Announcement
Collapse
No announcement yet.
ภาพลำโพงคอมสวยๆ
Collapse
X
-
ตอนแรกกำตังไปเพื่อจะซื้อ KEF X300A แต่พอได้ฟัง CEntrance Audiophile Desktop System เทียบกัน หันหัวกลับแทบไม่ทัน 555
เนื่องจากแนวเสียงของชุดนี้โดนใจผมมากกว่า สุดท้ายเลยได้ชุด CEntrance Audiophile Desktop System (DACmini PX + ลำโพง MasterClass 2504) มาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านแทน และใช้เป็น dac หูฟัง Full size ได้ด้วย แถมเสียงก็ยอดเยี่ยมไม่เลวทีเดียว
จากนั้นก็ทำการอัพเกรดสายของทั้ง 3 ชุดซะ (ขออภัยลืมถ่ายสาย Cinnamon Opti)
เล่นพิเรนด้วยการลองเอา Dac มาต่อกับ ลำโพงชุด KEF-e305 ดู ก็เลยทำการลองเทียบ การฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมจาก 4 ชุดนี้ซะเลย อิอิ
ชุดที่เทียบได้แก่ **หมายเหตุ : ลำโพงทุกตัวมีภาค Dac หมดนะครับ แค่จะในหรือนอกแค่นั้น**
1. B&W MM-1 >> [Audio Quest Carbon USB A to Mini Cable]
2. Boston Acoustics Soundware XS 2.1 >> [Audio Quest Cinnamon OptiLink Cable]
3. DACmini PX >> [Furutech GT2 USB Cable] + MasterClass 2504 >> [Furutech FS-301]
4. DACmini PX >> [Furutech GT2 USB Cable] + ลำโพง KEF-E301 >> [Furutech FS-301]
และได้ข้อสรุปดังนี้
- Boston Acoustics Soundware XS 2.1 >> [Audio Quest Cinnamon OptiLink Cable]
= เบสลงได้ลึกสุด ล่องหนด้วย ฮ่าๆ เพราะได้อนิสงจากตู้ซับนี่แหละ ทำให้เหมาะแก่การดูหนัง เล่นเกมมาก ถ้าพูดถึงแค่ด้านดูหนังกับเล่นเกม Boston ตัวนี้ทำได้ดีสุดใน 4 ชุดนี้ครับ ส่วนฟังเพลงก็ไม่ขี้เหล่นะ แค่เทียบอีก 2 ตัวไม่ได้แค่นั้นเอง แถมมีลูกเล่นในการปรับโทนเสียง Music หรือ Movie ในรีโมทด้วย ส่วน Audio Quest Cinnamon Opti Cable จะช่วยเพิ่มความนิ่งของเสียง และรายละเอียดเสียงอีกเล็กน้อย ส่วนด้านอื่นๆจากที่ฟังก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่าไรนัก
ฟันทิ้งงง : ถ้ากำลังมองหา ลำโพง 2.1 ไว้เล่นเกม ดูหนัง เป็นหลัก แนะนำตัวนี้เลยครับ และเหมือนยังได้การฟังเพลงเป็นของแถม รวมถึงสามารถเชื่อมต่อ BT ฟังเพลงจากมือถือหรือเครื่อง MP3 ได้อีกด้วย และที่สำคัญที่สุดคือ!! ราคาถูกที่สุดใน 4 ชุดนี้ครับ ค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 14,900 - 16,900 แล้วแต่ร้านและการต่อราคาของแต่ละคนจ้าาา ตัวนี้ความสามารถคุ้มค่าเม็ดเงินของท่านแน่นอน
- B&W MM-1 >> [Audio Quest Carbon USB A to Mini Cable]
= ตัวนี้ชื่อเสียงเรียงนามโด่งดังมาแต่อดีตกาลทีเดียว คำจำกัดความสั้นๆของเจ้า MM1 คือ สมดุล!! ใช่ครับ เพราะเสียงมันสมดุลทุกด้านจริงๆ มีทุกย่าน และทำได้ดีทุกด้านด้วย แต่ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับ KEF X300A ได้นะครับ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนชอบเจ้าตัวนี้คือ เล็กครับ ใช่ครับ เพราะเล็กนี่แหละ แต่ลีลาจัดจ้านจริงๆ อิอิ ท่านสามารถมองไปรอบๆร้าน ที่ท่านเข้าไปซื้อลำโพงคอมตั้งโต๊ะได้ครับ ว่าในขนาดตัวพอๆกันนี่ แทบไม่มีตัวไหนกินเจ้าตัวนี้ลงเลยซักตัว แถมตัวที่ใหญ่กว่าบางตัวยังโดนเจ้านี่!เขมือบเอาด้วยซ้ำ ดังนั้นเจ้าตัวนี้จึงเป็นลำโพงเสียงดีที่พกพาสะดวกมากจริงๆ แถมดีไซน์ยังดูหรูหราไม่เบาทีเดียว แต่ต้องยอมแลกมาด้วยค่าตัวที่แพงเอาเรื่อง ซึ่งราคาระดับนี้สามารถหาลำโพงที่ดีกว่าเจ้าตัวนี้ได้ครับ แต่จะใหญ่กว่าและหนักกว่าแน่นอน และผมขอแนะนำว่าท่านใดมี B&W MM-1 ในการครอบครอง หรือกำลังจะคิดครอบครอง จงเปลี่ยนสายซะ!!! และโลกคุณจะเปลี่ยน 555 หลังจากที่ผมลองเปลี่ยนจากสายแถมเป็น Audio Quest Carbon USB สิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นนั้นไม่น้อยทีเดียว เหมือนยกระดับ Level ขึ้น 1-2 เลเวลเลยทีเดียว เสียงพื้นหลังจะสงัดขึ้น นอยส์ลดลง เสียงสูงทอดยาวไปอีกนิด เบสลดอาการบวมลง แต่ค่าสาย Audio Quest Carbon ก็ไม่ใช่เล่นๆนี่สิ ถ้างบไม่ถึงก็ลองสายพวก Cinnamon แทนก็ได้ครับ มันจะช่วยคุณภาพลำโพงคุณดีขึ้น
ฟันทิ้งงง : ถ้าใครกำลังมองหา ลำโพงขนาดเล็ก แต่คุณภาพไม่เล็ก แนวเสียง Balance เจ้า B&W MM-1 เป็นตัวเลือกที่ดีมาก โดยเฉพาะกับคนที่ย้ายหอบ่อย หรือพื้นทีจำกัด หรือโต๊ะไม่ค่อยแข็งแรง 555+ แต่ในราคา 22,000 - 25,000 บาท มันสามารถที่จะหาลำโพงที่ดีกว่านี้ได้ครับ ถ้าใครไม่เกี่ยงเรื่องพื้นที่หรือน้ำหนัก ก็ลองมองหาตัวอื่นได้ครับ หรือจะเก็บตังอีกซัก 5,000 บาท และโดดไปเล่น KEF X300A ก็ไม่เลวทีเดียว แต่เจ้า X300a มันหนักนะ ระวังจุดนี้ไว้นิดนึง โต๊ะบิ้วอินที่คอนโดเพื่อนผมตัวยึดหลุดเพราะเจ้า x300a มาแล้ว ดีไม่โดนเข่ามัน เหอๆ
- DACmini PX >> [Furutech GT2 USB Cable] + MasterClass 2504 >> [Furutech FS-301]
= เจ้าตัวนี้ เป็นลำโพงที่คนไทยไม่ค่อยจะเล่นหรือเป็นที่รู้จักมากนัก เอาง่ายๆคือแทบไม่มีร้านตัวแทนจำหน่ายในบ้านเรา ซึ่งอยู่นอกสายตาผมมากกก ไปร้านก็หลายครั้งแต่ก็ไม่สนใจที่จะฟัง เพราะมีคนรักในดวงใจอย่างเจ้า x300a อยู่แล้ว อิอิ แต่พอได้ฟังความซื่อสัตย์ของผมก็พังทลายทันที ฮ่าาาา ซึ่งมันขายเป็นชุด ถูกเรียกด้วยชื่อ CEntrance Audiophile Desktop System โดยจะมีแยกขายเป็น DACmini รุ่น CX ที่เอาไว้ใช้กับหูฟังเท่านั้น เจ้าตัวนี้มีดียังไงนะหรอ อยากจะบอกว่ามันเป็นชุด Dac + ลำโพง ที่เกิดมาคู่กัน ลงตัวมาก (แน่ละ ไม่งั้นเขาจะขายคู่กันหรอ 555) เจ้าตัวนี้เป็นลำโพงตู้ปิดด้านหลังนะครับ ดังนั้นการจัดวางจึงง่ายขึ้นเยอะ แล้วเจ้าตัวนี้มีดียังไง? แตกต่างกับ x300a ยังไงบ้าง? งั้นขอพูดถึงจุดที่เหมือนกับ x300a ก่อนนะครับ ตอนซื้อมาและแกะกล่องครั้งแรก พอเปิดฟังแล้วแทบจะโยนทิ้ง 555 ซึ่งมันมีคนที่เปิดฟัง kef x300a ครั้งแรก ด้วยอารมณ์นี้แน่ๆ เพื่อนผมมันก็เป็น ทำไมเสียงมันไม่เหมือนกับที่ลองฟังในร้านเลยยย!!!! อารมณ์เดียวกันเลยครับ โดยที่ x300a ตอนเปิดฟังครั้งแรก เสียงเบสจะแข็งมาก คุณภาพต่างกับที่ฟังในร้านอย่างชัดเจน จนคุณต้องปรับเปลี่ยนตำแหน่งลำโพง หรือเบริน์เสียงถึงจะดีขึ้นตามลำดับ เจ้าตัวนี้ก็เหมือนกัน แต่ไม่ต้องเขยิบหาตำแหน่งเหมือน x300a นะ เพราะเบสบวมทุกตำแหน่ง ฮ่าาาา จนคนฟังเกิดอาการช็อค อะไรของมันฟะ!! จนได้เทคนิคจากเว็บต่างชาติมาคือ เบิร์น โดยการสลับเปลี่ยนเพลงที่เน้นเบสกับเน้น Detail ของเสียงสลับกันไปมา จำเป็นต้องเบิร์นทั้งลำโพงทั้ง dac นั้นแหละ ซึ่งกว่าจะเริ่มกลายร่าง ยกระดับเสียงขึ้นไปในระดับที่ยอดเยี่ยมก็ปาเข้าไป 80 ชั่วโมงแล้ว เหอๆ เอาละเข้าเรื่องซักที เจ้าตัวนี้ มิติ ของเสียง ยอดเยี่ยมมากครับ สเตจหรือเวทีกว้างขวางมาก รายละเอียดเสียงก็เยี่ยม เสียงร้องติดหวานมาด้วย ฟังแล้วถึงกับเคลิ้ม อิอิ(หมายถึงเครื่องในร้านที่ผ่านการเบิร์นมาอย่างหนักหน่วงแล้วนะ) และการที่มันเป็น dac หูฟังได้ด้วยก็เป็นอีกหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมชอบเจ้าตัวนี้ ส่วนสาย Furutech GT2 USB Cable จะช่วยย่านเสียงสูงให้ดีขึ้นจากเดิมที่เป็นอยู่
