Announcement

Collapse
No announcement yet.

Review : คีย์บอร์ดที่ว่ากันว่าสัมผัสการพิมพ์เทพที่สุดในโลก CM Storm Novatouch

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Review : คีย์บอร์ดที่ว่ากันว่าสัมผัสการพิมพ์เทพที่สุดในโลก CM Storm Novatouch

    รอบนี้มี 2 แบบนะครับ แบบวีดีโอรีวิว อันนี้



    http://www.youtube.com/watch?v=EshYMvfCU_8




    และแบบตัวอักษรดั้งเดิมอันนี้ครับ



    สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิว Keyboard ที่ต่างประเทศว่ากันว่าสัมผัสการพิมพ์ของ Switch ชนิดนี้เทพที่สุด และพิมพ์มันที่สุดครับผม


    ซึ่งก็คือ Topre Switch หรือ Hybrid Capasitive Switch นั่นเองครับ


    โดย Switch พวกนี้มีอยู่ใน Keyboard ไม่กี่รุ่น บนโลก และหนึ่งในนั้นคือ CM Storm Novatouch ที่ผมจะเอามารีวิวให้ชมกันในวันนี้นั่นเองครับผม



    มาชมภาพของเจ้ายรากันก่อนครับผม





    ดูจากภาพนอกจะเหมือนกับ Keyboard บ้านๆ หน้าตา เรียบๆ ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วนั้นเจ้านี่มีงานประกอบและวัสดุที่ดีมากๆ สมกับที่ CM โม้ไว้ว่า build to impress หรือสร้างมาเพื่อสร้างความประทับใจ ซึ่งผมว่า ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใดครับผม แกะออกมาปุ๊ป วัสดุ งานประกอบ และสัมผัสต่างๆ ประทับใจจริงๆ ครับผม
    Last edited by Prime Time; 23 Sep 2014, 12:18:29.

  • #2








    เมื่อเปิดกล่อง (ที่มี Magnetic lock หรือล้อคแบบแม่เหล็กอย่างดี เปิดปิดสะดวกมากทำออกมาให้เอาเข้าเอาออกไปเก็บได้อย่างดี) ตัวกล่องนั้นไม่เหมือนกล่อง Keyboard บ้านๆ ทั่วไปครับผม เหมือนกล่องนาฬิกาดีๆ บางยี่ห้อมากกว่าครับผม ข้างในบุมาอย่างดี เรียกได้ว่าเห็นกล่องก็รู้แล้วว่ามันแพงมาก และเป็นสินค้าระดับ flagship ของ Brand จริงๆ ครับผม


    เอ้า โม้มากไป เอาเนื้อๆ บ้าง เปิดกล่องออกมาจะมี

    1. Keyboard Novatouch

    2. สายถักอย่างดี หัวเป็น Gold plated หัวจะไม่ดำเวลาผ่านไปนานๆ เหมือนสายทั่วไปครับ นอกจากนั้นตัวสายแข็งแรงและเป็นสายถักที่สวยงามจริงๆ แต่ไม่หนาเกินไป พกง่าย พับง่ายดีครับ

    3. O-ring สำหรับรองใต้ปุ่มเพื่อลดเสียงและเปลี่ยนสัมผัสการพิมพ์เป็นแบบที่ท่านชอบได้อีกด้วยครับ

    4. คู่มือเล่มเล็กๆ

    5. แผ่นปิดกันฝุ่น/กันกระแทกด้านบน เวลาเปิดลงไปแล้วจะเสมอกันหมดทั้งกล่อง ดูสวยงามดีครับ

    Comment


    • #3









      จากนั้นมาดูตัว Keyboard ครับ วัสดุมันดีมากๆ จริงๆ รวมทั้งงานประกอบด้วย จับแล้วรู้ทันทีว่าแพงกว่าคอมบางเครื่องอีกครับผม

      เป็น ruberize อย่างดี(มาก) ซึ่งให้สัมผัสที่ Premium สุดๆ บอกไม่ถูกครับ เอาไว้ลองเองจะทราบเลยว่าพวก Keyboard ที่เคยๆ จับ เคยๆ ใช้มา อย่าง Ducky, Filco หรืออื่นๆ นั้นกลายเป็นของเด็กเล่นไปเลยทีเดียวครับ

      เพราะเจ้า Novatouch ตัวนี้ Build มาเทพจริงๆ อันนี้ขอชมครับ (แต่ก็อย่างว่าครับ มันแพงมาก)

      รูปทรงจะเป็นแบบเรียบๆ ตามสไตล์ของหรูหรา แบบผู้ใหญ่แหละครับ ไม่ใช่แบบเด็กๆ อันนี้เหมาะจะวางบนโต๊ะทำงานดีๆ ได้ทุกแบบเพราะความเรียบหรูของมันทำให้เข้ากับโต๊ะส่วนมากได้ง่ายมากๆ และดูดีมากๆ ไปพร้อมๆ กัน


