## ขายทะเบียนเลขสวย ลายกราฟฟิก กทม. พร้อมจดได้ทันที ราคาถูก เจ้าของขายเอง

[lดิuดิu@b3]

[lดิuดิu@b3]

คลิปการประกวดของเหล่านักเรียนชายจากโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ กำลังได้รับการส่งต่อและพูดถึงในสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก ภายในคลิปนำเสนอกิจกรรมการประกวดนางงาม โดยมีผู้เข้าประกวดเป็นนักเรียนชาย แต่งหน้าทำผมเลียนแบบผู้เข้าประกวดนางงามในเวทีต่างๆ แต่ละคนมีลีลาการแนะนำตัวที่เรียกเสียงฮือฮาไม่แพ้กัน ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ได้ชมคลิปต่างชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และความกล้าแสดงออกน้องๆนักเรียน

จากข้อมูลพบว่ากิจกรรมนี้ จัดขึ้นเนื่องในวันสถาปนาโรงเรียนครบรอบ 117 ปี ซึ่งมีจัดกิจกรรมรำลึกถึงผู้ก่อตั้งโรงเรียน และจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้

[lดิuดิu@b3]

โศกนาฏกรรมสยองขวัญนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุตายหมู่สยองส่งท้ายปีใหม่ที่ชลบุรี รถตู้สาย กทม.-จันทบุรี คาดคนขับหลับในข้ามเลนพุ่งชนประสานงารถกระบะ ย่างสดเสียชีวิต 23 ศพ ที่เกิดเหตุบนถนนสาย 344 ม.1 ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ฝั่งขาเข้าระยอง


เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบ้านบึงพร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านบึง รุดไปที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังรุกโหมรถตู้โดยสาร สายกทม.-จันทบุรี หมายเลขทะเบียน 15-1352 กทม. ที่ชนอัดก็อปปี้กับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 1ฒ 2483 กทม. สภาพรถทั้งสองคันพังยับเยิน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งดับไฟและนำผู้บาดเจ็บที่มากับรถกระบะ 2 คนส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นพบผู้โดยสารพร้อมคนขับรถตู้ถูกไฟไหม้เสียชีวิตทั้งหมด 13 ศพ ส่วนผู้โดยสารในรถกระบะเสียขีวิต 10 ศพ รวมมีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 23 ศพ
นายบรรชา ปานนัม ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เห็นรถตู้ขับมาจากแยกแกลง มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพพุ่งข้ามเลนไปชนประสานงากับรถกระบะที่บรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคัน ก่อนควันไฟจะพุ่งโหมไหม้ทั้งคัน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า รถตู้โดยสารรับผู้สารจากจันทบุรีรวมคนขับจำนวน 13 คนมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพ และคาดว่าคนขับคงหลับในก่อนจะพุ่งข้ามเลนไปชนรถกระบะจนเกิดเรื่องสยองขึ้น

[lดิuดิu@b3]

เฟซบุ๊กแฟนเพจ คนข่าวบางปะกง ได้โพสต์ภาพตำรวจจราจร สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เรียกตรวจรถตู้โดยสาร พบว่ายางล้อแทบไม่เหลือดอก ยางแถมกินลึกถึงผ้าใบ อาจระเบิดได้ตลอดเวลา โดยมีข้อความดังนี้

"แชร์ได้เลยใครคิดจะนั่งรถตู้ กรุณาดูยางล้อก่อน ตำรวจจราจร สภ.บางปะกง เรียกตรวจรถตู้โดยสาร ยังอึ้งเมื่อพบว่ายางล้อแทบไม่เหลือดอกยางแถมกินลึกถึงผ้าใบสามารถระเบิดได้ตลอดเวลา แต่คนขับขอวิ่งทำรอบรับผู้โดยสารก่อน เพราะคิวเร่ง ตำรวจแนะให้เปลี่ยนแต่ขอผลัดวันเพราะไม่มีรถวิ่ง ก็ดูเอาความปลอดภัยแทบไม่มีเลย ไม่ห่วงผู้โดยสารนับสิบชีวิตเลย กรรม สมาชิกจะว่าไงกับเรื่องนี้"

[lดิuดิu@b3]

เกิดน้ำท่วมสถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช รฟท.เปิดเดินรถไฟสายใต้ได้ถึง จ.สุราษฎร์ธานี อย่างไม่มีกำหนด

เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา จ.นครศรีธรรมราช เกิดฝนตกหนัก ประกอบกับมวลน้ำสะสมมีปริมาณมาก จึงทำให้หลากเข้าท่วมทางรถไฟ รวมถึงที่บริเวณสถานีรถไฟทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งวานนี้ถูกกำหนดให้เป็นจุดสิ้นสุดของรถไฟที่จะเดินทางลงไปยังภาคใต้ ล่าสุดพบ ขบวนรถเร็ว 173 กรุงเทพ - นครศรีธรรมราช, ขบวนรถเร็ว 167 กรุงเทพ - กันตัง และ ขบวนรถด่วน 85 กรุงเทพ - นครศรีธรรมราช ต้องจอดส่งผู้โดยสารแค่ที่สถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังพบว่าขบวนอื่น ๆ ที่มุ่งหน้าไปยังภาคใต้ทั้งหมด ก็ต้องปรับเปลี่ยนการเดินทาง โดยมีสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี เป็นปลายทางเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสามารถเปิดเดินรถตามปกติได้เมื่อใด เนื่องจากขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วม จึงขอให้ประชาชนที่ต้องใช้รถไฟในการเดินทางไปยังภาคใต้ ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง หรือสามารถสอบได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 1690

[lดิuดิu@b3]

จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงนายวศิน เหลืองแจ่ม อายุ 26 ปี บัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จนเสียชีวิตบริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 แขวงและเขตลาดพร้าว ก่อนชิงโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง ของผู้เสียชีวิต หนีขึ้นรถจยย.ที่เพื่อนจอดรออยู่ขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 23.00 น.ของวันที่ 4 ม.ค.

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (5 ม.ค.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวการจับกุม นายกิตติกร วิกาหะอายุ 26 ปี หรือนายต้อม หนึ่งในผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ใช้มีดแทงผู้ตายจริง เพราะเห็นผู้ตายเดินกดโทรศัพท์มือถือ จึงเข้าไปพูดคุยแกล้งถามทาง เมื่อผู้ตายหันมาคุยด้วยก็พยายามชิงโทรศัพท์มือถือ แต่ผู้ตายขัดขืนและพยายามต่อสู้ จึงควักอาวุธมีดแทงอย่างไม่ยั้ง

ซึ่งคนร้ายได้เตรียมอาวุธมีดติดตัวมาอยู่แล้ว และอ้างว่าจะแทงตรงไปข้างหน้าไม่ได้ตั้งใจแทงคอและไม่ได้ตั้งใจให้ถึงชีวิต โดยผู้ต้องหารายนี้มีอาชีพขายผลไม้อยู่บริเวณในซอยวัดกู้ แต่เงินไม่พอใช้ยิ่งขายยิ่งเป็นหนี้ จึงตัดสินใจพกมีดปอกผลไม้มาใช้ก่อเหตุดังกล่าว

ทีมงานชุดสืบสวนได้ตามแกะรอยจนปิดล้อมจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้แถวบ้านเพื่อนในซอยใกล้วัดกู้เฉลิมพระเกียรติ ถนนสุขาประชาสรรค์ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ส่วนเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุคือ นายพลชัย เรียงภวา ผู้ขี่รถจยย.หลบหนีไปได้ก่อน

จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายกิตติกร เคยถูกดำเนินคดีและจำคุกมาแล้ว 8 ครั้ง ตั้งแต่อายุ 13 ปี เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและทำร้ายร่างกาย โดยพ้นโทษล่าสุดเมื่อปลายปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ในวันนี้ (6 ม.ค.) เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายกิตติกรไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากคดีในท้องที่สน.โคกคราม และต่อด้วยสน.โชคชัย ส่วนนายพลชัย ยังอยู่ระหว่างหลบหนี ตำรวจทราบเบาะแสแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามตัว

[lดิuดิu@b3]

มติ สปท. หักเงินเดือนสมาชิกคนละ 5 พันบาท พร้อมสำรองจ่าย 1 ล้านบาท บริจาคช่วยน้ำท่วมภาคใต้ ให้ "เสรี-สุวีระ" ดำเนินการ

ความเคลื่อนไหนที่อาคารรัฐสภา ในวันนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ร่วมกับ สถาบันพระปกเกล้า จัดโครงการ ?สภานิติบัญญัติแห่งชาติรวมใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม? เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย และ วาตภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคใต้ โดยได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อรับบริจาคเงินและสิ่งของจำเป็น เครื่องอุปโภคและบริโภค ซึ่งเบื้องต้นมีสมาชิก สนช. ร่วมบริจาคเงินมากกว่า 5 แสนบาท แล้ว

ขณะที่ในส่วนของที่ประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ สปท. ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้หารือถึงการบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยที่ประชุมได้มีมติให้หักเงินเดือนสมาชิกคนละ 5 พันบาท แต่เบื้องต้น เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างเร่งด่วน สมาชิกบางรายจึงเสนอด้วยการสำรองจ่ายเงินไปก่อนจำนวน 1 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ นายเสรี สุวรรณภานนท์ และ พล.ต.ท. สุวิระ ทรงเมตตา เป็นผู้ดำเนินการ

[lดิuดิu@b3]

ผกก.บ้านโป่ง นั่งรถประจำตำแหน่งพร้อมพลขับ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเข้าเก็บของภายในบ้านพัก เมื่อช่วงเวลา 15.00 น. ก่อนขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็วโดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อ

(10 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ ผกก.สภ.บ้านโป่ง ได้เดินทางโดยรถยนต์ประจำตำแหน่งเข้ามาที่บ้านพักภายใน สภ.บ้านโป่ง โดยสวมเสื้อชุดซาฟารีสีดำ และสวมกางเกงตำรวจสีกากี ลงจากรถมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยมีพลขับเป็นผู้ถือสิ่งของนำเข้าไปไว้ภายในบ้าน พร้อมทั้งเก็บสัมภาระออกมาจำนวนหนึ่ง

จากนั้นสื่อมวลชนที่มายืนรอทำข่าวขอสัมภาษณ์ พ.ต.อ.อำนวย แต่ได้รับการปฏิเสธ และไม่พูดจาหรือให้สัมภาษณ์แต่อย่างไรก่อนที่จะรีบขึ้นรถยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นยังไม่ทราบว่า พ.ต.อ.อำนวย จะเดินทางไปยังสถานที่ใด

สืบเนื่องจากกรณีที่นายบุญชู พลไธสง อาชีพพนักงานในร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่งย่านถนนพุทธมณฑลสาย 4 ได้เข้าแจ้งความว่า น.ส.สุภัคสรณ์ หรือหญิง พลไธสง อายุ 28 ปี บุตรสาวได้สูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา เชื่อว่าต้องเกิดเหตุร้ายกับบุตรสาวอย่างแน่นอน เพราะ น.ส.สุภัคสรณ์นั้นเป็นทอมบอย หน้าตาดี มีผู้หญิงมาติดพันจำนวนมาก และรู้จักกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ซึ่งคบหากับ พ.ต.อ. เป็นผกก.อยู่โรงพักแห่งหนึ่ง ทำให้ลูกต้องตีตัวออก***งจากน.ส.เอ และมีเรื่องระหองระแหงกันมาสักระยะกระทั่งหายตัวสูญหายไป


ต่อมาศาลอุมัติหมายจับผู้ต้องหา 7 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.อำนวย พงษ์สวัสดิ์ อายุ 58 ปี ผกก.สภ.บ้านโป่ง น.ส.กรรณิกร กรุมรัมย์ อายุ 38 ปี นายชัยยุทธ์ เบญจชาติ อายุ 41 ปี นายภาณุเมศว์ มีลา อายุ 39 ปี นายสามารถ แสงสิน อายุ 50 ปี นายภูมิทัศน์ พิบูลย์สวัสดิ์ อายุ 24 ปี และนายนิวัฒน์ สวยทอง อายุ 32 ปี

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ม.ค. พนักงานสอบสวนสน.หนองค้างพลูขออนุมัติหมายจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดขออนุญาตไม่ระบุรายละเอียด ส่วนกรณีที่มีข้าราชการทหารเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ยังไม่ขอให้ข้อมูล เพราะจะทำให้ไม่สามารถจับกุมตัวได้ ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการติดตามผู้เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันมาหลายสัปดาห์ สิ่งสำคัญที่สุดเราต้องการที่ทำงานในเชิงลับ เพราะหากข้อมูลบางอย่างหลุดออกมา อาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานยากยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้ยังห่วงผู้เสียหายยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดว่าขณะนี้เป็นอย่างไร ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนนครบาลประสานงานกับชุดสืบสวนภาค เพื่อเร่งติดตามข้อมูลดังกล่าว

ล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนได้จับกุมทีมอุ้มได้แล้ว 2 รายกำลังควบคุมตัวมาสอบสวนยัง สน.หนองค้างพลู โดยเบื้องต้นทราบว่าเป็นนายทหารสังกัดจังหวัดกาญจนบุรี ทั้งสองรับสารภาพว่า พ.ต.อ.จ้างวานด้วยเงิน 2 แสนบาท รับ 3 งวด ให้ไปอุ้มสาวทอ

[lดิuดิu@b3]

(18 ม.ค.) กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ หลังจากมีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊ก Rattapong Kajonkittipoom ได้โพสต์ภาพและข้อความ ถึงอุบัติเหตุบนถนนมอเตอร์เวย์ ในพื้นที่ จ.ชลบุรี บริเวณใกล้ทางออกเลี้ยวซ้ายไป จ.ระยอง

ระหว่างรถเบนซ์กำลังขับอยู่เลนกลาง ได้มีรถเก๋ง BMW I8 ขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะตัดสินใจเบี่ยงซ้าย เข้ามาเลนกลางของรถเบนซ์ที่ขับอยู่ด้านหน้า ก่อนจะชนได้พยายามเหยียบเบรก แต่ไม่อยู่ ชนท้ายอย่างจัง จนท้ายรถเบนซ์พัง ขณะที่หน้ารถ BMW ก็พังอย่างมากเช่นกัน โดยระบุข้อความว่า

"ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใครนะ แต่คุณไม่แมนเลยวะ ขับรถชนเพื่อนผม พอเห็นว่ารถเพื่อนผมไม่มีกล้อง สร้างเรื่องตอแหลขึ้นมาว่าเพื่อนผมขับรถเปลี่ยนเลนมาเบียดคุณ (คิดว่าที่สร้างเรื่อง เพราะไม่มีประกัน พอไม่มีประกัน ก็ต้องจ่ายค่าซ่อมทั้งรถตัวเองและรถคู่กรณี) ดูจากคลิปได้เลย ขับมาชนท้ายเองชัดๆ ชนแรงด้วย ดีนะเพื่อนผมรากฐานแข็งแรง

คดีพลิกไปดิ #ขับรถห้ามประมาท #ต้องไปติดกล้องที่รถบ้างละ ขอบคุณคนที่ถ่ายคลิปไว้ได้ครับ"


ทั้งนี้ ผู้โพสต์ได้แชร์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวจาก youtube ซึ่งเป็นคลิปจากกล้องหน้ารถที่ผู้ใช้ชื่อว่า ZIIIZ The Guard ถ่ายไว้ได้ ซึ่งคลิปดังกล่าวถูกแชร์และมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย

[lดิuดิu@b3]

หลังจากเมื่อวานนี้ รัฐบาลปรับภูมิทัศน์รอบทำเนียบ โดยวางอ่างบัว 10 ใบ เพื่อเสริมสิริมงคล ล่าสุด อ่างบัวโดนหินเจาะรั่ว!

วันนี้ (24 ม.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รับทราบแล้วว่าอ่างบัวที่นำมาลงไว้ที่สวนทำเนียบเมื่อวานนี้ มีรอยรั่วไป 1 ใบ เหตุคนสวนตัดหญ้าทำหินกระเด็นไปโดน โดยหลังจากนี้ก็จะต้องให้ส่วนที่เกี่ยวข้องซ่อมแซม และดูว่ายังอยู่ในประกันสินค้าหรือไม่

ทั้งนี้ อ่างใบใหญ่ทั้งหมด 10 ใบ สนนราคาใบละ 5,000 บาท เบ็ดเสร็จเฉพาะอ่างบัวคิดเป็นเงิน 5 หมื่นบาท โดยนำมาวางในสวนด้านข้างตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.60) ตามเส้นทางที่ นายกรัฐมนตรี เดินเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อปรับภูมิทัศน์ให้ความสวยงาม และเสริมความเป็นสิริมงคล ทั้งดอกบัวที่หมายถึงความบริสุทธิ์ และดอกดาวเรือง ที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรือง

สำหรับ โครงการปรับภูมิทัศน์ สวนนงนุชเข้าดำเนินการ ในวงเงิน 260,545 บาท เริ่มปรับปรุงมาตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

[lดิuดิu@b3]

จากกรณีที่ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก อาทิวราห์ สุโคตร ซึ่งเป็นคลิปที่เด็กชายตั้งกล้องถ่ายตัวเอง แล้วหันไปคุยกับแม่ที่กำลังรีดผ้า เรื่องพ่อพาไปเที่ยววันเด็ก พร้อมพูดว่า "มามี้ๆ ตอนไปเที่ยวงานวันเด็กกับปาป๋า แม่ใหม่โคตรใจดีเลย ตามใจทุกอย่างด้วย" ซึ่งผู้เป็นแม่ก็หันขวับมาทันที และยกเท้าถีบสามีที่กำลังนั่งอยู่ที่พื้นจนกระเด็น ส่วนผู้เป็นพ่อและสามี ก็ตอบภรรยาไปว่า "เด็กมันก็พูดไปเรื่อย" นั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยอดวิวพุ่งคลิปลูกชายตัวแสบ เล่าให้แม่ฟังเรื่องพ่อ

ล่าสุด (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ตรวจสอบจนพบว่าเจ้าของคลิป คือ นายกชกร สุโคตร อายุ 28 ปี ชาวบ้านหนองกุง ตำบลศิลา อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จากการสอบถาม นายกชกร เล่าว่า ตนเองมีอาชีพเป็นนักร้องที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น และได้แต่งงานมีภรรยาคือนางสาวกาณจนา พลสา และมีลูกชาย 1 คน คือเด็กชายฉาทิวราห์ สุโคตร หรือ น้องนิวตรอน อายุ 6 ขวบ ที่ผ่านมาตนเองพร้อมภรรยาและลูกชาย จะถ่ายคลิปต่างๆ

จากนั้นจะมีการโพสคลิปบนโลกออนไลน์ จนกระทั่งคลิปล่าสุดดังกล่าวตนเองพร้อมด้วยภรรยาและลูก ได้มีการแสดงโดยใช้โทรศัพท์มือถือ บันทึกภาพทำคลิป ก่อนหน้านี้ตนเองได้ถ่ายคลิปไปแล้วแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้กลับได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวนมากเกินคาดหมาย ซึ่งคลิปนี้ต้องการสื่อให้เป็นเรื่องบันเทิงเท่านั้น

ทั้งนี้ นายกชกร ยืนยันว่า จะยังถ่ายคลิปต่อไป โดยตนเองจะสอนลูกเสมอว่า อะไรเป็นเรื่องดีและไม่ดีแฝงไปด้วย และขอขอบคุณประชาชนที่ได้ติดตามคลิปของตนเอง

[lดิuดิu@b3]

น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์ เปิดใจหลังทำได้ดีที่สุดในการเข้ารอบ 6 คนสุดท้าย เปิดใจขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ พร้อมกับโผลเข้ากอดพ่อกับแม่

