Announcement

Collapse
No announcement yet.

[Sponsored] [Review] Asus RT-AC5300

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • [Sponsored] [Review] Asus RT-AC5300

    Disclaimer: รีวิวนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม Asus Router Challenge ทาง Asus ให้ยืมตัวอย่างสินค้าเพื่อเขียนบทความนี้
    นี่เป็นบทความรีวิวชิ้นแรกของผม ถูกผิดอย่างไรแนะนำด้วยครับ



    สินค้า Asus RT-AC5300
    เว็บไซต์ https://www.asus.com/Networking/RT-AC5300
    ราคาที่ผู้ผลิตแนะนำ (MSRP) 14,900 บาท (ณ วันที่ 8 มีนาคม 2016)
    บทสรุป Router 4x4 สามคลื่น
    ข้อดี ประสิทธิภาพสูง พร้อมทุกฟังก์ชัน
    ข้อเสีย ราคาสูง ไม่รองรับ MU-MIMO
    บทเกริ่นนำ
    Asus RT-AC5300 เป็นเราเตอร์รุ่นใหญ่ของ Asus และเป็นเพียงหนึ่งในสองตัวในตลาดเราเตอร์ทั้งหมดที่มาพร้อม Wireless AC 5300 Mbps โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มคนใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อสุดยอดประสบการณ์การเล่นเกม และถ่ายทอดวิดิโอ 4K ที่ราบลื่นที่สุด
    เราจะมาทดสอบพลังของอุปกรณ์ชิ้นนี้และดูว่าสิ่งที่ได้เหมาะกับป้ายราคาที่หนักหน่วงหรือไม่

    สเปค
    เห็นได้ชัดเจนว่าณเวลาเขียนนี้ Asus RT-AC5300 เป็นเราเตอร์ไร้สายระดับผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพสูงอันดับต้น ๆ (ถ้าไม่ใช่ที่สุด) ในตลาด
    ความเร็ว 5300 Mbps นี้ได้มาจากทำงานสามย่านความถี่พร้อมกัน: 2.4GHz หนึ่งคลื่นและ 5GHz อีกสองคลื่น และ NitroQAM ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Broadcom ช่วยเร่งความเร็วแต่ละย่านยิ่งขึ้นไปอีก โดยเพิ่มการ modulate เป็น 1024 สถานะ (1024QAM)
    การจัดเสา 4x4 ของเราเตอร์ตัวนี้ แม้ว่าควรจะรองรับ MU-MIMO เฟิร์มแวร์กลับยังไม่รองรับฟังก์ชั่นนี้ ตามข้อมูลจากเว็บของ Asus เฟิร์มแวร์เบต้าจะเสร็จภายในปลายปี 2015



    แต่ตอนนี้เราก็มาถึงปลายมีนาคม 2016 กันแล้ว และสิ่งเดียวที่มีคือเฟิร์มแวร์ alpha โดยอ้างว่า WiFi-Alliance ยังไม่สรุปมาตรฐานนี้
    แต่จากการสังเกตรุ่นใกล้เคียงเช่น Asus RT-AC88U หรือ Netgear R8500 พบว่าต่างยังไม่มีเฟิร์มแวร์สำหรับ MU-MIMO ทั้งคู่ ควาดว่าเป็นปัญหาที่ทาง Broadcom มากกว่า
    ผมจะไม่ใช้ เฟิร์มแวร์ alpha ในการรีวิว แต่จะใช้เวอร์ชั่นล่าสุดที่มีอยู่ (3.0.0.4.380.1355)

    อัปเดต: เฟิร์มแวร์เบต้าสำหรับ MU-MIMO ออกให้ลองทดสอบแล้ว

    ประสิทธิภาพการประมาลผลของตัวนี้ก็ใช่ย่อย CPU ที่ใช้คือ Broadcom BCM47094 โดยมี ARM Cortex A9 ทั้งหมด 2 core เป็นหัวใจหลัก วิ่งอยู่ที่ 1.4Ghz ควบโดย Ram DDR3 512MB และ NAND เก็บข้อมูลขนาด 128MB

    รูปลักษณ์


    กล่องบรรจุถือว่ามีขนาดใหญ่และหนักกว่าที่คาดไว้มาก การดีไซน์คล้ายกล่องเราเตอร์ Asus รุ่นอื่น ๆ ที่เราคุ้นเคย เว้นแต่ว่าการเปิดเป็นลักษณะยกฝาขึ้น (เหมือนกล่องอุปกรณ์ Apple)


    เปิดขึ้นมาด้านใน สิ่งแรกที่จะพบคือต้วเราเตอร์เอง ใต้ตัวเราเตอร์มีเสาและซองเอกสาร ด้านข้างมีช่องแบ่งไว้เก็บปลั๊กและสายต่าง ๆ


    เสาอากาศทั้งหมด 8 เสา ไม่แยกช่อง 2.4/5GHz, คู่มือหลายภาษา, ใบ"สมาชิก VIP" และแผ่น CD