      ซ้าย ขวา หน้า หลัง ก็ตามภาพเลยครับ มันคือ Keyboard ครับ 55


      อ้อเกือบลืม มันปรับสูงต่ำได้ด้วยนะครับผม มีขาตั้งด้านหลังเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป ต่างตรงขาตั้งมันหนามาก เป็นยางอย่างดี ไม่มีกระดุกกระดิก เหมือนยี่ห้อบ้านๆ แน่นอนครับ

      Comment


      • #4





        มาดูสิ่งสำคัญจริงๆ ของเจ้า Novatouch ตัวนี้ดีกว่าครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดทีทำให้เจ้านี่แตกต่างจริงๆ เลยก็คือ แต่นแต๊น สิ่งนี้ครับผม


        "Hybrid Capasitive Switch" หรือ Topre switch อันโด่งดังนั่นเองครับผม



        ของ Rare นะครับผม หายากมาก และ ดีมากจริงๆ สมคำร่ำรือครับ มันคือหนึ่งในทีสุดของวงการคีย์บอร์ดครับ

        เอาว่าใน Forum keyboard หรือบรรดาคนเล่น Keyboard ที่หลงไหลในความ Perfect นั้น เห็นแล้วเหมือนเจอ Ferrari, Lamborghini เลยทีเดียวครับ มองกันตาเป็นมันเลยทีเดียวครับผม



        มันแรร์เพราะมันผลิตมาน้อยมากๆ หายากมากๆ มีไม่กี่รุ่นในโลกที่เป็นแบบนี้ครับผม และเป็นรุ่นที่คนไฝ่ฝันกันซะส่วนมากด้วยครับเช่น HKKB2 เป็นต้น



        อีกทั้งสัมผัสการพิมพ์ของมันนั้นสุดยอดสุดๆ ครับ มันไม่เหมือนอะไรเลยที่คุณเคยสัมผัสมา เพราะตัวมันแตกต่างจริงๆ ครับ แตกต่างยังไงมาดูกันครับผม


        อย่างที่หลายๆ ท่านทราบแล้วว่า

        1. Cherry switch ใน Mechanical Keyboard ทั่วไปนั้น ใช้ Spring โลหะในการเด้งปุ่มกลับไปสู้มือ และใช้ หน้าสัมผัสโลหะในการรับสัญญาณว่ากดโดนหรือยัง

        2. Rubber Dome ใน Keyboard บ้านๆ นั้นใช้ ยางในการเด้งปุ่มกลับไป ให้สัมผัสแย่มากๆ เอาเหมือนเอานิ้วไปจิ้มสิ่งปฏิกูล เท่านั้นยังไม่พอ ยางนั้นยังติดหน้าสัมผัสนำไฟฟ้าไว้ด้านใต้ เวลากดกระแทกพื้นแผงวงจรถึงจำทำงาน นำไฟฟ้าครบวงจร เป็นการส่งสัญญาณว่า เอ้า กดแล้ว


        ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างของ 2 สิ่งด้านบนนั้นคือ


        Rubber Dome นั้นไม่มีดีอะไรเลย เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน มีอยู่ 1 อย่างครับ ถูก ถูก ถูก และถูก มันเกิดมาเพื่อขายถูกๆ เท่านั้นเองครับ ประมาณว่าหิวมากกินทรายเอาสิ อยู่ท้องหายหิวเหมือนกัน


        Cherry switch ใน Mechanical Keyboard นั้นดีทุกอย่าง มีหลายสัมผัสให้เลือกใช้อีกต่างหาก ตอบสนองไวกว่าเพราะแค่กดลงไปนิดเดียว switch จะทำงานก่อนปุ่มจะ bottom out หรือลงสุด ไม่เหมือน Rubber Dome ถือว่าเป็นที่สุดของ Keyboard แล้วเช่นกันครับผม



        แต่บนโลกเรา ยังมีคนอีกกลุ่มที่ยังไม่พอใจแค่นั้น เขาอยากได้อะไรที่สุดกว่านั้น เทพกว่านั้นอีก เรื่องราคาช่างมันเหอะ ถ้ามัน Perfect ก็รีบหุบปาก ทำมาขาย แล้วเอาเงินข้าไป โรงงานทราบดังนั้นจึงจัดให้ทันที


        Torpe บริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเลคโทรนิค และระบบสวิตไฟฟ้า กลไฟ ไฟฟ้าชั้นสูงของ ญี่ปุ่น (ญี่ปุ่นจริงๆ ไม่อิงนิยายนะครับ ออกแบบ ผลิต ในญี่ปุ่นทั้งหมด) บริษัท Topre ชำนาญการผลิต switch หรือชิ้นส่วย กลไกผสมไฟฟ้า อะไรพวกนี้มากๆ มากระดับที่ว่ากันว่ารถยนต์ของญี่ปุ่นทุกคัน ต้องมีผลิตภัณท์ของบริษัท Topre นี่อยู่อย่างน้อย 1 ชิ้้น หรือสวิตในโรงงานชั้นสูง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่แกก็ทำประมาณนั้นเลย


