1. เลือกไว้เสร็จแล้ว กลับบ้านดันหยิบมาคนละตัว 
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นาน เล็ง 2200 ไมโครฟารัต ไว้อย่างดี พอไปดูตัวอื่น กลับมาดันหยิบผิดตัว ได้ตัวอื่นมาแทน
แถมยัดไม่ลงด้วย ก่อนออกจากบ้านและซื้อท่านควรวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง ความสูงไว้ให้เรียบร้อย
2. ไปหา elna cerafine ค่าที่ต้องการดันไม่มี สุดท้ายต้องไปพึ่งร้านหนึ่ง ในเคียงหลีพลาซ่า เดินเข้าไปได้มาอีกตัว
*** จงพยายามใจแข็ง ยึดมั่นในสิ่งที่เราต้องการไว้ ***
*** หรือถ้าไปเจอตัวงามๆ ให้ซื้อเก็บไว้ก่อนที่มันจะหมด ***
3. การซื้อเก็บไว้ เป็นอันตรายในกระเป๋าอย่างยิ่ง ผมมักจะซื้อในสิ่งที่คาดว่าจะใช้ แต่พอกลับบ้านดันลืมซื้อตัวที่มันจำเป็นต้องใช้
เรื่องค่าประจุมากเบสเยอะ อะไรพวกนี้ก็อย่าไปคำนึงมาก แต่ควรระวังไว้หน่อยก็ดี ผมมักซื้อมาเผื่อเอาไว้ ดันไม่ได้ใช้ซะอีก
4. ซีถูกๆ ก็เสียงดีนะ ใส่ถูกที่เสียงมันเหมือนติดปีกเลย เช่น elna rjh มันเป็นอะไรที่ดีต่อหูผม
หรือ cerafine ก็ไม่แพง ใส่ผิดที่ก็แทบฟังไม่ได้ และควรให้เวลากับมันหน่อย 50-100 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
อย่าใจร้อนเป็นอันขาด วิชาการนะ
5. ที่ด้านบนของซี หากตัวใหญ่หน่อย เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ประมาณ 4 มิลลิเมตรขึ้นไป จะมีรอยปั้มเป็นเอกลักษณ์ของซียี่ห้อนั้นๆ เช่น
nippon, ost จะเป็นสามแฉก
nichicon จะเป็นกากบาท
rubykon คล้ายตัว K
panasonic คล้ายตัว T แต่หัวจะเว้า
elna จะเป็นเส้นผ่ากลาง แล้วมีรูปจันทร์เสี้ยวอยู่ตรงกลาง
อื่นๆ จำไม่ได้แล้วครับ
แต่บางทีก็ไม่ปั้มนะ ผมก็ไม่รู้ทำไม ถ้าผมเจอแบบนี้ก็พยายามใจแข็งหลีกเลี่ยงไว้ก่อน บางครั้งมันก็ติดมือผมมาเหมือนกัน
ซีตัวใหญ่ๆ ที่ชอบมีพลาสติกปิดหัวด้านบนไว้ ที่นึกว่าเท่ห์ ก็ควรหลีกเลี่ยง ส่วนใหญ่ผมจะบอกตัวเองไว้เสมอว่าน่าจะปลอม
ของดีต้องเปิดหัวให้เราชม นานๆ ครั้งผมก็ซื้อมาปอกเปลือกดู
ที่ตูดซีมันก็พอบอกได้ แต่ผมมักจะไม่ค่อยมอง ถ้าเจอแบนๆ เรียบๆ สีออกน้ำตาล ก็เสียวหน่อย
6. ดาต้าชีต ก็เป็นสิ่งสำคัญ ให้หามาเปิดดูก็จะเป็นการดีครับ แต่ผมดันอ่านไม่ค่อยออก
7. ซีลดต้นทุน ถ้าเปลี่ยนได้ให้เปลี่ยน เพราะค่ามันมักจะต่ำกว่าความเป็นจริง แถมใช้ไปไม่นาน หัวปูดอีก (ซีแบรนด์ก็ปูด)
ผมมองเรื่องความปลอดภัยมาก่อนนะครับ หากเปลี่ยนไม่เป็นก็ใช้ไปเถอะ เสียก็ซื้อใหม่
8. ซีจะมีแบบทั้งมีขั้ว และไม่มีขั้ว การใส่ต้องใส่ให้ถูกขั้ว หาดูได้ไม่ยาก แต่ซีแทนทาลัมแบบ smd จะกำหนดขั้วไม่เหมือนกัน
โปรดระมัดระวังในการเปลี่ยนด้วย ซีไม่มีขั้วสามารถใส่ในวงจรได้เลย ไม่ต้องกังวล แต่ผมก็มักจะดูพวกตัวหนังสือเพื่อให้มันตรงทิศอยู่ดี
9. ส่วนเรื่องทนแรงดัน ให้เลือกค่ามากกว่าไฟที่ต้องการ เช่น ในวงจรใช้ 12 โวลต์ ควรเลือกใช้ 25 โวลต์ ขึ้นไป
หากหาไม่ได้ 16 โวลต์ ก็ใช้ได้ ซึ่งผมมักจะทำประจำ เพราะโวลต์สูงตัวมันใหญ่ ยัดไม่ลง ที่สำคัญมากๆ เลยคือ มันแพงกว่า
แต่โวลท์สูง esr ก็มักต่ำกว่า ซึ่งมีข้อดี มันคืออะไรผมก็ไม่รู้
10. หากเป็นช่วงจ่ายไฟ หรือใช้งานหนัก ก็เลือกซีที่ทนอุณหภูมิสูงไว้ก่อน เช่น 105 องศาเซลเซียส
แต่ผมมักจะเลือก 85 องศาเซลเซียส อยู่เสมอ เพราะมันหาง่ายและสวยกว่า ความสวยแลกกับความทนทาน
11. ซีเก่าๆ ขาสนิมขึ้นเลย ก็ควรหลีกเหลี่ยง แต่ผมมักจะหยิบติดมือมาประจำ แถมเยอะซะด้วย เพราะยี่ห้อและรุ่น มันยั่วยวนเหลือเกิน แถมราคาก็สบายกระเป๋า เอามาฟังแนวเสียงไว้ก่อน ค่าต่ำกว่าที่ระบุก็ชั่งมัน (กรุณาอย่าเลียนแบบ)
12. ซีบายพาส ซีคลัปปลิ้ง ซีฟิลเตอร์ ซีจ่ายไฟ มันคืออะไร ทุกวันนี้ผมก็ยังงงอยู่เลย แต่ที่พอจะจำได้
สเตปซีกระป๋องยอดนิยม (ไมโครฟารัต) : 0.47, 1, 2.2, 4.7, 10, 22, 33, 47, 68, 100, 220, 330, 470, 680, 1000, 1500, 2200, 4700, ...
การทนโวลท์สูงสุดที่ผมมักจะเจอ : 6, 10, 12, 16, 25, 35, 50, 63, 100, 200, 400
คิดไม่ออกแล้วครับ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นาน เล็ง 2200 ไมโครฟารัต ไว้อย่างดี พอไปดูตัวอื่น กลับมาดันหยิบผิดตัว ได้ตัวอื่นมาแทน
แถมยัดไม่ลงด้วย ก่อนออกจากบ้านและซื้อท่านควรวัดเส้นผ่านศูนย์กลาง ความสูงไว้ให้เรียบร้อย
2. ไปหา elna cerafine ค่าที่ต้องการดันไม่มี สุดท้ายต้องไปพึ่งร้านหนึ่ง ในเคียงหลีพลาซ่า เดินเข้าไปได้มาอีกตัว

*** จงพยายามใจแข็ง ยึดมั่นในสิ่งที่เราต้องการไว้ ***
*** หรือถ้าไปเจอตัวงามๆ ให้ซื้อเก็บไว้ก่อนที่มันจะหมด ***
3. การซื้อเก็บไว้ เป็นอันตรายในกระเป๋าอย่างยิ่ง ผมมักจะซื้อในสิ่งที่คาดว่าจะใช้ แต่พอกลับบ้านดันลืมซื้อตัวที่มันจำเป็นต้องใช้
เรื่องค่าประจุมากเบสเยอะ อะไรพวกนี้ก็อย่าไปคำนึงมาก แต่ควรระวังไว้หน่อยก็ดี ผมมักซื้อมาเผื่อเอาไว้ ดันไม่ได้ใช้ซะอีก
4. ซีถูกๆ ก็เสียงดีนะ ใส่ถูกที่เสียงมันเหมือนติดปีกเลย เช่น elna rjh มันเป็นอะไรที่ดีต่อหูผม
หรือ cerafine ก็ไม่แพง ใส่ผิดที่ก็แทบฟังไม่ได้ และควรให้เวลากับมันหน่อย 50-100 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ
อย่าใจร้อนเป็นอันขาด วิชาการนะ

5. ที่ด้านบนของซี หากตัวใหญ่หน่อย เส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ประมาณ 4 มิลลิเมตรขึ้นไป จะมีรอยปั้มเป็นเอกลักษณ์ของซียี่ห้อนั้นๆ เช่น
nippon, ost จะเป็นสามแฉก
nichicon จะเป็นกากบาท
rubykon คล้ายตัว K
panasonic คล้ายตัว T แต่หัวจะเว้า
elna จะเป็นเส้นผ่ากลาง แล้วมีรูปจันทร์เสี้ยวอยู่ตรงกลาง
อื่นๆ จำไม่ได้แล้วครับ
แต่บางทีก็ไม่ปั้มนะ ผมก็ไม่รู้ทำไม ถ้าผมเจอแบบนี้ก็พยายามใจแข็งหลีกเลี่ยงไว้ก่อน บางครั้งมันก็ติดมือผมมาเหมือนกัน
ซีตัวใหญ่ๆ ที่ชอบมีพลาสติกปิดหัวด้านบนไว้ ที่นึกว่าเท่ห์ ก็ควรหลีกเลี่ยง ส่วนใหญ่ผมจะบอกตัวเองไว้เสมอว่าน่าจะปลอม
ของดีต้องเปิดหัวให้เราชม นานๆ ครั้งผมก็ซื้อมาปอกเปลือกดู
ที่ตูดซีมันก็พอบอกได้ แต่ผมมักจะไม่ค่อยมอง ถ้าเจอแบนๆ เรียบๆ สีออกน้ำตาล ก็เสียวหน่อย

6. ดาต้าชีต ก็เป็นสิ่งสำคัญ ให้หามาเปิดดูก็จะเป็นการดีครับ แต่ผมดันอ่านไม่ค่อยออก
7. ซีลดต้นทุน ถ้าเปลี่ยนได้ให้เปลี่ยน เพราะค่ามันมักจะต่ำกว่าความเป็นจริง แถมใช้ไปไม่นาน หัวปูดอีก (ซีแบรนด์ก็ปูด)
ผมมองเรื่องความปลอดภัยมาก่อนนะครับ หากเปลี่ยนไม่เป็นก็ใช้ไปเถอะ เสียก็ซื้อใหม่

8. ซีจะมีแบบทั้งมีขั้ว และไม่มีขั้ว การใส่ต้องใส่ให้ถูกขั้ว หาดูได้ไม่ยาก แต่ซีแทนทาลัมแบบ smd จะกำหนดขั้วไม่เหมือนกัน
โปรดระมัดระวังในการเปลี่ยนด้วย ซีไม่มีขั้วสามารถใส่ในวงจรได้เลย ไม่ต้องกังวล แต่ผมก็มักจะดูพวกตัวหนังสือเพื่อให้มันตรงทิศอยู่ดี
9. ส่วนเรื่องทนแรงดัน ให้เลือกค่ามากกว่าไฟที่ต้องการ เช่น ในวงจรใช้ 12 โวลต์ ควรเลือกใช้ 25 โวลต์ ขึ้นไป
หากหาไม่ได้ 16 โวลต์ ก็ใช้ได้ ซึ่งผมมักจะทำประจำ เพราะโวลต์สูงตัวมันใหญ่ ยัดไม่ลง ที่สำคัญมากๆ เลยคือ มันแพงกว่า
แต่โวลท์สูง esr ก็มักต่ำกว่า ซึ่งมีข้อดี มันคืออะไรผมก็ไม่รู้
10. หากเป็นช่วงจ่ายไฟ หรือใช้งานหนัก ก็เลือกซีที่ทนอุณหภูมิสูงไว้ก่อน เช่น 105 องศาเซลเซียส
แต่ผมมักจะเลือก 85 องศาเซลเซียส อยู่เสมอ เพราะมันหาง่ายและสวยกว่า ความสวยแลกกับความทนทาน
11. ซีเก่าๆ ขาสนิมขึ้นเลย ก็ควรหลีกเหลี่ยง แต่ผมมักจะหยิบติดมือมาประจำ แถมเยอะซะด้วย เพราะยี่ห้อและรุ่น มันยั่วยวนเหลือเกิน แถมราคาก็สบายกระเป๋า เอามาฟังแนวเสียงไว้ก่อน ค่าต่ำกว่าที่ระบุก็ชั่งมัน (กรุณาอย่าเลียนแบบ)

12. ซีบายพาส ซีคลัปปลิ้ง ซีฟิลเตอร์ ซีจ่ายไฟ มันคืออะไร ทุกวันนี้ผมก็ยังงงอยู่เลย แต่ที่พอจะจำได้
สเตปซีกระป๋องยอดนิยม (ไมโครฟารัต) : 0.47, 1, 2.2, 4.7, 10, 22, 33, 47, 68, 100, 220, 330, 470, 680, 1000, 1500, 2200, 4700, ...
การทนโวลท์สูงสุดที่ผมมักจะเจอ : 6, 10, 12, 16, 25, 35, 50, 63, 100, 200, 400
คิดไม่ออกแล้วครับ
Comment