Announcement

Collapse
No announcement yet.

Review, Unboxing Razer Tiamat True 7.1 Headset

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Review, Unboxing Razer Tiamat True 7.1 Headset



    วันนี้ผมก็มีอุปกรณ์เกี่ยวกับเสียง และเกมส์ มาแกะกล่อง และรีวิว ให้เพื่อนๆได้ชมกันนะครับ
    เห็นเขาบอกว่าเป็นหูฟัง 7.1 ตัวแรกของโลก (เขานี่ใครไม่รู้นะ อ่านเจอตาม Intenet อิอิอิ)

    วัตถุประสงค์ก่อนนะครับ
    คือผมมักจะประสบปัญหาในการหาข้อมูลสินค้าหลายๆอย่าง หาไม่เจอบ้าง หาเจอก็เจอแต่ภาษาอังกฤษบ้าง (ซึ่งเป็นปัญหากับผมมาก) ซื่งบางทีฝรั่งมันก็รีวิวจากมุมมองของฝรั่ง ผมเป็นคนที่ซื้อสินค้าจากทาง อินเตอร์เน็ตบ่อยมาก และก็ซื้อของพลาดเพราะไม่มีข้อมูลที่เพียงพอบ่อยครั้ง ผมจึงจุดประกายความคิดขึ้นมาว่า (ขอยืมมาจากประธานสันติ) อยากจะลองรีวิว เป็นแนวทางแบบมุมมองไทย ให้เป็นข้อมูลหนึ่งในการตัดสินใจ การได้ดูรีวิวมากๆ ย่อมได้ข้อมูลในการตัดสินใจมากขึ้น พอมีโอกาสได้ลองอะไรใหม่ๆก็อยากจะแชร์ให้เพื่อน เป็นแนวทางในการตัดสินใจครับ และก็อยากให้เพื่อนๆที่มีอุปกรณ์อะไรแปลกหรือไม่แปลกก็ได้ มาแชร์ความรู้สึกกัน รีวิวเล็กๆน้อยๆ เพื่อคนที่กำลังตัดสินใจจะได้มีข้อมูลและแนวทางเพิ่มมากขึ้น (ลอกของเดิมมาเลย อิอิ)
    ออกตัวก่อนนะครับ ผมรีวิวตามเรื่องตามราวของผม ไม่ค่อยรู้ที่มาที่ไปของผลิตภัณท์เท่าไหร่ ประมาณว่าถ้าชอบ(สวยรูปร่างถูกใจ) หรือลดราคาความวู่วามของผมจะสูงมาก ฮ่าๆๆ แล้วเรื่องหูฟัง และระบบเสียงต่างๆผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่และอธิบายไม่ค่อยเป็น ระดับคะแนนของผมจึงเป็นความชอบส่วนตัว ชอบมากก็ให้คะแนนเยอะ ไม่ชอบก็ให้น้อย ซึ่งความชอบของแต่ละคนแตกต่างกันไป อย่างเวลาฟังเครื่องเสียงแพงๆ ผมก็ชอบนะเสียงมันเพราะดีแต่อธิบายไม่ถูก (อนุมานเอาเองว่าหูผมก็ชอบคล้ายๆคนส่วนใหญ่มั้ง) เอาเป็นว่าอ่านเป็นแนวทาง ถ้าจะตัดสินใจซื้อจริงๆ ก็ต้องลองไปฟังตัวจริงดูอีกทีแล้วกันครับ (แต่ผมว่าหาที่ให้ลองยากเหมือนกัน อย่างที่ผมซื้อมาก็ไม่ได้ลอง เห็นมีแต่ให้ลองตัวที่ขายดีๆ พวก Beat, Soul และก็มีเป็นบางรุ่นเอง)

