เห็นแล้วน้ำลายไหลอยากได้
Announcement
Collapse
No announcement yet.
[เล่าสู่กันฟัง] B&W PV1 Subwoofer ซับวูฟเฟอร์ที่มีมากกว่าคำว่า Design จริงๆ
Collapse
X
-
Originally posted by mume View Postมาแอบสนเจ้า peachtree audio ไม่ทราบว่าไปกันได้กับ เจ้า 685 ไหมครับ เห็นตัวมันเล็กจัง ลำโพงมัน ไว 89 ที่ 8 ohm อะครับ
แล้วนี่ สั่งเข้ามารึเปล่าคับ ค่าเสียหายเท่าไรเนี่ย
ผมมั่นใจว่า...ถ้าพูดถึงแค่เรื่องแนวเสียง เจ้า Peachtree Nova มันเข้ากับลำโพงรุ่นนี้และลำโพงหลายๆ รุ่นของ B&W ได้อย่างแน่นอน (โดยเฉพาะในรุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นระดับกลางๆ)
เพียงแต่พละกำลังในการขับดันเสียงลำโพงของมันอยู่ในระดับปานกลางไม่ถึงกับสูงมาก เพราะแรงขับมันอยู่ที่ 80 W ต่อข้างที่ 6 ohms
ดังนั้น...ถ้าสเปคของลำโพงที่เราใช้มีค่า impedance อยู่ที่ 8 ohms และเป็นลำโพงที่ขับยากถึงยากมาก
Peachtree Nova ก็คงไม่สามารถขับดันเสียงของลำโพงคู่นั้นให้ไปถึงจุดสุดยอดของพลังเสียงที่มันมีได้อย่างแน่นอน
แต่สำหรับ 685 แม้มันจะมีค่า impedance อยู่ที่ 8 ohms แต่มันก็ถือว่าเป็นลำโพงที่ขับง่าย ไม่น่าจะเหลือวิสัยที่ Peachtree Nova จะขับมันไม่ได้ และน่าจะขับเสียงออกมาได้ดีอีกด้วย
เพราะมีนักวิจารณ์บางคนเคยจับ Peachtree Nova ไปทดสอบกับลำโพงระดับซูเปอร์ไฮเอนด์อย่าง Aerial 20T Version 2 ผลที่ได้ถือว่ามันทำออกมาได้ดี มีน้ำเสียงเป็นที่น่าพอใจมากถ้าเทียบกับราคาของมัน
หรือบางคนเคยเทสกับ ProAc Response D1 (87.5dB/8 โอห์ม) มันก็สามารถขับได้และให้น้ำเสียงออกมาได้ดีอีกด้วย เพียงแต่ต้องปรับระดับ Volume Control ให้เยอะหน่อยเท่านั้น
ส่วนจุดสำคัญที่ทำให้ผมรู้สึกประทับใจในแอมป์ตัวนี้ก็คือ...ความที่มันเป็นแอมป์แบบ hybrid ที่ใช้หลอด 6922 ร่วมกับวงจรเอาต์พุตแบบ solid state class A
น้ำเสียงที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเสียงแหลมและเสียงร้อง (โดยเฉพาะเสียงของนักร้องหญิง) จึงมีน้ำเสียงที่หวาน ฟังดูมีน้ำมีนวลมากกว่าตอนที่ Bypass ผ่านภาค Solid State เพียงอย่างเดียว
อีกทั้ง...ภาค DAC , ภาค Headphone Amp ยังเป็นของใช้ (ที่ใช้งานได้ดีและได้จริง) ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ของแถมให้ดูโก้เก๋อลังการแบบ Int. Amp. ทั่วๆ ไปที่มีราคาใกล้เคียงกับมัน
สำหรับตัวที่ผมใช้...ผมหิ้วมาจากเมกาครับ ของไทยรู้สึกราคาจะอยู่ราวๆ 60k +- ถ้าจำไม่ผิด ยังไงลองไปฟังเสียงดูก่อนครับเพื่อความมั่นใจLast edited by maxxx77; 24 Nov 2010, 10:06:41.
Comment
-
Originally posted by i-[BuFF] View Postเสียวมันจะเกลี้ยงลงมาทับเท้านะสิคับ ^^
ไม่อยากจะเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อจริงๆ ครับว่า spike ไม้เมเปิลรุ่นนี้ มันให้ผลต่อของเสียงแบบที่ผมและใครที่ไม่คิดจะเชื่อก็สัมผัสได้ด้วยหูของตัวเอง
Comment
-
ชาบูครับ
เรื่องซับนี่แต่ละยี่ห้อก็เสียงไม่เหมือนกันอีก เรียกว่าคนละไสตล์
JL ทุ้มนุ่มลึกดี
Paradigm แผ่ๆดูหนังดี
Velodyne กลมกลืนฟังเพลง
Klipsch กลองเป็นลูกๆ
image dynamics ในรถ การพบกันระหว่างผู้ฟังแบบ SQ และ SPL
Rockford Fosgate ในรถ อันนี้เรียกได้ว่าจิตมาก สร้างขึ้นมาเพื่อบดทำลายล้างอย่างเดียว
Comment
-
ผมหลง B&W ก็ตรงนี้แหละ เสียงดี พร้อมสวย
ถ้าหาแฟนได้อย่างนี้ก็คงแจ๋ว
เรื่อง TipToe หรือ Spike ของพรรค์อย่างนี้มันต้องค่อยๆลองครับ เรื่องเหมือนเล็กแต่ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว แบบ Quantam Physic ครับLast edited by HiddenDragon; 24 Nov 2010, 11:46:03.
Comment
-
Originally posted by funkyphile View Postvideo เขียนแบบนี้ไม่ใช่หรอครับ สงสัยพิมเยอะเลยเบลอๆ
อยากจะถามครับ ว่าถ้าใช้ซับ ตัว the ball กับ พวก bass station หรือ mini bass ถ้าฟังเพลงนี่ต่างกันยังไงบ้างครับ
ถ้าลำโพงคู่หน้าเป็น minipod
ตัวนี้อยากได้มาก แต่ เงินคงไม่ถึงแน่ๆครับ เลยมองหาตัวรองๆเอาไว้นะครับ
เอ๋อ!!! ท่าทางจะเบลอจริงๆ 555 ขอบคุณครับที่ช่วยบอก ไม่งั้นได้ปล่อยไก่ไปอีกนาน อิอิอิ
สำหรับ Bass Station กับ Mini Bass คงให้ความเห็นไม่ได้เพราะไม่เคยฟัง แต่สำหรับ The Ball หรือ The Ball 2.1 นั้น ถ้าแอมป์ของคุณมี Pre-out ผมแนะนำให้ซื้อรุ่น The Ball ธรรมดาก็พอแล้ว ไม่ต้องไปซื้อรุ่น 2.1 เหมือนผม(ราคาก็ถูกกว่าแถมกำลังขับยังมากกว่า)
เพราะแรงขับของ The Ball มันมีกำลังอยู่ที่ 60 W ซึ่งมากกว่ารุ่น The Ball 2.1 (40W) และ Mini Bass (50W) ส่วนรุ่น Bass Station แรงขับจะอยู่ที่ 70 W
ถ้าพูดถึงแนวเสียงของซับวูฟเฟอร์ทั้ง 4 รุ่น โดนเฉพาะซับตระกูล The Ball ผมคิดว่ามันน่าจะเหมาะกับการฟังเพลงมากกว่าดูหนังครับ
แต่ถ้ามีงบและมีพื้นที่เพียงพอ...คือไม่ได้วางใต้โต๊ะทำงานแบบผม ผมว่ารุ่น Bass Station น่าเล่นที่สุดครับ แต่ถ้าจะเอามาวางไว้ใต้โต๊ะ The Ball น่าจะเป็นคำตอบ
ส่วนข้อความด้านล่างผมก๊อปข้อความที่เขียนข้อมูลเกี่ยวกับ The Ball 2.1 จาก TAF มาให้อ่านครับ เผื่อจะได้พอเป็นแนวทาง
http://www.taf.in.th/showthread.php?t=44791&page=6
ถ้าซื้อเพื่อเอามาฟังเพลงเป็นหลัก The Drop ก็ถือว่าให้เสียงเบสใช้ได้เลยครับ แต่ถ้าเอาตัวนี้จริงๆ ควรมี Space ให้มันหน่อย
ถ้าพื้นที่ไม่เยอะ + นั่งฟังเวลาทำงานหน้าคอม ผมมีความรู้สึกว่าเสียงมันจะล้นไปสักนิด (จริงๆ ก็ไม่นิดเท่าไหร่น่ะ)
ความรู้สึกจะเหมือนมีคนมาเล่นดนตรีและร้องเพลงให้ฟังแบบจ่อหู สำหรับความรู้สึกที่เคยลองฟังมา ตัวนี้ควรมีระยะในการฟังมากสักนิด
ส่วน The Ball นั้น...ผมว่ามันเหมาะกับรุ่น Micropod & Smallpod มากกว่า (จริงๆ ก็น่าจะใช้กับลำโพงของ Scandyna ได้ทุกรุ่น)
เพราะมันจะช่วยเติมเต็มสวนที่ขาดจนทำให้ลำโพง 2 รุ่นนี้และรุ่นอื่นๆ กลายเป็น Bookshaelf เสียงดีๆ ได้ตัวหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างที่ผมเคยกล่าวมา...ว่า The Ball 2.1 หรือ The Ball มันเป็น Subwoofer สำหรับการฟังเพลงโดยเฉพาะ
มวลหรือน้ำหนักของเสียงย่านความถี่ต่ำ ไม่ได้เว่อห์เกินจริงเลยสักนิด ใครที่เคยเล่นดนตรี , เป็นนักดนตรีหรือเคยอยู่วงดุริยางค์มาก่อน
เสียงย่านความถี่ต่ำของ The Ball มันมีความเป็นดนตรีสูงมากๆ เลยทีเดียว
แต่ถ้าเอามาดูหนัง...ผมว่ามันยังไม่หนำใจ เพราะแนวเสียงของมันทำมาเพื่อฟังดนตรี เสียงเบสจึงยังฟังดูผู้ดีและละเมียดเกินไปนิดส์
อย่างเวลามีเสียงเอฟเฟคของระเบิดในหนังแอคชั่น แรงสั่นสะเทิ้มประเภททำให้กระจกสั่นหรือช่วงที่ความถี่เสียงลงต่ำกว่า 60hz
มันยังไม่มีพลังและลงได้ลึกได้มากเท่ากับซับสำหรับทำมาเพื่อดูหนังโดยเฉพาะ
ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ The Ball มันจะถ่ายทอดเสียงเอฟเฟคระเบิดได้ประมาณนี้...ตั้มมมมมมม มมมมม มมม ม...
ในขณะที่ซับสำหรับดูหนัง มันสามารถถ่ายทอดเสียงเอฟเฟคระเบิดได้ประมาณนี้...ตั้มมมมมมมมมมมมม มมมมมมม มมมมม ม...
ประมาณว่าแรงส่งในช่วงความถี่ต่ำมากๆมันยังไม่มีพลังเพียงพอ ถ้าภาษานักเล่นคงต้องใช้คำว่า...เบสมันมันยังไม่ Boomy และมีแรงสั่นสะเทิ้มถึงใจเหมือนอย่าง Sub.สำหรับดูหนังแท้ๆ
เหมือนอย่างซับระดับกลางอย่าง Ultracube 10 - 12 ของ Paradigm หรือซับโฮมเจ๋งๆ อย่าง Fathom (รุ่นไรจำไม่ได้) ของ JL Audio
แต่ข้อพึงระวังของคนใช้ The Ball คือเรื่องต่ำแหน่งการวางและการปรับช่วงความถี่ตรง Crossover Frequency ตอนซื้อมาใหม่ๆ
ขอบอกว่าซับตัวนี้มันใช้เวลา Burn-in นานมาก เท่าที่สังเกตุน่าจะเกิน 200 - 250 ชั่วโมงอัพ...
ดังนั้น...ช่วงแรกต้องคอยสังเกตุและคอยฟัง + คอยปรับช่วงความถี่ให้ลงตัว
ยิ่งใครวางใต้โต๊ะทำงานแบบผม ต้องขอบอกให้ทำใจตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะในช่วง 30 - 50 ชั่วโมงแรก มันให้เสียงได้ไม่คุ้มราคาค่าตัวกว่า 30k เลย
แต่เมื่อไหร่ที่เสียงมันเข้าที่เข้าทาง คุณจะหลงรักในการให้น้ำหนักและการให้รายละเอียดของมันมากๆ เลยหล่ะ
เพราะตอนนี้ถ้าผมปิด Bass Vol. ให้เหลือแต่เสียงของ Smallpod เพียวๆ
ผมขอบอกว่า...เสียงของมันเหมือนกินก๊วยเตี๋ยวไม่ใส่เครื่องปรุงเลยหล่ะ
อีกเรื่องคือพื้นที่ใช้วางซับตัวนี้...ต้องแน่นมากๆ ถ้าห้องของใครที่เป็นพื้นพรมจะมีผลต่อเสียงของ The Ball ค่อนข้างมากๆ
เพราะด้วยความที่ตัว The Ball มันมีน้ำหนักไม่มาก + วางบน Spike 3 ขาอีกต่างหาก ซับมันจะจึงให้ตัวและขยับไปมาได้ง่าย
ผมมีความรู้สึกว่าคน Design เจ้าซับ The Ball เค้ามาตกม้าตายเรื่องการ Design ขาตั้งหรือ Spike 3 ขาของเจ้าซับตัวนี้จริงๆ
ดังนั้น...ใครจะซื้อ The Ball มาใช้พึงให้ความสำคัญกับเรื่องพื้นด้วยน่ะครับ
ส่วนผมก็ลงทุนให้ช่างเฟอร์เค้าทำแท่นวางที่ทำด้วยไม่เนื้อแข็งหนาประมาณ 2 ซ.ม.
จากนั้นก็ไปซื้อ Spike ปลายแหลมสำหรับใช้กับซับมาติดกับแท่นเพื่อให้หน้าสัมผัสในการวางมันน้อยที่ สุด
จากนั้นก็เอาทั้งชุดคือ The Ball + แท่น ไปวางลงบนฐานที่ทำเตียมเอาไว้ แทนที่จะไปวางบนพรมโดยตรง
เมื่อครบถ้วนขบวนการตามที่กล่าวมา เสียงเบสมันกระชับและลงน้ำหนักได้ดีและลึกกว่าตั้งบนพื้นพรมเพียวๆ มากจนสัมผัสได้เลยครับ
ส่วนใครที่มีความคิดว่าจะไปหาซับตัวอื่นมาใช้กับลำโพง Scandyna ผมขอแนะนำว่า ของมันมีคู่ตุนาหงันอยู่แล้ว อย่าไปดิ้นรนเลยครับ
เท่าที่เคยเอา Micropod ไปลองฟังกับซับหลายๆ ตัวที่ปียะนัส ผมยังไม่เห็นตัวไหนที่มันจะเข้าคู่ตุนาหงันกับ Micropod เหมือน The Ball เลย
บางตัวรายละเอียดของเบสดีมากแต่พลังมันดันล้ำเกินหน้าไปหน่อยถึงมากมาย บางตัวก็น้ำหนักกำลังดี แต่ฟังแล้วไหงเสียงรวมๆ แล้วมันไม่เข้ากันก็ไม่รู้
ผมยังเชื่ออยู่อย่างว่า...แม้ The Ball มันจะไม่ใช่ซับที่ดีที่สุด (แถมราคาก็ยังสูงอีกต่างหาก) แต่มันเป็นซับที่ให้เสียง เข้ากับลำโพงของ Scandyna ได้ดีที่สุด (ตัวหนึ่ง) ครับ
ดังนั้น...อะไรก็ตามที่เค้าทำมาคู่กัน อย่าไปฝืนหรือเสียเวลาหาคู่ให้มันใหม่เลยครับ
พออ่านข้อความเก่าๆ ของตัวเอง มันเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมาครับว่า...เหนือฟ้ายังมีฟ้า...เหนือ The Ball 2.1 ยังมี PV1...เหนือ PV1 ยังมี ??? (น่าจะมีแต่ต้องรอมีตังค์ก่อน 555)Last edited by maxxx77; 24 Nov 2010, 17:47:36.
Comment
-
-
Originally posted by puitam View Post
(ตามมาแซวต่อ)
Comment
-
เป็นรีวิวที่ยอดเยี่ยม มากๆครับผม ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด จริงๆครับขนาดถ่ายรูป ความเงาของเจ้า PV-1 ไม่สะท้อนให้เห็นตัวผู้ถ่ายเลย แต่แอบเห็นขาตั้งกล้อง....อิอิ ^^
.
.
ส่วนตัวผม แอบสนใจในเจ้า PV-1 มานานแหละ แต่ไม่มีโอกาศได้ฟัง เพราะหาฟังยากครับ ที่ยากเพราะ ราคาของมันนั้น สามารถที่จะมองหา SUB ระดับ HI-END ได้อีกมากมายนัก นักเล่น HT จริงๆส่วนใหญ่มักข้ามไปเล่นยี่ห้ออื่นกัน
.
.
ส่วนตัวเคยฟังที่งานแสดงเครื่องเสียงครั้งหนึงครับ มันถูกจับคู่กับลำโพงจากค่าย Scandyna มาทำเป็นชุด HT และอีกทีฟังกับชุดของมันเองเลย
ผมสนับสนุนความเห็นของท่านครับว่ามันยอดเยี่ยมจริงๆครับ ให้เสียงที่ดีสมจริงครับ ตอบสนองดีครับ เวลาฟังเพลงนั้นสนับสนุนให้เพลงน่าฟังมากขึ้นครับ และอีกอย่างนะครับ มันเป็น SUB ที่ไม่ค่อยเรื่องมากกับสภาพห้องเท่าไหรครับ ถ้าวางมันในที่ที่ OK หน่อยเยี่ยมเลยครับ แต่ที่ผมเจอมาผมว่ามันมีปัญหากับขนาดของห้องครับเพราะ ถ้าห้องใหญ่ในระดับหนึงเสียงมันจะไม่เต็มพื้นที่ อาจจะเป็นเพราะ SET ไม่ดีก็ได้ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็น SUB ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับลำโพงขนาดเล็กครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ
.
.
ไม่ทราบว่า ไม้ที่รอง มันทำมาจากไม้อะไรอ่ะครับ
.
.
ชื่นชม รีวิว จริงๆนะครับทั้งรูปแบบและข้อมูลทำได้เยี่ยมจริงๆครับ
ขอบคุณนะครับที่ทำรีวิว ดีๆให้หลายๆคนได้อ่านLast edited by ย่องมาซื้อ; 25 Nov 2010, 02:08:35.
Comment
-
Originally posted by puitam View Post
ตกลงเสียงแหลมมันน้อยลงนึดเดียวเองจริงๆ เหรอ วันนั้น...ไม่เห็นพูดแบบนี้เลยน่ะ 555
ว่าจะไม่เล่าก็เล่าเลยแล้วกัน อุตส่าห์มาแซวถึงที่ 555
เรื่องของเรื่องก็คือ...เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา วันไหนจำไม่ได้ พี่แต้มแกกำลังประกาศขาย Focal xs ผมก็เลยบอกว่า...มา!!! ลองเอามาเทสกับ DAC ของผมหน่อย เสียงมันอาจจะดีก็ได้ ถ้าเสียงมันยังก้องๆ โอ่งๆ เหมือนเดิม ก็ค่อยว่ากัน
พอเสียบกับระบบของผมปั๊บ...ขอบอกว่าเสียงอย่างกับหนังคนละม้วน คือสัมผัสได้ถึงความต่างจากตอนใช้ DAC ของมันหรือตอนเสียบกับ Audigy
ซึ่งในตอนนั้น...แม้เสียงมันจะออกมาดีกว่าตอนที่พี่แต้มเค้าใช้อยู่ที่ห้องของเขาก็ตาม แต่ผมมีความรู้สึกว่า...เสียงแหลมแม้จะให้รายละเอียดเยอะก็จริง แต่เสียงมันยังกัดหูและจัดจ้านเกินไป
เวลาฟังเสียงแฉหรือเสียงฟรุ๊ตมันเลยฟังไม่สบายหูหรือมีอาการบาดหูอยู่บ้างเล็กน้อย (จริงๆ ก็ไม่น้อยน่ะสำหรับผม)
ผมก็เลยบอกพี่แต้มไปว่า...เดี๋ยวผมจะเทสอะไรให้ดู!!!
จากนั้น...ผมก็เอาเจาไม้เมเปิล (หรือที่พี่แกตั้งฉายาให้ว่า...ไม้ลงอาคมนี่แหละ) ไปวางไว้ใต้ฐานลำโพง Focal แล้วเปิดเทียบสลับไปมาในท่อน Intro เดียวกันเกือบ 3 ครั้ง
ผลสรุปออกมาว่า...ทุกๆ คนในห้องซึ่งมีอยู่ด้วยกันประมาณ 6 ชีวิต (รวมตัวผมและพี่แต้ม) ต่างได้ยินความแตกต่างของเสียงระหว่างใส่ไม้ไว้ใต้ฐานกับไม่ใส่ไม้กันทุกคน
ขนาดบางคนไม่ได้สนใจในสิ่งที่ผมและพี่แต้มกำลังทดสอบกันอยู่ เพราะเขากำลังม่วนกับงานอย่างอื่นอยู่ เขายังบอกออกมาเลยว่า..."เฮ๊ย!!! ขนาดผมไม่ได้ตั้งใจฟังน่ะ แต่ฟังเสียงแล้วมันต่างกันจริงๆ"
หรืออย่างน้องอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ไกลจาจุด Focus ประมาณ 4 เมตร พอผมถามว่า...เห็นความแตกต่างหรือเปล่า น้องคนนี้มันยังบอกว่า...เออ!!! เสียงแหลมมันต่างจริงๆ ครับพี่
อย่างตัวผม ผมรู้สึกว่า...ไม้ตัวนี้มันช่วยทำให้เนื้อเสียงโดยรวมฟังดูอิ่มขึ้น มันจึงทำให้ปลายเสียงแหลมไม่จัดจ้านหรือโดดมากจนเกินไป
เสียงแหลมจากเดิมที่เคยฟังแล้วมันกัดหู (สำหรับผมถือว่าค่อนข้างมาก) แต่พอใส่ไม้ตัวนี้ เสียงแหลมมันกลับฟังดูละมุนหูขึ้นแบบสัมผัสได้โดยไม่ต้องตั้งใจฟัง
เรียกได้ว่า...ฟังแล้วสบายหูขึ้นไปอีกเป็นกอง และมันยังทำให้เสียงโดยรวมของ Focal มันดูน่าฟังขึ้น (ซึ่งในความเป็นจริง Focal มันก็ถือเป็นลำโพง 2.1 ที่ให้น้ำเสียงที่ดีมากๆ ตัวหนึ่ง)
นับจากวันนั้น...พี่ชายที่แสนดีท่านนี้ จึงเริ่มเชื่อในหลักไสยศาสตร์ทางเสียงกับเขาขึ้นมาบ้าง (แม้ในใจอาจจะยังคัดค้านหรือยังไม่เชื่ออยูบ้าง)
แต่สุดท้าย...เหตุการณ์ในวันนั้นก็ทำให้พี่แต้ม ซึ่งเป็นคนที่ไม่เชื่อในเรื่องอุปกรณ์เสริมจำพวกนี้เลย ต้องจำนนด้วยพยานและหลักฐานที่ตัวเองและทุกๆ คนต่างได้ประสบพบเจอด้วยหูของตัวเอง อิอิอิ
หมายเหตุ...ถ้าให้ผมเดา!!! ผมคิดว่า...สาเหตุที่ทำให้เสียงแหลมของ Focal มันดีขึ้นหลังจากที่เอา Spike ไม้เมเปิลไปวางใต้ฐานลำโพง มันเป็นเพราะลำโพงตัวขวา...มันมีวงจรชิพ DAC อยู่ที่ฐานลำโพง
ดังนั้น...เวลาที่เราเอาไม้ไปวางรองที่ฐานด้านนั้น มันก็เลยส่งผลกับเสียงแบบสัมผัสได้ เพราะเท่าที่ทราบ...ไม้ตัวนี้มันจะให้ผลดีเวลาเราเอาไปใช้กับ DAC , Amp รองลงมาก็วางไว้ใต้ฐานลำโพงหรือ Subwoofer
ว่าแต่...เดี๋ยวจะลองเอาไปลองใต้หม้อหุงข้างดูน่ะพี่น่ะ เผื่อจะหุงขึ้นหม้อแบบที่พี่บอก 555
Originally posted by ย่องมาซื้อ View Postเป็นรีวิวที่ยอดเยี่ยม มากๆครับผม ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด จริงๆครับขนาดถ่ายรูป ความเงาของเจ้า PV-1 ไม่สะท้อนให้เห็นตัวผู้ถ่ายเลย แต่แอบเห็นขาตั้งกล้อง....อิอิ ^^
.
.
ส่วนตัวผม แอบสนใจในเจ้า PV-1 มานานแหละ แต่ไม่มีโอกาศได้ฟัง เพราะหาฟังยากครับ ที่ยากเพราะ ราคาของมันนั้น สามารถที่จะมองหา SUB ระดับ HI-END ได้อีกมากมายนัก นักเล่น HT จริงๆส่วนใหญ่มักข้ามไปเล่นยี่ห้ออื่นกัน
.
.
ส่วนตัวเคยฟังที่งานแสดงเครื่องเสียงครั้งหนึงครับ มันถูกจับคู่กับลำโพงจากค่าย Scandyna มาทำเป็นชุด HT และอีกทีฟังกับชุดของมันเองเลย
ผมสนับสนุนความเห็นของท่านครับว่ามันยอดเยี่ยมจริงๆครับ ให้เสียงที่ดีสมจริงครับ ตอบสนองดีครับ เวลาฟังเพลงนั้นสนับสนุนให้เพลงน่าฟังมากขึ้นครับ และอีกอย่างนะครับ มันเป็น SUB ที่ไม่ค่อยเรื่องมากกับสภาพห้องเท่าไหรครับ ถ้าวางมันในที่ที่ OK หน่อยเยี่ยมเลยครับ แต่ที่ผมเจอมาผมว่ามันมีปัญหากับขนาดของห้องครับเพราะ ถ้าห้องใหญ่ในระดับหนึงเสียงมันจะไม่เต็มพื้นที่ อาจจะเป็นเพราะ SET ไม่ดีก็ได้ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็น SUB ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับลำโพงขนาดเล็กครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ
.
.
ไม่ทราบว่า ไม้ที่รอง มันทำมาจากไม้อะไรอ่ะครับ
.
.
ชื่นชม รีวิว จริงๆนะครับทั้งรูปแบบและข้อมูลทำได้เยี่ยมจริงๆครับ
ขอบคุณนะครับที่ทำรีวิว ดีๆให้หลายๆคนได้อ่าน
น่าจะเป็นห้องที่ทำให้มันโชว์พลังเสียงได้ดีที่สุดLast edited by maxxx77; 25 Nov 2010, 10:25:37.
Comment
-
โอย อยากได้คับ แต่สู้ราคาที่เมืองไทยไม่ไหวแน่ อาจให้เพื่อนหิ้วมาเหมือนกันครับ
แล้วเรื่องไฟ นี้ ต้องหาหม้อแปลงไหมครับ หรือ มันเปลี่ยนกระแสได้ในตัว
เพราะเห็นนักเล่นเครื่องเสียงบางท่าน บอกว่าผ่านเครื่องแปลงแล้วเสียงอาจ drop ลง
เอ้อเห็น รุ่น iNova ราคามันจะแรงไหมเนี่ย = =
Comment
Comment