Announcement

Collapse
No announcement yet.

พูดคุย แนะนำ งานเพลงไทย ในอดีตและปัจจุบัน ที่น่าสนใจ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • พูดคุย แนะนำ งานเพลงไทย ในอดีตและปัจจุบัน ที่น่าสนใจ

    กระทู้นี้ผมขออนุญาตตั้งขึ้นเพื่อให้สมาชิกเข้ามาร่วมพูดคุย แนะนำ และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับเพลงไทย ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไมจำกัดแนวเพลง เกี่ยวกับผลงานที่น่าสนใจ หรือเป็นที่ถูกใจของแต่ละคน อยากนำมาบอกต่อ เล่าประสบการณ์ ความประทับใจในตัวงานนั้นๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์แก่ผู้ฟัง ให้ที่มีตัวเลือกในการฟังหลากหลายยิ่งขึ้น และสามารถนำไปต่อยอดได้ และส่วนหนึ่งต้องการอนุรักษ์ผลงานเพลงไทยที่มีคุณภาพให้คงอยู่ไว้ ไม่ให้ถูกกลืนหายไปกับกระแสเพลงต่างประเทศไปเสียหมด หากควรจะฟังควบคู่ไปกับเพลงของต่างชาติไปด้วยในเชิงคู่ขนาน จะได้เห็นข้อเปรียบเทียบจุดเด่น และจุดด้อยต่างๆ นำมาวิพากย์วิจารณ์กัน ช่วยเพิ่มอรรถรสได้อีกโขเลยทีเดียว

    และหากในบอร์ดเรานี้มีกระทู้ดังกล่าว จะเป็นการดีมากเพราะจะได้มีแหล่งข้อมูลเพิ่มอีกนอกจากการไปเสาะหาข้อมูลจากเวปอื่นๆด้วย ช่วยๆกันนำสาระความรู้ที่เป็นประโยชน์มาลง ส่วนเรื่องถูกหรือผิดนั้น เดี๋ยวเราค่อยสังคายนากันไปเรื่อยๆแล้วกันครับ

    ผมจะขอเริ่มก่อนเลยแล้วกันครับ อาจจะไม่เรียงแนวเพลง เอาเท่าที่นึกได้ก่อน และหากมีเวลา จะพยายามมาเพิ่มเติมข้อมูลให้เรื่อยๆครับ ท่านอื่นที่อยากจะลงแนะนำเพลงก็สามารถนำมาลงได้เลยครับ หรือจะเข้ามาพูดคุยเพื่อให้กระทู้คึกคักในเชิงบวกมากขึ้นก็เป็นการดีทั้งสิ้น








    The City Chorus เพื่อชีวิต ชุดที่ 1







    แผ่นนี้โชคดีว่าคุณอาเคยซื้อมาฟังครับ เป็นของ RS ส่วนประวัติคร่าวๆ สามารถอ่านได้จากที่นี่ครับ

    http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%...B8%B1%E0%B8%AA



    จะเป็นเพลงร้องประสานเสียงของกลุ่มนักศึกษาโดยคัฟเวอร์เพลงดังของศิลปินหลายคน ที่มีชื่อมากจะคือชุดสานฝัน1-4 (ขอยืมรูปพี่โอ๋มาลงหน่อยนะครับ)





    โดยผลงานหลังจากนี้จะเป็นการนำเพลงวัยรุ่นและเพลงลูกทุ่งมาร้องใหม่ แต่เสียงรับการตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร

    ในชุดสานฝันนั้นผมเคยมีเทปครบทั้งสี่ชุดและ CD ชุดแรก (ที่แสดงอยุ่ด้านบน) แต่เป็นที่น่าเสียดายเพราะเทปได้หายไปหมดเลย เคยพยายามหาอยู่เหมือนกัน ไปเจอที่ดิโอสยาม แต่สภาพไม่ค่อยดีนัก (แต่ก็อยากได้ CD มากกว่า) ซึ่งผมชอบหมด แต่จะประทับใจชุดแรกเป็นพิเศษเพราะมีเพลงที่ชอบมากที่สุดซึ่งเป็นแทร๊คแรกคือ "คิดถึงบ้าน"





    ด้วยน้ำเสียงของเหล่านักศึกษา ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง มีความสดและใสอยู่ในตัว สามารถถ่ายทอดเพลงนี้ให้กับผู้ฟังอย่างผมซึ่งแม้ส่วนตัวจะอยู่ติดบ้าน แต่เมื่อได้ฟังแล้ว ทำให้เข้าใจหัวอกของผู้ที่จากบ้านมาจากต่างจังหวัด เดินทางสู่กรุงเทพ ได้ในระดับหนึ่ง



    เพลงนี้จะไม่ออกทำนองเศร้า แต่จะเป็นจังหวะฟังสบายๆ จำลองภาพเหมือนเวลาในตอนบ่าย เราเปิดหน้าต่างออกไป มองออกไปนอกหน้าต่างนั่งมองทัศนียภาพภายนอก ตรงข้ามกับแสงอาทิตย์ที่ส่องตัดเข้ามาในห้อง มีลมพัดอ่อนๆลอยมากระทบใบหน้าเรา บรรยากาศที่ผ่อนคลายเช่นนี้ ทำให้ตกอยู่ในภวังค์ชั่วคราว และเกิดการจินตนาการอะไรบางอย่างไปเรื่อยเปื่อย



    เพราะเบื่อจากชีวิตในเมืองกรุง ซึ่งสะท้อนถึงความวุ่นวาย ความรีบเร่ง ตึกรามบ้านช่องที่ใหญ่โตโอ่อ่า ลบเลือน ความเป็นธรรมชาติให้ร่อยหรอลงไปทุกขณะ โดยเฉพาะปฏิสัมพันธ์ที่ดูจะมีช่องว่างระหว่างกัน รู้หน้าไม่รู้ใจ เมื่อหาที่ระบายความอัดอั้นในใจไม่ได้ จึงเกิดความเหงา ความอ้างว้างขึ้น จะด้วยสาเหตุที่เหมือนหรือต่างกันก็ดี แต่พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ

    การหวังที่จะได้กลับมาสู่สถานที่อันเป็นที่รัก ที่ให้ความอบอุ่น ได้พบสิ่งที่เรียกว่า "ครอบครัว"


    กลับคืนสู่สถานที่ที่เป็นที่พักพิง ช่วยให้พวกเขาคลายทุกข์โศกที่ได้ประสบพบเจอมา ให้มีพลังในการดำเนินชีวิตต่อไป

    เพลงนี้ไม่ว่าจะนำกลับมาฟังกี่ครั้งก็ตาม ก็ยังไห้บรรยากาศที่อบอุ่นแก่ผมอยู่เสมอ




    "เก็บตะวัน" เป็นเพลงเด่นในอัลบั้ม (แต่ส่วนตัวจะชอบเพลง คิดถึงบ้าน มากที่สุดครับ) แม้เวอร์ชั่นนี้อาจจะไม่สื่อความหนักแน่นเท่าของต้นฉบับอย่างอิทธิ พลางกูร แต่ถูกชดเชยด้วยเสียงประสานที่คลอไปกับทำนองเพลงที่บรรเลงอย่างนุ่มนวล เป็นการปลอบประโลมให้เรามีพลังในการต่อสู่กับชีวิตอีกครั้งดังเช่นตะวัน


    แม้จะมีอุปสรรคที่เปรียบดังพายุฝน พัดกระหน่ำเข้ามาต่างๆนานา ก่อเกิดเป็นมรสุมในชีวิต บางครั้งก็สามารถให้เราล้มลงได้
    อย่างไม่ทันตั้งตัว


    แต่หากเราตั้งสติ พยายามประคับประคอง ละทิ้งความขมขื่น ความผิดหวัง ลุกขึ้นสู้กับอุปสรรคเหล่านี้ แสงแห่งความหวังจะกลับมาสาดส่อง นำพาเราสู่หนทางที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เป้นการเริ่มต้น
    ทางเดินใหม่ที่สวยงาม

