กราบเรียนพี่น้องทุกท่าน เนื่องด้วยถึงกาลเวลาที่เหมาะสม ก็คิดที่จะส่งต่อความทรงจำในส่วนดีๆที่ได้รับมาออกไปสู้พี่น้องที่ต้องการหลงเสียงนางเหมือนอย่างข้าพเจ้า โดยมีได้ต้องการอวดคุณวิเศษประการใดๆ เพียงแต่ต้องการแชร์เครื่องเสียงที่ได้ผ่านหูข้าพเจ้าและก็ผ่านไป เพียงหลงเหลือเสียงนาง หรือบางครั้ง หลังเหลือกลิ่นอายและจิตวัญญานของผู้ผลิด ลงสู่เครื่องเสียงอันเป็นศาสตร์และศิลป์ที่ละเอียดอ่อน พูดง่ายๆคือ ฟังแล้วยังคิดถึงหรือติดหูข้าพเจ้านั่นเอง
หมายเหตุ : รูปที่ลงทั้งหมด เป็นรูปที่ถ่ายที่บ้านผมเองนะครับ ซึ่งหมายถึงว่า ได้ฟังและปลุกปล้ำกันอยู่พักหนึ่ง
ขอแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเครื่องดังนี้
1. ราคาไม่เกิน 5 หมื่น คงเหลือหัวข้อแอมป์ และ accessory ที่คงค้างพี่น้องทั้งหลาย กำลังลงลึกในส่วนการขัดเกลาให้ออกมาจากความทรงจำ
2. ราคาไม่เกินแสน
3. ไม่จำกัดงบ ส่วน 2 ข้อนี้ ขอติดไว้ก่อน เมื่อเวลาเหมาะสมมาถึง คงขยายความต่อเนื่องให้พี่น้องให้อ่านกันต่อไป
เครื่องที่มารีวิวนี้ โดยความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าทั้งนั้น ไม่ขออ้างอิงผู้ใด ถ้าตกหล่น ผิดพลาดประการใด ทางผู้เขียน ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
1. ราคาไม่เกิน 5 หมื่น
หมวดลำโพง ไล่จาก ชอบมากไปน้อยสุด เต็ม 5 ดาว
totem model 1 sig, model1 biwired, model1 single
มุทะลุดุดัน พลังมาพร้อมรูปวง เด็ดขาด ฉับพลัน รวดเร็วรุกเร้า แต่คงความสุภาพและท่วงทำนอง จิตนาการได้เหมือนชายหนุ่มผุ้กำยำลำสันปานอาร์โนล นิสัยหนักแน่นและเด็ดขาด แต่สุภาพและมีมารยาท ยอมหักไม่ยอมงอ คือสไตล์เสียงของลำโพงรุ่นนี้
กระหายพลัง วัตต์ไม่ต้องเยอะ แต่ต้องหนักแน่น วัตต์เต็มๆแท้ๆ ชอบมากกับแอมป์ยี่ห้อ jeff rowland
สุดยอด 1 ใน 4 ทิศ ขอยกตำแหน่งมารบูรพาให้กับลำโพงรุ่นนี้ครับ ให้ 4.5 ดาวสำหรับลำโพงรุ่นนี้
มีวรรณะ หรือสี หลากหลาย แต่ที่ผมชอบคือ 2 สีนี้ครับ
มีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่น
1. รุ่นแรก ป้ายขาว มีเฉพาะ รุ่นไบวาย สไตล์เสียง ดุดัน ดิบ พละกับลังดี แต่ไม่เนียนเท่ารุ่น sig เป็นรุ่นสร้างชื่อ กระหายวัตตืกว่ารุ่นใหม่ๆ และ ถ้าจะซื้อมือ 2 รุ่นนี้ ต้องพิจารณาขอบยางดีๆ เนื่องจาก ลำโพง อายุเฉียด 10 ปี พร้อมเปิดแบบอัดๆ มานาน คนเล่นมือแรกๆ ไม่แน่ว่าจะใช้ของดี อาจเปิดจนวอยส์เบียดมาได้ หรือเปิดอัดจนขอบยางเสื่อม ต้องดูดีๆครับ
2. รุ่น 2 รุ่น sig เป็นรุ่นถัดมาก พัฒนาเรื่องเสียงกลางแกลมให้ดีมากขึ้น ใช้อุปกรณ์คัดเกรดขึ้นไป ท้ายเปลียนจาก wattgate รุ่นเก่าใน ป้ายขาวมาเป็นรุ่นใหม่และเปลี่ยนป้ายเป็นป้ายทอง เสียงดีขึ้นแต่พละกำลังและความดิบเถื่อนลดลง สภาพดีๆ สีพิเศษ เล่นหามือ 2 กันที่ 45-49,000
3. รุ่น single wire สไตล์ความกัน แต่ความดิบเถื่อนลดลง เนียนขึ้นแต่ไม่เท่า sig มีพลังแต่ก็ไม่เท่า sig เป็นรุ่นสำหรับนักฟังที่ไม่ชอบพลังแต่ชอบเสียงของ totem ซึ่งตัวนี้ตอบโจทย์ เล่นหามือ 2 กันที่ 28-32,000
มีคำถามหลายคำเกี่ยวกับลำโพงรุ่นนี้ว่า ทำอย่างไรจะรีดประสิทธิภาพออกมาได้หมดสิ้น
1. กำลังแอมป์ recommends Jeff rowland ไม่ว่าจะเป็น integrated หรือ power pre เป็นใช้ได้ทั้งนั้น
2. accessory พวก สายไฟ สายสัญญาน สายลำโพง ต้องเป็นตัวที่จ่ายกระแสได้ฉับไว เช่น Purist audio จึงสามารถคุมพลังของลำโพงตัวนี้ได้เหมาะสม ไม่ถูกกับสายลำโพงพวก pure silver เช่น nordost
3. ต้องใช้กับขาแท้ๆของมัน คือ totem T4L หรือ T4S มวลหนัก เหล็กเนื้อดี รองรับ resonance ของลำโพง ได้เต็มที่เท่านั้น จึงเหมาะสม ของclone สามารถให้ความรู้สึกได้ แต่ไม่เที่ยบเท่ากับ ขาแท้ๆของมัน




