เปลี่ยน fuse, สาย AC, สายลำโพง, ปลั๊กผนัง, แล้วเสียงดีขึ้น เรื่องจริงหรือว่าอุปาทาน?

[nine]

อย่าสงสัยนะครับ พัดลมไว้พัดแอมป์คลาสเอ มันร้อนพอควร

เสียงมันไม่ดัง ทำลายบรรยากาศในการฟังเหรอครับ อยากฟังชุดนี้จัง..ศิษย์เก่าMUTเหมือนกันเลย

[JO]

ของอย่างงี้ฟังหูไว้หูเพราะกำไรต่อหน่วยพวกสายหรืออุปกรณ์เสริมมันเยอะ บางร้านอยากขายสายมากกว่าขายเครื่องหรือลำโพงซะอีก ส่วนพวกหนังสือเครื่องเสียงก็ไม่รู้ว่าทุกวันนี้อยู่ได้เพราะการขายหนังสือหรือขายโฆษณา แต่ก็ว่าเค้าไม่ได้เค้าทำธุรกิจก็อยากได้ตังค์ทั้งนั้น ไม่ได้ทำการกุศล บางทีคนซื้อมาแล้วไม่กล้าพูดว่าฟังไม่ออกก็เยอะเพราะกลัวขายต่อไม่ได้

เมื่อก่อนผมก็ซื้อสายเมตรเป็นพันๆ ขั้วต่อกล่องละเป็นพัน ฟังไม่ออกมั่ง ฟังออกมั่งแต่ก็ไม่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน หลังๆเอาแค่พอใช้ได้ไม่ขี้เหร่ก็พอแระปลง

อยากให้เสียงดีๆเอาตังค์ไปลงซีดี แอมป์ ลงลำโพง อะดีชัวร์ๆผมว่า เศษตังค์เหลือๆอยากลองก็ว่ากันไป

[HiddenDragon]

ขอแย้งนิดครับ
เพื่อนรุ่นพี่ผมท่านนึง ใช้ลำโพง Marten รุ่นท๊อบสุด
power amp mark mono
pre jeff criterrion
CD ไม่ใช้ แต่ใช้ transport&Clock&upsampling&DAC ของ dCS
เอาตรงๆ หมดนี่ ซื้อบ้านเดี่ยวได้หลังนึง
แต่ไฟ สายไฟที่แถมมากับเครื่องทั้งหมด บอกตรงๆ ไม่ไ้ดเสียงต่างกับเครื่องที่บ้านผมที่ถุกกว่า 10 เท่า

การที่เราเล่น accessory ไม่ไช่ให้มันดีเท่าเครื่อง และก็ไม่ไช่ไม่เล่นเลย มันต้องเล่นแบบพอดี
มันถึงจะแสดงประสิทธิผลมากที่สุดที่เครื่องไปได้
สูตรผมคือ สายและ accessory 20% ของราคาเครื่องโดยรวม ซึ่งผมก็พอใจกับเสียงที่ได้

บอกตรงๆ ทุกวันนี้ ถ้ายกเอา accessory ทั้งหมดของผมออกไป เสียงที่ได้ของผม จะหายไป 30% โโยประมาณแน่นอนครับท่าน

ลำโพง และ system ทั้งหมด เป็นอาหารหลัก แต่accessory เป็นชูรส ให้อาหารรสชาดเข้าที่ครับ

การโฆษณาและการทำการตลาด ถ้ามันไม่ดีกว่าที่เราเล่นก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่บางรายการอย่างเช่น Purist Audio ซึ่งเขาทำการตลาดแบบ direct sell ซึ่งไม่ค่อยเปิดตัวนัก ไม่มีค่าการตลาดมากนัก แต่นักเล่นโโยส่วนใหญ่ อึ้งกับคุณภาพของสายที่เขาทำ ซึ่งผมเองเคยเทสมาแล้วและก็ อึ้งเช่นกัน ของเขาดีจริงๆ
ถ้าเราลองแล้วไม่ดี ก็ไม่ต้องใช้ อยากรุ้ว่าดีไหม
ยืมสิครับ ผมยินดีให้ยืม สำหรับสมาชิกใน ocz หรืออยากรู้ ก็เอาเครื่องมาบ้านผมก็ได้ ทุกอย่างมีให้ลองครับ ของอย่างนี้ต้องลองเอง แล้วจะรู้
มังกรซ่อนกาย

