.168.14.99:5001 เราก็จะเข้ามาหน้า Login ใส่ User และ Password ตามที่เราได้ตั้งค่าได้ตอนแรก


2.ซึ่งถ้าเราจะเข้ามาตั้งค่าการใช้งานต่างๆก็เข้าไปที่ แผงควบคุม ซึ่งเมนูก็รองรับภาษาไทยง่ายต่อการทำความเข้าใจครับ


3.สิ่งแรกที่ควรกำหนดคือตั้งค่าผู้ใช้งานว่าเราจะให้ใครสามารเข้ามาใช้งาน Nas ของเราได้บ้าง


4.สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ User อยู่กลุ่มไหน



5.กำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงโฟล์เดอร์ได้ ว่าจะให้ User มีสิทธ์ ทำอะไรกับโฟล์เดอร์นั้นบ้าง เช่น ไม่ให้เข้าถึง หรืออ่าน/เขียน แก้ไข หรือจะ ให้เข้ามาอ่านอ่านเดียว


6.สามารถกำหนดโควตาให้ User ว่าจะให้พื้นที่ในการเก็บข้อมูลได้เท่าไหร่ ในแต่และโฟล์เดอร์ที่เข้าใช้งาน


7.และยังสามารถกำหนดได้ว่าจะให้ User มีสิทธิ์เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน อะไรได้บ้าง

?
8.สามารถจำกัดความเร็วของแต่ละ User ทั้ง Upload และ Download


9.กดที่ปรับใช้ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการเพิ่ม User ที่จะเข้าใช้งานครับ



สร้างโฟลเดอร์ที่จะใช้งานร่วมกัน
1.สามารถสร้างโฟลเดอร์ที่จะใช้งานร่วมกันได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย




2.ตั้งชื่อโฟเดอร์ที่จะใช้งานร่วมกัน?




3.กำหนดรหัสในการเข้าใช้งาน ไม่ต้องกำหนดก็ได้ครับ. ถ้ากำหนดทุกครั้งที่เข้าใช้งานมันจะถามหารหัส




4.เปิดใช้งานโควต้าว่าจะให้มีพื้นที่เท่าไหร่สำหรับโฟลเดอร์นี้ กดถัดไปแล้วยืนยันการตั้งค่าก็จะเสร็จเรียบร้อยครับ


?
5.จะแสดงรายละเอียดต่างๆที่เราได้ตั้งค่าไว้



6.ถ้าเรากำหนดรหัสผ่านระบบจะให้เราบันทึก PASS ป้องกันเราลืม



?
7.เราสามารถกำหนดสิทธ์การเข้าใช้งานโฟล์เดอร์ของแต่ละ User ได้ ว่าจะให้สิทธิ์ทำอะไรบ้าง




8.เราก็จะได้ โฟลเดอร์ สำหรับเข้าใช้งาน




?
การใช้งานจริงในการโอนถ่าย ไฟล์
แบบที่1.สำหรับการโอนไฟล์นั้นง่ายมาก แค่ท่านเปิดไดว์ที่เก็บงานคลิกเลือก งานที่จะเก็บไว้ใน NAS แล้วก็ลากวางในหน้า Browser ได้เลยซึ่งถือว่าสะดวกมาก



แบบที่ 2. ถ้าท่านอยู่ในแลน วงเดียวกันกับNAS ท่านสามารถ อัพไฟล์ได้โดยตรงเหมือการโอนไฟล์ระหว่าง PC ด้วยกัน เพียงแค่ พิมพ์ ip เครื่อง NAS ของเราแล้วใส่ Username และ Password เราก็จะสามารถโอนถ่ายข้อมูลได้









เป็นยังไงบ้างครับ สำหรับนี่แค่น้ำจิ้มเล็กๆแบสิกพื้นฐานทั่วไปครับ Synology DS218+ ยังมีทีเด็ดที่ดีกว่านี้อีกเรามาดูกันครับว่า Nas ตัวนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง

จากนี้ไปผมจะนำท่านมาพบกับ ความสามารถที่สุดยอดของ NAS Synology DS218+ กันครับ อยู่ไหนก็จัดการไฟล์เอกสารได้
อย่างแรกเลยครับ เราสามารถเพิ่ม APP หรือ Package ต่างๆที่ทาง Synology พัฒนาขึ้นมาซึ่งเขาได้แบ่งออกเป็นหมวดหมู่เพื่อให้งานต่อการค้นหา ขอบอกเลยว่ามันมากมายซะเหลือเกินครับ
เรามาดู ฟังชั่นเด็ดของตัวอุปกรณ์





สำนักงาน (Office)
1.สำนักงาน (Office) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจและน่าใช้งาน ซึ่งเราสามาถติดตั้งโปรแกรมที่สามารถรองรับทั้งระบบPC และอุปกรณ์มือถือครับ เพียงแค่เราคลิกเลือกที่ รับแอปDrive ตอนนี้ ?


2.เมื่อทำการติตั้งแอปเสร็จแล้วจะได้หน้าจอแบบนี้ ให้เลือก Start Now



3.กรอก IP หรือ QuickConnect ID เครื่อง NAS ตามด้วย Username และ Password ของเรา แล้วกด Next




- ระบบจะถามต่อ ?คุณต้องการที่จะเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วแม้ในขณะเดินทางข้อมูลที่คุณมีก็จะได้รับการเก็บรักษาตราบใดที่คุณออนไลน์?
ให้ตอบ Yes



- และตามด้วยให้เลือก Proceed anyway


4.เมื่อมาถึงหน้านี้ ให้เรากด Next



5.ระบบจะถามว่าจะเลือกที่จะ Sync กับโฟลเดอร์ไหนถ้าเราไม่เปลี่ยน ก็กด Done ครับ



6.เสร็จแล้วเราก็จะได้ app Synology Drive ไว้เก็บไฟล และสามารถ Sync กับ NAS ไว้ตลอดเวลา เหมือ Google drive กับ One Drive ครับ


?
7.ทีนี้โฟลเดอที่เราสร้างในเครื่อง Pc ก็จะ Sync กับตัว NAS ตลอดเวลาไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนเราก็สามารถจัดการไฟล์ของเราได้ ในมือถือก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแค่มี App Drive



8.ความสามารถในการแก้ไขไฟลได้หลายคนพร้อมกัน เพียงแค่แชร์ Link ข้อดีของโปรแกรมนี้คือเราสามารถแก้ไขเอกสารร่วมกันได้เลย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือบนอุปกรณ์ชนิดใด ขอให้มี Internet ก็สามารถเข้ามาทำได้ โดยที่ไม่ต้องปริ้นกระดาษเพื่อแจกให้แต่ละคนมาแก้ไข เมื่องานสมบูรณ์แล้วเราก็ค่อยปริ้นงานออกมาครั้งเดียวครับ ประหยัดทั้งกระดาษและเวลาครับ ลองไปประยุกต์ใช้กับงานอื่นๆของท่านดูครับ


สรุปการรีวิว
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับความสามารถเล็กๆน้อยๆที่เอามาให้ชมกัน ซึ่งขอบอกเลยว่าทำงานได้ไม่ต่างกับคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเลย ที่นี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานแล้วละครับว่าจะนำไปใช้งานประเภทไหนให้คุ้มค่ามากที่สุด
- ซึ่งการเปิดใช้งานแบบไม่ปิดมาสองอาทิตย์ยังไม่พบปัญหาอะไรใช้งานได้ปกติ การทำงานที่เงียบไม่มีเสียงรบกวน
- หน้าจอการทำงานที่ง่ายต่อการทำความเข้าใจและแอปหรือแพคเกตที่ติดตั้งใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน รองรับการทำงานทุก platform อุปกรณ์ ผ่าน Browser
- วัสดุอุปกรณ์ แข็งแรงดี ออกแบบมาสวยงามขนาดกระทัดรัด ใช้พื้นที่น้อย ไม่ต้องดูแลรักษาแต่ควรวางในพื้นที่แห้ง ไม่มีฝุ่น และอากาศถ่ายเทสะดวก
- การติดตั้งอาจจะซับซ้อนนิดหนึ่ง จึงต้องมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์หรือศึกษาการทำงานของอุปกรณ์ มาก่อนเพื่อความสะดวกในการติดตั้งและเซ็ตระบบ
- การใช้งานภายในวงแลนเดียวกันถือว่าทำได้รวดเร็ว แต่ถ้าใช้ผ่าน Internet จากภายนอกเพื่อเข้าใช้งานนั้นยังช้าอยู่มาก อาจต้องเข้าไปตั้งค่าอะไรเพิ่มเติม
- ราคายังไม่รวม HDD ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะกันงานที่ใช้ แต่ถ้าไม่มองเรื่องราคาที่ถือว่าสูง แลกมาด้วยความคุ้มค่าในการเก็บรักษาข้อมูลที่มีค่าของเรา ถือว่าคุ้มกับเงินที่จ่าย

ส่วนการใช้งานอื่นๆผมจะรีวิวมาให้ดูเรื่อยๆนะครับอย่างที่บอกว่าแอปนั้นเยอะมากใช้งานเดือนเดียวคงรีวิวกันไม่หมด สุดท้ายนี้ถ้าขาดตกบกพร่องตรงไหนไปก็ติชมกันได้ครับ

+ขอบคุณ Synology สำหรับอุปกรณ์ Synology DS218+
https://www.synology.com/en-global
+ขอบคุณ WD Thailand สำหรับ HDD 2 TB SATA-III WD Red NAS
https://www.wdc.com/en-um/products/i...ge/wd-red.html
+ขอบคุณ OverclockZone สำหรับกิจกรรม Workshop และพื้นที่ในการเขียนรีวิว

รีวิวโดย Hunter@