หลายๆคนคงรอรีวิวนี้ใจจดใจจ่อ ยังไงก็ขออภัยที่ล่าช้าด้วยครับ พอดีติดธุระนิดหน่อยเพิ่งจะว่างแบบเต็ม ๆ มานั่งถ่ายรูปไม่นานนี้เอง เอาเป็นว่ามาเริ่มกันเลยกับรีวิวจอยพวงมาลัย Logitech G27
เกริ่นนำกันนิดนิง
Logitech G27 เป็นพวงมาลัยชนิด Force Feedback หรือตอบสนองด้วยแรง ต่างกับแบบสั่นนะครับ ข้อแตกต่างสามารถหาได้ไนรีวิว Logitech Driving Force GT ตามลิงค์นี้เลย >> http://www.overclockzone.com/forums/...ad.php/1041809
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก G25 ซึ่งเป็นรุ่นยอดฮิตที่มีความสามารถรอบด้านและได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม มีกลุ่มผู้ใช้ (และแฟนคลับ/แฟนบอย) น่าจะเยอะที่สุดในโลกก็ว่าได้ จนกระทั่งเมื่อมีการแนะนำจอยพวงมาลัยอะไรสักอย่าง แทบทุกคนจะบอกว่าให้ซื้อ G25 จนกลายเป็นกระแส อยากเทพ อยากแรง ต้อง G25 ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็น "ถ้าไม่ใช้ G25 แสดงว่าไม่รักเกมขับรถจริง" เมื่อมาถึงรุ่นถัดไปอย่าง G27 กระแสแบบนี้ก็ยังคงตามมาแถมยังหนักขึ้นซะด้วย แล้วรุ่นใหม่จะมีอะไรปรับปรุงบ้าง มันจะเทพสมคำร่ำลือไหม มาดูกันเลยครับ
คุณสมบัติของ Logitech G27
- หมุนได้ 900 องศา
- เส้นผ่านศูนย์กลางพวงมาลัย 28 ซม. หรือ 11 นิ้ว
- ตอบสนองแบบ Force Feedback
- 16ปุ่ม (รวมเกียร์ paddle shifter)
- D-Pad 8 ทิศทาง
- H-Pattern Gearbox หรือ Gated Shifter เป็นโมดูลแยกออกมา
- Paddle Shifters
- แป้นเหยียบ 3 แป้น พร้อมคลัชท์
- เชื่อมต่อผ่าน USB
คราวนี้ไม่มีรูปหน้ากล่องให้ดูนะครับ พอดีเก็บกวาดห้องไปแล้วเพิ่งมีเวลาถ่ายรูป
ในแพคเกจจะมีชุดพวงมาลัย 3 ชิ้น ตัวพวงมาลัย แป้นเหยียบ แล้วก็กระปุกเกียร์ พร้อมกับหม้อแปลงอีก 1 ตัว ซึ่งจะดูกันต่อไปครับ
พวงมาลัยชุดนี้รองรับกับ PC, PS3, PS2
ส่วน Xbox360 ไม่สามารถใช้ได้ทันที มีกล่องแปลงขายอยู่เหมือนกันแต่ไม่เวอร์คเท่าไหร่ เพราะวงเลี้ยวจำกัด ปุ่มไม่ตรง และไม่มี Force Feedback ครับ นอกจากนี้กล่องที่ว่ายังราคาแพงซะจนซื้อพวงมาลัยสำหรับ Xbox360 อีกอันเลยจะดีกว่า
มาเริ่มที่ตัวพวงมาลัยกันก่อน
วัสดุเป็นเหล็กหุ้มด้วยหนัง มีรูปร่างและร่องโค้งนูนเพื่อรับกับมือได้เป็นอย่างดี ถึงตัวพวงมาลัยจะเป็นเหล็ก แต่ไส้ในนั้นเป็นพลาสติกนะครับ ไม่ได้เป็นเหล็กทั้งชุดอย่างที่หลาย ๆ คนคิด
มีปุ่มบนตัวพวงมาลัย 6 ปุ่ม เป็นปุ่มพลาสติก แป้น paddle shifters ทำมาจากเหล็กเหมือนกัน มีระยะห่-างที่พอดีมือมาก นอกจากนี้ยังมี Shift Light LED บอกด้วยว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนเกียร์
ทางด้านระบบ Force Feedback เป็นเฟืองตัดเฉียงหรือ Helical Gear ทำให้เสียงเงียบและลื่นไหลครับ
การล๊อกกับโต๊ะก็จะเป็นมาตราฐานของ Logitech คือปุ่มหมุนปรับขาล๊อกสองด้าน เนื่องจากเป็นรุ่นสูงจึงสามารถกดปุ่มหมุนเก็บลงไปได้ให้ดูเรียบหรูมีสกุลรุนชาติ ขาล๊อกแบบนี้แน่นหนามากครับ ใช้กับโต๊ะทั่วไปได้ไม่มีปัญหา ไม่มีเลื่อนหลุด
เมื่อพลิกด้านหลังของพวงมาลัยจะเป็นว่าทุกอย่างนั้นจะต่อเข้าไปจากด้านในของบอดี้ แล้วมีที่เก็บสายให้ด้วยเพื่อความเป็นระเบียบ ดังนั้นเวลาที่ใช้พวงมาลัยตัวนี้ สายที่ออกมาจากพวงมาลัยจะเป็น 4 เส้น ไม่มีปลั๊กอยู่ด้านนอกให้รำคาญลูกตา
และที่สำคัญคือมีจุด hard mount หรือรูน๊อต(วงกลมสีแดง)สำหรับไขล๊อกกับ cockpit/wheel stand มาให้ด้วย สำหรับคนที่อยากติดตั้งให้มั่นคงครับ
การใช้งานพวงมาลัยนั้น จับได้อย่างถนัดมือ จะมีติดขัดนิดหน่อยก็ตรงที่ปุ่มทั้ง 6 ปุ่มนั้นเล็กและอยู่ใกล้กันมาก สำหรับคนมือใหญ่ ๆ แรก ๆ จะกดพลาดไปโนปุ่มที่ไม่ต้องการบ่อยมากครับ สำหรับเกมบางแนว ปุ่มบนพวงมาลัยแค่ 6 ปุ่มก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับบางแนวเช่น F1นั้นก็ไม่พอ เนื่องจากการจะละมือจากพวงมาลัยไปกดปุ่มจากที่อื่นนั้นทำได้ลำบากและไม่สะดวกสักเท่าไหร่
ตัวพวงมาลัยหมุนได้ตั้งแต่ 40 ถึง 900 องศา สามารถปรับได้จากใน Driver และ Profiler ในกรณีที่แต่ละเกมปรับไม่เหมือนกัน ทั้งนี้แนะนำให้ใช้เพราะการขับรถแต่ละอย่างนั้น วงรอบพวงมาลัยมันไม่เท่ากันหรอกครับ เวลาปรับก็ดูดี ๆ ให้เหมาะกับรูปแบบเกมที่เล่นด้วย ไม่ใช่ยัดมัน 900 องศาทุกเกมเพราะดูเทพดีแม้จะเป็น Open wheel, Prototype, GT Touring เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร แต่ถ้าซื้อพวงมาลัยมาเพื่อเล่นให้สมจริงมากขึ้นแล้วทำแบบนี้มันยิ่งห่-างไกลความเป็นจริงเข้าไปอีกนะเนี่ย
เนื่องจากพวงมาลัยถูกหุ้มด้วยหนัง ดังนั้นสำหรับคนที่แพ้หนัง(มีจริงๆนะเออ ตัวผมถ้าเหงื่อออกแล้วโดนพวกหนังแบบนี้ถู จะมีโอกาสเป็นผื่นสูงมาก) เล่นไปสักพักแล้วต้องกดหยุดเกมเพื่อพักสักนิด เช็ดมือให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาเล่นต่อ
การหุ้มหนังนั้นก็มีจุดบอดอยู่เหมือนกัน คือด้ายที่เย็บในบางจุดดูจะไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะจุดที่เอานิ้วโป้งแหย่เข้าไป(ถ้าจับพวงมาลัยตามตำแหน่ง 9-3) เวลาจับแน่น ๆ จะมีด้ายออกมาถูมือเกือบตลอดเวลา รำคาญเอาเรื่อง แต่ก็ยังดีกว่าโดนตะเข็บหล่อของพลาสติกบาดแบบบางรุ่นก็แล้วกัน
ด้าน paddle shifters นั้นอย่างที่บอกไปแล้วว่าวางตำแหน่งได้ดี ไม่ชิดหรือห่-างจนเกินไป และเวลากดจะให้ความรู้สึกเหมือนคลิกลงไป ทำให้มั่นใจว่ากดลงไปแล้วแน่นอนครับ เป็นความรู้สึกที่สุดยอดจริงๆ นอกจากนี้แป้นยังมีขนาดใหญ่พอที่จะกดอย่างสะดวกได้ไม่ว่าจะจับพวงมาลัยตำแหน่งไหนก็ตาม