    กล่องแปลงไฟขนาดใหญ่แยกออกมาจากหัวปลั๊ก


    สาย ethernet และปลั๊กไฟสามแบบตามประเทศ สำหรับประเทศไทย ปลั๊กที่มีให้เป็นหัวกลม


    ตัวเครื่องมีขนาด 245 x 245 x 65 มิลลิเมตร เสาอากาศกระจายอยู่ทั้งสี่ด้านของตัวเครื่อง ด้านละสองเสา
    ด้านบนมีแถบสีแดงรอบ ๆ ตรงกลางมีลายและโลโก้ Asus ตรงกลาง ด้านในลายเป็น heat sink ระบายความร้อน (ตัวนี้ร้อนเอาเรื่องเหมือนกัน)
    เสาทั้ง 8 มีขนาดใหญ่ หนัก และเอนไปมาง่าย ทำให้เกิดความน่ารำคาญเวลาขนย้าย โดยเฉพาะระหว่างถ่ายรูป
    ด้านใต้ เต็มไปด้วยลายเหมือนส่วนกลางของด้านบน มีสติกเกอร์ serial number และขาตั้งยาง
    แม้ว่าจะขาดช่องแขวนกำแพง ดูจากรูปร่างและน่ำหนักแล้วคงไม่มีใครต้องการติดบนเพดานเป็นแน่


    ด้านหน้ามีไฟแสดงสถานะเปิด/ปิด, คลื่น 2.4GHz, คลื่น 5GHz, Internet, LAN, และ WPS
    ในเราเตอร์ราคาระดับนี้ ผมอยากเห็นไฟ 4 ดวงสำหรับ LAN แต่ละพอร์ต
    หากเแยกสถานะ 100Mbits / Gigabit จะดียิ่ง ข้อเล็กน้อยเช่นนี้ช่วยให้แก้ปัญหาการติดตั้งได้ง่ายขึ้น


    ด้านหลังมีปุ่มสวิชต์เปิดปิด (หนึ่งปุ่มที่ router บางรุ่นมองข้าม) ปลั๊กไฟเข้า, ช่อง USB3.0 พอร์ต WAN หนึ่งพอร๋ตและ LAN อีก 4 พอร๋ต
    ทั่งหมดเป็น Gigabit และขวาสุดมีปุ่ม reset (เสาบัง)


    ด้านข้างมีพอร์ต USB 2.0, ปุ่มเปิด/ปิด LED, ปุ่ม WPS และปุ่มเปิด/ปิดสัญญาณ Wi-Fi โดยทั้งสามปุ่มมีเสียงกด/แรงต้านดี ให้เรารู้สึกว่าเรากดปุ่มแล้ว
    นับว่าเป็นอีกฟังก์ชันที่มีประโยชน์และไม่ได้พบบ่อย ๆ หากจะมีข้อเสียคือการกดปิด Wi-Fi ตอบสนองช้า
    บางครั้งผมกดย้ำลงไปเพราะคิดว่าระบบไม่ตอบสนองหรือกดไม่นานพอ แต่กลับได้เห็นไฟคลื่นไร้สายดับเป็นเวลาครึ่งวินาทีแล้วกลับมาติดใหม่
    อีกประเด็นหนึ่งคือการเปิด/ปิด Wi-Fi สามารถทำได้แค่ที่ปุ่มบนตัวเครื่องเท่านั้น ผมหาการตั้งค่าใน Web interface ไม่พบ

    โดยรวมแล้ว เราเตอร์มีขนาดใหญ่มาก รูปร่างสวยงาม ดูคล้ายแมงมุมนอนหงาย คุณภาพดูคงทน ไม่รู้สึกเป็นพลาสติกถูก ๆ
    Last edited by win32.exe; 29 Mar 2016, 07:38:13.

  • #2
    Installation and Features

    เริ่มติดตั้ง
    สำหรับคนที่คุ้นชินกับ ASUSWRT อยู่แล้ว ตัวนี้รูปร่างไม่ต่างกันมาก
    สามารถลองใช้ emulator เองได้

    หลังจากอัปเกรดเฟิร์มแวร์เป็นรุ่นล่าสุด และกู้คืนการตั้งค่าจากโรงงาน สิ่งแรกที่พบคือ Wi-Fi เริ่มจากไม่มีรหัสมาตั้งแต่ต้น: เรื่องเล็กน้อย ๆ ที่หลายยี่ห้อพลาด

    แต่เมื่อพยายามเข้าอินเตอร์เน็ตครั้งแรก ตัวเราเตอร์จะตัดไปหน้า wizard ตั้งค่าอัตโนมัติ ซึ่งแทบจะบังคับให้ตั้งรหัส Wi-Fi และสั่งให้เปลี่ยนรหัสการตั้งค่าเราเตอร์เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ admin/admin แถมยังไม่อนุญาตเปลี่ยนกลับเป็น admin/admin ในภายหลัง ถือว่า Asus เอาใจใส่เรื่องความปลอดภัยมาก



    นอกจากนี้ Asus ยังไม่มองข้ามความปลอดภัยของเครื่อข่ายไร้สายเช่นกัน
    เมื่อผมพยายามตั้งรหัส Wi-Fi เป็น "11111111" (ซึ่งจะใช้ในการทดสอบความเร็วในบทถัดไป) ผมได้รับข้อความเตือนให้ตั้งรหัสอื่นที่ปลอดภัยกว่า


    หลังจากจบ wizard จะพบกับหน้าตาของ ASUSWRT ที่คุ้นเคย ผมจะแสดงฟังก์ชั่นที่น่าสนใจและแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ


    ฟีเจอร์ต่าง ๆ
    Link aggregation (802.3ad) เป็นมาตรฐานที่อนุญาตให้ผู้ใช้รวม LAN หลายเส้นให้ทำงานเหมือนเส้นเดียวที่มีความเร็วสูงได้
    พร้อมรองรับกรณีสายเส้นหนึ่งมีปัญหา ระบบยังคงทำงานได้อยู่
    หากจะใช้งานต้องมีอุปกรณ์เครือข่ายที่รองรับมาตรฐานนี้ (เช่น switch หรือ NIC ที่รองรับ) ในตัวเราเตอร์นี้ สามารถ aggregate ได้ระหว่าง LAN port 1 และ 2


    ต่อมาเป็น "AiProtection" ของซึ่งเป็นระบบป้องกันไวรัสโดยใช้ฐานข้อมูลของ Trend Micro
    ส่วนนี้ระบบทำงานอยู่สามส่วน: ปิดช่องโหว่บนตัวเราเตอร์เอง, บล๊อคการเชื่อมต่อไปยังเว็บไม่พึงประสงค์ และป้องกันไม่ให้เครื่องที่ติดไวรัสส่งข้อมูลส่วนตัวกลับไปยังเซอเวอร์ข้างนอก


    ข้อเสียหนึ่งของความที่มี 3 band คือเราจะได้ Wi-Fi 3 ชื่อ (SSID) ซึ่งหลาย ๆ คนอาจไม่อยากปวดหัวกับการแบ่งว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนต่อกับคลื่นที่เท่าไหร่
    ทาง Asus จึงใส่ฟังก์ชัน Smart Connect เข้าไปเพื่อรวม Wi-Fi หลาย SSID เข้าด้วยกัน และเลือก band ที่ต่ออัตโนมัติตามกฎที่ตั้งไว้ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้
    โดยสามารถเซ็ตได้สองโหมดคือรวม 5GHz 2 คลื่นเข้าด้วยกัน แยก 2.4GHz ต่างหาก หรือรวมทั้งหมดสามคลื่นก็ได้
    ฟังชันนี้อาจทำงานได้ดี หรือใช้งานไม่ได้เลย หากฟังชันนี้ไม่ทำงานก็ไม่ใช่ความผิดเราเตอร์เสียทั้งหมดเพราะอุปกรณ์ที่ต่อบางตัวไม่ชอบถูกเราเตอร์สั่งให้เปลี่ยนคลื่นความถี่และพยายามต่อต้าน
    จากการใช้งานจริง ส่วนใหญ่แยกช่องได้ดี แต่มีบางครั้งอุปกรณ์ที่ลองรับ 802.11N 5GHz ยังกลับไปเชื่อมต่องช่อง 2.4GHz อยู่
    กฎที่สามารถตั้งค่าได้ และการตั้งค่าอัตโนมัติมีดังตารางด้านล่าง
    Last edited by win32.exe; 26 Mar 2016, 16:25:36.

    Comment


    • #3
      Game Boost และ WTFast

      Game Boost และ WTFast
      ตัวเร่งความเร็วสำหรับเกมในเราเตอร์ตัวนี้มีอยู่สองส่วน: QoS และ WTFast (ผมขอไม่นับ Antivirus เป็นตัวเร่งเกม)
      ในส่วนนี้ เรามาเริ่มจากส่วนที่น่าดึงดูดที่สุดซึ่งก็คือ WTFast

      WTFast คือบริการ Gaming VPN เจ้าใหญ่แห่งหนึ่ง โดยให้บริการผ่านโปรแกรมบน Windows มานานแล้ว
      บริการนี้เร่งความเร็วโดยให้เราเชื่อมต่อไปยังเครือข่ายของ WTFast ซึ่งมาเส้นทางส่งข้อมูลระหว่างประเทศที่เร็วและตรงกว่าของผู้ให้บริการทั่ว ๆ ไป
      ในครั้งนี้ Asus นำโปรแกรมมาผสมใน router สามารถให้เราใช้ได้กับ OS อื่น ๆ เช่น Linux โทรศัพท์ หรือเครื่องคอนโซล์ต่าง ๆ
      ผมลองสมัครบัญชีฟรีเพื่อใช้ทดสอบ พบว่าเมื่อล็อกอินบนเราเตอร์แล้วจะได้รับอัปเกรดเป็น advanced
      การตั้งค่านั้นไม่ยาก เพียงเลือก MAC address ของอุปกาณ์ที่ต้องการใช้ (มีปุ่มให้เลือกรายชื่ออุปกาณ์ช่วยอำนวยความสะดวก) เลือกเกมที่ใช้ และเซฟเวอร์ WTFast ที่ต้องการต่อ
      ข้อจำกัดมีอยู่ว่าสามารถใช้กับอุปกรณ์ได้ทีละเครื่อง หากต้องการใช้มากกว่านั้นจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

      ผมวางแผนว่าจะลองทดสอบด้วย Guild Wars 2 แต่ปัญหามีอยู่ว่า ในขณะนี้ระบบรองรับเพียงแค่ 6 เกมเท่านั้น (สามารถตรวจสอบรายชื่อเกมที่รองรับได้ที่นี่) ซึ่งถือว่าจำกัดมากเมื่อเทียบกับโปรแกรมในคอมพิวเตอร์


      อีกฟังก์ชันหนึ่งคือ Adaptive QoS ซึ่งเป็นระบบจัดการความสำคัญของข้อมูลเพื่อให้ข้อมูลเร่งด่วนได้ออกอินเตอร์เน็ตก่อน
      ระบบนี้จะเห็นผลมากเวลาเล่นเกมระหว่างที่ดาวน์โหลด/อัปโหลดข้อมูล
      จุดที่ต่างจาก QoS ในเราเตอร์ Asus รุ่นก่อน ๆ คือนอกจากเราจะจัดอันดับชนิดข้อมูลได้แล้ว เรายังสามารถจัดความสำคัญของอุปกรณ์เองได้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อกฎอัตโนมัติไม่ทำงานตามที่ควร

      สิ่งที่ผมยังไม่ชอบคืออินเตอร์เฟส จากการมองครั้งแรก ผมรู้สึกว่าผู้ใช้สามารถจัดความสำคัญของอุปกรณ์ได้ แต่ผมหาวิธีปรับไม่พบ
      สุดท้ายผมต้องเปิดคู่มือบนเว็บ เพื่อพบว่าผมต้องลาก-วางปุ่ม "Highest", "High"... ที่อยู่ด้านบนไปวางทับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการตั้ง
      ปุ่มเหล่านั้นทำหน้าทีเป็นตัวกรองตารางหากคลิกปกติ แม้ว่าด้านล่างของหน้าตั้งค่าจะมีลิงก์ไปยังคู่มือ ตัวอินเตอร์เฟสเองควรอธิบายตัวเองให้ได้มากที่สุดหรือผู้ใช้บางคนจะไม่ผู้ว่าฟังก์ชันนี้มีอยู่
      อีกข้อที่ยังมีปัญหาคือไอคอนของอุปกรณ์เช่น iPhone 5 มีไอคอมเป็นรูปปรินเตอร์ และความแน่นอนของไอคอน
      เช่นคอมพิวเตอร์ Windows บางเครื่องเป็นจอคอมที่มีโลโก้เก่าของ Windows แต่บางเครื่องโลโก้ใหม่พร้อมคำว่า "Microsoft"
      แต่ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่อย่างใด


      แล้วฟังก์ชั่นเหล่านี้จะมีผลแค่ไหนเวลาใช้งานจริง
      ในการทดสอบ ผมใช้อินเตอร์เน็ต Coax cable ระดับส่วนบุคคล ความเร็ว 15/1.5 Mbits/s (Down/Up) โดย True Internetถือว่าเป็นตัวแทนของอินเตอร์เน็ตเน็ตบ้านทั่วไป
      เนื่องจากเราเตอร์หลักที่ผู้ให้บริการให้มาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นโหมด bridge ได้ จึงจำเป็นต้องต่อ NAT มาอีกหนึ่งชั้น
      แต่ตั้งให้ RT-AC5300 ตัวนี้เป็น IP ในโซน DMZ เพื่อลดผลกระทบของ NAT
      เพื่อตัดตัวแปรการใช้อินเตอร์เน็ตระหว่างทดสอบแต่ละครั้ง จะมีอุปกรณ์เพียงสามเครื่องที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย: เราเตอร์ทรู, เราเตอร์ Asus, และคอมพิวเตอร์โดยปิดโปรแกรมที่ใช้อินเตอร์เน็ตเกือบทั้งหมด

      เนื่องจากผมไม่คุ้นเคยกับทั้ง 6 เกมที่รองรับพอที่จะจัดแบบทดสอบ ผมจึงยังใช้ Guild Wars 2 ต่อไป
      การทดสอบนี้ จะวัด Ping time ของ Guild Wars 2 (server ตั้งอยู่ที่ Texas, USA) และ Teamspeak 3 (server ของ vahosting.net ตั้งอยู่ที่ Kansas, USA)
      โดยจะทดสอบระหว่างปิด Gaming boost ทุกประเภท, ใช้โปรแกรม WTFast บน Windows, และใช้ Gaming boost บนเราเตอร์ (ทั้ง WTFast และ QoS)
      เนื่องจาก WTFast บนเราเตอร์ไม่รองรับเกมนี้ ผมจึงเลือกตั้งค่าเกมเป็น World of Warcraft (US) ซึ่งเป็นเกมที่มีลักษณะใกล้เคียงที่สุด

      ในการควบคุมตัวแปรภายใน Guild Wars 2 ผมทดสอบโดยเข้าโซน Hero's Canton ใน Black Citadel ซึ่งเป็น home instance ของตัวละครเผ่า Charr
      โดยไม่มีผู้เล่นอื่นอยู่บนเซฟเวอร์เลย แต่ขณะเดียวกันยังมี NPC อยู่จำนวนหนึ่งสร้างความเคลื่อนไหวในแมพบ้าง
      ค่า ping time นับจากค่าเฉลี่ยที่เกมแสดงที่เวลาหนึ่งนาทีหลังจากแมพโหลดเสร็จ
      ตัวละครไม่มีการขยับเรียกใช้สกิล หรือเปิดหน้าต่างใด ๆ หลังจากโหลดเสร็จ นอกจาก Setting เพื่อดูค่า ping
      กล่องแชททุกชนิดว่างเปล่า


      ในเลาเดียวกัน ได้เชื่อมต่อ Teamspeak 3 โดยมีเพื่อนร่วมห้องหนึ่งคน คุยไปกลับเรื่อย ๆ
      เนื่องจาก WTFast บน Windows ไม่เชื่อมต่อ Teamspeak จึงจะไม่วัดค่า ping time ในบททดสอบนั้น


      ผลที่ได้คือต่างกันไม่มาก เรียกได้ว่าอยู่ภายในขอบเขตการผิดพลาด ในการทดสอบนี้ ผมขอสรุปว่าไม่มีความแตกต่าง

      อย่างไรก็ดี หากมีคนอื่นใช้อินเตอร์เน็ตหนัก ๆ ฟังก์ชัน QoS ขึ้นมาโดดเด่นมาก
      หากคอมอีกหนึ่งเครื่องกำลังดาวน์/อัปโหลด torrent ระหว่างเล่น เกมนี้มี ping time แกว่งอยู่ที่ ~5,000ms
      เมื่อเปิด Adaptive QoS ping time ลดลงเหลือ ~2,000ms แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เล่นไม่ได้
      เมื่อผมตั้งให้คอมเครื่องที่เล่นเกมความสำคัญสูงสุด และเครื่องที่อัปโหลดความสำคัญต่ำสุด ping time ลดลงเหลือ ~350-430ms ซึ่งแม้จะยังสูงกว่าปกติ อยู่ในระดับที่เล่นได้
      Last edited by win32.exe; 26 Mar 2016, 16:24:18. Reason: WTFast Link

      Comment


      • #4
        ประสิทธิภาพ NAS, Routing, และ VPN Server

        ประสิทธิภาพ NAS, Routing, และ VPN Server

        Storage
        เราเตอร์ตัวนี้มีพอร์ต USB 3.0 พร้อมฟังก์ชั่น NAS ให้ผู้ใช้สามารถนำอุปกรณ์เก็บข้อมูลมาต่อและเข้าถึงข้อมูลผ่านเครือข่าย
        โดยหน้าเว็บโฆษณาไว้ว่า "over 100MB/s USB Read Speed" แต่ประสิทธิภาพการใช้งานจริงหละ
        ในบททดสอบ เราใช้ Western Digital My Book external hard drive (USB 3.0) ขนาด 3.5" Format เป็น NTFS
        โดยจะเข้าถึงผ่านเครือข่ายด้วย samba ระหว่างเราเตอร์และคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง เชื่อมด้วย LAN Gigabit
        ตั้งค่าเปิด Jumbo frame ของ LAN และ ปิด "Reducing USB 3.0 interference" ใน การตั้งค่า Professional ของ Wireless 2.4GHz
        โปรโตคอลอื่น ๆ เช่น iTunes, DLNA, และ FTP ถูกปิด

        การทดสอบจะวัดความเร็วของการคัดลอกไฟล์ขนาดประมาณ 6GB ไป-กลับระหว่าง external hard drive กับ Ram disk (ใช้โปรแกรมของ SoftPerfect) เพื่อลดปัญหาคอขวด
        การโอนย้ายใช้เวลาระหว่าง 1-2 นาที หากต่อ USB3 เข้ากับคอมพิวเตอร์โดยตรง จะได้ความเร็วมากกว่า 100MBytes/s

        A: คือ Ram disk และ TestFolder คือ external hard drive

        ความเร็วอ่าน:

        ความเร็วเขียน:

        การทดสอบหลายครั้งได้ผลคล้ายคลึงกันคือความเร็วอ่านนิ่งมากที่ประมาณ 82 MBytes/s
        ส่วนความเร็วเขียนขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่าง 60-77MB/s ดังภาพ ถือป็นความเร็วที่น่าพึงพอใจมาก
        นอกจากนี้ เมื่อลองเล่นวิดิโอบิตเรทสูง (DNxHR 270Mbits/s หรือประมาณ 34MB/s) ที่เก็บไว้ใน external hard drive บนเราเตอร์ พบว่าเล่นได้ลื่นไม่มีติดขัดใด ๆ ทั้งสิ้น
        ข้อสังเกตอีกอย่างคือหากผมทำแบบทดสอบเดิมโดยใช้ โปรแกรม Filezilla เชื่อมต่อผ่าน FTP แทน Samba จะได้ประสิทธิภาพต่ำกว่า
        สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ NAS พื้นฐาน เราเตอร์ตัวนี้สามารถตอบโจทย์ได้สบาย ๆ

        Routing
        ในการทดสอบความเร็ว WAN-LAN เนื่องจากระบบ server/client ของ iperf จำกัดการส่งข้อมูลทิศทางเดียว ทำให้อาจมีปัญหาด้าน forward port
        ผมจึงใช้โปรแกรมวัดความเร็วที่ติดมากับ SoftEther แทน
        โดยฝั่ง Server ต่อกับพอร์ต WAN โดยตรงส่วน Client ต่อกับ LAN ทดสอบสามแบบ: Download+Upload พร้อมกัน, Download อย่างเดียว และ Upload อย่างเดียว
        QoS และกฎ Firewall ต่าง ๆ ปิดทิ้งทั้งหมด

        ทิศทางรับ/ส่งข้อมูลเป็นมุมมองของ Client


        ผลทดสอบถือว่าเร็วมาก เพียงพอสำหรับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ได้สบาย ๆ
        ความเร็วรวมสูงสุดคือผลทดสอบ Down+Up พร้อมกัน ซึ่งได้ความเร็วรวมกว่า 1.62 Gbps
        อย่างไรก็ดีจากการทดลองคร่าว ๆ ถ้าผมเพิ่ม/ลดจำนวน connection จาก 8 เป็นค่าอื่น ความเร็วรวมที่ได้จะลดลง

        ผมไม่ทดสอบประสิทธิภาพ LAN Switching เนื่องจากความเร็วขึ้นกับชิป switch ไม่ใช่ความสามารถ routing ของ CPU
        และในเราเตอร์ปัจจุบันส่วนใหญ่มีชิป switch ที่ดีพอจนไม่เห็นความแตกต่าง

        OpenVPN
        อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่มีมากับเราเตอร์ตัวนี้คือ VPN server แน่นอนเราเห็นเราเตอร์ที่รองรับ PPTP server อยู่มากมายและหลายคนไม่ใช่เนื่องด้วยปัญหาด้านความปลอดภัย
        แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่คาดว่าจะพบคือ OpenVPN server เราเตอร์ตัวนี้มีหน้าควบคุมที่ใช้ง่ายมาก
        เพียงสร้างบัญชี username / password สำหรับผู้ใช้ และดาวน์โหลดไฟล์ตั้งค่า ก็สามารถใช้งานได้ทันที
        ในขณะเดียวกัน ผู้ใช้ที่ต้องการยังสามารถเขาไปแก้ไขการตั้งค่าได้มากพอสมควร เช่นเปลี่ยนพอร์ต, subnet ของ VPN client, หรือเปิด/ปิดการบีบอัดข้อมูล

        การทดสอบความเร็ว ผมใช้คอมโน๊ตบุ๊ค Ubuntu 15.04 เป็น OpenVPN client
        วัดความเร็วเทียบกับคอมพิวเตอร์อีกเครืองหนึ่งโดยใช้โปรแกรม iperf2 แบบสลับอัป/ดาวน์ทีละครั้ง
        การทดสอบมีสองครั้งคือให้ client ต่อกับพอร์ต WAN แล้ว VPN เข้าหาเราเตอร์ ส่วนคอมพิวเตอร์ต่อพอร์ต LAN เพื่อวัดความเร็ว
        และอีกครั้งให้คอมพิวเตอร์ทั้งสองเครื่องต่อผ่านพอร์ต LAN ของเราเตอร์ เครื่อง client ต่อ VPN เข้ากับคอมพิวเตอร์ที่เปิด iperf โดยตรง

        บททดสอบใช้การตั้งค่า OpenVPN เป็นค่าเริ่มต้นที่มากับเราเตอร์เป็นหลักคือใช้พอร์ต UDP 1194, adaptive compression, TLS, ไม่มี HMAC และ cipher ใช้เป็น default
        ส่วน adapter ใช้ TUN วง IP 10.8.0.0/24
        จุดที่แตกต่างคือเราเตอร์ใช้ username / password ในการล็อกอิน ส่วนคอมพิวเตอร์ใช้ certificate
        ครั้งนี้ทิศทางรับ/ส่งข้อมูลเป็นมุมมองของ client


        แม้ว่าผลที่ได้จะช้ากว่าใช้คอมพิวเตอร์มาก การติดตั้งก็ง่ายและใช้พลังงานไฟฟ้าต่ำกว่ามากเช่นกัน
        อีกทั้งความเร็ว 63Mbits/s ยังถือว่าเร็วมากและผู้ใช้ระดับบุคคลส่วนใหญ่น่าจะติดคอขวดที่ความเร็วอินเตอร์เน็ตเองก่อน

        Comment


        • #5
          ประสิทธิภาพ Wireless

          ประสิทธิภาพ Wireless
          จุดขายของเราเตอร์ตัวนี้ ไม่ใช่อะไรนอกจากประสิทธิภาพไร้สาย เราจะมาดูความสามารถที่ใช้ได้จริง
          สัญญาณ 5GHz สองคลื่น มีข้อจำกัดคือสองคลื่นสามารถส่งสัญญาณได้จำกัดช่อง:
          band 1 รองรับเฉพาะช่อง 36-48 ส่วน band 2 สามารถใช้ได้แค่ช่อง 149-161 เมื่อตั้งความกว้างช่อง 80MHz
          แม้ว่าทั้งสอง band ไม่ควรเลือกช่องสัญญาณให้ทับกัน ผู้ใช้มีอิสระในการเลือกช่องลดลง เช่นไม่สามารถให้ 2 band อยู่ที่ช่อง 36-48 และ 52-64 ได้

          ระยะสัญญาณสามารถครอบคุมทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นได้ดีมาก
          สัญญาณ 5GHz ของตัวนี้ได้ระยะทางพอ ๆ กับ 2.4 GHz ของเราเตอร์ระดับพื้นฐานที่ผมใช่อยู่ ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมเนื่องจากสัญญาณ 5GHz ทะลุกำแพงได้ยากกว่า

          ต่อมาเป็นการทดสอบความเร็ว ครั้งนี้ผมจะเทียบประสิทธิภาพ Wi-Fi 5GHz กับ Xclaim Xi-3
          ซึ่งเป็น access point 802.11AC 2x2 ความเร็วสูงสุดที่ 867Mbps
          Xclaim เป็นสายผลิตภัณฑ์ Wi-Fi ประสิทธิภาพสูงสำหรับองค์กรขนาดเล็กที่อาจไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน IT หรืองบสำหรับ Wi-Fi มาก
          ผลิตโดย Ruckus เจ้าพ่อ wireless อันดับต้น ๆ ของวงการซึ่งเราอาจเห็นบางครั้งตามห้างบนกล่อง AISwifi


          หลังจากรู้จักคู่แข่งกันแล้วมาดูบททดสอบกันต่อ
          การทดสอบจะแบ่งเป็นสองส่วน: ความเร็ว Wi-Fi 1 เครื่อง - LAN และ การเชื่อมต่อระหว่าง Wi-Fi หลายๆ เครื่อง
          ในส่วนแรก การทดสอบความเร็ว Wi-Fi 5GHz ผมใช้คอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องต่อพอร์ต LAN เข้ากับเราเตอร์ / access point โดยตรง และ client ต่อผ่าน Wi-Fi วัดความเร็วไป-กลับด้วยโปรแกรม iperf2
          ตัว client ใช้ adapter wireless USB ของ D-Link รุ่น DWA-182 C1 รองรับ 802.11ac 2x2 ความเร็วสูงสุด 867Mbps เป็นตัวแทนอุปกรณ์ต่อ wireless พกพาระดับกลาง
          ฉะนั้นจะไม่สามารถใช้ประสิทธิภาพไร้สายของ Asus ได้เต็มที่ หากผู้ใช้มีอุปกรณ์ที่รองรับ 3x3, 4x4 ควรจะได้ความเร็วมากกว่าผลที่ได้จากทดสอบนี้

          สัญญาณ Wireless ทำงานที่ช่อง 149 กว้างเต็ม 80MHz โดยแยกทดสอบทีละครั้ง เปิดทีละเครื่อง ระหว่างทดสอบไม่มีสัญญาณไร้สายอื่นในช่องสัญญาณนั้นเลย
          SSID ที่ใช้คือ "Wireless10" สำหรับ Xclaim และ "Wireless12" สำหรับ Asus band 2 (band 1 ไม่ใช้แต่ยังส่งสัญญาณอยู่) ทั้งคู่เข้ารหัสด้วย WPA2-PSK AES รหัส ?11111111?
          คอมพิวเตอร์สองตัวตั้ง IP คงที่ ไม่มี gateway

          Xclaim:

          Asus:


          ผลคือ Asus ได้ความเร็วที่สูงกว่าประมาณ 19Mbps หรือประมาณ 8% และความเร็วที่คงที่กว่า




          เนื่องจากผลทดสอบที่ผ่านมายังไม่ได้ใช้จุดเด่นของเราเตอร์ตัวนี้ซึ่งก็คือ 5GHz สองคลื่น
          บททดสอบส่วนที่สองนี้ ผมจะนำอุปกรณ์หลาย ๆ ตัวมาต่อ แต่ละตัวใช้ชิปไร้สายแตกต่างกัน เพื่อไม่ให้เป็นคอขวด ผมใช้อินเตอร์เน็ตของคณะที่ KMITL ผ่านสายแลน Gigabit


          อุปกรณ์หกชิ้นต่อกับเราเตอร์ / access point ตัวเดียว สำหรับ Asus จะกระจายระหว่าง band 1-2 ดังนี้
          อุปกรณ์ การใช้งาน 5GHz band
          Acer (D-Link DWA 182C1) Share file, เล่นไฟล์วิดิโอ Interstellar จาก MSI 2
          MSI GE72 6QF Share file, เล่นไฟล์วิดิโอ Gone Girl จาก Acer 1
          Xiaomi MiPad เล่นไฟล์วิดิโอ Titanfall จาก Acer 1
          iPad Pro เล่นไฟล์วิดิโอ Titanfall จาก Acer 2
          iPhone 6 Plus เล่นวิดิโอ YouTube 1080p 2
          iPhone 5 เล่นวิดิโอ YouTube 720p 1
          ไฟล์วิดิโอที่ใช้ทดสอบมีดังนี้
          วิดิโอบันทึกเกม Titanfall 1080p60 25Mbps จาก Nvidia ShadowPlay
          Trailer Interstellar ~4k (4096x1716) 36.2Mbps + Dolby 5.1 640Kbps จาก hd-trailers.net
          Trailer Gone Girl ~4k (3996x1664) 26.3Mbps + Dolby 5.1 640Kbps จาก hd-trailers.net
          วิดิโอเหล่านี้มีบิตเรตสูงกว่าวิดิโอ 1080p/4k ที่เราพบทั่ว ๆ ไปบนอินเตอร์เน็ตเช่นบน YouTube

          ผลที่ได้คือ iPhone ทั้งสองเครื่อง สามารถชมวิดิโอได้ไม่กระตุกเมื่อใช้กับทั้ง Xclaim และ Asus ส่วนแทปเล็ตทั้งสองตัว ชมวิดิโอได้ลื่นหากคอมพิวเตอร์สองเครื่องไม่เล่นวิดิโอเลย
          ใน Xclaim แทปเล็ตเริ่มกระตุกเมื่อ Acer เริ่มเล่นวิดิโอจาก MSI วิดิโอที่ Acer เล่นก็กระตุกเช่นกัน ส่วน Asus เกิดปัญหาเดียวกัน เว้นแต่ว่า Acer เล่นวิดิโอได้ลื่นและแทปเล็ตกระตุกน้อยกว่า
          เมื่อเริ่มให้ MSI เล่นวิดิโอจาก Acer แทปเล็ตและคอมทุกเครื่องกระตุก แต่ iPhone ยังเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น Asus หรือ Xclaim ก็ตาม

