Announcement

Collapse
No announcement yet.

ผู้รู้ทั้งหลายไขข้อค้องใจผมทีครับ การปิดเปิดสวิซหลังลำโพง

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ผู้รู้ทั้งหลายไขข้อค้องใจผมทีครับ การปิดเปิดสวิซหลังลำโพง

    คือว่าผมใช้ลำโพง สตูดิโอ มอนิเตอร์รุ่น KRK Rokit RP6 Generation 2
    ทีนี้ เวลาผมจะเอื้อมไปปิดสวิซที่หลังลำโพงมันลำบากมาก เพราะที่วางลำโพง
    มันคับแคบมาก ลำบากมากในการเอื้อมไปเปิดปิดสวิซหลังลำโพง ทีนี้ผมเลย
    อยากถามผู้รู้ทั้งหลายว่า ถ้าผมจะเปิดสวิซไว้ที่ลำโพงตลอด เเละใช้วิธี ปิดหรือเปิด
    สวิซที่ปลั๊กไฟเอา ทำแบบนี้มันจะได้มั้ยครับ ลำโพงผมจะเสียมั้ย และมมันจะมีผลกระทบ
    อะไร หรือทำให้อายุงานลำโพงสั้นลงมั้ย ผมใช้ปลัี๊กรางธรรมดา ราคา100กว่าบาท
    ต่อพ่วงจากปลั๊กรางที่่เสียบกับเต้าเสียบติดผนังอีกทีนึง ผมใช้ปลั๊กแยกไปลำหรับลำโพงโดยเฉพาะ
    1คู่ สำหรับเปิดปิดสวิซลำโพงโดยเฉพาะ ปลั๊กที่ใช้ต่อกับลำโพงรุ่น champ state of power และของTesco ราคา100กว่าบาท ห้องพักของผมไม่่มีสายดิน อยากทราบว่าถ้าทำ
    แบบนี้ลำโพงผมมจะมีผลเสียอะไรมั้ยครับ ขอความรู้จากผู้รู้ในเว็บนี้หน่อยครับ ผมจะได้อุ่่นใจ
    ขอบคุณครับ

  • #2
    ถ้าตามตำราก็ผิดครับต้องปิดสวิชด้านหลังลำโพงก่อน แต่ผมก็ทำแบบ จขกท. มาตั้งนานละไม่เห็นมันจะพังเลย
    แต่ของผมลำโพงถูกๆนะ ถ้าลำโพงดีๆอย่าง จขกท. ผมก็ไม่กล้าหรอกอิๆ

    Comment


    • #3
      ตอนนี้ผมก็เปิด-ปิดที่รางปลั๊ก เหมือน จขกท.เลยเพราะขี้เกียจเอื้อมไปปิดเหมือนกัน

      Comment


      • #4
        ส่งมาให้ผมดีกว่าครับ มีที่วางเยอะ 555
        ถ้าปิดเปิดผ่านสวิทปลั๊กนอก แม้จะแพงแค่ไหน ถ้าไม่ได้ทำระบบดีเลย์ หรือรีเลย์มาก็กระชากทั้งนั้น อะไรก็พังได้ครับ ของแบบนี้เวลามันพัง มันไปเลย ไม่ค่อยๆพัง
        สวิทในตัวลำโพง เค้าทำมาแบบมีระบบตัดต่อ ไม่ให้กระชาก นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมถึงชอบ Genelec มากกว่า เพราะสวิทอยู่ข้างหน้า 5555

        Comment


        • #5
          ไม่เป็นไรครับ ก็เหมือนย้ายสวิตลำโพงมาไว้ด้านนอกเท่านั้นเองครับ

          Comment


          • #6
            ลำโพง klipsch promedia 2.1 ผมซื้อมาปี 45 สวิทช์ลำโพงดันอยู่ด้านหลัง subwoofer ซึ่งอยู่ใต้โต๊ะ คุณคิดว่าคุณเอื้อมมือลำบากแล้ว ลองมาดูท่าผม "คลาน" เข้าไปปิดสวิทช์คุณจะสมเพชมากกว่า ผมเลยใช้วิธีปิดสวิทช์ปลั๊กเอาตลอด ก็ใช้ได้เรื่อยมาเพิ่งมาเจ๊งไปปีที่แล้ว เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ มีคนซื้อต่อไปแล้วเขาบอกว่าเสีย ผมก็ไม่ได้ถามต่อ เพราะรับเงินเขามาแล้วและกำลังวุ่นกับการเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนเมลไม่ให้ตามตัวได้

