สวัสดีครับวันนี้ผมมีคู่หูคู่ใหม่แห่งวงการเครื่องเสียงมานำเสนอครับ นั่นก็คือ ชุด stereo Sony CMT-DH5BT และ หูฟังไร้สายบลูทูธ SonyDR-BT50
โดยผมได้ตกลงปลงใจถอยมาพร้อมกันซะทีเดียวเลย หึหึ หลังจากได้ไปด้อมๆมองๆมาหลายครั้งแล้วจนในที่สุดก็เก็บเงินไปถอยมาจนได้ โดยปกติผมเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้วไม่ว่าจะเวลาไหน
เช้าๆตื่นมา ก็ชอบฟังตอนอาบน้ำ ^^ ไปทำงานก็ต้องฟังตอนอยู่บนรถไฟใต้ดินที่แสนจะแออัด ผมว่าถ้าไม่มีเสียงเพลงช่วยชีวิตเอาไว้ ตอนเช้าๆคงหงุดหงิดเป็นแน่แท้ 55+
ด้วยเหตุนี้ผมไม่ลังเลเลยที่จะหาของขวัญให้ตัวเองซักชิ้น หลังจากทำงานมาเหน็ดเหนื่อย และของขวัญที่มองหาก็ต้องเกี่ยวกับเสียงเพลงที่ผมชอบอย่างหนีไม่พ้น
แรกเริ่มเดิมทีว่าจะไปหา stereo ดีซักชุดมาสนองตอบความต้องการของผม และแล้วก็ไปจบลงที่ Sony CMT-DH5BT ที่ฟังก์ชั่นการทำงานส่วนใหญ่นั้นถูกใจผมเป็นที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเล่นไฟล์เพลงจาก USB device , นำสัญญาณเสียงมาออกที่ตัวเครื่องได้ผ่านทางบลูทูธ หรือส่งสัญญาณเสียงไปออกที่หูฟังบลูทูธก็ได้
คงจะเดาออกแล้วใช่มั้ยครับว่าเจ้าหูฟังบลูทูธมันมาเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมถึงมาเป็นคู่หูกันได้ คุณสมบัติที่กล่าวมานั้นถือว่าจิ๊บๆไปเลยครับเพราะสิ่งที่เรียกเงินในกระเป๋าผมได้มากที่สุด
เห็นจะเป็นการสามารถนำมาทำเป็น Home theater ก็ได้ เพราะเจ้าเครื่องนี้เนี่ย สามารถเล่นแผ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันได้แทบทุกอย่าง
ดัง Spec นี้ DVD / DVD-R/RW / VCD / CD / CD-R/RW / MP3 / JPEG เห็นอะไรรึเปล่าครับ ใช่ครับ มันเล่นไฟล์รูปได้ด้วย ^_^
เห็นอย่างนี้แล้วใครจะอดใจไหว 555+ นอกจากนี้ขนาดของตัวมันยังจัดอยู่ในขนาดเล็กอีกด้วย ทำให้การจัดวางเป็นไปอย่างลงตัว ไม่ต้องไปหาตู้ stereo
เพื่อมาใส่ สามารถวางไว้ข้างๆทีวีก็ดูสวยไม่หยอก แต่ก็นั่นอีกแหละครับ เรื่องขนาดนั้นไม่ใช่ปัญหาจริงๆ ถึงจะเล็กแต่พลังเสียงเนี่ย ใหญ่เกินตัวครับ
เปิดพวกหนัง action ทีบ้านแทบแตก 555 เนื่องจากกำลังขับที่มีมากถึง 100W เมื่อรวมเข้ากับการถอดรหัสเสียง Dolby Digital / DTS Sound
ผมคิดว่าผมคงประหยัดค่าตั๋วหนังไปเยอะเลยทีเดียว ^^ ยังครับยังไม่จบ Highlight ของเราอีกอย่างในวันนี้ก็คือ หูฟังไร้สายบลูทูธ SonyDR-BT50
ที่เกริ่นนำไปตั้งแต่ตอนต้น ด้วยความที่ผมเป็นคนค่อนข้างจะนอนดึกเสียหน่อย ตอนกลางคืนก็มักจะหาหนังมานั่งดู เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแฟนสุดที่รัก
เลยต้องหาหูฟังเอาไว้มันคนเดียว ^^ ซึ่งไหนๆจะซื้อแล้ว ขอเอามาใช้ให้ได้คุ้มที่สุดครับ สามารถพกไปฟังตอนเช้าบนรถไฟใต้ดินด้วย
ปกติแล้วผมเป็นประเภทไม่สนใจโลกภายนอกซักเท่าไหร่ จึงมักจะเลือกใช้หูฟังแบบ in ear เพื่อตัดเสียงรบกวนรอบข้าง แต่พอใช้ไปนานๆแล้ว เจ็บหูครับ
ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวรึเปล่า ไม่ว่าหูฟังจะราคาแพงแค่ไหนก็ตาม ก็ยังเจ็บหูอยู่ดี พอมาเจอตัวนี้ถูกใจเลยครับ เป็นหูฟังแบบครอบหูแต่สามารถตัดเสียงได้เงียบสนิทเหมือน in ear เลยครับ
ซึ่งนอกจากจะใช้ฟังเพลงแล้ว ยังรับโทรศัพท์ได้ด้วย คุ้มซะขนาดนี้มีหรือจะพลาด 55+ ซึ่งสิ่งที่ผมประทับใจๆมากๆเลยก็คือเทคโนโลยีของ A2DP
ซึ่งแยกสัญญาณเสียงเป็นแบบ stereo ทำให้เวลาดูหนังได้อรรถรสมากครับ เหมือนเปิดลำโพงปกติ แถมไม่เป็นการรบกวนคุณแฟนอีกด้วย
ในเรื่องของการฟังเพลงได้อรรถรสไม่แพ้จัง ด้วยเทคโนโลยีของ A2DP เช่นกัน และสิ่งที่อัจฉริยะไม่แพ้ A2DP ก็คือความสามารถของการ Control ที่นำมาไว้บนตัวหูฟังเลย
ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนเพลงไปข้างหน้า หรือยอนกลับไปเล่นเพลงก่อนหน้านั้น การเลือกเพลงต่างๆ การเพิ่มลดเสียง ทุกสิ่งเหล่านี้สามารถสั่งงานได้จากปุ่มบนตัวหูฟังได้เลย
ไม่ต้องไปจับที่อุปกรณ์หลัก เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ แต่สิ่งที่น้อยมากๆในหูฟังอันนี้ก็คือ การกินไฟครับ เพราะเฉลี่ยแล้ว 2-3 วันผมถึงจะได้ชาร์จไฟใหม่ซักที กินไฟน้อยจนน่าแปลกใจ
เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยใช้พวกบลูทูธต่างๆมาก็หลายรุ่น แค่คุยโทรศัพท์เฉยๆ ก็หมดเกลี้ยงละครับ ชาร์จวันละหลายรอบ - - และความแรงของสัญญาณก็ต่างกันมากด้วย
จากการใช้งาน ตัวนี้เมื่อผ่านชั้นกำแพงต่างๆ เสียงยังคงชัดเจนอยู่ เมื่อเทียบกับหูฟังบลูทูธธรรมดาทั่วไป สะดวกสบาย เหมือนถือชุด stereo ไปได้ทั่วบ้าน โดยไม่มีสายเกะกะ ^^
เอาล่ะครับจะแนะนำทั้งที่จะไม่มีรูปได้ใช่มั้ยครับ ว่าแล้วก็ไปชมรูปกันเลยดีกว่า



พับแล้วเหลือตัวแค่นี้เอง ^^

ปุ่ม control ต่างๆบน Headset

ปุ่มกลมๆใหญ่ๆใช้ pair ครับ หุหุ

กะลัง pair

รูไมค์และรูสำหรับเสียบสายชาร์ท

ชุดเครื่องเสียงเรียบหรู

แปลงร่างได้ด้วยถอดหน้ากากออก





โดยผมได้ตกลงปลงใจถอยมาพร้อมกันซะทีเดียวเลย หึหึ หลังจากได้ไปด้อมๆมองๆมาหลายครั้งแล้วจนในที่สุดก็เก็บเงินไปถอยมาจนได้ โดยปกติผมเป็นคนชอบฟังเพลงอยู่แล้วไม่ว่าจะเวลาไหน
เช้าๆตื่นมา ก็ชอบฟังตอนอาบน้ำ ^^ ไปทำงานก็ต้องฟังตอนอยู่บนรถไฟใต้ดินที่แสนจะแออัด ผมว่าถ้าไม่มีเสียงเพลงช่วยชีวิตเอาไว้ ตอนเช้าๆคงหงุดหงิดเป็นแน่แท้ 55+
ด้วยเหตุนี้ผมไม่ลังเลเลยที่จะหาของขวัญให้ตัวเองซักชิ้น หลังจากทำงานมาเหน็ดเหนื่อย และของขวัญที่มองหาก็ต้องเกี่ยวกับเสียงเพลงที่ผมชอบอย่างหนีไม่พ้น
แรกเริ่มเดิมทีว่าจะไปหา stereo ดีซักชุดมาสนองตอบความต้องการของผม และแล้วก็ไปจบลงที่ Sony CMT-DH5BT ที่ฟังก์ชั่นการทำงานส่วนใหญ่นั้นถูกใจผมเป็นที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นเล่นไฟล์เพลงจาก USB device , นำสัญญาณเสียงมาออกที่ตัวเครื่องได้ผ่านทางบลูทูธ หรือส่งสัญญาณเสียงไปออกที่หูฟังบลูทูธก็ได้
คงจะเดาออกแล้วใช่มั้ยครับว่าเจ้าหูฟังบลูทูธมันมาเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมถึงมาเป็นคู่หูกันได้ คุณสมบัติที่กล่าวมานั้นถือว่าจิ๊บๆไปเลยครับเพราะสิ่งที่เรียกเงินในกระเป๋าผมได้มากที่สุด
เห็นจะเป็นการสามารถนำมาทำเป็น Home theater ก็ได้ เพราะเจ้าเครื่องนี้เนี่ย สามารถเล่นแผ่นที่มีอยู่ในปัจจุบันได้แทบทุกอย่าง
ดัง Spec นี้ DVD / DVD-R/RW / VCD / CD / CD-R/RW / MP3 / JPEG เห็นอะไรรึเปล่าครับ ใช่ครับ มันเล่นไฟล์รูปได้ด้วย ^_^
เห็นอย่างนี้แล้วใครจะอดใจไหว 555+ นอกจากนี้ขนาดของตัวมันยังจัดอยู่ในขนาดเล็กอีกด้วย ทำให้การจัดวางเป็นไปอย่างลงตัว ไม่ต้องไปหาตู้ stereo
เพื่อมาใส่ สามารถวางไว้ข้างๆทีวีก็ดูสวยไม่หยอก แต่ก็นั่นอีกแหละครับ เรื่องขนาดนั้นไม่ใช่ปัญหาจริงๆ ถึงจะเล็กแต่พลังเสียงเนี่ย ใหญ่เกินตัวครับ
เปิดพวกหนัง action ทีบ้านแทบแตก 555 เนื่องจากกำลังขับที่มีมากถึง 100W เมื่อรวมเข้ากับการถอดรหัสเสียง Dolby Digital / DTS Sound
ผมคิดว่าผมคงประหยัดค่าตั๋วหนังไปเยอะเลยทีเดียว ^^ ยังครับยังไม่จบ Highlight ของเราอีกอย่างในวันนี้ก็คือ หูฟังไร้สายบลูทูธ SonyDR-BT50