หลังกำลังใจจากคนไทยส่งไปเชียร์ "น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์" กันถึงขอบเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2016 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งแต่รอบ 13 คน ก็มีชื่อของ น้ำตาล ติดหนึ่งในนั้น ตามมาด้วยรอบ 9 คน ซึงสาวงามของเราถูกประกาศเป็นคนที่สองสร้างความตื่นเต้นให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก

เท่านั้นยังไม่หมด ความหวังของคนไทยเริ่มมั่นใจขึ้นอีกครั้งเมื่อรอบ 6 คน มีรายชื่อของ "น้ำตาล ชลิตา" ต้องบอกว่าเป็นการเข้ารอบที่ลึกมากสำหรับสาวงามของไทยบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สในรอบ 20 กว่าปีเลยทีเดียว

แม้ผลตัดสินจะออกมาว่าเธอไม่ได้ไปต่อ มงกุฏนางงามจักรวาลตกเป็นของสาวงามจากประเทศฝรั่งเศส แต่ขอบอกว่าเธอทำได้ดีมากและเป็นที่ประทับใจของคนไทยทั้งประเทศจริงๆ

[lดิuดิu@b3]

เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ทุจริตการสอบนายสิบตำรวจ ขณะมารายงานตัวแล้วร่วม 10 ราย ศานิตย์สอบเอง มั่นใจหลักฐานพร้อมเอาผิดได้ทันที

วันที่ 31 มกราคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้ผ่านการคัดเลือกทั้งที่สอบติดเป็นตัวจริง จำนวน 1,000 คน และส่วนของตัวสำรอง 141 คน ได้เดินทางมารายงานตัวอย่างต่อเนื่อง หลังเมื่อวานนี้ (31 มกราคม) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคัดเลือกสอบข้อเขียน นักเรียนนายสิบตำรวจประจำปี 2559 โดยขั้นตอนการรายงานตัวนั้น เจ้าหน้าที่จะให้นักเรียนนายสิบที่ผ่านการคัดเลือกซักซ้อมการปฏิบัติ และเซ็นรายชื่อในเอกสารการรายงานตัว และหากพบว่าบุคคลรายใดมีหมายจับฐานทุจริตการสอบนายสิบตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน จะควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และเรียกตัวสำรองมาแทน ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวผู้ที่มีรายชื่อในหมายจับมาคุมตัวแล้ว กว่า 10 คน

พล.ต.ท. ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 10 ผู้ต้องหาฐานทุจริตสอบนายสิบตำรวจ ที่มารายงานตัวที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดี ว่า ตำรวจจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 10 คน เข้าสู่กระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาความผิดในฐาน "อั้งยี่ที่มีการรวมตัวกันกระทำผิดทางอาญา แจ้งความเท็จต่อเจ้าหน้าที่พนักงาน และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) กรอกข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าไปในคอมพิวเตอร์" และดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาจะสารภาพหรือไม่ ก็ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถต่อสู้กันตามกระบวนการของกฎหมาย

[lดิuดิu@b3]

วันที่ 1 ก.พ. 60 ? ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ว่ามีกลุ่มเครือข่ายเพื่อนนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูโรงเรียนบ้านม่วงไข่ประชาราษฎร์สงเคราะห์ ต.ด่านม่วงคำ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ผู้ต้องโทษในคดีขับรถชนคนเสียชีวิต จำนวน 7 คน นำโดย นายรุ่ง สุริยกานต์ ประธานเครือข่ายนักเรียนทุนจอมบึง รุ่น 24 ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการส่วนดำเนินการเรื่องราวร้องทุกข์ เพื่อขอให้นายกรัฐมนตรีกำกับดูแลให้กระบวนการสืบพยาน คุ้มครองพยานและญาติพยานในคดีนางจอมทรัพย์ ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม และมีมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยของพยานในคดีดังกล่าว

ตัวแทนกลุ่มเพื่อนนางจอมทรัพย์ ระบุว่า พวกตนมีความห่วงใยในการรื้อฟื้นคดีอาญาของกระทรวงยุติธรรม เนื่องจากปรากฎว่ามีนายตำรวจระดับสูงออกมาให้ข่าวในเชิงไม่เป็นผลดีต่อพยานในขณะปฏิบัติหน้าที่ และยังพบอีกว่า มีการออกหมายเรียก, หมายจับ ต่อพยานและญาติพยาน รวมถึงมีการส่งกำลังตำรวจลงพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นการคุกคามพยานด้วยหรือไม่

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บค 56 สกลนคร ของนางจอมทรัพย์ มาตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบก เบื้องต้นปรากฎว่า ไม่พบร่องรอยการเฉี่ยวชน และสภาพรถยังปกติ ไม่มีร่องรอยการดัดแปลงแต่อย่างใดนั้น ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจสภาพดังกล่าว คงต้องรอการรื้อฟื้นคดีใหม่ในวันที่ 8-10 ก.พ. นี้ ซึ่งเหลืออีกเพียง 7 วันเท่านั้น กรณีที่สังคมมองว่า ?ผลการตรวจสภาพรถกระบะคันดังกล่าว ตรงข้ามกับสำนวนการสอบสวนของตำรวจ? นั้น พ.ต.อ.กฤษณะ ขอให้นำเอกสารพยานหลักฐานต่าง ๆ เข้าสู่สำนวนคดีในขั้นตอนต่อไป ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อยากพูดอะไรมาก เกรงว่าจะเป็นการละเมิดอำนาจศาล

[lดิuดิu@b3]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ศูนย์นิติเวช งานนิติพยาธิ โรงพยาบาลชลบุรี นางมณีพร อายุ 47 ปี แม่ของนายนวพล หรือ ปอนด์ อายุ 17 ปี พร้อมด้วยแฟนสาวของนายนวพล อายุ 15 ปี ได้เดินทางมารับศพลูกชาย ที่เสียชีวิตจากการที่ยิงกันที่บริเวณตลาดอ่างศิลา ถนนสายอ่างศิลา-สุขุมวิท ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

เนื่องมาจากกรณีที่จอดรถขวางกันเป็นเหตุให้รถขยับเขยื้อนกันไม่ได้ หลังจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่นั่งในรถตู้ได้กรูไปที่รถมาสด้า สีบอร์น หมายเลขทะเบียน ฌต 5079 กรุงเทพฯ โดยมี นายสุเทพ อายุ 50 ปี อาชีพวิศวกร อยู่ในรถ

หลังจากนั้นได้มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระสุนถูกนายนวพล เข้าบริเวณราวนมซ้ายมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาลชลบุรี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากจัดเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้ว ศพของผู้เสียชีวิตจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดน้อยนพคุณ เขตดุสิต กรุงเทพฯ

ด้าน นางมณีพร อายุ 47 ปี แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า รถที่เกิดเหตุอยู่ข้างๆ กัน ลูกชายจะเข้าไปช่วยเจรจาหลังจากมีเรื่องกัน โดยไปคุยกับแม่ของผู้ใช้อาวุธปืนแต่คุยไม่รู้เรื่อง จึงวิ่งไปที่ประตูฝั่งคนขับและถูกยิง โดยตัวเองไม่รู้ว่าถูกยิง และวิ่งไปไกลได้หลายเมตร


การที่มากล่าวหาเด็กว่ารุมกระทืบนั้น กล้องวงจรปิดมีให้เห็นว่าโดนกระทืบตอนไหน ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมาเที่ยวพร้อมกับลูก เมีย แม่ แต่ทำไมต้องพกปืนมาด้วย คงต้องไปตรวจสอบสุขภาพจิตวิศวกรคนที่ลงมือยิงด้วย

ส่วนโลกโซเชียลฯที่ลงว่ากลุ่มวัยรุ่นไปรุมกระทืบนั้น จะกระทืบได้อย่างไรเพราะนั่งอยู่ในรถ แต่โดยภายหลังจากใช้อาวุธปืนยิงเด็กแล้วจึงถูกกระทืบ ตำรวจจราจรที่อยู่ในที่เกิดเหตุรู้ดี ควรจะไปถามตำรวจว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร