Tweet
รีวิว DAP(Digital Audio Player) ทิศทางใหม่แห่งการฟังเพลง
โดยรีวิวนี้จะพูดถึง DAP จากค่าย Fiio ทั้งสามรุ่น ซึ่งเปิดตัวมาได้ซักระยะ
ทั้งความสามารถเสียงและหน้าตา ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ที่สำคัญคือราคามันไม่แพงน่ะสิ สบายกระเป๋ามากๆ
รีวิวนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนนะครับ เดี๋ยวเรามาลองดูกันเลย เริ่มจากส่วนแรกกันก่อน
(ภาพประกอบ ขี้เกียจถ่ายเยอะ)
Fiio X1 VS X3
Player คุณภาพราคาเบาๆ
X1 และ X3 ถูกออกแบบมาด้วยหน้าตาเดียวกันเป๊ะๆ
จะต่างกันก็แค่ความหนาและความสามารถ
ซึ่ง X1 จะเป็น Player สายพอเพียง
คือราคาถูก เสียงดีมีความเป็นดนตรี และความสามารถก็พอเพียงเช่นเดียวกัน
เน้นใช้เป็น Player อย่างเดียว คือต่อหูฟังหรือใช้ Line out เข้าแอมป์แยกตาหากอีกทีนึง
(ใช้ 3.5mm output เดียวกันเลย และเข้าไปเซ็คต่าเอาอีกทีใน setting)
ส่วนเจ้า X3 ความสามารถที่เพิ่มมาก็คือ สารถต่อ DAC ได้
คือทำตัวเป็นแค่ตัวอ่านไฟล์แต่ไม่ทำตัวเป็น D2A
นอกจากนี้ตัว Player ยังปรับ Gain ได้ มี Low และ High
ซึ่ง X1 ไม่มีฟังก์ชั่นส่วนนี้
ซึ่งหน้าตาครั้งแรกที่เห็นทำให้ผมนึกถึง Player ค่าย Apple
แบบว่าส่วนตัวชอบ Score Wheel มากๆ
ใช้งานง่าย คล่องตัว และตอนนี้รู้สึกว่ามันคลาสสิคมากๆ
แต่ไม่ใช่แบบนั้น5555 มันไม่ใช่ มันเป็นแค่แป้นที่หมุนธรรมดา
หมุนแล้วดังแกร๊กๆเป็นเสต็ปๆไป ทำให้ฟีลลิ่งเวลาใช้งานมันลื่นมือ
Interface ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานที่คล่องตัวเท่าไหร่
ยังดีที่ใช้งานง่ายเมนูไม่ซับซ้อน
ครึ่งแรกเราจะมาเจาะในส่วนของ X1 กันก่อน
X1 มีกำลังขับที่เรียกว่ายอมเยี่ยม
เพราะว่าขับเจ้า VE Asura ออกสบายๆ
แต่เร่งนิดนึง ต้องใช้วอลุ่ม 50-70 จาก 100 สำหรับฟังในที่เงียบๆ
ผมเรียกว่าคู่นี้เป็นคู่ขวัญของวงการละกันครับ
คือมันเข้ากันมาก #ราคาก็เบามากเช่นกัน
ใครอยากได้ DAP + หูฟังง่ายๆซักตัว จับคู่นี้ได้เลย
งบเริ่มต้นไม่กี่พันบาทก็ได้ของดีๆเข้ากันแล้ว
X1 นั้นมีทุกอย่างที่ควรจะมีอยู่ในระดับมาตรฐาน
และ VE Asura ก็ให้ได้เกือบจะหมดทุกอย่างที่ควรจะมี
เบสอาจจะน้อยไปหน่อย
สำหรับ X1 นั้น ให้แนวเสียงประมาณว่า
เป็น Music Lover ที่ใส่ใจในคุณภาพเสียง
คือจะไม่จริงจังจนกลายเป็น Audiophile
และไม่ใช้ Music Lover จ๋า
