D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

[ManiacMaew]

ถ้าเล่นเพลงต่อจาก Com ผมแนะนำให้เอาโวลลุ่มออกถาวรจาก 1875 เถอะนะ แล้วเอาเงินรวมไปซื้อดี ๆ มาใส่ที่ตัว ปรีแอมป์แทนนะครับ
จะได้ไม่คอขวดเรื่องคุณภาพเสียง
*แต่อย่าลืม 6DJ8 หลอดเดียวลองหา Siemen หรือ Mullard มาเสียบนะครับ ,พวกหลอด เมกาไม่แนะนำครับ ไม่จบครับเสียเวลาเปล่า

มีร้านแนะนำมั้ยครับ นอกจากebayอ่ะน่ะ - -"

- ไส้หลอด สว่างมากน้อย ข้ามเรื่องนี้ไปก่อนครับ ให้มันทำงานได้ปกติก่อนค่อยกลับมาสนใจมันทีหลัง
- ผมว่า ลองทีละอย่างให้มันรู้เรื่องดีกว่ามั้ง จะได้ตัดปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปด้วย
- ตัว RM-5, ME-2 ผมเอา7DJ8ใส่ ไม่มีปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวน ฮัมก็ไม่มี / แต่ของคุณแมวต่อบนบอร์ดทดลอง มันโดนกวนง่ายกว่าอยู่แล้วละ ไม่น่าแปลกใจ

ดูรูปแล้ว มีความรู้สึกว่า หลอดใส่ซ็อคเกท-ดันลงไปไม่สุดนะ ออกแรงดันหน่อยครับ เอาให้ลงไปให้สุดเลย-ให้ตูดหลอดแนบกับซ็อคเกท
ไม่แน่ ปัญหาบางอย่างอาจมาจากตรงนี้

-เดี๊ยวลองoutputตามแบบวงจรส่วนหลอดที่คุณdracoVเลยครับ มีR1k 100k สำรองไว้พอดี
-ลองเสียบสุดแล้ว ออกแรงกันนิดหน่อย อาการไม่หาย

[tiger X-fi]

ดูจากทางเดินไฟ ผมชอบตัวนี้มากกว่าครับ

ขาไป บล๊อค2ชั้น ขากลับบล็อค 2ชั้น
-----------

http://forums.audioreview.com/audio-...er-5473-3.html

http://www.overclockzone.com/forums/...1#post53829509
------------

ตัวนี้ดูจากทางเดินไฟ บล๊อคแค่ชั้นเดียว
------------
ตามที่ผมเข้าใจ C มีหน้าที่ดักไฟ DC ที่หลุดออกมา

[keang]

@ เสือ
ชอบแบบไหนก็ใช้แบบนั้นครับ เพราะยังงัยมันก็ทำงานได้
แต่ อย่าลืม คำนวน ค่าทนกระแสของไอโอดและค่าC ให้เหมาะสมกับโหลดที่เอาไปต่อใช้งานด้วย

@ แมว
- ของเดิมต่อกับคอม และคอมไม่มีสายกราวน์ดินด้วย : กราวน์ของสัญญาณมีไฟรั่วมาด้วยแน่นอน
ลองเปลี่ยนอินพุทใหม่เป็นตัวที่ไม่มีปัญหาเรื่องกราวน์ เช่น ต่อจากโทรศัพท์

- เรื่องระดับวอลลุ่มดัง-เบา แล้วอาการเสียงแตกเปลี่ยนแปลง บางทีเกิดจากอินพุทแรงไป ไม่สมดุลย์ระหว่างตัวส่งตัวรับ

- ถ้าจะใช้วอลลุ่มที่แอมป์ด้วย ให้ตั้งวอลลุ่มของปรีหลอดไว้ที่ครึ่งนึง(12นาฬิกา) แล้วไปเร่งลดเสียงที่วอลลุ่มแอมป์แทน
แต่จริงๆแล้ว ถ้าระบบมีปรีแล้ว ถอดวอลลุ่มของแอมป์ออกเถอะ : ประมาณว่า ถึงจะใช้วอลลุ่มดีแค่ไหนก็ตาม ใส่เยอะยิ่งมีตัวถ่วงเยอะ

ผมใช้วอลลุ่มสเตป แต่เชื่อมั๊ย ไม่ว่าจะใช้ตัวโรตารี่สวิทช์หรือตัวRดีแค่ไหน เสียงมันก็ยังมีดรอป

ผมเคยลองใช้วอลลุ่มของSpectrol แบบ10รอบ ขาทอง พวกรายละเอียดแบคกราวน์หยุมหยิม ทั้งหางเสียง ทั้งเสียงในคอ ไม่รู้มันโผล่มาจากไหนเยอะแยะเต็มไปหมด
แต่เพราะมันไม่ใช่แบบA-Type ขยับนิดเดียวเจอเรื่องเสียงลั่นบ้านเลย สุดท้ายก็เลยได้แค่ ใช้เพื่อทดลอง เท่านั้น
ทุกวันนี้ เสียงของวอลลุ่มตัวนั้น ยังตามหลอนไม่เคยลืม

--------------------------------

โฉมหน้าวอลลุ่มSpectrol ที่ยังตามมาหลอกหลอนผมจนถึงทุกวันนี้
โครงสร้างภายใน ก็ขดลวดไวร์วาวนี่แหล่ะ ไม่ได้มีไรวิเศษวิโสอลังการงานสร้างสักนิด


ใครไม่เชื่อ เชิญหามาพิสูจน์ได้นะครับ
บ้านเรามีขายนะ : ก่อนฟองสบู่แตก ราคาตัวละ1,200บาท(ไม่รวมค่าลูกบิด) ต้องใช้ทั้งหมด2ตัว

แต่เดี๋ยวนี้ ผมว่าน่าจะถูกกว่าสมัยนั้นเยอะ เพราะมันใช้งานแพร่หลาย พวกงานคอนโทรลใช้กันเยอะ
ใครสนใจลองดูเวปร้านไทยที่รับสั่งของนอกดูครับ

[dracoV]

1. ขา9 screen ปล่อยลอยไว้
2. มีอาการเสียงแตกๆ เวลาสวิงมากๆ เช่นเสียงระเบิดในเกม หรือ กลอง-เบสในเพลงเวลามันขึ้นดังๆกระทันหัน เสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นก็เป็น (ไม่แน่ใจว่าอะไรบ้าง)
อาการจะชัดเจน(คือแตกง่ายขึ้น) เมื่อไปลดvolumeที่ LM1875แล้วไปเพิ่มชดเชยในsoftware
3. ตอนนี้แก้ให้ใช้ไฟ dc จุดได้แล้วครับ ดันไปใช้ขด6Vacมาrectify ป้อนให้7906 ขาเข้า7906เลยสูงกว่า6voltนิดเดียวเปลี่ยนไปใช้ ขด9Vacแทน
4. วัดไฟจุดไส้หลอด ตอนใช้ไฟdcจุด ก่อนเสียบ 6.00Vdc หลังเสียบไปนานๆ5.99Vdc(เสียบใหม่ๆ6.00Vdcเท่าเดิม)
5. ไฟv+ ประมาณ 14.75 (เปิดไว้นานแหล่ะ เปิดใหม่ๆวัดได้14.8) ไฟที่ขาเพลท(ออกจากccs)ข้างหนึ่ง13.37 (ขา1)อีกข้าง13.67(ขา6)

1. ต่อลงกราวด์ครับ
2. ตอบด้วยข้อ 5. เป็นเหตุ headroom ไม่พอให้สัญญาณมันสวิงครับ
ไม่ได้ใส่ R trimmer ไว้ปรับ bias ใช่ไหมครับ
เนื่องจากหลอดทุกหลอดมันทำงานได้ไม่เท่ากันและไม่ได้เท่ากับ datasheet เป๊ะๆ ยิ่งคนละยี่ห้อคนละเบอร์แต่ตระกูลเดียวกัน
ก็แค่คุณสมบัติใกล้เคียงกันน่ะ ขนาดในหลอดเดียวกัน สองซีกยังทำงานไม่เท่ากันเล๊ย 555+
ถ้าไม่มี R trimmer ก็ให้เอา R ขนาด 5k มาเพิ่มที่ plate ต่อจาก CCS แล้วต่อ plate สัญญาณก็เอาจาก Plate เหมือนเดิม
3.-4. ใช้ได้แล้วครับ
5. ไปตอบ 2.

เพิ่มเติม จากรูปสายอากาศเยอะเชียว 555+ ลดความยาวลดสายลงหน่อยก็ดีนะครับ
จุดไหนไม่ได้ถอดเข้าๆออกๆบ่อยๆ ก็บัดกรีไว้เลย
Connector ทุกตัวเป็นจุดสร้าง noise ทั้งนั้น โดยเฉพาะที่อยู่ในแนวสัญญาณ
ตอนนี้ลองวงจรก็ไม่ต้องใส่ volume ก่อน ถอดออกก่อน หรือถ้าจะใส่ก็บัดกรีกับวงจรและตัวถังลงground ด้วย

ลองเท่านี้ก่อน ค่อยๆไป

[dracoV]

@keang

ตัวคล้ายๆแบบนี้ เคยใช้ของ Alps 50k ตัวละ 400กว่าบาท ใช้ดีเหมือนกันนะ

---------------------------------------------
@คุณเสือ
คำนวณหา C สำหรับ Cathode bypass มันมากกว่านั้นนะ
C = 1 / (2 * pi * f * Rk) ใช้คำนวณ Frequency response ได้
สำหรับ Ck ต้องคำนวณจากคุณสมบัติของหลอดแต่ละเบอร์ จากค่า gain Min/MAX, mu, Rplate, Rinternal, และอื่นๆประกอบ
เพราะ Ck จะทำหน้าที่ลด negative feedback (cathode degeneration) ที่รบกวนอัตราขยายและ frequency response
ใช้ค่าน้อยหรือไม่เหมาะสมก็เหมือนทำ High pass filter จะตัดช่วงความถี่ต่ำให้ลดลงไปตามค่าคำนวณนะ

ไว้ว่างๆ วันหลังค่อยมาเล่าให้ฟัง

---------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับข้อมูล DC blocker ครับ

ส่วนที่น่า จด/จำ/เอาไปประยุกต์ต่อ

Logically, using a series capacitor will block any DC. Capacitors cannot pass DC, so the waveform will re-centre itself to ensure that there is no offset.

That's a fairly large capacitance, and can only be economically realised using an electrolytic capacitor. This raises a new quandary - electrolytic caps can operate for many years without a polarising voltage, but only at very low voltages. This means that the maximum voltage across the cap(s) must be limited, or they will fail. To be sensible, it will be necessary to use a pair of electrolytic capacitors, wired in "anti-parallel". A normal series connection with the two negative (or positive) terminals joined will also work, but reduces the available capacitance and maximises ripple current through both caps. Nonetheless, this may be preferable (see conclusion). The traditional way to limit the voltage is to use a number of high current diodes in parallel with the caps.

[keang]

ตัวคล้ายๆแบบนี้ เคยใช้ของ Alps 50k ตัวละ 400กว่าบาท ใช้ดีเหมือนกันนะ

- ไม่เคยเห็นของAlpsแหะ บ้านหม้อมีขายมั๊ย จะได้แวะไปดู
- มีวิธีให้ช่วงหมุนมันใกล้เคียงแบบA-Typeหรือเปล่า ผมเคยลองต่อแบบshuntก็แทบไม่ได้ช่วยเรื่องนี้เลย

ไว้ว่างๆ วันหลังค่อยมาเล่าให้ฟัง

ปล่อยให้อยาก แล้วจากไป

[tiger X-fi]

@คุณเสือ
คำนวณหา C สำหรับ Cathode bypass มันมากกว่านั้นนะ
C = 1 / (2 * pi * f * Rk) ใช้คำนวณ Frequency response ได้
สำหรับ Ck ต้องคำนวณจากคุณสมบัติของหลอดแต่ละเบอร์ จากค่า gain Min/MAX, mu, Rplate, Rinternal, และอื่นๆประกอบ
เพราะ Ck จะทำหน้าที่ลด negative feedback (cathode degeneration) ที่รบกวนอัตราขยายและ frequency response
ใช้ค่าน้อยหรือไม่เหมาะสมก็เหมือนทำ High pass filter จะตัดช่วงความถี่ต่ำให้ลดลงไปตามค่าคำนวณนะ

ไว้ว่างๆ วันหลังค่อยมาเล่าให้ฟัง

---------------------------------------------
ขอบคุณสำหรับข้อมูล DC blocker ครับ

ส่วนที่น่า จด/จำ/เอาไปประยุกต์ต่อ

ขอบคุณมากครับพี่
capacitor will block any DC
จะเป็นจุดไหน...DC blocker / C input / C output /crossover network
ตัวมันก็ยังคงหน้าที่ block ไฟ DC อยู่ (การทำงานแฝง)

-
ปล่อยให้อยาก แล้วจากไป

[keang]

คุณเสือ ที่คุณdracoVพูดถึงเรื่องCสำหรับDC Bloker เค้าแนะนำให้เอาCแบบไม่มีขั้วมาใช้ครับ ถ้าCฟิลม์เหลือใช้เยอะ...ก็เอามาขนานพ่วงเข้าไปสักเข่งสองเข่ง

[tiger X-fi]

คุณเสือ ที่คุณdracoVพูดถึงเรื่องCสำหรับDC Bloker เค้าแนะนำให้เอาCแบบไม่มีขั้วมาใช้ครับ ถ้าCฟิลม์เหลือใช้เยอะ...ก็เอามาขนานพ่วงเข้าไปสักเข่งสองเข่ง

10000 UF 2เข่งไม่น่าพอครับพี่

[keang]

ไม่ดิ ลองคำนวนค่าCที่ต้องใช้จริงๆ มันไม่ใช่ค่าสูงเป็นหมื่นขนาดนั้น

Voltage Drop - Now that we have the current, we can work out the required capacitance. Keeping the RMS voltage across the capacitor below 1V would seem like a reasonable figure, and I'd suggest that the maximum current of interest is around ? of the full load current - about 500mA. This means that capacitive reactance must be 2 Ohms or less. Remember that we can use Ohm's law to make these calculations - at least up to this point. Calculating the capacitance needed means that we use the capacitive reactance formula, suitably rearranged ...

C = 1 / ( 2 * pi * f * Xc ) where f is frequency and Xc is capacitive reactance
C = 1 / ( 2 * pi * 50 * 2 ) = 1,590uF

2,000uF = 10uF แค่200ตัวเอง

500mA ใช้กับแอมป์หูฟังแบบออปแอมป์หรือทรานซิสเตอร์TO-92ได้นะ

[dracoV]

- ไม่เคยเห็นของAlpsแหะ บ้านหม้อมีขายมั๊ย จะได้แวะไปดู
- มีวิธีให้ช่วงหมุนมันใกล้เคียงแบบA-Typeหรือเปล่า ผมเคยลองต่อแบบshuntก็แทบไม่ได้ช่วยเรื่องนี้เลย


ปล่อยให้อยาก แล้วจากไป

แหม่ ก็เรื่องมันย๊าวว 555+

แปลง linear เป็น log สำหรับ volume pot
http://www.maximintegrated.com/app-n...dex.mvp/id/838

[keang]

แปลง linear เป็น log สำหรับ volume pot
http://www.maximintegrated.com/app-n...dex.mvp/id/838

ขอบคุณครับ เดี๋ยวมีโอกาสจะลองกับSpectrolอีกครั้ง

Adding a series resistor to the circuit (R1 in Figure 2a) yields an entirely different result. Now this circuit's transfer function more closely resembles a logarithmic curve and is characterized by the equation VOUT = VIN(RB/(R1 + RB)). By varying the value of R1, which in this case is 10k?, the "pseudologarithmic" transfer function can be customized to meet the actual needs of the circuit. A graph of the transfer function is shown in Figure 2b. One possible drawback to this circuit, as compared to a log-taper digital pot, is that VOUT can only approach the full-scale value of VIN. VOUT cannot reach VIN. Therefore, there is some loss of the output's dynamic range; the magnitude of that loss depends on the value chosen for R1. Using a log-taper digital pot, however, limits the response to that particular pot's specifications (1dB/step, 2dB/step, etc). There are trade-offs for both topologies, depending on the specifications needed.

Figure 2. Pseudologarithmic-response (a) circuit and (b) plot.

[ManiacMaew]

1. ต่อลงกราวด์ครับ
2. ตอบด้วยข้อ 5. เป็นเหตุ headroom ไม่พอให้สัญญาณมันสวิงครับ
ไม่ได้ใส่ R trimmer ไว้ปรับ bias ใช่ไหมครับ
เนื่องจากหลอดทุกหลอดมันทำงานได้ไม่เท่ากันและไม่ได้เท่ากับ datasheet เป๊ะๆ ยิ่งคนละยี่ห้อคนละเบอร์แต่ตระกูลเดียวกัน
ก็แค่คุณสมบัติใกล้เคียงกันน่ะ ขนาดในหลอดเดียวกัน สองซีกยังทำงานไม่เท่ากันเล๊ย 555+
ถ้าไม่มี R trimmer ก็ให้เอา R ขนาด 5k มาเพิ่มที่ plate ต่อจาก CCS แล้วต่อ plate สัญญาณก็เอาจาก Plate เหมือนเดิม
3.-4. ใช้ได้แล้วครับ
5. ไปตอบ 2.

เพิ่มเติม จากรูปสายอากาศเยอะเชียว 555+ ลดความยาวลดสายลงหน่อยก็ดีนะครับ
จุดไหนไม่ได้ถอดเข้าๆออกๆบ่อยๆ ก็บัดกรีไว้เลย
Connector ทุกตัวเป็นจุดสร้าง noise ทั้งนั้น โดยเฉพาะที่อยู่ในแนวสัญญาณ
ตอนนี้ลองวงจรก็ไม่ต้องใส่ volume ก่อน ถอดออกก่อน หรือถ้าจะใส่ก็บัดกรีกับวงจรและตัวถังลงground ด้วย

ลองเท่านี้ก่อน ค่อยๆไป

ข้อ1 ครับ แต่อีกใจก็อยากเพื่อลองต่อหลอด12ดู แหะๆ
ข้อ2+ข้อ5
-Rk ใช้metal film1kครับ
-ไฟB+กับไฟV+ ควรมีช่วงห่-างมากกว่านั้นเหรอครับ
-ถ้าไม่แทรกR 5kระหว่างชุดccsกับขาplateต้องไปแก้ที่Rkให้ปรับค่าได้แบบที่ทำกับ+-12vใช่มั้ยครับ
vvvvv

ตอบ:
1. ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรก็ได้ครับ การทำงานใกล้เคียงกัน แต่ แนะนำ ให้เปลี่ยน R cathode 1k เป็น R 560 + R trimmer 1k ไว้ปรับไบแอสครับ
อาจเพิ่มค่า C output ขึ้นหน่อย ก็ไว้ทดลองเอาตามชอบ/เหมาะสมครับ

แล้วก็Rkนี้มันเกี่ยวกับset gainใช่มั้ยครับ

เพื่อสัพเพเหระเยอะแยะมันเลยรก55+
ตัวถังvolumeต่อลงกราวน์แล้วน่ะ :/

ไม่ดิ ลองคำนวนค่าCที่ต้องใช้จริงๆ มันไม่ใช่ค่าสูงเป็นหมื่นขนาดนั้น


2,000uF = 10uF แค่200ตัวเอง

เอาตัวเหลืองข้างเขียวหรือข้างดำด้วยน่ะ จะได้ขายบ้านทิ้ง55+

[tiger X-fi]

ขา9ต่อลงกราวน์ ก็ใช้หลอด 12ได้ครับ

[keang]

ใส่Cฟิลม์ไบแคปเลยครับ ให้ดี...คร่อมขาไดโอดเลย



อันนี้ถามความเห็น DC Blocker
- ถ้าทำแค่เส้นเดียว ควรทำที่LหรือN
- เพื่อให้สมบูรณ์มากขึ้น ควรทำให้ครบทั้ง2เส้นมั๊ย