Originally posted by Sumomo
View Post
Announcement
Collapse
No announcement yet.
Microlab X3 เปลี่ยนดอก Sat เป็นลำโพงวางหิ้ง จะมีผลอะไรกับภาคขยายมั้ยครับ
Collapse
X
-
crystal 30.1 เลยเหรอ -*- ผมว่าขับยากไปหน่อยน่ะ เสียของด้วย เสียงคงอั้นน่าดู
เห็นกระทู้ใครแวบๆ เอาลำโพง oker มาชำเหละ เอ๊อะน่าสนดีเหมือนกัน เอามาฟิวชั่นกับดอกเก่าของ x3 คงเสียงดีขึ้นไม่ไช่เล่น
ผมเคยโม ps2000 น่ะเพราะเสียงกลางมันไม่มีเลย มีแต่แหลมกับเบส ลงทุนไม่กี่ตังค์เอาตู้ลำโพงเก่า(ดอกสีเหลือง)มารวมร่างกับดอกเดิม เสียงดีขึ้นเยอะ
Comment
-
Originally posted by vachira View Postและที่คุณขายเป็ฯ CLass T อย่างเดียวหรือครับ เสียงมันต่างจาก Chip amp Class AB ในด้านไหนบ้างครับ
ถ้าเทียบกับAB ผมว่า T Class นิ่งกว่านะ แต่เหมือนปอดมันเล็กกว่าเสียงมันเลยไม่สุดเท่าAB
แถมดูไม่เนื้อเสียงดูไม่ธรรมชาติเท่าพวกหลอดหรือABแต่มันสะอาดเกินไปหน่อยอย่างว่ามันเป็นdigital amp
เหมาะกับตั้งหน้าคอมซะมากกว่า
X3 เห็นอย่างนั้นเสียงดีนะครับ ตัวSatน่ะเห็นคนเอาAmp มาขับคนละเรื่องเลย
แต่Amp X3 เนี่ยผมว่าค่อนข้างแย่แต่ราคาเท่านี้เป็นผมก็ทำขายอย่างนี้แหละ555
Comment
-
Originally posted by tiger X-fi View Postเอามาใช้..มันก็ดีกว่าX3 เดิมๆครับ
ถ้าไม่เปิดดังมาก ...มันก็พอได้ครับ
X3 น่าจะเป็น tda2030 หรือ2050(ไม่แน่ใจเบอร์)ที่ขับคู่หน้า
--------
เมื่อก่อน ผมยังใช้ Dai 9.0 กับ X3 เลยครับ
ขับคู่หน้าซ้ายขวา 1 ตัว
ขับเบสน่าจะบริจด์ 1 ตัวครับ
Comment
-
ผมว่า ต้องดูจุดแยกความถี่ของแอมป์ X3 ว่าตัดให้ตัว sat เท่าไหร่
เพราะของเดิมใช้ดอกเล็กมาก น่าจะตัดที่ความถี่สูงมาก ต้องเช็คตรงนี้ก่อนครับ
ถ้าไม่แก้ตรงนี้ ต่อให้ใช้ลำโพงตัวใหญ่ใส่แทน เบสจริงๆของลำโพงก็ออกไม่หมด (โดนวงจร high pass filter กรองออกไป)
อันนี้เป็นจุดสำคัญอันแรก
จุดที่สองคือเรื่องความไว
จากสเปค ลำโพงตัวใหม่ถือว่าความไวต่ำมาก
ถ้าใช้กับแอมป์เดิม กำลังขับจะน้อยไปหน่อย (เปิดเบาๆพอได้)
ถ้าฝืนเปิดให้เบสดังมาก สัญญาณจะขลิบ
นอกจากคุณภาพเสียงจะไม่ดีแล้ว คอลย์ตัวเสียงแหลมจะขาดง่าย
สรุป มันมีสองเรื่องที่ทำให้เบสไม่ออก
ถ้าไม่โมอะไรเลย เอามาใช้แทนกันตรงๆ
ตามทฤษฎีน่าจะไม่เหมาะนะ