ที่น่าจะเน้นและเด่นก็คงเป็นเสียงกลาง ที่เหมือนจะถูกดันให้ออกมาแนวหน้าซักหน่อย
คงเป็นเพราะส่วนมากเมโลดีของเพลงก็อยู่ในเรจน์ช่วงนี้ เลยจูนให้เด่นกลางซักนิด
จะได้ฟังง่ายๆ แต่ในส่วนอื่นๆก็มิได้ขาดตกไปแต่อย่างใดถึงจะฟังแล้วมีอึดอัดซักนิดก็ตาม
ดังนั้น X1 จึงเหมาะกับคนที่ต้องการอะไรง่ายๆ เล่นอย่างเดียว
เอาแค่มีเสียงในคุณภาพที่ดีก็เพียงพอ
ส่วน X3 ก็จะจริงจังขึ้นอีกนิดโปร่งกว่า ละเมียดกว่า ฟังสบายกว่า
รวมถึงเนื้อเสียงที่นวลเนียนกว่าอีกด้วย เป็นการขยับที่เยอะมากๆ
ทั้งราคาและคุณภาพ ตามรุ่นกันไปเลย X3 มีลูกเล่นที่มากขึ้น
รวมถึงคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นมาก จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเล่นอย่างจริงจัง
และต้องการเสียงที่ละเมียดละไมในการฟังเพลง
X3 จะตอบโจทย์ได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
Fiio X3 VS X5
X5 เป็นการยกระดับของ X3 ขึ้นมาอีก ยกแบบทุกอย่าง
ราคา ขนาด ความสามารถ คุณภาพ
แต่แนวเสียงยังคงเดิม ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือทุกๆรายละเอียด
มันมีการเปิดเผยที่มากขึ้นทำให้รู้สึกฟังสบายขึ้น
โน๊ตแต่ละตัวเป็นธรรมชาติมากขึ้น อิมแพคดีขึ้นแบบชัดเจน
แม้จะใช้แค่ VE Asura ก็สัมผัสได้
ไดนามิคและความเป็นดนตรีมีสูงกว่า X3 แบบเยอะมาก
กำลังสำรองก็ดีกว่า ทำให้น้ำหนักของแต่ละโน๊ตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น
มิติเวทีที่กว้างใหญ่ขึ้นทำให้ช่องไฟของชิ้นดนตรีนั้นมีความเป็นระเบียบมากขึ้น
เรื่องมิติต้องบอกว่ายอดเยี่ยม เพราะการทำให้ Ear-bud แสดงมิติด้านลึกได้
นี่ทำไม่ได้ง่ายๆ ต้องมีของจริงๆถึงจะทำได้ และเจ้า X5 ก็ทำได้
ทีนี้อยากจะลองเปลี่ยนอารมณ์พอกลับมาฟัง X3 เท่านั้นแหละ
อึดอัดเลยจ้า ความใสสะอาดก็น้อยกว่า ดังนั้นเราจะใช้ X5 กันต่อ 5555
จากเมื่อกี้ที่ผมอธิบายว่ามันมีมิติด้านลึกด้วย
มันยังสร้างบรรยากาศในการฟังที่ดีได้อีก คือมันมีแอมเบี้ยนเล็กๆ
ให้สัมผัส ในขณะที่ X3 จะสัมผัสถึงแอมเบี้ยนไม่ได้เลย
เสียงลมหายใจ เสียงตัวโน๊ตค่อยๆจาง เสียงอากาศรอบๆไมค์
เราสามารถได้ยินมันแบบง่ายๆ แค่ Player + Ear-Bud ย้ำอีกครึ้ง
ผมเขียนสมการแบบนี้ละกันครับ
มิติด้านลึก + แอมเบี้ยน = บรรยากาศการฟังที่ได้อรรถรสแบบสุดๆ
การฟัง X5 นี่ทำให้ผมนึกถึงตอน Apple ออก iPod มาใหม่ๆ
