Announcement

Collapse
No announcement yet.

Review HyperX Cloud Stinger Core Wireless 7.1

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Review HyperX Cloud Stinger Core Wireless 7.1

    38031.jpg

    สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาแกะกล่องและรีวิวการใช้งาน HyperX Cloud Stinger Core Wireless 7.1 หูฟังรุ่นล่าสุดจากค่าย HyperX ที่พึ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ให้ทุก ๆ คนได้อ่านกัน ว่าผมได้เจอกับหูฟังตัวนี้บ้าง

    สำหรับหูฟังตัวนี้มาในรูปแบบของหูฟังไร้สาย และสามารถให้เสียงในระบบ 7.1 ได้ ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้เป็นจุดเด่นของหูฟังตัวนี้ครับ

    38025.jpg
    38022.jpg
    อุปกรณ์ภายในกล่องจะมี หูฟัง ตัวรับสัญญาณหูฟังแบบ USB-A สายชาร์ตแบบ USB-C to USB-A และคู่มือการใช้งาน
    Last edited by Quicksilver; 26 Jun 2020, 13:19:26.

  • #2
    38021.jpg
    38019.jpg

    ลักษณะของหูฟัง
    1. ตัวหูฟังเป็นลักษณะหูฟังเต็มใบคาดหัว มีน้ำหนักเบา สามารถสวมใส่ได้เป็นเวลานาน
    2. ทั้ง 2 ข้างของตัวหูฟังมีก้านเหล็กไว้ปรับความสูง-ต่ำของหูฟัง ซึ่งสามารถปรับระดับให้เข้ากับสรีระของแต่ละคนได้
    3. ที่ครอบหูเป็นฟองน้ำซึ่งมีความนุ่มหูไม่ระคายเคืองและยังสามารถถอดออกมาทำความสะอาดหรือถอดเปลี่ยนตัวใหม่ได้
    4. ก้านไมโครโฟนอยู่ทางด้านซ้ายของหูฟัง ใช้วิธีการปิด-เปิดไมค์ด้วยการยกก้านขึ้น-ลง ตัวก้านมีลักษณะยืดหยุ่น สามารถปรับการงอของก้านไมค์ได้ (คล้าย ๆ ลักษณะของเส้นลวด) ซึ่งก้านไมค์ไม่สามารถปรับความยาวได้ แต่ก็ไม่ได้สั้นเกินไป
    5. ปุ่ม เปิด-ปิดหูฟัง และตัวปรับระดับเสียง อยู่ทางหูฟังข้างซ้าย ซึ่งตัวปรับระดับเสียง เป็นเหมือนวงล้อที่สามารถเลื่อนแถบปรับได้เรื่อย ๆ ซึ่งปกติแล้วแถบเลื่อนปรับเสียงทั่วไปพอเราปรับจนสุด ตัวแถบเลื่อนก็จะไม่สามารถหมุนหรือเลื่อนต่อได้ แต่ของหูฟังตัวนี้ก็ยังสามารถเลื่อนได้เรื่อย ๆ ไม่มีสุด ข้อดีก็คือ ถ้าเลื่อนปุ่มเพิ่มลดเสียงด้วยความรวดเร็วจะไม่มีแรงกระแทกเกิดขึ้นเมื่อคุณเลื่อนจนสุด
    6. ช่องชาร์ตไฟ อยู่ทางหูฟังข้างซ้าย ใกล้ ๆ กับปุ่มเปิด-ปิด หูฟัง และตัวปรับระดับเสียง ซึ่งสามารถชาร์ตกับคอมหรือกับ Adapter มือถือก็ได้

    สเป็คต่าง ๆ ผมจะขออนุญาตข้ามไปเลยเนื่องจากสามารถหาอ่านได้ทั่ว ๆ ไป แต่จะรีวิวประสบการณ์การใช้งานที่ได้รับจริง ๆ ครับ ซึ่งผมจะรีวิวการใช้งานตั้งแต่การเปิดหูฟังเลย


    การใช้งานหูฟังไม่ยุ่งยาก สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย ๆ เพียงแค่เสียบตัวรับสัญญาณกับเปิดการทำงานของหูฟัง โดยกดปุ่มเปิด-ปิด ค้างไว้ 3 วิ จนมีเสียงการทำงานพร้อมไฟสีเขียวขึ้น HyperX Cloud Stinger Core Wireless 7.1 ก็พร้อมใช้งานแล้ว ตรงนี้ คือ ข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะ หากคุณต้องการใช้งานหูฟัง คุณต้องกดค้างไว้ 3 วินาที ซึ่งนั่นเกิดมาจากความตั้งใจของเราเอง ซึ่งช่วยลดปัญหาการเปิดหูฟังแบบไม่ตั้งใจลงไปได้ เพราะหูฟังบางรุ่นกดเปิดครั้งเดียวก็เป็นการเปิดการทำงานแล้ว ซึ่งหากเปิดทิ้งไว้เป็นเวลานาน แบตเตอรี่ของหูฟังก็อาจจะหมดทำให้ต้องเสียเวลาชาร์ตใหม่อีก และถ้าหากคุณไม่มีลำโพง หรือหูฟังสำรอง คุณก็จะงานเข้าแน่ ๆ ไฟสีเขียวนอกจากจะบอกความพร้อมในการทำงานของหูฟังแล้ว ยังบอกถึงสถานะของแบตเตอรี่ถึง 3 สถานะด้วยกัน คือ พลังงานอยู่ในระดับสูง แสงจะเป็นสีเขียวนิ่ง ๆ พลังงานอยู่ในระดับกลาง แสงจะเป็นสีเขียวกระพริบ และหลังงานอยู่ในระดับต่ำ แสงจะเป็นสีแดง และจุดเด่นอีกอย่างของหูฟังตัวนี้ คือ มีสัญญาณเตือนตอนสวมใส่ให้รู้ว่าแบตเตอรี่กำลังจะหมด นี้ก็เป็นข้อดีอีกอย่าง เพราะ การใช้งานหูฟังจริง ๆ คงยุ่งยากและสร้างความไม่สบายใจให้ผู้ใช้หากต้องคอยถอดเข้าถอดออกมาดูว่าแบตเตอรี่จะหมดหรือยัง

    ผมใช้หูฟังไปกับการเล่นเกมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง 3 เกมหลักที่ผมได้เล่นเป็นประจำและได้ใช้ในการทดสอบ คือ Dead by Daylight, The Hunter CALL OF THE WILD และ CS :GO โดยใช้การสื่อสารผ่าน โปรแกรม Discord ซึ่งเสียงที่ให้เป็นแนวย่านต่ำที่ค่อนข้างแน่นครับ อย่างเช่นเสียงระเบิด เสียงหัวใจเต้น จะรู้สึกว่าเสียงมีมวล มีน้ำหนัก ส่วนย่านสูงก็ให้เสียงที่ชัดเจนครับ ไม่อู้อี้ สเตจเสียงอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่กว้างและก็ไม่แคบไป และที่สำคัญคือการส่งสัญญาณของเสียงไม่มีตอนไหนที่ขาดหายหรือดีเลย์เลยครับ นอกจากนี้ผมยังได้ทำการทดสอบโดยเดิน***ง ๆ คอมพิวเตอร์ที่เสียบตัวรับสัญญาณอยู่ ระยะความ***งที่ไม่สามารถส่งเสียงได้อยู่ที่ประมาณ 4 เมตรครับ ซึ่งผมทดสอบที่บ้าน ก็อาจจะมีพวกสิ่งกีดขวางสัญญาณบ้าง ระยะความ***งก็อาจจะ + - กันอยู่ไม่มากครับ มาว่ากันที่ระบบเสียง 7.1 ซึ่งต้องเปิดการทำงานผ่านโปรแกรม Ngenuity โดยต้องโหลดผ่าน Microsoft Store นั่นหมายความว่าระบบปฏิบัติการ ควรจะเป็น Windows 10 ครับ ถึงจะใช้ โปรแกรม Ngenuity เพื่อเปิดระบบ 7.1 ของหูฟัง การเปิด-ปิดระบบ 7.1 ต่างกับระบบ Stereo (ระบบ ซ้าย-ขวา) อย่างสิ้นเชิง ซึ่งสิ่งแรกที่สัมผัสได้คือ ความก้อง ครับ เนื่องจาก 7.1 เป็นระบบ Surround รอบทิศทาง ดังนั้น หากใครไม่เคยระบบ 7.1 มาก่อน ก็จะต้องปรับตัวกันอยู่สักพักครับ แต่ความเป็น 7.1 ก็ไม่ใช่ว่าจะดีกับทุก ๆ อย่างนะครับ อย่างเช่น ใน Dead by daylight เมื่อผมใช้ระบบ 7.1 มันทำให้ผมรู้สึกสับสนและวิตกกับเสียงต่าง ๆ มากขึ้นกว่าเดิมครับ ถ้าใครเคยเล่นก็คงนึกออกว่าจะมีเสียงหัวใจจากฆาตรกร ซึ่งนั่นแหละครับ การแยกทิศทางที่ผมบอก มันทำให้ผมไม่แน่ใจว่า ฆาตกรเข้ามาใกล้หรือยัง (ยิ่งใกล้เสียงจะยิ่งชัดและดัง แต่ไม่ได้บอกว่าฆาตรกรมาจากทางไหน) เนื่องจาก DBD ไม่ต้องใช้เสียงในการแยกทิศทางครับ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่ในรายละเอียดของเสียงต่าง ๆ ผมได้ยินชัดเจนครับ ซึ่งสำหรับผม DBD เหมาะกับระบบ Stereo มากกว่า แต่พอมาใช้ระบบ 7.1 กับ The Hunter CALL OF THE WILD ซึ่งเป็นเกมล่าสัตว์ที่สมจริงมาก และใช้ความอดทนในการเล่นสูงมาก ๆ ผมสามารถได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงหายใจของสัตว์ซึ่งสามารถบอกตำแหน่งและทิศทางของสัตว์ได้ ว่าเป็นทางซ้ายหรือขวา อยู่ใกล้หรือไกล สิ่งมีผลต่อการล่าสัตว์อย่างมาก เพราะเมื่อเราคิดว่าเราเข้าใกล้สัตว์แล้ว เราก็ต้องเคลื่อนไหวให้เงียบที่สุด และใช้อุปกรณ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ต่าง ๆ มากที่สุด ซึ่งผลการทดสอบ 1 ชั่วโมง ผมเจอสัตว์ทั้งหมด 5 ตัว (ซึ่งถือว่าเยอะแล้ว) และสามารถล่าได้ทุกตัว โดยที่แต่ละตัวใช้กระสุนเพียงนัดเดียวเท่านั้นครับ แต่พอมาใช้ระบบ Stereo ผมก็ยังสามารถแยกแยะทิศทางได้อยู่ แต่มันทำให้ผมไม่มีความมั่นใจ เท่าตอนที่ใช้ระบบ 7.1 ว่าที่ผมได้ยินเป็นทิศทางที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ซึ่งทำให้ผมต้องลองเสี่ยงดู เจอก็เจอ ไม่เจอก็หาใหม่ ซึ่งการหาสัตว์ใหม่แต่ละทีมันใช้เวลานาน และเสียเวลามากครับ ส่วน CS:GO ก็บอกได้คำเดียวครับ “เปิด 7.1 เถอะ”

    สรุปรวม ๆ สำหรับ HyperX Cloud Stinger Core Wireless 7.1 วัสดุแข็งแรง เสียงครอบคลุมดี และน้ำหนักเบาครับ เนื่องจากวัสดุบางส่วนเป็นผ้า และดูแลเก็บรักษาง่ายครับ ใช้เสร็จปิดหูฟัง ไม่ต้องดึงสายอะไรออกเลย สบายมาก ๆ ครับ สุดท้ายหากใครกำลังหาหูฟังใหม่สักตัว ก็ลองหาโอกาสไปทดลองเสียงกับหูฟังไร้สายในระบบเสียง 7.1 ของ HyperX กันได้นะครับ

    ขอบคุณครับ

    Comment

    Working...
    X