ถ้ามีใครให้ยืมแอมป์ 2 ch มาลองต่อกะลำโพงตัวใหม่ ก็ควรลอง
แล้วจะได้ฟังเสียงเบสจริงของลำโพงตัวนี้ครับ
Comment
-
Originally posted by m shifu View Postผมว่า ต้องดูจุดแยกความถี่ของแอมป์ X3 ว่าตัดให้ตัว sat เท่าไหร่
เพราะของเดิมใช้ดอกเล็กมาก น่าจะตัดที่ความถี่สูงมาก ต้องเช็คตรงนี้ก่อนครับ
ถ้าไม่แก้ตรงนี้ ต่อให้ใช้ลำโพงตัวใหญ่ใส่แทน เบสจริงๆของลำโพงก็ออกไม่หมด (โดนวงจร high pass filter กรองออกไป)
อันนี้เป็นจุดสำคัญอันแรก
จุดที่สองคือเรื่องความไว
จากสเปค ลำโพงตัวใหม่ถือว่าความไวต่ำมาก
ถ้าใช้กับแอมป์เดิม กำลังขับจะน้อยไปหน่อย (เปิดเบาๆพอได้)
ถ้าฝืนเปิดให้เบสดังมาก สัญญาณจะขลิบ
นอกจากคุณภาพเสียงจะไม่ดีแล้ว คอลย์ตัวเสียงแหลมจะขาดง่าย
สรุป มันมีสองเรื่องที่ทำให้เบสไม่ออก
ถ้าไม่โมอะไรเลย เอามาใช้แทนกันตรงๆ
ตามทฤษฎีน่าจะไม่เหมาะนะ
ถ้ามีใครให้ยืมแอมป์ 2 ch มาลองต่อกะลำโพงตัวใหม่ ก็ควรลอง
แล้วจะได้ฟังเสียงเบสจริงของลำโพงตัวนี้ครับ
เจ้าของกระทู้กำลังซื้อล็อตเตอรี่ รอลุ้นรางวัล
Comment
-
Originally posted by m shifu View Postผมว่า ต้องดูจุดแยกความถี่ของแอมป์ X3 ว่าตัดให้ตัว sat เท่าไหร่
เพราะของเดิมใช้ดอกเล็กมาก น่าจะตัดที่ความถี่สูงมาก ต้องเช็คตรงนี้ก่อนครับ
ถ้าไม่แก้ตรงนี้ ต่อให้ใช้ลำโพงตัวใหญ่ใส่แทน เบสจริงๆของลำโพงก็ออกไม่หมด (โดนวงจร high pass filter กรองออกไป)
อันนี้เป็นจุดสำคัญอันแรก
จุดที่สองคือเรื่องความไว
จากสเปค ลำโพงตัวใหม่ถือว่าความไวต่ำมาก
ถ้าใช้กับแอมป์เดิม กำลังขับจะน้อยไปหน่อย (เปิดเบาๆพอได้)
ถ้าฝืนเปิดให้เบสดังมาก สัญญาณจะขลิบ
นอกจากคุณภาพเสียงจะไม่ดีแล้ว คอลย์ตัวเสียงแหลมจะขาดง่าย
สรุป มันมีสองเรื่องที่ทำให้เบสไม่ออก
ถ้าไม่โมอะไรเลย เอามาใช้แทนกันตรงๆ
ตามทฤษฎีน่าจะไม่เหมาะนะ
ถ้ามีใครให้ยืมแอมป์ 2 ch มาลองต่อกะลำโพงตัวใหม่ ก็ควรลอง
แล้วจะได้ฟังเสียงเบสจริงของลำโพงตัวนี้ครับ
ที่ผมกลัวคือเรื่องนี้ครับ เอามาใช้แล้วนานๆเข้า ลำโพง หรือ ภาคขยาย จะพังก่อนวัยอันควรรึเปล่า
ปกติผมเปิดไม่ดังมาก เร่งวอลลุ่มประมาณ10น. ก็ดังเพียงพอแล้ว
สรุปว่า ผมจะเอาsatเดิมกลับมาใช้ก่อนดีกว่าครับ คอลย์เสียงแหลมขาดมาล่ะยุ่งเลย
แล้วกำลังคิดถึงการโมภาคขยายX3 ขอไปหาข้อมูลก่อนครับ
Comment
-
Originally posted by golfpipo View Postขอบคุณมากครับ
ที่ผมกลัวคือเรื่องนี้ครับ เอามาใช้แล้วนานๆเข้า ลำโพง หรือ ภาคขยาย จะพังก่อนวัยอันควรรึเปล่า
ปกติผมเปิดไม่ดังมาก เร่งวอลลุ่มประมาณ10น. ก็ดังเพียงพอแล้ว
สรุปว่า ผมจะเอาsatเดิมกลับมาใช้ก่อนดีกว่าครับ คอลย์เสียงแหลมขาดมาล่ะยุ่งเลย
แล้วกำลังคิดถึงการโมภาคขยายX3 ขอไปหาข้อมูลก่อนครับ
ลำโพงพวกนี้...มีคลอสอยู่ กรองความถี่อยู่แล้ว
ได้ลำโพงมาใช้ กับ X3 ใช้ไปสักพัก...เดี๋ยวก็คัน ...สรุปหาแอมป์ใหม่จนได้
เก็บเงินที่คิดจะโม X3 ไว้สำหรับโป๊ะแอมป์ดีกว่า
Comment
-
Originally posted by golfpipo View Postขอบคุณมากครับ
ที่ผมกลัวคือเรื่องนี้ครับ เอามาใช้แล้วนานๆเข้า ลำโพง หรือ ภาคขยาย จะพังก่อนวัยอันควรรึเปล่า
ปกติผมเปิดไม่ดังมาก เร่งวอลลุ่มประมาณ10น. ก็ดังเพียงพอแล้ว
สรุปว่า ผมจะเอาsatเดิมกลับมาใช้ก่อนดีกว่าครับ คอลย์เสียงแหลมขาดมาล่ะยุ่งเลย
แล้วกำลังคิดถึงการโมภาคขยายX3 ขอไปหาข้อมูลก่อนครับ
เพียงแต่ Passive ตัวนี้แหละ ถ้ายังงัยอยากให้ช่วยถ่ายรูปมาชมหน่อย เพื่อที่จะสามารถปรับเปลี่ยน แนวเสียงให้เข้ากับ Sub X3 ได้ ในกรณีที่กลัว ลำโพงนี้เสียงจะไม่กลืนสมดุลกับ Sub
**** ส่วนเรื่องการ โม X3 ภายในก็อเช่นกันครับ ถ่ายรูปมาดูจะได้อธิบายถูกครับ หลัก ๆ ที่จะ Up ในตู้ Sub สั่งพันหม้อแปลงเป็น EI สัก 5A ซึ่งหม้อจะสูงเกือบ 10 Cm แต่ต้องดูว่ามีพื้นที่วางหรือไม่ถ้ามีจัดเต็ม ( ส่วนขนาดเสปคไฟ ให้ดูจากหม้อตัวเดิม) ,,.....และก้อมาเปลี่ยนคัดเลือกพวก C ในจุดหลัก ๆ ... สุดท้าย(ถ้าตังค์เหลือ)ค่อยเปลี่ยนสายลำโพงภายในตู้ึีัครับ
อันนี้แหละที่จะช่วย Up X3 ให้เสียงเบสสะอาด กระชับขึ้นได้เป็ฯอย่างดี แต่หม้อ ผมแนะนำร้าน tron นะครับสำหรับ EI ส่วนร้านอื่นไม่มีอะไรที่จะเอ่ยครับผม
Comment
-
การแมทชิ่งลำโพงข้ามสายพันธุ์แบบนี้ถ้าเอาความพอใจเป็นหลักก็ง่ายหน่อย ดูจากสเป็คคร่าวๆ และการใช้งานก็ไม่พังง่ายๆหรอกใช้ได้อีกนาน
หรืออาจจะไม่มีผลอะไรเลยก็ได้ แต่ถ้าเอาทฤษฎีเป็นที่ตั้งก็ไม่เหมาะอย่างยิ่ง crossover ก็เหมือนทางแยกของเสียง ต่ำและสูง ซึ่งก็ไม่ได้แยกกัน
