Announcement

Collapse
No announcement yet.

ระหว่าง Audiophile หรือ Music lover คุณเป็นอย่างไหนกันแน่???

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #31
    Originally posted by keang View Post
    Audiophile หรือ Music Lover
    ในมุมมองของผมน่ะ มันคือ สิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่ได้เป็นtrademark ไม่ได้มีมาตราฐานใดๆรองรับเลย

    สมัยก่อน - AudiophileจะแปะโฆษณามากับMedia ชุดนี้อัลบั้มนี้ผ่านการบันทึกแบบเอาใจใส่มากกว่าชุดปรกติทั่วไป

    ปัจจุบัน - มันถูกนำมาใช้เป็นวลีสำหรับผลประโยชน์ เป็นวลียกตนข่มท่าน ซะมากกว่า เช่น
    ข้าน่ะพวกฟังเพลงไม่ใช่ฟังเครื่อง, ข้าน่ะเครื่องเจ๋ง
    ต้องฟังคลาสสิค ต้องฟังแจ๊ส ต้องฟังเพลงบรรเลง ต้องฟังเพลงร้องแบบสุดยอดเท่านั้น ถึงจะเป็นAudiophile ถึงจะเป็นHi-End


    Audiophile, Music Lover, เครื่องมูลค่าร้อยล้าน, เครื่องซาวน์อะเบ้าท์, เล่นสดในฮอลล์, เล่นสดริมถนน
    ยังงัยก็ต้องฟังเพลงได้เป็นเพลงได้เหมือนกัน เพราะ ดนตรีมันไม่มีชนชั้น มันไม่เลือกหรอกว่าจะต้องมีเงื่อนไขไรบ้าง


    เนื้อแท้ของดนตรี มันไม่มีตัวแปรใดๆเลยสักนิด
    แต่คนฟัง คนเอาดนตรีไปหาผลประโยชน์ ดันทะลึ่งดันพิเรน พยายามยัดเยียดให้มีตัวแปร, ให้มีเงื่อนไข, ให้มีชนชั้น ซะงั้น
    มุมผมนะครับ
    เรื่องการฟังมันคือประสาทสัมผัส คล้ายๆ กินข้าว ประมาณนั้น บังเอิญมีคนทำของอร่อยขึ้นมา และก็บังเอิญอีก ที่ว่ามีคนชิมแล้วเข้าใจถึงรสชาดได้
    และก็บอกไปว่า รสชาดนี้แหละเป็นรส อุมามิ บางท้องที่ก็เรียกว่า นัววววววว
    แต่ก็คล้ายๆกันนั่นแหละครับ ไม่ว่าจะอุมามิหรือนัว มันก็อร่อยเหมือนกัน เพียงแต่แยกออกด้วยคำพูดและลักษณธของท้องถิ่นนั่นแหละครับ
    ตามทฤษฎีของผม
    ไม่ว่า ออกดิโอฟาย หรือมิวสิกเลิฟเวอร์ ต่างก็เพราะด้วยกันทั้งนั้น ไม่ควรเอามากำหนดเป็นชนชั้นแยกประเภท เพราะว่า เอาหมอลำซิ่งมาฟังกับ mark levinson ก็ไม่เพราะ
    เอา Yanni มาฟังกับ NP หรือเครื่องเสียงกลางแจ้ง มันก็คงไม่อิน
    สรุป การปรุงแต่เพื่อให้การฟังเพลงเป็นไปในแนวทางที่เราชอบเป้นเป้าหมายหลัก ส่วนว่าจะเป้นมิวสิคเลิฟเวอรืหรือออดิโอฟาย
    ลืมๆไปบ้างก็ดีนะครับ
    มังกรซ่อนกาย

    Comment


    • #32
      เฮ้อแต่ละท่าน - - ปิดใจไส่กลอนกันจริงๆ

      มุมมองที่แตกต่าง ไม่ไช่เรื่องที่เราจะต้องไม่ยอมรับเสมอไปครับ

      ปัญหาอยู่ที่เราจะมองมันอย่างไรให้มีความสุขมากกว่า

      Comment


      • #33
        Originally posted by XsoeIIsJ View Post
        เฮ้อแต่ละท่าน - - ปิดใจไส่กลอนกันจริงๆ