    บทนำ (ยาวหน่อยนะครับ ที่มาที่ไปเยอะ)
    เรื่องราวมันเริ่มมาจากที่ผมหายจากการเล่นเกมส์คอนโซลมาพอสมควร พอมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ xbox ก็เลยเริ่มติดเกมส์อีกครั้งนึง เกมส์ที่ถูกใจเล่นแล้วติดเลยตอนนี้ก็ forza4 (ลอกของเดิมอีกแล้ว) ด้วยการที่เราทำงานตอนกลางวัน เวลาเล่นเกมส์ก็จะเป็นช่วงดึกๆ ทำให้ไม่สามารถเปิดเสียงดังกระหึ่มได้ ไม่สามารถได้ยินเสียงเครื่องยนต์ 8 สูบ 10 สูบ เสียงเทอร์โบ เสียงเบรินยาง ฯลฯ ได้ยินเสียงริบหรี่ๆ ที่ออกจากทีวี ที่เบาแล้วจนสุด(เพราะแฟนหลับแล้ว เปิดดังบ่นบ้านแตก) โอ้! พระเจ้านี่เรากำลังขับเฟอรารี่ หรือขี่จิ้งหรีดเนี่ยเสียงแหบช่างเงียบดีแท้ (บ่นอยู่ในใจ) ผมจึงจุดประกายความคิดขึ้นมาว่า (จุดประกายความคิดทีไรเสียตังส์ทุกที) เราน่าจะหาอะไรที่เราสามมารถฟังได้คนเดียว ระเบิดพลังของเฟอรารี่ ให้กระหึ่มสมกับเป็นม้าลำพอง ไม่ใช่จิ้งหรีดเสียงแหบอย่างทุกวันนี้ จริงๆแล้วผมก็มีหูฟัง Siberia V2 อยู่ตัวนึงแล้ว แต่ด้วยที่ว่าเกมส์สมัยนี้มันเป็น 5.1 เยอะแล้ว ก็อยากลองของบ้าง ว่าแล้วก็ปิดเกมส์ เข้า Internet หาหูฟังที่เหมาะกับงานโดนทันที หาข้อมูลอยู่สักพัก ก็ได้รายชื่อหูฟังที่ตรงสายงานมาจำนวนหนึ่ง แต่ก็อีกหูฟังเกมส์โดยเฉพาะ มันยังแยกเป็นใช้กับ PC, BOX, S3 บางรุ่นใช้ได้อย่างเดียวบางรุ่นใช้ได้สามอย่างเลย(น่าปวดหัวอีกแล้ว) แล้วยังมีแยกเป็น 5.1แท้ 5.1เสมือน 7.1 แท้ 7.1 เสมือนอีก วุ่นวายดีแท้ จึงพยามยามค้นหาข้อมูล (โดยใจต้องการ 5.1 หรือ 7.1 แท้ๆ) และคัดออกมาให้เหลือตัวเลือกให้น้อยที่สุด ก็ได้มา 4 ตัวคือ

    Tritton Pro+ 5.1 (ตัวนี้ใช้ได้ทุกเครื่อง)
    Cm Sirus 5.1(ตัวนี้มี Sound USB ใช้ได้แต่ COM)
    Turtle Beach Ear Force Z6A 5.1(ตัวนี้รู้สึกว่าจะใช้ได้ทุกเครื่องเหมือนกัน ไม่แน่ใจครับ)
    สุดท้าย Razer Tiamat 7.1 (ตัวนี้แพงสุดแต่ไม่มีแม้กระทั้ง Sound Card มาให้)

    เมื่อได้ตัวเลือกแล้วก็ออกตามล่าฝัน ตระเวรดูตามร้านต่างๆ เจอตัวเป็นๆแค่ Cm กับ Z6a ซึ่งหน้าตาและวัสดุไม่ถูกใจ ตัดทิ้ง (เสียงไม่ได้ฟังเพราะไม่มีให้ลอง) ในใจก็เหลือสองตัวเลือก ที่เลือกยากมาก เพราะรูปร่างหน้าตาถูกใจมากๆทั้งคู่ ราคาก็ใกล้เคียงกันด้วย Pro+ 5.1 ให้มาครบเครื่องเลยซื้อทีเดียวจบ แต่ Tiamat 7.1 ต้องหาตัวมาต่อเพื่อแปลงสัญญาณ Optical มาเป็น Analog 7.1 อีก ไหนจะสาย Optical อีก ราคาก็ไม่ถูกด้วย เสียสามต่อเลย หลังจากประมวลผลความคุ้มค่ารูปร่างหน้าตา (เสียงไม่เกี่ยวเพราะไม่มีสิทธิได้ฟัง) และรีวิวต่างๆที่อ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง จึงสรุปได้ว่า เอา Razer TiaMat 7.1 เนี่ยแหละ ด้วยเหตุผลที่ว่า สวยกว่า(ในสายตาผมนะ) และลำโพงถึง 10 ตัว มากกว่า Pro+ 2 ตัว (มี 8 ตัว) และเหตุผลหลักเลยคือราคาใกล้เคียง แต่ Pro+ ให้ ตัวถอดรหัส สายOptical อื่นๆ จะเหลือเป็นค่าหูฟังแท้ๆกี่บาท ต้องโดนลดคุณภาพลงแน่ๆ (อันนี้คิดเอง เออ เองนะครับ) เลยไปถอย Tiamat 7.1 และ Sound Card USB 7.1 ที่มี Optical In/Out และ สาย Optical มา 1 เซ็ต เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้แล (มันไม่ใช่แค่นี้นะครับ มันมีปัญหาต่อจากนี้อีกอ่านถึงตอนท้ายๆจะเข้าใจครับ)

    Unboxing แกะกล่อง

    กล่องภายนอกสวยงามมาดูดีมีราคา (ก็แน่สิแพงเหมือนกันนิ)


    กล่องด้านหน้า


    กล่องด้านหลัง


    ข้อมูลของลำโพง


    แกะออกมาอ้าวมีอีกชั้นนึงด้วย


    เปิดออกมา


    มีคู่มือ สติกเกอร์ และฝาปิดหูฟัง สำหรับคนขี้อายไม่อยากให้เห็นลำโพงข้างใน


    อีกด้านมีตัวหูฟัง กับคอนโทรลเลอร์ และสายต่อลำโพงนอก 1ชุด


    เอามากองรวมกัน


    ฝาปิดเป็นแบบใส เห็นลำโพงข้างล่ะ 5 ดอก


    นวมถอดออกมาได้ เห็นลำโพงด้านหน้ากันด้วย (โป้ทั้งหน้าและหลังเลย)


    แผ่นที่รองหัว (เรียกไม่ถูก) นุ่มมากๆ


    ฟองน้ำซัฟหูก็นุ้มนุ่ม...


    ไมค์ซ่อนอยู่ตรงนี้


    ดึงออกมาได้


    คอนโทรลเลอร์ สวยงามนะผมว่า


    สายต่อเป็นอนาล๊อค 7.1 + ไมค์ (3.5 มิล) รวมมี 5 เส้น และ USB เป็นไฟเลี้ยงอีก 1 เส้น


    สายพ่วงต่อสำหรับท่านที่มีลำโพง 7.1 เวลาไม่อยากฟังคนเดียว (ไว้เผื่อข้างบ้าน ฮ่าๆๆ)


    รูปทั้งตัวอีกภาพ


    อีกสักมุมนึงพร้อมฝุ่น ขนาดเพิ่งแกะกล่องนะเนี่ย


    เวลาต่อคอมแล้วมีไฟแบบนี้


    เสียบสายต่อลำโพงนอกตรงนี้



    อยากได้ข้อมูลละเอียด ไปที่นี่

    Review ทดสอบ ลองฟังเสียง

    การสวมใส่นะครับ พอดีผมไม่เคยใช้หูฟังที่เป็น พวก 5.1 หรือ 7.1 แท้มาก่อน เลยไม่รู้ว่ามันหนักประมาณไหน แต่ตัวนี้นี่ ถ้าเทียบกับ Siberia V2 ที่ใช้อยู่หนักกว่าพอสมควร และเวลาใส่บีบกว่าด้วย (แต่ก็ไม่มาก) เวลาถอด Tiamat แล้วมาใส่ Siberia V2 จะรู้สึกสบายกว่าอย่างชัดเจน แต่ว่าพอใช้ไปสักพักก็จะเริ่มชินกับมันไปเองครับ (ที่บีบกว่าน่าจะเป็นเพราะมันหนักกว่า คงกลังจะหลุดจากหูง่ายมั้งครับ) หลังๆเลยเฉยๆครับ ไม่ค่อยรู้สึกหนักและบีบเหมือนใส่แรกๆ แต่ช่วงฟองน้ำตรงหูทำมาได้ดีครับ มีช่องมากพอให้ใบหูอยู่แบบสบายไม่โดนกดเหมือน Siberia V2 ที่เวลาถอดออกมาจะเจ็บใบหูหน่อยๆ (ผมก็หูไม่กางมากนะพอดีๆ ครับ) สรุปโดยรวมใส่ไปสักพักก็จะชินครับ ใส่สบาย เอาอยู่ครับ

