REVIEW TOSHIBA SATALLITE M645-1014X by zeatar-man
Spec by notebookspec
ด้านบน
ด้านบนเครื่อง แวบแรกก็สะดุดตาทันทีกับโลโก้โตชิบ้าใหญ่ เด่น เป็นสง่าอยู่บริเวณกึ่งกลาง สีเงินแวววาวตัดกับสีเทาเข้ม ซึ่งลายของพื้นที่เห็นจะเป็นลักษณะนูนขั้นมาทำให้ดูหรูหรามากเลยครับ แต่มีข้อสังเกตอยู่นิดนึงว่า บริเวณขอบๆจะเป็นแบบเรียบๆ จึงทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ต้องออกแรงเช็ดกันหน่อยล่ะครับ 555
ด้านหน้า
ด้านหน้า จะไม่มีอะไรมากมายนอกจาก ช่องใส่การ์ด และไฟแสดงสถานะซึ่งอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องครับ
ด้านขวา
ด้านขวาจะมีอะไรๆเยอะขึ้นมาหน่อยครับ ซึ่งจะประกอบด้วย พอร์ต USB 2.0 สองช่อง , พอร์ต LAN 1 ช่อง และ Optical Drive Built in อันนี้แหวกแนวจากโน็ตบุ๊คตัวอื่นๆเลยครับ ใช้ที่ไหนมีแต่คนหันมามองแน่นอน 555
ด้านซ้าย
ด้านซ้าย ด้านนี้จะมี พอร์ตมากหน่อยครับ ไล่ตั้งแต่ซ้ายไปขวาก็จะประกอบด้วย ช่องใส่ Express card , แจ๊คหูฟัง , แจ๊คไมค์ , พอร์ต HDMI out , คอมโบพอร์ต eSATA/USB 2.0 , พอร์ตต่อจอภายนอก , ช่องระบายความร้อน และช่องเสียบ Adapter สำหรับการจัดวางก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันเกินไปครับ ใช้งานได้สะดวกดีครับ
ด้านหลัง
ด้านหลัง เรียบสุดไปเลยครับ มีแต่ Battery ครับ
ใต้เครื่อง
ใต้เครื่อง เห็นชัดที่สุดน่าจะเป็น สติ๊กเกอร์ window 7 home premium ครับ บอกนั้นก็จะเป็นบริเวณที่ใส่ ram , battery , ช่องระบายความร้อนครับ
เปิดจอขึ้น!!!!!
สติ๊กเกอร์ด้านขวา บรรยายสรรพคุณของเครื่อง ว่ามีจุดเด่นอะไรบ้างตามสไตล์แบบฉบับของ Toshiba
สติ๊กเกอร์ด้านซ้าย มีติดไว้เกือบครบ intel core-i5 , window 7 , energy star ที่ผมบอกว่าเกือบครบก็เพราะขาดของ nVidia ไปครับผมงงๆอยู่ว่าทำไมไม่เอามาติดไว้เน้อ กะว่าจะไปซื้อมาติดอยู่ครับ 555
ทัชแพ็ดขนาดใหญ่ ตอบสนองได้ไวดีครับ สำหรับตัวนี้มีระบบสแกนลายนิ้วมือให้ด้วย แต่มีข้อสังเกตอยู่ก็คือ บริเวณปุ่มควบคุมจะเกิดรอยได้ง่ายครับ เอ้า!!!เช็ดๆๆๆ
Keyboard ผมไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าเป็นแบบไหนแต่เอาเป็นว่า ระหว่างปุ่มแต่ละปุ่มนั้นมีระยะ***งกันมากกว่าแบบธรรมดาหน่อยนึง ซึ่งอาจะทำให้คนที่พิมพ์สัมผัสต้องปรับกันสักนิด ย้ำว่านิดนึงนะครับ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากมายครับ ส่วนการสัมผัสก็ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไปครับ โดยรวม keyboard ตัวนี้สวยแต่ไม่โง่ครับ และมันยังมีลูกเล่นมากกว่านี้อีกนะครับ เดี๋ยวจะกล่าวในหัวข้อต่อไป 555
ปุ่มเปิดเครื่อง และแถบปุ่มฟังก์ชันแบบสัมผัส ใช้สำหรับเป็นทางลัดในการควบคุมระบบมัลติมีเดียครับ อาทิเช่น eco mode , ไวเลส , เล่น/หยุด , เพิ่ม/ลดเสียง และยังมี sensor วัดแสงเพื่อใช้ในการปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติเพื่อถนอมสายตาของเราด้วยครับ (แสงมาก จอสว่างมาก , แสงน้อย จอสว่างน้อย)
นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นของ M645 ตัวนี้ครับ ก็คือลำโพงคุณภาพจาก Harman/Kardon บวกกับระบบ Dolby Advanced Audio ทำให้เสียงที่ออกมาไม่ต้องห่วงครับ กระหึ่มดังสะใจเกินหน้าเกินตาโน็ตบุ๊คตัวอื่นๆแน่นอน ฟังเพลง หรือดูหนังในห้องคนเดียวแบบไม่ต้องเพิ่งลำโพงนอกเลยครับ จุดนี้เป็นอีกจุดที่เด่นจริงๆสำหรับโน็ตบุ๊คตัวนี้ครับ
ได้เวลาเปิดระบบการทำงาน!!!!!
