Announcement

Collapse
No announcement yet.

เทคนิคการ Burn สำหรับคนสงสัยจ้า

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • เทคนิคการ Burn สำหรับคนสงสัยจ้า

    การเบิร์นสำคัญไฉน?

    หลายๆคนมักมีคำถามว่าลำโพง หรือเครื่องเสียงทำไมต้องผ่านการเบิร์น? แล้วมันมีดีอย่างไร
    จริงๆก็ต้องง่ายๆครับ ว่าการเบิร์นเหมือนกับการ Warm up ลำโพงเพื่อให้เข้าสู่สภาพที่เรียกว่า
    ฟิต 100% หรือพูดง่ายๆว่า ตอนแรกรับลำโพงมา ลำโพงยังไม่เคยออกกำลัง แล้วจะฟิตได้ยังไง?


    คำถามก็คือ แล้วการเบิร์นนี่มันมีผลทำให้เสียงเปลี่ยนมากเลยไหมครับ?
    อันนี้ก็แล้วแต่ท่าน บางท่านบอกว่าไม่เปลี่ยน บางท่านบอกว่าเปลี่ยน
    แต่สำหรับประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม ผมคิดว่า การเบิร์น ทำให้เสียงดีขึ้นอย่างชัดเจน
    โดยเฉพาะการเบิร์นที่เหมาะสม จะช่วยทำให้ลำโพงท่านดึงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่ครับ

    แต่ต้องบอกก่อนว่ามันไม่ได้หมายความว่า เบิร์นแล้วลำโพงเสียงจะเทพเจ้านะครับ มันแค่ทำให้
    ลำโพงที่เรามีสามารถแสดงศักยภาพตามที่ควรจะเป็นได้เต็มที่ครับ

    มีอยู่ครั้งหนึ่งผมสอยหูฟัง Sennheiser MX 980 มา ตอนแรกเปิดมารีบวิ่งไปให้คุณพ่อผม
    ซึ่งเป็นรักเล่นเสียงตัวยงฟัง คุณพ่อผมก็บอกว่า "เออ เสียงดี" แค่นั้นครับ ผมก็ดีใจเห็นไหมซื้อมาถูกเสียงดี
    หารู้ไหม พ่อผมแกล้งบอกว่ามันดี เพื่อไม่ให้ผมเสียน้ำใจ ผมมาพบทีหลังว่า คุณพ่อผมคิดว่า
    หูฟังบ้าไรวะ ตัวละต้องเกือบหมื่นเสียงห่วยจริงๆ 555 (ซื้อมาได้ไงลูกกรู)

    แต่หลังจากที่ผมผ่านการเบิร์นฟัง อย่างไม่ลดละและเปิดมันทั้งวัน ผมก็กลับนำหูฟัง MX 980 ที่ว่า
    ไปให้เสด็จพ่อฟัง คราวนี้ผมมั่นในเต็มเปี่ยมเปิดเพลง ของ Emi Fujita "Ten million tears" ไป
    ทันที่เสียงกีตาร์ของเธอ กรีดและสั่น พ่อผมถึงกับหันควับ บอกผม เฮ้ย ทำไมเสียงมันดีงี้วะ ไม่เหมือนตอนแรก
    ผมได้แต่ยิ้มในใจ แบบผู้มีชัยเหนือพ่อ และบอกว่า เห็นไหมละ ว่าเบิร์นเสร็จแล้วมันต่าง 5555

    หรือไม่ว่าจะเป็น Focal XS 2.1 ที่ซื้อมาวันแรกเปิดเสียงเรียกว่าช๊อค มันเสียงแห้งและบาดหูงี้
    แต่เมื่อเบิร์นแล้ว ทำไมมันเสียงกลางสูงชัดทุกเม็ด ไม่มีบาด ฟังแล้วลื่น มิติดีจริงๆ เหมือนกับลำโพง
    คนละตัวก็ว่าได้ครับ

    จากที่ผมนั่งเทียนเขียนมา สรุปว่า การเบิร์นให้เสียงที่ดีกว่าเปิดฟังตอนแรกอย่างชัดเจนครับ
    เนื่องจากดอกลำโพงได้ขยับและเข้าสู่สภาวะการใช้งานจริงอย่างที่ควรจะเป็นทำให้เสียงที่ได้
    มีความสมบูรณ์ไม่เหมือนตอนแรก ที่ไม่เคยขยับทำให้การออกท่วงทำนองของเสียงไม่ดีเท่าครับ

    เบิร์นอย่างไรให้ดีละ?