    เทียบกับ Siberia V2 ใหญ่กว่าพอสมควรเลย


    มาถึงก็ลองกับคอมพิวเตอร์ก่อนเลยนะครับ เสียบสายตามที่คู่มือบอกเป็นสีๆไม่ยาก เขียว-ซ้าย,ขวา ดำ-เซอร์ราวด์หลัง เทา-เซอร์ราวด์ข้าง ส้ม-ซัฟ,เซนเตอร์ ชมพู-ไมค์ เสร็จแล้วมาเซ็ตไดเวอร์ Sound ให้ออก 7.1 ลองเทสเสียงดู โอเคครับมาครบทุกช่อง หน้า, หลัง, ซ้าย, ขวา, ข้าง, เบส แต่ไอ้ลำโพง เซอร์ราวด์ ข้าง กับ ด้านหลัง นี่ดูใกล้ชิดกันเหลือเกิน แยกแทบไม่ออกว่ามาจากคนล่ะตำแหน่งกันเลย แต่ช่องอื่นๆ โอเคครับชัดเจน (ทำให้รู้สึกว่าน่าจะซื้อแค่ 5.1 ก็พอวุ้ย)

    อธิบายที่คอนโทรลเลอร์หน่อยนะครับ
    ปุ่มหมุนเล็กๆด้านบน เป็นตัวปรับเลือกช่องสัญญาณที่เราจะคอนโทรล ก็มี ซัฟ, เซนเตอร์, เซอร์ราวด์ข้าง, เซอร์ราวด์หลัง, หน้าซ้าย-ขวา, ไมค์, Master(ปรับเสียงรวมทุกช่อง)
    ปุ่มหมุนใหญ่ เป็นปุ่มปรับเสียงครับ กดลงไปเป็น Mute ปิดเสียงชั่วคราว
    ปุ่มด้านล่างสามปุ่ม 1.ปุ่มปิดเสียไมค์ 2.ปุ่มเปิดเสียงออกลำโพง(กรณีเราต่อลำโพงไว้อีกชุด) 3.ปุ่มเปิดปิด 7.1


    ว่าแล้วก็เปิดหนังก่อนเลย เอาเรื่องไรดีหว่าคุ้ยหาในคอมก็เจอ เอานี่ล่ะกัน เอาวะตา(Avatar) เปิดเสร็จนั่งดูไป ข้ามเอาแต่ฉากมันส์ๆ เพราะดูหลายรอบและ เดี๋ยวว่างๆค่อยดูอีกที เสียงที่ได้พอใจมากเลย มันส์กว่าที่ฟังจากลำโพงเล็กๆที่ใช้อยู่ประจำ และชอบกว่าหูฟัง Siberia V2 ที่ใช้อยู่ประจำเหมือนกัน เลยเปิดหนังดูไปอีกหลายเรื่องเหมือนกัน เบสที่ได้ผมค่อนข้างพอใจมากๆเลยนะ อธิบายไม่ถูกเอาเป็นว่าผมชอบล่ะกัน ฮ่าๆๆ ส่วนเสียงอื่นๆ กลางแหลมผมเฉยๆ ไม่ใช่ไม่ดีนะดีแต่ไม่เด่น เลยรู้สึกเฉยๆ สำหรับบรรยากาศ อารมณ์ในหนังนี่ได้เต็มๆโดนใจผมมาก เสียงรายล้อมตัวดี แม้ว่าเสียงด้านหลังจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่แต่ก็รู้สึกได้ครับ สำหรับการดูหนังผมให้ไปเลย 8.925/10 (ขอให้คะแนนกะเขาบ้างนะ จะได้เห็นความชอบของผมได้ชัดเจนขึ้น อิอิอิ)