            Comment


            • #7
              Originally posted by switching View Post
              ไม่เป็นไรครับ ก็เหมือนย้ายสวิตลำโพงมาไว้ด้านนอกเท่านั้นเองครับ
              ถ้าลำโพงถูกๆ เปิดปิด มีเสียงดังตุ้บตั้บอยู่แล้ว นั่นคงใช่ ใช้ปลั้กอะไรก็ได้ แต่นี่ KRK นะครับ ผมว่าคำตอบน่าจะกลั่นกรองมาให้มีเหตุมีผลมากกว่านี้นะครับ

              Comment


              • #8
                ถามว่าต่อปลั๊กนอกได้ไหม ก็ตอบว่าได้ครับ แต่ใช้รางแบบที่มีคุณภาพหน่อยเพราะมันไม่สะดวกจริงๆในการเปิดปิดด้านหลัง เคยเป็นเหมือนกัน แล้วถามรายละเอียดหน่อยว่าเวลาเปิดปิด มีเสียงรีเลย์ทำงานหรือไม่ครับ ถ้ามีก็ต่อได้สบายๆแบบไหนก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่มีก็หารางแบบที่มีกันกระชากไฟมาใช้ครับมีหลายยี่ห้อ ผมก็ทำใช้เองแบบง่ายๆใช้ L , C , R , ฟิวส์

                Comment


                • #9
                  Originally posted by mckyparty View Post
                  ถ้าลำโพงถูกๆ เปิดปิด มีเสียงดังตุ้บตั้บอยู่แล้ว นั่นคงใช่ ใช้ปลั้กอะไรก็ได้ แต่นี่ KRK นะครับ ผมว่าคำตอบน่าจะกลั่นกรองมาให้มีเหตุมีผลมากกว่านี้นะครับ
                  ผมอยากให้ดูรูปนี้ก่อนครับมันต่างกันไหม ถ้าเป็นลำโพงมียี่ห้อก็ต้องมีรีเลย์ติดอยู่ด้วยถูกไหมครับการที่จะทำให้รีเลย์ทำงานได้ต้องจ่ายไฟไปเลี้ยงตัวมันก่อน ผมอยากให้ดูที่สวิตมันต่างกันไหมครับ ระหว่างปิดที่ลำโพงกับปิดที่ปลั๊ก

                  Comment


                  • #10
                    ขอบคุณผู้มีน้ำใจทุกท่าน ที่สละเวลามาตอบผมทุกท่านนะครับ
                    ตอนนี้ผมก็ยังต้องเสี่ยงในการไปเปิดสวิซด้านหลังอยู่ แต่มันก็เสี่ยง
                    เอาเรื่อง เพราะที่วางมันคับแคบมาก และตัวลำโพงวางบนขาตั้งรุ่น
                    SAMSON : MS200 ซึ่งมันวางลำโพงได้ไม่เต็มเท่าไหร่ ผมกลัวว่่า
                    วันใดวันนึงจะชนมันล่วงเข้า วันนั้นผมคงน้ำตาร่วง เพราะกว่าผมจะเก็บเงิน
                    ซื้อมาได้ ลำบากเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมยังตัดสินใจไม่ได้คับ
                    ว่าจะปิดที่สวิซปลั๊กดีมั้ย แล้วอาการเปิดสวิซแล้วลำโพงรีเลย์ อาการมันเป็น
                    เช่นไรครับ แล้วตกลงผมสามารถเปิดปิดสวิซจากปลั๊กแทนได้มั้ยครับ แล้ว
                    ถ้าใช้ปลั๊กอย่างดีนี่ มันช่วยได้มั้ยครับ แล้วพอแนะนำได้มั้ยครับ รุ่นไหนดี

                    Comment


                    • #11
                      Originally posted by switching View Post
                      ผมอยากให้ดูรูปนี้ก่อนครับมันต่างกันไหม ถ้าเป็นลำโพงมียี่ห้อก็ต้องมีรีเลย์ติดอยู่ด้วยถูกไหมครับการที่จะทำให้รีเลย์ทำงานได้ต้องจ่ายไฟไปเลี้ยงตัวมันก่อน ผมอยากให้ดูที่สวิตมันต่างกันไหมครับ ระหว่างปิดที่ลำโพงกับปิดที่ปลั๊ก
                      ก็ยังไม่ถูกนะคร้าบบ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด การที่มีรีเลย์ป้องกันก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ที่ผมบอกว่าใช้แบบไหนก็ได้แต่ควรใช้ปลั๊กที่มีคุณภาพครับ

                      ในรูปที่ตัวสวิทซ์ ในตัวเครื่องบางรุ่นจะมีวงจรคล่อมอยู่เพื่อกันไฟกระชากตอนเปิด ปิดจ้า ถ้าเราไปลัดวงจรแต่แรก (เปิดหลังเครื่องไว้) ก็เท่ากับว่าเราจะไม่มีการป้องกันไฟกระชากตอนเปิด ดังนั้นทางที่ดีคือ ทางลาดยาง เอ้ยไม่ใช่ ทางที่ดีควรใช้ปลั๊กที่มีวงจรกันกระชาก เพื่อลดการสูญเสียเครื่องเสียงอันเป็นที่รัก เครื่องเสียงแพงๆลงทุนใช้ปลั๊กดีๆหน่อย ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกคร้าบ เอ๊ะหรือขนหน้าอกจะร่วงแทน 55555

                      Originally posted by kka118 View Post
                      ขอบคุณผู้มีน้ำใจทุกท่าน ที่สละเวลามาตอบผมทุกท่านนะครับ
                      ตอนนี้ผมก็ยังต้องเสี่ยงในการไปเปิดสวิซด้านหลังอยู่ แต่มันก็เสี่ยง
                      เอาเรื่อง เพราะที่วางมันคับแคบมาก และตัวลำโพงวางบนขาตั้งรุ่น
                      SAMSON : MS200 ซึ่งมันวางลำโพงได้ไม่เต็มเท่าไหร่ ผมกลัวว่่า
                      วันใดวันนึงจะชนมันล่วงเข้า วันนั้นผมคงน้ำตาร่วง เพราะกว่าผมจะเก็บเงิน
                      ซื้อมาได้ ลำบากเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ตอนนี้ผมยังตัดสินใจไม่ได้คับ
                      ว่าจะปิดที่สวิซปลั๊กดีมั้ย แล้วอาการเปิดสวิซแล้วลำโพงรีเลย์ อาการมันเป็น
                      เช่นไรครับ แล้วตกลงผมสามารถเปิดปิดสวิซจากปลั๊กแทนได้มั้ยครับ แล้ว
                      ถ้าใช้ปลั๊กอย่างดีนี่ มันช่วยได้มั้ยครับ แล้วพอแนะนำได้มั้ยครับ รุ่นไหนดี
                      มันไม่พังง่ายๆหรอกครับท่าน พวกลำโพงในสตูดิโอเขาคงไม่มานั่งไล่เปิดกันทีอย่างหรอกครับเขาจะทำเป็นแผงวงจรเปิดปิดใส่แร็กควบคุมเลย แต่เพื่อความสบายใจลงทุนซื้อปลั๊กดีดีมาใช้ ในห้างมีขายเยอาะแยะ ส่วนยี่ห้อหรือรุ่น รอท่านอื่นมาแนะนำละกันครับ ต้องถามคนที่เคยใช้

                      "แล้วอาการเปิดสวิซแล้วลำโพงรีเลย์ อาการมันเป็นเช่นไรครับ "
                      - รีเลย์เวลาเปิดจะมีเสียงติ๊ก ครับ

                      "ตกลงผมสามารถเปิดปิดสวิซจากปลั๊กแทนได้มั้ยครับ "
                      - ได้ครับถ้ากังวลมากก็ถามร้านที่ซื้อมาเลยครับ
                      Last edited by LoveHifi; 4 May 2013, 09:42:46.

                      Comment


                      • #12
                        ถ้าเกิดผมตัดใจซื้อ ปลั๊กของ Belkin นี่มันจะช่วยได้มั้ยครับ
                        ผมมจะได้กัดฟันเก็บตังซื้อ เพื่อรักษาอายุงานของลำโพง
                        แต่ตัวปลั๊กผมมีงบจิงๆคงได้ประมาณ2000บาท มีใครพอแนะนำ
                        ได้มั้ยครับ ว่าควรใช้รุ่นไหนดีจะพอช่วยได้ หรือมีไรต้องการเสริม
                        หรือเพิ่มเติมมอะไร พิมลงไว้เลยครับ เพื่อให้ความรู้แก่ผม
                        และคนอื่นๆที่กำลังเจอปัญหาเดียวกับผม ขอบคุณครับ

                        Comment


                        • #13
                          ลำโพงดีขนาดนี้หาที่ตั้งใหม่เถอะนะครับ เอามันไปไว้ที่แคบๆ ทำไม เสียงหลบหมด ผมเองก็เคยเจอปัญหาแบบนี้
                          ลองหาขาตั้งใหม่ซิครับ ร้าน HIFI for You
                          http://www.hififoryou.com
                          คุณ Jet ร้าน Jet Live Audio แนะนำร้านทำขาตั้งลำโพงราคาไทยๆ แต่ชิ้นงานโอเคมากๆ ครับ (ไม่ได้แฝงโฆษณานะครับ) ลองดูแล้วจะรู้พลังที่แท้จริงของลำโพงคุณ ช่วยให้เสียงดีขึ้นเห็นๆ
                          ตอบโจทย์ปัญหาของคุณได้ด้วยครับ แนะนำครับstand.jpg
                          Last edited by lekkiki; 4 May 2013, 15:17:46.

                          Comment


                          • #14
                            Originally posted by switching View Post
                            ผมอยากให้ดูรูปนี้ก่อนครับมันต่างกันไหม ถ้าเป็นลำโพงมียี่ห้อก็ต้องมีรีเลย์ติดอยู่ด้วยถูกไหมครับการที่จะทำให้รีเลย์ทำงานได้ต้องจ่ายไฟไปเลี้ยงตัวมันก่อน ผมอยากให้ดูที่สวิตมันต่างกันไหมครับ ระหว่างปิดที่ลำโพงกับปิดที่ปลั๊ก
                            ขออภัยครับ ถ้าตัวลำโพงมีรีเลย์อยู่แล้วต่อแบบไหนก็ได้จริงๆครับ เพราะยังไงตัวลำโพงเค้า protect อยู่แล้ว
                            ผมโง่เอง ขออภัยอีกครั้ง และขอบคุณที่ชี้แนะครับ

                            Comment


                            • #15
                              Originally posted by LoveHifi View Post
                              ก็ยังไม่ถูกนะคร้าบบ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด การที่มีรีเลย์ป้องกันก็เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง ที่ผมบอกว่าใช้แบบไหนก็ได้แต่ควรใช้ปลั๊กที่มีคุณภาพครับ

                              ในรูปที่ตัวสวิทซ์ ในตัวเครื่องบางรุ่นจะมีวงจรคล่อมอยู่เพื่อกันไฟกระชากตอนเปิด ปิดจ้า ถ้าเราไปลัดวงจรแต่แรก (เปิดหลังเครื่องไว้) ก็เท่ากับว่าเราจะไม่มีการป้องกันไฟกระชากตอนเปิด ดังนั้นทางที่ดีคือ ทางลาดยาง เอ้ยไม่ใช่ ทางที่ดีควรใช้ปลั๊กที่มีวงจรกันกระชาก เพื่อลดการสูญเสียเครื่องเสียงอันเป็นที่รัก เครื่องเสียงแพงๆลงทุนใช้ปลั๊กดีๆหน่อย ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกคร้าบ เอ๊ะหรือขนหน้าอกจะร่วงแทน 55555



                              มันไม่พังง่ายๆหรอกครับท่าน พวกลำโพงในสตูดิโอเขาคงไม่มานั่งไล่เปิดกันทีอย่างหรอกครับเขาจะทำเป็นแผงวงจรเปิดปิดใส่แร็กควบคุมเลย แต่เพื่อความสบายใจลงทุนซื้อปลั๊กดีดีมาใช้ ในห้างมีขายเยอาะแยะ ส่วนยี่ห้อหรือรุ่น รอท่านอื่นมาแนะนำละกันครับ ต้องถามคนที่เคยใช้

                              "แล้วอาการเปิดสวิซแล้วลำโพงรีเลย์ อาการมันเป็นเช่นไรครับ "
                              - รีเลย์เวลาเปิดจะมีเสียงติ๊ก ครับ

                              "ตกลงผมสามารถเปิดปิดสวิซจากปลั๊กแทนได้มั้ยครับ "
                              - ได้ครับถ้ากังวลมากก็ถามร้านที่ซื้อมาเลยครับ
                              เพิ่มเติมในส่วนของห้องสตูที่เคยทำงานมา เวลามาทำงานต้องทำการเปิดดังนี้ครับ
                              1.ขึ้นไปห้องเครื่อง เปิดแพททั้งหมด
                              2.เข้าไปเปิดโคตรคอมพิวเตอร์ ขนาดใหญ่เท่าห้องขนาด 10 ตรม
                              3.ปิดเครื่องดูดความชื้น เอาน้ำออกมาเท 1 คืนได้น้ำ 1 กาละมัง
                              4.เปิดแอร์ห้องทำงาน ห้องลูกค้า
                              5.เปิดซีดี DAT finalize compressor effect แผงจอแสดง mix
                              6.เปิดโปรเจคเตอร์ ทีวี
                              7.เปิดลำโพง ทีหลังสุด
                              ทิ้งเครื่องไว้ซักพัก จึงค่อยเริ่มทำงาน

                              ไม่มีแพทเปิดปิด รวมนะครับ แทบทุกสตูครับ

                              Comment

                              Working...
                              X