ที่เกริ่นนำไปตั้งแต่ตอนต้น ด้วยความที่ผมเป็นคนค่อนข้างจะนอนดึกเสียหน่อย ตอนกลางคืนก็มักจะหาหนังมานั่งดู เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนแฟนสุดที่รัก
เลยต้องหาหูฟังเอาไว้มันคนเดียว ^^ ซึ่งไหนๆจะซื้อแล้ว ขอเอามาใช้ให้ได้คุ้มที่สุดครับ สามารถพกไปฟังตอนเช้าบนรถไฟใต้ดินด้วย
ปกติแล้วผมเป็นประเภทไม่สนใจโลกภายนอกซักเท่าไหร่ จึงมักจะเลือกใช้หูฟังแบบ in ear เพื่อตัดเสียงรบกวนรอบข้าง แต่พอใช้ไปนานๆแล้ว เจ็บหูครับ
ไม่รู้ว่าผมเป็นคนเดียวรึเปล่า ไม่ว่าหูฟังจะราคาแพงแค่ไหนก็ตาม ก็ยังเจ็บหูอยู่ดี พอมาเจอตัวนี้ถูกใจเลยครับ เป็นหูฟังแบบครอบหูแต่สามารถตัดเสียงได้เงียบสนิทเหมือน in ear เลยครับ
ซึ่งนอกจากจะใช้ฟังเพลงแล้ว ยังรับโทรศัพท์ได้ด้วย คุ้มซะขนาดนี้มีหรือจะพลาด 55+ ซึ่งสิ่งที่ผมประทับใจๆมากๆเลยก็คือเทคโนโลยีของ A2DP
ซึ่งแยกสัญญาณเสียงเป็นแบบ stereo ทำให้เวลาดูหนังได้อรรถรสมากครับ เหมือนเปิดลำโพงปกติ แถมไม่เป็นการรบกวนคุณแฟนอีกด้วย
ในเรื่องของการฟังเพลงได้อรรถรสไม่แพ้จัง ด้วยเทคโนโลยีของ A2DP เช่นกัน และสิ่งที่อัจฉริยะไม่แพ้ A2DP ก็คือความสามารถของการ Control ที่นำมาไว้บนตัวหูฟังเลย
ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนเพลงไปข้างหน้า หรือยอนกลับไปเล่นเพลงก่อนหน้านั้น การเลือกเพลงต่างๆ การเพิ่มลดเสียง ทุกสิ่งเหล่านี้สามารถสั่งงานได้จากปุ่มบนตัวหูฟังได้เลย
ไม่ต้องไปจับที่อุปกรณ์หลัก เรียกได้ว่าสะดวกสุดๆ แต่สิ่งที่น้อยมากๆในหูฟังอันนี้ก็คือ การกินไฟครับ เพราะเฉลี่ยแล้ว 2-3 วันผมถึงจะได้ชาร์จไฟใหม่ซักที กินไฟน้อยจนน่าแปลกใจ
เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยใช้พวกบลูทูธต่างๆมาก็หลายรุ่น แค่คุยโทรศัพท์เฉยๆ ก็หมดเกลี้ยงละครับ ชาร์จวันละหลายรอบ - - และความแรงของสัญญาณก็ต่างกันมากด้วย
จากการใช้งาน ตัวนี้เมื่อผ่านชั้นกำแพงต่างๆ เสียงยังคงชัดเจนอยู่ เมื่อเทียบกับหูฟังบลูทูธธรรมดาทั่วไป สะดวกสบาย เหมือนถือชุด stereo ไปได้ทั่วบ้าน โดยไม่มีสายเกะกะ ^^
เอาล่ะครับจะแนะนำทั้งที่จะไม่มีรูปได้ใช่มั้ยครับ ว่าแล้วก็ไปชมรูปกันเลยดีกว่า



พับแล้วเหลือตัวแค่นี้เอง ^^

ปุ่ม control ต่างๆบน Headset

ปุ่มกลมๆใหญ่ๆใช้ pair ครับ หุหุ

กะลัง pair

รูไมค์และรูสำหรับเสียบสายชาร์ท

ชุดเครื่องเสียงเรียบหรู

แปลงร่างได้ด้วยถอดหน้ากากออก





Comment