    ดูหนังเสร็จก็ต้องฟังเพลงต่อ เปิดครั้งแรกตกใจเลยครับ เกือบถอดขว้างทิ้งคิดว่าหยิบผิดอัน (เวอร์ไปหน่อย ไม่กล้าขว้างหรอก อิอิอิ) ดูไปก็อันเดิมนี่หว่า เสียงมีแต่กลางแหลมฟังดูแห้งๆพิกล เบสตูมตามตอนดูหนังหายใหนหมดฟะ เลยดูคู่มือก็เลยถึงบางอ้อว่าถ้าฟัง สเตอริโอให้ปิดโหมด 7.1 ก่อน โอเคครับปิดซะ ใช้ได้แฮะเสียงมาครบเหมือนหูฟังปกติ ฟังมันเรื่อยเปื่อยครับ ทั้ง Mp3, FLAC, CD ฟังมันทุกแนว ไทย, เกาหลี, ญี่ปุ่น, ฝรั่ง, บรรเลง ฯลฯ สรุปเลยครับฟังเพลงสำหรับผมไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ครับ แต่ก็ไม่ขี้เหล่ ผมกลับชอบ SiberiaV2 อันเดิมมากว่านิดนึงแฮะ อย่างที่บอกอธิบายไม่เก่ง เอาคะแนนไปเลยล่ะกัน 7.725/10 ฮ่าๆๆ
    หลังจากลองน้ำจิ้มจนฉ่ำปอด หุหุหุ ถึงตัวพระเอกสักที เสียบสาย Optical จาก Xbox มาเข้า Sound Card USB 7.1 ที่ซื้อมา เซ็ต line IN ของ Sound Card เป็น SPDIF เข้าเกมส์เลยครับ Forza4 สุดมันส์ของผม ต้องเล่นกะจอย Speed wheel ด้วย อิอิ เข้าเกมส์เสร็จ... เสียงมาแล้ว... โอ้!บระเจ้า!!! เฮ้ย!!! เสียงมันแห้งๆ เหมือนตอนฟังเพลงเลยวุ้ย ไรฟะ!!! แสดงว่ามันออกเป็น สเตริโอแน่นอน โอเช เข้าไปเซ็ตใน Xbox ใหม่ให้ออกเป็น Dolby 5.1 ก่อน เดี๋ยวค่อยมามันส์ต่อ พอกดเปลี่ยนจาก สเตริโอเป็น Dolby 5.1 เท่านั้นแหละครับ หูแตก!!! กลายเป็นเสียงตู๊ดๆๆๆ ตี๊ดๆๆๆ ปุ๊ดๆๆๆ ถอดหูแทบไม่ทัน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!! เข้าไปเซ็ตโน้น นั่น นี่ ยังไงก็ไม่หาย กรรมแล้วตู เข้า Internet ด่วนเลย...

    หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงต่อมา... ก็พบสัจธรรมว่ามันไม่สามารถทำได้เพราะ Sound Card มันถอดรหัสไม่ได้ เจ๊ตโด้เอ้ย!!! มีคนประสบปัญหาเดียวกะผมหลายรายด้วยกันทั้งฝรั่งและคนไทย ที่ใช้หูฟังที่เป็น อนาล๊อค 5.1 และต่อ xbox มาเข้าคอมเพื่อจะถอดรหัส 5.1 เป็นความซวยของผมที่ไม่รอบครอบเอง ถ้าซื้อหูฟังที่รองรับ Xbox มาแต่แรกคงไม่เกิดปัญหานี้ นี่เสียแพงเพราะ 7.1 ที่ไม่ค่อยจะแตกต่างกับ 5.1 ด้วยซ้ำ แท้ๆเลย ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อ Decoder 5.1 อีกตัว ตามที่ท่าน battlecruiser แนะนำ ซึ่งจริงๆตอนแรกผมก็กะจะซื้อ Decoder 5.1 อยู่เหมือนกัน แต่เพราะมันหาซื้อยากไม่มีขายซักร้าน และมันแค่ 5.1 ถ้า Sound Card มันได้ถึง 7.1 เลย เลยตัดสินใจโดยที่ผมไม่รู้ลายละเอียดลึกๆเรื่องต่างๆของระบบเสียง ก็เลยเป็นบทเรียนอีกบทหนึ่ง ที่ผมจะได้แชร์ประสบการณ์กับเพื่อนๆ เพื่อใครอยากทำแบบผมจะได้รู้ว่า มันทำไม่ได้นะครับ ถ้าจะเอามาต่อ Xbox เอาหูฟังที่มันทำมาสำหรับ Xbox เลยน่าจะดีกว่า จะได้ไม่เสียเงินหลายต่อ (หรือถ้าใครทำได้รบกวนชี้แนะด้วยครับ) คะแนนสำหรับเกมส์ เอาไป 2.128/10 พอ (ฟังได้แค่ สเตอริโอ 2.1 ก็เอาไปแค่นี้พอ ฮ่าๆๆ)

    จริงๆผมผิดเองที่เอามาใช้ผิดวัตถุประสงค์ของผู้ผลิตเขาทำมาเพื่อ PC นะครับ (แต่พอดีผมไม่ชอบใจ หุหุหุ) การใช้กับเกมส์ใน PC ผมลองกับ Need For Speed The Run (ผมมีติดเครื่องอยู่เกมส์เดียว) ดูก็โอเคเลยประทับใจครับผม ได้อารมณ์เหมือนอยู่ในเกมส์จริงๆ เสียงรถมาจากทิศใหนจับทางได้เลยสำหรับ PC ผมให้ 9.155/10 เลยเอ้า...

    นี่ไงที่กล่องเขาก็บอกอยู่ ว่าใช้กะคอมที่มี Sound Card 7.1 นะ


    สรุปสุดท้าย
    ประสบการณ์ครับแรกกับหูฟัง 7.1 แท้ๆ ก็ประทับใจกับน้ำเสียงและบรรยากาศที่ได้จากตัวหูฟังครับ ทำได้ดีกว่าหูฟัง สเตอริโอแบบรู้สึกได้ สำหรับการดูหนัง และเล่นเกมส์นะครับ ฟังเพลงยังเฉยๆ แต่ถ้าเป็นพวกคอนเสริต์ ที่อัดเป็น 5.1 อาจจะฟังสนุกกว่านี้ก็ได้ (เดี๋ยวต้องไปลองหาคอนเสริต์มาดูสักหน่อยครับ พอดีไม่มีเลย) ชอบมากๆก็ หน้าตาสวยและไฟสีเขียว (ขอบสีเขียวอยู่แล้วด้วย) ส่วนจะดีกว่าพวกหูฟัง เสมือน 7.1 ที่มี 2 ลำโพงหรือเปล่านี่ไม่แน่ใจครับ เพราะไม่เคยฟังสักตัวเลย (ประสบการณ์หูฟังผมมีน้อยครับ ขออภัยด้วย) ส่วนไมค์ ไม่ได้ลองเทสนะครับเพราะไม่รู้จะคุยกับใคร ฮ่าๆๆ

    ข้อติครับ ฝาปิดที่แถมมาเป็นแบบแม่เหล็กดูหรูหราไฮโซดีนะครับ แต่ใช้งานจริง ปิดไม่พอดี มีอ้าข้างนึงด้วย และก็หลุดง่ายเหลือเกิน (ไหนๆก็ทำมาแล้วน่าจะทำให้ดีหน่อย)

    หลักฐานชัดๆ


    แล้วก็ตัวสายหูฟังกับตัวคอนโทรลเลอร์ น่าจะถอดได้สักหน่อย นี่ให้ยาวมาเป็นกระสือเลย รู้สึกเก็บลำบากไปหน่อยครับ
    โดยรวมถูกใจครับผม แต่ยังรู้สึกเสียดายนิดๆกับตัว Tritton Pro+ ที่ถูกกว่าและใช้งานได้หลายหลายและตรงกับจุดประสงค์ของผมมากกว่า แต่ก็ไม่ได้ลองฟัง ถ้ามีโอกาส (รอมันลดราคา อิอิ) อาจจะไปหามาลองดูครับ

    สุดท้ายขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบ หวังว่าการรีวิวในแบบของผม ซึ่งไม่ได้สาธยายเกี่ยวกับเรื่องเสียงเลย ทั้งที่รีวิวหูฟัง เพราะเรื่องเสียงนี่นานาจิตตังครับชอบใครชอบมัน ดูจากคะแนนความชอบของผม คงเป็นแนวทางให้สำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะซื้อ หรือมีหูฟังรุ่นนี้เป็นตัวเลือกของเพื่อนๆได้มีข้อมูลในการตัดสินใจที่มากขึ้น ก่อนที่จะจ่ายเงินออกไป ผมแนะนำว่าเลือกสินค้าให้ถูกกับความสามารถของมันน่าจะดีที่สุดครับ จะได้ไม่เสียหลายต่อแบบผม ฮ่าๆๆๆ (หัวเราะทั้งน้ำตา) ไว้เจอกันตอนมีของเล่นใหม่ครับ(คงอีกสักพักใหญ่เลยตังส์หมด ฮ่าๆๆ).

    Last edited by takumike; 24 Sep 2015, 07:00:21.

  • #2
    ข้างใสด้วย เท่ดี
    ว่าแต่มันกินไฟขนาดต้องต่อ USB เลยเหรอเนี่ย

    Comment


    • #3
      คงเป็นเพราะมันมีลำโพงหลายตัวมั้งครับ เลยต้องใช้ไฟเลี้ยด้วยมั้ง

      Comment

      Working...
      X