        มุมมองที่แตกต่าง ไม่ไช่เรื่องที่เราจะต้องไม่ยอมรับเสมอไปครับ

        ปัญหาอยู่ที่เราจะมองมันอย่างไรให้มีความสุขมากกว่า
        ผมว่า เป็นอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะว่า เมื่อยุคโรมัน คนเราก็ถกเถียงกันไปจนทำให้มี ปีทากอรัส กาลิเลโอ อคิมิดิส และอื่นๆ
        สุ จิ ปุ ริ ก็เป็นหัวใจนักปราชญ์ ย่อมทำให้เปิดปัญญา
        ความเชื่อและการกระทำ ย่อมเป้นแสงและเงาของ ทฤษฎีและปฏิบัติ
        มันคงดีกว่าให้เชื่อท่านใดท่านหนึ่งแบบฝังหัว โดยไม่คิดแย้ง
        คงไม่ทำให้เราได้ปัญญา

        ที่ OCZ ไม่เหมือนเว็บเครื่องเสียงแห่งหนึ่ง ที่ชอบผูกขาดเฉพาะกลุ่ม หรือพวกของตน ใครคิดเห็นผิดต่างกันเป้นไม่ยอม
        มองแง่ร้ายไว้ก่อน ใครมาขายของก็มักจะลบกระทู้สมาชิกใหม่ที่เข้ามา
        ไม่ยกยอกลุ่มหลักเขาก็อยู่กับเขาไม่ได้
        ผมว่าแบบนี้ เมืองไทย ถอยหลังเข้าคลองแน่ๆครับ

        น้องๆทั้งหลาย เห้นพี่ๆถกเถียงกันเรื่องความเชื่อและทฤษฎี อย่าได้คิดว่า เราๆ ต่างมีความแค้นซึ่งกันและกันนะครับ
        ต่างความคิด ติเพื่อก่อ ที่ดีๆก็อ่านและเอาไว้เพื่อความเข้าใจนะครับ ที่อื่นๆ ไม่เปิดเผยแบบนี้หรอกครับ มีแต่จะหลอกขายของไปก็เท่านั้น
        รัก OCZ มากครับ

        Comment


        • #34
          ตามหลักการณ์เว็บบอร์ดเสรี ตัวผู้สร้างนี่ต้องมีความเป็นกลางก่อนเลย
          ถ้าโคจ่าฝูงนำทางผิดลงน้ำ ทั้งฝูงก็ลงตามไป
          ระเบิดชุดเลย หรือ หาอุปกรณ์ให้แมทซ์ชิ่งกันที่สุด ปรับแต่งโดยไม่เสียตังค์ก่อน
          คนเล่นระดับ ล่าง กลางๆ ไม่ค่อยมีที่อยู่
          แต่ก็คิดขึ้นมาอีกเหมือนกันนะว่าห้องนี้เมื่อก่อนคง ซาวการ์ด กับ ลำโพงคอมง่ายๆ ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วเนี่ยส์ กลิ่นอายออดิโอไพล์สูง สงสารขาคอมฯเหมือนกัน

          Comment


          • #35
            อีกหน่อยคงมี Audiophile สาย DIY กับ Music Lover สาย DIY

            Comment


            • #36
              วันนี้ไปนั่งฟังญาติผู้ใหญ่คุยเรื่องเครื่องเสียงมา คุยไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร
              อีกคนคุยแอมป์หลอดกะ wilson อีกคนคุยเรื่อง dac กะ b&w
              ต่างคนต่างคุยมั่วไปหมดเถียงกันอยู่สองคน ผมก็นั่งฟังแล้วคิดในใจว่า
              น่าจะชวนมาคุยกันในนี้ดีมั๊ยเนาะ คุยกันอยู่สองคนน่าเบื่อ เข้ามาในนี้มันส์กว่าเยอะ อิ อิ

              Comment


              • #37
                Originally posted by naraklive View Post
                ตามหลักการณ์เว็บบอร์ดเสรี ตัวผู้สร้างนี่ต้องมีความเป็นกลางก่อนเลย
                ถ้าโคจ่าฝูงนำทางผิดลงน้ำ ทั้งฝูงก็ลงตามไป
                ระเบิดชุดเลย หรือ หาอุปกรณ์ให้แมทซ์ชิ่งกันที่สุด ปรับแต่งโดยไม่เสียตังค์ก่อน
                คนเล่นระดับ ล่าง กลางๆ ไม่ค่อยมีที่อยู่
                แต่ก็คิดขึ้นมาอีกเหมือนกันนะว่าห้องนี้เมื่อก่อนคง ซาวการ์ด กับ ลำโพงคอมง่ายๆ ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วเนี่ยส์ กลิ่นอายออดิโอไพล์สูง สงสารขาคอมฯเหมือนกัน
                จริงครับพี่น่ารัก แต่สำหรับ OCZ ห้องเราอยู่กันได้ครับ เพราะว่า เป็นสังคมแห่งการแบ่งปันกันจริงๆ ไม่ไช่ทำตัวจอมปลอมแบบเว็บที่กล่าวไปข้างต้น
                ส่วน system ของพี่น้องกับsound card ผมว่า ในอนาคตต้องมาบรรจบกัน เพราะว่าaudio ในอนาคตคือ digital และเป้นแนวทางของคอมโดยแท้ เพียงแต่กำลังเป็นไปสู่จุดนั้น ต้องใช้เวลาพอควร