    ผมว่าอันนี้เป็นคำถามแสนโลกแตกจริงๆนะเนี่ย บางคนบอกว่าเบิร์นโดยการเปิดเพลงที่เราฟังธรรมดาไปเรื่อยๆ
    ให้ดอกลำโพงขยับก็พอ บางคนก็บอกใช้แผ่นเบิร์น หรือบางคนบอกไม่ต้องเบิร์นหรอกลำโพงเราเทพอยู่แล้ว
    ซึ่งมันก็เป็นเรื่องน่าเวียนหัวมากมายที่คนเล่นเสียงต้องมางม ว่ามันจะทำอย่างไรให้ดี ฮ่าๆ (แม้แต่ผมก็ปวดหัว555)

    ทีนี้มาพูดถึงหลักการเบิร์น ว่าจริงๆควรจะทำอย่างไร จริงๆหลักการก็ง่ายๆครับ เครื่องเสียงแต่ละตัว
    มันก็ต้องขยับเส้นสายเป็นธรรมดาครับ วิธีขยับมันก็เหมือนออกกำลังกายครับ ต้องออกทุกส่วนครับมันถึงจะ
    ได้ออกกกำลังกายเต็มที่เพื่อให้ร่างกายมันฟิตครับ มันก็เหมือนกับลำโพงครับที่จะต้องออกเสียงให้ครบทุกย่านครับ
    เพราะถ้าลำโพงมันออกเสียงแค่ย่านใดย่านหนึ่งโดยเฉพาะ มันก็จะออกเสียงด้านนั้นเก่งด้านเดียวครับ

    ทีนี้ทำยังไงที่จะให้ออกเสียงได้ครบทุกย่าน
    วิธีหนึ่งก็คือ ให้เปิดเพลงเสียงให้ครบย่านครับ พวกเพลงประเภทนี้ก็มักจะเป็นเพลงเครื่องดนตรีวงใหญ่หรือว่า
    ดนตรีคลาสสิก นั่นและครับ ที่มีเครื่องดนตรีเยอะๆ และสามารถโหมได้ครับ เปิดมันทั้งวันจนคนข้างบ้านด่าว่าไอบ้า
    คลาสสิกรึเปล่านั่นและครับ 555+

    อีกวิธีที่หลายคนทำกัน ก็คือการใช้แผ่นเบิร์น แต่วิธีนี้จะต้องใช้ความรู้ที่มากกว่า จริงอยู่ว่าวิธีจะกวาดเสียงได้ทุกย่าน
    แต่ข้อเสียมันก็คือต้องใช้ความรู็และความเข้าใจสูงครับ เพราะถ้าเปิดไม่ถูกแผ่นมันจะทำให้ลำโพงทำงานหนักและ
    เสียเร็วขึ้นครับ อันนีต้องระวังกันมากทีเดียว

    และวิธีสุดท้าย หรือจะไม่เรียกว่าวิธีก็ได้ก็คือ ไม่ต้องทำไรเลย แค่ฟังไปเรื่อยครับ ไม่รู็จะพูดทำไม 555
    เพียงแต่ใช้แผ่นที่หลากหลายครับ และควรเป็น File Lossless จะดีที่สุดนะครับ

    ระยะเวลาการเบิร์นอันนี้ก็ไม่แน่นอนครับ แล้วแต่เครื่องเสียง บางยี่ห้อ วิธีดูง่ายๆก็คือ
    เปิดไปเรื่อยๆ จนเสียงไม่เปลี่ยนครับ โดยปกติ ลำโพงคอมอย่าง Bose พวกนี้ ผมตีให้ระยะ ราวๆ 200 ชั่วโมง
    ก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว

    วิธีง่ายๆที่จะรู้ว่าเบิร์นเสร็จแล้วก็คือ ครั้งแรกเปิดกล่องลำโพงมาให้ฟังเพลงที่เราชอบและชินเสียงและจำมันไว้เลยครับ
    พอจำเสร็จก็ไปเปิดแผ่น ไว้เลยครับ เปิดไป 5-6 ชั่วโมง หยุด 1 ชั่วโมง พอครบ 10 ชั่วโมงก็มาฟังเพลงที่จำเสียงได้
    ว่าเสียงเปลี่ยนแค่ไหน แล้วทำไปเรื่อยๆ ทุกๆ 10-20 ชั่วโมงจนไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือฟังไม่ออก ก็ทำต่อไปอีกสัก
    พอประมาณนั่นและครับ

    ฟังดูแล้ว จะเล่นเครือ่งเสียงไมมันยากจัง 555 แต่อย่างว่าและครับสอยมาราคาก็แพง ไหนๆก็ไหนๆซื้อมาแล้วทำให้มันดีไปเลยครับ
    เหมือนเราเป็นผู้ชายหล่อจะไปจีบสาวที่หมายปอง มันก็ต้องแต่งผมแต่งตัว ให้มันดูดี มีรถอีกหน่อย 55 โคตรจะไม่เกี่ยว
    เพื่อเพิ่มความมั่นใจแล้วไปหาหล่อนและครับ

    สรุปคือ เบิร์นก็เปิดเสียงให้ครบทุกย่านครับ จนเสียงไม่เปลี่ยนแปลงครับ ง่าย ๆแต่ยิ่งกว่าดูแลแฟน 5555
    ทำยังลำโพงช่วยแก้เหงาได้ 555 เดี๋ยวมาต่อในส่วนของแผ่นให้นะครับ

  • #2
    แนะนำแผ่นเบิร์นครับ

    อัลบั้มแรกที่อยากแนะนำครับ

    Jazz at the pawnshop



    หลายๆท่านอาจจะเคยคุ้นหูค้นตามาบ้าง กับ Jazz at the pawnshop
    ซึ่งอัลบั้มนี้ถือเป็น สุดยอดเพลงjazzคับ เป็น Live นะครับ อัดเสียงกันใน nightclub ฝีม้ายลายมือของนักดนตรีถือว่าทำได้ดีเยี่ยม เป็นแผ่นที่เรียกได้ว่า ถ้าใครอยากให้คนอื่นมองตัวเองว่าเป็นนักฟังประเภท audiophile ก็ต้องหาซื้อติดบ้านไว้(แม้จะฟังไม่ค่อยออกก็ตาม)หล่ะครับ ฮ่าๆๆ

    เป็นแผ่น Jazz ที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลอีกแผ่น ที่ควรมีเก็บไว้เป็นเจ้าของครับ รายละเอียดของดนตรี ทำได้ดีมาก จนนึกว่า บันทึกเสียงกันในสตูดิโอเลยครับ ในการแสดงจะได้ยินทั้งเสียงเพลงและมีเสียงแก้วเหล้าชนกันของคนที่มาเที่ยว เสียงปรบมือ เสียงเครื่องคิดเงิน เหมือนนั่งอยู่ใน pub เลยครับ

    Comment


    • #3
      แผ่นเบิร์นแผ่นที่ 2

      อันนี้เป็นแผ่นคลาสสิกที่ผมชอบมากเลยครับ ชื่อแผ่นก็ยาวมากจนจำไม่ได้ ฮ่าๆ

      แผ่นชื่อ (ไปดูปกเอาเองครับยาวเกิน 555 )



