สาย SPDif Digital Coaxial ใครเคยทำใช้บ้างครับ

[fallenz5]

สืบเนื่องจาก ผมได้มีโอกาสรื้อ Sound Blaster Live! Platinum ออกมาปัดฝุ่นใช้งาน แล้วก็ต่อฟังเพลงเข้ากับ AV receiver ผ่านสาย Analog ทำมะดา หลังจากได้ต่อฟังไปซักพัก ก็รู็้สึกรำคาญ กับเสียงมอไซค์วิ่งผ่าน(เสียงฮัม) จึงไปคุ้ยๆกล่องเพื่อหาสาย SPDIF มาใช้ แต่ว่า....ไม่มีครับ เอาไงดี อยากฟังแล้วอะ จะไปหาซื้อสายก็คงไม่ทันแล้ว แถวบ้านไม่น่าจะมีขาย เพราะบ้านผม อยู่บ้านนอกมาก(เพิ่งออกจากงานกลับมาอยู่บ้านนอก) ก็เลยคิดว่า เอ... ดูจากหน้าตาหัวต่อ สาย ไม่น่าจะทำยากนะ ลองหาขอ้มูลดีกว่า ก็เลยได้ข้อมูลมาลองทำดังนี้

1. สาย RG6(สายต่อจากจานดาวเทียม หรือสายอากาศบ้าน) เมตรละ 8 บาท ยาว 3 เมตร (24 บาท)
2. หัวจ่อ RCA สีทอง 2 หัว หัวละ 15 บาท ( 30 บาท)

เบ็ดเสร็จแล้ว 54 บาท บวกกับค่าตะกั่วบัดกรีอีกนิดหน่อยครับ

เสร็จแล้วก็ลองต่อไปตามประสาบ้านๆ ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง เอามาต่อฟังดู โอ้ว เสียงมอไซค์หายไปแล้ว คุณภาพเสียงพอใช้ได้นะครับ ไม่รู็คิดไปเองหรือป่าว เลยอยากมาแชร์ว่ามีท่านได้เคยทำมาบ้างแล้วผลเป็นยังไงครับ ไม่รู้ว่า สายยาวไปจะมีผลเสียมั้ย แล้วก็ บางข้อมูลบอกว่า ให้ใช้สาย Coaxial รุ่นที่มีความต้านทาน 110 Ohm จะได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าครับ ไว้มีโอกาสได้เจอสายจะเอามาลองดูใหม่นะครับ

[fallenz5]

อ้อ ผมไม่ได้ไว้ในหมวด DIY นะครับ เพราะไม่ได้เก่งขนาดสอนวิธีทำ เป็นแค่การพูดคุยแลกเปลี่ยนกันครับ

[tiger X-fi]

สาย RG6(สายต่อจากจานดาวเทียม หรือสายอากาศบ้าน) เมตรละ 8 บาท
เอาเรื่องวัสดุนะ
ตัวแกนมัน ดูเหมือนเป็นทองแดง แต่ไม่ใช่ แม่เหล็กดูดติด
ชีล เป็น อลูมิเนียม บัดกรีไม่ติด
ถ้าสายที่บ้านมี สายไฟอ่อน-สายไฟแข็ง ลองเอามาทำสาย coax ดู
บางทีอาจจะชอบกว่า RG6 ก็ได้ครับ

[fallenz5]

สาย RG6(สายต่อจากจานดาวเทียม หรือสายอากาศบ้าน) เมตรละ 8 บาท
เอาเรื่องวัสดุนะ
ตัวแกนมัน ดูเหมือนเป็นทองแดง แต่ไม่ใช่ แม่เหล็กดูดติด
ชีล เป็น อลูมิเนียม บัดกรีไม่ติด
ถ้าสายที่บ้านมี สายไฟอ่อน-สายไฟแข็ง ลองเอามาทำสาย coax ดู
บางทีอาจจะชอบกว่า RG6 ก็ได้ครับ

แม่เหล็กดูดติดจิงๆด้วยงับ แต่เท่าที่ฟังดูก็พอใจอยู่นะครับ เด๋วจะลองสายไฟอย่างที่แนะนำดูครับ กำลังหาข้อมูลอยู่ครับ ว่าสายไฟบ้านความต้านทานเท่าไหร่ ที่เลือกใข้สาย RG6 เพราะ ค่าความต้านทาน 75 Ohm ตามสเปคพอดีงับ

[fallenz5]

ความยาวของสาย ควรจะสั้นหรือยาวพอทราบมั้ยครับ บางท่านบอกว่า ยาวๆดี (5m) บางท่านบอก ยิ่งสั้นยิ่งดี

[ManiacMaew]

สายดิจิตอล เอาสั้นเถอะครับ
ข้อมูลดิจิตอลน่ะ อย่าให้มันเพี้ยนเลย

[tiger X-fi]

สายสัญญาณ(สายที่มีไฟวิ่งผ่าน) ...ยิ่งสั้นยิ่งดี
สายความยาวไม่มาก ไม่ต้องไปคำนึง 75 Ohm หรอก
ยิ่งค่าความต้านทานต่ำยิ่งดี
(ค่าอิมพิเดนซ์ ในตัวสาย จะวัดยังไง)
ค่าอิมพิเดนซ์ เป็นค่าระหว่าง สัญญาณ -กราวน์
ผิดถูกยังไงช่วยแก้ไขด้วยครับ
ส่วนใหญ๋มี R คุมอิมพิเดนซ์ ที่ขารับและขาส่งอยู่แล้ว
ลองดู สายแบบต่าง หาบุคลิคสาย เช่นแกนเดี๋ยวแกนฝอย

[carbon_za]

ผมว่าสายความต้านทานต่ำน่าจะดีนะ ไฟผ่านได้ง่าย สัญญาณก็ผ่านได้ง่าย โล่งว่างงั้นเหอะ

[tiger X-fi]

S/PDIF ระบบUnbalance RCA , BNC
ศักย์ไฟที่ใช้รับส่ง 0.5-1โวลท์
> โลจิคไฟต่ำขนาดนี้โดนหลายๆอย่างรบกวนได้ง่ายมากๆ

S/PDIF ระบบUnbalance AES/EBU XLR
ศักย์ไฟที่ใช้รับส่ง 3-10โวลท์
> โลจิคไฟสูงกว่าหลายเท่าตัว แถมมีการแยกเฟสบวกลบออกจากกราวน์อีก

แต่Jitterก็ยังคงมีเหมือนเดิม

คัดลอกจากไฟล์ดาต้าชีทของburr-brown



RECEIVER INPUT INTERFACING
This section details the recommended interfaces line receiver inputs. Balanced and unbalanced line interfaces, in addition to optical receiver and external logic interfacing, will be discussed.



For professional digital audio interfaces, 110 ohm balanced line interfaces are either required or preferred. Transformer coupling is commonly employed to provide isolation and to improve common-mode noise rejection. Figure 83 shows the recommended transformer-coupled balanced line receiver interface. The transformer is specified for a 1:1 turn ratio, and should exhibit low inter-winding capacitance for best performance. Due to the DC bias on the line receiver inputs, 0.1uF capacitors are utilized for AC-coupling the transformer to the line receiver inputs. On the line side of the transformer, an optional 0.1uF capacitor is shown for cases where a DC bias may be applied at the transmitter side of the connection. The coupling capacitors should be surface-mount ceramic chip type with an X7R or C0G dielectric.



Unbalanced 75 ohm coaxial cable interfaces are commonly employed in consumer and broadcast audio applications. Designs with and without transformer line coupling may be utilized. Figure 84(a) shows the recommended 75 ohm transformer-coupled line interface, which shares many similarities to the balanced design shown in Figure 83. Once again, the transformer provides isolation and improved noise rejection. Figure 84(b) shows the transformer-free interface, which is commonly used for S/PDIF consumer connections.



TRANSMITTER OUTPUT INTERFACING
This section details the recommended interfaces transmitter line driver and CMOS buffered outputs. Balanced and unbalanced line interfaces, in addition to optical transmitter and external logic interfacing, will be discussed.



For professional digital audio interfaces, 110 ohm balanced line interfaces are either required or preferred. Transformer coupling is commonly employed to provide isolation and to improve common-mode noise performance. Figure 88 shows the recommended transformer-coupled balanced line driver interface. The transformer is specified for a 1:1 turn ratio, and should exhibit low inter-winding capacitance for best performance. To eliminate residual DC bias, a 0.1uF capacitor is utilized for AC-coupling the transformer to the line driver outputs. The coupling capacitor should be a surface-mount ceramic chip type with an X7R or C0G dielectric.



Unbalanced 75 ohm coaxial cable interfaces are commonly employed in consumer and broadcast audio applications. Designs with and without transformer line coupling may be utilized. Figure 89(a) illustrates the recommended 75 ohm transformer-coupled line driver interface, which shares many similarities to the balanced design shown in Figure 88. Figure 89(b) illustrates the transformer-free line driver interface, which is commonly used for S/PDIF consumer connections.


-----------------------------------------------


ซาวน์การ์ดรุ่นประหยัด ส่วนใหญ่จะไม่มีแจ็คSPD/IF Out(digital Out)มาให้ เช่น Coaxหรือmini-Jack
แต่เค้าจะใส่SPD/IF Out(digital out)แบบต่อภายในมาให้แทน
( ความแตกต่างของทั้ง2แบบ คือ ออกแบบมาสำหรับใช้สายDigital Cableได้สั้นหรือยาว -- แบบแรก=ยาว / แบบหลัง=สั้น)

ถ้าหากเราจะดัดแปลงแบบต่อภายในแล้วโยงสายไปใส่แจ็คเพิ่มเอาเอง(แบบที่หลายๆคนทำกัน)
ควรตรวจสอบวงจรภายในการ์ดเสียก่อนว่า เค้าต่อวงจรหรือใส่อะหลั่ยแบบครบๆไว้ให้หรือเปล่า
- ถ้าใส่มาให้ครบ ก็ต่อแบบที่ทำๆกันได้เลย
- ถ้าเค้าใส่มาไม่ครบ เราสามารถใส่เพิ่มเข้าไปเองได้ โดยดูจากข้อมูลข้างบน


ก็อปจากหน้า177


ถ้าใครมีไรสงสัยในรายละเอียดเพิ่มเติมก็โพสถามเพิ่มได้
แต่ห้ามถามว่า "การ์ดตัวไหนใส่มาครบหรือไม่ครบ" ผมคงตอบแบบไม่ลังเลว่า"ไม่รู้" เพราะ เดี๋ยวคนถามจะสบายเกินไป
เมื่อใครคิดจะทำควรตรวจสอบด้วยตัวเอง เพราะ เรื่องนี้เรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยตัวเองได้ไม่ยากครับ


-----------------------------------------------


ตอบคุณManiacMaewของโพสข้างล่าง


เราทำในส่วนของการส่งสัญญาณSPD/IFออกจากการ์ด ซึ่งก็คือ "TRANSMITTER OUTPUT INTERFACING"

- ใช้Coax ก็ดูที่ > TRANSMITTER OUTPUT INTERFACING > Unbalanced 75 ohm coaxial cable interfaces

- ใช้XLR ก็ดูที่ > TRANSMITTER OUTPUT INTERFACING > 110 ohm balanced line interfaces

รูป89 บอกรายละเอียดไว้ชัดเจนในตัวอยู่แล้วครับ

เรื่องค่าอิมพิเดนซ์สาย ไม่ได้หมายความว่า ต้องใช้แแบบนั้น
น่าจะหมายความว่า ถ้าใช้เกิน แล้ว เกิดการสูญเสียมากกว่าครับ
ดูจาก
Unbalanced 75 ohm coaxial cable interfaces
balanced 110 ohm balanced line interfaces
balanced จะใช้คักย์ไฟสูงกว่า ถึงสามารถใช้สายที่มีความต้านสูงกว่าได้

แล้วก็ บางข้อมูลบอกว่า ให้ใช้สาย Coaxial รุ่นที่มีความต้านทาน 110 Ohm จะได้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าครับ

น่าจะเป็นแค่เพียงได้ทดลองใช้แล้วชอบ บุคคลิคเสียงของสาย110 Ohm เส้นนั้น
ไม่ได้หมายความว่า สาย 110 Ohm คุณภาพเสียงดีกว่า 75Ohm หรือ 50Ohm ครับ
จะเป็นสาย 110 Ohm 75 Ohm หรือ 50 Ohm
ความยาว 1-2 เมตร เอามิเตอร์จับ ยังไงก็ไม่ถึง 1 Ohm

[fallenz5]

โอ้ว ขอบคุณมากครับ ตอนนี้ยังใช้ตัวเดิม เปิดฟังเพลงชิลล์ๆอยู่ครับ ไว้มีเวลาค่อยลองทำเพิ่มดูครับ .... แต่มีปัญหาคือ เสียงออกเป็น digital จริง ตะว่า มีปัญหากะการถอดรหัส DTS,Dolby Digital เพราะยังงงๆว่าต้องเซตตรงไหน ไม่ได้เซตนานกะลังนั่งไล่อยู่ครับ >_<
ส่วนเรื่องความยาวของสาย คิดว่า ตัวการ์ด ของผมน่าจะใช้สายยาวได้หน่อยครับ เพราะเป็น Sb Live! ซึ่งมีช่อง Live Drive IR ซึ่งรองรับพอร์ต In/Out ทั้ง digital / Analog / Midi ( ตัว Drive มีไฟเลี้ยงด้วย)

[tiger X-fi]

Sound Blaster Live! Platinum เก่ามากแล้ว
เอามาปล่อย spdif ฟังเพลง ก็ยังโออยู่ (ไฟล์เพลงCD ยังเหมือนเดิม 16bit /44.1khz)
แต่เรื่องหนัง ค่าบิทเรท ต่างจากเมื่อก่อนมาก...ไม่รูว่าการ์ด จะสามารารถทำได้ดีแค่ไหน

[fallenz5]

ู^ ^ คับ 10 ปีแล้ว เพิ่งขุดออกมาจากกรุ

[battlecruiser]

live ปล่อยได้แต่ 48

44.1 จะ resampling เป็น 48 หมด ปล่อย 44.1 ไม่ได้

จึงไม่ใช่ตัวเลือก

[tiger X-fi]

ไร้สาระเรื่องเรื่อง Encode เหมือนต้นฉบับ ....ชอบเสียงแบบไหน ก็ใช้แบบนั้น

[keang]

CEC TL1X ในยุคสมัยของตัวนี้ ดังมาก ขึ้นชื่อในเรื่อง Analog และ Digital Output
( นักรีวิวชื่อดังของหลายสำนัก ใช้ตัวนี้เป็นเครื่องอ้างอิง )

Deconstructing the CEC <-- click to original source

The output shaping SPDIF board which is attached to rear panel has the usual set of parts - isolation transformer, series caps, logical repeater pulse chips and resistors. I mean, this PCB does not PRODUCE spdif signal, it tries to improve it.
In my experience these circuits do not improve anything - the best SPDIF is the ORIGINAL one, where it is being generated.



Yes folks - this miserable trace is the chinch S/PDIF signal - but WHY IS IT NOT SQUARE ?!?!?!?!?!?!



the AES/EBU balanced trace. Completely different from S/PDIF but again - far from square.



TADADADADADADA drums rolling - here comes the Lampizator version of the CEC TL-1x