ส่วนออปชั่นเสริมอย่าง Shift light ที่เป็น LED นั้น แสงมันช่างอ่อนแรงซะเหลือเกิน ถ้าใช้ในห้องสว่าง ๆ ก็จะโดนแสงอื่นเบียดบังจนแทบไม่ทันสังเกต ถ้าใช้ในห้องมืด ๆ แล้วปรับแสงจอมากๆก็โดนแสงจอบดบัง ทำให้มองไม่เห็นอีก... เหมือนจะเป็นฟีเจอร์ที่ดีนะครับ ถ้าไฟดวงใหญ่แล้วแรงกว่านี้อีกจะดีมาก นอกจากนี้ยังไม่สามารถใช้ได้ทุกเกมนะครับ ได้เฉพาะเกมที่รองรับเท่านั้น
มาดูทางด้านระบบ Force Feedback กันบ้าง
ระบบของพวงมาลัยตัวนี้เป็นเฟืองตัดเฉียงอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ประกอบกับมีมอเตอร์สร้างแรงต้านและเอฟเฟกถึง 2 ตัว ทำให้การใช้งานนั้นเงียบ กล้าบอกเลยว่าเงียบที่สุดในบรรดาพวงมาลัย Force Feedback ระบบเฟืองครับ
ตอนหมุนไปหมุนมากมันก็เงียบอยู่หรอก แต่ความสงบสุขจะถูกทำลายลงทันทีเมื่อท่านไปชนอะไรเข้า หรือปีนขอบ ปีน curb พวงมาลัยจะสั่นพร้อมกับเสียงที่ดัง "แครกกกกกกกกก" ยันหน้าปากซอยเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคิดว่ามันราบรื่นทุกย่างก้าวขอให้คิดใหม่ซะนะ
มาถึงทางด้านแรงต้านและเอฟเฟกกันดีกว่า พวงมาลัยให้ความรู้สึกที่ดีมาก การหมุนนั้นทำได้อย่างราบรื่น เวลาหมุนก็พอรู้อยู่ว่ามันเป็นฟีลของเฟือง แต่มันลื่นและต่อเนื่องซะจนให้ความรู้สึกลื่นไหลและแม่นยำได้อย่างไม่น่าเชื่อ เวลาเจอโค้งความเร็วสูงยาวๆนั้นไม่ได้รู้สึกว่าหมุนไปล๊อกทีละฟันเฟืองเลย เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ ตัวพวงมาลัยนั้นนอกจากลื่นแล้ว ยังหมุนได้เร็วอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่จะเอาไว้เล่นพวกดริฟท์เป็นอย่างมาก
มาถึงด้านเอฟเฟกของตัวพวงมาลัยบ้าง ของพวกนี้ต่างกันไปตามความสามารถของเกมเป็นส่วนใหญ่ ในที่นี้ผมจะพูดรวมๆนะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกเรื่องมาตราฐานของ Logitech ให้รับได้กันก่อน ซึ่ง Force Feedback (FFB)ของพวงมาลัยจาก Logitech นั้น จะไม่ทำงานหรือทำก็น้อยมากในช่วงตรงกลางของวงเลี้ยว หรือเวลาที่ตั้งพวงมาลัยไว้ตรงๆนั่นล่ะครับ ดังนั้นจงยอมรับซะเถิดเอยว่าของรุ่นท๊อปมันก็เป็นเหมือนกันนะ
การแสดงอาการถ่ายน้ำหนัก การสลับซ้าย - ขวาและ counter steer ของพวงมาลัยนั้นทำได้อย่างดี รวดเร็วทันใจและลื่นไหลไม่มีติดขัด เอฟเฟกการปีน curb ต่างๆนั้น (ในเกมที่ FFB ดีมาก ๆ) สามารถรู้สึกถึงแนวที่เราสัมผัสตัว curb ได้ แล้วก็รู้สึกได้ถึงความสูง ความชันของ curb ได้เลยทีเดียวครับ เรียกได้เลยว่ามีการตอบสนองกับแรง grip รวมไปถึงองศาล้อได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนเอฟเฟกสั่นในจอยตัวนี้จะเบากว่า Driving Force GT อยู่หน่อย และเอฟเฟกที่เป็นสิ่งรอบข้างบางอย่างนั้นไม่สามารถแสดงออกมาได้เหมือนกับรุ่นเล็กกว่าอย่าง Driving Force GT ซะอย่างนั้น ยกตัวอย่างเช่นในเกมที่ใช้เอนจิ้น GMotor 2 จะไม่แสดงอาการสั่นของตัวรถเวลาเหยียบคันเร่งตอนรถอยู่เฉย ๆ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่นด้วย และเอฟเฟกที่ว่าก็ไม่ได้ช่วยให้ขับเร็วขึ้นตรงไหน เป็นแค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น ที่เหลือสามารถแสดงออกมาได้อย่างเกือบสมบูรณ์แบบครับ เพียงแค่การสั่นเบากว่ารุ่นเล็กกว่าอย่าง DFGT เท่านั้น
มาว่ากันด้วยฟีลถนนต่างๆ G27 สามารถตอบสนองแรง Grip ของรถได้อย่างดี แต่ถ้าฟีลถนนมีการสั่นหรือกระแทกเมื่อไหร่ สำหรับคนที่เคยใช้ DFGT แล้วอัพเกรดมา(โดยที่ยังใช้ settings เดิมอยู่)จะรู้สึกได้เลยว่ามันกระแทกเบากว่าเดิมเยอะ
อย่างไรก็ดี แรงกระแทกที่ว่านี้ถึงจะไม่แรงเท่ารุ่นเล็กกว่า แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือมันนุ่มนวลกว่าครับ ไม่ได้กระแทกมาแบบโครม ๆ เอาเป็นเอาตาย อันนี้จะมาแบบถูกดันออกอย่างนิ่มนวลแต่มีพลัง
สรุปง่าย ๆ ว่าฟีลแทบไม่ต่างกันกับรุ่นเล็ก แต่ G27 จะออกไปทางนิ่มนวลและต่อเนื่อง รวมไปถึงรายละเอียดของแรงยึดเกาะที่มากกว่าครับ ส่วนแรงสั่นสำหรับบางเอฟเฟกอาจจะน้อยนิดนึง แต่ไม่ถึงกับบางเบา แค่ไม่กระแทกรุนแรงถึงใจสะท้านไปทั้งแขนเท่านั้น รวมกันทั้งหมดแล้วเป็นแพคเกจ FFB ที่ดีมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่นด้วยว่า FFB ดีแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าเล่นแนว Simulation อันที่มีระบบ FFB ดี ๆ แล้ว จะช่วยให้เรียนรู้ตัวรถและสนามได้ง่ายขึ้น และพัฒนาฝีมือได้ดีขึ้นครับ ส่วนถ้าเล่นเกมทั่วไปก็ไม่ต่างกันเลย
กระปุกเกียร์ของรุ่นนี้จะเป็นชุดแยกออกมา บนตัวกระปุกเกียร์จะมีปุ่มอีก 8 ปุ่ม พร้อมกับ D-pad 8 ทิศทาง
การเข้าเกียร์นั้น แต่ละเกียร์จะถือว่าเป็น 1 ปุ่มครับ ทั้งหมดมี 7 เกียร์ เดินหน้า 6 ถอยหลัง 1
การล๊อกกระปุกเกียร์นั้นใช้วิธีเดียวกับพวงมาลัย คือเป็นปุ่มหมุนปรับที่คีบ
เมื่อพลิกไปด้านหลังจะเห็นว่านอกจากขาล๊อก 2 อันแล้ว ยังมีแท่งล๊อกอีกอันหนึ่งเพื่อช่วยไม่ให้กระปุกเกียร์พลิกคว่ำหรือหลุดลงมาขณะใช้ และมีรูน๊อต(วงกลมสีแดง)สำหรับไขล๊อกกับ cockpit/wheel stand อย่างถาวรอีกด้วย
มาดูเรื่องเล็กกันก่อนคือปุ่มทั้ง 8 กับ D-pad ปุ่มแต่ละปุ่มนั้นกดลงไปเหมือนกันปุ่มทั่วไป ส่วน D-pad 8 ทิศทางเป็นปุ่มลอยเหมือนกับในจอยแพดของ Logitech เลยครับ
ตัวกระปุกเกียร์นั้นมีการปรับปรุงจาก G25 มานิดนึงตรงที่ไม่สามารถสลับเป็น Sequential (กดขึ้น-ลง) ได้ เพื่อให้ H-Pattern นั้น แน่นหนาและคงทนยิ่งขึ้นครับ
วิธีการเข้าเกียร์เดินหน้านั้นก็เหมือนปกติทั่วไป ส่วนวิธีการเข้าเกียร์ถอยหลังจะเข้าที่ตำแหน่งเกียร์ 6 โดยที่ต้องกดก้านเกียร์ลงไปแล้วดึงลงมาถึงจะเข้าได้ครับ การเข้าแต่ละเกียร์ให้ฟีลที่ดี แน่นหนาพอสมควร(เท่าที่ชิ้นส่วนพลาสติกจะให้ได้) และมีฟีลของสลักที่ทำให้รู้ว่าเข้าเกียร์ลงแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่การออกแบบเกียร์นั้นต้องทำให้อยู่ในชิ้นส่วนเล็กๆ ดังนั้นแต่ละเกียร์จึงชิดกันมาก สำหรับคนที่ขับรถจริงมาแรก ๆ อาจมีการเข้าผิดพลาดบ้าง
