สวัสดีครับ มาพบกับผมอีกรอบ คราวนี้มารีวิว Tablet เหมือนเดิม เนื่องจาก >>อันเก่า<< ส่งเคลม ไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่รอช้า มาพบกันเลยกับ
Asus MeMO Pad 7 ME176CX
เสปก
CPU: Intel? Atom? Z3745 Quad-Core, 1.86 GHz >> Intel Atom Bay Trail เป็น Quad Core แท้ ที่เหลืออ่านได้จาก>>กระทู้เก่า<<
GPU: Intel HD Graphics แบบเดียวกับ Ivy Bridge แต่ลดเสปก
จอ: 7" IPS 1280x800 (16:10) LED backlight สัมผัส 10 จุด
Ram: 1GB
Storage: 16GB eMMC รองรับการ์ด MicroSD ถึง 64GB
ระบุพิกัด: GPS & GLONASS
การเชื่อมต่อ: WLAN802.11 b/g/n, Bluetooth V4.0, รองรับ Miracast (wireless streaming)
กล้อง หน้า: 0.3 MP, หลัง 2 MP ไม่มีแฟลช ถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 720p ตรงนี้คือข้อแตกต่างจากรหัส ME176C ถ้าเป็น C กล้องจะเป็นหน้า 2 ล้าน หลัง 5 ล้าน วีดีโอ 1080p
ระบบปฏิบัติการณ์: Android 4.4.2 Kitkat ยังไม่มีคอนเฟิร์มว่าจะอัพเดตไหม แต่นี่เป็น Asus ดังนั้นคงมีอัพเดตให้อีกอย่างน้อยก็ 1 เวอร์ชั่นล่ะครับ
ราคา ร้านจัด Flash Sale ได้มาที่ 99 ยูโร ตีเป็นเงินไทยวันที่รูดการ์ดก็ประมาณ 4,200 บาทครับ
ราคาปกติยู่ที่ 159 ยูโร หรือ 6,800 บาท แต่ถ้าเข้าไทยคงใช้อัตราแลกเปลี่ยนกับราคาอเมริกา 150 USD หรือ 4,900 บาท... เอาเป็นว่ามันเข้าหรือยังเนี่ย ถ้าเข้าแล้วราคาต่างจากที่ผมคิดไว้คงหน้าแหก 555+
ดูเสปกแล้วมาดูรูปกันบ้าง
พอดีแกะลองที่ร้านแล้วลองเลย ตรงนี้ภาพไม่ค่อยชัดเน้อ
กล่องด้านหน้า
ด้านหลัง
ตัวเครื่องห่อพลาสติกมา ส่วนใบโฆษณาที่ปิดจอ แกะออกปั๊ปก็เป็นจอเลย ไม่ได้เป็นพลาสติกใสปั๊มตราแบบโทรศัพท์โมโตโรล่า (ที่เอาทิชชู่ชุบแอลกอฮอล์เช็ดออกแล้วใช้เป็นฟีล์มกันรอยได้ ไม่ต้องซื้อ 555+)
ในกล่องมีทั้งสาย Micro USB และแท่นชาร์จมาให้ด้วย
ตัวเครื่องด้านหน้า ถึงจะโฆษณามาว่าเคลือบกันรอยนิ้วมือ แต่ความเป็นจริงแล้วตั้งแต่ใช้มา นอกจากจอจะเป็นรอยนิ้วมือมากที่สุดแล้ว ยังสะท้อนแสงสุด ๆ แทบใช้เป็นกระจกได้เลยครับ (น่าจะมาจากราคาที่ถูกเลยไม่ได้ทำพวก polarizer หรือตัดแสงมาให้มากมายนัก)
ด้านล่างไม่มีอะไรเลย ดังนั้นตั้งได้สะดวก ไม่ต้องกลัวโดนปุ่ม
ด้านบนเป็นรูไมค์, Micro USB, รูหูฟัง ตามลำดับ
ด้านซ้ายเป็นช่องใส่ Micro SD Card
ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียงกับ Power/Stand by ตามลำดับ ซึ่งตำแหน่งนี้กดยากมาก แถมยังเรียงแบบแปลก ๆ โดยที่เรียงเอาปุ่มปรับเสียงมาไว้ก่อนปุ่มล๊อกเครื่อง ถ้าคนที่ใช้หลายเครื่อง เวลาใช้เครื่งนี้ด้วยความเคยชิน แทนที่จะกดล๊อกเครื่อง จะกลายเป็นกดเพิ่มเสียงแทน น่ารำคาญไม่น้อยทีเดียว
ด้านหลังมีกล้องนูนขึ้นมา ทำให้เวลาวางแล้วเครื่องไม่ราบกับพื้น จะเอาใส่กระเป๋าแบบมีซิปก็กลัวมันไปเกี่ยวซะเหลือเกิน ต้องโทษดีไซน์ที่พยายามให้เครื่องบางที่สุด ส่วนที่เป็นเลนส์กล้องเลยต้องยื่นออกมาแบบนี้ล่ะ
ด้านล่างมีลำโพงอยู่ เสียงดังใช้ได้ และดีพอสมควร สามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุกได้เลยครับ
เอาขนาดมาเทียบกับเครื่องอื่น ๆ เหมือนเดิม คราวนี้วางแนวนอนบ้าง ถึงจอขนาดไม่เท่ากัน แต่ 3 เครื่องนี้ความละเอียดเท่ากันหมด
เนื้อที่ที่ให้มา 16GB นั้น ใช้งานได้จริงเท่านี้ล่ะ
มาดู CPU-Z และ Benchmark กันบ้าง
เช่นเคยครับ Intel Atom Bay Trail
ตัวนี้มาพร้อมเซนเซอร์หลายอย่างเลยทีเดียว
เทสด้วย Antutu ได้แรงกว่าเครื่องก่อนหน้าหน่อย เพราะ GPU สัญญาณนาฬิกาสูงกว่า Z3735G พอสมควร
การใช้งาน
ก่อนอื่นต้องพูดถึงหน้าตา interface ของAsus เดี๋ยวนี้ก่อน คือ ZenUI ซึ่งหน้าปกติก็ไม่มีอะไรนัก เหมือน Android มาตราฐาน
แต่พอลาก settings ลงมาจะมีไอคอนเป็นดวง ๆ ให้กด ซึ่งสีเขียวคือ App จาก Asus ส่วนสีฟ้าคือเปิด-ปิดฟังก์ชั่นต่าง ๆ
จะมีอยู่ 3 อันที่ไม่คุ้นตาเท่าไหร่คือ
- Smart Saving อันนี้จะเป็นระบบควบคุมความสว่างหน้าจอให้ประหยัดแบต
- Reading Mode หน้าจอจะถูกปรับให้ออกโทนเหลือง เหมือนกระดาษถนอมสายตา
- Play To อันนี้เป็น wireless streaming ครับ
หน้าจอ Lock Screen นั้น จะลูบจากไหนก็ปลดล็อกได้ แต่ต้องลูบไกลพอสมควร ส่วนถ้าจะรัน App ที่อยู่หน้านี้ (3 ไอคอนที่เป็นกล้อง อีเมล และอินเตอร์เนต) คือแตะที่สัญลักษณ์ แล้วลากไปไหนก็ได้ มันจะเข้า App ให้เลย
มาดู App หรือส่วนเสริมที่น่าสนใจจาก Asus กันบ้างดีกว่า
อันแรกคือ Power Saver ช่วยจัดการเครื่องให้ประหยัดแบตขึ้น
สามารถดูได้ด้วยว่าแต่ละแอปกินแบตไปเท่าไหร่
มาต่อที่ Audio Wizard ซึ่งโฆษณาว่าช่วยให้เสียงดีและปรับเซอร์ราวน์ได้ทุกสถาณการณ์ แกะกล่องมาจะถูกปรับไว้ที่ Music Mode
ข้อแนะนำ ถ้าหูฟังท่านดีพอสมควร ให้ไปปรับเป็น Power Saving ซะ มันแปลว่าปิด เพราะทุกโหมดทำให้เสียงห่วยลง เบสบวม ฯลฯ ฟังแล้วน่ารำคาญเป็นที่สุด
ต่อมาคือ Splendid ถ้าคนเคยใช้จอหรือโน๊ตบุ๊ค Asus มาก่อนจะรู้ว่ามันเป็นโหมดปรับสีจอ ซึ่งกับ Tablet นี่ก็ทำได้เหมือนกันครับ ชอบสีโทนไหนก็ปรับได้เลย
มาดูกล้องกันบ้าง บอกไว้เลยว่าอย่าหวังกับกล้องของรุ่นนี้ครับ กดที่รูปดูรูปใหญ่ได้เลย
กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล ก็ไม่ได้เลวร้าย ถ่ายรูปออกมาดีทีเดียว Noise ไม่ได้ถึงขั้นน่าเกลียด สีสันก็โอเค เก็บรายละเอียดได้โอเคครับ เรียกว่ากลาง ๆ ไม่ดี แต่ก็ไม่ห่วย
กล้อง selfie 0.3 ล้านพิกเซล ถ่ายแล้วเห็นเป็นคน ไม่เน่าเหมือนของ Toshiba ตัวเก่า
อายุแบตเตอรี่ นี่คือหลังจากเปิดมาโหลดไฟล์ ซอยเกมยาวตั้งแต่เปิดเครื่อง อยู่ได้ 3 ชม.กว่า หมดไปครึ่งนึง ดังนั้นถ้าใช้งานทั่วไปก็อยู่ได้ประมาณ 9 ชม.ตามที่มันโม้ไว้นั่นล่ะ ออกจากบ้านตอนเช้า กลับมาตอนเย็นก็แบตหมดพอดี
พอร์ท USB รองรับ OTG ด้วย ดังนั้นทั้ง Flashdrive และ Keyboard, Mouse ต่าง ๆ ใช้ได้หมดครับ ลองมาเรียบร้อยแล้ว เอา Wireless ของ Logitech ที่เป็น nano receiver เชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับเมาส์ได้ด้วยตัวรับอันเดียวก็ใช้ได้ทั้งคู่
ทางด้านหน้าจอเป็น IPS ดังนั้นมุมมองแจ่มชัดทุกด้าน ไม่มีสีเปลี่ยนหรือเพี้ยนเวลาเปลี่ยนมุมมอง และด้วยความละเอียด 1280x800 นั้นเพียงพอสำหรับจอ 7 นิ้ว ไม่มีภาพเป็นเม็ด ๆ ถ้าไม่เอาหน้าไปแนบแล้วจ้อง (ถ้าจะเอาแบบไม่เห็นเป็นเม็ดแม้จะเอาหน้าไปแนบแล้วจ้องต้อง Nexus Full HD ครับ ลองาแล้ว คมกริบไม่เห็นเม็ดพิกเซลแม้จะเอาหน้านาบจอ) ข้อเสียคือตัวหน้าจอนั้นสะท้อนแสงมาก แทบจะสะท้อนทุกอย่างเลยทีเดียว และที่โม้ไว้ว่าเคลือบกันรอยนิ้วมือ มันใช้ไม่ได้จริงครับ แค่แตะก็ติดหนึบแล้ว ทางด้านแสงสว่างของหน้าจอนั้นไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ แต่ก็พอสู้แสง ใช้ตอนกลางวันในร่ม ประมาณว่านั่งในร้านกาแฟตรงชาน(ที่มีร่ม)แล้วอ่านหนังสือรู้เรื่อง แต่ไม่สว่างถึงขั้นเห็นทุกอย่างได้ชัดกลางแดด
ระบบสัมผัส 10 จุดใช้งานได้แม่นยำ ลากนิ้วผ่านกันได้ไม่มีปัญหา
ทางด้านเสียงนั้น ลำโพงทำได้ดีทีเดียว ฟังเพลงเป็นเพลง ไม่มีอู้อี้ ส่วนรูหูฟังนั้น อย่างที่บอกไปแล้วว่าให้ไปเอาโปรแกรมแต่งเสียงออกนั่นล่ะครับ ที่สำคัญคือเสียงจากรู 3.5มิลนั้นเบาพอสมควรทีเดียว อาจจะไม่สะใจคนที่ฟังเพลงดัง ๆ นัก
Wi-Fi, Bluetooth, GPS รับสัญญาณได้ดี ไม่มีปัญหาสัญญาณขาด หรืออยู่ ๆ ก็ต่อไม่ติด
ความเข้ากันได้และการใช้งานต่าง ๆ นั้น ตั้งแต่ลองมายังไม่มีแอปไหนใช้ไม่ได้ครับ แต่ผมไม่ใช่พวกลงสารพัด ดังนั้นถ้ามีแอปไหนอยากให้ลองก็บอกมาได้เลย
เครื่องแรงพอจะดูหนัง HD 4K ได้โดยไม่กระตุก ไฟล์ HD1080p 60FPS ก็เล่นได้ไม่มีปัญหา แต่เครื่องจะร้อนมากเวลาใช้งานหนัก ๆ ไม่ถึงกับร้อนจนจับไม่ได้ แต่รับประกันว่า Intel Gen นี้ร้อนกว่า Android ทุกตัวในตลาดแน่นอน
สรุปเลยดีกว่า พิมพ์มันส์มือไปนิด ยาวเลยทีเดียว
ข้อดี
- Intel Atom Bay Trail แรงสะใจ ทำได้ทุกอย่าง
- จอคมชัด มุมมองดี
- UI ใหม่ ใช้งานได้ง่ายและคล่องตัว
- สามารถปรับเฉดสีจอได้ในตัวเอง ไม่ต้องใช้ App เพิ่มเติม
ข้อเสีย
- จอสะท้อนแสงมาก
- ร้อน... โคตร ๆ !!!!
- กล้องหลังนูนขึ้นมา วางแล้วจะไปข่วนกับของอย่างอื่นเป็นทำให้รอยได้ง่าย
- ตำแหน่งปุ่ม power/standby, volume rocker เยื้องไปทางด้านหลัง และสลับกัน ทำให้สับสนเวลากด (แต่ถ้าใช้อยู่เครื่องเดียวก็ไม่น่ามีปัญหา)
โดยรวมแล้วเทียบกับราคาที่ได้มา ไม่มีตัวไหนแรงและใช้งานได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากครับ ถ้าใครเดินผ่านร้านแล้วมีขายก็ลองไปลูบคลำดูได้ว่าถูกใจไหม เพราะตั้งแต่ใช้มานี่เป็น tablet 7" ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งเลย
ก่อนจากกันอยากบอกว่าผมไม่ค่อยเล่น App ต่าง ๆ มากมายเท่าไหร่นัก ถ้าใครอยากรู้ว่า App ไหนเล่นกับเครื่องนี้ได้หรือไม่ได้ เสนอชื่อมาเลยครับ ผมจะไปหามาลองให้ (หรือส่ง apk มาให้หลังไมค์ก็โอเคนะ)
สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
Edit:
สำหรับคนที่เจอปัญหาแบตหมดเร็วทั้ง ๆ ที่ standby อยู่ เพราะมันติด Wakelock ครับ ขอบคุณวิธีแก้จากท่าน uanime ด้วยครับ
ปิดท้าย... แรง 3 เท่า!!!
ไม่รอช้า มาพบกันเลยกับ
Asus MeMO Pad 7 ME176CX
เสปก
CPU: Intel? Atom? Z3745 Quad-Core, 1.86 GHz >> Intel Atom Bay Trail เป็น Quad Core แท้ ที่เหลืออ่านได้จาก>>กระทู้เก่า<<
GPU: Intel HD Graphics แบบเดียวกับ Ivy Bridge แต่ลดเสปก
จอ: 7" IPS 1280x800 (16:10) LED backlight สัมผัส 10 จุด
Ram: 1GB
Storage: 16GB eMMC รองรับการ์ด MicroSD ถึง 64GB
ระบุพิกัด: GPS & GLONASS
การเชื่อมต่อ: WLAN802.11 b/g/n, Bluetooth V4.0, รองรับ Miracast (wireless streaming)
กล้อง หน้า: 0.3 MP, หลัง 2 MP ไม่มีแฟลช ถ่ายวีดีโอได้สูงสุด 720p ตรงนี้คือข้อแตกต่างจากรหัส ME176C ถ้าเป็น C กล้องจะเป็นหน้า 2 ล้าน หลัง 5 ล้าน วีดีโอ 1080p
ระบบปฏิบัติการณ์: Android 4.4.2 Kitkat ยังไม่มีคอนเฟิร์มว่าจะอัพเดตไหม แต่นี่เป็น Asus ดังนั้นคงมีอัพเดตให้อีกอย่างน้อยก็ 1 เวอร์ชั่นล่ะครับ
ราคา ร้านจัด Flash Sale ได้มาที่ 99 ยูโร ตีเป็นเงินไทยวันที่รูดการ์ดก็ประมาณ 4,200 บาทครับ
ราคาปกติยู่ที่ 159 ยูโร หรือ 6,800 บาท แต่ถ้าเข้าไทยคงใช้อัตราแลกเปลี่ยนกับราคาอเมริกา 150 USD หรือ 4,900 บาท... เอาเป็นว่ามันเข้าหรือยังเนี่ย ถ้าเข้าแล้วราคาต่างจากที่ผมคิดไว้คงหน้าแหก 555+
ดูเสปกแล้วมาดูรูปกันบ้าง
พอดีแกะลองที่ร้านแล้วลองเลย ตรงนี้ภาพไม่ค่อยชัดเน้อ
กล่องด้านหน้า
ด้านหลัง
ตัวเครื่องห่อพลาสติกมา ส่วนใบโฆษณาที่ปิดจอ แกะออกปั๊ปก็เป็นจอเลย ไม่ได้เป็นพลาสติกใสปั๊มตราแบบโทรศัพท์โมโตโรล่า (ที่เอาทิชชู่ชุบแอลกอฮอล์เช็ดออกแล้วใช้เป็นฟีล์มกันรอยได้ ไม่ต้องซื้อ 555+)
ในกล่องมีทั้งสาย Micro USB และแท่นชาร์จมาให้ด้วย
ตัวเครื่องด้านหน้า ถึงจะโฆษณามาว่าเคลือบกันรอยนิ้วมือ แต่ความเป็นจริงแล้วตั้งแต่ใช้มา นอกจากจอจะเป็นรอยนิ้วมือมากที่สุดแล้ว ยังสะท้อนแสงสุด ๆ แทบใช้เป็นกระจกได้เลยครับ (น่าจะมาจากราคาที่ถูกเลยไม่ได้ทำพวก polarizer หรือตัดแสงมาให้มากมายนัก)
ด้านล่างไม่มีอะไรเลย ดังนั้นตั้งได้สะดวก ไม่ต้องกลัวโดนปุ่ม
ด้านบนเป็นรูไมค์, Micro USB, รูหูฟัง ตามลำดับ
ด้านซ้ายเป็นช่องใส่ Micro SD Card
ด้านขวาเป็นปุ่มปรับเสียงกับ Power/Stand by ตามลำดับ ซึ่งตำแหน่งนี้กดยากมาก แถมยังเรียงแบบแปลก ๆ โดยที่เรียงเอาปุ่มปรับเสียงมาไว้ก่อนปุ่มล๊อกเครื่อง ถ้าคนที่ใช้หลายเครื่อง เวลาใช้เครื่งนี้ด้วยความเคยชิน แทนที่จะกดล๊อกเครื่อง จะกลายเป็นกดเพิ่มเสียงแทน น่ารำคาญไม่น้อยทีเดียว
ด้านหลังมีกล้องนูนขึ้นมา ทำให้เวลาวางแล้วเครื่องไม่ราบกับพื้น จะเอาใส่กระเป๋าแบบมีซิปก็กลัวมันไปเกี่ยวซะเหลือเกิน ต้องโทษดีไซน์ที่พยายามให้เครื่องบางที่สุด ส่วนที่เป็นเลนส์กล้องเลยต้องยื่นออกมาแบบนี้ล่ะ
ด้านล่างมีลำโพงอยู่ เสียงดังใช้ได้ และดีพอสมควร สามารถใช้เป็นนาฬิกาปลุกได้เลยครับ
เอาขนาดมาเทียบกับเครื่องอื่น ๆ เหมือนเดิม คราวนี้วางแนวนอนบ้าง ถึงจอขนาดไม่เท่ากัน แต่ 3 เครื่องนี้ความละเอียดเท่ากันหมด
เนื้อที่ที่ให้มา 16GB นั้น ใช้งานได้จริงเท่านี้ล่ะ
มาดู CPU-Z และ Benchmark กันบ้าง
เช่นเคยครับ Intel Atom Bay Trail
ตัวนี้มาพร้อมเซนเซอร์หลายอย่างเลยทีเดียว
เทสด้วย Antutu ได้แรงกว่าเครื่องก่อนหน้าหน่อย เพราะ GPU สัญญาณนาฬิกาสูงกว่า Z3735G พอสมควร
การใช้งาน
ก่อนอื่นต้องพูดถึงหน้าตา interface ของAsus เดี๋ยวนี้ก่อน คือ ZenUI ซึ่งหน้าปกติก็ไม่มีอะไรนัก เหมือน Android มาตราฐาน
แต่พอลาก settings ลงมาจะมีไอคอนเป็นดวง ๆ ให้กด ซึ่งสีเขียวคือ App จาก Asus ส่วนสีฟ้าคือเปิด-ปิดฟังก์ชั่นต่าง ๆ
จะมีอยู่ 3 อันที่ไม่คุ้นตาเท่าไหร่คือ
- Smart Saving อันนี้จะเป็นระบบควบคุมความสว่างหน้าจอให้ประหยัดแบต
- Reading Mode หน้าจอจะถูกปรับให้ออกโทนเหลือง เหมือนกระดาษถนอมสายตา
- Play To อันนี้เป็น wireless streaming ครับ
หน้าจอ Lock Screen นั้น จะลูบจากไหนก็ปลดล็อกได้ แต่ต้องลูบไกลพอสมควร ส่วนถ้าจะรัน App ที่อยู่หน้านี้ (3 ไอคอนที่เป็นกล้อง อีเมล และอินเตอร์เนต) คือแตะที่สัญลักษณ์ แล้วลากไปไหนก็ได้ มันจะเข้า App ให้เลย
มาดู App หรือส่วนเสริมที่น่าสนใจจาก Asus กันบ้างดีกว่า
อันแรกคือ Power Saver ช่วยจัดการเครื่องให้ประหยัดแบตขึ้น
สามารถดูได้ด้วยว่าแต่ละแอปกินแบตไปเท่าไหร่
มาต่อที่ Audio Wizard ซึ่งโฆษณาว่าช่วยให้เสียงดีและปรับเซอร์ราวน์ได้ทุกสถาณการณ์ แกะกล่องมาจะถูกปรับไว้ที่ Music Mode
ข้อแนะนำ ถ้าหูฟังท่านดีพอสมควร ให้ไปปรับเป็น Power Saving ซะ มันแปลว่าปิด เพราะทุกโหมดทำให้เสียงห่วยลง เบสบวม ฯลฯ ฟังแล้วน่ารำคาญเป็นที่สุด
ต่อมาคือ Splendid ถ้าคนเคยใช้จอหรือโน๊ตบุ๊ค Asus มาก่อนจะรู้ว่ามันเป็นโหมดปรับสีจอ ซึ่งกับ Tablet นี่ก็ทำได้เหมือนกันครับ ชอบสีโทนไหนก็ปรับได้เลย
มาดูกล้องกันบ้าง บอกไว้เลยว่าอย่าหวังกับกล้องของรุ่นนี้ครับ กดที่รูปดูรูปใหญ่ได้เลย
กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล ก็ไม่ได้เลวร้าย ถ่ายรูปออกมาดีทีเดียว Noise ไม่ได้ถึงขั้นน่าเกลียด สีสันก็โอเค เก็บรายละเอียดได้โอเคครับ เรียกว่ากลาง ๆ ไม่ดี แต่ก็ไม่ห่วย
กล้อง selfie 0.3 ล้านพิกเซล ถ่ายแล้วเห็นเป็นคน ไม่เน่าเหมือนของ Toshiba ตัวเก่า
อายุแบตเตอรี่ นี่คือหลังจากเปิดมาโหลดไฟล์ ซอยเกมยาวตั้งแต่เปิดเครื่อง อยู่ได้ 3 ชม.กว่า หมดไปครึ่งนึง ดังนั้นถ้าใช้งานทั่วไปก็อยู่ได้ประมาณ 9 ชม.ตามที่มันโม้ไว้นั่นล่ะ ออกจากบ้านตอนเช้า กลับมาตอนเย็นก็แบตหมดพอดี
พอร์ท USB รองรับ OTG ด้วย ดังนั้นทั้ง Flashdrive และ Keyboard, Mouse ต่าง ๆ ใช้ได้หมดครับ ลองมาเรียบร้อยแล้ว เอา Wireless ของ Logitech ที่เป็น nano receiver เชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับเมาส์ได้ด้วยตัวรับอันเดียวก็ใช้ได้ทั้งคู่
ทางด้านหน้าจอเป็น IPS ดังนั้นมุมมองแจ่มชัดทุกด้าน ไม่มีสีเปลี่ยนหรือเพี้ยนเวลาเปลี่ยนมุมมอง และด้วยความละเอียด 1280x800 นั้นเพียงพอสำหรับจอ 7 นิ้ว ไม่มีภาพเป็นเม็ด ๆ ถ้าไม่เอาหน้าไปแนบแล้วจ้อง (ถ้าจะเอาแบบไม่เห็นเป็นเม็ดแม้จะเอาหน้าไปแนบแล้วจ้องต้อง Nexus Full HD ครับ ลองาแล้ว คมกริบไม่เห็นเม็ดพิกเซลแม้จะเอาหน้านาบจอ) ข้อเสียคือตัวหน้าจอนั้นสะท้อนแสงมาก แทบจะสะท้อนทุกอย่างเลยทีเดียว และที่โม้ไว้ว่าเคลือบกันรอยนิ้วมือ มันใช้ไม่ได้จริงครับ แค่แตะก็ติดหนึบแล้ว ทางด้านแสงสว่างของหน้าจอนั้นไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ แต่ก็พอสู้แสง ใช้ตอนกลางวันในร่ม ประมาณว่านั่งในร้านกาแฟตรงชาน(ที่มีร่ม)แล้วอ่านหนังสือรู้เรื่อง แต่ไม่สว่างถึงขั้นเห็นทุกอย่างได้ชัดกลางแดด
ระบบสัมผัส 10 จุดใช้งานได้แม่นยำ ลากนิ้วผ่านกันได้ไม่มีปัญหา
ทางด้านเสียงนั้น ลำโพงทำได้ดีทีเดียว ฟังเพลงเป็นเพลง ไม่มีอู้อี้ ส่วนรูหูฟังนั้น อย่างที่บอกไปแล้วว่าให้ไปเอาโปรแกรมแต่งเสียงออกนั่นล่ะครับ ที่สำคัญคือเสียงจากรู 3.5มิลนั้นเบาพอสมควรทีเดียว อาจจะไม่สะใจคนที่ฟังเพลงดัง ๆ นัก
Wi-Fi, Bluetooth, GPS รับสัญญาณได้ดี ไม่มีปัญหาสัญญาณขาด หรืออยู่ ๆ ก็ต่อไม่ติด
ความเข้ากันได้และการใช้งานต่าง ๆ นั้น ตั้งแต่ลองมายังไม่มีแอปไหนใช้ไม่ได้ครับ แต่ผมไม่ใช่พวกลงสารพัด ดังนั้นถ้ามีแอปไหนอยากให้ลองก็บอกมาได้เลย
เครื่องแรงพอจะดูหนัง HD 4K ได้โดยไม่กระตุก ไฟล์ HD1080p 60FPS ก็เล่นได้ไม่มีปัญหา แต่เครื่องจะร้อนมากเวลาใช้งานหนัก ๆ ไม่ถึงกับร้อนจนจับไม่ได้ แต่รับประกันว่า Intel Gen นี้ร้อนกว่า Android ทุกตัวในตลาดแน่นอน
สรุปเลยดีกว่า พิมพ์มันส์มือไปนิด ยาวเลยทีเดียว
ข้อดี
- Intel Atom Bay Trail แรงสะใจ ทำได้ทุกอย่าง
- จอคมชัด มุมมองดี
- UI ใหม่ ใช้งานได้ง่ายและคล่องตัว
- สามารถปรับเฉดสีจอได้ในตัวเอง ไม่ต้องใช้ App เพิ่มเติม
ข้อเสีย
- จอสะท้อนแสงมาก
- ร้อน... โคตร ๆ !!!!
- กล้องหลังนูนขึ้นมา วางแล้วจะไปข่วนกับของอย่างอื่นเป็นทำให้รอยได้ง่าย
- ตำแหน่งปุ่ม power/standby, volume rocker เยื้องไปทางด้านหลัง และสลับกัน ทำให้สับสนเวลากด (แต่ถ้าใช้อยู่เครื่องเดียวก็ไม่น่ามีปัญหา)
โดยรวมแล้วเทียบกับราคาที่ได้มา ไม่มีตัวไหนแรงและใช้งานได้ดีเท่านี้อีกแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากครับ ถ้าใครเดินผ่านร้านแล้วมีขายก็ลองไปลูบคลำดูได้ว่าถูกใจไหม เพราะตั้งแต่ใช้มานี่เป็น tablet 7" ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งเลย
ก่อนจากกันอยากบอกว่าผมไม่ค่อยเล่น App ต่าง ๆ มากมายเท่าไหร่นัก ถ้าใครอยากรู้ว่า App ไหนเล่นกับเครื่องนี้ได้หรือไม่ได้ เสนอชื่อมาเลยครับ ผมจะไปหามาลองให้ (หรือส่ง apk มาให้หลังไมค์ก็โอเคนะ)
สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
Edit:
สำหรับคนที่เจอปัญหาแบตหมดเร็วทั้ง ๆ ที่ standby อยู่ เพราะมันติด Wakelock ครับ ขอบคุณวิธีแก้จากท่าน uanime ด้วยครับ
Originally posted by uanime
Comment