                Originally posted by Wizardmans View Post
                อีกหน่อยคงมี Audiophile สาย DIY กับ Music Lover สาย DIY
                ขอเสนอความคิด เป็น DIY Digitalphile กับ DIY Digital Lover.

                Comment


                • #38
                  คือผมฟังเพลงไม่ได้ดูคนอื่นหรอกว่าเค้า แบ่งสายอะไรยังไง และก็ไม่เคยสำรวจตัวเองด้วยว่าอยู่สายไหนยังไง
                  ลงทุนเท่าที่ตัวเองไม่ลำบาก จะได้ฟังเพลงแบบมีความสุข ^^

                  ท่านมังกรพูดก็ถูก DIY ก็มีหลากหลายแนวคิดครับ แต่ละท่านย่อมมีทางที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด
                  ที่สำคัญก็คือการที่ได้รู้ตัวว่า แนวทางที่เลือกนั้นเหมาะกับตัวท่านเองจริงๆ ไม่ได้เกิดจากคนอื่นที่เหมาะกับตัวเขา
                  แล้วเหมาเอาว่าต้องเหมาะกับเราด้วย
                  Last edited by fenderfree; 27 Jul 2011, 17:36:52.

                  Comment


                  • #39
                    เดี๋ยวสักพักอาจจะมี คน DIY CS ให้สามารถใช้หลอดใส่ในCS กันไปเลยนะครับ...

                    Comment


                    • #40
                      มันต่างกันตรงไหน Music Lover Audiophile
                      ถ้าไม่มีใจรักในเสียงดนตรี(Music Lover ) ก็คงไม่มี Audiophile

                      Comment


                      • #41
                        Originally posted by TroRuwA View Post
                        ระดับของการฟังเพลง ???
                        มีด้วยรึ หรือว่าต้องสอบข้ามขั้นด้วย จะได้ไปเกะนินซักที
                        งั้นผมจะเป็น โฮคาเงะ ทั้งๆที่เป็นเกะนิน เนี่ยแหละ (คุ้นๆนะ)

                        เอาส่วนตัวนะครับ ผมว่าอยู่ที่เรา ถ้าใจรักฟังเพลง มันก็ได้หมด ถือว่าฟังเพลงเหมือนกัน

                        Audiophile เน้นเรื่องมิติเสียง ความสมจริงถูกต้องคมชัดทุกย่านความถี่ แล้วแบบนั้นไม่เรียกว่า Music Lover บ้างล่ะ เพราะเน้นการฟังเพลงที่ให้อารมณ์ที่สมจริงเหมือนกัน
                        ถ้า Music Lover ก็คือ ฟังยังไงก็ได้ให้เพลงนี้ เสนาะหูเราที่สุด รักที่จะฟัง มันมีอะไรที่ต่างจาก Audiophile ตรงไหน หรือ บางครั้ง ความสมจริงเกินไปทำให้ อรรถรสหดหาย ??

                        หลอด กับ ทราน ถูกสร้างมาเพื่อการพัฒนา แต่ว่า บางครั้งพวก แผ่นเสียงรุ่นเก่าๆ มันเก็บได้ไม่มาก พอเก็บได้ไม่มาก ถ้ามันรับรายละเอียดได้มากเกินไป อรรถรส มันเลยอาจจะหดหาย(นี่คือความรู้สึกส่วนตัวนะครับ)
                        ในขณะที่ ดนตรีรุ่นไหม่ๆ ที่พัฒนาไปเรื่อยๆ แล้ว รายละเอียดเสียงอาจจะมากขึ้น ถ้าเอามาฟังด้วยเครื่องรุ่นเก่าหรือ แบบเก่า มันอาจจะทำให้ อรรถรส หายไปเหมือนกันอีก

                        ถ้ารักที่จะฟัง ยังไงก็คือดนตรีครับ ไม่มีคำว่าผิดหรือถูกหรอก ไม่มีการแยกชั้นหรอกครับ

