ใครใช้ Computer เป็น Source บ้างครับ มีวิธีจัดการระบบไฟอย่้างไรบ้างครับ

[nutsaint]

ภาคจ่ายไฟภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะเป็นแบบ SMPS (switch-mode power supply) หรือที่เรามักเรียกกันแบบง่ายๆว่า ภาคจ่ายไฟแบบสวิทชิ่ง ซึ่งเล็กกระทัดรัด แต่มีสัญญาณรบกวนสูง เพราะโครงสร้างถูกออกแบบให้ทำงานที่ความถี่สวิทชิ่งที่ 50 Kz- 1MKz แล้วใช้ Low Pass Filter กรองไฟให้เรียบและตัดความถี่สูงออกจากกระแสไฟตรง ซึ่งปกติควรเรียบสนิท แต่ในความเป็นจริงกระแสไฟตรงที่ได้จะมีความถี่สูงปนออกมาเสมอ มากบ้าง น้อยบ้าง ตามยถากรรมและคุณภาพของแหล่งจ่ายไฟ ซึ่งปกติถ้าเป็นคอมฯแบบประกอบเอง ภาคจ่ายไฟจะเป็นแบบแถมฟรีครับ คงไม่ต้องถามถึงคุณภาพนะครับ ส่วน Notebook ทุกเครื่องจะใช้ภาคจ่ายไฟภายนอกแบบ SMPS เช่นกัน เพราะเล็กและเบา

นอกจากนั้นในคอมพิวเตอร์นั้นทำงานที่ความถี่ระดับ Gigahertz และอุดมไปด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่จะคอยรบกวนการทำงานของระบบออดิโอครับ พวกขยะเหล่านี้พบได้ทั่วไปภายในกระแสไฟเลี้ยงและจาก USB Port

พอดีได้อ่านข้อความนี้จากบอร์ดของ discoveryhifi
เข้าใจว่า ถ้าเราใช้ Computer เป็น Source จะ้มีสัญญาณรบกวน
เนื่องจากภาคจ่ายไฟของ Computer ไม่ได้เป็นแบบ linear
แล้วเราจะมีวิธีการจัดการอย่างไรบ้างครับ

[takai]

มี UPS ดี ๆๆ ช่วยกรองกระแสก่อนเข้าเครื่องครับ ช่วยได้เยอะ

[battlecruiser]

หากใช้ analog output มันเลี่ยงไม่ได้ครับ ทำได้แค่เพิ่ม การกรอง ( filter )

และ การป้องกัน ( EMI SHIELD ) soundcard รุ่นสูงๆ จะมีสิ่งพวกนี้อยู่แล้ว

หรือถ้าไม่มี หรือมีน้อย ก็ดัดแปลง โมเพิ่มได้


--------------------------------------------------------

ส่วนวิธีเลี่ยงของ ชาว head-fi คือ DAC ภายนอกเครื่อง ผ่าน optical



Flac > Foobar > ASIO >AV710 >optical > DAC1 benchmark

[takai]

แล้วก็หา PSU ดี ๆๆ ที่จ่ายไฟอัตราดรอปน้อย ๆๆ

[battlecruiser]

และอีกอย่าง


หากฟังไม่ออกถึงความต่าง ก็ไม่มีเหตุผลจำเป็นต้องเสียงเิงินเพิ่ม


หากทำแล้วเห็นผล วิทยาศาสตร์อธิบายได้ ก็ทำไป


แต่หาก วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ หรือมันไม่เกี่ยวกันเลย อันนี้จะเรียกว่า คิดไปเองซะมากกว่า


หากกังวลวิตกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมากกินไป ก็เลิกฟัง ง่ายๆ

[nutsaint]

หากใช้ analog output มันเลี่ยงไม่ได้ครับ ทำได้แค่เพิ่ม การกรอง ( filter )

และ การป้องกัน ( EMI SHIELD ) soundcard รุ่นสูงๆ จะมีสิ่งพวกนี้อยู่แล้ว

หรือถ้าไม่มี หรือมีน้อย ก็ดัดแปลง โมเพิ่มได้


--------------------------------------------------------

ส่วนวิธีเลี่ยงของ ชาว head-fi คือ DAC ภายนอกเครื่อง ผ่าน optical



Flac > Foobar > ASIO >AV710 >optical > DAC1 benchmark

แปลว่า ถ้าเราใช้ Computer เ็ป็นแค่ transport เพื่อส่งสัญญาณ Digital
ถึงจะมีสัญญาณรบกวนจากภาคจ่ายไฟแบบ Switching ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรใช่ไหมครับ

[battlecruiser]

แปลว่า ถ้าเราใช้ Computer เ็ป็นแค่ transport เพื่อส่งสัญญาณ Digital
ถึงจะมีสัญญาณรบกวนจากภาคจ่ายไฟแบบ Switching ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรใช่ไหมครับ

ประมาณนั้นแหละครับ

จะให้ดีต้องใช้ bit perfect ด้วย เพื่อให้ได้สัญญานดิบๆ ที่ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปแม้แต่บิทเดียว ออกสู่ digital s/p dif output

[kirk]

แต่ถึงจะฟัง MP3 128 Kbp/s ก็นะ ลงทุนไม่ค่อยคุ้มเท่าไรเลย กับการไปลดสัญญาณรบกวนต่างๆ

[nutsaint]

แต่ถึงจะฟัง MP3 128 Kbp/s ก็นะ ลงทุนไม่ค่อยคุ้มเท่าไรเลย กับการไปลดสัญญาณรบกวนต่างๆ

ผมไม่ได้ฟัง MP3 ครับ
ผมฟัง FLAC (Lossless) 24 bit 176.4 kHz และ 192 kHz
ต่อเข้า DAC, Pre Amp และ Power Amp ครับ
DAC ผมเปลี่ยน Opamp เป็น OPA627AM
และเปลี่ยน fuse เป็น Audio grade
แล้วก็ต่อผ่านเครื่องกรองไฟแบบ Line ISO-Regulator ด้วยครับ

ตอนนี้ใช้ Foobar แต่ Output ออกเป็น KS ครับ
เพราะ ASIO มันรับ 176.4 kHz, 192 kHz ไม่ได้ครับ

ฟังแบบนี้คิดว่า ลงทุนกับการลดสัญญาณรบกวน คุ้มไหมครับ

[battlecruiser]

ท่านใช้การ์ดอะไรเป็นตัวส่งเหรอครับ

ถ้าเป็น ENVY24HT-S ธรรมดาๆ + ASIO4 ALL น่าจะได้หมด 44.1 48 88.2 96 176.4 192

หรือพวก Audiotrak Prodigy + ASIO 2.0 ของมัน ก็น่าจะได้หมด

[nutsaint]

Sndscape Odeum ครับ

http://www.discoveryhifi.com/TG_Link.html

ที่ใช้ตัวนี้เพราะลองแล้ว เสียงดีกว่า Coaxial ครับ
ขนาดใช้ Merrex Kable Digital-0 เสียงก็ยังสู้ TG-Link สายแถมไม่ได้ครับ

ท่าน battlecruiser ช่วยแนะนำด้วยได้ไหมครับ
ใช้ ASIO เสียงดีกว่า KS มากไหมครับ เข้าใจว่ามันส่งสัญญาณดิบ ๆ เหมือนกัีน