อันนี้ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ คือในตอนที่ผมเอา rDACเข้าประจำการใน system หลักของผม
ซึ่งไม่ได้มีอะไรมากเเค่ focal xs ผมว่าเรื่องเสียงที่เเหลมบาดหูนั้นมีบ้างเหมือนกันครับ
เเต่เนี่องจากเป็น dac ที่ให้รายละเอียดเยอะมาก สด จัด จึงทำให้ฟังนานๆอาจล้้าหูได้
ในตอนนั้น dac ตัวนี้ใช้ ชิบของ wolfson 8741 ซึ่งเป็นรุ่น top ของ wolfson ในตอนนั้น
เลยทำให้characterออกมาในเเนวสด จัดตามstyle เครื่องเสียงฝั่งอังกฤษ ที่เน้นรายละเอียดกรุ้งกริ้ง
เเต่พอเผาไปได้ซักระยะนึงความเเปร๊นมันลดลง ผมว่ามันหวานขึ้น

เเต่ถ้าเทียบกับ HRT Music streamer+ซึ่งเป็น dac ฝั่งอเมริกา ข้างในใช้ชิพของ BurrBrown 1792a
จะเห็นความเเตกต่างอย่างชัดเจน ว่าเน้นเสียงเบสมากกว่า เเต่ความสดยังสู้ rDAC [USB 24/96] ไม่ได้
เเต่ตอนนี้ผมถอยเจ้า stello da220 mkII มาประจำการเเทน ความเเตกต่างก็คือเนื้อเสียงร้องหนาขึ้น หวานขึ้นกว่า rDAC
เเต่ความระยิบระยับเป็นประกายมันน้อยกว่า ซึ่งต้องเปลี่ยนต่อเเบบCOAXIAL เเทน USB [USB 24/48]
รายละเอียดถึงค่อยปรากฎขึ้นมา เเต่ความหวานไม่หายไปไหน ยังมีเนื้อเหมือนเดิม
ส่วนที่ว่ามีคนปล่อยเยอะนี่ผมไม่เเน่ใจเเต่อาจเพราะความสดจัดของมัน อาจไม่ถูกหูครับ
เเต่ตอนที่น้องผมไปซื้อที่ Graham hifi ที่ลอนดอน เค้าบอกว่าตัวนี้ขายดีมากหมดไปหลาย lot เเล้ว
อาจเป็นเพราะว่ามันราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี่ Asynchronous USB ที่มีอยู่ใน DAC เเพงๆ
เช่น dSC ,Wavelenght , ayre เท่านั้น เเละเป็นคนละตัวกับAsynchronous USB ของเจ้าอื่นต้องใช้ driver
เช่นพวก m2tech , hrt music streamer รุ่นใหม่ๆ
ตอนนี้ผมเอา rDAC ไปต่อไว้กับnotebook + klipsch ที่ห้องออกกำลัง ก็ให้เสียงที่คึกคักดี ดูหนังก็มันส์ได้
เเถมเสียงมีมิติมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ก็คิดว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบรสนิยมส่วนบุคคลเเละ system ที่ใช้จริงๆครับ
ซึ่งไม่ได้มีอะไรมากเเค่ focal xs ผมว่าเรื่องเสียงที่เเหลมบาดหูนั้นมีบ้างเหมือนกันครับ
เเต่เนี่องจากเป็น dac ที่ให้รายละเอียดเยอะมาก สด จัด จึงทำให้ฟังนานๆอาจล้้าหูได้
ในตอนนั้น dac ตัวนี้ใช้ ชิบของ wolfson 8741 ซึ่งเป็นรุ่น top ของ wolfson ในตอนนั้น
เลยทำให้characterออกมาในเเนวสด จัดตามstyle เครื่องเสียงฝั่งอังกฤษ ที่เน้นรายละเอียดกรุ้งกริ้ง
เเต่พอเผาไปได้ซักระยะนึงความเเปร๊นมันลดลง ผมว่ามันหวานขึ้น

เเต่ถ้าเทียบกับ HRT Music streamer+ซึ่งเป็น dac ฝั่งอเมริกา ข้างในใช้ชิพของ BurrBrown 1792a
จะเห็นความเเตกต่างอย่างชัดเจน ว่าเน้นเสียงเบสมากกว่า เเต่ความสดยังสู้ rDAC [USB 24/96] ไม่ได้
เเต่ตอนนี้ผมถอยเจ้า stello da220 mkII มาประจำการเเทน ความเเตกต่างก็คือเนื้อเสียงร้องหนาขึ้น หวานขึ้นกว่า rDAC
เเต่ความระยิบระยับเป็นประกายมันน้อยกว่า ซึ่งต้องเปลี่ยนต่อเเบบCOAXIAL เเทน USB [USB 24/48]
รายละเอียดถึงค่อยปรากฎขึ้นมา เเต่ความหวานไม่หายไปไหน ยังมีเนื้อเหมือนเดิม
ส่วนที่ว่ามีคนปล่อยเยอะนี่ผมไม่เเน่ใจเเต่อาจเพราะความสดจัดของมัน อาจไม่ถูกหูครับ
เเต่ตอนที่น้องผมไปซื้อที่ Graham hifi ที่ลอนดอน เค้าบอกว่าตัวนี้ขายดีมากหมดไปหลาย lot เเล้ว
อาจเป็นเพราะว่ามันราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเทคโนโลยี่ Asynchronous USB ที่มีอยู่ใน DAC เเพงๆ
เช่น dSC ,Wavelenght , ayre เท่านั้น เเละเป็นคนละตัวกับAsynchronous USB ของเจ้าอื่นต้องใช้ driver
เช่นพวก m2tech , hrt music streamer รุ่นใหม่ๆ
ตอนนี้ผมเอา rDAC ไปต่อไว้กับnotebook + klipsch ที่ห้องออกกำลัง ก็ให้เสียงที่คึกคักดี ดูหนังก็มันส์ได้
เเถมเสียงมีมิติมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ก็คิดว่ามันขึ้นอยู่กับความชอบรสนิยมส่วนบุคคลเเละ system ที่ใช้จริงๆครับ
Comment