บางครั้งวงการเครื่องเสียง เหมือนไสยศาสตร์ว่ามั้ย

[MONOLAB]

ที่บอกว่าไม่่น่าจะมีผล เคยทำแล้วฟังไม่แตกต่างเหรอครับ

ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เท่าไรนักเพราะดูแล้ว
เหมือนกับว่าจับต้องอะไรไม่ค่อยได้ครับ ผมเลยไปให้ ความสำคัญกับ อุปกรณ์ ที่ (Active)
กับของที่เป็นตัวแปลสำคัญของเสียงมากกว่าครับเช่น
การออกแบบวงจร
การเลือกใช้ตัวนำสัญญาณ
การเลือกใช้ชิบ อุปกรณ์
การวิเคราะห์ ทางเดินสัญญาณ เพื่อให้เกิดการสูญเสียที่น้อยที่สุด
คิดง่ายๆถ้ามันแค่เปลี่ยนหัวน็อตหรือกลับฟิวส์ แล้วเสียงดีขึ้นเลย
บริษัทต่างๆคงไม่ต้องไปวิจัย เรื่องเซมิคอนดักเตอร์ ชิบ หรือออกแบบวงจร
ต่างๆหรอกครับแค่ ขายน็อตรุ่นใหม่ๆทุกรุ่น ก็รวยแล้วครับ

ผมเป็นแค่ DIY ธรรมดา ที่ชอบทดลองทำนู่นนี้นั้นเองก็เท่านั้นเองครับ
อะไรที่ลองแล้วมีผลผมก็ลอง อะไรที่ลองไม่มีผลผมก็เลิก

[puitam]

อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะครับ เพราะเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านี่ยังไงก็ต้องใช้การวัด ทดลองและฟัง

ดูการตอบสนองว่าเครื่องเสียงนั้นสามารถในการreproduction ได้ดีแค่ไหน มีการแต่งเติมมากแค่ไหน

เพื่อจูนให้เข้ากับรสนิยมของลูกค้าได้หรือเปล่า เปลี่ยน R เปลี่ยน C ดูว่าได้เสียงอย่างที่ต้องการหรือเปล่า

ซึ่งพวกนี้วัดได้และฟังได้ แล้วก็ปรับแก้กันไป ซึ่งตรงนี่จะได้ผลมากกว่าการเอา

ใยฝ้ายบริสุทธิมาพันตรงจุดต่อของขั้ว RCA

หรือเอาแผ่นอะไรมาแปะๆ ห้อยๆไว้ ซึ่งบางคนก็ฟังออกบางคนก็ฟังไม่ออก

เอาลูกอะไรก็ไม่รู้แพงมากมาห้อยที่ขอบเครื่องบ้าง ขั้วต่อบ้าง

แล้วสิ่งนั้นทำให้โอ้โห๋ จากเสียงที่เคยทึบๆกลับมาโปร่ง ใสกิ้ง นักร้องแทบมานั่งร้องบนตัก

เอาธาตุอะไรๆประหลาดมาใส่ถุงแล้วเอามาวางไว้บนแอมป์ ก็ขายได้แล้ว

แล้วส่วนใหญ่แล้วจะอ้างก็บอกว่าแก้รีโซแนนท์โน่นนี่นั่น ขนาดอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้

แล้วเจ้ารีโซแนนท์นี่มันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอครับ

ถ้างั้นไม่ต้องไปพัฒนาวงจรแล้ว ไปหาอะไรมาแปะมากดทับ ง่ายกว่ากันเยอะเลย

ประเด็นก็คือบางอย่างก็ไสยศาตร์เกิน

ผมไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้เท่าไรนักเพราะดูแล้ว
เหมือนกับว่าจับต้องอะไรไม่ค่อยได้ครับ ผมเลยไปให้ ความสำคัญกับ อุปกรณ์ ที่ (Active)
กับของที่เป็นตัวแปลสำคัญของเสียงมากกว่าครับเช่น
การออกแบบวงจร
การเลือกใช้ตัวนำสัญญาณ
การเลือกใช้ชิบ อุปกรณ์
การวิเคราะห์ ทางเดินสัญญาณ เพื่อให้เกิดการสูญเสียที่น้อยที่สุด
คิดง่ายๆถ้ามันแค่เปลี่ยนหัวน็อตหรือกลับฟิวส์ แล้วเสียงดีขึ้นเลย
บริษัทต่างๆคงไม่ต้องไปวิจัย เรื่องเซมิคอนดักเตอร์ ชิบ หรือออกแบบวงจร
ต่างๆหรอกครับแค่ ขายน็อตรุ่นใหม่ๆทุกรุ่น ก็รวยแล้วครับ

ผมเป็นแค่ DIY ธรรมดา ที่ชอบทดลองทำนู่นนี้นั้นเองก็เท่านั้นเองครับ
อะไรที่ลองแล้วมีผลผมก็ลอง อะไรที่ลองไม่มีผลผมก็เลิก

[piioneer]

อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะครับ เพราะเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านี่ยังไงก็ต้องใช้การวัด ทดลองและฟัง

ดูการตอบสนองว่าเครื่องเสียงนั้นสามารถในการreproduction ได้ดีแค่ไหน มีการแต่งเติมมากแค่ไหน

เพื่อจูนให้เข้ากับรสนิยมของลูกค้าได้หรือเปล่า เปลี่ยน R เปลี่ยน C ดูว่าได้เสียงอย่างที่ต้องการหรือเปล่า

ซึ่งพวกนี้วัดได้และฟังได้ แล้วก็ปรับแก้กันไป ซึ่งตรงนี่จะได้ผลมากกว่าการเอา

ใยฝ้ายบริสุทธิมาพันตรงจุดต่อของขั้ว RCA

หรือเอาแผ่นอะไรมาแปะๆ ห้อยๆไว้ ซึ่งบางคนก็ฟังออกบางคนก็ฟังไม่ออก

เอาลูกอะไรก็ไม่รู้แพงมากมาห้อยที่ขอบเครื่องบ้าง ขั้วต่อบ้าง

แล้วสิ่งนั้นทำให้โอ้โห๋ จากเสียงที่เคยทึบๆกลับมาโปร่ง ใสกิ้ง นักร้องแทบมานั่งร้องบนตัก

เอาธาตุอะไรๆประหลาดมาใส่ถุงแล้วเอามาวางไว้บนแอมป์ ก็ขายได้แล้ว

แล้วส่วนใหญ่แล้วจะอ้างก็บอกว่าแก้รีโซแนนท์โน่นนี่นั่น ขนาดอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้

แล้วเจ้ารีโซแนนท์นี่มันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอครับ

ถ้างั้นไม่ต้องไปพัฒนาวงจรแล้ว ไปหาอะไรมาแปะมากดทับ ง่ายกว่ากันเยอะเลย

ประเด็นก็คือบางอย่างก็ไสยศาตร์เกิน

ไอ้นี่แหละ ที่ต้องการสื่อ ธาตุประหลาดๆ ยังกับมวลสารทำพระเลย มีปลุกเสกด้วยเปล่าไม่รู้

[maxxx77]

อันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยนะครับ เพราะเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้านี่ยังไงก็ต้องใช้การวัด ทดลองและฟัง

ดูการตอบสนองว่าเครื่องเสียงนั้นสามารถในการreproduction ได้ดีแค่ไหน มีการแต่งเติมมากแค่ไหน

เพื่อจูนให้เข้ากับรสนิยมของลูกค้าได้หรือเปล่า เปลี่ยน R เปลี่ยน C ดูว่าได้เสียงอย่างที่ต้องการหรือเปล่า

ซึ่งพวกนี้วัดได้และฟังได้ แล้วก็ปรับแก้กันไป ซึ่งตรงนี่จะได้ผลมากกว่าการเอา

ใยฝ้ายบริสุทธิมาพันตรงจุดต่อของขั้ว RCA

หรือเอาแผ่นอะไรมาแปะๆ ห้อยๆไว้ ซึ่งบางคนก็ฟังออกบางคนก็ฟังไม่ออก

เอาลูกอะไรก็ไม่รู้แพงมากมาห้อยที่ขอบเครื่องบ้าง ขั้วต่อบ้าง

แล้วสิ่งนั้นทำให้โอ้โห๋ จากเสียงที่เคยทึบๆกลับมาโปร่ง ใสกิ้ง นักร้องแทบมานั่งร้องบนตัก

เอาธาตุอะไรๆประหลาดมาใส่ถุงแล้วเอามาวางไว้บนแอมป์ ก็ขายได้แล้ว

แล้วส่วนใหญ่แล้วจะอ้างก็บอกว่าแก้รีโซแนนท์โน่นนี่นั่น ขนาดอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้

แล้วเจ้ารีโซแนนท์นี่มันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยเหรอครับ

ถ้างั้นไม่ต้องไปพัฒนาวงจรแล้ว ไปหาอะไรมาแปะมากดทับ ง่ายกว่ากันเยอะเลย

ประเด็นก็คือบางอย่างก็ไสยศาตร์เกิน

555 ร่ายซะยาว...ท่าทางของจะขึ้น อิอิอิ

เชื่อไม่เชื่อไม่รู้น่ะ... แต่ DAC ของใครไม่รู้ เทิร์นสูงตั้ง 2 ชั้น (ยังกะตึกใบหยก)

ชั้นแรก...รองด้วยไม้จูนเสียง ส่วนชั้นที่ 2 เป็นทิปโทหรือสไปค์ (ของคาดาสมั๊ง) วางเทิร์นบนไม้อีกที

แถมยังวาง 3 จุด ตามหลักไสยศาสตร์เป๊ะ!!!

แหมเสียดายอยากแอบถ่ายมาให้ดูจัง บอกไม่เชื่อๆ แต่ก็ไม่ยั๊กจะเอาอุปกรณ์คุณไสยลงมาสักกะที

เทิร์นไว้นานๆ ระวังของจะเข้าตัวน่ะ อิอิอิ

อดเข้ามาแซวไม่ได้จริงๆ ว่าแล้วไปดีกว่า 555

[maxxx77]

สำหรับอุปกรณ์เครื่องเคียงหลายๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นก้อนอิทธิเจ หรือผลึกแร่ควอทซ์ที่เอาไว้วางทับเครื่อง หรืออะไรต่อมิอะไรนั้น

ถ้าในกลุ่มคนที่เล่นเครื่องเสียงด้วยกัน คงจะเข้าใจแบบผมว่า...อุปกรณ์เครื่องเคียงจำพวกนี้

มันเหมาะสำหรับคนที่ไม่รู้จะเล่นอะไรต่อไปแล้ว ประมาณว่า...อุปกรณ์หลักทุกชิ้นที่ใช้อยู่ มันใกล้ไปถึงจุดที่ตัวเองพึงพอใจ

ไม่ใช่ยังเล่นแบบกะล๊อกก๊อกแก๊ก หรือซื้อมาขายไปแบบพวกเราแล้วไปซื้อมาใช้

เมื่อเขาเหล่านี้พอใจในอุปกรณ์ของตัวเองแล้ว เขาก็เลยไปลงทุนกับอุปกรณ์เครื่องเคียงเหล่านี้ (ซึ่งมันก็ไม่น่าจะผิดอะไร)

ส่วนว่า...เครื่องเคียงเหล่านี้!!! มันจะช่วยทำให้เสียงดีขึ้นมากน้อยขนาดไหนหรือไม่มีเลยนั้น ตรงจุดนี้...ตัวผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน

เพราะตัวผมยังไม่เคยลอง และยังไม่คิดที่จะลองในตอนนี้ (คือ...ถ้ามีเงิน ผมคงเอาเงินไปอัพอุปกรณ์หลักให้ลงตัวก่อนดีกว่า)




จากจุดนี้เอง!!! ผมจึงอยากฝากความคิดเห็นสักนิดว่า...อะไรก็ตามที่ตัวเรายังไม่ได้ลอง จงลอง!!! และอย่าเพิ่งฟันธงอะไรทั้งนั้น

เมื่อได้ลองแล้ว...ถึงค่อยนำข้อมูลที่ได้จากการทดลองมาเล่าสู่กันฟัง ถ้าถึงจุดนี้จริงๆ จะฟันธงหรือฟันทิ้งก็สุดแล้วแต่

สำหรับหลักการทดลองทางวิทยาศาสตร์นั้น

เริ่มต้น...มันก็ต้องเริ่มมาจากการตั้งสมมุติฐาน เช่น...มีผลหรือไม่มีผล (ซึ่งเราก็กำลังพูดถึงกันอยู่)

จากนั้น...ก็ตามมาด้วยการทดลอง ซึ่งอาจจะยืมอุปกรณ์ของคนที่เรารู้จัก หรือไปขอลองตามโชว์รูมที่เขาขาย หรือถ้าใครใจปั้มก็ซื้อมาทดลอง

เมื่อได้ลองแล้ว ก็ค่อยมาพูดถึงผลที่ได้รับ ถ้าหากใครก้าวมาถึงจุดนี้เมื่อไหร่...แล้วดั๊นฟังไม่ออก ก็คงจะไม่มีใครว่าอะไรเราหรอก

ดังนั้น...ใครที่ชอบอ้างเรื่องหลักการทางวิทยาศาสตร์ ผมก็อยากให้ช่วยทำตามหลักการทดลองทางวิทยาศาสตร์ก่อนที่จะฟันธงในเรื่องนั้นๆ ด้วยครับ

เพราะการจะฟันธงอะไรทั้งๆ ที่ตัวเรายังไม่ได้พิสูจน์ มันดูจะไม่ค่อยวิทยาศาสตร์และไม่ยุติธรรมกับคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เขาเชื่อในเรื่องพวกนี้

ถึงแม้ตอนนี้...ผมจะอยู่ในกลุ่มคนที่เล่นเครื่องเสียงคนหนึ่งก็ตาม

แต่ผมก็ขอพูดด้วยความสัตย์จริงว่า...ผมก็ไม่ได้เห็นด้วยในทุกๆ เรื่องที่มีนักเล่นบางท่านมาเล่าสู่กันฟัง (เพราะบางเรื่องก็น่ะ...........)

แต่ถึงกระนั้น...ผมก็เคารพในสิทธิของเขา ในเมื่อเขาได้ยินและเห็นความเปลี่ยนแปลงขนาดนั้น มันก็เป็นสิทธิที่ตัวเขาจะบอกว่ามีผล

ถ้าหากเราไม่เชื่อ ก็รับฟังเฉยๆ หรือถ้ารู้สึกคันปากหรืออยากแสดงความเห็นมากๆ

ก็อาจจะแสดงความเห็นตามหลักการที่เราได้ศึกษาหรือเรียนรู้มา ซึ่งมันก็คงไม่ผิดอะไร

แต่ขอเพียงอย่างเดียวคือ...คนที่ไม่เชื่อ อย่าเพิ่งไปกล่าวหากลุ่มคนที่เชื่อว่า...งมงาย

หรือใช้คำพูดที่ออกไปในทำนองนั้น ทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังไม่เคยได้พิสูจน์หรือคิดที่จะพิสูจน์

เพราะมันจะเป็นคำพูดที่ดูเหมือนจะเป็นการดูถูกภูมิปัญญาของคนอีกกลุ่มหนึ่งโดยที่ตัวเราก็ไม่ได้ตั้งใจ

ที่พูดเนี่ย!!! เพราะผมกลัวมันจะเป็นประเด็นร้อนเหมือนหลายๆ กระทู้ที่ผมเคยผ่านตามา ทั้งจากในเวปของเราและในเวปเพื่อนบ้าน

[ManiacMaew]

ไร้สาระบ้าบอ ตามประสาบ้านคนน้ำท่วมหน่อย
ว่าด้วยเรื่องระบบดิจิตอล ทำไมชิพdacแต่ละตัว มีค่าsnr ,thd ,dynamic rangeไม่เท่ากัน? คำตอบไม่มีมีแต่คำถาม

[tiger X-fi]

เอาไสยศาสตร์มาฝาก
ว่างๆ....เอาเศษเหล็กมาจูนเสียงได้มั๊ยนี่

http://www.youtube.com/watch?v=XiBe377oUNM

[maxxx77]

เอาไสยศาสตร์มาฝาก
ว่างๆ....เอาเศษเหล็กมาจูนเสียงได้มั๊ยนี่

http://www.youtube.com/watch?v=XiBe377oUNM

อร๊ายยยย!!! คุณเสือเอาอะไรมาเนี่ย...ไสยเวทมนต์ดำชัดๆ 555

ผมฟังออกน่ะ แต่ท่านอื่นจะฟังออกหรือเปล่าหว่า หุหุหุ

[keang]

เอาไสยศาสตร์มาฝาก
ว่างๆ....เอาเศษเหล็กมาจูนเสียงได้มั๊ยนี่

อร๊ายยยย!!! คุณเสือเอาอะไรมาเนี่ย...ไสยเวทมนต์ดำชัดๆ 555

ผมฟังออกน่ะ แต่ท่านอื่นจะฟังออกหรือเปล่าหว่า หุหุหุ

มีพวกเหรียญพวกโลหะแล้ว แต่ไม่มีเครื่องไม่มีซิสเตมให้ลอง
ฉะนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์ ควรจัดหนักครบชุดทั้งซิสเตมมาประกอบการทดลองโดยด่วน

[ManiacMaew]

อร๊ายยยย!!! คุณเสือเอาอะไรมาเนี่ย...ไสยเวทมนต์ดำชัดๆ 555

ผมฟังออกน่ะ แต่ท่านอื่นจะฟังออกหรือเปล่าหว่า หุหุหุ

ผมว่ามือดำ มากกว่ามนต์ดำน่ะ

[battlecruiser]

เล็บดำ

[puitam]

1318618196.jpg <===Machina dynamica Quantum Temple bell room acoustics device

อันนี้ผมไปเจอใน audiogonมาครับ กำลังbidแข่งกันอยู่ครับ ราคาเต็มก็ $129.00 ประมาณสี่พัน

ของบริษัท Machina Dynamica เป็นอุปกรณ์แบบที่ใช้คู่กับ feng shui space clearing

เข้าใจว่าเป็นอุปกรณ์เคลียรบรรยากาศ [ แบบยันต์โป๊ยข่วยไล่ผี??]

มันมีชื่อว่า The Quantum Temple Bell ระฆังควอนตัมแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์

ซึ่งระฆังตัวนี้ได้รับการโมดิฟายเพิ่มเติม เพื่อให้มีประสิทธิภาพในเรื่อง audioและvideo

และมันก็ยังมีประสิทธิภาพในการประกอบพิธีไล่วิญญานร้ายด้วยเช่นกัน

การใช้ระฆังควอนตัมแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ ใช้ก่อนที่จะเริ่มฟังเพลงหรือดูหนัง

ให้สั่นระฆังควอนตัมแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ ตามจุดที่เป็นพื้นที่มงคลหรือชัยภูมิในห้องหรือในบ้าน

วิธีใช้โดยระเอียดจะส่งให้กับผู้ที่บิดชนะทางe-mail

ระฆังควอนตัมแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ สามารถใช้ได้ที่ห้องฟังเพลงหรือห้องอื่นๆได้เช่นกัน

ทางบริษัท Machina Dynamica เสนอว่าถ้าลูกค้าไม่พอใจก็ขอคืนเงินได้ในสามสิบวัน

http://cgi.audiogon.com/cgi-bin/auc....223&1321873254

[veza]

บางครั้งไสยศาสตร์อาจจะเกิดจากผลประโยชน์ทางธุรกิจก็ได้เหมือนกัน...

เห็นด้วย...

[LoveHifi]

อ่านกระทู้นึงที่นี้ ไหนจะใช้ถ่านตราแมวดำ หรือคว่ำหงายรีโมทเสียงต่างกัน

อันนี้ผมยอมแพ้ครับ -_-' เป็น Music lover ก็พอ ห่ะๆๆ

พี่เคยลองตีลังกากดรีโมทไหม รับรองเสียงต่างกันมันจะอ้วกก่อนจบเพลง 555555

[piioneer]

บางที แค่แคะขี้หูบ้างก็เสียงเปลี่ยนน่ะ