                        คนที่แยกชั้นนั่นแหละคือคนที่บอกตัวตนของตัวเองไม่ใช่พวกรักการฟังเพลงอย่างแท้จริง

                        ถ้ารักที่จะฟังเพลง จะยังไงก็ฟังได้ ก็จะแยกออกได้ มันต้องหาข้อดีให้ได้ในลักษณะเสียงนั้นๆ แต่หากว่าตอนฟังแล้วจะหาเจอจุดติเมื่อเจอแล้วก็นั่งกลุ้มกับมันแบบนั้นก็ไม่ถูก แต่ต้องเป็น เจอแล้วหาทางแก้ให้มันดีให้ได้ แล้วฟังให้มีความสุข

                        ถ้า Audiophile คือสมจริง แต่ Music Lover คือ ถึงอารมณ์ ผมว่าความสมจริงกับ ถึงอารมณ์ มันก็ไปคู่กันได้อยู่ดี


                        ไม่ต่างจากมอเตอร์ไซค์ ที่บางครั้งผมเองก็ยังคลางแคลงใจ

                        เริ่มต้นนะครับ
                        (นี่คือสิ่งที่ วงการ บิ้กไบค์ทุกวันนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว)

                        "เฮ้ย กูรถ บิ้ไบค์ล้อโต สุดเท่ห์"
                        "เฮ้ย เมิงมันแค่ ว้าเหว่ รถบ้านสุดเน่า"

                        จากนั้น ทั้งๆที่เป็น บิ้กไบค์ด้วยกัน

                        ทุกวันนี้...

                        "เฮ้ย กูรถไหม่ป้ายแท้"
                        "เฮ้ย เมิงรถเก่าป้ายสวม"

                        "เฮ้ย กูช้อเปอร์คันหลักล้าน"
                        "เฮ้ย เมิงรถบ้านคันแค่หลักหมื่น หรือหลักแสน"

                        "เฮ้ย กูรถยุโรป อิตาลี ราคาเลิศ"
                        "เฮ้ย เมิง รถไอ้ยุ่น ราคาแค่ไม่กี่แสน"

                        "เฮ้ย กูรถร้านใหญ่ มีเครดิต"
                        "เฮ้ย เมิงมันรถหิ้วนอกเอามาเอง" (ขนาดรุ่นเดียวกันนะ)

                        "เฮ้ย กูออกศูนย์โรงงานใหญ่"
                        "เฮ้ย เมิงออกร้านจากไหนก็ไม่รู้" (ขนาดร้านที่ออกมาชื่อเสียงกระฉ่อนก็ไม่เท่ห์เท่า(ทั้งๆที่ รุ่นที่กูออกมาแพงกว่าแรงกว่า สวยกว่า ใหญ่กว่า)

                        ก็มันเล่นแบ่งวงการกันแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่ 2 ล้อมันจะเจริญ
                        มันต่างกันตรงไหน สุดท้ายก็ขี่ไปไหนมาไหนได้เหมือนกัน

                        ถ้าวงการมันเป็นแบบนี้ ถ้า เกะนิน คือ บิ้กไบค์เกอร์หน้าไหม่ และ โฮคาเงะ คือ บิ้กไบค์เกอร์ ที่มีชื่อเสียง

                        "งั้นชั้นจะเป็น โฮคาเงะให้ได้ ทั้งๆที่เป็นเกะนิน เนี่ยแหละ"

                        Comment


                        • #42
                          ทุกวงการนี่มีหมดเลยเนอะ ผมเคยเห็นพระเครื่อง รุ่นเดียวกัน พิมพ์เดียวกัน ที่สวยระดับประกวดราคาเป็นล้าน แต่ถ้าไม่ค่อยชัดลานเลือน ก็ราคาไม่กี่หมื่น
                          ที่จริงก็อันเดียวกันพุทธคุณก็เท่ากัน

                          เรื่องรถนี่ก็คือพาหนะนั่นเอง ขับเฟอร์ราลี่ หรือ นั่งมอไซด์ ก็ถึงเหมือนกัน แถมมอเตอร์ไซด์ยังถึงเร็วกว่าอีกในกทม.

