ขอความรู้ เรื่อง จะพ่นสีดำด้าน ครับ

[gypso]

รบกวนสอบถามครับ พอดี ใช้ CM690II+ ฝาด้านข้าง ไม่รู้ไปโดนไปอะไรมา ด่างๆ
เลยไปหา สีสเปรย์ ดำด้านมาพ่นทับ แต่เหมือน สีจะลอยๆ เป็น ปื้นๆ

เลยมีความคิดว่า จะเอากระดาษทรายขัด แล้วพ่นใหม่ เลยมีเรื่องรบกวนจะถามเพื่อนๆหน่อยครับ

- เวลาขัดสีเก่าออก เพื่อนๆใช้อะไรขัดสีเก่าออกครับ มีวิธีที่เร็วกว่า ใช้กระดาษทรายมั้ยครับ
- หลังจากขัดเสร็จแล้ว ต้องพ่นรองพื้นมั้ยครับ
- สีดำด้าน ใช้ยี่ห้อไหนดีครับ
- มีเทคนิคอะไรเพิ่ม รบกวนแนะนำด้วยครับ

[nongken]

ผมขอตอบตามวิธีผมนะครับอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง

ผมไม่รู้ว่าบริเวณที่ท่านจะพ่นสีนั้นเป็นวัสดุอะไร

เวลาขัดสีเก่าออกผมใช้ลูกหมูปั่นโดนใช้หัวกระดาษทราย แลวก็มาขัดมืออีกทีให้ผิวมันเรียบเนียน ล้างน้ำ เช็ดแล้วตากให้แห้ง ขั้นตอนขัดนี้ต้องอดทนครับ

หลังจากขัดเสร็จ+ตากแห้ง ผมไม่รู้ว่าต้องพ่นรองพื้นไหม [แต่งานล่าสุดผมทำสีลำโพงใหม่วัสดุพลาสติก ผมใช้พ่นรองพื้นนะครับ]

สีเปรย์ ผมใช้ยี่ห้อ win ครับ ราคากลางๆ แต่เห็น TOA ราคากระโดขึ้นไปเยอะหน่อย น่าจะดีกว่า [สีรองพื้นก็ของ win]


เทคนิคการพ่นสี คือ
- พ่นกลางแดดจ้าๆ ร้อนๆ แห้งๆ
- พ่นไกลๆหน่อยอย่าไปพ่นจ่อๆ เด๋วได้ผิวนูน [แม้จะนานกว่าพ่นจ่อๆก็ตาม]
- พ่น 2-3 รอบ แต่ระรอบตากแดดให้แห้งแล้วค่อยพ่นต่อ
- เห็นมันแห้งแล้วก็อย่าพึ่งเอามือไปจับ ตากไว้ข้ามคืนได้ยิ่งดีครับ

สุดท้าย
-ถ้าเปลี่ยนใจอยากเป็นสีดำมัน ก็หาสเปรน์ clear(มีส่วนผสมของอะครีลิคช่วยให้ผิวเงางาม) มาเคลือบชั้นสุดท้าย
-สำหรับดำด้านนั้นท่านอาจต้องทำใจรับรอดด่างเดิมๆ จากฝุ่นบ้าง นิ้วมือ หรืออื่นๆ

และโชคดีครับ

[Newlovepuy]

สำหรับผมนะ เคยทำสีมาบ้าง
1.เวลาขัดถ้าไม่อยากรอ ให้ใช้เครื่องขัดครับ แต่ถ้าไม่มีใช้มือเรานี่แหละครับ ง่ายดี

2.สำหรับผมสีดำด้านไม่รองพื้นครับ เพราะมันเป็นสีดำ
เวลาขัด ถ้าสีหนามากให้ใช้กระดาษทรายน้ำเบอร์ 100>150>320 ลงท้ายด้วยเบอร์ 1000 ตามลำดับ
ถ้าสีไม่หนามากใช้ 320 ขัด แล้วตามด้วย 1000
เวลาพ่นรอบแรกพ่นบางๆครับ ทิ้งไว้สักพักประมาณ 15-30 นาที พ่อรอบ 2 ให้ทั่วชิ้นงาน รอซัก 1-2 ชม. พ่นรอบที่ 3 เก็บงานครับ
ส่วนมากสีดำด้านพ่นแล้วไม่ค่อยมีปัญหาครับ ส่วนมากที่มีปัญหาจะเป็นพวกสีเงามากกว่า เพราะว่าถ้าตรงไหนขัดไม่ดี เวลาพ่นสีเงามันจะไม่ติดชิ้นงานครับ

3.ส่วนยี่ห้อสำหรับผมไม่สำคัญครับ อยู่ที่ฝีมือมากกว่า

4.เวลาพ่นต้องใจเย็นครับ อย่าใจร้อน งานจะออกมาไม่ดีครับ

[Geil]

น้ำยาลอกสีครับ (ถ้าเป็นเหล็ก ลอกเสร็จ ก็พ่นกันสนิมก่อนนะ)

[dekevilza]

ช่วยตอบนะครับ ^^!