ของอย่างงี้ฟังหูไว้หูเพราะกำไรต่อหน่วยพวกสายหรืออุปกรณ์เสริมมันเยอะ บางร้านอยากขายสายมากกว่าขายเครื่องหรือลำโพงซะอีก ส่วนพวกหนังสือเครื่องเสียงก็ไม่รู้ว่าทุกวันนี้อยู่ได้เพราะการขายหนังสือหรือขายโฆษณา แต่ก็ว่าเค้าไม่ได้เค้าทำธุรกิจก็อยากได้ตังค์ทั้งนั้น ไม่ได้ทำการกุศล บางทีคนซื้อมาแล้วไม่กล้าพูดว่าฟังไม่ออกก็เยอะเพราะกลัวขายต่อไม่ได้

เมื่อก่อนผมก็ซื้อสายเมตรเป็นพันๆ ขั้วต่อกล่องละเป็นพัน ฟังไม่ออกมั่ง ฟังออกมั่งแต่ก็ไม่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน หลังๆเอาแค่พอใช้ได้ไม่ขี้เหร่ก็พอแระปลง

อยากให้เสียงดีๆเอาตังค์ไปลงซีดี แอมป์ ลงลำโพง อะดีชัวร์ๆผมว่า เศษตังค์เหลือๆอยากลองก็ว่ากันไป

[JO]

ขอแย้งนิดครับ
เพื่อนรุ่นพี่ผมท่านนึง ใช้ลำโพง Marten รุ่นท๊อบสุด
power amp mark mono
pre jeff criterrion
CD ไม่ใช้ แต่ใช้ transport&Clock&upsampling&DAC ของ dCS
เอาตรงๆ หมดนี่ ซื้อบ้านเดี่ยวได้หลังนึง
แต่ไฟ สายไฟที่แถมมากับเครื่องทั้งหมด บอกตรงๆ ไม่ไ้ดเสียงต่างกับเครื่องที่บ้านผมที่ถุกกว่า 10 เท่า

การที่เราเล่น accessory ไม่ไช่ให้มันดีเท่าเครื่อง และก็ไม่ไช่ไม่เล่นเลย มันต้องเล่นแบบพอดี
มันถึงจะแสดงประสิทธิผลมากที่สุดที่เครื่องไปได้
สูตรผมคือ สายและ accessory 20% ของราคาเครื่องโดยรวม ซึ่งผมก็พอใจกับเสียงที่ได้

บอกตรงๆ ทุกวันนี้ ถ้ายกเอา accessory ทั้งหมดของผมออกไป เสียงที่ได้ของผม จะหายไป 30% โโยประมาณแน่นอนครับท่าน

ลำโพง และ system ทั้งหมด เป็นอาหารหลัก แต่accessory เป็นชูรส ให้อาหารรสชาดเข้าที่ครับ

การโฆษณาและการทำการตลาด ถ้ามันไม่ดีกว่าที่เราเล่นก็ไม่ต้องเปลี่ยน แต่บางรายการอย่างเช่น Purist Audio ซึ่งเขาทำการตลาดแบบ direct sell ซึ่งไม่ค่อยเปิดตัวนัก ไม่มีค่าการตลาดมากนัก แต่นักเล่นโโยส่วนใหญ่ อึ้งกับคุณภาพของสายที่เขาทำ ซึ่งผมเองเคยเทสมาแล้วและก็ อึ้งเช่นกัน ของเขาดีจริงๆ
ถ้าเราลองแล้วไม่ดี ก็ไม่ต้องใช้ อยากรุ้ว่าดีไหม
ยืมสิครับ ผมยินดีให้ยืม สำหรับสมาชิกใน ocz หรืออยากรู้ ก็เอาเครื่องมาบ้านผมก็ได้ ทุกอย่างมีให้ลองครับ ของอย่างนี้ต้องลองเอง แล้วจะรู้
มังกรซ่อนกาย

กรณีที่ยกตัวอย่างเครื่องเพื่อนคุณแพงกว่าคุณ 10เท่า แต่ใช้สายไฟแถมเลยได้เสียงเท่ากับคุณ ตีซะว่าสัดส่วน 10 ต่อ 1

ถ้าสมมุติมี 2ชุดเอาแบบมนุษย์เงินเดือนทั่วไปเอื้อมถึง
ชุด1 Marantz SA-7003 + Marantz PM-7003 + MS-Mezzo-2 รวมราคา 55k
ชุด2 Mararnz CD-5003 + Marantz CD-5003 + MS-Aviano-2 รวมราคา 28k
ราคาทั้ง2ชุดหางกันไม่ถึง 2เท่า

ถ้าชุด1ใช้สายทั่วไปที่ได้มาตราฐาน เสียงจะด้อยกว่าชุดที่2ที่ใช้สาย audio grade เหรอครับ

[xexalskyline]

ปลั๊กไม่เคยเปลี่ยน

แต่สายลำโพงชัดเจนครับ ถ้าอยากรู้ว่ายังไงก็ลองดู

ย่านที่ฟังง่ายสุดคือเบสนี่ล่ะ มันจะชัดเลย

สายสัญญาณ ที่ไม่ใช่ดิจิตอล เครื่องเสียงที่ใช้สายแบบanalog สายที่คุณภาพดีกว่าย่อมนำไฟฟ้าได้ดีกว่าครับ

ของพวกนี้วัดเป็นตัวเลขได้น่ะ เอามิเตอร์มาจิ้มวัดค่าความต้านทานได้เลย

พวกสายไฟ ยกตัวอย่าง กีตาร์กับเบสไฟฟ้า ถ้าเดินสายด้วยสายที่เป็นทองแดงชุบเงิน เสียงจะไปไว จากที่เคยต่ำๆทู่ๆจะแหลมปี๊ดไปเลย อันนี้ฟังออกได้ชัดเจนนะ

[HiddenDragon]

ส่วนของการเลปี่ยนแปลงแบบชุดของที่พี่ยกตัวอย่างมานี่ อาจต้องกำหนดให้นิดนึงด้วยครับว่าต้องการอะไรให้ดีขึ้น

ถ้าต้องการ power ฟิวส์ สายไฟ มีผลมาก
ต้องการความสงัด สายสัญญานมีผลมาก
มิติ soundstage สายลำโพงมีผลมาก
ถ้าต้องการทั้งหมด ก็ต้องอัพกันทุกอย่าง

ตัวอย่างจริง ผมเคยยกแอมป์ moon I3 ราคา 79000 ชนกับ Marantz PM 15 ราคา 3หมื่นกว่า
โดย moon ไม่ได้อัพอะไรเลย
ส่วน marantz เปลี่ยนฟิวข้างในไป 4 ตัว Furutech หมด

ฟังแล้วขนลุก ผมชอบ marantz มากกว่า แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาใส่ฟิวส์ไว้ ซึ่งตอนฟัง ไม่ได้รู้เลยว่าเปลี่ยนฟิวมา คิดในใจ โอ มาร้าน เสียงดีอย่างนี้เลยหรือ "- -

ตั้งแต่นั้น ผมก็เริ่มอัพ accessory

กรณีที่ยกตัวอย่างเครื่องเพื่อนคุณแพงกว่าคุณ 10เท่า แต่ใช้สายไฟแถมเลยได้เสียงเท่ากับคุณ ตีซะว่าสัดส่วน 10 ต่อ 1

ถ้าสมมุติมี 2ชุดเอาแบบมนุษย์เงินเดือนทั่วไปเอื้อมถึง
ชุด1 Marantz SA-7003 + Marantz PM-7003 + MS-Mezzo-2 รวมราคา 55k
ชุด2 Mararnz CD-5003 + Marantz CD-5003 + MS-Aviano-2 รวมราคา 28k
ราคาทั้ง2ชุดหางกันไม่ถึง 2เท่า

ถ้าชุด1ใช้สายทั่วไปที่ได้มาตราฐาน เสียงจะด้อยกว่าชุดที่2ที่ใช้สาย audio grade เหรอครับ

[JO]

ส่วนของการเลปี่ยนแปลงแบบชุดของที่พี่ยกตัวอย่างมานี่ อาจต้องกำหนดให้นิดนึงด้วยครับว่าต้องการอะไรให้ดีขึ้น

ถ้าต้องการ power ฟิวส์ สายไฟ มีผลมาก
ต้องการความสงัด สายสัญญานมีผลมาก
มิติ soundstage สายลำโพงมีผลมาก
ถ้าต้องการทั้งหมด ก็ต้องอัพกันทุกอย่าง

ตัวอย่างจริง ผมเคยยกแอมป์ moon I3 ราคา 79000 ชนกับ Marantz PM 15 ราคา 3หมื่นกว่า
โดย moon ไม่ได้อัพอะไรเลย
ส่วน marantz เปลี่ยนฟิวข้างในไป 4 ตัว Furutech หมด

ฟังแล้วขนลุก ผมชอบ marantz มากกว่า แล้วมารู้ทีหลังว่าเขาใส่ฟิวส์ไว้ ซึ่งตอนฟัง ไม่ได้รู้เลยว่าเปลี่ยนฟิวมา คิดในใจ โอ มาร้าน เสียงดีอย่างนี้เลยหรือ "- -

ตั้งแต่นั้น ผมก็เริ่มอัพ accessory

กรณีที่เป้นคนละยี้ห้อกันแนวเสียงที่แตกต่างอาจจะส่งผลให้มีความรู้สึกว่าชอบหรือไม่ชอบ
ผมเลยเลยยกตัวอย่างเป็นยี้ห้อเดียวกันทั้งลำโพง แอมป ซีดี แต่เป็นรุ่นเล็กรุ่นใหญ่

กรณีในการวัดไม่ได้เน้นที่เสียงด้านไหนดีเป็นพิเศษแต่เป็นการฟังโดยรวมทุกด้าน

กรณีศึกษาที่ 1 งบ 57k
ชุด1 Marantz SA-7003 + Marantz PM-7003 + MS-Mezzo-2 รวมราคา 55k ใช้สายทั่วไปที่ได้มาตราฐานเช่น Canare รวมไม่เกิน 2k
ชุด2 Mararnz CD-5003 + Marantz CD-5003 + MS-Aviano-2 รวมราคา 28k ใช้สาย audiograde ตามงบที่เหลือ 29k
ราคาทั้ง2ชุดหางกันไม่ถึง 2เท่า

กรณีศึกษาที่ 2 งบ 402k
ชุด1 Moon i-3.3 + CD-3.3 + Proac D-18 รวมประมาณ 400k ใช้สายทั่วไปที่ได้มาตราฐานเช่น Canare รวมไม่เกิน 2k
ชุด2 Moon i-.5 + CD-.5 + Proac D-1 รวมประมาณ 200k ใช้สาย audiograde ตามงบที่เหลือ 202k
ราคาทั้ง2ชุดหางกันไม่ถึง 2เท่า


ทั้ง2กรณีศึกษานี้ ชุดที่2ของทั้ง2ชุดจะดีกว่าชุด 1หรือปล่าวครับ

[HiddenDragon]

ดีกว่าในที่นี้ ช่วยนิยามด้วยครับว่าคือ ดี เพราะอะไร
และโจทย์ผมว่าทุกอย่างเหมือนกัน แต่ต่างที่ accessory จะเข้าใจง่ายกว่ามากๆ