และที่แน่ ๆ คือยังไงซะ นี่ก็เป็นแค่อุปกรณ์เกม สามารถสับเกียร์ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องกดคลัชท์ครับ และไม่มีฟีลของการตัดกำลังแรงส่งของเครื่องยนต์มาหรอก ซึ่งก็แน่อยู่แล้วน่ะนะ นี่คือชุดสลักพลาสติก ไม่ใช่เครื่องยนต์จริง ๆ สักหน่อย ดังนั้นอย่าไปคิดว่ามันจะเหมือนรถจริง 100% ครับ แค่พอได้ฟีลสนุก ๆ เท่านั้น
ถ้าถามว่าอารมณ์ในการที่ได้เข้าเกียร์แบบนี้สนุกกว่าเดิมไหม ต้องบอกว่าแล้วแต่เกม แล้วแต่แนวการขับของแต่ละคนครับ แน่นอนว่ามันรู้สึกสนุกและเข้าใกล้ของจริงขึ้นที่ได้สับเกียร์เวลาขับรถ แต่ถ้าเล่นแนวรถแข่งในสนาม (ซึ่งสมัยนี้เป็น Sequential ทั้งนั้น) ถึงจะสนุกและลุ้นดี แต่เวลาที่ทำได้คงสู้ใครเข้ายาก มานั่งสับเกียร์ไป ๆ มา ๆ ไม่กันกินกันพอดี ซ้ำร้ายยังทำให้ช้ากว่าเดิมด้วย แต่มีข้อดีอยู่ส่วนนึงตรงที่สามารถข้ามเกียร์ได้โดยไม่ต้องกดเรียงกันครับ ส่วนถ้าเล่น modern F1 ที่ใช้ paddle shifters กันแล้วด้วยเกียร์กระปุกก็เป็นอะไรที่ตลก และห่-างไกลความจริงเข้าไปอีก
ส่วนถ้าเล่นเกมแนวขับตระเวณท่องไปตามถนนแบบ Test Drive Unlimited ภาคแรกที่ FFB ดีๆ... (เน้นย้ำ ภาคแรก... เพราะสำคัญถึงต้องพูด 2 ครั้ง) การเปลี่ยนเกียร์ด้วยกระปุกเป็นอะไรที่ทำให้สนุกแบบสั่นสะท้านไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้ แต่การขับรถบางคันที่มีถึง 7 เกียร์ก็เป็นอะไรที่ทำไม่ได้น่ะนะ เพราะกระปุกมันสุดแค่ 6
มาถึงแป้นเหยียบกันบ้าง
แป้นเหยียบเป็น 3 แป้น ผิวหน้าทำจากเหล็ก สอดไส้ด้วยพลาสติก ตรงที่เป็นปุ่มดำๆนั่นล่ะ อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นยางนะ มันเป็นพลาสติก โดยที่คันเร่งจะอยู่ลึกกว่าเบรกและคลัชท์อยู่นิดนึง
พลิกมาด้านหลังจะเห็นว่ามีที่ยึดกับพรมตามสไตล์ Logitech และที่ขาดไม่ได้คือรูน๊อต (วงกลมสีแดง) สำหรับไขล๊อกกับ cockpit/wheel stand อย่างถาวรครับ
แป้นเหยียบสามารถปรับแป้นไปทางซ้ายหรือขวาได้ วิธีการคือใช้ประแจอัลเลน (ประแจ 6 เหลี่ยม) ขนาด 2.5 mm ไขเอาน๊อตออกมา จากนั้นสามารถขยับซ้าย - ขวาได้ตามสะดวก
อย่างที่บอกไปแล้วว่าผิวเป็นเหล็ก สอดไส้ด้วยพลาสติกครับ
แป้นเหยียบสามารถแกะออกมาได้โดยการไขเอาตัวแป้นออก จากนั้นพลิกไปด้านหลังแล้วไขน๊อตออกอีกจำนวน 14 ตัว (มีอีก 2 ตัวซ่อนอยู่หลังขาล๊อกกับพรม) เวลาดึงออกมาระวังสายไฟที่ติดอยู่กับบอดี้ด้านบนด้วย ถ้าขาดไปล่ะก็งานเข้าแน่นอน
เมื่อดึงออกมาจะได้หน้าตาแบบนี้
จะเห็นว่าแป้นเหยียบนั้นแยกเป็นชิ้นๆ จริงๆแล้วสามารถถอดออกมาจากบอดี้ได้อย่างอิสระเลยครับ ทำให้สามารถโยกย้ายไปต่อกับอะไรก็ได้ จะเอาไปพลิกกลับหัวต่อกับ cockpit ก็ยังได้
และ เซนเซอร์ของแป้นเหยียบใช้ potentiometer ในการวัดระยะทางที่กดลงไปทั้ง 3 แป้น
แรงต้านของแป้นทั้ง 3 มาจากสปริงที่อยู่ในกระบอกสีแดงนะครับ เห็นมาเป็นกระบอกแบบนี้อย่าคิดว่าข้างในจะเป็นไฮโดรลิคหรือปั๊มลมหรืออะไรต่างๆนาๆ ที่เห็นอยู่เป็นแค่ดีไซน์ให้ดูเท่ + ดูโปรฯเฉยๆ ไส้ในก็ linear spring (สปริงแรงเท่ากันตลอดทาง) บ้านๆนี่หล่ะ
การใช้งานแป้นเหยียบนั้นเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับการแข่งรถ อย่างที่ผมเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าสิ่งที่ช่วยให้เร็วไม่ใช่ตัวพวงมาลัยเป็นหลัก แต่คือแป้นเหยียบต่างหาก ซึ่ง G27 ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแป้นเหยียบที่มีความละเอียดสูง และช่วงกดยาวได้เป็นอย่างดีครับ ถึงจะไม่เท่าพวกท๊อป ๆ ราคาแพง ๆ แต่ก็เยี่ยมสำหรับแป้นมาตรฐานของพวงมาลัยที่มาเป็นชุดแล้ว แค่ได้ลองใช้เฉพาะแป้นเหยียบ G27 กับพวงมาลัยอื่นก็พบว่าเวลาต่อรอบลดลงไปอย่างน่าตกใจ
น้ำหนักของแต่ละแป้นนั้น หนักไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่หนักถึงขนาดต้องเล่นด้วยรองเท้าครับ พอใช้รองเท้าปั๊ปจะรู้สึกได้เลยว่าแรงต้านไม่พอ
- คันเร่งจะเบาที่สุด แต่มีแรงต้านและระยะทางพอที่จะปรับระดับการเร่งได้อย่างสบาย
- เบรกจะหนักที่สุด แต่ทว่าสปริงข้างในเป็น linear spring ซึ่งทำให้แรงกดเท่ากันตลอด ไม่มีการปรับแรงกดซึงทำให้เราต้องจำตำแหน่งการเบรกจากระยะที่กดลงไป แทนที่จะเป็นกดลงไปแรงเท่าไหร่ ออกจะผิดกับรถจริงสักนิดแต่น้ำหนักแป้นเหยียบก็ทำได้อย่างดีแล้ว
- คลัชท์จะกลางๆค่อนไปทางเบาครับ ตรงนี้ก็มีข้อเสียอีกเหมือนกันในเมื่อมันใช้สปริงธรรมดาและไม่มีการตอบสนองอะไร ดังนั้นจะต่างจากรถจริงตรงที่เราสามารถรู้สึกถึง clutch biting point ได้จากความรู้สึกที่เท้า แต่ในเมื่อนี่มันเป็นแค่สปริง + potentiometer ดังนั้นมันไม่สามารถตอบสนองอะไรแบบนั้นได้หรอก และที่แน่ๆคือฟีลมันสปริงสุดๆ แทบไม่ได้มีฟีลแบบคลัชท์เลยก็ว่าได้ครับ
หม้อแปลง
รุ่นนี้นั้น จะเป็นแบบสองท่อนครับ ดังนั้นถ้าคิดว่าสายไฟที่ให้มายาวไม่พอ สามารถซื้อสายอื่นมาใส่แทนได้นะ
หม้อแปลงจ่ายไฟ DC 24V 1.75A นะครับ (จดไว้ก็ดีเผื่อทำหม้อแปลงระเบิด อิ ๆ)
คั่นรายการสักนิด ดูว่าเวลาใช้งานจริงเป็นยังไง เสียงดังแค่ไหนครับ
เรามาสรุปกันเลยดีกว่าครับ
ข้อดี
- พวงมาลัยวงใหญ่ถึง 11" หรือ 28 ซม. หุ้มหนังรูปร่างถนัดมือ
- หมุนได้900องศา
- เสียงแรงต้าน Force Feedback เงียบมาก
- Force Feedback ตอบสนองกับรถได้ดีมาก ฟีลรถครบถ้วน สมบูรณ์
- ครบชุดทั้งกระปุกเกียร์ H-Pattern และ แป้นคลัชท์
- แป้นเหยียบน้ำหนักดี ระยะกดดี
- ขาล๊อกแน่นหนา ไม่ลื่นหลุดง่าย แถมยังมีรูน๊อตไว้ไขติดตั้งอย่างถาวร