    เสียงกีตาร์โซโลปรากฏทั้งอินโทรและช่วงกลางเพลง ช่วยนำพาอารมณ์ให้ไหลลื่น แทนที่เสียงร้องได้ไปอย่างดี ฟงเวอร์ชั่นนี้ก็จะได้อารมณ์ไปอีกแบบ (ต้นฉบับจะเสมือนผู้คอยให้กำลังใจเป็นชาย แต่เวอร์ชั่นนี้จะเป็นหญิง)




    "ดอกไม้" เพลงนี้ผมชอบมากรองจากเพลง คิดถึงบ้าน เพราะโทนเพลงออกไปคล้ายกับของเรนโบว์ ซึ่งก็เป็นวงที่ผมชอบด้วย เลยไม่มีข้อกังขาที่จะไม่ชอบเพลงนี้ ผมฟังแล้วรู้สึกตื้นตันทุกที


    เนื้อเพลงกล่าวถึงการจุดประกายให้หนุ่มสาวที่มีพลังในตัว มีความฝันเปรียบดังสีขาวบริสุทธิ์ หากเปล่งประกาย ซึ่งเทียบได้กับเหล่านักศึกษา บัดนี้เป็นดอกไม้ ที่พร้อมจะผลิบาน ออกไปสู่โลกภายนอก พวกเขาเหล่านั้นจะเป็นความหวังอันเจิดจรัส เป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะมาทดแทนคลื่นลูกเก่า ดึงศักยภาพของตนเอง ใช้ความรู้ความสามารถที่อุตส่าห์ร้ำเรียนมา นำมาอุทิศตน เพื่อมวลชน นำมาพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนเราให้เจริญยิ่งขึ้น แม้ทางข้างหน้าจะเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่หากยังมีความมุ่งมั่นแลเปี่ยมไปด้วยแรงศรัทธา


    พลังเชิงบวกนี้จะนำพวกเขาก้าวไปข้างหน้า ฟันฝ่าขวากหนามเหล่านั้นไปได้ด้วยดี เฉกดอกไม้บานที่ให้คุณค่า ค่อยๆบานช้า แต่ยั่งยืน เพื่อชาวประชาทั้งปวง


    เพลงนี้ยิ่งได้นักศึกษามาร้อง ทำให้เติมเต็มอารมณ์เพลง และสอดรับกับเนื้อเพลงได้ค่อนข้างสมบูรณ์ เหมาะสำหรับนักศึกษาที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา หรือผู้ที่ผ่านพ้นชีวิตในช่วงวัยนั้นมาแล้ว ก็ทำให้ระลึกถึงอุดมการณ์ที่เคยปฏิญาณไว้แต่ครั้งอดีต ในยามที่ท้อแท้ อาจจะหลุดออกนอกเส้นทางไปบ้าง แต่เพลงนี้อาจจะช่วยดึงพวกเขากลับเข้ามาสู่เส้นทางได้อีกครั้ง และมุ่งมั่นที่จะทำความฝันให้เป็นจริงต่อไป




    เพลงเด่นเพลงอื่นเช่น คิดถึง (Rockchestra) , เดือนเพ็ญ แม้จะให้อารมณ์ไม่เทียบเท่าต้นฉบับ อาจจะด้อยกว่าพอสมควร แต่ก็ฟังแล้วเพลินไปอีกแบบ เอาไว้เวลาที่เบื่อต้นฉบับแล้ว ฟังเวอร์ชั่นพวกนี้ทดแทนได้เหมือนกัน




    อัลบั้มชุดนี้ปั้มว่าออกจำหน่ายช่วย เม.ษ. 2535 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา ที่โยงมาจากรัฐประหารในช่วงปี 2534 และเพียง 1 เดือนเท่านั้น ก็เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ซึ่งเป็นเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดเหตุการณ์หนึ่งที่คนไทยจดจำกันได้เป็นอย่างดี เพื่อแลกกับประชาธิปไตยอันแท้จริง ทำให้มีการนองเลือดเกิดขึ้น และหวังว่ามันจะไม่เกิดอีก แต่แล้วมันกลับเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งถามว่าเป็นความผิดของใคร จะไม่ขอพูดถึงเพราะจะเป็นประเด็น แต่จากประสบการร์อันเลวร้ายที่ผ่านมา อยากให้ฝากไว้เป็นเครื่องเตอนสติคนไทยทุกคน ให้มีความสามัคคี เป็นหัวใจหลัก เราเกิดมาบนแผ่นดินสยาม ขอให้มีความรักในถิ่นฐานบ้านเกิด คอยปกป้อง ดูแล และพัฒนา พร้อมทั้งรักษาความเป็นปึกแผ่นเอาไว้ อย่าให้ใครมาทำลายได้ และขอฝากนิสิตนักศึกษาในปัจจุบัน ให้ใช้อดีตเป็นตัวอย่าง คอยผลักดันความมุ่งมั่นที่จะนำความรู้มาพัฒนาประเทศชาติ ให้เจริญ และดำรงอยู่ด้วยคำว่า สยามเมืองยิ้ม ต่อไป และขอฝากโคลงสี่ที่ผมได้แต่งขึ้นบทนี้ เป็นเครื่องเตือนใจชาวไทยทุกคนด้วยครับ


    ความ...เป็นเอกภาพ ไม่สร่าง ตามกาล

    สา...มารถยืนหยัดอย่าง เที่ยงแท้

    มัค...คะอยู่มิห่ าง จิตแห่ง กลมเกลียว

    คี-...ตธรรมสดับแล้ กึกก้อง ทั่วเฮย
    Last edited by newbie66; 30 Nov 2010, 00:37:56.

  • #2
    วารุณี สุนทรีสวัสดิ์ - BEST OF THE BEST








    ด้วยน้ำเสียงโหยหาในยามเปลี่ยวเศร้าเหงาทรวง ทำให้นักร้องผู้นี้มีเสียงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เคยฝากผลงานกับวงเพรสซิเดนท์โดยเป็นนักร้องคู่ขวัญกับ ตู้ ดิเรก อมาตยกุล (เจ้าของเพลงสาวบางโพธิ์ และฉายา นักเต้นไร้กระดูก เป็น idol ของติ๊ก ชิโร่ที่เรารู้จักกันดี) และเมื่ออกมาทำผลงานเดี่ยวก็เป็นที่รู้จักกันดีจากบทเพลง "กอดฉัน" ทำให้แม้ศิลปินผู้นี้จะหายหน้าหายตาไปจากวงการเพลงไปเป็นเวลานาน (และเพิ่งจะกลับมารวมตัวกับศิลปินอื่นในชื่อ Remember Five) แต่ถึงกระนั้นก็ดี กลุ่มแฟนเพลงบางส่วนก็ยังคงจดจำบทเพลงของเธอผู้นี้ได้อย่างติดตรึงใจ และเมื่อหยิบมาฟังครั้งใด ก็ยังคงถ่ายทอดอารมณ์ด้วยน้ำเสียงแหบเสน่ห์ให้เราเสมือนย้อนวันวานกลับไปสู่ยุคทองของเธอได้อยู่เสมอ



    ผลงานชิ้นนี้จะเป็นตัวรวมเพลงดังของเธอ ไม่ว่าจะเป็น กอดฉัน, เธอจะเลือกใคร, คำเดียว (เป็นสามเพลงที่ผมชอบมาก)















    นอกจากนี้ก็ยังมีเพลง ให้เวลาฉันบ้าง, ใจเฉาเฉา, ไม่ต้องมีเหตุผล, ไอเลิฟยู ที่น่าฟังไม่แพ้กัน โดยอัลบั้มนี้จะมีทั้งหมด 14 เพลงด้วยกัน ผมได้แผ่นนี้มาจากร้าน BKP ที่สะพานเหล็ก มีทั้งเวอร์ชั่น CD เพลง และแบบ VCD Karaoke โดย MV จะเป็นต้นฉบับซึ่งหาดูได้ยากเหมือนกัน และมีอีกตัว ชื่อชุด ถามหา...วารุณี






    ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังมีเหลืออยู่ไหม แต่สำหรับ CD เพลง ทาง OCEANMEDIA ได้นำผลงานนี้มาออกอีกครั้งในชื่อ เพลงดัง...หาฟังยาก11 โดยหาซื้อได้ตามแผง CD ที่จะขายพวกเพลง Spa, เพลงไทยเดิมประยุกต์ (Lotus, คาร์ฟูร์ บางสาขามีจำหน่าย) อันนี้เป็นหน้าปกที่ว่าครับ





    และค่ายนี้ก็ยังออกงานมาอีกตัวครับ ชื่อ ตรงนี้ที่เสน่หา





    น่าเสียดายอยู่อย่างคือ ผลงานที่กล่าวมานั้น เป้นเพียงส่วนหนึ่งของวารุณี ซึ่งแท้จริงแล้ว ยังมีอัลบั้มอื่นๆที่น่าสนใจอีกอยู่หลายชุด โดยตัว CD ต้นฉบับนั้นหายากทีเดียว ทำให้ฟอร์แมตเทปดูจะหาง่ายกว่า (แต่ก็ไม่ง่ายนัก) ข้างล่างนี่เป็นอัลบั้มเต็มของเธอ





    ส่วนเทปนั้น ผมมีอยู่นิดหน่อย แต่จะชอบชุดที่ชื่อ เธอรู้บ้างไหม...ใจฉันจะขาด เป็นพิเศษ





    โดยเพลงเด่นในชุดนี้จะมี ใจจะขาด, อย่าร้องไห้เลย, ให้โอกาสฉันได้ไหม โดยเฉพาะเพลง เธอไม่รู้ใจฉัน ผมชอบมากเป็นพิเศษเพราะเวลาที่ฟัง มันเข้าถึงอารมณ์ผมอย่างตรงใจมาก





    หน้าปกข้างใน สังเกตว่าตำแหน่งกีตาร์ จะมีจิระศักดิ์ ปานพุ่ม ที่หลายคนคงจะรู้จักกันดีมาเล่นให้ด้วย ก็แสดงถึงประสบการณ์ของแมว ที่ได้ร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อมาพอสมควร ก่อนที่ออกผลงานเดี่ยวของตัวเอง และมีเทวัญ ทรัพย์แสนยากร มาเป่าแซกให้ ทำให้เพลงฟังดูรื่นหูขึ้นทีเดียว


    ใครที่ชื่นชอบวารุณีเป็นทุนเดิม หรือสนใจในผลงานของเธอ อยากลองฟังดู ก็ลองไปหามาฟังกันดูครับ หวังว่าคงจะถูกใจใครหลายๆคน
    Last edited by newbie66; 30 Nov 2010, 21:47:35.

    Comment


    • #3
      ของผมส่วนใหญ่จะเป็นแนวร่วมสมัยมากกว่า

      เพื่อนยังแซวว่าเป็นวัยรุ่นหัดฟังเพลงคนแก่ -*- ก็เพลงเก่าๆ มันเพราะกว่าเพลงสมัยนี้นี่หว่า

      จอง rep ใว้เดี๋ยวมาโพส

      Comment


      • #4
        เดี๋ยวเราจะค่อยๆไล่ไปทีละแนวครับ หรือนึกแนวไหนได้ ก็ลงไปก่อนได้เลยครับ

        ป.ล. พอมานั่งนึกวงไทยที่ตัวเองชื่นชอบ เลยได้ประโยชน์โพดผลไปด้วย เพราะยอมรับว่าช่วงนี้ผมก็ไปฟังสากลมากพอควร ทำให้ตอนนี้ ก็เอาเพลงที่ว่ามา กลับนั่งฟังเลย
        Last edited by newbie66; 30 Nov 2010, 21:58:00.

        Comment


        • #5
          ผมอยากจะแนะนำของดีครับ คือ "คุณพระช่วยสำแดงสด 2" ยืมเพื่อนมาดูอากจะบอกว่า นี่คือสุดยอด ของตำนานเพลงไทย ในแง่ของ"งานเสียง"แล้วอาจจะยัง***งไกลของฝรั่ง แต่ถ้าฟังในแง่ของ "ศิลปะ" นี่คือสุดยอดของ ความเป็นดนตรี
          ดูแล้วดูอีกหลายรอบไม่มีเบื่อ ผมไม่เคยดูชุดแรก ว่าจะไปหามาดู งานแสดงดีๆแบบนี้หาดูได้ยากผมยังคิดว่า ถ้ามีชุดสาม ผมต้องไปดูให้ได้ ผมอยากให้คนไทยได้ดู แล้วคุณอาจจะพูดว่า "คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก"

          Comment


          • #6
            Originally posted by fenderfree View Post
            ผมอยากจะแนะนำของดีครับ คือ "คุณพระช่วยสำแดงสด 2" ยืมเพื่อนมาดูอากจะบอกว่า นี่คือสุดยอด ของตำนานเพลงไทย ในแง่ของ"งานเสียง"แล้วอาจจะยัง***งไกลของฝรั่ง แต่ถ้าฟังในแง่ของ "ศิลปะ" นี่คือสุดยอดของ ความเป็นดนตรี
            ดูแล้วดูอีกหลายรอบไม่มีเบื่อ ผมไม่เคยดูชุดแรก ว่าจะไปหามาดู งานแสดงดีๆแบบนี้หาดูได้ยากผมยังคิดว่า ถ้ามีชุดสาม ผมต้องไปดูให้ได้ ผมอยากให้คนไทยได้ดู แล้วคุณอาจจะพูดว่า "คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก"
            ยืมแผ่นเพื่อนมาดู อยู่เหมือนกัน ชุดไหนไม่รู้ล่าสุดนี่เอง ฮามากๆตอนตาโย่งร้องเพลงฉ่อย
            กับตอนบีีเลงเพลงที่ใช้เสียงคนผสานอย่างเดียวน่ะ เขาเรียกว่าอะไรหว่าา

            Comment


            • #7
              ใช่ครับ แล้วตอนคนตาบอดมาร้องเพลง กับคนหูหนวกมาเล่นเปียโน ผมดูไปน้ำตาไหลเลย

              Comment


              • #8
                ขอเอางานที่เคยเขียนแล้วนิดหน่อย มารวบรวมลงไว้ในนี้ด้วยครับ

                Wonderful Thai Jazz



                มีคนเคยริวิวงานชุดนี้มาบ้างแล้ว อ่านได้ที่ http://dekdontrithai.spaces.live.com...y?sa=269757640


                เมื่อก่อนผมเคยซื้อแผ่น mp3 รวมงานเพลงไทยประยุกต์ ซึ่งก็มีอัลบั้มนี้รวมอยู่ด้วย ในตอนนั้นฟังแล้วฏ้ไมได้ใส่ใจมาก คงเพราะการ Rip เพลงมาที่เสียงค่อนข้างจมมาก เลยไม่ชวนให้ฟังสักเท่าไหร่ ประกอบกับไม่มีหน้าปกให้ดูด้วย (มีตรงหน้าปกแต่รูปเล็กมากจนมองแทบไม่เห็น) แต่พอวันนึงเดินผ่านร้าน CD และเห็นอัลบั้มชุดนี้เข้าและดูชื่อศิลปิน ก็ชวนให้น่าซื้อขึ้นมาทันที ประกอบกับจ่าหน้าไว้ว่า Audiophile Mastering Edition ก็ยิ่งกระตุ้นความอยากลองขึ้นมาทันใด จึงได้ซื้อมาฟังแล้วพบว่าไม่ผิดหวังครับ ดีกว่าที่เคยฟังเยอะมาก เพลงในอัลบั้มีน้จะเป็นเพลงไทยเดิมนำมาเล่นในสไตล์ร่วมสมัยหรือที่เรียกว่าไทยประยุกต์ อิงสำเนียงแจ๊สเป็นหลักผสมกับบลูส์และฟังก์อย่างเจือจาง เหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะเริ่มฟังเพลงไทยเดิมซึ่งอาจะจคิดว่าน่าเบื่อ ลองฟังเพลงในสไตล์นี้ก่อน แล้ววท่านอาจจะไปทำการควานหาต้นฉบับมาฟังเองโดยอัตโนมัติก็ได้เพราะแท้จริงแล้วก็อยากให้หลายๆคนลองฟังเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของเราดู แล้วจะพบว่ามีความโดดเด่นไม่แพ้ของต่างชาติเลย แม้จะมีการรับอิทธิพลจากมอญ เขมร ลาว แต่ก็ได้มีการนำมาดัดแปลงให้เข้ากับวัฒนธรรมของไทยได้อย่างดี เหมาะแก่การศึกษาเป็นอย่างยิ่ง (ขนาด Steve Vai, Pat Metheny ยังเคยบอกว่าสนใจดนตรีของไทยและบางเพลงที่พวกเขาแต่งนั้นก็มีติดกลิ่นเพลงไทยมาด้วย)


                อัลบั้มชุดนี้มีศิลปินรับเชิญที่รู้จักกันดีอย่าง อ. ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ปรมาจารย์ขลุ่ยของเมืองไทย และโก้ เศกพล (ขณะนั้นเรียกกันว่า โก้ บอยไทย อยู่) เป็นไลน์อัฟที่ช่วยเสริมส้รางบทเพลงให้น่าฟังชวนติดตามมากขึ้น อัลบั้มชุดนี้ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง หากใครต้องการซื้อลองดูได้ที่ร้าน Cap ซีคอนแสควร์ หรือติดต่อร้านน้องท่าพระจันทร์ได้ครับ


                Track List:

                1.ค้างคาวกินกล้วย
                2.สร้อยสนแดง
                3.ลาวดำเนินทราย
                4.อิเหนาขับไม้
                5.ลาวเสี่ยงเทียน
                6.เขมรไทรโยค
                7.ต้นวรเชษฐ
                8.ลาวดวงเดือน
                9.ลอยกระทง

                Comment


                • #9
                  BORKED
                  ชื่อของปรัชญ์ สุวรรณศร
                  เนื้อหาสะท้อนสังคมอย่าง “อัฐิใครอัฐิมัน” ก็เสียดสีสังคมไทยแบบสนุกๆ

                  BORKED
                  เพชร โอสถานุเคราะห์
                  เพชร โอสถานุเคราะห์ เป็นนักร้อง นักดนตรีชาวไทย มีผลงานที่เป็นที่รู้จักในเพลง เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ) ที่ฟังเมื่อไหร่...ไม่เคยเชย

                  BORKED
                  ดิเรก อมาตยกุล (ชื่อเล่น: ตู้) เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงเมื่อประมาณ พ.ศ. 2525 - 2528 เป็นนักร้องนำวงเพรสซิเด้นท์ และเป็นนักร้องเดี่ยว และร้องเพลงคู่กับ วารุณี สุนทรีสวัสดิ์ มีจุดเด่นที่ลีลาการเต้นประกอบการร้อง จนได้รับฉายาว่า "มนุษย์ไร้กระดูก"

                  BORKED
                  ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ร็อกกระทบไม้

                  Comment


                  • #10
                    กระทู้เริ่มมีหลายคนเข้ามาตอบบ้างแล้ว ดีครับ จะได้แนะนำ แลกเปลี่ยน วงที่ตัวเองชื่นชอบให้กับคนอื่นๆ หรือระลึกความหลังสำหรับศิลปินที่อาจจะลืมไปแล้ว ให้ไปเสาะหาหรือนำกลับมาฟังอีกครั้ง

                    พูดถึงงานแซกโซโฟน เลยขอแนะนำผลงานเหล่านี้ ฝากไว้หน่อยครับ เพราะน่าสนใจมากทีเดียว



                    ยุงยุทธ ผิวสุวรรณ - ฟังสบายสไตล์ยงยุทธ ผิวสุวรรณ







                    ศิลปินท่านนี้ผมเองก็ไม่ค่อยทราบประวัติที่มามากนัก แต่รู้จักการการแนะนำของพี่ชวพันธ์ เลยลองไปตามหางานของเขาดู หากเป็นคนรุ่นก่อนบางท่าน น่าจะรู้จักกันดี เพราะเป็นมือแซกชื่อดังของค่ายนิธิทัศน์ ศิลปินลหายๆคนของค่ายนี้ ก็ได้เขา เป็นคนช่วยอัดเสียงให้ (ค่ายนี้ผมจะชอบเสียงกลอง เพราะฟังแล้วรู้เลยว่ามาจากนิธิทัศน์) ขอยกข้อความบางส่วนจากเวปพันธ์ทิพย์ มาให้อ่านกันครับ




                    ยงยุทธ ผิวสุวรรณ

                    -ถ้ายุคนี้ โก้ เศกพล เป็นมือแซ็กโซโฟนตัวเด่นของแกรมมี่แล้ว อ.หยอย ยงยุทธ ก็คือมือแซ็กโซโฟนตัวเด่นที่สุดตลอดกาลของนิธิทัศน์ ช่วงหลังๆนี้หลายคนไม่ค่อยได้เห็น อ.หยอย อวดเสียงแซ็กฯ เพราะเด็กวัยรุ่นวัยศึกษายุคนี้สนใจพี่โก้มากกว่า แต่ถ้าเป็นเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว หยอยนี่แหละ...ที่เด็กวัยรุ่นวัยศึกษาต่างยอมรับกันมาก



                    อ.หยอยร่วมงานกับนิธิทัศน์มาตั้งแต่อยู่กับวงเพื่อนในยุคหลังๆก่อนจะแตกวง โดยรับหน้าที่แทนพนัส หิรัญกสิ จากนั้นก็ร่วมงานกับนิธิทัศน์มาโดยตลอด และได้ไปร่วมงานในภายนอกด้วย


                    อ.หยอยเป็นมือแซ็กฯที่มีงานชุกที่สุด เคยทำให้กับค่ายอื่นๆมาแล้วก็จริง อย่างเช่นที่เป่าแซ็กฯให้กับ ดร.คิดส์ ในเพลงข่าวร้าย ก็คือฝีเป่าของอ.หยอย ส่วนของนิธิทัศน์ อ.หยอยก็ถูกเชิญอยู่หลายต่อหลายอัลบั้ม นอกจากงานเป่าแซ็กฯ อีกทั้งเครื่องดนตรีชิ้นอื่นๆ ให้กับ อ๊อด โอภาส, นิค นิรนาม และหลายต่อหลายคนจนนับไม่ถ้วนแล้ว ยังได้โปรดิวซ์ให้กับศิลปินต่างๆที่เป็นผลผลิตจากนิธิทัศน์ด้วย ยังไม่พอ... อ.หยอยก็ได้มีโอกาสทำอัลบั้มเดี่ยวให้กับนิธิทัศน์ด้วย เป็นเพลงบรรเลงด้วยแซ็กโซโฟน


                    จนอาจเรียกว่า อ.หยอย คือ ผู้ที่ทำให้นิธิทัศน์มีรสชาติซูเปอร์คลาสสิกยิ่งขึ้น ด้วยเสียง....แซ็กโซโฟนของเขา นั่นเอง"



                    ผมเองก็ไม่ทราบว่าเขามีทำงานเดี่ยวก่อนหน้านั้นหรือไม่ แต่ตัวที่นำมาลงนี้ ก็จะเป็นเพลงบรรเลงล้วนๆ คัฟเวอร์เพลงลูกกรุง เพลงสตริงคอมโบ ชื่อดังในอดีต งานเพลงจะกระเดียดไปทางฟังสบายๆมากว่า ไม่ถึงกับเค้นอารมณ์แบบลงลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ แต่จะเน้นความพลิ้วไหว ความต่อเนื่อง ที่ทำให้ผู้ฟังเพลินไปกับท่วงทำนองร่วมสมัยจนจบอัลบั้มโดยไม่รู้ตัว นั่งจิบกาแฟพร้อมกับเปิดเพลงดังในอดีต คงจะนำความสุขให้แก่คุณอย่างแน่นอน

                    งานชุดนี้จะมีด้วยกันทั้งหมด 8 ชุด โดยจะมีเพลงดังที่เรารู้จักกันหลายเพลง เช่น บ้านเรา นกขมิ้น เซียซีเสี่ยงรัก คอยน้อง รักในซีเมเจอร์ ทะเลไม่เคยหลับ เสน่หา ครวญ ดวงใจ ใครหนอ และอีกมากมาย ซึ่งชุดที่ 8 จะเป็นเพลงสากล้วนๆ อาทิเช่น Can't let go, Can't help falling in love, Say that you love me (ทำนองเดียวกับเพลง กำลังใจ ของหงา คาราวาน), Keep on lovng you (ทำนองเดียวกับเพลง Broken hearted woman ของ Jessica Jay) เป็นต้น ส่วนผมเองเก็บได้เพียง 6 ชุดเท่านั้น เกิดจากความบังเอิญที่ไปได้มาจากเดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งคนขายบอกว่าจะไม่ผลิตเพิ่มแล้ว จริงๆช่วงหลังนี้ CD ของนิธิทัศน์ ก็จะมีวางขายที่ B2S อยู่เกือบทุกสาขา แต่ผมเคยไปดูมาหลายที่ ก็ไม่เจองานของเขาเหมือนกัน อาจจะต้องลองไปหางานมือสองมาสำหรับใครที่อยากลองฟังผลงานของอดีตมือแซกของวงเพื่อนผู้นี้ดู แต่หากใครไปเจองานของเขาโดยบังเอิญ ควรซื้อทันทีโดยไม่ต้องลังเล เมื่อเทียบกับราคาเพียง 79 บาท และความหายาก ประกอบกับคุณภาพงานที่น่าพอใจ คงจะคุ้มค่าทีเดียว








                    เทวัญ ทรัพย์แสนยากร








                    หลายคนคงจะคุ้นเคยกับมือแซกผู้นี้เป็นอย่างดี จะด้วยทรงผม หรือ เพลงค้งคาวกินกล้วย ก็ดี แต่จริงๆแล้ว เขาเป็นอดีตมือแซกให้กับวงฟิวชั่นแจ๊สรุ่นลายครามของไทยนาม Infinity (จะรีวิวให้อ่านกันทีหลัง เพราะวงนี้น่าสนใจมาก) ได้ฝากผลงานดีๆ หลายชุด ก่อนที่จะแยกออกไปเป็นมือปืนรับจ้างให้กับศิลปินหลายๆคน และทำงานเดี่ยวกับวงของเขาชื่อ Taewan Novel Jazz


                    5 ชุดข้างบนในรูป จะเป็นงานคัฟเวอร์เพลงของสุนทราภรณ์ภายใต้สำเนียงร่วมสมัยในแบบของเทวัญ (ซีเอ็ดบางสาขามีจำหน่ายอยู่ ลองดูจาก

                    http://www.se-ed.com/eShop/Products/...=8853568020834

                    หรืออาจจะลองติดต่อโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ เพราะเผื่อว่า ของอาจจะมีสต๊อคไว้ แต่ไม่ได้นำมาลง ถ้าไม่มีจริงๆ ก็อาจจะลองหาแยกอัลบั้มจาก B2S หรือ BKP ได้) ใช้ชื่อว่า More Than Words โดยงานชุดนี้ออกกับค่ายเมโทร ซึ่งเป็นค่ายที่ออกผลงานเพลงของสุนทราภรณ์เสียส่วนใหญ่ และมีงานที่น่าสนใจตัวอื่นอีกหลายตัว ก็การันตีคุณภาพได้ในระดับหนึ่งครับ อ่านรีวิวสั้นๆได้จากที่นี่ครับ

                    http://www.thaipr.net/nc/readnews.as...Ls4cq5wtKhww==


                    นอกจากนี้ งาน 3 ชุดที่เหลือ จะเป็นงานใหม่ของเขา ได้แก่ สมานไทย สองขั้วจั่วแจ๊ส และ It's a possible จะเน้นไปทางเพลงฟิวชั่นแจ๊สติดกลิ่นอายดนตรีไทย ผสมความเป็น Contemporary ได้อย่างลงตัว และสนุกสนาน ตามสไตล์ของเขา B2S boomerang BKP น่าจะยังมีอยู่ แต่ไม่ครบทุกตัว อาจจะต้องแวะเวียนไปหลายสาขาหน่อยครับ ถ้าจะเก็บให้ครบ (B2S ลองไปสาขาใหญ่อย่าง เซนทรัลเวิร์ล หรือ เซนทรัลลาดพร้าวดูครับ) ดูริวิวสั้นๆได้ที่นี่ครับ

                    http://www.komchadluek.net/detail/20...%E0%B8%A2.html


                    งานตัวล่าสุดของเขานี้ ผมก็เพิ่งทราบว่าแกเล่นไวโอลินด้วย และเล่นมานานแล้วควบคู่ไปกับแซก แต่ไม่ได้เล่นอย่างเป็นทางการ มาคราวนี้เลยขอโชว์ความสามารถของเครื่องสายให้เห็นกันบ้าง ซึ่งทำได้ดีทีเดียว หากใครที่ชอบความเป็นไทย แต่ก็อยากได้ความเป็นสากล งานดังกล่าวไม่น่าจะทำให้ผิดหัวงครับ



                    Mark Hodgkins & Friends









                    งานนี้เก็บไว้พูดทีหลังสุด เพราะเป็นตัวที่ชอบที่สุดของผมครับ เรียกว่าไปได้มาโดยบังเอิญอีกเช่นกันจากร้าน GMS ซึ่งปกติผมจะเข้าไปแล้วไม่ค่อยได้ซื้ออะไรเท่าไหร่ เพราะตั้งใจจะไปหางานแปลกๆ แต่พอดีช่วงนั้นกำลังหางานเพลงคัฟเวอร์ของสุนทราภรณ์อยู่พอดี ประกอบกับยังหาที่ถูกใจไม่ได้ และไม่อยากกลับบ้านมือเปล่า เห็น Boxset กล่องสีแดงกับเขียววางอยู่ เลยเสี่ยงซื้อมาดู (ในใจก็กลัวเจ็บตัวเหมือนกัน) และราคาต่อแผ่นแค่ 99 บาท ไม่แพงมาก เลยขอเก็บมาเสียหน่อย แต่ปรากฏว่ามันกลายเป็นงานโปรดของผมไปอย่างไม่คาดฝันเลย


                    เจ้าของผลงานคือ Mark Hodgkins จากค่ายเมโทร เป็นฝรั่งแต่นิยมชมชอบ และหลงใหลในเพลงลูกกรุงของไทย มีประสบการณ์การเล่นมาไม่น้อย (รู้สึกจะเล่นประจำที่โรงแรมในกรุงเทพ แต่ผมจำชื่อไม่ได้) ประกอบกับเดิมเล่นดนตรีในสไตล์แจ๊ส จึงได้นำเพื่อนฝูง รวมเป็นวง Big Band มาออกผลงานเพลงเพลงลูกกรุงเก่าๆและเพลงลูกทุ่งมาบรรเลงในสไตล์ Contem Jazz 3 ชุดด้วยกัน
                    รีวิวอย่างละเอียด อ่านได้จากเวปพี่ชวพันธ์ครับ ส่วนเรื่องฝีมือ ผมการันตีเลยว่าเก่งจริงๆ (คนไทยยังอายเลยครับ)


                    Jazz in The Park (3 CDs Boxset)
                    http://www.baannapleangthai.com/43/43.htm

                    Oriental Jazz (3 CDs Boxset)
                    http://www.baannapleangthai.com/43/43-04.htm

                    มนต์แจ๊สลูกทุ่ง (3 CDs Boxset)
                    http://www.baannapleangthai.com/43/43-09.htm


                    เพลงโดยรวมมีให้ฟังกันอย่างจุใจ ทั้งหมด 9 แผ่น มีหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง เพลงสนุกสนานอย่าง วิหคเหิรลม รักไม่เป็น หรือเพลงฟังสบายๆให้เพลิดเพลินกันอย่าง พรหมลิขิต สุขกันเถอะเรา เพลงเศร้าที่ถ่ายทอดอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่มเช่น
                    แสนแสบ (ด้วยเสียงขลุ่ยผสานกับเสียงแซกโซโฟนอย่างลงตัว ถ่ายทอดความเป็นบัลลาดได้อย่างน่าประทับใจ ชวนให้ต้องกดฟังซ้ำอยู่หลายรอบ) เพลงที่เปลี่ยนทำนองใหม่หมด เช่น ฟลอร์เฟื่องฟ้า จะมาในแบบบัลลาดช้าๆ ต่างจากต้นฉบับที่เป็นจังหวะลีลาศโดยสิน้เชิง แต่น่าฟังทีเดียว หรือจะมาในสไตล์ Smooth Jazz อย่าง ดาวประดับฟ้า ลืมผมเสียเถิด เป็นต้น จังหวะกลองมี dynamic ชัดเจน บางเพลง improvise ได้น่าฟังดี ทำให้ผมพยายามไปหา Box ที่เหลือคือ มนต์แจ๊สลูกทุ่ง ซึ่งเป็นชุดที่หายากที่สุด แต่ได้รับความอนุเคราะห์จากพี่ชวพันธ์ อุตส่าห์นำมาให้ถึงบ้าน (ต้องขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย) และกลายเป็นชุดที่ชอบมากที่สุดใน 3 set เลยครับ


                    Mark นำเพลงลูกทุ่งมาถ่ายทอดสำเนียงความเป็นตะวันตก หล่อหลอมเข้ากับความเป็นท้องทุ่งผ่านเครื่องทองเหลืองได้อย่างกลมกลืน คืนฝนตก โลกนี้คือละคร เพลงบัลลาด ที่จับลึกเข้าถึงอารมณ์ เพลงสนุกๆเช่น ยมบาลเจ้าขา ขาดคนหุงข้าว
                    ก็ทำได้น่าฟังมาก โดยเฉพาะ อักสาวขอนแก่น ผู้ใหญ่ลี ได้เอาเสียงระนาด กปน Hiphop จางๆ เข้ากันอย่างเหลือเชื่อ และ Smooth Jazz เด่นๆอย่าง ฝนตกฟ้าร้อง บ้านสาวโสด สาวอีสานรอรัก ไม่ด้อยไปกว่า 2 Boxset ก่อนหน้านี้เลย และขอแนะนำงานกีตาร์สไตล์ Bossa ของเขาอีก 2 ตัวด้วยครับ เยี่ยมไม่แพ้กัน









                    งานของ Mark Hodgkins ผมขอแนะนำให้ฟังอย่างยิ่งยวด เพราะฟังไม่ยาก และน่าจะถูกใจหลายๆคน ด้วยเหตุผลในแง่ของราคาและคุณภาพ ส่วนตัวชอบเขา improvise มากครับ เพราะแนวคิดดี และน่าฟัง แต่ช่วงนี้ก็ไม่มีผลงานออกมาอีก หวังอยากจะให้เขาเอาเพลงไทยเดิมมาบรรเลงในแบบประยุกต์บ้าง คิดแล้วอยากฟังขึ้นมาเลย คงจะมีสำเนียงที่โดดเด่นตามฉบับของเขา (ส่วนตัวคิดว่าเพลงไทยประยุกต์อาจจะเน้นไปทางฟังก์ หรือไม่ก็ประสมกับวงออเคสตรา เพลงคลาสสิคเป็นหลัก ซึ่งแรกๆออกมาจะดูแปลกดี แต่ช่วงหลังดูจะเริ่มอิ่มตัวพอสมควร เลยถ้าเป้นไปได้ นำมาผสมกับเพลวสไตล์อื่น รหือสไตล์เดิม แต่เป็นแขนงย่อย น่าจะต่อยอดได้อีกหลายเลยทีเดียว)
                    Last edited by newbie66; 1 Dec 2010, 11:28:43.

                    Comment


                    • #11
                      แอบอ่านมาทุกวันเลย ขอบคุณครับ บางเพลงนี่ไม่เคยฟัง คิดว่าบางเพลงคงเกิดไม่ทัน --*

                      Comment


                      • #12
                        เปิดกระทู้ซ๊ะ บ่งบอกอายุกันเลยทีเดียว แบบว่านะ ผมชอบแนววัยรุ่นมากกว่า เพราะถึงจะแก่แต่ก็ยังหาแฟนเด็กอยู่ กำๆๆ

                        Comment


                        • #13
                          ขอบคุณครับที่เข้ามาอ่าน จะเอาเพลงมาแนะนำเพิ่มเติมด้วยก็ได้เลยครับ จริงๆกับงานเพลงหลายตัว ผมเองก็เกิดไม่ทัน (ตอนนี้ก็เพิ่งเบญจเพสไปหมาดๆ) เพียงแต่โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่ฟังงานพวกนี้ และได้คำแนะนำจากบางคน ประกอบกับลองไปหามาฟังเอง เลยทำให้รู้ว่า มีงานดีๆลหายงานที่เราเองก็ไม่เคยฟังเลย ก็จะพยายามแสวงหาไปเรื่อยๆครับ ถ้าตัวไหนที่ผมจำได้ ผมจะพยายามบอกหาแหล่งที่มา เพื่ที่จะสามารถหาผลงานเหล่านั้นมาฟังกันได้ครับ แต่บางตัวก็ต้องบอกว่าได้มาฟลุ๊คจริงๆ แต่ก็อยากรีวิวให้ทราบเพราะมันน่าสนใจ เผื่อเป็นการจุดประกายบางคนที่อยากจะลองไปหางานพวกเขามาฟังดูครับ


                          ขอแทรกงานเพลงบรรเลงพื้นเมืองอีสานสักหน่อยครับ








                          พอดีช่วงนี้ผมเอาเพลงบรรเลงดนตรีพื้นเมืองอีสานกลับมาฟังอยู่ (ไม่ทราบว่ามีใครชอบฟังบ้างไหมครับ แต่โดยส่วนตัว ผมจะชอบมาก โดยเฉพาะเดี่ยวพิณครับ) และเนื่องจากผมเคยลองซื้อ CD ของ เดชา ชาสงวนมาฟังดู (ซื้อที่ขอนแก่น) เพราะเห็นหน้าปกสวยดี (ซื้อมาได้ราวๆ 6-7 ปีแล้ว) ตอนแรกก็ฟังแล้วรู้สึกชอบ เพราะเล่นดี แต่ตอนนั้นไม่ได้สนใจรายละเอียดเชิงลึกมากนัก แต่พอมาช่วงที่เริ่มฟังเพลงจริงๆจง และได้มีการฟังเปรียบเทียบกับงานของคนอื่น ทำให้รู้สึกว่า ผมฟังงานของเขาแล้วรู้สึกชอบมากที่สุดในบรรดางานบรรเลงเพลงอีสานที่ฟังมา ประกอบกับเจ้าตัวมีรางวัลการันตีเป็นแชมป์หมอแคนแห่งประเทศไทย 2 ครั้ง (รวมถึงวงของเขาด้วย ซึ่งเจ้าตัวสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หมดทุกชิ้น แต่จะถนัดแคนกับพิณเป็นพิเศษ) ทำให้ตอนแรกที่ซื้อมาเพียง 2 ชุด ผมจึงลองไปหาถึงแหล่งเลย (อยู่ที่ขอนแก่น) ปรากฏว่าโชคดีที่ยังมีงานของเขาบางชุดเหลืออยู่ แต่บางชุดก็ไม่มีขายแล้ว และบางตัวผมก็ไม่เคยเห็น (ตอนจัดงาน otop จะมีผลงานของเขาขายบ้าง แต่ไม่เยอะ)



                          นอกจากนี้ยังมีตัว vcd แสดงสด ตอนที่เขาประกวดชนะเลิศ และตอนที่เดินสายทัวร์อีกด้วย เหลืออย่างละแผ่นสองแผ่นเอง (เสียดายที่เก็บ cd ของเขาไม่ครบ ขาดชุดแรกไป ซึ่งที่ร้านมีแต่เค้าไม่ยอมขายเพราะเหลือแผ่นเดียวไว้เปิดฟังเอง ประกอบกับทางเจ้าตัวไม่ผลิตงานเพิ่มแล้ว) ก็เลยลองมาแนะนำกันครับ เผื่อใครสนใจอยากฟังเพลงพื้นเมืองของไทยเราเองครับ ใครสนใจ ลองติดต่อสอบถามได้ที่ 043-327778 01-5448179 -096224300 แฟก 043-225869 ครับ

                          Comment


                          • #14
                            เอางานที่ผมได้งานเป็นเทปมาแนะนำกันห่อยครับ







                            พูดกันถึงเทป 2 ตัวซ้ายบน จะเป็นวง White Magic ซึ่งผู้ตั้งวงและเล่นในตำแหน่งกีตาร์คือ ชัคกี๊ ธัญรัตน์ มือกีตาร์ของ Rockchestra ในอดีต ฉายา กีตาร์เทพ เคยร่วมงานกับวง Blue Planet ทีนักร้องนำคือ ปู แบล๊คเฮด คิดว่าคงพอจะคุ้นเคยกันดี ลองอ่านข้อมูลของเขาเพิ่มเติมได้จากที่นี่ครับ


                            http://taweelap.blogspot.com/2008/04/blog-post.html

                            http://www.oknation.net/blog/print.php?id=215977

                            http://www.siamsouth.com/smf/index.p...nguage=english

                            http://topicstock.pantip.com/chalerm.../C2967365.html



                            อย่างเพลงฮิโรชิมาของคาราวาน ผมเคยฟังมานานแล้ว ก็ติดใจในท่อนโซโลของเพลงนี้ แต่ไม่ทราบว่าใครเล่น พอมารู้ทีหลัง จึงเริ่มมาตามเก็บจากงานของ Rockchestra เพิ่มเติม (มีออกกับนิธิทัศน์อยู่บางชุด) มาถึงงานของ White Magic บ้าง (ชุดหน้าปกซ้ายมือชื่อ จักรวรรดิ์ พอดีว่าเทปอยู่ลึก เลยขอพูดแค่ตัวม้วนสีขาวแทนแล้วกันครับ) จะเป็นงานระดับอันเดอกราวน์เพราะไม่ประณีตในการบันทึกเสียงเท่าไหร่ แต่ตัวเพลงจะไม่หนักมาก จะเป็นเพลงบรรเลง มีทั้ง 4 เพลง ได้แก่ อารยะธรรม ชะตา สายใย และ จักรวรรดิ์ งานเพลงออกไปทาง Hard rock ยุคเก่าเป็นหลัก แต่มีกลิ่นอายบลูส์ funky และเฮฟวี่เมทัลเจือเข้ามา (ดูจะรับอิทธิพลมาจาก Black Sabbath มาพอควร) งานนี้ชัคกี้ได้โชว์ศักยภาพออกมาเต็มที่ ส่วนตัวประทับใจเพลง ชะตา กับ สายใย เพราะ เป็นบัลลาดร๊อคที่โซโลได้บาดลึกถึงอารมณ์ทีเดียว งานตัวนี้ผมได้มาจากจตุจักร ที่เป็นร้านขายเทปมือสอง อยู่โครงการ 6 (ถ้าจำไม่ผิด เพราะไม่ได้ไปนานแล้ว) บังเอิญว่าไปอ่านเจอจากในเวป Hi-rock band แล้วเกิดอยากฟังดู และก็ฟลุ๊คมากที่ร้านมีอยู่ ยังคิดๆว่าอยากให้ทำงานตัวนี้รีมาสเตอร์ออกมา เพราะเห็นมีงานเดี่ยวของเขาออกมาใหม่ 2 ชุดแล้ว แต่งานนี้ผมคิดว่าน่าจะมีแค่ฟอร์แมตเทป และไม่ทราบค่าย จึงเป็นการยากอยู่เหมือนกันที่จะทำออกมาใหม่ หรือไม่ ผมแนะให้ลองไปดูที่ดิโอสยาม จะมีร้านเทป ซีดีมือสองอยู๋ เพราะทางร้านก็จะรับของเล***นี้มาอยู่เรื่อยๆ เผื่อว่าจะฟลุ๊คเจอครับ


                            มาถึงงานของแหลม มอริสัน มือกีตาร์วง V.I.P. ซึ่งเป็นกีาร์ฮีโร่ยุคแรกๆของเมืองไทย ฉายา กีตาร์คิงส์ หลาคนคงจะคุ้นหูกันบ้าง และได้ปรากฏตัวในงาน Rock for the Greatest King เมื่อปี 2008 ประวัติคร่าวๆดูได้จาก

                            http://taweelap.blogspot.com/2008/04/forever.html


                            เป็นมือกีตาร์ที่มีชั่วโมงบินสูงทีเดียว และมักแจมกับกิตติกีตาร์ปืนอยู่บ่อยๆ ผมว่าเขาโดดเด่นในแง่ของเพลงบลูส์ร๊อคมากกว่าการปั่นในแบบ speed picking คือเน้นในอารมณ์ของเพลงเป็นหลัก (แต่แกก็ solo ไวในระดับหนึ่ง) ชุดนี้เปิดมาก็เป็นเพลงเด่นเลยคือ Night in Bangkok ครับ ที่ถ่ายทอดความอ้างว้าง เดียวดาย ยามค่ำคืน ในกรุงเทพ สำเนียงได้รับอิทธิพลจาก ไมเคิล เชงเกอร์ (มือกีตาร์คนโปรดของผม) มากพอดู การถ่ายทอดอารมณ์ทำออกมาได้ดีมาก การดันสายของเขา มากพอที่จะให้ผมฟังแล้วขนลุกได้เป็นพักๆเลย





                            ต่อมาก็จะเป็นเพลง Ram Jam ที่เล่นบ่อยเวลาไปแสดงคอนเสิร์ทของวง





                            ตามด้วยเพลง If you go you break my heart ซึ่งผมก็ชอบอีกเช่นกัน จังหวะสนุกๆ แต่แฝงความหนักแน่นที่ลงตัว ถ้าอ่านชื่อเพลงผ่านๆจะนึกว่าเป้นเพลงเศร้า แต่พอฟังแล้วดูจะเป็นการหยอกเย้าของผู้พูดมากกว่า ทำนองจิ๊กโก๋จีบสาว





                            และต่อด้วยการคัฟเวอร์เพลง Far Beyond the Sun อันดด่งดังของเจ้าพ่อลมกรด Yngwie Malmsteen ทำให้ประจักษ์ว่า เขาก็สามารถเล่นได้เช่นกัน






                            ทีเหลืออีก 7 เพลงก็ล้วนน่าฟังเช่นเดียวกัน น่าเสียดายที่อยากให้มีการนำผลงานของเขาออกมาให้คนรุ่นหลังได้ฟังกันบ้าง เพราะผมรู้สึกว่า สมัยนี้ เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้ามาก ในแง่ดนตรี ก์มีซอฟแวร์เล่นโน้ตให้ใช้อย่างครบครัน ช่วยให้การฝึกเล่นดนตรีเป้นไปอย่างสะดวกโยธิน หากแต่จุดนี้เอง อาจจะทำให้ขาด ความพยายาม ที่มือกีตาร์รุ่นก่อนได้รับการฝึกปรือมา ไม่ว่าจะเป็นการแกะเลพงจากเทปทีละโน้ต และฝึกเล่นโดยไม่มีคอมพิวเตอร์มาช่วย แต่กระนั้น มันส่งผลให้พื้นฐานและทักษะของรุ่นใหญ่เหล่านี้แน่นมาก และส่งผลต่อแนวคิดในการทำเพลงที่ดูจะดีกว่ามือกีตาร์รุ่นหลังๆอยู่ไม่น้อยเลย (หากไปดูงานประกวดจะเห็นข้อแตกต่างที่สามารถสังเกตได้ แต่ถ้าจะมีการถกเถียงกันในแง่ของการลอกเลียนสำเนียงของต่างชาติ ต้องบอกตามตรงว่า แม้จะเป็นสมัยนี้ หรือสมัยก่อน ก็คงปรากฏให้เห็นทั้งสิ้น ส่วนตัวผมไม่ค่ยซีเรียสเรื่องการได้รับอิทธิพลหรือสำเนียงจากวงนั้นวงนี้มามากเท่าไหร่ หากนำมาประยุกต์ให้เกิดข้อแตกต่าง จะเป็นการดีมาก แต่หากลอกมาทั้งดุ้นเลย ก็คงจะไม่น่าพอใจนักกับทางศิลปินต้นฉบับ) ตัวเทปและซีดี ลองไปดุที่ดิโอสยาม ผมคิดว่ายังเหลืออยู่ ไม่ก็อาจจะต้องตามหาจากกลุ่มรักงานร๊อคไทยรุ่นเก่าดูครับ


                            แถวกลางก็จะเริ่มจากงานเดี่ยวของ วุธ Heretic Angels มือกีตาร์วงเดธเมทัลรุ่นแรกๆของไทย ซึ่งแตกวงไปนานแล้ว สำหรับงานของ Heretic ผมจะชอบอัลบั้ม Delicious Sinistery มากที่สุด ลองฟังเพลงกันดูครับ






                            สำเนียงกีตาร์ของวุธก็ถือว่ามีเอกลักษณ์พอตัวอยู่ครับ ขนาดที่ว่า มือกีตาร์ฮีโร่อย่าง เสรี แซ่ลี้ ยังออกปากชมว่า ไม่ว่าพี่วุธจะจับกีตาร์ตัวไหน ผมก็จำสำเนียงพี่เค้าได้ ตัวงานจะเป็นอันเดอกราวน์เมทัล โดยเสียงร้องจะออกไปทางฮาร์ดคอร์หน่อยๆ แต่ที่แตกต่างคือสำเนียงการโซโลของเขา ขับให้เพลงมีกลิ่นเฮฟวี่ผสมร๊อค ส่วนเนื้อหาก็จะมีคำหยาบบ้าง ตามสไตล์งานใต้ดิน ประกอบกับชือเพลงที่ออกจะกวนไม่น้อยเช่นเพลง จุดเลี้ยว ฟันเหล็ก เรื่องของเอ็ง เจ็บตูด เป็นต้น ก็ไว้ฟังแก้เครียดได้ดี และหลังจากแตกวงก็ไปออกงานเดี่ยวสไตล์ World Music กับ Prart Music Group ก็เล่นได้ดีทีเดียว ส่วนตัวผมจะชอบงานตอนที่ทำกับ Heretic Angels มากกว่า ก็ถือเป็นศิลปินใต้ดินที่หลายๆคนยังจดจำฝีไม้ลายมือกันได้อย่างดี



                            มาถึง Heavy Mod ซึ่งสมาชิกหลายคนมาจาก Y Not 7 มาในแบบร๊อค เฮฟวี่เมทัลเนื้อหาเสียดสีสังคม ฉายแววแต่ชื่ออัลบั้ม Rate X กันเลย อ่านประวัติคร่าวๆได้จาก http://taweelap.blogspot.com/2008/05...ull-album.html เนื้อเพลงก็ดูจะไม่หนีกับงานของวุธมากนัก แต่จะตรงไปตรงมากว่า ดูได้จากชื่อเพลงเช่น พ่อกูใหญ่ ดาวหมา สารเลว เป็นต้น ลองฟังดูครับ





                            และเพลงนี้ โหมโลง สั้นๆ แต่ผมกลับชอบมาก ตอนแรกยังนึกว่าของดิโอฬาร โปรเจคเสียอีก ช่วงอินโทรเล่นเสียงแตกนำร่อง ต่อด้วยเล่นริฟฟ์ซ้ำแล้วค่อยๆเพิ่มระดับเสียงไปเรื่อยๆ จนมาช่วงท้ายตอนโหนเสียงสูงฟังแล้วให้อารมณ์ปลดปล่อยดีจริงๆ


                            http://www.madogun.com/read.php?tid=19618


                            ม้วนกลาง เป็นงานของ Shambala เป็นงาน Prog Rock ของไทย โดยทำเนื้อเพลงเกือบทั้งหมดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ วงนี้ผมเองก็ไม่ค่อยได้มีข้อมูลมากนัก และซื้อมาฟังผ่านๆเพียงไม่กี่ครั้ง ลองอ่านเพิ่มเติมกันดูจากลิงค์พวกนี้ครับ


                            http://www.oknation.net/blog/swongvi.../03/29/entry-2

                            http://www.simplywit.net/2010/11/prohm-interview/

                            http://www.soccersuck.com/soccer/vie...0d6798d67dab8d


                            สุดท้ายมาที่วง บาราคูดัส เป็นวงเก่าของหมู มือกีตาร์วงคาไลโดสโคป ฉายา Van Halen เมืองไทย เจ้าตัวเคยบอกว่าหัดเล่นกีตาร์ก็ไปเข้าไปอายุ 23 แล้ว แต่โชคดีที่ได้รับการชี้แนะจากโอ้ โอฬาร พรหมใจ ทำให้พัฒนาฝีมือได้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสมาชิกของคาไลโดสโคปในที่สุด สำหรับวงนี้ แนะให้อ่านจากลิงค์นี้ครับ

                            http://www.oknation.net/blog/print.php?id=171823

                            http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%...B8%B1%E0%B8%AA

                            โดยวงนี้จะเป็นวงที่ทำเพลงจีบสาวชื่อดังในอดีต แต่ตัวเพลงก็มีลูกเล่นปรากฏให้เห็นบางพอกล้อมแกล้ม โดยเเป็นที่รู้จักกันดีในเพลง เช้าวันอาทิตย์ ใน CD รวมเพลงแกรมมี่ ปี 1983 หรือ 1984 (จำไม่ได้ ครั้นจะหยิบแผ่นมาดู ก็เก็บไว้ซะลึกเลย) จะมีเพลงนี้รวมอยู่ด้วย ก็ลองฟังกันดูครับ






                            ลองทายเล่นๆกันดูครับว่าคนไหนเป็นคนร้อง ใบ้ว่า เสียงร้องดูจะไปคนละทางกับใบหน้าของเขาเลยครับ



                            พูดถึงหมู คาไลโดสโคป ขอโยงมาถึงศิลปินคนนี้เป็นคนสุดท้ายหน่อยครับ

                            Joe's Rock - กว่า 7 ปี ที่สาปสูญ





                            เป็นนักร้องนำของกิตติ กีตาร์ปืนครับ ตอนที่จัดงาน Rock for the greatest king เขาก็มาร้องครับ และก็มีหลายคนถามมาเหมือนกันว่าใครเหรอ เสียงใช้ได้ทีเดียว พอดีว่าเพื่อนผมเค้ารู้จักเป็นการส่วนตัว เลยให้แผ่นผมยืมมาไรท์ครับ แต่ไม่ทราบว่าชุดนี้มีวางขายที่ไหนหรือเปล่า รู้แต่ว่าเพื่อนมาบอกว่า ขายไม่ออก หรือเจ๊งตั้งแต่ยังไม่ทันวางขาย ทำนองนี้ครับ เลยโชคดีที่ได้ฟังในส่วนของเพลงก็จะออกสไตล์ร๊อคเป็นหลัก มีเพลงตลาดพอสมควร แต่ก็มีเพลงน่าสนใจเหมือนกัน เช่น Rock & Roll และ ใครสักคน ซึ่งบางเพลงมี หมู คาไลโดสโคปมาโซโลให้ ฟังแล้วเพลินดีครับ ส่วนสองเพลงที่ว่านั้น เนื่องจากมันหายากมาก ลองเอาไปฟังดูครับ (ใบ้ว่าแก้ชื่อลิงค์นิดหน่อยก่อนนะครับ)

                            ใครสักคน

                            hxxp://www.tempf.com/getfile.php?id=...=4cf64762cb831

                            Rock & Roll

                            hxxp://www.tempf.com/getfile.php?id=...=4cf64762cb831
                            Last edited by newbie66; 1 Dec 2010, 20:18:47.

                            Comment


                            • #15
                              จะว่าอะไรมั้ย..ถ้าจะบอกว่าชอบทุกเพลงเลยจ้า...เพลงเก่าๆ
                              เพราะสมัยเด็ก ที่บ้าน..พ่อเค้าทำเครื่องไฟไว้ใช้งานแต่ง งานบวช(เด็กบ้านนอกจ้า)
                              ตามพ่อไปงานด้วยตลอดเลยทำให้ซึมซับกับเพลงพวกนี้มาตั้งแต่เด็กง่ะ....

                              Comment

                              Working...
                              X