กดปุ่ม Power ปั๊บไฟก็ติดปุ๊บครับ 555
ไฟจากแถบปุ่มฟังก์ชัน
ไฟ Satellite แสดงสถานะการทำงาน
ไฟแสดงการทำงานของส่วนต่างๆของเครื่อง
ไฟจาก keyboard นี่ก็เป็นอีกจุดเด่นมากๆอีกจุดหนึ่งของ M645 ครับ ซึ่งออกแบบมาได้สวยมากๆ และยังมีประโยชน์อย่างมากในยามที่เราใช้งานในที่แสงน้อยๆครับ คอนเฟิร์มว่าสวยจริงๆ สาวๆเหลียวมองแน่ๆครับ 555
มุมมองจากด้านบนครับ
ภาพโดยรวมเมื่อเปิดเครื่องครับ
เมื่อปิดไฟ!!!!
ปิดไฟแล้วครับ ยังเห็น keyboard ชัดอยู่ครับ
ดูกันชัดๆครับ
อีกมุมครับ
กล่องบรรจุครับ
กระเป๋าครับ สวยดีทีเดียว
ตรวจสอบระบบภายใน
Battery อยู่ได้ประมาณ 2.30 ชั่วโมง ในโหมดปกติ และอยู่ได้ 3 ชั่วโมง ใน eco mode และปิดระบบไฟทั้งหมดครับ
อุณหภูมิในสภาพแวดล้อม ห้องธรรมดา ไม่เปิดพัดลม เวลาเที่ยงครึ่งครับ(อบอ้าว) โดยการเปิดใช้งานปกติ พิมพ์งาน ฟังเพลง อุณหภูมิที่ออกมาถือว่าไม่สูง เมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมในขณะทดสอบครับ
Burn CPU 100% ในสภาพแวดล้อม ห้องธรรมดา ไม่เปิดพัดลม เวลาเที่ยงครึ่งครับ(อบอ้าว) อุณหภูมิสูงสุดที่ขึ้นไปได้ก็คือ 86 องศาเซลเซียส และเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียสครับ แต่เมื่อจับดูรู้สึกเพียงแค่อุ่นๆเท่านั้น และการทำงานก็ยังไหลลื่นดีไม่มีสะดุดครับ
แต่เพียงแค่ไม่ถึง 10 วินาทีหลังจากการปิดการ Burn อุณหภูมิสามารถลดลงได้อย่างรวดเร็วมากครับ เหลือเพียงแค่ ประมาณ 60 องศาเซลเซียสนั้นเองครับ
ผ่านไปเกือบสองนาทีอุณหภูมิก็กลับสู่สภาวะปกติครับ แสดงให้เห็นว่าระบบระบายความร้อนของ M645 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆครับ แต่ตอนนี้ผมขอตัวเปิดพัดลมก่อนครับ คนรีวิวร้อนตับแล็บแล้ว 5555
สำหรับการทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมส์ M645 สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างดีเยี่ยมครับ เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมส์ และเกมส์ที่ผมเล่นก็อาทิ pes2011(ปรับ highลื่นตัวแตก) , BioShock (ปรับ highลื่นตัวแตก) , Ressident evil 5 (ปรับ highลื่นตัวแตก) และอื่นๆครับ ส่วนอันไหนที่สเปคโหดๆก็ ปรับ Medium ก็ลื่นมากๆครับ แต่ถ้า high ก็กระตุกหน่อยๆ เอาเป็นว่าอย่าไปบ้าเว่อร์ตามสเปกมันครับ ทีเมื่อก่อนยังเล่น คอนทร้า มาริโอ หรือ วินนิ่ง 3 อยู่ได้เลยครับ 5555
ตัวอย่าง VDO ที่ผมตัดต่อ (ประมวลผลเร็วมากครับ กับพลัง i5-560 ตัวนี้)
ปล.แอบโปรโมท อิอิ
สรุป
จุดเด่น
1. ปุ่มคีย์บอร์ดสำหรับเล่นในที่แสงน้อย
2. ลำโพงคุณภาพจาก Harman/Kardon บวกกับระบบ Dolby Advanced Audio
3. Optical Drive Built in ช่องใส่แผ่นแบบยัดใส่
4. แถม Window 7 home premium โดยเลือกตอนลงได้ว่าจะเอา 32 bit หรือ 64 bit
5. ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนได้รวดเร็ว
6. มีพอร์ต eSATA
ข้อสังเกต
1. บริเวณขอบๆของตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
2. ไม่มีพอร์ต USB 3.0
3. ช่องระบายความร้อนอยู่ทางขวามือทำให้รู้สึกอุ่นบ้างเมื่อเผลอเอามือไปใกล้
4. ไม่แถมแผ่นไดร์เวอร์มาให้ต้องไปโหลดเอาเอง
ผมขอจบการรีวิวไว้แค่นี้นะครับ ส่วนใครที่อยากให้ทดสอบในเรื่องคะแนนการ์ดจอ ผมขี้เกียจโหลดตัวโปรแกรมมาทดสอบครับ คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกันกับตัวที่ใช้ nVidia 330m ครับ แต่ถ้ามีอะไรที่นอกเหนือจากนี้ที่อยากให้ผมรีวิวเพิ่มเติมบอกมาได้นะครับ สวัสดีครับ
บทความโดย นายวันฉัตร โรจนรัตน์
Spec by notebookspec
ด้านบน
ด้านบนเครื่อง แวบแรกก็สะดุดตาทันทีกับโลโก้โตชิบ้าใหญ่ เด่น เป็นสง่าอยู่บริเวณกึ่งกลาง สีเงินแวววาวตัดกับสีเทาเข้ม ซึ่งลายของพื้นที่เห็นจะเป็นลักษณะนูนขั้นมาทำให้ดูหรูหรามากเลยครับ แต่มีข้อสังเกตอยู่นิดนึงว่า บริเวณขอบๆจะเป็นแบบเรียบๆ จึงทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย ต้องออกแรงเช็ดกันหน่อยล่ะครับ 555
ด้านหน้า
ด้านหน้า จะไม่มีอะไรมากมายนอกจาก ช่องใส่การ์ด และไฟแสดงสถานะซึ่งอยู่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่องครับ
ด้านขวา
ด้านขวาจะมีอะไรๆเยอะขึ้นมาหน่อยครับ ซึ่งจะประกอบด้วย พอร์ต USB 2.0 สองช่อง , พอร์ต LAN 1 ช่อง และ Optical Drive Built in อันนี้แหวกแนวจากโน็ตบุ๊คตัวอื่นๆเลยครับ ใช้ที่ไหนมีแต่คนหันมามองแน่นอน 555
ด้านซ้าย
ด้านซ้าย ด้านนี้จะมี พอร์ตมากหน่อยครับ ไล่ตั้งแต่ซ้ายไปขวาก็จะประกอบด้วย ช่องใส่ Express card , แจ๊คหูฟัง , แจ๊คไมค์ , พอร์ต HDMI out , คอมโบพอร์ต eSATA/USB 2.0 , พอร์ตต่อจอภายนอก , ช่องระบายความร้อน และช่องเสียบ Adapter สำหรับการจัดวางก็ไม่ได้อยู่ใกล้กันเกินไปครับ ใช้งานได้สะดวกดีครับ
ด้านหลัง
ด้านหลัง เรียบสุดไปเลยครับ มีแต่ Battery ครับ
ใต้เครื่อง
ใต้เครื่อง เห็นชัดที่สุดน่าจะเป็น สติ๊กเกอร์ window 7 home premium ครับ บอกนั้นก็จะเป็นบริเวณที่ใส่ ram , battery , ช่องระบายความร้อนครับ
เปิดจอขึ้น!!!!!
สติ๊กเกอร์ด้านขวา บรรยายสรรพคุณของเครื่อง ว่ามีจุดเด่นอะไรบ้างตามสไตล์แบบฉบับของ Toshiba
สติ๊กเกอร์ด้านซ้าย มีติดไว้เกือบครบ intel core-i5 , window 7 , energy star ที่ผมบอกว่าเกือบครบก็เพราะขาดของ nVidia ไปครับผมงงๆอยู่ว่าทำไมไม่เอามาติดไว้เน้อ กะว่าจะไปซื้อมาติดอยู่ครับ 555
ทัชแพ็ดขนาดใหญ่ ตอบสนองได้ไวดีครับ สำหรับตัวนี้มีระบบสแกนลายนิ้วมือให้ด้วย แต่มีข้อสังเกตอยู่ก็คือ บริเวณปุ่มควบคุมจะเกิดรอยได้ง่ายครับ เอ้า!!!เช็ดๆๆๆ
Keyboard ผมไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกว่าเป็นแบบไหนแต่เอาเป็นว่า ระหว่างปุ่มแต่ละปุ่มนั้นมีระยะ***งกันมากกว่าแบบธรรมดาหน่อยนึง ซึ่งอาจะทำให้คนที่พิมพ์สัมผัสต้องปรับกันสักนิด ย้ำว่านิดนึงนะครับ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากมายครับ ส่วนการสัมผัสก็ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไปครับ โดยรวม keyboard ตัวนี้สวยแต่ไม่โง่ครับ และมันยังมีลูกเล่นมากกว่านี้อีกนะครับ เดี๋ยวจะกล่าวในหัวข้อต่อไป 555
ปุ่มเปิดเครื่อง และแถบปุ่มฟังก์ชันแบบสัมผัส ใช้สำหรับเป็นทางลัดในการควบคุมระบบมัลติมีเดียครับ อาทิเช่น eco mode , ไวเลส , เล่น/หยุด , เพิ่ม/ลดเสียง และยังมี sensor วัดแสงเพื่อใช้ในการปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติเพื่อถนอมสายตาของเราด้วยครับ (แสงมาก จอสว่างมาก , แสงน้อย จอสว่างน้อย)
นี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นของ M645 ตัวนี้ครับ ก็คือลำโพงคุณภาพจาก Harman/Kardon บวกกับระบบ Dolby Advanced Audio ทำให้เสียงที่ออกมาไม่ต้องห่วงครับ กระหึ่มดังสะใจเกินหน้าเกินตาโน็ตบุ๊คตัวอื่นๆแน่นอน ฟังเพลง หรือดูหนังในห้องคนเดียวแบบไม่ต้องเพิ่งลำโพงนอกเลยครับ จุดนี้เป็นอีกจุดที่เด่นจริงๆสำหรับโน็ตบุ๊คตัวนี้ครับ
ได้เวลาเปิดระบบการทำงาน!!!!!
กดปุ่ม Power ปั๊บไฟก็ติดปุ๊บครับ 555
ไฟจากแถบปุ่มฟังก์ชัน
ไฟ Satellite แสดงสถานะการทำงาน
ไฟแสดงการทำงานของส่วนต่างๆของเครื่อง
ไฟจาก keyboard นี่ก็เป็นอีกจุดเด่นมากๆอีกจุดหนึ่งของ M645 ครับ ซึ่งออกแบบมาได้สวยมากๆ และยังมีประโยชน์อย่างมากในยามที่เราใช้งานในที่แสงน้อยๆครับ คอนเฟิร์มว่าสวยจริงๆ สาวๆเหลียวมองแน่ๆครับ 555
มุมมองจากด้านบนครับ
ภาพโดยรวมเมื่อเปิดเครื่องครับ
เมื่อปิดไฟ!!!!
ปิดไฟแล้วครับ ยังเห็น keyboard ชัดอยู่ครับ
ดูกันชัดๆครับ
อีกมุมครับ
กล่องบรรจุครับ
กระเป๋าครับ สวยดีทีเดียว
ตรวจสอบระบบภายใน
Battery อยู่ได้ประมาณ 2.30 ชั่วโมง ในโหมดปกติ และอยู่ได้ 3 ชั่วโมง ใน eco mode และปิดระบบไฟทั้งหมดครับ
อุณหภูมิในสภาพแวดล้อม ห้องธรรมดา ไม่เปิดพัดลม เวลาเที่ยงครึ่งครับ(อบอ้าว) โดยการเปิดใช้งานปกติ พิมพ์งาน ฟังเพลง อุณหภูมิที่ออกมาถือว่าไม่สูง เมื่อเทียบกับสภาพแวดล้อมในขณะทดสอบครับ
Burn CPU 100% ในสภาพแวดล้อม ห้องธรรมดา ไม่เปิดพัดลม เวลาเที่ยงครึ่งครับ(อบอ้าว) อุณหภูมิสูงสุดที่ขึ้นไปได้ก็คือ 86 องศาเซลเซียส และเฉลี่ยจะอยู่ที่ 80 องศาเซลเซียสครับ แต่เมื่อจับดูรู้สึกเพียงแค่อุ่นๆเท่านั้น และการทำงานก็ยังไหลลื่นดีไม่มีสะดุดครับ
แต่เพียงแค่ไม่ถึง 10 วินาทีหลังจากการปิดการ Burn อุณหภูมิสามารถลดลงได้อย่างรวดเร็วมากครับ เหลือเพียงแค่ ประมาณ 60 องศาเซลเซียสนั้นเองครับ
ผ่านไปเกือบสองนาทีอุณหภูมิก็กลับสู่สภาวะปกติครับ แสดงให้เห็นว่าระบบระบายความร้อนของ M645 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆครับ แต่ตอนนี้ผมขอตัวเปิดพัดลมก่อนครับ คนรีวิวร้อนตับแล็บแล้ว 5555
สำหรับการทำงานด้านกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมส์ M645 สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างดีเยี่ยมครับ เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมส์ และเกมส์ที่ผมเล่นก็อาทิ pes2011(ปรับ highลื่นตัวแตก) , BioShock (ปรับ highลื่นตัวแตก) , Ressident evil 5 (ปรับ highลื่นตัวแตก) และอื่นๆครับ ส่วนอันไหนที่สเปคโหดๆก็ ปรับ Medium ก็ลื่นมากๆครับ แต่ถ้า high ก็กระตุกหน่อยๆ เอาเป็นว่าอย่าไปบ้าเว่อร์ตามสเปกมันครับ ทีเมื่อก่อนยังเล่น คอนทร้า มาริโอ หรือ วินนิ่ง 3 อยู่ได้เลยครับ 5555
ตัวอย่าง VDO ที่ผมตัดต่อ (ประมวลผลเร็วมากครับ กับพลัง i5-560 ตัวนี้)
ปล.แอบโปรโมท อิอิ
สรุป
จุดเด่น
1. ปุ่มคีย์บอร์ดสำหรับเล่นในที่แสงน้อย
2. ลำโพงคุณภาพจาก Harman/Kardon บวกกับระบบ Dolby Advanced Audio
3. Optical Drive Built in ช่องใส่แผ่นแบบยัดใส่
4. แถม Window 7 home premium โดยเลือกตอนลงได้ว่าจะเอา 32 bit หรือ 64 bit
5. ระบบระบายความร้อน ระบายความร้อนได้รวดเร็ว
6. มีพอร์ต eSATA
ข้อสังเกต
1. บริเวณขอบๆของตัวเครื่องเป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย
2. ไม่มีพอร์ต USB 3.0
3. ช่องระบายความร้อนอยู่ทางขวามือทำให้รู้สึกอุ่นบ้างเมื่อเผลอเอามือไปใกล้
4. ไม่แถมแผ่นไดร์เวอร์มาให้ต้องไปโหลดเอาเอง
ผมขอจบการรีวิวไว้แค่นี้นะครับ ส่วนใครที่อยากให้ทดสอบในเรื่องคะแนนการ์ดจอ ผมขี้เกียจโหลดตัวโปรแกรมมาทดสอบครับ คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกันกับตัวที่ใช้ nVidia 330m ครับ แต่ถ้ามีอะไรที่นอกเหนือจากนี้ที่อยากให้ผมรีวิวเพิ่มเติมบอกมาได้นะครับ สวัสดีครับ
บทความโดย นายวันฉัตร โรจนรัตน์
Comment