- ใช้ USB แค่หัวเดียวแต่มีทุกอย่าง เหมาะสำหรับคนที่ช่อง USB น้อย แต่อยากได้ฟีเจอร์เยอะ หรือแม้แต่เล่นเกมด้วย gaming laptop
- สามารถย้ายกระปุกเกียร์ไปไว้ข้างไหนก็ได้
- มีอุปกรณ์แต่งให้เลือกหลากหลาย เพราะเป็นพวงมาลัยยอดฮิต
- แป้นเหยียบสามารถแกะออกมาได้เป็นชิ้น ๆ เพื่อนำไปติดตั้งที่อื่น
ข้อเสีย
- แพง และฟีเจอร์ที่ได้ดูจะไม่ค่อยสมกับราคาที่แพงกว่า Driving Force GT เท่าตัวนึง
- แป้นเบรกกับคลัชท์แม้น้ำหนักจะดีแต่ความรู้สึกยังไม่ค่อยสมจริง
- เอฟเฟกในบางเกมขาดหายไปจากที่เคยมีในพวงมาลัยรุ่นเล็ก
- Force Feedback เวลาสั่นเสียงดังจนน่ารำคาญและน่าตกใจสุด ๆ
- ไม่มี Sequential shifter
- ทั้งชุดนั้นค่อนข้างใหญ่ มีหลายชิ้น ถ้าจะถอดเข้าถอดออกบ่อย ๆ ค่อนข้างน่ารำคาญ เหมาะกับคนที่มีโต๊ะเล่นเป็นหลักเป็นแหล่งมากกว่า
- Shift light LED ที่มองเห็นได้ยากมาก
- ดูแลรักษายาก ถ้าแกะเองไม่ค่อยเป็นแนะให้ตั้งในห้องที่ไม่มีฝุ่นจะดีกว่า
โดยรวมแล้วเป็นพวงมาลัยที่จะว่าคุ้มค่าก็ได้ แต่สำหรับราคาที่ประมาณ 9,900 ที่ขายในเมืองไทยนั้นก็ยังสูงอยู่ดี และว่ากันตามตรงแล้วเอฟเฟกก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่า DFGT สักเท่าไหร่หรอก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่นด้วย ถ้าต้องการจะใช้คลัชท์ ใช้กระปุกเกียร์ H-Pattern แล้ว พร้อมทั้งต้องการให้ทั้งชุดต่อเข้าได้ด้วย USB หัวเดียว G27 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ
และข้อดีที่ผมเห็นว่าควรจะใช้ตัวนี้อีกอย่างก็คือมันเงียบ เหมาะสำหรับคนที่ใช้ห้องร่วมกับคนอื่นมาก ตราบใดที่ไม่ได้เล่นเกมที่มีเอฟเฟกสั่นน่ะนะ
ถ้าหากมี DFGT อยู่แล้ว ไม่ค่อยแคร์เรื่องเสียงรบกวนเท่าไหร่ แค่อยากจะได้แป้นเหยียบ 3 แป้น แนะนำให้ลองหาซื้อเฉพาะแป้นเหยียบของ G25 หรือ G27 จากคนที่พวงมาลัยพังมา แล้วใช้กล่องแปลงสัญญาณเข้า USB โดยตรง หาได้ที่นี่ >> http://www.leobodnar.com/products/DFPG25conn/ จะได้ความละเอียดที่มากกว่าเอาแป้นต่อกับพวงมาลัยอีกด้วย
หรือถ้าอยากได้กระปุกเกียร์ด้วยก็จัดนี่ไปเลย Thrustmaster TH8RS สามารถเข้าเกียร์เดินหน้าได้ถึง 7 เกียร์ ปรับเป็น sequential ก็ได้ ยังจะคุ้มกว่าอัพเกรดเป็น G27 ทั้งตัวอีกครับ เพราะจะได้ของคุณภาพเยี่ยมทั้งชุดแบบไม่มีกั๊ก นอกจากอยากได้ paddle shifters แบบนี้และต้องเป็น G27 เท่านั้นจริง ๆ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คำที่บอกเอาไว้ว่า"รักเกมขับรถจริงต้องใช้ G25/27" นั้น ไม่ได้เป็นจริงอย่างนั้นสักหน่อย ถ้ารักเกมขับรถจริงควรจะใช้ของที่มีอยู่ให้ได้คุ้มค่า ไม่ใช่อวดว่าตัวเองใช้อะไร หรือคนอื่นไม่ได้ใช้รุ่นไหนแล้วไม่รักจริง ควรมาร่วมกันสร้างสังคมคนเล่นเกมที่ดีขึ้น มีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือกัน เพื่อให้มีคนอยากเล่นเกมแนวนี้มากขึ้นดีกว่า อย่างนี้สิ รักเกมขับรถจริงครับ
มาต่อกันที่รายการสุดท้ายกันเลย ต่อไปนี้คือวิธีการแกะพวงมาลัยกับแป้นเหยียบ Logitech G27 นะครับ ถ้าอยากทำความสะอาด ทาจารบีใหม่ หรือโมอะไรก็สามารถทำต่อจากนี้ได้เลย
ในการแกะพวงมาลัยออกมานั้นทำความสะอาดหรือทาจารบีใหม่นั้น สามารถทำได้ดังนี้
- ใช้ประแจ 6 เหลี่ยมไขพวงมาลัยออกมา จะเจอว่ามันติดสายไฟสำหรับปุ่มอยู่ จะถอดออกก่อน หรือไขเอาแผงวงจรออกมาทั้งอันก็ได้
- ดึงสายไฟจากไส้ในพวงมาลัยออกจากแผงวงจร พยายามอย่าให้หมุนหนีไปไหน
- หลังจากไขเอาแผงวงจรออกมาแล้ว จะมีน๊อต(ยาวมากกกก)อีก 3 ตัวอยู่ที่คอพวงมาลัยเพื่อยึด paddle shifters ออก
- แล้วหาวิธีติดสายไฟที่ดึงออกไว้ให้มั่นคง ไม่หมุนหนีไปไหน ตรงนี้ผมใช้กระดาษกาวแปะ
จะได้ดังนี้ และเห็นได้เลยว่าข้างในไม่เป็นเป็นเหล็ก แต่เป็นคอพลาสติก
- พลิกไปด้านหลังพวงมาลัย ไขน๊อตสีเงินออกให้หมด
- พลิกมาด้านหน้า ยกเคสจากทางด้านหลัง แล้วเลื่อนออกมาด้านหน้าผ่านคอพวงมาลัย
- จะเห็นแผงวงจรข้างใน ให้ไขน็อตออก พร้อมกับแกะสายไฟออกให้หมด จากนั้นไขเอาเหล็กยึดออก
ด้านหลังของพวงมาลัย แกะออกให้ครบทุกสาย และนำแผงวงจรไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย
- จากนั้นพลิกไปด้านหลัง ไขน๊อตสีดำอีก 4 ตัวออก กลไกพวงมาลัยจะหลุดออกมา
- ตรงนี้ดูกลไกกำหนดวงรอบพวงมาลัยให้ดี เวลาใส่กลับต้องมั่นใจว่าหมุนได้เท่ากันทั้งซ้าย - ขวา และไม่มีฟันเพืองเกินแต่ละข้าง
- ไขน็อตจากแผ่นเหล็กด้านหลัง พวงมาลัยจะหลุดออกมาดังภาพ แล้วก็ทำความสะอาด + ทาจารบีใหม่ได้เลยครับ จารบีที่ใช้ต้องเป็นจารบีขาวสำหรับพลาสติกเท่านั้น เน้นย้ำ จารบีขาวสำหรับพลาสติกเท่านั้น
ทำความสะอาดที่จุดนี้ แล้วก็ทาจารบีใหม่เข้าไปได้เลย
ถ้าจะทำความสะอาดหรือแกะแป้นเหยียบ สามารถทำได้ดังนี้
- ใช้ประแจ 6 เหลี่ยม 2.5mm ไขแป้นเหยียบออกให้หมด
- พลิกไปด้านหลัง ไขน๊อตสีเงินออก 14 ตัว ดูดี ๆ เพราะมองเห็นได้ 12 แต่มีอีก 2 ตัวซ่อนอยู่หลังขาล๊อกกับพรม
- ยกฝาครอบด้านบนออก ) เวลาดึงออกมาระวังสายไฟที่ติดอยู่กับบอดี้ด้านบนด้วย ระวังอย่าให้ขาด
- สามารถไขเอาน๊อตที่ล๊อกสายไฟกับออกได้
ถ้าจะทำความสะอาด ลองหมุนมาดูด้านหลังแป้นเหยียบ จะเห็นว่ามีถาดเหล็กอยู่ ให้หาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดออกไปซะ หรือไม่ก็หาอะไรมาเช็ดฝุ่นออก จากนั้นเอาเสปรย์ contact cleaner พ่นเข้าไปใน potentiometer ครับ เวลาที่พ่นก็ขยับแป้นเหยียบด้วย จะได้โดนทั่วๆ
พ่นเข้าไปตรงที่วงสีแดงไว้เลย
ถ้าอยากถอดแป้นเหยียบออกเพื่อเอาไปแปะกับอย่างอื่น สามารถทำได้ด้วยการไขน็อตสีดำหลังแผ่นรองออก มีแป้นละ 4 ตัว พอออกมาแล้วระวังอย่าให้สายไฟขาด ก็จะสามารถเอาไปแปะกับที่อื่นได้แล้ว
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและคำติชมที่มีให้เสมอมา วันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
เกริ่นนำกันนิดนิง
Logitech G27 เป็นพวงมาลัยชนิด Force Feedback หรือตอบสนองด้วยแรง ต่างกับแบบสั่นนะครับ ข้อแตกต่างสามารถหาได้ไนรีวิว Logitech Driving Force GT ตามลิงค์นี้เลย >> http://www.overclockzone.com/forums/...ad.php/1041809
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก G25 ซึ่งเป็นรุ่นยอดฮิตที่มีความสามารถรอบด้านและได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม มีกลุ่มผู้ใช้ (และแฟนคลับ/แฟนบอย) น่าจะเยอะที่สุดในโลกก็ว่าได้ จนกระทั่งเมื่อมีการแนะนำจอยพวงมาลัยอะไรสักอย่าง แทบทุกคนจะบอกว่าให้ซื้อ G25 จนกลายเป็นกระแส อยากเทพ อยากแรง ต้อง G25 ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็น "ถ้าไม่ใช้ G25 แสดงว่าไม่รักเกมขับรถจริง" เมื่อมาถึงรุ่นถัดไปอย่าง G27 กระแสแบบนี้ก็ยังคงตามมาแถมยังหนักขึ้นซะด้วย แล้วรุ่นใหม่จะมีอะไรปรับปรุงบ้าง มันจะเทพสมคำร่ำลือไหม มาดูกันเลยครับ
คุณสมบัติของ Logitech G27
- หมุนได้ 900 องศา
- เส้นผ่านศูนย์กลางพวงมาลัย 28 ซม. หรือ 11 นิ้ว
- ตอบสนองแบบ Force Feedback
- 16ปุ่ม (รวมเกียร์ paddle shifter)
- D-Pad 8 ทิศทาง
- H-Pattern Gearbox หรือ Gated Shifter เป็นโมดูลแยกออกมา
- Paddle Shifters
- แป้นเหยียบ 3 แป้น พร้อมคลัชท์
- เชื่อมต่อผ่าน USB
คราวนี้ไม่มีรูปหน้ากล่องให้ดูนะครับ พอดีเก็บกวาดห้องไปแล้วเพิ่งมีเวลาถ่ายรูป
ในแพคเกจจะมีชุดพวงมาลัย 3 ชิ้น ตัวพวงมาลัย แป้นเหยียบ แล้วก็กระปุกเกียร์ พร้อมกับหม้อแปลงอีก 1 ตัว ซึ่งจะดูกันต่อไปครับ
พวงมาลัยชุดนี้รองรับกับ PC, PS3, PS2
ส่วน Xbox360 ไม่สามารถใช้ได้ทันที มีกล่องแปลงขายอยู่เหมือนกันแต่ไม่เวอร์คเท่าไหร่ เพราะวงเลี้ยวจำกัด ปุ่มไม่ตรง และไม่มี Force Feedback ครับ นอกจากนี้กล่องที่ว่ายังราคาแพงซะจนซื้อพวงมาลัยสำหรับ Xbox360 อีกอันเลยจะดีกว่า
มาเริ่มที่ตัวพวงมาลัยกันก่อน
วัสดุเป็นเหล็กหุ้มด้วยหนัง มีรูปร่างและร่องโค้งนูนเพื่อรับกับมือได้เป็นอย่างดี ถึงตัวพวงมาลัยจะเป็นเหล็ก แต่ไส้ในนั้นเป็นพลาสติกนะครับ ไม่ได้เป็นเหล็กทั้งชุดอย่างที่หลาย ๆ คนคิด
มีปุ่มบนตัวพวงมาลัย 6 ปุ่ม เป็นปุ่มพลาสติก แป้น paddle shifters ทำมาจากเหล็กเหมือนกัน มีระยะห่-างที่พอดีมือมาก นอกจากนี้ยังมี Shift Light LED บอกด้วยว่าเมื่อไหร่ควรเปลี่ยนเกียร์
ทางด้านระบบ Force Feedback เป็นเฟืองตัดเฉียงหรือ Helical Gear ทำให้เสียงเงียบและลื่นไหลครับ
การล๊อกกับโต๊ะก็จะเป็นมาตราฐานของ Logitech คือปุ่มหมุนปรับขาล๊อกสองด้าน เนื่องจากเป็นรุ่นสูงจึงสามารถกดปุ่มหมุนเก็บลงไปได้ให้ดูเรียบหรูมีสกุลรุนชาติ ขาล๊อกแบบนี้แน่นหนามากครับ ใช้กับโต๊ะทั่วไปได้ไม่มีปัญหา ไม่มีเลื่อนหลุด
เมื่อพลิกด้านหลังของพวงมาลัยจะเป็นว่าทุกอย่างนั้นจะต่อเข้าไปจากด้านในของบอดี้ แล้วมีที่เก็บสายให้ด้วยเพื่อความเป็นระเบียบ ดังนั้นเวลาที่ใช้พวงมาลัยตัวนี้ สายที่ออกมาจากพวงมาลัยจะเป็น 4 เส้น ไม่มีปลั๊กอยู่ด้านนอกให้รำคาญลูกตา
และที่สำคัญคือมีจุด hard mount หรือรูน๊อต(วงกลมสีแดง)สำหรับไขล๊อกกับ cockpit/wheel stand มาให้ด้วย สำหรับคนที่อยากติดตั้งให้มั่นคงครับ
การใช้งานพวงมาลัยนั้น จับได้อย่างถนัดมือ จะมีติดขัดนิดหน่อยก็ตรงที่ปุ่มทั้ง 6 ปุ่มนั้นเล็กและอยู่ใกล้กันมาก สำหรับคนมือใหญ่ ๆ แรก ๆ จะกดพลาดไปโนปุ่มที่ไม่ต้องการบ่อยมากครับ สำหรับเกมบางแนว ปุ่มบนพวงมาลัยแค่ 6 ปุ่มก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับบางแนวเช่น F1นั้นก็ไม่พอ เนื่องจากการจะละมือจากพวงมาลัยไปกดปุ่มจากที่อื่นนั้นทำได้ลำบากและไม่สะดวกสักเท่าไหร่
ตัวพวงมาลัยหมุนได้ตั้งแต่ 40 ถึง 900 องศา สามารถปรับได้จากใน Driver และ Profiler ในกรณีที่แต่ละเกมปรับไม่เหมือนกัน ทั้งนี้แนะนำให้ใช้เพราะการขับรถแต่ละอย่างนั้น วงรอบพวงมาลัยมันไม่เท่ากันหรอกครับ เวลาปรับก็ดูดี ๆ ให้เหมาะกับรูปแบบเกมที่เล่นด้วย ไม่ใช่ยัดมัน 900 องศาทุกเกมเพราะดูเทพดีแม้จะเป็น Open wheel, Prototype, GT Touring เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร แต่ถ้าซื้อพวงมาลัยมาเพื่อเล่นให้สมจริงมากขึ้นแล้วทำแบบนี้มันยิ่งห่-างไกลความเป็นจริงเข้าไปอีกนะเนี่ย
เนื่องจากพวงมาลัยถูกหุ้มด้วยหนัง ดังนั้นสำหรับคนที่แพ้หนัง(มีจริงๆนะเออ ตัวผมถ้าเหงื่อออกแล้วโดนพวกหนังแบบนี้ถู จะมีโอกาสเป็นผื่นสูงมาก) เล่นไปสักพักแล้วต้องกดหยุดเกมเพื่อพักสักนิด เช็ดมือให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาเล่นต่อ
การหุ้มหนังนั้นก็มีจุดบอดอยู่เหมือนกัน คือด้ายที่เย็บในบางจุดดูจะไม่เรียบร้อยสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะจุดที่เอานิ้วโป้งแหย่เข้าไป(ถ้าจับพวงมาลัยตามตำแหน่ง 9-3) เวลาจับแน่น ๆ จะมีด้ายออกมาถูมือเกือบตลอดเวลา รำคาญเอาเรื่อง แต่ก็ยังดีกว่าโดนตะเข็บหล่อของพลาสติกบาดแบบบางรุ่นก็แล้วกัน
ด้าน paddle shifters นั้นอย่างที่บอกไปแล้วว่าวางตำแหน่งได้ดี ไม่ชิดหรือห่-างจนเกินไป และเวลากดจะให้ความรู้สึกเหมือนคลิกลงไป ทำให้มั่นใจว่ากดลงไปแล้วแน่นอนครับ เป็นความรู้สึกที่สุดยอดจริงๆ นอกจากนี้แป้นยังมีขนาดใหญ่พอที่จะกดอย่างสะดวกได้ไม่ว่าจะจับพวงมาลัยตำแหน่งไหนก็ตาม
ส่วนออปชั่นเสริมอย่าง Shift light ที่เป็น LED นั้น แสงมันช่างอ่อนแรงซะเหลือเกิน ถ้าใช้ในห้องสว่าง ๆ ก็จะโดนแสงอื่นเบียดบังจนแทบไม่ทันสังเกต ถ้าใช้ในห้องมืด ๆ แล้วปรับแสงจอมากๆก็โดนแสงจอบดบัง ทำให้มองไม่เห็นอีก... เหมือนจะเป็นฟีเจอร์ที่ดีนะครับ ถ้าไฟดวงใหญ่แล้วแรงกว่านี้อีกจะดีมาก นอกจากนี้ยังไม่สามารถใช้ได้ทุกเกมนะครับ ได้เฉพาะเกมที่รองรับเท่านั้น
มาดูทางด้านระบบ Force Feedback กันบ้าง
ระบบของพวงมาลัยตัวนี้เป็นเฟืองตัดเฉียงอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ประกอบกับมีมอเตอร์สร้างแรงต้านและเอฟเฟกถึง 2 ตัว ทำให้การใช้งานนั้นเงียบ กล้าบอกเลยว่าเงียบที่สุดในบรรดาพวงมาลัย Force Feedback ระบบเฟืองครับ
ตอนหมุนไปหมุนมากมันก็เงียบอยู่หรอก แต่ความสงบสุขจะถูกทำลายลงทันทีเมื่อท่านไปชนอะไรเข้า หรือปีนขอบ ปีน curb พวงมาลัยจะสั่นพร้อมกับเสียงที่ดัง "แครกกกกกกกกก" ยันหน้าปากซอยเลยทีเดียว ดังนั้นถ้าคิดว่ามันราบรื่นทุกย่างก้าวขอให้คิดใหม่ซะนะ
มาถึงทางด้านแรงต้านและเอฟเฟกกันดีกว่า พวงมาลัยให้ความรู้สึกที่ดีมาก การหมุนนั้นทำได้อย่างราบรื่น เวลาหมุนก็พอรู้อยู่ว่ามันเป็นฟีลของเฟือง แต่มันลื่นและต่อเนื่องซะจนให้ความรู้สึกลื่นไหลและแม่นยำได้อย่างไม่น่าเชื่อ เวลาเจอโค้งความเร็วสูงยาวๆนั้นไม่ได้รู้สึกว่าหมุนไปล๊อกทีละฟันเฟืองเลย เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ ตัวพวงมาลัยนั้นนอกจากลื่นแล้ว ยังหมุนได้เร็วอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่จะเอาไว้เล่นพวกดริฟท์เป็นอย่างมาก
มาถึงด้านเอฟเฟกของตัวพวงมาลัยบ้าง ของพวกนี้ต่างกันไปตามความสามารถของเกมเป็นส่วนใหญ่ ในที่นี้ผมจะพูดรวมๆนะครับ
ก่อนอื่นต้องบอกเรื่องมาตราฐานของ Logitech ให้รับได้กันก่อน ซึ่ง Force Feedback (FFB)ของพวงมาลัยจาก Logitech นั้น จะไม่ทำงานหรือทำก็น้อยมากในช่วงตรงกลางของวงเลี้ยว หรือเวลาที่ตั้งพวงมาลัยไว้ตรงๆนั่นล่ะครับ ดังนั้นจงยอมรับซะเถิดเอยว่าของรุ่นท๊อปมันก็เป็นเหมือนกันนะ
การแสดงอาการถ่ายน้ำหนัก การสลับซ้าย - ขวาและ counter steer ของพวงมาลัยนั้นทำได้อย่างดี รวดเร็วทันใจและลื่นไหลไม่มีติดขัด เอฟเฟกการปีน curb ต่างๆนั้น (ในเกมที่ FFB ดีมาก ๆ) สามารถรู้สึกถึงแนวที่เราสัมผัสตัว curb ได้ แล้วก็รู้สึกได้ถึงความสูง ความชันของ curb ได้เลยทีเดียวครับ เรียกได้เลยว่ามีการตอบสนองกับแรง grip รวมไปถึงองศาล้อได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนเอฟเฟกสั่นในจอยตัวนี้จะเบากว่า Driving Force GT อยู่หน่อย และเอฟเฟกที่เป็นสิ่งรอบข้างบางอย่างนั้นไม่สามารถแสดงออกมาได้เหมือนกับรุ่นเล็กกว่าอย่าง Driving Force GT ซะอย่างนั้น ยกตัวอย่างเช่นในเกมที่ใช้เอนจิ้น GMotor 2 จะไม่แสดงอาการสั่นของตัวรถเวลาเหยียบคันเร่งตอนรถอยู่เฉย ๆ ซึ่งตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่นด้วย และเอฟเฟกที่ว่าก็ไม่ได้ช่วยให้ขับเร็วขึ้นตรงไหน เป็นแค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น ที่เหลือสามารถแสดงออกมาได้อย่างเกือบสมบูรณ์แบบครับ เพียงแค่การสั่นเบากว่ารุ่นเล็กกว่าอย่าง DFGT เท่านั้น
มาว่ากันด้วยฟีลถนนต่างๆ G27 สามารถตอบสนองแรง Grip ของรถได้อย่างดี แต่ถ้าฟีลถนนมีการสั่นหรือกระแทกเมื่อไหร่ สำหรับคนที่เคยใช้ DFGT แล้วอัพเกรดมา(โดยที่ยังใช้ settings เดิมอยู่)จะรู้สึกได้เลยว่ามันกระแทกเบากว่าเดิมเยอะ
อย่างไรก็ดี แรงกระแทกที่ว่านี้ถึงจะไม่แรงเท่ารุ่นเล็กกว่า แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือมันนุ่มนวลกว่าครับ ไม่ได้กระแทกมาแบบโครม ๆ เอาเป็นเอาตาย อันนี้จะมาแบบถูกดันออกอย่างนิ่มนวลแต่มีพลัง
สรุปง่าย ๆ ว่าฟีลแทบไม่ต่างกันกับรุ่นเล็ก แต่ G27 จะออกไปทางนิ่มนวลและต่อเนื่อง รวมไปถึงรายละเอียดของแรงยึดเกาะที่มากกว่าครับ ส่วนแรงสั่นสำหรับบางเอฟเฟกอาจจะน้อยนิดนึง แต่ไม่ถึงกับบางเบา แค่ไม่กระแทกรุนแรงถึงใจสะท้านไปทั้งแขนเท่านั้น รวมกันทั้งหมดแล้วเป็นแพคเกจ FFB ที่ดีมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่นด้วยว่า FFB ดีแค่ไหน โดยเฉพาะถ้าเล่นแนว Simulation อันที่มีระบบ FFB ดี ๆ แล้ว จะช่วยให้เรียนรู้ตัวรถและสนามได้ง่ายขึ้น และพัฒนาฝีมือได้ดีขึ้นครับ ส่วนถ้าเล่นเกมทั่วไปก็ไม่ต่างกันเลย
กระปุกเกียร์ของรุ่นนี้จะเป็นชุดแยกออกมา บนตัวกระปุกเกียร์จะมีปุ่มอีก 8 ปุ่ม พร้อมกับ D-pad 8 ทิศทาง
การเข้าเกียร์นั้น แต่ละเกียร์จะถือว่าเป็น 1 ปุ่มครับ ทั้งหมดมี 7 เกียร์ เดินหน้า 6 ถอยหลัง 1
การล๊อกกระปุกเกียร์นั้นใช้วิธีเดียวกับพวงมาลัย คือเป็นปุ่มหมุนปรับที่คีบ
เมื่อพลิกไปด้านหลังจะเห็นว่านอกจากขาล๊อก 2 อันแล้ว ยังมีแท่งล๊อกอีกอันหนึ่งเพื่อช่วยไม่ให้กระปุกเกียร์พลิกคว่ำหรือหลุดลงมาขณะใช้ และมีรูน๊อต(วงกลมสีแดง)สำหรับไขล๊อกกับ cockpit/wheel stand อย่างถาวรอีกด้วย
มาดูเรื่องเล็กกันก่อนคือปุ่มทั้ง 8 กับ D-pad ปุ่มแต่ละปุ่มนั้นกดลงไปเหมือนกันปุ่มทั่วไป ส่วน D-pad 8 ทิศทางเป็นปุ่มลอยเหมือนกับในจอยแพดของ Logitech เลยครับ
ตัวกระปุกเกียร์นั้นมีการปรับปรุงจาก G25 มานิดนึงตรงที่ไม่สามารถสลับเป็น Sequential (กดขึ้น-ลง) ได้ เพื่อให้ H-Pattern นั้น แน่นหนาและคงทนยิ่งขึ้นครับ
วิธีการเข้าเกียร์เดินหน้านั้นก็เหมือนปกติทั่วไป ส่วนวิธีการเข้าเกียร์ถอยหลังจะเข้าที่ตำแหน่งเกียร์ 6 โดยที่ต้องกดก้านเกียร์ลงไปแล้วดึงลงมาถึงจะเข้าได้ครับ การเข้าแต่ละเกียร์ให้ฟีลที่ดี แน่นหนาพอสมควร(เท่าที่ชิ้นส่วนพลาสติกจะให้ได้) และมีฟีลของสลักที่ทำให้รู้ว่าเข้าเกียร์ลงแน่นอน แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่การออกแบบเกียร์นั้นต้องทำให้อยู่ในชิ้นส่วนเล็กๆ ดังนั้นแต่ละเกียร์จึงชิดกันมาก สำหรับคนที่ขับรถจริงมาแรก ๆ อาจมีการเข้าผิดพลาดบ้าง