ฟันทิ้งงง : ถ้าคุณกำลังมองหาลำโพงเสียงมิติสูง กว้างขวาง และยังสามารถใช้ดูหนัง เล่นเกมได้ บวกกับ dac แบบ 2 in 1 ที่สามารถใช้กับทั้งลำโพง และหูฟังได้ ถ้าคุณเป็นพวกที่เล่นหูฟังด้วยละก็ ตัวนี้มีให้ท่านครับ และคุณภาพก็ดีเอาเรื่องด้วย สามารถสู้กับ dac หูฟังราคา 20,000 กว่าบาทได้เลย และในอนาคตถ้าท่านอยากเปลี่ยนลำโพงก็สามารถคง dac ตัวนี้ไว้และเปลี่ยนแค่ลำโพงได้ ถ้าคุณมองหาลำโพงตัวที่เน้นเสียงสูง ปลายเสียงแหลมติดฟรุ้งฟริงละก็ x300a ยังเป็นคำตอบที่ดีกว่าครับ แต่ถ้าคุณชอบเสียงกลางเป็นหลัก ตัวนี้ให้ย่านเสียงกลางที่ฟังสบายกว่า มันจะตอบโจทย์คุณได้(แต่ไม่ทันทีนะเพราะเบิร์นนานมาก ฮ่าา) ซึ่งต้องแลกมากับค่าตัวที่สูงถึง 45,000 - 49,000 บาทครับ
- DACmini PX >> [Furutech GT2 USB Cable] + ลำโพง KEF-E301 >> [Furutech FS-301]
= ชุดนี้เกิดจากความคิดพิเรน ที่เอา dacmini มาจับคู่กับ ลำโพงชุดโฮมของ kef (แต่ที่จริงมันก็ทำได้นะ) แนวเสียงมันเลยเปลี่ยนไปเลยทันที ไปใกล้เคียงกับ Kef x300a แทน เนื่องจากในเทคโนโลยี Uni-Q เหมือนกัน แต่ดอกของ x300a จะใหญ่กว่านิดนึงนะครับ แนวเสียงก็คล้ายคลึงกับ x300a โดยที่ให้เสียงที่มีรายละเอียดชัดเจน คำร้องชัดถ้อยชัดคำ เสียงสูงทอดยาวและติดประกาย แต่ย่านเบสและเสียงกลางสู้ x300a ไม่ได้ครับ เสียงกลางของ x300a ดุดันและหนักแน่นกว่า และเบสก็ดีกว่าพอสมควร เนื่องจาก Dac ที่เขายัดไว้ใน x300a มันเข้ากับเสียงของ kef มากกว่า ดังนั้นการจับคู่พิเรนคู่นี้จึงเหมาะแค่เอามาฟังเพลง ดนตรีคลาสสิค และไม่เหมาะแก่การฟัง pop หรือ rock ใดๆแน่นอน
ฟันทิ้งงง : ไม่ต้องเลียนแบบหรอก แพงและไม่เวิร์ค 555+
สรุปคะแนนแบบง่ายๆเลยละกัน
**หมายเหตุ :
1. Kef x300a ในตารางคือคะแนนหลังจากเปลี่ยนสาย AC ทั้ง 2 เส้นแล้วนะครับ
2. คะแนนความคุ้มค่าของ CEntrance รวมการใช้งานของหูฟัง Full Size ไว้ด้วย ถ้าไม่ใช้งานหูฟังเลย ลดเหลือ 7.5 ครับ
หวังว่ารีวิวมั่วๆ ตามฉบับไปเรื่อยของผม จะช่วยเหลือท่านทั้งหลายได้ไม่มากก็น้อยนะ อิอิLast edited by Zack; 6 Apr 2015, 21:09:46.
Comment
-
ท่าน Zack ไม่รู้ว่าท่านได้ใช้ Fidelizer ด้วยหรือเปล่า...
ไหนๆ ก้อลงทุนเยอะขนาดนี้แล้ว แนะนำเลยครับ...
http://www.fidelizer-audio.com/
ของเค้าดีจิงๆ เหมือน up ชุดเสียงเลย แต่ใช้แรกๆ อาจจะไม่ชินบ้าง แต่เสียงที่ได้คุ้มตังส์มาก...
Comment
Comment