ทั้งหน้าตา(แม้จะเฟลไปเพราะไม่ใช่ Click Wheel) และทั้งจุดประสงค์การใช้งาน
ขอรวบรัดเลยนะครับว่า X5 ถูกออกแบบมาสำหรับ
คนที่ต้องการฟังเพลงอย่างได้อรรถรส ฟังแบบจริงจัง
ฟังแบบดื่มด่ำในรายละเอียดของบทเพลงและทุกๆบรรยากาศรอบๆตัว
DAP X1 X3 X5 ใช้ง่าย เสียงดี ราคาไม่แพง
แต่ข้อเสียคือ คุณต้องหาการ์ดมาเสียบเอง มันไม่มีหน่วยความจำในตัว
หากท่านใดสนใจ DAP ทั้งสามสามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนของ Fiio ทุกเจ้าเลยจ้า
มาสรุปกันง่ายๆคือ
X1 งบน้อย เป็นเครื่องเล่นอย่างเดียวเสียงดี แต่ไม่เหมาะกับคนที่ฟังอย่างพิถีพิถัน
X3 งบกลาง ลูกเล่นเยอะ เสียงดี เริ่มเล่นอย่างจริงจัง
X5 กระเป๋าหนัก เสียงดีมาก ต้องการความสุนทรีย์ในการฟังแบบสูงสุด
สุดท้ายกระผมอยากฝากเพจไว้นิดนึง
https://www.facebook.com/reviewlenlen/
เอาไว้อ่านยอดหลัง เพราะจะทยอยลงรีวิวเก่าๆที่เคยทำไว้ด้วยมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ 55555
หรือไว้คอยติดตามการรีวิวใหม่ๆได้ และคิดว่าคงไม่ได้รีวิวแค่ gadget อีกต่อไป
อารมณ์คือ "อยากเล่าอะไรก็เล่า เพราะเราคือรีวิวเล่นๆ"
ขอบคุณ Fiio Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ครับ
โดยรีวิวนี้จะพูดถึง DAP จากค่าย Fiio ทั้งสามรุ่น ซึ่งเปิดตัวมาได้ซักระยะ
ทั้งความสามารถเสียงและหน้าตา ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ที่สำคัญคือราคามันไม่แพงน่ะสิ สบายกระเป๋ามากๆ
รีวิวนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนนะครับ เดี๋ยวเรามาลองดูกันเลย เริ่มจากส่วนแรกกันก่อน
(ภาพประกอบ ขี้เกียจถ่ายเยอะ)
Fiio X1 VS X3
Player คุณภาพราคาเบาๆ
X1 และ X3 ถูกออกแบบมาด้วยหน้าตาเดียวกันเป๊ะๆ
จะต่างกันก็แค่ความหนาและความสามารถ
ซึ่ง X1 จะเป็น Player สายพอเพียง
คือราคาถูก เสียงดีมีความเป็นดนตรี และความสามารถก็พอเพียงเช่นเดียวกัน
เน้นใช้เป็น Player อย่างเดียว คือต่อหูฟังหรือใช้ Line out เข้าแอมป์แยกตาหากอีกทีนึง
(ใช้ 3.5mm output เดียวกันเลย และเข้าไปเซ็คต่าเอาอีกทีใน setting)
ส่วนเจ้า X3 ความสามารถที่เพิ่มมาก็คือ สารถต่อ DAC ได้
คือทำตัวเป็นแค่ตัวอ่านไฟล์แต่ไม่ทำตัวเป็น D2A
นอกจากนี้ตัว Player ยังปรับ Gain ได้ มี Low และ High
ซึ่ง X1 ไม่มีฟังก์ชั่นส่วนนี้
ซึ่งหน้าตาครั้งแรกที่เห็นทำให้ผมนึกถึง Player ค่าย Apple
แบบว่าส่วนตัวชอบ Score Wheel มากๆ
ใช้งานง่าย คล่องตัว และตอนนี้รู้สึกว่ามันคลาสสิคมากๆ
แต่ไม่ใช่แบบนั้น5555 มันไม่ใช่ มันเป็นแค่แป้นที่หมุนธรรมดา
หมุนแล้วดังแกร๊กๆเป็นเสต็ปๆไป ทำให้ฟีลลิ่งเวลาใช้งานมันลื่นมือ
Interface ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานที่คล่องตัวเท่าไหร่
ยังดีที่ใช้งานง่ายเมนูไม่ซับซ้อน
ครึ่งแรกเราจะมาเจาะในส่วนของ X1 กันก่อน
X1 มีกำลังขับที่เรียกว่ายอมเยี่ยม
เพราะว่าขับเจ้า VE Asura ออกสบายๆ
แต่เร่งนิดนึง ต้องใช้วอลุ่ม 50-70 จาก 100 สำหรับฟังในที่เงียบๆ
ผมเรียกว่าคู่นี้เป็นคู่ขวัญของวงการละกันครับ
คือมันเข้ากันมาก #ราคาก็เบามากเช่นกัน
ใครอยากได้ DAP + หูฟังง่ายๆซักตัว จับคู่นี้ได้เลย
งบเริ่มต้นไม่กี่พันบาทก็ได้ของดีๆเข้ากันแล้ว
X1 นั้นมีทุกอย่างที่ควรจะมีอยู่ในระดับมาตรฐาน
และ VE Asura ก็ให้ได้เกือบจะหมดทุกอย่างที่ควรจะมี
เบสอาจจะน้อยไปหน่อย
สำหรับ X1 นั้น ให้แนวเสียงประมาณว่า
เป็น Music Lover ที่ใส่ใจในคุณภาพเสียง
คือจะไม่จริงจังจนกลายเป็น Audiophile
และไม่ใช้ Music Lover จ๋า
ที่น่าจะเน้นและเด่นก็คงเป็นเสียงกลาง ที่เหมือนจะถูกดันให้ออกมาแนวหน้าซักหน่อย
คงเป็นเพราะส่วนมากเมโลดีของเพลงก็อยู่ในเรจน์ช่วงนี้ เลยจูนให้เด่นกลางซักนิด
จะได้ฟังง่ายๆ แต่ในส่วนอื่นๆก็มิได้ขาดตกไปแต่อย่างใดถึงจะฟังแล้วมีอึดอัดซักนิดก็ตาม
ดังนั้น X1 จึงเหมาะกับคนที่ต้องการอะไรง่ายๆ เล่นอย่างเดียว
เอาแค่มีเสียงในคุณภาพที่ดีก็เพียงพอ
ส่วน X3 ก็จะจริงจังขึ้นอีกนิดโปร่งกว่า ละเมียดกว่า ฟังสบายกว่า
รวมถึงเนื้อเสียงที่นวลเนียนกว่าอีกด้วย เป็นการขยับที่เยอะมากๆ
ทั้งราคาและคุณภาพ ตามรุ่นกันไปเลย X3 มีลูกเล่นที่มากขึ้น
รวมถึงคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นมาก จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเล่นอย่างจริงจัง
และต้องการเสียงที่ละเมียดละไมในการฟังเพลง
X3 จะตอบโจทย์ได้อย่างไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
Fiio X3 VS X5
X5 เป็นการยกระดับของ X3 ขึ้นมาอีก ยกแบบทุกอย่าง
ราคา ขนาด ความสามารถ คุณภาพ
แต่แนวเสียงยังคงเดิม ส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือทุกๆรายละเอียด
มันมีการเปิดเผยที่มากขึ้นทำให้รู้สึกฟังสบายขึ้น
โน๊ตแต่ละตัวเป็นธรรมชาติมากขึ้น อิมแพคดีขึ้นแบบชัดเจน
แม้จะใช้แค่ VE Asura ก็สัมผัสได้
ไดนามิคและความเป็นดนตรีมีสูงกว่า X3 แบบเยอะมาก
กำลังสำรองก็ดีกว่า ทำให้น้ำหนักของแต่ละโน๊ตนั้นมีความหมายมากยิ่งขึ้น
มิติเวทีที่กว้างใหญ่ขึ้นทำให้ช่องไฟของชิ้นดนตรีนั้นมีความเป็นระเบียบมากขึ้น
เรื่องมิติต้องบอกว่ายอดเยี่ยม เพราะการทำให้ Ear-bud แสดงมิติด้านลึกได้
นี่ทำไม่ได้ง่ายๆ ต้องมีของจริงๆถึงจะทำได้ และเจ้า X5 ก็ทำได้
ทีนี้อยากจะลองเปลี่ยนอารมณ์พอกลับมาฟัง X3 เท่านั้นแหละ
อึดอัดเลยจ้า ความใสสะอาดก็น้อยกว่า ดังนั้นเราจะใช้ X5 กันต่อ 5555
จากเมื่อกี้ที่ผมอธิบายว่ามันมีมิติด้านลึกด้วย
มันยังสร้างบรรยากาศในการฟังที่ดีได้อีก คือมันมีแอมเบี้ยนเล็กๆ
ให้สัมผัส ในขณะที่ X3 จะสัมผัสถึงแอมเบี้ยนไม่ได้เลย
เสียงลมหายใจ เสียงตัวโน๊ตค่อยๆจาง เสียงอากาศรอบๆไมค์
เราสามารถได้ยินมันแบบง่ายๆ แค่ Player + Ear-Bud ย้ำอีกครึ้ง
ผมเขียนสมการแบบนี้ละกันครับ
มิติด้านลึก + แอมเบี้ยน = บรรยากาศการฟังที่ได้อรรถรสแบบสุดๆ
การฟัง X5 นี่ทำให้ผมนึกถึงตอน Apple ออก iPod มาใหม่ๆ
ทั้งหน้าตา(แม้จะเฟลไปเพราะไม่ใช่ Click Wheel) และทั้งจุดประสงค์การใช้งาน
ขอรวบรัดเลยนะครับว่า X5 ถูกออกแบบมาสำหรับ
คนที่ต้องการฟังเพลงอย่างได้อรรถรส ฟังแบบจริงจัง
ฟังแบบดื่มด่ำในรายละเอียดของบทเพลงและทุกๆบรรยากาศรอบๆตัว
DAP X1 X3 X5 ใช้ง่าย เสียงดี ราคาไม่แพง
แต่ข้อเสียคือ คุณต้องหาการ์ดมาเสียบเอง มันไม่มีหน่วยความจำในตัว
หากท่านใดสนใจ DAP ทั้งสามสามารถสั่งซื้อได้ที่ตัวแทนของ Fiio ทุกเจ้าเลยจ้า
มาสรุปกันง่ายๆคือ
X1 งบน้อย เป็นเครื่องเล่นอย่างเดียวเสียงดี แต่ไม่เหมาะกับคนที่ฟังอย่างพิถีพิถัน
X3 งบกลาง ลูกเล่นเยอะ เสียงดี เริ่มเล่นอย่างจริงจัง
X5 กระเป๋าหนัก เสียงดีมาก ต้องการความสุนทรีย์ในการฟังแบบสูงสุด
สุดท้ายกระผมอยากฝากเพจไว้นิดนึง
https://www.facebook.com/reviewlenlen/
เอาไว้อ่านยอดหลัง เพราะจะทยอยลงรีวิวเก่าๆที่เคยทำไว้ด้วยมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ 55555
หรือไว้คอยติดตามการรีวิวใหม่ๆได้ และคิดว่าคงไม่ได้รีวิวแค่ gadget อีกต่อไป
อารมณ์คือ "อยากเล่าอะไรก็เล่า เพราะเราคือรีวิวเล่นๆ"
ขอบคุณ Fiio Thailand ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ครับ
พอดีอยากได้ DAP เหมือนกัน พ่วงมือถือ กะ DAC/AMP มันอุ้ยอ่ายเหลือเกิน ...
Comment