ถ้าเป็น
กรณีศึกษาที่ 2 ขอเปลี่นแปลงเล็กน้อย
ชุด1 Moon i-1 + CD-1 + Proac D-1 ไม่ใช้สายอะไรเลยนอกจากสายแถมที่ไม่มีราคาเกิน 2 พัน ชุดนนี้ 2 แสน
ชุด2 Moon i-.5 + CD-.5 + Proac D-1 รวมประมาณ 170K ใช้สาย audiograde ตามงบที่เหลือ สามหมื่น
Fuse Furutech ทั้งชุด สายลำโพง museaus สายสัญญาน vandenhul สายไฟ cardas + vandenhul
ใช้งบทั้งหมดไป 48K เกินไป 18K
ชุดนนี้รวม 218K
คาดว่าจะดีกว่ามากกว่า 30% จากชุดแรก เท่ากับประมาณการ 30% ของ 2 แสน คือ 6 หมื่น
คือ จะคุ้มกว่า 2 แสนอยู่ สี่หมื่นสอง
คิดแบบกำปั้นทุบดินนะครับ
และคาดว่าเมื่อฟังชุด 2 แล้ว จะไม่อยากฟังชุดแรกอีก


เพิ่มเติมกรณี
Krell 400xi ลำโพง cd เหมือนกันหมด เพิ่มสายลำโพง Purist สายไฟ cardas ฟิวส์ท้าย furutech
กับ Krell ลำโพง cd เหมือนกันหมด ไม่ใช้อะไรเลย
อันนี้ต่างแบบ***งกัน 30% ขึ้นแน่นอนครับ

แต่ต่างชุด ต่างลำโพง ผมว่า มันต้องเทสนะครับ ผมเองไม่เคยใช้ marantz ส่วน moon ก็ไม่เชี่ยวชาญนัก เลยไม่รู้จะเทียบยังไง
เพราะตัวแปล ลำโพง สายไฟ สายสัญญาน สายสำโพงและฟิวส์ ก็ไม่ได้สรุปให้เป็นทิศทางใหน ผมว่ายากพอควรครับ
โครงสร้างหลักควรเหมือนกันจึงจะเทียบได้ถูกครับ ถ้าต่างกันมากๆ เทียบยากอยู่ เพราะตัวแปรเยอะมาก

[JO]

ดีกว่าในที่นี้ ช่วยนิยามด้วยครับว่าคือ ดี เพราะอะไร
และโจทย์ผมว่าทุกอย่างเหมือนกัน แต่ต่างที่ accessory จะเข้าใจง่ายกว่ามากๆ

กรณี
Krell 400xi ลำโพง cd เหมือนกันหมด เพิ่มสายลำโพง Purist สายไฟ cardas ฟิวส์ท้าย furutech
กับ Krell ลำโพง cd เหมือนกันหมด ไม่ใช้อะไรเลย
อันนี้ต่างแบบ***งกัน 30% ขึ้นแน่นอนครับ

แต่ต่างชุด ต่างลำโพง ผมว่า มันต้องเทสนะครับ ผมเองไม่เคยใช้ marantz ส่วน moon ก็ไม่เชี่ยวชาญนัก เลยไม่รู้จะเทียบยังไง
เพราะตัวแปล ลำโพง สายไฟ สายสัญญาน สายสำโพงและฟิวส์ ก็ไม่ได้สรุปให้เป็นทิศทางใหน ผมว่ายากพอควรครับ
โครงสร้างหลักควรเหมือนกันจึงจะเทียบได้ถูกครับ ถ้าต่างกันมากๆ เทียบยากอยู่ เพราะตัวแปรเยอะมาก

คำว่าดีสำหรับผม คือ การฟังโดยรวมครับ แหลม กลาง ต่ำ พละกำลัง

ถ้าทุกอย่างเหมือนกันแต่ต่างกันเพิ่มเฉพาะอุปกรณ์เสริมไปความเป็นไปมันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้วละครับ

แต่เรื่องของเรื่องในโพสก่อนหน้านี้ของผมสื่อให้เห็นว่าเอาเงินไปลงกับอุปกรณ์หลักดีกว่าอุปกรณ์เสริมครับ

เพราะโดยส่วนตัวเคยฟังชุดเครื่องเสียงอัดอุปกรณ์เสริมเข้าไปในราคาที่อัพเปลี่ยนรุ่นแอมป์ รุ่นซีดี รุ่นลำโพง ได้ประมาณ 2ซีรี่ในยี้ห้อเดียว มันก็สู้เปลี่ยนชุดหลักไป 2ซีรี่ในยี้ห้อเดียวกันไม่ได้ครับ

เมื่อก่อนผมก็ซื้อสายเมตรเป็นพันๆ ขั้วต่อกล่องละเป็นพัน ฟังไม่ออกมั่ง ฟังออกมั่งแต่ก็ไม่พลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน หลังๆเอาแค่พอใช้ได้ไม่ขี้เหร่ก็พอแระปลง

อยากให้เสียงดีๆเอาตังค์ไปลงซีดี แอมป์ ลงลำโพง อะดีชัวร์ๆผมว่า เศษตังค์เหลือๆอยากลองก็ว่ากันไป

[abnormal]

ผมขอออกความเห็นด้วยนะครับ ถ้ผิดพลาดยังไงพี่ๆช่วยบอกด้วยละกัน

ชุดแรก essence stx + moon i1 +Wharfedale Evo2 -20 ใช่สายเดิมๆ ไม่เกิน 2พัน ชุดนี้รวม 90k
ชุดสอง essence stx + moon i.5 + Wharfedale Evo2 -20 รวม 75k ตังที่เหลือ 15k อัพ Fuse 5k +สายสัญญาณ 4k สายลำโพง 6k สายac 2k เกินมา 2พัน รวมทั้งหมด 92k

ชุดที่สองเสียงดีกว่า ครับ เสียงเล็กๆหลุดออกมาชัดขึ้นโดยฟังออกได้ ปกติ moon i1 , i.5 วอลลุ่มต่างกับ 1เสต็บ(ถ้าi1เปิด9โมง i.5เปิด 9.30ประมาณนี้ แต่ i.5 เปิด9โมงก็เต็มห้องละ ) แต่มันกลับได้กำลังเพิ่มขึ้นด้วย ถึงจะไม่มาก ไม่เทียบเท่า i1 แต่กำลังดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัดครับ
ผมทดสอบ กัน3คน พี่ผม ผม เจ้าของหอ ก็ได้ผลตามนี้เลยครับ มีความเห้นเหมือนกัน

[pongmet]

ลำโพงที่ว่าล่องหน ทำไมมาที่บ้านเรามันไม่ล่องหน
เสียงที่ว่าหวานทำไม มาบ้านเรามันแห้ง
รายละเอียดที่เคยได้ยินชัด มาบ้านเรามันหายไป
เบสที่ว่าหนักกระชับ มาบ้านเราทำไมมันบวม

สงสัยต้องไปหา accessory มาแก้สะหน่อย

แต่ผมว่าก่อนจะใช้ accessory ลองดูว่าห้องฟังท่านได้ทำการปรับแต่ง acoustic , early reflection, ระบบไฟฟ้า สายดิน การจัดวางลำโพง แล้วหรือยัง ??

พวก accessory มีผลจริง และเล่นสนุกปรับแต่งเสียงได้มากน้อยแล้วแต่หูแต่ละท่าน มีหลายเส้น หลายชิ้น ยิ่งสนุก แต่ก่อนจะเล่น accessory ขอให้ system ห้องฟัง ลำโพงดีก่อน เมื่อโดยรวมดีแล้วก็มาเล่น สายไฟ สายลำโพง สายสัญญาณ ฟิวส์ อุปกรณ์ทับ อุปกรณ์ลดแรงสั่นสะเทือน นำยาเช็ดทำความสะอาด ทราย ปลักไฟ เพราะความสนุก ตื่นเต้นที่เสียงเปลี่ยนไปจริงเมื่อเปลี่ยน
accessory ลืมตัวอีกที accessory รวมราคาแล้วอ่าวแพงกว่าแอมป์ไปแล้วนิหว่า

แต่เป็นการซื้อความสุข ทดลองอะไรใหม่ๆ ว่ากันไม่ได้ครับ
ถ้าท่านที่เสียเงินซื้ออะไรพวกนี้แล้ว มาบอกเล่าก็อย่าไปหาว่าเค้าบ้าเลยครับ ให้ลองฟังดูเองก่อนเถอะครับ

เสริมนิดครับ marantz pm-15 ใช้อุปกรณ์ รวมไปถึง วงจรเกรดดีไม่แพ้ moon i3 นะผมว่า
จะยกประโยชน์ให้แต่ฟิวส์ 4 ตัวก็ดูเหมือนจะลำเอียงไปนิดนึงครับ

[HiddenDragon]

จริงๆที่จะบอกคือ
การที่เราลงกับอุปกรณ์หลัก เช่น system ทั้งหมดไปแล้ว และหมดงบ หรือมีงบเหลือที่จะอัพไม่เท่าไรแล้ว แต่อยากดีขึ้นอีก
ทางเลือกอีกทางนอกจากอัพเครื่องคือ accessory
ไม่ไช่ accessory เป็นจุดหลักตายตัว เหมือนที่ผมกล่าวข้างต้นคือ
accessory เป็น ชูรส
system เป็นอาหารหลัก
คุณกินชูรสให้อิ่มไม่ได้หรอกครับ

คำว่าดีสำหรับผม คือ การฟังโดยรวมครับ แหลม กลาง ต่ำ พละกำลัง

ถ้าทุกอย่างเหมือนกันแต่ต่างกันเพิ่มเฉพาะอุปกรณ์เสริมไปความเป็นไปมันก็ต้องดีขึ้นอยู่แล้วละครับ

แต่เรื่องของเรื่องในโพสก่อนหน้านี้ของผมสื่อให้เห็นว่าเอาเงินไปลงกับอุปกรณ์หลักดีกว่าอุปกรณ์เสริมครับ

เพราะโดยส่วนตัวเคยฟังชุดเครื่องเสียงอัดอุปกรณ์เสริมเข้าไปในราคาที่อัพเปลี่ยนรุ่นแอมป์ รุ่นซีดี รุ่นลำโพง ได้ประมาณ 2ซีรี่ในยี้ห้อเดียว มันก็สู้เปลี่ยนชุดหลักไป 2ซีรี่ในยี้ห้อเดียวกันไม่ได้ครับ

[HiddenDragon]

เรียนพี่ pongmet ครับ
คือผมขาย moon ให้แกไปแล้วแกเลยจะขาย marantz
คือพอฟังเสียงเท่ากันแล้ว ผมก็ขนลุกแล้วครับ เพราะเคยฟังมาแล้วแต่ไม่เท่ากันแน่ๆ marantz แห้งกว่าอย่างเก็นได้ชัด
แต่นี่ วิ่งมาหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว แถม marantz มีความฉ่ำและพละกำลังดีกว่า
ผมงี้เหงื่อแตกเลย เพราะว่า เกิดมาไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ตอนนั้นประสบการณ์ยังน้อย
พอเทสเสร็จแกก็เอา แล้วแกก็ไปเปิดฝาเครื่อง บอกว่ามีฟิวส์อยู่ 4 ตัว ต้องเอาออกก่อน เพราะว่า จะได้ขาย marantz ออก
เนื่องจากดูแล้ว moon น่าจะอัพไปได้อีกไกลกว่า
ผมก็งงเพราะฟังแล้วเสียงเท่ากัน
พี่เขาเลยแนะนำว่า
ไฟเปรียนเสมือนสายน้ำ ฟิวส์เปรียบเสมือนปากเขื่อน ถ้าฟิวส์ห่วย หรือไม่ดี น้ำมาแม้แรงแค่ไหน ก็ไม่สามารถให้กระแสน้ำที่แรงออกมาจากเขื่อนได้
พอแกเอาออกแล้วก็เอามาฟังกันอีกที ผมถึงเข้าใจ
อืม เสียงมันเทียบกับmoon ไม่ได้เลยจริงๆ เพราะมันแห้งเหมือนเดิม
พี่ท่านนั้นชื่อ mazzobello
แกอยู่ใน taff และ เว็บมาเฟีย ลองถามแกดูก็ได้ครับ
แกเล่นเรื่องaccessory หนักมากๆ เครื่องแกไม่แพง แต่ระบบไฟแกมากกว่าค่าเครื่องเสียอีก

แต่ต่างคนต่างชอบ ผมให้ความสำคัญที่ system 80% accessory 20%
เท่านี้ก็พอแล้วครับ แต่ชูรสก็คือชูรส ไม่ทำให้อิ่มได้ครับ

ลำโพงที่ว่าล่องหน ทำไมมาที่บ้านเรามันไม่ล่องหน
เสียงที่ว่าหวานทำไม มาบ้านเรามันแห้ง
รายละเอียดที่เคยได้ยินชัด มาบ้านเรามันหายไป
เบสที่ว่าหนักกระชับ มาบ้านเราทำไมมันบวม

สงสัยต้องไปหา accessory มาแก้สะหน่อย

แต่ผมว่าก่อนจะใช้ accessory ลองดูว่าห้องฟังท่านได้ทำการปรับแต่ง acoustic , early reflection, ระบบไฟฟ้า สายดิน การจัดวางลำโพง แล้วหรือยัง ??

พวก accessory มีผลจริง และเล่นสนุกปรับแต่งเสียงได้มากน้อยแล้วแต่หูแต่ละท่าน มีหลายเส้น หลายชิ้น ยิ่งสนุก แต่ก่อนจะเล่น accessory ขอให้ system ห้องฟัง ลำโพงดีก่อน เมื่อโดยรวมดีแล้วก็มาเล่น สายไฟ สายลำโพง สายสัญญาณ ฟิวส์ อุปกรณ์ทับ อุปกรณ์ลดแรงสั่นสะเทือน นำยาเช็ดทำความสะอาด ทราย ปลักไฟ เพราะความสนุก ตื่นเต้นที่เสียงเปลี่ยนไปจริงเมื่อเปลี่ยน
accessory ลืมตัวอีกที accessory รวมราคาแล้วอ่าวแพงกว่าแอมป์ไปแล้วนิหว่า

แต่เป็นการซื้อความสุข ทดลองอะไรใหม่ๆ ว่ากันไม่ได้ครับ
ถ้าท่านที่เสียเงินซื้ออะไรพวกนี้แล้ว มาบอกเล่าก็อย่าไปหาว่าเค้าบ้าเลยครับ ให้ลองฟังดูเองก่อนเถอะครับ

เสริมนิดครับ marantz pm-15 ใช้อุปกรณ์ รวมไปถึง วงจรเกรดดีไม่แพ้ moon i3 นะผมว่า
จะยกประโยชน์ให้แต่ฟิวส์ 4 ตัวก็ดูเหมือนจะลำเอียงไปนิดนึงครับ

กดผิด ... -*-

[pongmet]

แต่ต่างคนต่างชอบ ผมให้ความสำคัญที่ system 80% accessory 20%

ผมก็ประมาณนี้เหมือนกัน 80-20 ครับ

ระบบไฟผมว่าสำคัญมากครับ แต่ผมเน้นไปที่ระบบ ground และสั่งเดินสายไฟจาก main หน้าบ้านไปที่ห้องเครื่องเสียงเลยผ่าน breaker แยกต่างหากจากจุดอื่นๆ สาย ground ห้องเครื่องเสียงรวมไปลงจุดเดียว ไม่ได้ใช้เครื่องกรองไฟ

ฟิวส์แพงๆ ยังไม่เคยเล่นเลยครับกลัวมันขาด - -

คุณ hiddendragon อย่าเรียกผมพี่เลยครับ คุณอาจจะเป็นพี่ผมก็ได้ ยังไงก็ยินดีที่ได้คุยกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันครับ