Mini Review : His 4850 TurboX

[Leim]

ไหนๆก็อีกไม่นานจะตกรุ่น ไปสู่ยุคซีรีย์ 5 ... เอามารีวิวเผื่อท่านใดสนใจรุ่นนี้อยู่ (ซึ่งจริงๆผมกะว่าจะรอตัวนั้นแหล่ะ แต่ไม่มาซะที)

มีความจำเป็นต้อง หาการ์ดใหม่มาใช้ แต่โชคไม่ดีนักที่ ตจว. หาของยากแสนยากเหลือเกิน เลยแวะใช้บริการร้านนึงที่เปิดสาขาตาม ตจว. ที่เราทราบๆกันดีนั่นแหล่ะครับ มีไม่กี่เจ้าหรอก มีตัวนี้ในตู้โชว์พอดี ที่มันดูๆแล้วพอใช้ได้นะครับ มีสองยี่ห้อ เลยเลือกตัวนี้ไป....


ไม่มีเหตุผลอะไรในการซื้อมากครับ นอกจาก ความสะดวก ไม่อยาก order ทางไปรษณีย์ครับ


มันคือ His 4850 IceQ4 TurboX 512MB DDR3


ตัวนี้นี่เอง.....

[Leim]

รูปแบบของตัวการ์ด - Heatsink และอุปกรณ์ที่ bundle มาในกล่อง เหมือนกันทุกประกั้นกับในรุ่น IceQ4 - IceQ4 turbo ครับ


แต่ว่า เท่าที่ผมสังเกต ตัว TurboX Cap มันจะใส่มาเต็ม ไม่มีเว้นไว้ครับ นอกนั้น เหมือนกันหมดทั้งขนาดและสีของ PCB ซึ่ง เป็น PCB เดียวกันทั้งหมดนะครับ


เท่าที่เค้าเคลมมา ตัวนี้ใช้แรม Samsung 0.8ns ครับ ซึ่งปกติเค้าจะใส่มาความเร็ว 1 ns

ความเร็วที่เป็นค่าจากโรงงานมาก็ Core 685 Mem 1100 (2200 effective)

คงไม่ต้องอธิบายมากครับ สำหรับตัวการ์ด คงคุ้นเคยหน้าตาแบบนี้กันดี

[Leim]

เนื่องจาก เป็นเพียงแค่ mini review ซึ่งผมสามารถลงรายละเอียดเท่าที่ เวลาและซอฟแวร์จะเอื้ออำนวย(โพสตอนกลางคืนๆ)



อุณหภูมิที่ทำการทดสอบ ค่อนข้างคงที่ครับเพราะเป็นห้องปิดทึบ ซึ่ง ความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิค่อนข้างน้อยอยู่แล้วครับ อยู่ที่ 30.1 องศาเซลเซียสครับ


system ที่ใช้ ก็เดิมๆ เท่าที่มีคือ
- 8200@4Ghz @ 1.3125 V
- M/B P5Q-E
- RAM บ้านๆ DDR2 ขนาด 4 GBที่ 500 Mhz @ 2.1 V
- HDD 1 ลูก, พัดลม 12 เซนต์ 2 ตัว DVD 1 ตัว
- sound Xfi music โบราณๆ ที่ให้เสียงที่ดีเสมอต้นเสมอปลาย 1 ตัว
- PSU หินเงิน 400 วัตต์ แค่นั้นพอ



จากค่าเดิมๆ ที่ 685 - 1100

อัดไปได้ที่ 730 - 1250 แบบเสถียร ไม่มีเม็ด ภาพไม่แตก เทสเบนช์มาร์คต่างๆผ่านไปได้ด้วยดีครับ

[Leim]

เท่าที่เทสกับโปรแกรมทรมาณการ์ดจอ ก็คงมีแต่เจ้านี่แหล่ะครับที่ สูบเลือดสูบเนื้อมาได้พอตัว ซอฟแวร์พื้นๆอย่าง
Furmark นี่แหล่ะครับ


ผมพิจาณาจาก อัตราการบริโภคไฟโดยรวมของระบบนะครับ ตัวไหนมากสุด ผมถือว่า ทรมาณได้สูงสุดครับ (และสามารถผลิตความร้อนได้สูงสุดด้วยเช่นกัน)



จากการเทส ถ้าเริ่มปรากฏเม็ดหรือภาพเละขึ้นมา จะปรับลดจนไม่มีอาการดังกล่าว และ เทสค้างไว้อย่างนั้นราวๆ 15 นาที ถ้าไม่มีอาการอะไรอีกก็ ใช้ค่านี้ในการเทสครับ

ซึ่ง มันเท่ากับ 730 - 1250 พอดิบพอดีครับ


อุณหภูมิจะดูร้อนไปสักนิดนะครับ แต่มาดูการเทสอันต่อไปเทียบกันดูครับ

[Leim]

คะแนน 3Dmark2006 ได้ประมาณนี้ครับ


รันบน os Vista 64 bit ซึ่ง เป็นอะไรที่เทสแล้วคะแนนไม่เป็นที่น่าชื่นใจ และ เล่นเกมส์เทียบกันกับ os ตัวอื่นแล้ว ดูน้อยกว่านิดๆพอสังเกตเห็นได้ครับ มีเหตุผลเพียงประการเดียวคือ หลาย layer เมื่อไหร่ 3 กิ๊กมันเอาไม่อยู่ครับ เกินไปทันที


ผลที่ได้ตามภาพนะครับ

[Leim]

หนึ่งในเกมส์ที่เล่นอยู่ ณ ปัจจุบัน .... เล่นมาตั้งนานแล้วยังไม่ถึงไหนครับ คงเล่นได้เป็นปีเหมือน oblivion เลยเกมส์นี้



ดีเทลปรับไว้ดังในภาพครับ

[Leim]

โดยปกติผมจะเปิด vertical sync ในการเล่นเกมส์สำหรับทุกๆเกมส์ครับ

เฟรมเรทเลยไม่เกินรีเฟรชจอที่ 60 ครับ ดูสบายตากว่าเลยปรับไว้เช่นนั้น





สำหรับความรู้สึกส่วนตัว ถามว่ามันพอมั๊ย คิดว่า น่าจะดีกว่านี้ (60 นิ่งๆไปเลย)

แต่ระดับ 45 - 57 เฟรมต่อวินาที ก็ เล่นได้ แบบไม่เสียอารมณ์เท่าไรหรอกครับ พอใช้ได้แล้วครับ

จะมีแต่ช่วงตอนยิงระเบิด Fatboy นี่ เฟรมเรทร่วงรูดเหลือ 34 - 36 เฟรมทันทีครับ ส่วนใหญ่ถ้าถึงขนาดต้องควักไอ้เจ้าปืนนี้มาใช้ จะไม่รอดครับ..... โดนไปกับมันด้วยนี่สิ หุๆๆ

[Leim]

ผมข้ามตู้ปลาไปนะครับ


มาดูตู้ปลากัน


ได้ประมาณนี้ครับ

แต้มไม่ได้มากมายเป็นกอบเป็นกำเท่าไรสำหรับ vista 64 แต่ก็ ช่างมันเถอะครับ ก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายขนาดนั้น


ต้องลงไฟล์ OpenAL ตามที่ท่านสมาชิกในนี้ท่านแนะนำผมไป ถึงรันได้บน vista 64 ครับ

[Leim]

มาถึงเกมส์ที่ พึ่งได้มากจาก เว็บบิทชั้นนำ จากท่านผู้นำทางเทคโนโลยีด้านซอฟแวร์ทั้งหลายนำมาปล่อยให้ ไม่มีอินเตอร์เน็ตคนอยู่บ้านนอกอย่างผมก็คงแย่ครับ


นั่นคือ Farcry2 ที่เริ่มจะรู้สึกว่า มันสนุกใช้ได้เลยทีเดียวครับ


ปรับไว้ ตามนี้เลยครับ

[Leim]

เฟรมเรทเกมส์นี้ที่ได้ อยู่ราวๆ 45 - 60 เฟรม

โดยเฉลี่ยจะอยู่ราวๆ 49 - 54 เฟรมต่อวินาทีครับ



กำลังยากจนใช้ได้เลย เพชรเหลือราวๆ 10 กว่าอัน ....

[Leim]

ต่อไปก็ เป็นในส่วนของรายละเอียดบนตัวการ์ด และ อัตราการบริโภคไฟ ใน system ที่ผมใช้นะครับ


ผมเสียบมันไว้ตลอดครับ ไอ้เจ้าเครื่องนี้ จะได้เอามาจดบันทึกว่า เฉลี่ยนแล้วจ่ายค่าไฟให้มันไปเท่าไหร่ เพื่อแลกกับความบันเทิงที่ได้จากมัน ดูว่าสมเหตุสมผลหรือไม่นั่นเองครับ และ เพื่อจะดูความผิดปกติของมันด้วยเช่นกัน



ส่วน เรื่องอุณหภูมิ บนตัวการ์ด จะใช้ infrared thermometer ในการวัดค่านะครับ ค่า +- ไม่เกิน 1 องศาเซลเซียสครับ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของเซนเซอร์อินฟาเรดที่วัดราวๆ 0.7 - 1 เซนติเมตรครับ (ไม่เกิน 10 cm)

[Leim]

ว่ากันในเรื่องของ อุณหภูมิ ซึ่ง ความรู้สึกร้อน เย็น ของการสัมผัสของคนเรา ไม่เท่ากันตามแต่ประสบการณ์ที่ได้รับมานะครับ ซึ่ง อาจจะใช้อ้างอิงไม่ได้เท่าไรนัก (ไม่ได้ว่าท่านใดนะครับ)


แต่เท่าที่ เป็นจุดสังเกต ซึ่งเป็นจุดที่ ร้อนที่สุดบนตัวการ์ด กลับไม่ใช่ที่บริเวณโซนของ GPU
อาจจะด้วยมีฮีตซิงค์ช่วยระบายความร้อนอย่างขยันขันแข็ง ไม่มีอู้งาน (อู้เมื่อไหร่ ลากโลกเมื่อนั้น)

แต่เป็นส่วนที่เห็นในภาพต่างหาก

นั่นคือ ภาคจ่ายไฟนั่นเองครับ

[Leim]

core 730

meme 1250



ในสภาวะ Idle นะครับ ซึ่ง ตัวการ์ด ไม่ได้ทำงานหนักแต่อย่างใด ดูความร้อนในแต่ละโซนได้เลยนะครับ

ที่วัดเฉพาะหลังการ์ดเพราะ ความสะดวกล้วนๆครับ


ส่วนภาคจ่ายไฟด้านหน้า จะเย็นกว่าเพราะ มีพัดลมช่วยเป่าความร้อนออกไปครับ แต่ด้านหลัง ไม่มีครับ เลยเป็นจุดที่ต้องดูกันในเรื่องความร้อนสะสมด้วยครับ เพราะถ้ามากเกินไป หมายถึง ไหม้ ได้ครับ ประกันไม่รับเคลมอีก


พิจารณาดูนะครับ


ถึงตรงนี้จะบอกว่า มันเป็นการ์ดที่ Idle เย็นตัวนึงทีเดียวครับ


ส่วนความรู้สึกจากมือ บอกได้ว่า แค่อุ่นๆ ครับ

[Leim]

สำหรับการเทสด้วย furmark ผมไม่ขอเอาค่านั้นมาลงนะครับ แต่ว่า เทรนมันจะเพิ่มขึ้นราวๆ 10 - 15 องศา สำหรับ ภาคจ่ายไฟ ส่วน GPU จะราวๆ 8-10 ครับ


เป็นค่าเฉลี่ยจาก Farcry2 - 3Dmark2006 - Fallout 3 ครับ

พิจารณาตามภาพได้เลยครับ

ถึงตรงนี้ ส่วนที่ค่อนข้างร้อนคือ ภาคจ่ายไฟ แต่ถามว่า ระดับ 60 องศา ถ้าวันไหนร้อนๆอาจมี 70 องศา ถือว่าร้อนมากหรือเปล่า บอกตรงนี้ครับว่า 8800GT ที่ผมเคยใช้ ทะลุ 95 องศาไปเป็นที่เรียบร้อยครับ เอาเป็นว่า แค่นี้ การ์ดมันทนได้อยู่แล้วครับในส่วนของภาคจ่ายไฟครับ




ที่เอาการทดสอบตรงนี้ให้ดู เพื่อจะบอกว่า ลองให้ความสำคัญ กับการระบายความร้อน ด้านหลังการ์ด สัดนิดนะครับ ช่วยได้ในเรื่องการลดความร้อนสะสมหลังตัวการ์ดได้ดีทีเดียวครับ

[=cR@Zy=]

สวยดี แรงนิ ค่าตัวเท่าไหร่ครับ

ปล่อยเลยมั้ย อุอุอะอะ