        ทีนี้บริษัท Topre เนี่ยก็เลยอยากผลิตของมาลองขายไอคนกลุ่มดังกล่าวดู และดันออกมา Perfect เป็นที่ต้องการโครตๆ ซะด้วย ประมาณว่าถูกใจใช่เลย แพงแค่ไหนก็ซื้อได้


        แต่อีกอย่างที่คนลืมไปคือ นี่ญี่ปุ่นไงครับ และบริษัทนี้่แมร่ง Indy ด้วย ขี้เกียจทำขายเยอะ ไม่รีบอ่ะ รวยอยู่แล้ว รวยจากอย่างอื่น อันนี้กำไรน้อยก็ผลิตไปแบบเนือยๆ น้อยๆ เหมือนร้านอาหารชื่อดังในญี่ปุ่น บางแห่ง ที่คนอยากกินฉิบเผง อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไป ขายไปไม่กี่จานหมดซะละ แล้วคนไปทีหลังก็ได้แต่ ToT อด กันไปตามระเบียบ ต้องรออีกวัน หรืออีกหลายวัน (เพราะบางวันวัตถุดิบหมด - -")



        พี่แกเล่นผลิตเองในโรงงานหลักที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่จ้างจีน ไม่จ้างเวียดนาม ไม่จ้างไทย ไม่จ้างใครเลย ผลิต มันก็เลยช้า ไม่เพียงพอต่อความต้องการ กลายเป็นของหายาก ไปซะอย่างนั้น นี่ขนาดโรงงานขายไม่ใช่ถูกๆ ยังหมดเรียบ



        ดังนั้น Keyboard ที่ใช้ Topre switch หรือ Hybrid Capasitive Switch พวกนี้เลยแพงมาก และหายากมากๆ ครับ มีน้อยรุ่นในตลาดมากๆ จับกลุ่ม Niche จริงๆ เท่านั้น

        Comment


        • #5
          โม้กันมาอย่างยาวนาน กลับมาเข้าเนื้อๆ กันบ้างครับผม หลายท่านคงอยากรู้แล้วว่ามันทำงานยังไงล่ะ บอกมาสักทีอย่าเยอะ OK ครับไปชมกัน มาดูกันว่ามันแตกต่างกับ switch บ้านๆ (ทั้ง rubber dome และ cherry MX) ยังไง

          ก่อนอื่นถ้ายังไม่ทราบว่า Cherry MX swtich และ Rubber Dome บ้านๆ นั้นทำงานยังไง เชิญที่กระทู้เก่าของผมก่อนครับ มีอธิบายไว้ละเอียดมากๆ ครับ




          เจ้า Hybrid Capasitive Switch นั้นมีส่วนประกอบและหลักการทำงานแบบนี้ครับ





          จากภาพที่ผมทำไว้เป็นภาษาไทย จะเห็นเลยว่ามันพิศดาลดีจริงๆ ครับผม


          Keyboard ทั่วไปนั้น ล้วนใช้หน้าสัมผัสในการทำให้ไฟฟ้าครบวงจร เพื่อจะได้ทราบว่ากดหรือยัง โดย Mechanical ใช้หน้าสัมผัสโลหะอย่างดี และ Rubber Dome ใช้การช้อตแผงวงจรที่ PCB เวลา bottom out

          ผลคือ


          Rubber Dome นั้นจำเป็นต้องกดลงไปสุดถึงจะทำงานและ มันก็บุ๋มๆ หนืดๆ บอกไม่ถูก เพราะมันเหมือนเอานิ้วไปเคาะโต๊ะที่มียางรองไว้เท่านั้น


          Mechanical อย่าง Cherry MX นั้นรับสัมผัสได้ที่ก่อนครึ่งหรือแล้วแต่ออกแบบของระยะการกดเช่นกดลงสุดได้ 100% กดแค่ 30-40% ก็ทำงานแล้วส่งผลให้สัมผัสดีขึ้นมากๆ เพิ่มเติม นอกเหมือนจากการที่มันใช้สปริงจริงๆ



          แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Cherry MX เองแม้จะ Perfect กว่า Rubber Dome บ้านๆ ทุกอย่างแต่มันก็ยังมีข้อด้อยของมัน (แต่ก็ยังถือว่าดีกว่า rubber dome 1,000 เท่า) คือมัน ยังต้องการหน้าสัมผัสโลหะในการส่งสัญญาณ นั่งหมายถึงทุกครั้งที่เรากดจะมีหน้าสัมผัสโลหะไปสัมผัสกันอยูดี

          การที่จะออกแบบให้มี tactile ตอบสนองแบบ Brown หรือ Blue นั้นจะทำให้มันรู้สึก กุ๊กๆ ขัดอารมณ์แปลกๆ (แต่ก็ยังดีกว่า rubber dome 1,000 เท่า อีกแล้ว)


          ดังนั้น Topre Switch หรือ Hybrid Capasitive Switch นั้นจึงออกแบบมาแก้ไขจุดนี้ครับ

          Comment


          • #6
            จากที่เห็นในภาพคือ เจ้า Hybrid Capasitive Switch นั้นไม่มีอะไรที่นำไฟฟ้าเลยในตัวมัน เอ้า แล้วมันทำงานยังไงล่ะเนี่ย?