      แผ่นนี้เป็นแผ่นเพลงคลาสสิกที่รวบรวมเพลงคลาสสิกในตำนานไว้อย่างมากมาย
      ผมเชื่อว่าทุกท่านที่เปิดเพลงในแผ่นนี้จะเพลิดเพลินไปกับดนตรีที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ
      มีเสียงเครื่องเสียงเรียกว่าได้เกือบทุกประเภท พร้อมกับการอัดเสียงที่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
      สามารถระบุได้เลยว่าเครื่องดนตรีแต่ละตัวอยู่ตำแหน่งไหน บ้างได้เลยครับ ถือว่าเป็นแผ่น
      ที่เหมาะกับการเบิร์นเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากให้เสียงได้ครบเกือบทุกย่านเลยทีเดียว

      นอกจากนี้ไว้ฟังเพลงแก้เบื่อก็ไม่เสียหลายครับ เพราะเพลงนั้นมีหลายท่วงทำนอง
      ทั้งสนุก และเศร้า ซึ้งคละเคล้ากันไป เรียกว่าสำหรับคอเครื่องเสียง แผ่นนี้ท่าทานพลาด
      เรียกว่ายังมาไม่ถึงเครื่องเสียงที่แท้จริง (โคตรเว่อร์ เลยไอบ้า 55) แต่ผมค่อนข้างคิดว่า
      แผ่นนี้ไม่ได้มีดีแค่เบิร์นแต่นำมาฟังเล่นก็ยังเพราะ พร้อมทดสอบลำโพงเราได้เป็นอย่างดีว่า
      ทำท่วงทำนองเสียงออกมาได้ดีแค่ไหนครับ นำแผ่นนี้เปิดคู่กับ Jazz At the Pawn Shop
      สลับไปเรื่อยๆก็ได้ครับ เหมาะกับการเบิร์นเช่นกัน


      รับประกันว่าแผ่นนี้แจ่มจริงครับ ฟันธง !!!

      Comment


      • #4
        แผ่นเบิร์นแผ่นที่ 3 จ้า

        ผมว่าแผ่นนี้เป็นสุดอมตะ ในเรื่องของเพลง Classic อีกอัน
        มีเพลงคุ้นหูมากมาย และครบในเรื่องย่านเสียงอีกครับ



        Round Up เป็นดนตรีชุดใหญ่ ทีเต็มไปด้วยเพลงแนวคาวบอย ที่ท่านจะต้องเคยได้ยินสักครั้ง
        ในชีวิตอย่างแน่นอนครับ ถือว่าเป็นอีกชุดที่มีเพลงอมตะ ไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
        William Tell Overture หรือ Magnificent Seven ถือว่านอกจากแผ่นเบิร์นที่เยี่ยมแล้ว
        ยังเป็นแผ่นที่ให้ความรู้สึกในการฟังเพลงได้เยี่ยมยอดทีเดียว (หลายๆท่านบอก คนเขียนขี้โม้อีกแล้ว 55+)

        แผ่นนี้แนะนำจริงๆครับ เปิดเบิร์นก็ดีเยี่ยม เปิดฟังก็ยอดคัรบ ฟังแล้วตื่นเต้นเหมือนดูหนังกำลัง
        ฉากพระเอกขี่ม้าจะไปบู๊ผู้ร้ายก็ว่าได้ครับ ลองไปฟังดูครับ แล้วจะพบว่าเมื่อเปิดแผ่นที่ผมแนะนำไป
        จะช่วยทำให้เครื่องเสียงท่านผ่านการเบิร์นที่เยี่ยมยอดก็ว่าได้ครับผม !!

        Comment


        • #5
          ขอบคุณครับ

          Comment


          • #6
            แผ่นเบิร์น แผ่นที่ 4 จ้า

            แผ่นนี้เป็นแผ่นที่ผมไว้เบิร์นโดยเฉพาะเพราะมันโหยหวนเกิน ฮ่าๆ



            สำหรับแผ่นนี้คือ Tan Dun ครับ ชื่อมันก็บอก ว่า The Bitter Love ความรักที่ขมขื่น(แปลซะเว่อร์ทีเดียว)
            แต่สำหรับผมมันขมขื่นจริงๆครับที่้ฟังเสียงเธออย่างโหยหวนเพื่อให้ลำโพงผมเบิร์นให้เสร็จ เหมือนโดนเธอขืนใจทีเดียว
            เสียงมันก็โหยหวน แต่ถ้าท่านใดมีรสนิยมชอบฟังเสียงจีนแนวโหยหวนละก็ เธอจะทำให้คุณต้องตะลึงเพราะฟังแล้ว
            มันก็โหยหวนจริงๆครับ

            แต่อย่าพึ่งรีบปิดแผ่นนี้นะ เพราะแผ่นนี้ คือแผ่นที่ใช้ ในการเบิร์นที่ดีมากๆ แผ่นนึงทีเดียวเพราะให้เสียงสูงที่ลึกยาว
            และเสียงต่ำที่ดังเช่นกัน เพราะฉะนั้นทนเปิดเถอะครับ ยอมให้เธอขืนใจลำโพงคนสักหน่อยครับ แล้วลำโพงคุณจะเหมือน
            คนที่ครั้งแรกก็ต้องมีเขอะเขินกันบ้าง แต่หลังจากโดนขืนใจแล้ว ลีลาท่วงท่าและน้ำเสียงจะดีขึ้นเป็นกองเลยจ้า
            เวร ไม่ได้มาเล่า เซ็ก สตอรี่นะโว้ย 5555 แต่อันนี้พูดจริงๆครับ แผ่นนี้การันตีแผ่นเทพแห่งการเบิร์นจ้า

            Comment


            • #7
              สุดท้ายและครับแผ่นเบิร์นสุดท้ายแล้ว

              อันนี้เป็นแผ่นที่หายากหน่อยครับโชคดีที่ผมซื้อติดไม้ติดมือมาพอดี แผ่นนี้เป็นแผ่นเครื่องดนตรีชุดใหญ่ครับ
              อะไปดูรูปกันเลยครับ



              แผ่นนี้เป็นแผ่นคลาาสิกที่คงไปด้วยย่านเสียงเรียกว่าครบทุกย่านก็ว่าได้ครับ หลายๆเพลงในแผ่นนี้
              คงเป็นที่คุ้นหูอย่างดีครับสำหรับท่านที่ฟังเพลงคลาสสิกบ่อยๆ โดยส่วนตัวผมค่อนข้างชอบแผ่นนี้เพราะเนื่องจาก
              มีย่านเสียงที่สูงสลับย่านต่ำ และมีความดังและเบาสลับอย่างต่อเนื่องทำให้ ลำโพงได้ออกกำลังกายแบบแปลกๆบ้างครับ

              นอกจากนี้เอาไว้เปิดฟังตอนต้องกลางเพลงคลาสสิกก็ได้ดีมากเช่นกันครับ อัดเสียงมาได้ดี แบ่งแยกดนตรีชัดเจน
              ในส่วนแผ่นนี้ผมไม่มีอะไรให้โม้เยอะครับ แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจริงๆ ผมเปิดแผ่นนี้กับ Tan Dun the bitter love
              สลับไปมามากทีเดียวครับ ถือว่าลำโพงได้เบิร์นเยี่ยมเลยครับ

              ลองไปพิจารณากันดูนะครับ ถ้าท่านใดมีข้อมูลอยากมาเติม หรือ ติ ตามสบายเลยนะครับ
              ตัวผมเองก็อยากได้ข้อมูลใหม่ๆเพิ่มกับการเบิร์นครับ ถือว่าเป็นเรื่องที่ถกเถียงมานานแล้ว มาแชร์กันนะครับ

              Comment


              • #8
                Originally posted by TeDDy`BeAR View Post
                ขอบคุณครับ
                ขอบคุณมากเลยครับ

                Comment


                • #9
                  thx

                  bitter love นี้หลอนจริงๆ ทนฟังไม่ค่อยจะได้
                  ส่วนอันอื่นต้องหามาลองมาบ้างแล้ว

                  ส่วนตัวผมใช้ Pure aquaplus legend of acoustic อีกอัลบั้ม เพราะตรงแนวตรงรสนิยมหน่อย เบิร์นไปฟังไปได้
                  ท่านมีแนวนี้แนะนำเพิ่มบ้างมั้ย

                  Comment


                  • #10
                    เดี๋ยวจะหาแผ่นพวกนี้มาลองฟังมั่ง โดยเฉพาะ Tan Dun แบบว่า อยากโดนขืนใจ...

                    Comment


                    • #11
                      ขอบคุณครับ แผ่นแนวขืนใจต้องไปลองหาในเว็ปบิทซะแล้ว ผมไปได้แผ่นเบริน์ที่มีเสียงซ่าๆฯลฯ เห็นว่าแผ่นละหลายพัน คนปล่อยเจ็บใจที่มันแพงเลยเอามาปล่อยซะเลย แต่แผ่นนี้ผมว่าบ้านต้อง***งไกลผู้คนและไม่มีตนอยู่บ้านถึงจะดี

                      Comment


                      • #12
                        ขอบคุณครับ ผมเข้าใจว่า การเบิร์น แค่เสียบปลั๊ค ให้ไฟมันวิ่งแค่นั้น พึ่งกระจ่างวันนี้นี่เอง

                        Comment


                        • #13
                          Originally posted by exker View Post
                          ขอบคุณครับ ผมเข้าใจว่า การเบิร์น แค่เสียบปลั๊ค ให้ไฟมันวิ่งแค่นั้น พึ่งกระจ่างวันนี้นี่เอง
                          ถ้าให้ไฟวิ่งนี่ก็เบิร์นสายครับ ฮ่าๆ แต่ถ้าให้ลำโพงก็เปิดเพลงครบแนวทุกย่านครับ จะได้ให้ลำโพงออกกำลังเต็มที่ครับ

                          Comment


                          • #14
                            สอบถามหน่อยครับ แล้ว ลำโพงที่ไม่ได้ใช้ฟังเพลง เอาใว้ใช้ดูหนัง + เล่นเกมส์

                            จำเป็นต้อง Burn ใหมครับ ถ้า Burn ต้องเบรินยังไงแบบใหนครับ

                            Comment


                            • #15
                              Originally posted by Akabana View Post
                              สอบถามหน่อยครับ แล้ว ลำโพงที่ไม่ได้ใช้ฟังเพลง เอาใว้ใช้ดูหนัง + เล่นเกมส์

                              จำเป็นต้อง Burn ใหมครับ ถ้า Burn ต้องเบรินยังไงแบบใหนครับ
                              ไม่ว่าดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่มเกมส์ ถ้าต้องการให้ลำโพงถ่ายทอดความถี่ออกมาได้ดีขึ้น จำเป็นต้องเบิร์นทั้งนั้นครับผม แต่การดูหนัง + เล่นเกมส์นั้นไม่ต้องการรายละเอียดที่มากเท่าการฟังเพลงเท่านั้นเองครับผม คือคนที่จะเล่นเกมส์เอามันส์ ก็จะสนใจไปที่เสียงเบสมากกว่า แต่หลักการของการเบิร์นก็คือต้องพยายามให้ลำโพงได้มีการถ่ายถอดเสียงออกมาครับ เพราะบางทีอาจจะเกิดจากการประกอบอดกลำโพงที่ไม่ดี ไม่เข้าที่ ซึ่งถ้ายิ่งถ่ายทอดออกมาได้มากความถี่เท่าไหร่ก็จะยิ่งดีเท่านั้นครับผม ดังนั้นแผ่นเบิร์นที่ผมได้โพส รวมถึงหลายๆท่านที่เสนอความเห็นเข้ามาล้านแต่เป็นแผ่นที่มีการบันทึกที่ดี รวมถึงรายละเอียดเยอะกว่าเพลงทั่วไปครับ จึงสามารถใช้ได้ทั้งหมดครับผม เพียงแต่ว่าอาจจะใช้หลายๆ แผ่นเปิดสลับกันไปครับผม ^^" ส่วนวิธีการเหมือนที่ผมโพสไปข้างต้นครับ เปิดไป 5-6 ชม. แล้วหยุด ซัก 1 ชม. ให้มันได้พักครับผม

                              Comment

                              Working...
                              X