                          เพลงที่ฟังตอนวัยรุ่นนี่แหล่ะสุดยอดแล้ว สะใจสุดๆ ไม่ต้องสนใจอะไร รายละเอียดไม่มาก ได้ใช้จินตนาการเต็มๆ ลองไปหากลับมาฟังดู เหมือนถอดหมด กับ วับๆแวมๆ อันไหนลุ้นกว่า อิอิ

                          นอกจากจะคุยถึงเรื่องฟังแบบไหนแล้วเนี่ย คน"ไม่ฟังเพลง" ก็มีเยอะมากเหมือนกัน ดีที่เราฟังได้ ฟังแบบไหนก็ฟังไปเหอะ
                          คนเล่นเครื่องก็เป็นชนกลุ่มน้อยในกลุ่มคนฟังเพลง คือคนฟังเพลงส่วนใหญ่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยใส่ใจ ใช้อะไรก็ได้
                          การเลิกเล่นเครื่องเสียง ก็มีความเป็นไปได้อยู่ เพราะคิดว่าทุกสิ่งควรจะเลิกได้(ไม่ติด)
                          ปรกติก็ฟังเฉยๆไม่ได้สนใจอะไรมากเน้นเพลง แต่เคยได้ยินเรื่องคนเล่นเครื่องเสียง หูทอง หรือ ออดิโอไพล์ เลยต้องเข้ามาดูซักหน่อยว่าเขาเป็นยังไงกัน ว่ามัน ตลก เลวร้าย หรือ มีสาระ ยังไง ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเอง
                          และได้พบว่าในวงการหลายคนเหนื่อยและไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีต้องค้นหาอยู่ตลอด แต่คนนอกวงการกลับมีความสุขกับสิ่งที่ตนมีแม้เป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อย

                          Comment


                          • #43
                            Originally posted by naraklive View Post
                            และได้พบว่าในวงการหลายคนเหนื่อยและไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีต้องค้นหาอยู่ตลอด แต่คนนอกวงการกลับมีความสุขกับสิ่งที่ตนมีแม้เป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อย
                            ชีวิตผมคิอการเรียนรู้..และการค้นหา
                            คำว่า พอ เป็นอะไรที่ไม่มี ในปุถุชน
                            (ปุถุ= หนา - ชน= หมู่คน หมาย หมู่คนที่มีกิเลสหนา คนธรรมดา)
                            และทุกคนก็พอใจกับคำว่า สิ่งที่ดีกว่า
                            ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยสำหรับคำว่า การค้นหาและการเรียนรู้

                            Comment


                            • #44
                              audiophile: ในความคิดผม ฟังเสียงร้องเน้นๆ ฟังเอาบรรยากาศ ขณะทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ฟังก่อนหลับงี้
                              music lover : ในความคิดผม เน้นเสียงเครื่องดนตรี ยิ่งเพราะยิ่งมันส์ ฟังเอาความสนุก เต้นได้ถ้าเผลอ
                              คิดเอาทั้งสองอย่างมารวมกันก็ได้ แต่เน้นเพลงที่ชอบฟังไว้ก่อน ต่อให้เสียงบันทึกมาเทพแค่ไหนหากเพลงที่ผมไม่ชอบ ต่อให้ระบบร้อยล้านก็ไม่ฟังอะนะ -,,-
                              Last edited by lplline; 28 Jul 2011, 11:26:21.

                              Comment


                              • #45
                                นั่งอ่านมาท่านอื่นๆ ก็แสดงความเห็นไปกันหมดแล้ว


                                rock, hip hop, alternative, dance, etc. มันจัดอยู่ใน Audiophile ได้ไหมคับ
                                เพลงเหล่านี้ถ้าผู้ผลิต ใส่ใจในการผลิต (ทุกขั้นตอน) ผมก็จัดว่าเป็น Audiophile ได้ครับ
                                แต่ในความเป็นจริง แนวเพลงเหล่านี้น้อยมากครับที่จะบรรทึกเสียงมาได้ดี (แต่มีนะครับไม่ใช่ไม่มี ที่บรรทึกมาดีมาก)

                                Audiophile ผมว่าคือกลุ่มคนที่ ซีเรียส จริงจัง กับการฟังเพลงแบบสมจริง ไม่ใช่แค่คนฟังนะครับ
                                ต้องเริ่มมาจากนักร้อง ผู้ผลิต ห้องอัด แล้วก็มาถึง คนทำ เครื่อง คนทำลำโพง แล้วก็มาถึงคนฟัง ที่ซีเรียสจริงจังกับการฟังเพลง
                                กลุ่มคนเหล่านี้คือ Audiophile ซึ่งก่อนเค้าจะมาเป็น Audiophile เค้าก็ต้องเป็น Music lover มาก่อนผมแปล Music lover ว่า
                                ผู้รักในเสียงดนตรี แล้วตั้งใจทำสิ่งที่เรียกว่า Audiophile ออกมา

                                ถ้าดนตรีที่เป็นต้นเรื่องของทั้งหมดถูกบรรทึกมาแบบขอไปที ให้ฟังยังไงมันก็ไม่ Audiophile นั่นหละครับ

                                Comment

                                Working...
                                X