            เจ้า Hybrid Capacitive switch นั้นตามภาพครับ




            เอาภาพมาใส่อีกรอบตะกี้ใส่แล้วโม้มากไปขึ้นไปอยู่สูงไปดูยาก


            มันประกอบด้วย (ไล่จากล่างสุดขึ้นมานะครับ) ไม่นับเคสหรือกรอบคีย์บอร์ดนะครับ นับเฉพาะที่รวมกันเป็น switch

            1.แผงวงจรโลหะด้านล่างสุด ทำหน้าที่รับรู้การเปลี่ยนแปลงทาง electrostatic หรือสนามไฟฟ้าฟ้าสถิต ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยที่มันไม่ต้องมีหน้าสัมผัสทางไฟฟ้ากายภาพแบบคีย์บอร์ดอื่นๆ บนโลก มันเลยไม่ต้องเชื่อม ไม่ต้องบัดกรี มันเป็นอะไรที่แปลกแต่สุดยอดจริงๆ ครับ ไม่รู้ญี่ปุ่นคิดได้ไง

            2. สปริงโลหะทรงกรวย ทำหน้าทีเด้งดึ๋งๆ ให้ปุ่มกลับเข้าที่ให้สัมผัสที่ดีแก่ผู้ใช้ ทีนี้สปริงเนี่ยไม่เหมือนชาวบ้าน เพราะมันออกแบบมาคู่กับ cone ซิลิโคนด้านบนของมันทำงานร่วมกันประมาณนั้นเลยครับ ดังนั้นมันจะให้สัมผัสที่ unique มากๆ เรียกได้ว่าสัมผัสที่ Perfect พอดีว่างั้นเถอะครับ เพราะมันก้าวข้ามข้อจำกัดของหน้าสัมผัสของอะไรต่อมิอะไรไปหมด

            3. แผงซิลิโคนผสมอะไรสักอย่างซึ่งคงเป็นความลับทางการค้าที่ Topre ญี่ปุ่นจดลิขสิทธิ์เอาไว้ มันทำหน้าที่ 2 อย่างคือช่วยกับ spring ให้สัมผัสและ tactile ตอบสนอง ณ actuation point และ เป็น layer ที่เป็นสนามพลังงานไฟฟ้าสถิต เวลาที่มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับมันสนามไฟฟ้าจะเปลี่ยนไป ทำให้ keyboard สามารถรู้ได้ว่าเรากด โดยไม่ต้องมีหน้าสัมผัสทางกายภาพใดๆ เลย ตรงนี้เลยครับที่มาของความแตกต่างอันสุดยอดของ Swich แบบนี้

            4. แกนสวิท เหมือนของ Cherry MX แหละครับ เอาไว้รับแรงที่เรากดลงไปและเอาไว้สวม Keycaps โดยของ Novatouch ที่พิเศษตรง มันใส่กับ Keycaps ของ Cherry MX ได้ซึ่งมันมีให้เลือกเยอะมากๆ และแบบดีๆ ทั้งนั้น นี่เป็นอีกเหตุผลที่ผมเลือก Novatouch แทน Torpe keyboard ตัวอื่นๆ เพราะมันเป็นตัวเดียวในโลกที่ทำแบบนี้ กำจัดจุดอ่อนของ Topre ตัวอื่นๆ ในเรื่องนี้ได้อย่างดี

            5. Housing หรือกรอบ switch เหมือนของ Cherry MX นั่นแหละครับ แต่จากการเคาะ กระแทก กระเทาะ ดู ของ Topre อย่าง Novatouch นั้น ทั้งกรอบและแกน แข็งแรง แข็งกว่า หนากว่า และดูดีกว่า Cherry Switch บ้านๆ มาก อย่างว่าราคามันต่างกันครับ

            6. Keycaps อันนี้เป็นแบบเดียวกับของ Cherry MX เลย เปลี่ยนสลับได้สบายๆ ครับ


            สรุปคือมันคือ switch ทำงานโดยไม่มีหน้าสัมผัสทางกายภาพใดๆ เลยทำให้ไม่ต้องบัดกรีอะไรเลย เน้นตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามพลังเอา


            จากการใช้งานมาระยะนึงผมไม่มีคำพูดอะไรจะให้ switch รูปแบบนี้นอกจากคำว่า Perfect คำเดียวเท่านั้นครับผม