เอาของผมด้วยนะ ฮ่าๆๆ ผมเองก็มือใหม่หัดพ่น ตอนแรกว่าจะเอาไปให้ที่อู่รถพ่นให้ แต่ไปๆ มาๆไปขอคำแนะนำจากอีกกระทู้ในนี้แหละครับพี่เค้าแนะนำให้ทำเอง ก็เลยจัดไป

ขั้นแรก ก็ขัดสีเก่าออก ขัดสนิมด้วย สำหรับใครหลายๆคนอาจจะให้กระดาษทรายเบอร์ หยาบๆ แล้วค่อยไปเบอร์ละเอียด อย่าง 300 แล้วก็ไป 1000 แต่ของผมก็ยัด เบอร์ 800 กับ 1000 ทีเดียวฮ่าๆๆ บ้าเกิน ใช้เป็นกระดาษทรายน้ำ ขัดเสร็จพอรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ไปก็เอาไปล้างน้ำแล้วนำมาขัดใหม่ แน่นอนว่า Case ผมชุ่มไปด้วยน้ำ ขั้นตอนนี้อดทนหน่อยนะครับ เพราะมันลำบาคจริงๆ ปล. ผมขัดด้วยมือครับ

ขั้นสอง หลังจากขัดเสร็จก็เอาสบู่มาล้างคราบมันสีที่เราขัดไว้นะครับ ขั้นตอนนี้บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่มันได้ผลจริงๆนะ ไม่เชื่อลองเอาชิ้นงานที่พึ่งขัดใหม่ๆลองไปล้างกับน้ำครับ น้ำจะเกาะเป็นก้อนๆเลยแถมตัว Body ลื่นด้วยครับ แต่พอเอาสบู่มาล้างด้วยตัว Body จะรู้สึกตึงๆ แล้วน้ำก็ไหลลื่นดีครับ ^^!

ขั้นสาม เอาไปตากแดดให้แห้ง ย้ำว่าแห้งจริงๆนะครับอย่าให้เหลือ น้ำสักหยดก็ไม่ได้ครับ (แต่ผมรอแห้งไม่ไหวเลยใช้เครื่องเป่าผมร้อนๆมาเป่า 15 นาทีแห้ง = ="!! เพราะตัว Case ร้อน น้ำเลยระเหยเร็ว ฮ่าๆๆ)

ขั้นสี่ คือผมเคยเอาไปพ่นในที่แจ้งแล้วนะครับ ปรากฏว่าไม่ Work ครับเพราะสีที่พ่น น้อยมากที่จะไปเกาะ Case เพราะปัจจัยหลายอย่าง เราอาจจะไม่รู้สึกถึงลม แต่เชื่อเถอะว่ามันมี มันจะทำให้สีที่พ่นออกมาไม่เป็นทิศทาง เพราะงั้นแน่นอนว่าสีเราต้องใช้เยอะขึ้นแน่นอนครับ แนะนำว่าให้ทำกล้องใหญ่ๆ ตอนพ่นก็ครอบมันไว้ครับ พ่นเสร็จก็เอาออกตากแดดครับ คำเตือนถ้าพ่นในที่แดดอย่าลืมยาดมนะครับ เพราะหน้ามืด ส่วนของผมนี้ พ่นไป 3 รอบครับ พักรอบละ 20 นาที พ่นใจเย็นๆครับ ตรงไหนไม่ติดอย่าไปจ่อครับ เดียวตอนที่เราพ่นรอบ 2-3 มันจะเข้าที่เข้าทางเองครับรองพื้นนี้ผมมองว่าเป็นการพ่นครั้งแรก หุหุ

ขั้นที่ห้า หลังจากพ่นไป 3 รอบแล้ว ทิ้งไว้คืนหนึ่งครับให้สีมันแห้ง แล้วพ่นแลคเกอร์ด้านทับไปอีกทีครับ เหตผลส่วนตัวที่ว่าทำไมถึงต้องทิ้งไว้คืนหนึ่งแล้วค่อยมาพ่นแลคเกอร์ ทำไมไม่พ่นเลย ก็เพราะผมอยากให้มันฉายแววเอามันด้านเอาไว้ครับ มันอาจจะฟังดูบ้าๆแต่ สำหรับผมมันดูดีมากเลยครับ ^^! อ๋อ แลคเกอร์ด้านนี้พ่นดีๆนะครับ อย่าให้มีลมเด็จขาดเพราะถ้ามีลม แลคเกอร์จะลอยแล้วไปเกาะส่วนอื่นๆแล้วมันจะเป็นก้อนขาวๆคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง หุหุ พอดีผมเจอมาแล้ว รีบร้อนไปหน่อย

เสร็จแล้วครับ เดียวผมเอาภาพ Case ที่ผมเลยพ่นนะครับ ^^!
อ๋อสีผมใช้ของ TOA ไป 3 กระป๋อง (กระป๋องที่ 3 นี้เหลือครึ่งหนึ่งได้มั่ง)แลคเกอร์ด้านนี้ จำไม่ได้แล้ว แต่ผมใช้ไป 2 กระป๋อง ฮ่าๆๆ แต่ใช้ได้ทุกร่นครับ แนะนำว่าเป็นรุ่นที่ใช้พ่นรถดีกว่า

สีของผมอาจจะใช้เยอะเพราะผมต้องการให้งานออกมาดี แล้วที่ใช้เยอะเพราะมันพ่นทั้ง Case อ่าครับ หุหุ

ส่วนนี้ภาพนะครับ
2012-08-24 21.08.28.jpg

2012-08-24 21.08.36.jpg

2012-08-25 01.12.09.jpg

ตามนี้นะครับ ภาพไม่ค่อยชัดเพราะกล้องมือถือธรรมดานะครับ ^^!

ส่วนท่านนี้แค่ต้องการพ่นฝาข้าง Case ก็อาจจะใช้สีน้อยก็ได้ครับ ผมว่ากระป๋องเดียวก็น่าจะเอาอยู่แล้วละครับ หุหุ จบละครับ ^^! ท่านไหนมีข้อแนะนำอื่นๆก็ว่ากันไปครับ ฮ่าๆๆ ง่วงนอนละครับ ZZZZzzz

[Geil]

ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้อบครับ ในที่นี้หมายถึง พ่นเสร็จแล้ว แขวนไว้ในพื้นที่ที่ไม่โดดแดดโดยตรง (นึกถึงห้องอบสี ตามร้านใหญ่ๆ)

อย่างเช่น ห้องน้ำนอกบ้านอะไรประมาณนี้ (ถ้ามี) อากาศในห้องน้ำจะค่อนข้างอบอ้าว ลมค่อนข้างนิ่ง ถ้าไม่เป็นปัญหามาก ก็พ่นสีในห้องน้ำมันเลย

เพราะการตากแดด สีจะได้รับความร้อนจากแดด และแห้งเร็วเกินไป อาจเป็นผลให้ผิวหน้าของสีแตกกร้านได้ ยิ่งถ้าเกิดพ่นสีหน้าเกินไป สีเยิ้ม แล้วตากแดด


อย่างที่ท่าน dekevilza บอกเรื่องพ่นแลคเกอร์ แล้วลมพัด แลคเกอร์เป็นเกล็ดขาวๆ ความจริงแล้ว มันคงเป็นเม็ดๆ มากกว่า สีอื่นก็เป็นครับ (แล็คเกอร์มันใส เลยเป็นเม็ดๆ สีออกขาวๆ)

ลองกดหัวฉีดแบบไม่เต็มซิครับ(กดลงแค่นิดเดียว) สีจะออกเป็นเม็ดๆ ถ้าออกแรงกดลงไปอีก เนื้อสีที่พุ่งออกมาจะละเอียดขึ้น

คงเพราะสัดส่วนระหว่างสีกับก๊าซในกระป๋อง

[gypso]

ขอบคุณทุกท่านน่ะครับ ขอเวลาไปเตรียม กระดาษทราย + สีสเปรย์ก่อนครับ
ส-อ นี้จะลงมือทำซ่ะหน่อย

[ohmboba]

เอาของผมด้วยนะ ฮ่าๆๆ ผมเองก็มือใหม่หัดพ่น ตอนแรกว่าจะเอาไปให้ที่อู่รถพ่นให้ แต่ไปๆ มาๆไปขอคำแนะนำจากอีกกระทู้ในนี้แหละครับพี่เค้าแนะนำให้ทำเอง ก็เลยจัดไป

ขั้นแรก ก็ขัดสีเก่าออก ขัดสนิมด้วย สำหรับใครหลายๆคนอาจจะให้กระดาษทรายเบอร์ หยาบๆ แล้วค่อยไปเบอร์ละเอียด อย่าง 300 แล้วก็ไป 1000 แต่ของผมก็ยัด เบอร์ 800 กับ 1000 ทีเดียวฮ่าๆๆ บ้าเกิน ใช้เป็นกระดาษทรายน้ำ ขัดเสร็จพอรู้สึกว่ามันเริ่มไม่ไปก็เอาไปล้างน้ำแล้วนำมาขัดใหม่ แน่นอนว่า Case ผมชุ่มไปด้วยน้ำ ขั้นตอนนี้อดทนหน่อยนะครับ เพราะมันลำบาคจริงๆ ปล. ผมขัดด้วยมือครับ

ขั้นสอง หลังจากขัดเสร็จก็เอาสบู่มาล้างคราบมันสีที่เราขัดไว้นะครับ ขั้นตอนนี้บางคนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่มันได้ผลจริงๆนะ ไม่เชื่อลองเอาชิ้นงานที่พึ่งขัดใหม่ๆลองไปล้างกับน้ำครับ น้ำจะเกาะเป็นก้อนๆเลยแถมตัว Body ลื่นด้วยครับ แต่พอเอาสบู่มาล้างด้วยตัว Body จะรู้สึกตึงๆ แล้วน้ำก็ไหลลื่นดีครับ ^^!

ขั้นสาม เอาไปตากแดดให้แห้ง ย้ำว่าแห้งจริงๆนะครับอย่าให้เหลือ น้ำสักหยดก็ไม่ได้ครับ (แต่ผมรอแห้งไม่ไหวเลยใช้เครื่องเป่าผมร้อนๆมาเป่า 15 นาทีแห้ง = ="!! เพราะตัว Case ร้อน น้ำเลยระเหยเร็ว ฮ่าๆๆ)

ขั้นสี่ คือผมเคยเอาไปพ่นในที่แจ้งแล้วนะครับ ปรากฏว่าไม่ Work ครับเพราะสีที่พ่น น้อยมากที่จะไปเกาะ Case เพราะปัจจัยหลายอย่าง เราอาจจะไม่รู้สึกถึงลม แต่เชื่อเถอะว่ามันมี มันจะทำให้สีที่พ่นออกมาไม่เป็นทิศทาง เพราะงั้นแน่นอนว่าสีเราต้องใช้เยอะขึ้นแน่นอนครับ แนะนำว่าให้ทำกล้องใหญ่ๆ ตอนพ่นก็ครอบมันไว้ครับ พ่นเสร็จก็เอาออกตากแดดครับ คำเตือนถ้าพ่นในที่แดดอย่าลืมยาดมนะครับ เพราะหน้ามืด ส่วนของผมนี้ พ่นไป 3 รอบครับ พักรอบละ 20 นาที พ่นใจเย็นๆครับ ตรงไหนไม่ติดอย่าไปจ่อครับ เดียวตอนที่เราพ่นรอบ 2-3 มันจะเข้าที่เข้าทางเองครับรองพื้นนี้ผมมองว่าเป็นการพ่นครั้งแรก หุหุ

ขั้นที่ห้า หลังจากพ่นไป 3 รอบแล้ว ทิ้งไว้คืนหนึ่งครับให้สีมันแห้ง แล้วพ่นแลคเกอร์ด้านทับไปอีกทีครับ เหตผลส่วนตัวที่ว่าทำไมถึงต้องทิ้งไว้คืนหนึ่งแล้วค่อยมาพ่นแลคเกอร์ ทำไมไม่พ่นเลย ก็เพราะผมอยากให้มันฉายแววเอามันด้านเอาไว้ครับ มันอาจจะฟังดูบ้าๆแต่ สำหรับผมมันดูดีมากเลยครับ ^^! อ๋อ แลคเกอร์ด้านนี้พ่นดีๆนะครับ อย่าให้มีลมเด็จขาดเพราะถ้ามีลม แลคเกอร์จะลอยแล้วไปเกาะส่วนอื่นๆแล้วมันจะเป็นก้อนขาวๆคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง หุหุ พอดีผมเจอมาแล้ว รีบร้อนไปหน่อย

เสร็จแล้วครับ เดียวผมเอาภาพ Case ที่ผมเลยพ่นนะครับ ^^!
อ๋อสีผมใช้ของ TOA ไป 3 กระป๋อง (กระป๋องที่ 3 นี้เหลือครึ่งหนึ่งได้มั่ง)แลคเกอร์ด้านนี้ จำไม่ได้แล้ว แต่ผมใช้ไป 2 กระป๋อง ฮ่าๆๆ แต่ใช้ได้ทุกร่นครับ แนะนำว่าเป็นรุ่นที่ใช้พ่นรถดีกว่า

สีของผมอาจจะใช้เยอะเพราะผมต้องการให้งานออกมาดี แล้วที่ใช้เยอะเพราะมันพ่นทั้ง Case อ่าครับ หุหุ

ส่วนนี้ภาพนะครับ
[ATTACH=CONFIG]1947071[/ATTACH]

[ATTACH=CONFIG]1947073[/ATTACH]

[ATTACH=CONFIG]1947077[/ATTACH]

ตามนี้นะครับ ภาพไม่ค่อยชัดเพราะกล้องมือถือธรรมดานะครับ ^^!

ส่วนท่านนี้แค่ต้องการพ่นฝาข้าง Case ก็อาจจะใช้สีน้อยก็ได้ครับ ผมว่ากระป๋องเดียวก็น่าจะเอาอยู่แล้วละครับ หุหุ จบละครับ ^^! ท่านไหนมีข้อแนะนำอื่นๆก็ว่ากันไปครับ ฮ่าๆๆ ง่วงนอนละครับ ZZZZzzz

ขอถามไรหน่อยครับตอนนี้สีติดทนรึป่าวครับไม่มีรอยลอกอะไรใช่ไหมครับพอดีผมกำลังจะพ่นอยู่เหมือนกัน^^

[dekevilza]

ตอบจ้าๆ

ใช้เลยครับ มันเป็นเม็ดๆเลยตามที่ท่าน Geil บอก ฮ่าๆๆ แล้วมันจะเกาะกลุ่มรวมกัน ทำให้ดูเหมือนจุดๆนั้นมีฝุ่นอยู่อะไรทำนองนี้ อันที่จริงพ่นในห้องอับลมเป็นวิธีที่ดีสุดละครับ เพราะส่วนใหญ่เค้าก็เอาไปพ่นในห้องอับลม ถ้าไปพ่นแล้วอย่าลืมหน้ากากนะครับ ฮ่าๆๆ ไม่งั้นหายใจไม่ออกแน่

ขอถามไรหน่อยครับตอนนี้สีติดทนรึป่าวครับไม่มีรอยลอกอะไรใช่ไหมครับพอดีผมกำลังจะพ่นอยู่เหมือนกัน^^

ไม่ลอกนะครับ พอดีผมพ่นใต้ Caes ด้วยจากที่ผมเคลื่อนไปมาเพราะต้องประกอบคอมฯ มันก็ยังไม่มีรอยออกมาให้เห็น หรือลอกออกมาเลยครับ เพียงแต่ท่านต้องพ่นแลคเกอร์ให้ดีนะครับ ^^! เดียวจะเหมือนผม ฮ่าๆๆ แต่ผมก็คิดไว้แล้วว่าเน้นใช้งาน ยังไม่แต่งเอาสวยเพราะ Case ผมก่อนหน้านี้ ก็เหล็กสนิมดีๆนี้เองละครับ ทำเองมันสนุกดีครับ เหมือนเราได้เอาใจใส่กับงานๆหนึ่งอย่างเต็มที่

[marutz]

ขัดกระดาษทรายเบอร์ 360 ตามด้วย 800 และ 1000 ตามลำดับ พ่นสีเทารองพื้น(ท่านใหนไม่มีกาและปั๊มลม ใช้สีสเปร์ยี่ห้อPYLAC ของ Nipponครับ) เสร็จแล้วไม่ต้องรอให้แหงสนิทนะครับหมาดๆพอ ประมาณ 15 นาที รองพื้นพ่นชั้นเดียวก็พอครับ แล้วก็จัดซัดสีดำด้าน ชั้นแรกโปรยๆบางๆพอ ชั้นสองก็ทับแน่นไปเลยระวังอย่าพ่นในที่ๆมีลมนะครับจะทำให้เป็นฝ้าได้ และมันก็เปลืองสีด้วย555งกนี่เอง เสร็จแล้วเช่นเคยไม่ต้องรอให้แห้งมากเอาสีแลคเกอร์ (Clear) มาพ่นโปรบางๆ อย่าซัดหนานะครับเดี๋ยวมันจะเงา เอาบางๆ ชั้นเดียวพอ ทิ้งใว้ให้แห้ง เป็นอันเสร็จ การเคลือบด้วยแล็คเกอร์บางๆทำให้ชิ้นงานทนไม่ถลอกง่าย อีกอย่างถ้าไม่เคลือบพอเอามือไปลูบสังเกตสีจะติดมือมาเลย

ลองไปทำดูนะครับ

อย่าลืมนะครับใช้สียี่ห้อ PYLAC ของนิปปอน ทนกว่ากันเยอะ กระป๋องละ65 - 70 บาทแพงหน่อยแต่คุ้ม

แต่ถ้าใครขี้เกียจทำ โทร 090-725-0663 ครับ หรือPM ไว้
ผมรับพ่นสีทุกชนิด ใช้สีพ่นรถยนตร์มีคุณภาพ และก็รับเพ้นท์ลายด้วยครับ
อิๆๆๆๆ หาตังค์อีกและ คนจนก็เงี้ย^^

[maitalk]

แนะนำ พ่นในที่ร่ม อากาศถ่ายเท แต่ไม่มีลม
สีกระจอกๆ ถูกๆ อย่าเอามาพ่น ถ้าไม่อยากแก้งานอีก
พ่นรองพื้นก่อน เพิ่มการยึดเกาะ แล้วก็หา clear แบบด้าน มาพ่นรอบสุดท้ายด้วย

[hidetuyen]

ตามข้างบนบอกกันครับ
1.กระดาษทราย เบอร์ 320 ขัดตามด้วย 600
2.เช็คสภาพพื้นผิว (มีรอยบุบไหม?->ถ้ามีใช้โป้วเก็บลอย(โป้วละเอียด)ให้พื้นผิวเส้นสายเสมอกัน)
3.ทำความสะอาดชิ้นงาน (Silicon off) เช็คไขมัน เพราะถ้ามีคราบไขมัน จะเกิดหลุม(ซิมโมไนท์)
4.พ่นรองพื้น(แนะนำให้ทีเดียวมิด ห้ามพ่นอัดเกินเดิ๋ยวสีไหล) ขั้นตอนนี้ ถ้าพ่นซ้ำไปซ้ำมาหลายๆรอบจะทำให้ ชั้นสีหนาเกินและความสามารถให้การยึดเกาะจะลดลงตามความหนา
5.ตกแต่งสีพื้น (เช็ค หลุม ความสม่ำเสมอขอสีพื้น กระดาษทรายเบอร์ 800-1000 ลูบงานเอาฝุ่นสีพื้นออก)
6.ทำความสะอาดชิ้นงาน (Silicon off) เช็คไขมัน เพราะถ้ามีคราบไขมัน จะเกิดหลุม(ซิมโมไนท์)
7.พ่นสีจริง (คล่อยเดินสี อย่าเร็วเกิน อย่าช้าเกิน อย่าใจร้อน)
-พ่นโปรยรอบแรก ทิ้งไว้ 15-30 นาที ให้ผิวสีเซ้ทตัว (พ่นโปรย ขึ้นอยู่กับ สีพื้น ถ้าพื้นขาว สีจริงดำ อาจมีโปรยหลายรอบ)
-พ่นรอบสอง อัดสีกลบ ทิ้งไว้ 15นาที-1ชม. ให้ผิวหน้าเซ้ทตัว
*-กรณีมีการพ่นสีบรอน อาจจะต้อง มีการพ่นรอบ 3 คือการไล่เม็ดบรอนให้เรียงตัวสวยงามและสม่ำเสมอ
**พ่นสีจริงเสร็จทิ้งงานไว้ สัก2-4ชม ให้สีเซ็ทแข็งตัว ถ้ามีการเคลียด้วย ก็ทิ้งไว้ประมาณ 2ชม แล้วพ่นเคลียทับ(ทีเดียวมิด เหมือน สีพื้น แต่เดินสีช้ากว่าสีจริง) แล้วทิ้งไว้ 4ชมให้สีแข็งตัว

ปล.ทุกอย่างอยู่ที่คนปฏิบัติ ถ้าใจร้อนหรือละเลย ข้อใดข้อหนึ่งไป โอกาสงานเสิยแล้วเริ่มต้นใหม่มีมาก ^^