เลยซะทีเดียว แต่จะกราฟจะค่อยๆ ลาดลงไปจะถึงจุดตัดความถี่นั้นจะมีค่าต่ำสุดเพราะจุดนี้ลำโพงทั้งสองทำงานร่วมกันมากที่สุด ตามรูปข้างล่าง
ซึ่งถ้าเราดูดีๆจะพบว่าแม้จะเลยจุดตัดความถี่ไปแล้ว crossover ก็ยังส่งผ่านความถี่ไปที่ลำโพงอีกแต่จะค่อยๆลดลงไป นี่คือหลักการทำงานของ crossover
ทั้งแบบที่อยู่ในลำโพง (passive) และแบบวงจรที่ต้องมีไฟเลี้ยง(active)ฉะนั้นตราบใดในเมื่อเราไม่สามารถออกแบบลำโพง ให้ตอบสนองความถี่ต่างๆ
ได้ในไดว์ฟเวอร์เดียว การใช้ crossover ก็มีความจำเป็นต่อไป ซึ่งเรื่องการใช้ crossover จึงเป็นเรื่องที่มีการตอบสนองความถี่-ความไวของลำโพง
มาเกี่ยวข้องด้วย มันจึงไม่มี crossover ที่ดีที่สุด มีแต่ crossover ที่เหมาะกับระบบมากที่สุดLast edited by fenderfree; 28 Mar 2014, 21:08:44.
Comment
-
-
ปกติเวลาที่เราเพิ่มความดังขึ้น แรงดันไฟฟ้า peak to peak ที่ลำโพงจะมีขนาดสูงขึ้น
แต่เพิ่มความดังถึงจุดนึง แรงดันไฟฟ้า peak to peak ที่ลำโพงจะไม่มีขนาดสูงขึ้น
เพราะ แอมป์ไม่สามารถจ่ายแรงดันไฟฟ้าได้มากกว่านั้น
ที่ยอดของสัญญาณไฟฟ้าที่จ่ายให้ลำโพง จะกลายเป็นเส้นตรง เรียกว่า สัญญาณโดนขลิบ
ในทางทฤษฎี คลื่นซายน์ถ้าโดนขลิบเมื่อไหร่ จะมีฮาร์โมนิกส์เกิดขึ้นแบบไม่มีขีดจำกัด
คลื่นซายน์ความถี่ 20Hz ถ้าขลิบมากๆ จะกลายเป็น Square wave 20Hz
Square wave 20Hz จะประกอบด้วยคลื่นซายน์ความถี่ที่มากกว่า 20HZ จำนวนมากมายแบบไม่มีขีดจำกัด
ก็คือ มีความถี่ย่าน KHz ,10KHz ,100KHz ,1000KHz ,... ไม่มีที่สิ้นสุด
รูปนี้ เป็นตัวอย่างสเปคตรัมของ Square wave 1KHz
จะเห็นว่า ประกอบไปด้วยฮาร์โมนิกส์(คลื่นซายน์)ความถี่ที่มากกว่า 1KHz มากมาย (ที่เห็นทางขวายังมีอีกไม่มีที่สิ้นสุด)
http://en.wikipedia.org/wiki/Square_wave
คลื่นซายน์ความถี่ต่ำๆ ซึ่งปกติจะถูกตัว C ที่ tweeter กรอง(กั้น)ไว้ ไม่ให้ออกไปที่ tweeter
เมื่อโดนขลิบ จะกลายเป็นฮาร์โมนิกส์ความถี่สูงมากมาย ผ่านตัว C ที่ tweeter อย่างสบาย
แล้วจะเผาคอลย์ของตัว tweeter ให้ขาดได้ในพริบตา
เมื่อก่อน ผมทำคอลย์ของตัว tweeter ขาดมาหลายตัวแล้ว
เพราะชอบเปิดดังแบบเปิดก้นซอยเสียงดังไปถึงปากซอย
ถ้าไม่เข้าใจ
แนะนำให้ใช้ oscilloscope ดูสัญญาณครับ
(A picture is worth a thousand words)
Comment
Comment