            Comment


            • #7
              นอกจากนั้นคอเกมโปรดฟัง เกมไหนที่ต้องใช้ไวมากๆ หรือใครเอาไปทำอะไรที่ต้องการ การตอบสนองที่สุดจี๊ด

              switch แบบนี้ตอบสนองไวกว่า cherry mx มากๆ ครับผม


              ความเร็วในการตอบสนอง เวลาเด้งกลับแล้วกดใหม่รัวๆ ติดๆ กัน

              Novatouch นั้น 5-8 มิลลิวินาที

              Cherry MX นั้น 19-25 มิลลิวินาที

              Cherry MX ที่ว่าเร็วๆ นั้น ยังช้ากว่า Novatouch ครับ


              Novatouch เร็วกว่า 3 เท่าได้ครับ


              อันนี้ผมทดลองเทสในโปรแกรมทดสอบความไวการพิมพ์ ผมลองแว๊นท์ปุ่มกดดูแบบรัวๆ มั่วๆ โหดๆ wpm เร็วกว่าหลายเท่าจริงดังที่ญี่ปุ่นโม้ ครับ




              และนอกจากความพิเศษของตัว switch เองแล้วนั้น เจ้า Novatouch เองยังเพิ่มความพิเศษเข้าไปด้วยการ Mount หรือยึด switch เข้ากับ plate เหล็กทั้งแผงก่อนหนึ่งชั้นก่อนจะยึดกับแผง PCB โลหะอีกที ทำให้ feeling มัน solid กว่า Mechanical ทั่วไปอีกด้วยครับ


              rubber dom = ยึดกับกรอบพลาสติคบ้าง ยึดกับ PCB บางๆ เท่านั้นบ้าง

              Mechanical ทั่วไป = ยึดกับแผ่นเหล็กกล้าทั้งแผ่นทั้งคีย์บอร์ดก่อน 1 ชั้น และค่อยเชื่อมกับ PCB (แค่นี้ก็ทนมากตามวีดีโอในกระทู้เก่าครับ รถทับไม่พัง รถถัง (รถถังจริงๆ ) ทับไม่เจ๊ง)

              Novatouch = ยึดกับแผ่นเหล็กกล้าก่อน 1 ชั้นแบบเดียวกับ Mechanial และวางบน PCB โลหะอีกที จะทนขนาดไหนจินตนาการไม่ออก แต่ที่แน่ๆ สัมผัสเวลากดใช้งาน Solid กว่าจริงๆ แบบเห็นได้ชัดครับผม


              นี่ถ้า CM Storm เอามาให้ผมเอาไปลองทับสักอัน ผมจะจ้างสิบล้อมาทับโชว์ให้สักรอบครับ หรือจะเอาไปให้ล้อ 747 ลองทับเป็นบุญคีย์บอร์ดดูสักที แล้วจะทำคลิปให้ ใครรู้จักกับสำนักงานใหญ๋ CM ลองบอกเขาให้ทีครับ 555





              จบเรื่อง Hybrid Capasitive Switch ครับ

              Comment


              • #8
                กลับมาเรื่อง Novatouch เพียวๆ กันต่อ


                ทำไมผมถึงเลือก Novatouch แทนที่จะเป็น HKKB2, Real Force, หรือ Type heaven นั้น เพราะอะไรมาชมกันครับ





                1. ตามภาพครับผม เพราะ Novatouch เป็น Topre switch ตัวเดียวในท้องตลาดในโลก ณ วันนี้ที่ใส่ Keycaps ของ Cherry MX ได้และ Keycaps ของ Cherry MX นั้นมีให้เลือกเยอะมาก ดีๆ ทั้งนั้น รวมทั้งใช้ร่วมกับ Keyboard อื่นๆ ของผมได้อีกด้วย เลยเลือกอันนี้แหละ


                2. มันมีปุ่ม lock Windows key แม้ผมจะไม่ค่อยได้เล่นเกมส์นัก แต่วันไหนผมเเกิดอยากเล่นขึ้นมา มันก็ช่วยได้


                3. มันมี N-Key rollover แบบ Full กดได้ทุกปุ่มพร้อมกัน อันนี้เหตุผลเดียวกับด้านบน


                4. มันมี Shortcut สำหรับ Media key


                5. มันถอดสายได้ อันนี้เหมือน HKKB2 แต่เจ้านั่นราคาประมาณ 10,000 บาทและอื่นๆ ด้อยกว่า




                6. เจ้า Novatouch นั้นมี Function ปรับ Repeat rate ได้


                Repeat rate คือ อะไร ผมอธิบายดังนี้ครับ


                สมมุตินะครับ ปกติคีย์บอร์ดทั่วไป สมมุติผมกด

                S ทิ้งไว้ ค้างไว้ ใน 1 วินาที บนจอผมจะได้

                SSS ได้ S สามตัว


                แต่สำหรับ Novatouch นั้นมันปรับได้ ตั้งแต่ ปกติ 2 เท่า 4 เท่า 8 เท่า

                ดังนั้นสมมุติผมตั้ง 8 เท่า

                กด S ทิ้งไว้ ค้างไว้ 1 วินาที เท่ากัน บนจอผมจะได้

                SSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSSS ได้ S ยี่สิบสี่ตัว



                ประมาณนั้นครับผม โดยเจ้า Novatouch นั้นกดปรับได้ตั้งแต่ ปกติ / 2 เท่า / 4 เท่า / 8 เท่า ครับ



                7. ราคามันไม่แพงเท่าตัวอื่นๆ ครับผม HKKB หรือตัวอื่นๆ ที่จะมี Function และงานประกอบแบบมันนั้น หาไม่ได้ครับ มีแต่ Function น้อยกว่าเท่านั้น ราคาก็ปาไปเฉียดหมื่นหรือเกินหมื่น

                แต่เจ้า Novatouch นั้นราคาที่สิงคโปรอยู่ 7,xxx เท่านั้นครับผม ถือว่าถูกมากๆ สำหรับ Topre switch และสิ่งที่มันให้มา บอกได้เลยว่าคุณจะไม่เสียดายแม้แต่บาทเดียว ต่อให้มันขายแพงกว่านี้ผมก็ซื้อ



                8. ฝรั่งมังค่า รอจะซื้อมันมานานมากๆ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ข่าวว่าจะขาย ไม่ได้ขายสักที เมื่อกลางปีมีลิ้งมาให้กดสั่งซื้อได้ ทุกคนแย่งกันกด แต่ปรากฏว่าไม่มีใครได้ไป โดน cancel order ทั้งหมด คงเพราะผลิตไม่ได้ทันเนื่องจาก switch มีจำกัดมากๆ ครับ ตอนนี้มีอยู่ไม่กี่ตัวในท้องตลาด อันนี้ผมแนะนำเลย ใครอยากได้พอมันออกมาก็รีบๆ ซื้อกันครับ เพราะไม่รู้จะมีออกมาอีกไหม อาจจะไม่มีมาอีกนานเลย และ rare ต่อไปครับ




                อันนี้คือเหตุผลที่ผมเลือกมันครับ

                Comment


                • #9
                  ทราบเหตุผลแล้ว มาดูการใช้งานจริงดีกว่าครับผม




                  ในการใช้งานจริงนั้น สัมผัสของมันเยี่ยมยอดมากๆ ครับ ผมพิมพ์ได้อย่างมีความสุขขึ้นมาก และไวขึ้นด้วย ผิดน้อยลง ออกแบบมาได้ฉลาดจริงๆ


                  สัมผัสในการกดของมันนั้น unique มากๆ ครับ ผมเองก็บอกไม่ถูก


                  ฝรั่งบอกคนอธิบายไว้แบบนี้ครับ


                  เอานิ้วจิ้ม rubber dome เหมือนเอานิ้วจิ้ม ... ปฏิกูลอะไรสักอย่าง หรือของเสียอะไรสักอย่าง หนืดๆ หยะแหยง

                  เอานิ้วจิ้ว Mechanical switch เหมือนเอานิ้วไปเต้นรำบน spring อย่างดี เหมือนกระโดดโลดเต้นบนเตียงชั้นดี มีความสุข และบันเทิงในการพิมพ์ รวมทั้งประสิทธิภาพก็ดีกว่ามาก


                  แต่การเอานิ้มจิ้ม Hybrid Capasitive switch นั้นเหมือนเอานิ้วไปกดบนหน้าอกสาวๆ ที่ยังเต่งตึงก็ไม่ปาน บันเทิงประมาณนั้นเลยครับ




                  สำหรับผม ผมเองเห็นด้วยนะครับ สัมผัสของมัน unique จริงและเป็นด้านที่ดีมากๆ ด้วย ถ้าคุณได้ลองใช้มันสัก 2 วันขึ้นไป จะกลับไปกด Mechanical ปกติแล้วค่อนข้างรำคาญใจเลยทีเดียวครับ


                  เพราะสัมผัสของ Novatouch นั้นเยี่ยมจริงๆ คราวก่อนผม pre review ไว้ในพันทิพ มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งไปซื้อมาจากสิงคโปร ติดใจเหมือนกันครับ เหมือนพวกฝรั่งทั้งหลายที่ติดใจทั้งนั้นเช่นกันครับผม




                  และสายที่ถอดได้ รวมทั้งเป็นสายถักที่พับได้ง่ายของมันนั้น ก็สะดวกจะพกออกไปทำงานด้วยได้ครับ เพราะไม่ได้เพิ่มภาระให้กระเป๋า Notebook สักเท่าไหร่ครับ



                  อีกทั้งการที่มันแถมที่ดึงปุ่มอย่างดี และ O-ring มาให้ด้วยนั้นก็ได้ใจผมเป็นอย่างมากครับ



                  สรุปแล้วส่วนตัว เจ้า Novatouch ได้ใจผมไปเต็มๆ ครับผม ติดใจมากๆ ไม่เสียดายแม้แต่บาทเดียว



                  เพื่อนๆ ท่านใดที่อยากได้รับประสบการณ์การพิมพ์ชั้นยอด สัมผัสชั้นยอด ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลกแบบหนึ่งต้องไม่พลาดจริงๆ ครับผม



                  วันนี้ขอลาไปแต่เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ




                  พบกับรีวิวแบบ video เพิ่มเติมได้เร็วๆ นี้ครับผม


                  ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาติดตามครับ สวัสดีครับ




                  ลืมเลยครับผม ผมขอมาเพิ่มเติม

                  มาสรุปข้อดี ข้อเสีย และสิ่งที่ควรปรับปรุงกันนะครับ


                  ข้อดี

                  1. สัมผัสการพิมพ์สุดยอดน่าจะเรียกได้ที่ว่าที่สุดในโลกแล้วครับ

                  2. และด้วยความที่มันขายสัมผัสการพิมพ์เป็นหลัก Novatouch ได้รับการ tune น้ำหนักของปุ่มให้เป็น 45g เท่ากันทุกปุ่ม เพิ่มความบันเทิงในการกดได้เป็นอย่างดี และล้านิ้วน้อยด้วยครับผม

                  (ใน Mechanical ทั่วไป ทั้ง Cherry และ Topre หรือจะรวมถึง Rubber Dome นั้นส่วนมากไม่มีการจูนน้ำหนักของปุ่มให้เท่ากัน แบบนี้ครับ มีเฉพาะบางรุ่นเท่านั้น ดังนั้นในบางปุ่ม โดยเฉพาะปุ่มทรงแปลกๆ อาจจะได้น้ำหนักแตกต่างไปครับ)

                  3. งานประกอบและวัสดุ ดีเยี่ยม

                  4.Package ดีเยี่ยม กล่องสุดยอด ระดับเอาไว้สะสมได้เลย

                  5. แถม O-Ring มาไว้ให้เปลี่ยนน้ำหนักการพิมพ์ (เฉพาะ O-ring ถ้าไปซื้อแยกก็หลายตังค์แล้วครับ)

                  6. สายเป็นแบบถอดได้ เป็นสายถักอย่างดี แข็งแรงและสวยงามไปพร้อมกัน อีกทั้งยังไม่แข็งเกินจนลำบากในการใช้งาน

                  7. การออกแบบโดยรวมเน้นการพิมพ์จริงๆ สบายมือมากๆ ครับผม

                  8. ความแข็งแรง ของ การออกแบบและประกอบเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแน่นอน

                  9. เป็น Topre ตัวเดียวบนโลกที่เปลี่ยน Keycaps ของ Cherry ใส่ได้ ครับ

                  10. เป็น Keyboard ที่น่าจะตอบสนองได้ไวที่สุดในโลกแล้วครับ เท่าที่ผมลองรัวปุ่มกับโปรแกรมวัด wpm ดูครับ



                  ข้อเสีย

                  1. ไม่มีไฟ indicator ใดๆ เลยทั้ง Caps Lock หรืออื่นๆ ควรจะมีมาให้นะครับผม อย่างน้อย

                  2. น่าจะแถม accessories มามากกว่านี้สักหน่อย เช่น Key cap อีกสักชุดก็ดีครับผม

                  3. อันนี้ไม่เชิงข้อเสีย เพราะมีคนชอบทั้งสองแบบ แต่จริงๆ น่าจะทำแบบ Full Size ออกมาด้วย เพราะหลายคนอยากได้ แต่ซื้อไม่ได้เพราะไม่มี numpad ที่เขาต้องใช้ในงานประจำวันครับ เช่น นักบัญชี หรืออื่นๆ เป็นต้น

                  4. หาซื้อยาก

                  5. น่าจะมีแบบมีไฟมาให้เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนชอบ backlight keyboard ครับ



                  คำแนะนำส่วนตัว

                  ถ้าท่านเน้นเรื่องสัมผัสที่ดีเยี่ยมในการพิมพ์ และความสุนทรีในการใช้งาน ซื้อได้เลยครับผม รับรองไม่ผิดหวัง ถ้าเงินไม่ใช่ปัญหาครับผม

                  แต่ถ้างบยังเป็นปัญหาแล้ว Cherry MX นั้นก็เทพเช่นกันครับ แค่รองๆ ลงไปแต่ก็ถือว่าดีมากๆ แล้วเช่นกันครับ
                  Last edited by Prime Time; 26 Sep 2014, 19:04:51.

                  Comment


                  • #10
                    แบบนี้มันก็พ่วงข้อเสียของแป้นยาง คืออายุการใช้งานสั้นมาด้วยสิะครับ
                    อีกอย่างผิว rubberized นี่ใช้ไปนานๆ มันจะไม่เหนียวเหรอครับ ผมเคยใช้มาทั้งจอย เมาส์ เลยปีนึงก็เหนียวกันหมด ส่วนตัวเลยเป็นคนแอนตี้ rubberized เป็นพิเศษ

                    ไม่รู้สิ สำหรับผม แค่สัมผัสในการพิมพ์อย่างเดียวมันไม่ดึงดูดพอให้จ่ายเพิ่มขนาดนี้นะ

                    Comment


                    • #11
                      เข้ามาดูว่าแยกกระทู้ทำไม -.-

                      Comment


                      • #12
                        เครมไว้ว่าทนไม่แพ้ Cherry MX ครับ ท่าน zeratul111 เพราะว่าตัวยางทำหน้าที่เป็น ตัว สร้างสนามไฟฟ้าสถิตเป็นหลัก และไม่ต้องไปกระแทก หรือ สัมผัสกับอะไรแบบ rubber dome ทั่วไปครับ และมันไม่ใช่ยางแบบ rubber dome ทั่วไปด้วยครับท่าน

                        rubberized นั้นมีหลายแบบครับท่าน ที่ใช้ในวัสดุดีๆ นี่หลายปียังไม่มีเพี้ยนครับผม ขนาด mouse ตัวเก่าผมใช้มาหลายปี โหดมากๆ ยังสมบูรณ์ดีครับผม ตามราคาครับ ไม่ควรเอา rubberized ถูกๆ มาตัดสินตัวแพงๆ ครับท่าน ต่างกันมากจริงๆ ครับ

                        ในการใช้งานจริง ในต่างประเทศคุยกันว่าแจ่มกว่า Cherry MX อีกครับเรื่องความทน เพราะน้ำหกใส่ เอาไปสะบัดทำงานต่อได้ไม่มีหลอน Cherry นี่แล้วแต่ดวง แล้วก็อีกพวกคือคนสูบบุหรี่จัดขี้บุหรี่ตกลงไปใน keyboard เจ้านี่ก็ไม่มีปัญหาเช่นกันครับ ว่ากันว่าแบบนั้น แต่สำหรับผมเองยังไม่เคยลองครับท่าน


                        อย่างไรก็ขอบคุณที่แวะมาแชร์ประสบการณ์ด้วยครับผม จริงๆ สัมผัสการพิมพ์และงานประกอบของมันนี่เทพมากๆ จริงๆ นะครับ

                        และสัมผัสการพิมพ์ของ Topre นี่อย่าว่าแต่เจ้า Novatouch เลยครับ พวก RealForce หรืออื่นๆ ที่บ้านๆ กว่านี้ function น้อยกว่านี้ แพงกว่านี้ คนยังยอมจ่ายเพื่อสัมผัสเลยครับผม แต่เจ้านี่ option มาเต็มเลย แถมยัง build มาดีมากๆ อีกครับ ผมว่าคุ้มนะครับผม


                        เหมือนกับที่เรายอมจ่ายเพิ่มเพื่อ Mechanical แทนที่จะเป็น Rubber Dome นั่นเลยครับผม สำหรับ Topre นั้นผมอยากให้ลองเปิดใจกับมันดูสักนิดครับ เหมือนใน forum เมืองนอกคนไม่เคยใช้ ไม่เคยลองจริงๆ อาจจะ anti พอได้ลองสักที สักพัก (ใช้เวลาปรับตัวสักนิด) แต่ละคนมักจะกลับลำมาหลงรักมัน ไม่เสียดายเงินกันเลยนะครับ ส่วนมากจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ ^ ^




                        ท่าน XsoeIIsJ ตัวนี้ผมไม่ได้เอาไป Group test กับกระทู้เดิมครับท่าน เพราะรายละเอียดปลีกย่อยของตัวมันเองค่อนข้างเยอะเลยแยกมาครับ จะได้ไม่งงด้วยครับผม หรืออย่าง Corsair ก็แยกไปอีกเพราะไม่ได้ group พร้อมกัน ไม่อยากเอามารวมกันครับผม

                        Comment


                        • #13
                          ยังไงปีหน้า รบกวนท่าน Prime Time มาแจ้งด้วยนะครับว่าผิวมันยังดีอยู่ไหม (ไม่ได้กวนนะ อยากรู้จริงๆ)
                          ผมเคยใช้เมาส์ steelseries xai แพงสุดของยี่ห้อนี้แล้ว ณ ตอนนั้น ผ่านไปปีนึงเหนียวจนจับไม่ได้เลยแฮะ ตอนซื้อใหม่ๆ ผมก็ตั้งกระทู้ชมเหมือนกันว่าผิวสัมผัสรู้สึกดี

                          Comment


                          • #14
                            ได้ครับผม เดี๋ยวยังไงผมมาอัพเดตให้อีกครั้งครับผม แต่จริงๆ นะครับ ยี่ห้อ SteelSeries งานประกอบไม่ค่อยดีอยุ่แล้วครับ ดูกระทู้ล่างๆ ได้เลยครับผม งานแย่มากๆ จริงๆ ครับ

                            M950 กับ G700 และ G700s ของผมหลายปีแล้วใช้โหดๆ ผิวยางที่ rubberized ไว้ของมันไม่มีปัญหาใดๆ เลยครับผม ยังนิ้งๆ สวยๆ อยู่เลยครับผม

                            Comment


                            • #15
                              ขอบคุณสำหรับ review ครับ น้ำลายไหลเลย ซื้อได้ที่ใดบ้างเนี่ย 555

                              Comment

                              Working...
                              X