          เนื่องจากไม่ได้ความแตกต่างที่ดีเท่าทีควร ผมจึงปรับบททดสอบ
          เพราะ MSI ใช้ Intel AC 3165 ซึ่งใช้เสา 1x1 และจำกัดความเร็วสูงสุดเพียง 433Mbps คาดว่าคอมเครื่องนี้เป็นคอขวดใหญ่ในการทดสอบก่อนหน้า แต่ขณะเดียวกันก็เป็นตัวแทนอุปกรณ์ 1x1 ที่เราพบได้ทั่วไป


          ครั้งนี้ ผมลดจำนวนอุปกรณ์เหลือเพียงสามชิ้น แยกคลื่นตามเดิมคือ Acer อยู่ band 2 และอีกสองชิ้นอยู่ band 1
          วัดความเร็วด้วย iperf2 ระยะเวลา 30 วินาที โดยให้ MSI ส่งข้อมูลไปที่ Acer และ Acer ส่งข้อมูลไปหา MiPad
          ทดสอบสองแบบคือส่งข้อมูลทีละเครื่องและสองเครื่องพร้อมกัน


          เห็นได้ว่าเมื่อมีอุปกรณ์หลายเครื่องดึงโหลดพร้อมกัน ประโยชน์จากการมี 5GHz สองคลื่นของ Asus แสดงออกมาได้ชัดเจนมากโดยได้ความเร็วรวมกว่า Xclaim เกือบสองเท่า

          จุดเด่นของเราเตอร์ตัวนี้อีกสองจุดคือเสา 4x4 และ 1024-QAM เนื่องจากเท่าที่ทราบ อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานนี้มีแค่ Asus RT-AC5300 ตัวนี้, Asus RT-AC88u และ Netgear R8500 เท่านั้น ผมไม่มีอุปกรณ์อื่นร่วมทดสอบ แต่ SmallNetBuilder มีผลทดสอบโดยเชื่อม RT-AC5300 เข้ากับ RT-AC88u สามารถเยี่ยมชมเพื่อดูความเร็วได้

          Comment


          • #6
            บทสรุป

            บทสรุป

            ด้วยตัวเลขบนกล่องที่น่าเหลือเชื่อ ขนาดและความเท่ของดีไซน์ ผู้ที่ต้องการเราเตอร์ที่ "ดีที่สุด" และ "เผื่ออนาคต" จะซื้อเราเตอร์ตัวนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าราคาจะสูงหรือหาร้านขายยากก็ตาม
            จากการทดสอบที่ผ่านมาพบว่าประสิทธิภาพสูงจริง แต่ความสามารถหลาย ๆ อย่างอาจไม่คุ้มราคาที่จ่ายไป เช่นหากผู้ใช้ไม่ได้เล่นเกมที่รองรับ WTFast ที่อยู่บนเราเตอร์อาจไม่ถูกใช้งาน
            ในด้านประสิทธิภาพไร้สาย อุปกรณ์ 802.11ac เสา 1x1 หรือ 2x2 ที่เราพอเห็นกันเป็นประจำจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากอีกสองสตรีมรับ/ส่งที่มีเพิ่มขึ้นมาเลย
            "NitroQAM" ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Broadcom ที่ใช้การ modulate นอกเหนือจากมาตรฐาน 802.11AC ก็ยังไม่ค่อยมีอุปกรณ์ที่รองรับ คนส่วนใหญ่จะไม่ได้รับประโยชน์จากส่วนนี้เช่นกัน
            เฟิร์มแวร์สำหรับ MU-MIMO ยังคงไม่เห็นวี่แววแม้ว่าจะเลยกำหนดปล่อยเบต้ามาสามเดือนแล้ว [อัปเดต: เฟิร์มแวร์เบต้าสำหรับ MU-MIMO ออกให้ลองทดสอบเมื่อวันที่ 23 ที่ผ่านมา อุปกรณ์ client ใหม่ ๆ ที่รองรับ MU-MIMO จะได้รับประโยชน์จากฟังก์ชันนี้] สุดท้ายคลื่น 5GHz 2 คลื่นจะไม่ช่วยเพิ่มความเร็วเท่าไหร่หากคุณไม่มีอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้นดึงโหลดเครือข่ายพร้อมกัน

            สำหรับคนทั่วไป ผมแนะนำให้เก็บเงินไว้และซื้อรุ่นอื่นที่พอดีต่อการใช้งาน หรือข้ามไปรอดูรุ่นต่อไป โดยเฉพาะถ้าคุณมีอุปกรณ์ 802.11AC อยู่แล้ว


            Gallery
            สามารถชมรูปภาพได้ที่ https://flic.kr/s/aHsktDvPHs
            Last edited by win32.exe; 29 Mar 2016, 07:39:07.

            Comment


            • #7
              สนุกมากขอบคุณครับ
              อยากได้ตัวนี้แต่แพงเหลือเกิน

              Comment


              • #8
                ดูแล้วถือว่าทำได้ดีมาก แต่ยังไม่คุ้มค่ากับการนำมาใช้เท่าไหร่ ผมยังใช้ rt-n10 ตัวเก่าอยู่เลย T T

                Comment


                • #9
                  คอยเน็ต 500/100 เมก ราคา 1200/เดือน เจอกัน เอามาตอนนี้ไช้ไม่หมด

                  Comment

                  Working...
                  X