ป้ายขาว

รุ่นใหม่ ป้ายทอง

monitor audio studio 2se
ถ้ากล่าวถึงลำโพงที่มีผลกระทบต่อนักฟังในเมืองไทยและต่างประเทศ น้อยคนที่จะไม่พูดถึง monitor audio ชื่อนี้มีอายุมานาน ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปี เสียแต่รุ่นใหม่ๆ ผลิตในเมืองจีนเสียแล้ว
ถ้าพูดถึงตำนานกันจริงๆ ก็ต้องเป็นลำโพงที่ผลิตภายใต้มือของ Mr.Mo Iqbal
แนวเสียง ครบเครื่อง ตอบได้สั้นๆ
เสียงเบสที่มันมี แพ้ totem อยู่แต่ไม่มาก
เสียงกลางอิ่มเนียนเทียบเท่า b&W 805
เสียงแหลมสะอาดฉับไว พอๆกับ proac แต่ไม่บาดคม
งานผลิต handmade คุณภาพอังกฤษ ครบถ้วนทั้งศาสตร์และศิลป์ เป็นลำโพงที่เสียงดีหาได้ยากที่เรียกว่าครบเครื่องได้จริงๆ
โดยปรกติ การเพิ่มอะไรเข้าไปในระบบ มักจะทำให้เสียงอื่นๆ มัวหมองลง เช่น เพิ่มแหลม เบสหาย เพิ่มเบส กลางหด กลางดี เบสไม่สะอาด เป็นเช่นนี้ การทำให้เสียงออกมาได้กลมกล่อมนับว่าหาได้ยากยิ่งครับ
สี วรรณะมี 2 วรรณะ สีแดงด้าน และ สีดำด้าน เป็นรุ่นธรรมดา
รุ่นที่ผลิตขึ้นมาให้หลังเมื่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมแล้วคือ monitor 2se ย่อมาจาก studio edition ซึ่งเป้นทำโพงที่ให้เสียงเที่ยงตรง จริงจัง ออกแนบ audiophile ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตัดครอสโอเวอร์อยู่ที่ 20-30,000hz จากรุ่น 2 ที่ตัดอยู่ที่ 20-20,000hz มีอยู่จำนวนไม่กี่คู่จากทั่วโลก
ลำโพงรุ่นนี้ ในปัจจุบันหลังจากที่ Mr.Mo ขายกิจการให้นักธุรกิจชาวอังกฤษMr. Robin Jones หลังจากนั้น Series Studio ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็น Platinum แทน จนถึงปัจจุบัน
โครงสร้าง เป้นผิวไม่วีเนียร์แบบด้านในรุ่น 2ธรรมดา สำหรับ 2SE เป็นผิวแบบวิเนียรขัดเปียโน สวยงามมาก
ดอกลำโพง และ tweeter เป็นดอกของ monitor ซึ่ง woofer ใช้ polymer เข้ามาใช้เป้นยุคแรกๆของเครื่องเสียงที่ใช้วัสดุชนิดนี้
แนวเสียง อ้างอิง Studio 2SE
เด่นกลางเป็นธรรมชาติ แหลมสะอาด รูปวงดี เบสดี มิติดี ฟังได้บ่อย ไม่บาดหู แหลมกว้างไกล ไม่อัดอั้น และที่สำคัญ สวยมากๆครับ
ให้ 4.5 ดาวเท่ากับ totem ครับ เฉพาะในรุ่น 2SE ถ้า 2 ธรรมดา ให้อยู่ที่ 3.8 ดาวครับ เนื่องจากแหลมไม่กว่าง เบสไม่ลงมาก




proac tablet 50, 50 sig
เป็นลำโพงตัวแรกๆที่ผมได้มาลองหัดเล่นเลยทีเดียว เสียงที่ได้ค่อนข้างคล้ายกับ Monitor ซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบ อายุลำโพงตัวนี้ นานพอควรแต่ว่า สภาพลำโพง เนื่องจาก proac เมื่อสมัยแรกๆ ผลิตสินค้าค่อนข้าทนทาน งานฝีมือช่างดี ผิวไม้แท้ เลยค่อนข้างทนทาน
แนวเสียง เน้นเรื่องเสียงกลางได้ดี มิติดี เบสมีพอได้ แหลมดีแต่ไม่กว้าง ใช้ฟัง jazz หรือเพลงร้องดนตรีน้อยชิ้น ให้เสียงได้ดี
ได้ 3.5 ดาว สำหรับลำโพงรุ่นนี้ครับ
ส่วน 50sig ผมให้ 3.8 ดาวครับ




b&w705
และแล้วก็มาถึงลำโพงที่ผมชอบที่สุดคือ B&W สำหรับอนุกรมนี้ แม้จะเป็นอนุกรมที่เขาทำมาเพื่อใช้ดูหนัง แต่ก็อย่าได้ไปดูถูกมันเชียว
อนุกรม 7 เป้นลำโพงที่ออกมาคาบเกียวกันระหว่าง series matrix กับ series nautilus ซึ่งรอยต่อตรงนี้ ถูกเติมเต็มด้วย series CDM และ series 7 ซึ่งทั้ง 2 series นี้ ทาง B&W ก็เริ่มใช้เทคโนโลยี tweeter nautilus เข้ามาแล้ว เพียงแต่ ไม่เอาเข้ามาอย่างเต็มที่เมื่อเทียบกับ series 8
แต่เสียงกลาง ความเป็นธรรมชาติและความเปิดโล่งนั้น ก็ดีมากแล้ว
แนวเสียง มันคือ B&W คงความเป้น B&W อย่างเต้มพิกัด เสียงกลางอิ่มเนียนสะอาด แหลมกว้างไกล ขับง่ายไม่งอแง
ติดนิดเดียวเรื่องเบส ยังไม่ลงลึกเท่าที่ควร มีเพียงเบสแบบประคองให้อิ่ม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกในนักเพราะ b&W ไม่เน้นเบส ยกเว้นเป็นรุ่นใหญ่ๆขึ้นไป จะมีเบสเพิ่มขึ้นตาม step
เสียงแบบนี้ ผมให้ 3.8 ดาวครับ
ราคามือ 2 ประมาณการที่ 35-40,000 แล้วแต่สภาพ



vienna acoustic hydn, bach
รายการนี้ เขียนยากที่สุด มีลับลมคมในมากที่สุด เสียงไม่เหมือนกันเลยหลายคู่ เมื่อจากตัวแทนจำหน่ายรากเก่าทำไว้
แต่ผมขอไม่เข้าไปยุ่งใน detail
ขอวิจารณ์แต่เรื่องเสียง
ในที่นี้ Vienna ที่ขอกล่าวถึง จะเป็นแค่รุ่น Hydn sig ที่ไม่ไช่ biwired
ลำโพง Vienna ผลิตใน Vienna ตามชื่อของมัน เป็นงาน handmade ขั้นเทพ ฝีมือช่าง Vienna ที่ขึ้นชื่อเรื่องของศาสตร์และศิลป์ในการผลิต ที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม ความสวยงามนั้น ผมให้สูงกว่า sonus faber ที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้เทคนิคต่อเรื่อของอิตาลี่ที่ต่อเรือเก่งที่สุดในโลก แต่ของ Vienna เป้นความสวยงามตามธรรมชาติของใม้อย่างแท้จริง บ่งบอกถึงความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์และธรรมชาติของไม้โดยแท้ แค่มอง ก็หลงเสียแล้วครับ
เรื่องเสียง โดดเด่นที่สุดคือเสียงกลางอิ่มหนามีมวลขั้นเทพ ออกแนวลำโพงเสียงร้องแบบ Soprano แบบ Tshichin หรือวิทนีย์ ท่านใดที่หลงเสียงนาง เมื่อฟังลำโพงยี่ห้อนี้แล้ว มักดิ้นไม่หลุด หลงหัวปักหัวปำทีเดียวเชียว แต่เรื่องมิติและความกว้างของเสียงพอใช้ ไม่ถึงกับดีมาก ทำให้overall แล้วยังไม่เท่าไรนัก ให้ 3 ดาวครับ
ราคาซื้อขายมือ 2 ประมารการที่ 29-35,000
สำหรับ bach ก็ยกระดับเรื่องเสียงเบสขึ้นมาแต่ว่า โดยรวมก็คงเหมือน hydn ให้ 3.5 ดาวครับ ราคาซื้อขายมือ 2 อยู่ที่ 35-40,000
เสียดายที่ผมไม่ไดเก็บรูป hydnไว้เลย ขอเอารูปของท่านอื่นในเว็บมาเป็นตัวอย่างก่อนนะครับ ส่วน bach ผมมีเก็บไว้
Hydn


Bach



b&w cm1 cm5 cm7
อนุกรม CM ออกมาเพื่อทดแทน อนุกรม 7 ที่ EOL ออกไป ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีมาก
แนวเสียง
เน้นเบสและความมันเป็นหลัก ไม่ค่อยเน้นเสียงกลาง ให้ความสำคัญเรื่อง soundstage และมิติค่อนข้างมาก แต่เสียงแหลมออกมาเป็นลักษณะ ดิจิตอลหน่อยๆ มีความสดคมพุ่งพอสมควร เป็นลำโพงที่ฟังแล้วมัน เสียงเบสสำหรับ CM7 ไม่แพ้ totem เลยครับ มันใช้ได้
เพิ่มเติม อนุกรมนี้ ท่านที่ใช้สาย link ของมันที่เป็นแผ่นสีทองๆ ขอให้ถอดออกไปเลย เนื่องจากฉุดเสียงโดยรวมให้ห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด ใช้สายลำโพงอย่างดี ตัดท่อนเล็กมาเสียบลิ๊งค์ จะให้เสียงได้ดีมากกว่าครับ
CM1 2.6 ดาว ราคามือ 2 อยู่ที่ 30-35,000
CM5 2.9 ดาว ราคามือ 2 อยู่ที่ 35-40,000
CM7 3.2 ดาว ราคามือ 2 อยู่ที่ 45-55,000
CM1 CM5 ผมไม่ได้เก็บรูปไว้ มีแต่รูบ CM7 ลงให้ดูครับ



Link เจ้าปัญหา

คงค้างลำโพง คือ monitor gold 1, PSB B25, KEF IQ3, monitor gold 7, monitor gold 700, gold 703, JBL E60, Boston Acoustic VR-M90, จากการพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว คัดออกจากการที่ performance ไม่ถูกใจ
และยังคงค้าง Proac 1SC สืบเนื่องด้วย monitor gold 1 นั้นคงเป้นลำดับสดท้ายแต่ด้วยความที่มันเล็กนั่นเอง เสียงนั้นไม่ได้เล็กไปเลย กับงบประมารที่จ่ายออกไป ผมพึงพอใจกับเสียงในระดับนี้
Proac 1SC ได้ฟังมาหลายครั้ง แต่กลับไม่ประทับใจเท่าไรนัก จึงของดไว้ก่อน
มังกรซ่อนกาย
หมายเหตุ : รูปที่ลงทั้งหมด เป็นรูปที่ถ่ายที่บ้านผมเองนะครับ ซึ่งหมายถึงว่า ได้ฟังและปลุกปล้ำกันอยู่พักหนึ่ง
ขอแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเครื่องดังนี้
1. ราคาไม่เกิน 5 หมื่น คงเหลือหัวข้อแอมป์ และ accessory ที่คงค้างพี่น้องทั้งหลาย กำลังลงลึกในส่วนการขัดเกลาให้ออกมาจากความทรงจำ
2. ราคาไม่เกินแสน
3. ไม่จำกัดงบ ส่วน 2 ข้อนี้ ขอติดไว้ก่อน เมื่อเวลาเหมาะสมมาถึง คงขยายความต่อเนื่องให้พี่น้องให้อ่านกันต่อไป
เครื่องที่มารีวิวนี้ โดยความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้าทั้งนั้น ไม่ขออ้างอิงผู้ใด ถ้าตกหล่น ผิดพลาดประการใด ทางผู้เขียน ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
1. ราคาไม่เกิน 5 หมื่น
หมวดลำโพง ไล่จาก ชอบมากไปน้อยสุด เต็ม 5 ดาว
totem model 1 sig, model1 biwired, model1 single
มุทะลุดุดัน พลังมาพร้อมรูปวง เด็ดขาด ฉับพลัน รวดเร็วรุกเร้า แต่คงความสุภาพและท่วงทำนอง จิตนาการได้เหมือนชายหนุ่มผุ้กำยำลำสันปานอาร์โนล นิสัยหนักแน่นและเด็ดขาด แต่สุภาพและมีมารยาท ยอมหักไม่ยอมงอ คือสไตล์เสียงของลำโพงรุ่นนี้
กระหายพลัง วัตต์ไม่ต้องเยอะ แต่ต้องหนักแน่น วัตต์เต็มๆแท้ๆ ชอบมากกับแอมป์ยี่ห้อ jeff rowland
สุดยอด 1 ใน 4 ทิศ ขอยกตำแหน่งมารบูรพาให้กับลำโพงรุ่นนี้ครับ ให้ 4.5 ดาวสำหรับลำโพงรุ่นนี้
มีวรรณะ หรือสี หลากหลาย แต่ที่ผมชอบคือ 2 สีนี้ครับ
มีอยู่ทั้งหมด 3 รุ่น
1. รุ่นแรก ป้ายขาว มีเฉพาะ รุ่นไบวาย สไตล์เสียง ดุดัน ดิบ พละกับลังดี แต่ไม่เนียนเท่ารุ่น sig เป็นรุ่นสร้างชื่อ กระหายวัตตืกว่ารุ่นใหม่ๆ และ ถ้าจะซื้อมือ 2 รุ่นนี้ ต้องพิจารณาขอบยางดีๆ เนื่องจาก ลำโพง อายุเฉียด 10 ปี พร้อมเปิดแบบอัดๆ มานาน คนเล่นมือแรกๆ ไม่แน่ว่าจะใช้ของดี อาจเปิดจนวอยส์เบียดมาได้ หรือเปิดอัดจนขอบยางเสื่อม ต้องดูดีๆครับ
2. รุ่น 2 รุ่น sig เป็นรุ่นถัดมาก พัฒนาเรื่องเสียงกลางแกลมให้ดีมากขึ้น ใช้อุปกรณ์คัดเกรดขึ้นไป ท้ายเปลียนจาก wattgate รุ่นเก่าใน ป้ายขาวมาเป็นรุ่นใหม่และเปลี่ยนป้ายเป็นป้ายทอง เสียงดีขึ้นแต่พละกำลังและความดิบเถื่อนลดลง สภาพดีๆ สีพิเศษ เล่นหามือ 2 กันที่ 45-49,000
3. รุ่น single wire สไตล์ความกัน แต่ความดิบเถื่อนลดลง เนียนขึ้นแต่ไม่เท่า sig มีพลังแต่ก็ไม่เท่า sig เป็นรุ่นสำหรับนักฟังที่ไม่ชอบพลังแต่ชอบเสียงของ totem ซึ่งตัวนี้ตอบโจทย์ เล่นหามือ 2 กันที่ 28-32,000
มีคำถามหลายคำเกี่ยวกับลำโพงรุ่นนี้ว่า ทำอย่างไรจะรีดประสิทธิภาพออกมาได้หมดสิ้น
1. กำลังแอมป์ recommends Jeff rowland ไม่ว่าจะเป็น integrated หรือ power pre เป็นใช้ได้ทั้งนั้น
2. accessory พวก สายไฟ สายสัญญาน สายลำโพง ต้องเป็นตัวที่จ่ายกระแสได้ฉับไว เช่น Purist audio จึงสามารถคุมพลังของลำโพงตัวนี้ได้เหมาะสม ไม่ถูกกับสายลำโพงพวก pure silver เช่น nordost
3. ต้องใช้กับขาแท้ๆของมัน คือ totem T4L หรือ T4S มวลหนัก เหล็กเนื้อดี รองรับ resonance ของลำโพง ได้เต็มที่เท่านั้น จึงเหมาะสม ของclone สามารถให้ความรู้สึกได้ แต่ไม่เที่ยบเท่ากับ ขาแท้ๆของมัน




ป้ายขาว

รุ่นใหม่ ป้ายทอง

monitor audio studio 2se
ถ้ากล่าวถึงลำโพงที่มีผลกระทบต่อนักฟังในเมืองไทยและต่างประเทศ น้อยคนที่จะไม่พูดถึง monitor audio ชื่อนี้มีอายุมานาน ผ่านร้อนหนาวมาหลายสิบปี เสียแต่รุ่นใหม่ๆ ผลิตในเมืองจีนเสียแล้ว
ถ้าพูดถึงตำนานกันจริงๆ ก็ต้องเป็นลำโพงที่ผลิตภายใต้มือของ Mr.Mo Iqbal
แนวเสียง ครบเครื่อง ตอบได้สั้นๆ
เสียงเบสที่มันมี แพ้ totem อยู่แต่ไม่มาก
เสียงกลางอิ่มเนียนเทียบเท่า b&W 805
เสียงแหลมสะอาดฉับไว พอๆกับ proac แต่ไม่บาดคม
งานผลิต handmade คุณภาพอังกฤษ ครบถ้วนทั้งศาสตร์และศิลป์ เป็นลำโพงที่เสียงดีหาได้ยากที่เรียกว่าครบเครื่องได้จริงๆ
โดยปรกติ การเพิ่มอะไรเข้าไปในระบบ มักจะทำให้เสียงอื่นๆ มัวหมองลง เช่น เพิ่มแหลม เบสหาย เพิ่มเบส กลางหด กลางดี เบสไม่สะอาด เป็นเช่นนี้ การทำให้เสียงออกมาได้กลมกล่อมนับว่าหาได้ยากยิ่งครับ
สี วรรณะมี 2 วรรณะ สีแดงด้าน และ สีดำด้าน เป็นรุ่นธรรมดา
รุ่นที่ผลิตขึ้นมาให้หลังเมื่อรุ่นนี้ได้รับความนิยมแล้วคือ monitor 2se ย่อมาจาก studio edition ซึ่งเป้นทำโพงที่ให้เสียงเที่ยงตรง จริงจัง ออกแนบ audiophile ขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ตัดครอสโอเวอร์อยู่ที่ 20-30,000hz จากรุ่น 2 ที่ตัดอยู่ที่ 20-20,000hz มีอยู่จำนวนไม่กี่คู่จากทั่วโลก
ลำโพงรุ่นนี้ ในปัจจุบันหลังจากที่ Mr.Mo ขายกิจการให้นักธุรกิจชาวอังกฤษMr. Robin Jones หลังจากนั้น Series Studio ก็ถูกเปลี่ยนไปเป็น Platinum แทน จนถึงปัจจุบัน
โครงสร้าง เป้นผิวไม่วีเนียร์แบบด้านในรุ่น 2ธรรมดา สำหรับ 2SE เป็นผิวแบบวิเนียรขัดเปียโน สวยงามมาก
ดอกลำโพง และ tweeter เป็นดอกของ monitor ซึ่ง woofer ใช้ polymer เข้ามาใช้เป้นยุคแรกๆของเครื่องเสียงที่ใช้วัสดุชนิดนี้
แนวเสียง อ้างอิง Studio 2SE
เด่นกลางเป็นธรรมชาติ แหลมสะอาด รูปวงดี เบสดี มิติดี ฟังได้บ่อย ไม่บาดหู แหลมกว้างไกล ไม่อัดอั้น และที่สำคัญ สวยมากๆครับ
ให้ 4.5 ดาวเท่ากับ totem ครับ เฉพาะในรุ่น 2SE ถ้า 2 ธรรมดา ให้อยู่ที่ 3.8 ดาวครับ เนื่องจากแหลมไม่กว่าง เบสไม่ลงมาก




proac tablet 50, 50 sig
เป็นลำโพงตัวแรกๆที่ผมได้มาลองหัดเล่นเลยทีเดียว เสียงที่ได้ค่อนข้างคล้ายกับ Monitor ซึ่งเป็นแนวที่ผมชอบ อายุลำโพงตัวนี้ นานพอควรแต่ว่า สภาพลำโพง เนื่องจาก proac เมื่อสมัยแรกๆ ผลิตสินค้าค่อนข้าทนทาน งานฝีมือช่างดี ผิวไม้แท้ เลยค่อนข้างทนทาน
แนวเสียง เน้นเรื่องเสียงกลางได้ดี มิติดี เบสมีพอได้ แหลมดีแต่ไม่กว้าง ใช้ฟัง jazz หรือเพลงร้องดนตรีน้อยชิ้น ให้เสียงได้ดี
ได้ 3.5 ดาว สำหรับลำโพงรุ่นนี้ครับ
ส่วน 50sig ผมให้ 3.8 ดาวครับ




b&w705
และแล้วก็มาถึงลำโพงที่ผมชอบที่สุดคือ B&W สำหรับอนุกรมนี้ แม้จะเป็นอนุกรมที่เขาทำมาเพื่อใช้ดูหนัง แต่ก็อย่าได้ไปดูถูกมันเชียว
อนุกรม 7 เป้นลำโพงที่ออกมาคาบเกียวกันระหว่าง series matrix กับ series nautilus ซึ่งรอยต่อตรงนี้ ถูกเติมเต็มด้วย series CDM และ series 7 ซึ่งทั้ง 2 series นี้ ทาง B&W ก็เริ่มใช้เทคโนโลยี tweeter nautilus เข้ามาแล้ว เพียงแต่ ไม่เอาเข้ามาอย่างเต็มที่เมื่อเทียบกับ series 8
แต่เสียงกลาง ความเป็นธรรมชาติและความเปิดโล่งนั้น ก็ดีมากแล้ว
แนวเสียง มันคือ B&W คงความเป้น B&W อย่างเต้มพิกัด เสียงกลางอิ่มเนียนสะอาด แหลมกว้างไกล ขับง่ายไม่งอแง
ติดนิดเดียวเรื่องเบส ยังไม่ลงลึกเท่าที่ควร มีเพียงเบสแบบประคองให้อิ่ม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกในนักเพราะ b&W ไม่เน้นเบส ยกเว้นเป็นรุ่นใหญ่ๆขึ้นไป จะมีเบสเพิ่มขึ้นตาม step
เสียงแบบนี้ ผมให้ 3.8 ดาวครับ
ราคามือ 2 ประมาณการที่ 35-40,000 แล้วแต่สภาพ



vienna acoustic hydn, bach
รายการนี้ เขียนยากที่สุด มีลับลมคมในมากที่สุด เสียงไม่เหมือนกันเลยหลายคู่ เมื่อจากตัวแทนจำหน่ายรากเก่าทำไว้
แต่ผมขอไม่เข้าไปยุ่งใน detail
ขอวิจารณ์แต่เรื่องเสียง
ในที่นี้ Vienna ที่ขอกล่าวถึง จะเป็นแค่รุ่น Hydn sig ที่ไม่ไช่ biwired
ลำโพง Vienna ผลิตใน Vienna ตามชื่อของมัน เป็นงาน handmade ขั้นเทพ ฝีมือช่าง Vienna ที่ขึ้นชื่อเรื่องของศาสตร์และศิลป์ในการผลิต ที่ละเอียดอ่อนและสวยงาม ความสวยงามนั้น ผมให้สูงกว่า sonus faber ที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้เทคนิคต่อเรื่อของอิตาลี่ที่ต่อเรือเก่งที่สุดในโลก แต่ของ Vienna เป้นความสวยงามตามธรรมชาติของใม้อย่างแท้จริง บ่งบอกถึงความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์และธรรมชาติของไม้โดยแท้ แค่มอง ก็หลงเสียแล้วครับ
เรื่องเสียง โดดเด่นที่สุดคือเสียงกลางอิ่มหนามีมวลขั้นเทพ ออกแนวลำโพงเสียงร้องแบบ Soprano แบบ Tshichin หรือวิทนีย์ ท่านใดที่หลงเสียงนาง เมื่อฟังลำโพงยี่ห้อนี้แล้ว มักดิ้นไม่หลุด หลงหัวปักหัวปำทีเดียวเชียว แต่เรื่องมิติและความกว้างของเสียงพอใช้ ไม่ถึงกับดีมาก ทำให้overall แล้วยังไม่เท่าไรนัก ให้ 3 ดาวครับ
ราคาซื้อขายมือ 2 ประมารการที่ 29-35,000
สำหรับ bach ก็ยกระดับเรื่องเสียงเบสขึ้นมาแต่ว่า โดยรวมก็คงเหมือน hydn ให้ 3.5 ดาวครับ ราคาซื้อขายมือ 2 อยู่ที่ 35-40,000
เสียดายที่ผมไม่ไดเก็บรูป hydnไว้เลย ขอเอารูปของท่านอื่นในเว็บมาเป็นตัวอย่างก่อนนะครับ ส่วน bach ผมมีเก็บไว้
Hydn


Bach



b&w cm1 cm5 cm7
อนุกรม CM ออกมาเพื่อทดแทน อนุกรม 7 ที่ EOL ออกไป ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีมาก
แนวเสียง
เน้นเบสและความมันเป็นหลัก ไม่ค่อยเน้นเสียงกลาง ให้ความสำคัญเรื่อง soundstage และมิติค่อนข้างมาก แต่เสียงแหลมออกมาเป็นลักษณะ ดิจิตอลหน่อยๆ มีความสดคมพุ่งพอสมควร เป็นลำโพงที่ฟังแล้วมัน เสียงเบสสำหรับ CM7 ไม่แพ้ totem เลยครับ มันใช้ได้
เพิ่มเติม อนุกรมนี้ ท่านที่ใช้สาย link ของมันที่เป็นแผ่นสีทองๆ ขอให้ถอดออกไปเลย เนื่องจากฉุดเสียงโดยรวมให้ห่วยลงอย่างเห็นได้ชัด ใช้สายลำโพงอย่างดี ตัดท่อนเล็กมาเสียบลิ๊งค์ จะให้เสียงได้ดีมากกว่าครับ
CM1 2.6 ดาว ราคามือ 2 อยู่ที่ 30-35,000
CM5 2.9 ดาว ราคามือ 2 อยู่ที่ 35-40,000
CM7 3.2 ดาว ราคามือ 2 อยู่ที่ 45-55,000
CM1 CM5 ผมไม่ได้เก็บรูปไว้ มีแต่รูบ CM7 ลงให้ดูครับ



Link เจ้าปัญหา

คงค้างลำโพง คือ monitor gold 1, PSB B25, KEF IQ3, monitor gold 7, monitor gold 700, gold 703, JBL E60, Boston Acoustic VR-M90, จากการพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว คัดออกจากการที่ performance ไม่ถูกใจ
และยังคงค้าง Proac 1SC สืบเนื่องด้วย monitor gold 1 นั้นคงเป้นลำดับสดท้ายแต่ด้วยความที่มันเล็กนั่นเอง เสียงนั้นไม่ได้เล็กไปเลย กับงบประมารที่จ่ายออกไป ผมพึงพอใจกับเสียงในระดับนี้
Proac 1SC ได้ฟังมาหลายครั้ง แต่กลับไม่ประทับใจเท่าไรนัก จึงของดไว้ก่อน
มังกรซ่อนกาย
Comment