และที่แน่ ๆ คือยังไงซะ นี่ก็เป็นแค่อุปกรณ์เกม สามารถสับเกียร์ได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องกดคลัชท์ครับ และไม่มีฟีลของการตัดกำลังแรงส่งของเครื่องยนต์มาหรอก ซึ่งก็แน่อยู่แล้วน่ะนะ นี่คือชุดสลักพลาสติก ไม่ใช่เครื่องยนต์จริง ๆ สักหน่อย ดังนั้นอย่าไปคิดว่ามันจะเหมือนรถจริง 100% ครับ แค่พอได้ฟีลสนุก ๆ เท่านั้น
ถ้าถามว่าอารมณ์ในการที่ได้เข้าเกียร์แบบนี้สนุกกว่าเดิมไหม ต้องบอกว่าแล้วแต่เกม แล้วแต่แนวการขับของแต่ละคนครับ แน่นอนว่ามันรู้สึกสนุกและเข้าใกล้ของจริงขึ้นที่ได้สับเกียร์เวลาขับรถ แต่ถ้าเล่นแนวรถแข่งในสนาม (ซึ่งสมัยนี้เป็น Sequential ทั้งนั้น) ถึงจะสนุกและลุ้นดี แต่เวลาที่ทำได้คงสู้ใครเข้ายาก มานั่งสับเกียร์ไป ๆ มา ๆ ไม่กันกินกันพอดี ซ้ำร้ายยังทำให้ช้ากว่าเดิมด้วย แต่มีข้อดีอยู่ส่วนนึงตรงที่สามารถข้ามเกียร์ได้โดยไม่ต้องกดเรียงกันครับ ส่วนถ้าเล่น modern F1 ที่ใช้ paddle shifters กันแล้วด้วยเกียร์กระปุกก็เป็นอะไรที่ตลก และห่-างไกลความจริงเข้าไปอีก
ส่วนถ้าเล่นเกมแนวขับตระเวณท่องไปตามถนนแบบ Test Drive Unlimited ภาคแรกที่ FFB ดีๆ... (เน้นย้ำ ภาคแรก... เพราะสำคัญถึงต้องพูด 2 ครั้ง) การเปลี่ยนเกียร์ด้วยกระปุกเป็นอะไรที่ทำให้สนุกแบบสั่นสะท้านไปทั้งตัวเลยก็ว่าได้ แต่การขับรถบางคันที่มีถึง 7 เกียร์ก็เป็นอะไรที่ทำไม่ได้น่ะนะ เพราะกระปุกมันสุดแค่ 6
มาถึงแป้นเหยียบกันบ้าง
แป้นเหยียบเป็น 3 แป้น ผิวหน้าทำจากเหล็ก สอดไส้ด้วยพลาสติก ตรงที่เป็นปุ่มดำๆนั่นล่ะ อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นยางนะ มันเป็นพลาสติก โดยที่คันเร่งจะอยู่ลึกกว่าเบรกและคลัชท์อยู่นิดนึง
พลิกมาด้านหลังจะเห็นว่ามีที่ยึดกับพรมตามสไตล์ Logitech และที่ขาดไม่ได้คือรูน๊อต (วงกลมสีแดง) สำหรับไขล๊อกกับ cockpit/wheel stand อย่างถาวรครับ
แป้นเหยียบสามารถปรับแป้นไปทางซ้ายหรือขวาได้ วิธีการคือใช้ประแจอัลเลน (ประแจ 6 เหลี่ยม) ขนาด 2.5 mm ไขเอาน๊อตออกมา จากนั้นสามารถขยับซ้าย - ขวาได้ตามสะดวก
อย่างที่บอกไปแล้วว่าผิวเป็นเหล็ก สอดไส้ด้วยพลาสติกครับ
แป้นเหยียบสามารถแกะออกมาได้โดยการไขเอาตัวแป้นออก จากนั้นพลิกไปด้านหลังแล้วไขน๊อตออกอีกจำนวน 14 ตัว (มีอีก 2 ตัวซ่อนอยู่หลังขาล๊อกกับพรม) เวลาดึงออกมาระวังสายไฟที่ติดอยู่กับบอดี้ด้านบนด้วย ถ้าขาดไปล่ะก็งานเข้าแน่นอน
เมื่อดึงออกมาจะได้หน้าตาแบบนี้
จะเห็นว่าแป้นเหยียบนั้นแยกเป็นชิ้นๆ จริงๆแล้วสามารถถอดออกมาจากบอดี้ได้อย่างอิสระเลยครับ ทำให้สามารถโยกย้ายไปต่อกับอะไรก็ได้ จะเอาไปพลิกกลับหัวต่อกับ cockpit ก็ยังได้
และ เซนเซอร์ของแป้นเหยียบใช้ potentiometer ในการวัดระยะทางที่กดลงไปทั้ง 3 แป้น
แรงต้านของแป้นทั้ง 3 มาจากสปริงที่อยู่ในกระบอกสีแดงนะครับ เห็นมาเป็นกระบอกแบบนี้อย่าคิดว่าข้างในจะเป็นไฮโดรลิคหรือปั๊มลมหรืออะไรต่างๆนาๆ ที่เห็นอยู่เป็นแค่ดีไซน์ให้ดูเท่ + ดูโปรฯเฉยๆ ไส้ในก็ linear spring (สปริงแรงเท่ากันตลอดทาง) บ้านๆนี่หล่ะ
การใช้งานแป้นเหยียบนั้นเป็นส่วนสำคัญมากสำหรับการแข่งรถ อย่างที่ผมเคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าสิ่งที่ช่วยให้เร็วไม่ใช่ตัวพวงมาลัยเป็นหลัก แต่คือแป้นเหยียบต่างหาก ซึ่ง G27 ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแป้นเหยียบที่มีความละเอียดสูง และช่วงกดยาวได้เป็นอย่างดีครับ ถึงจะไม่เท่าพวกท๊อป ๆ ราคาแพง ๆ แต่ก็เยี่ยมสำหรับแป้นมาตรฐานของพวงมาลัยที่มาเป็นชุดแล้ว แค่ได้ลองใช้เฉพาะแป้นเหยียบ G27 กับพวงมาลัยอื่นก็พบว่าเวลาต่อรอบลดลงไปอย่างน่าตกใจ
น้ำหนักของแต่ละแป้นนั้น หนักไม่เท่ากัน แต่ก็ไม่หนักถึงขนาดต้องเล่นด้วยรองเท้าครับ พอใช้รองเท้าปั๊ปจะรู้สึกได้เลยว่าแรงต้านไม่พอ
- คันเร่งจะเบาที่สุด แต่มีแรงต้านและระยะทางพอที่จะปรับระดับการเร่งได้อย่างสบาย
- เบรกจะหนักที่สุด แต่ทว่าสปริงข้างในเป็น linear spring ซึ่งทำให้แรงกดเท่ากันตลอด ไม่มีการปรับแรงกดซึงทำให้เราต้องจำตำแหน่งการเบรกจากระยะที่กดลงไป แทนที่จะเป็นกดลงไปแรงเท่าไหร่ ออกจะผิดกับรถจริงสักนิดแต่น้ำหนักแป้นเหยียบก็ทำได้อย่างดีแล้ว
- คลัชท์จะกลางๆค่อนไปทางเบาครับ ตรงนี้ก็มีข้อเสียอีกเหมือนกันในเมื่อมันใช้สปริงธรรมดาและไม่มีการตอบสนองอะไร ดังนั้นจะต่างจากรถจริงตรงที่เราสามารถรู้สึกถึง clutch biting point ได้จากความรู้สึกที่เท้า แต่ในเมื่อนี่มันเป็นแค่สปริง + potentiometer ดังนั้นมันไม่สามารถตอบสนองอะไรแบบนั้นได้หรอก และที่แน่ๆคือฟีลมันสปริงสุดๆ แทบไม่ได้มีฟีลแบบคลัชท์เลยก็ว่าได้ครับ
หม้อแปลง
รุ่นนี้นั้น จะเป็นแบบสองท่อนครับ ดังนั้นถ้าคิดว่าสายไฟที่ให้มายาวไม่พอ สามารถซื้อสายอื่นมาใส่แทนได้นะ
หม้อแปลงจ่ายไฟ DC 24V 1.75A นะครับ (จดไว้ก็ดีเผื่อทำหม้อแปลงระเบิด อิ ๆ)
คั่นรายการสักนิด ดูว่าเวลาใช้งานจริงเป็นยังไง เสียงดังแค่ไหนครับ
เรามาสรุปกันเลยดีกว่าครับ
ข้อดี
- พวงมาลัยวงใหญ่ถึง 11" หรือ 28 ซม. หุ้มหนังรูปร่างถนัดมือ
- หมุนได้900องศา
- เสียงแรงต้าน Force Feedback เงียบมาก
- Force Feedback ตอบสนองกับรถได้ดีมาก ฟีลรถครบถ้วน สมบูรณ์
- ครบชุดทั้งกระปุกเกียร์ H-Pattern และ แป้นคลัชท์
- แป้นเหยียบน้ำหนักดี ระยะกดดี
- ขาล๊อกแน่นหนา ไม่ลื่นหลุดง่าย แถมยังมีรูน๊อตไว้ไขติดตั้งอย่างถาวร
- ใช้ USB แค่หัวเดียวแต่มีทุกอย่าง เหมาะสำหรับคนที่ช่อง USB น้อย แต่อยากได้ฟีเจอร์เยอะ หรือแม้แต่เล่นเกมด้วย gaming laptop
- สามารถย้ายกระปุกเกียร์ไปไว้ข้างไหนก็ได้
- มีอุปกรณ์แต่งให้เลือกหลากหลาย เพราะเป็นพวงมาลัยยอดฮิต
- แป้นเหยียบสามารถแกะออกมาได้เป็นชิ้น ๆ เพื่อนำไปติดตั้งที่อื่น
ข้อเสีย
- แพง และฟีเจอร์ที่ได้ดูจะไม่ค่อยสมกับราคาที่แพงกว่า Driving Force GT เท่าตัวนึง
- แป้นเบรกกับคลัชท์แม้น้ำหนักจะดีแต่ความรู้สึกยังไม่ค่อยสมจริง
- เอฟเฟกในบางเกมขาดหายไปจากที่เคยมีในพวงมาลัยรุ่นเล็ก
- Force Feedback เวลาสั่นเสียงดังจนน่ารำคาญและน่าตกใจสุด ๆ
- ไม่มี Sequential shifter
- ทั้งชุดนั้นค่อนข้างใหญ่ มีหลายชิ้น ถ้าจะถอดเข้าถอดออกบ่อย ๆ ค่อนข้างน่ารำคาญ เหมาะกับคนที่มีโต๊ะเล่นเป็นหลักเป็นแหล่งมากกว่า
- Shift light LED ที่มองเห็นได้ยากมาก
- ดูแลรักษายาก ถ้าแกะเองไม่ค่อยเป็นแนะให้ตั้งในห้องที่ไม่มีฝุ่นจะดีกว่า
โดยรวมแล้วเป็นพวงมาลัยที่จะว่าคุ้มค่าก็ได้ แต่สำหรับราคาที่ประมาณ 9,900 ที่ขายในเมืองไทยนั้นก็ยังสูงอยู่ดี และว่ากันตามตรงแล้วเอฟเฟกก็ไม่ได้ดีเด่นไปกว่า DFGT สักเท่าไหร่หรอก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเกมที่เล่นด้วย ถ้าต้องการจะใช้คลัชท์ ใช้กระปุกเกียร์ H-Pattern แล้ว พร้อมทั้งต้องการให้ทั้งชุดต่อเข้าได้ด้วย USB หัวเดียว G27 ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากครับ
และข้อดีที่ผมเห็นว่าควรจะใช้ตัวนี้อีกอย่างก็คือมันเงียบ เหมาะสำหรับคนที่ใช้ห้องร่วมกับคนอื่นมาก ตราบใดที่ไม่ได้เล่นเกมที่มีเอฟเฟกสั่นน่ะนะ
ถ้าหากมี DFGT อยู่แล้ว ไม่ค่อยแคร์เรื่องเสียงรบกวนเท่าไหร่ แค่อยากจะได้แป้นเหยียบ 3 แป้น แนะนำให้ลองหาซื้อเฉพาะแป้นเหยียบของ G25 หรือ G27 จากคนที่พวงมาลัยพังมา แล้วใช้กล่องแปลงสัญญาณเข้า USB โดยตรง หาได้ที่นี่ >> http://www.leobodnar.com/products/DFPG25conn/ จะได้ความละเอียดที่มากกว่าเอาแป้นต่อกับพวงมาลัยอีกด้วย
หรือถ้าอยากได้กระปุกเกียร์ด้วยก็จัดนี่ไปเลย Thrustmaster TH8RS สามารถเข้าเกียร์เดินหน้าได้ถึง 7 เกียร์ ปรับเป็น sequential ก็ได้ ยังจะคุ้มกว่าอัพเกรดเป็น G27 ทั้งตัวอีกครับ เพราะจะได้ของคุณภาพเยี่ยมทั้งชุดแบบไม่มีกั๊ก นอกจากอยากได้ paddle shifters แบบนี้และต้องเป็น G27 เท่านั้นจริง ๆ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด คำที่บอกเอาไว้ว่า"รักเกมขับรถจริงต้องใช้ G25/27" นั้น ไม่ได้เป็นจริงอย่างนั้นสักหน่อย ถ้ารักเกมขับรถจริงควรจะใช้ของที่มีอยู่ให้ได้คุ้มค่า ไม่ใช่อวดว่าตัวเองใช้อะไร หรือคนอื่นไม่ได้ใช้รุ่นไหนแล้วไม่รักจริง ควรมาร่วมกันสร้างสังคมคนเล่นเกมที่ดีขึ้น มีปัญหาอะไรก็ช่วยเหลือกัน เพื่อให้มีคนอยากเล่นเกมแนวนี้มากขึ้นดีกว่า อย่างนี้สิ รักเกมขับรถจริงครับ
มาต่อกันที่รายการสุดท้ายกันเลย ต่อไปนี้คือวิธีการแกะพวงมาลัยกับแป้นเหยียบ Logitech G27 นะครับ ถ้าอยากทำความสะอาด ทาจารบีใหม่ หรือโมอะไรก็สามารถทำต่อจากนี้ได้เลย
ในการแกะพวงมาลัยออกมานั้นทำความสะอาดหรือทาจารบีใหม่นั้น สามารถทำได้ดังนี้
- ใช้ประแจ 6 เหลี่ยมไขพวงมาลัยออกมา จะเจอว่ามันติดสายไฟสำหรับปุ่มอยู่ จะถอดออกก่อน หรือไขเอาแผงวงจรออกมาทั้งอันก็ได้
- ดึงสายไฟจากไส้ในพวงมาลัยออกจากแผงวงจร พยายามอย่าให้หมุนหนีไปไหน
- หลังจากไขเอาแผงวงจรออกมาแล้ว จะมีน๊อต(ยาวมากกกก)อีก 3 ตัวอยู่ที่คอพวงมาลัยเพื่อยึด paddle shifters ออก
- แล้วหาวิธีติดสายไฟที่ดึงออกไว้ให้มั่นคง ไม่หมุนหนีไปไหน ตรงนี้ผมใช้กระดาษกาวแปะ
จะได้ดังนี้ และเห็นได้เลยว่าข้างในไม่เป็นเป็นเหล็ก แต่เป็นคอพลาสติก
- พลิกไปด้านหลังพวงมาลัย ไขน๊อตสีเงินออกให้หมด
- พลิกมาด้านหน้า ยกเคสจากทางด้านหลัง แล้วเลื่อนออกมาด้านหน้าผ่านคอพวงมาลัย
- จะเห็นแผงวงจรข้างใน ให้ไขน็อตออก พร้อมกับแกะสายไฟออกให้หมด จากนั้นไขเอาเหล็กยึดออก
ด้านหลังของพวงมาลัย แกะออกให้ครบทุกสาย และนำแผงวงจรไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย
- จากนั้นพลิกไปด้านหลัง ไขน๊อตสีดำอีก 4 ตัวออก กลไกพวงมาลัยจะหลุดออกมา
- ตรงนี้ดูกลไกกำหนดวงรอบพวงมาลัยให้ดี เวลาใส่กลับต้องมั่นใจว่าหมุนได้เท่ากันทั้งซ้าย - ขวา และไม่มีฟันเพืองเกินแต่ละข้าง
- ไขน็อตจากแผ่นเหล็กด้านหลัง พวงมาลัยจะหลุดออกมาดังภาพ แล้วก็ทำความสะอาด + ทาจารบีใหม่ได้เลยครับ จารบีที่ใช้ต้องเป็นจารบีขาวสำหรับพลาสติกเท่านั้น เน้นย้ำ จารบีขาวสำหรับพลาสติกเท่านั้น
ทำความสะอาดที่จุดนี้ แล้วก็ทาจารบีใหม่เข้าไปได้เลย
ถ้าจะทำความสะอาดหรือแกะแป้นเหยียบ สามารถทำได้ดังนี้
- ใช้ประแจ 6 เหลี่ยม 2.5mm ไขแป้นเหยียบออกให้หมด
- พลิกไปด้านหลัง ไขน๊อตสีเงินออก 14 ตัว ดูดี ๆ เพราะมองเห็นได้ 12 แต่มีอีก 2 ตัวซ่อนอยู่หลังขาล๊อกกับพรม
- ยกฝาครอบด้านบนออก ) เวลาดึงออกมาระวังสายไฟที่ติดอยู่กับบอดี้ด้านบนด้วย ระวังอย่าให้ขาด
- สามารถไขเอาน๊อตที่ล๊อกสายไฟกับออกได้
ถ้าจะทำความสะอาด ลองหมุนมาดูด้านหลังแป้นเหยียบ จะเห็นว่ามีถาดเหล็กอยู่ ให้หาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดออกไปซะ หรือไม่ก็หาอะไรมาเช็ดฝุ่นออก จากนั้นเอาเสปรย์ contact cleaner พ่นเข้าไปใน potentiometer ครับ เวลาที่พ่นก็ขยับแป้นเหยียบด้วย จะได้โดนทั่วๆ
พ่นเข้าไปตรงที่วงสีแดงไว้เลย
ถ้าอยากถอดแป้นเหยียบออกเพื่อเอาไปแปะกับอย่างอื่น สามารถทำได้ด้วยการไขน็อตสีดำหลังแผ่นรองออก มีแป้นละ 4 ตัว พอออกมาแล้วระวังอย่าให้สายไฟขาด ก็จะสามารถเอาไปแปะกับที่อื่นได้แล้ว
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาโดยตลอด ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและคำติชมที่มีให้เสมอมา วันนี้ต้องขอลาไปก่อน พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ
Comment