D.I.Y.ตอน ต่อแอมป์ 40+40 w. ราคาไม่ถึงพัน

[dracoV]

อ่ะ พึ่งสังเกตุ สายไฟ AC มี 4เส้น รึ?


ใส่กล่องเรียบร้อย ทำสีแล้ว งาน DIY จะดูดีขึ้นเยอะ (ของผมยังโป๊อยู่หลายตัวเลย 555+)

[YON7848]

-ยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน ค่าทนโวลท์เท่ากัน ถ้าค่าเก็บประจุมาก จะไปทางเสียงทุ้มมากกว่า ค่าเก็บประจุน้อยจะไปทางเสียงแหลมมากกว่า
c filterภาคจ่ายไฟ ลองไปปรับค่าเล่นดูครับ มันไม่บึ้มหรอก เว้นแต่จะใส่ผิดขั้ว

-----------

ที่บอกคือตัวนี้รึเปล่าครับ


เรื่องเสียงร้อง นี้เอาเสียงหนา หรือimageเสียงดูใหญ่ขึ้นครับ

วิธีเท่าที่คิดออกน่ะ
-ลองเอาwima/audyn ค่าน้อย ไปขนาน c electrolyteตัวใหญ่ (wimaได้เสียงกลางหนาหน่อย ส่วนaudynเน้นไปทางทุ้มแต่ชิ้นเสียงจะออกอวบใหญ่)

-ลองเปลี่ยนr metalบางจุดเป็นcarbon film

-c ตัว1500ufลองหาของฟิลิปส์ หรือ bc ตัวสีฟ้าแววดูครับ อาจะต้องปรับค่าหน่อย ลองช่วง1000-2200uf น่าจะหาของได้ที่ร้านใต้บันได
แต่เป็นแบบหางหนู ตัวนี้เสียงกลางผมว่ามันหนาดี แต่ติดขุ่นหน่อย ก็แล้วแต่ชอบครับ ผมว่าถ้าใช้ดีๆ ขุ่นนิดๆ มันก็มีเสน่ห์ดี

ลองทำทีละอย่างล่ะ

วิธีพวกนี้มีได้มีเสียน่ะ(แต่เน้นประหยัดฮา) ก็ทดลองเอาล่ะกัน
ที่เหลือรอท่านอื่นแนะนำ

ขอบคุณที่แนะนำ รูปนั้นแหละของผมที่ใช้อยู่
เดี๋ยวจะลองเปลี่ยนอะไหล่บางตัวดู มี wima อยู่ เน้นทำแบบประหยัดครับ หัดทำจะได้ไม่หมดเยอะ ทำเอาประสบการณ์

อยากได้เสียงนักร้องหนาขึ้นครับ

[เฒ่าทารก]

เสียงที่มีคุณภาพต้องแลกมาด้วยงบประมาณที่สูง

[LoveHifi]

คุณ LoveHifi อยากบอกว่า สวยมากกกกกกกกก

เสียดายรูไม่ค่อยตรง แต่สีสวยจริงๆ ชอบอะ

รูตรงไหนหว่าไม่ค่อยตรง สงสัยผมจะตาเอียงตอนเจาะทำแบบไม่ได้วัดเลย เรียกว่าวัดใจเจาะกันเลย 55555

R input impedance ใส่ค่าเยอะๆผมรู้สึกว่าเสียงมันจะกว้างเปิดกว่าใสกว่า ใส่เยอะเหมือนกับว่าเอาสัญญาณซ๊อตลงดินน้อยลง ส่วนมาก amp เขาใส่ทั่วไปก็ 33k,47k ผมเคย 100k ผมก็ชอบดีนะ

ผมไปอ่านเจอมาเกี่ยวกับค่า R Input impedance ถ้าจำไม่ผิด ถ้าค่าน้อยมันจะสูญเสียเสียงไปบ้างเล็กน้อยแต่ถ้าน้อยเกินไปก็จะไม่ดี ระดับเสียงลดลงไปมาก แต่ถ้าค่ามากไป จะเกิดสัญญาณรบกวนมากขึ้น ยังหารายละเอียดตรงนี้ไม่เจอเคยอ่านผ่านๆ
หาเจอแล้วครับ เขียนไว้ว่าอย่างงี้
" Sets the amplifier's input terminals DC bias point when CIN is present in the circuit. Also works with CIN to create
a highpass filter at fC = 1/(2?RINCIN). If the value of RIN is too large, oscillations may be observed on the outputs
when the inputs are floating. Recommended values are 10k? to 47k?."

อ่ะ พึ่งสังเกตุ สายไฟ AC มี 4เส้น รึ?


ใส่กล่องเรียบร้อย ทำสีแล้ว งาน DIY จะดูดีขึ้นเยอะ (ของผมยังโป๊อยู่หลายตัวเลย 555+)

ทีแรกก็กะเปลือยอยู่เหมือนกัน ถ้าเสียงไม่โดนใจ ส่วนสายเส้นนั่นตอนนั้นหัดทำมั่วๆสมัยหัดทำสายใหม่ๆ ลองไปเรื่อยๆครับ อ๊ะทำไม เข้า 3 ออก 4 จีนทำเกินไม่ใช่ฝรั่งทำเกิน 555555

เสียงที่มีคุณภาพต้องแลกมาด้วยงบประมาณที่สูง

มันอยู่ที่ความพอใจส่วนนึงละมั้งครับ บางคนขี่ควายฟังวิทยุธานินท ก็บอกเสียงดีพอใจละ อย่างผมบางทีฟังลำโพงคู่ละเป็นล้านยังรู้สึกว่าสู้ลำโพงคู่ละแสนไม่ได้เลยก็มี

[LoveHifi]

หลังจากใส่ R4 กลับเข้าไปทั้งสองข้างของ Input แล้ว ลองฟังดู แต่ผมฟังไม่ออกว่าแตกต่างกับไม่ใส่ไว้ยังไง จำอันเดิมก่อนไม่ใส่ R4 ไม่ได้



ท่าน LoveHifi มีอะไรแนะนำหน่อยมั้ยครับ ปรับตรงไหนได้อะไร

ผมขอเริ่มตั้งแต่แรกเลยนะครับ เผื่อท่านที่อยากลองต่อแอมป์เล่นเอง
1. แอมป์ตัวนี้ผมต่อเป็นแบบขนาน ดังนั้นการเลือกอะไหล่ต่างๆควรให้มีค่าใกล้เคียงกันที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อไม่ให้มีความเพี้ยนของสัญญาณมากนัก แต่ถึงจะไม่ได้ขนาน ก็ควรใช้ค่าให้ใกล้เยงกัน

2. ค่าต่างๆ ดูตาม Datasheet เลยครับผมใช้ค่าตามนั้นเลย
http://www.ti.com/lit/ds/symlink/lm4780.pdf
ใช้ทั้งแบบ Stereo , Parallel , Bridged ตามนั้นเลย เพราะเท่าที่ลองมาน่าจะดีสุด

สำหรับพี่ YON จะปรับเปลื่ยนค่า
- R1, 2 ( 20-22k ) ไปใช้เป็นพวก CARBON เพื่อให้เสียงที่หนาขึ้น ตามที่พี่เหมียวแนะนำเลย
- R3 ,5 เปลื่ยนไปใช้ เป็น 1K + C 47uf 50-100V
- R4 จะใช้ค่าซัก 47k ก็ได้ครับ ผมว่ากำลังดี
- C 1,2 ค่าซัก 4700uf 50-100v ถ้าใส่ได้นะครับ

3. แนวเสียงต่างๆ เป็นไปตามอะไหล่ที่ใช้ ซึ่งท่านจะเลือกแบบไหน อย่างพี่ YON ต้องการเสียงร้องหนา เปลื่ยนไปใช้พวก r carbon composit ก็ได้ หรือถ้ามันแพงไปก็เอาแบบ Carbon ธรรมดาเลยแต่วัดค่าให้ดีๆหน่อยเพราะ r พวกนี้ค่าเพี้ยนเยอาะมาก c ที่ใช้เพิ่มค่ามากขึ้นก็จะทำให้เสียงมีมวลได้ดีขึ้นทำให้เสียงร้องจะหนาขึ้นได้นิดหน่อย

4. การลงอะไหล่เวลาบัคกรีควรให้จุดสัมผัสกับตะกั่วเข้าเนื้อกันครับ ช่วยในเรื่องของน้ำเสียงให้เนียนขึ้น

5. ก่อนจะต่อวงจรไฟเข้าแอมป์ ควรวัดไฟก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหา

6. เช็คอุปกรณ์ ด้านหลังเช่น หัวรับสัญญาณเข้า RCA หัวต่อลำโพง ไม่ควรให้ชอร์ตลงตัวถังไม่งั้นท่านอาจเสียของไปหลายตัวเลย ผมใช้มิเตอร์วัดทุกจุดที่สัมผัสตัวเครื่องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่ชอร์ต

7. กราวด์แท่นควรลงที่จุดเดียวไปเลยลากจากแหล่งจ่ายไฟดีสุด และเช็คด้วยว่ากราวด์จุดอื่นๆไม่ได้ลงที่เครื่องโดยตรง

ผมเองก็เพิ่งทำลงกล่องแบบเจาะเองเป็นครั้งแรกเคยแต่ใช้กล่องสำเร็จรูป คลำๆไปเรื่อยๆหาความรู้ มันได้ประสบการณ์จาการลองทำ ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องปรับปรุง ท่านใดมีคำแนะนำเพิ่มเติมก็ยินดีนะครับช่วยๆกัน

[cleaning]

ฝากไว้นิดครับ ไม่รู้ว่าจะเกิดประโยชน์หรือไม่ครับนะครับ 3886 ขนาน 3 ผมจี่ฮัมนิดๆ มีคนแนะนำให้ใช้ R22 ohm ต่อจากกราวด์ RCA ลงกล่องครับ หายจี่ฮัมทันที่ครับ และถ้ามีป้องกันลำโพงก็ต่อกราวด์จากป้องกันลำโพงไปที่ RCA ด้วยครับ

อืมไม่ได้มั่วนะครับ คุณ thaisolar แนะนำ จากที่ทำ 3886 ขนาน 6 นะครับ วิธีการลงกราวด์ครับ และผมลองแล้วได้ผลครับ

[เฒ่าทารก]

เห่อๆๆใช้ความรู้สึกตัดสินแล้วจะมีเครื่องมือในการทำการสอบไว้เพื่ออะไร จะไปเรียนซาว์ดเอ็นจิเนียเพื่ออะไร
ต้องมานั่งฟังเครื่องดนตรีแต่ละชนิดว่าเสียงจริงๆเป็นอย่างไร

[LoveHifi]

เห่อๆๆใช้ความรู้สึกตัดสินแล้วจะมีเครื่องมือในการทำการสอบไว้เพื่ออะไร จะไปเรียนซาว์ดเอ็นจิเนียเพื่ออะไร
ต้องมานั่งฟังเครื่องดนตรีแต่ละชนิดว่าเสียงจริงๆเป็นอย่างไร

มีเครื่องวัดความชอบของแต่ละคนไหมครับ

[ManiacMaew]

ขอบคุณcleaning ที่แชร์ครับ เพิ่งจะรู้เทคนิคเหมือนกัน

-----------

- R3 ,5 เปลื่ยนไปใช้ เป็น 1K + C 47uf 50-100V

-เคยเทียบแบบมีc กับไม่มีcมั้ยครับว่าต่างกันยังไงมั้ยครับ


----

อันนี้คุยเล่น สำหรับคนชอบวัดค่าบ้าตัวเลขน่ะ :P อย่าถือสาคนบ้าบอ
ลองคิดดู
เครื่องมือมันวัดอะไร แล้วหูเราวัดอะไร ???
ต้องวัดค่าทางสถิติตัวไหนบ้าง ค่าทางสถิติตัวไหนมีผลกับที่เราฟัง แล้วมีผลยังไง คิดเล่นๆน่ะ แต่จะหาคำตอบมันไม่ง่ายเลย

[LoveHifi]

ฝากไว้นิดครับ ไม่รู้ว่าจะเกิดประโยชน์หรือไม่ครับนะครับ 3886 ขนาน 3 ผมจี่ฮัมนิดๆ มีคนแนะนำให้ใช้ R22 ohm ต่อจากกราวด์ RCA ลงกล่องครับ หายจี่ฮัมทันที่ครับ และถ้ามีป้องกันลำโพงก็ต่อกราวด์จากป้องกันลำโพงไปที่ RCA ด้วยครับ

อืมไม่ได้มั่วนะครับ คุณ thaisolar แนะนำ จากที่ทำ 3886 ขนาน 6 นะครับ วิธีการลงกราวด์ครับ และผมลองแล้วได้ผลครับ

ใช่ครับเคยอ่านเหมือนกันแต่ยังไม่เคยลอง เพราะตอนนี้ 4780 มันเงียบมากกกก อย่าว่าแต่จี่ฮัมเลย เปิดเครื่องผมยังไม่ได้ยินอะไรเลย เอาหูแนบกับลำโพงเลยครับ ขอบคุณที่มาแชร์กันครับ

ขอบคุณcleaning ที่แชร์ครับ เพิ่งจะรู้เทคนิคเหมือนกัน

-----------



-เคยเทียบแบบมีc กับไม่มีcมั้ยครับว่าต่างกันยังไงมั้ยครับ


----

อันนี้คุยเล่น สำหรับคนชอบวัดค่าบ้าตัวเลขน่ะ :P อย่าถือสาคนบ้าบอ
ลองคิดดู
เครื่องมือมันวัดอะไร แล้วหูเราวัดอะไร ???
ต้องวัดค่าทางสถิติตัวไหนบ้าง ค่าทางสถิติตัวไหนมีผลกับที่เราฟัง แล้วมีผลยังไง คิดเล่นๆน่ะ แต่จะหาคำตอบมันไม่ง่ายเลย

เคยครับลองกับ 3886 ลองถอด C ออก มีผลในเรื่องวามถี่ต่ำแต่จำไม่ได้ว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน



มันเป็น Feedback capacitor ใช้สูตร fc = 1/(2?Ri Ci) จะใส่หรือไม่ใส่ก็ทำงานได้ครับน่าจะเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้ขยายไฟ DC ในวงจร ดังนั้นเลยใส่ไว้น่าจะดีกว่าค่าที่ใส่ก็ทั่วๆไป 10-100uf แล้วแต่ผู้ที่สร้างวงจรต้องการครับ

[ManiacMaew]

จำได้ว่ามันมีทริคแถวนี้ที่ดาต้าชีทlm4780เขียนไว้ แต่lm3875กับ3886ไม่ได้เขียน

HIGH PERFORMANCE CONSIDERATIONS
Using low cost electrolytic capacitors in the signal path such
as CIN and Ci (see Figures 1 - 5) will result in very good performance.
However, electrolytic capacitors are less linear
than other premium capacitors. Higher THD+N performance
may be obtained by using high quality polypropylene capacitors
in the signal path. A more cost effective solution may be
the use of smaller value premium capacitors in parallel with
the larger electrolytic capacitors. This will maintain signal
quality in the upper audio band where any degradation is most
noticeable while also coupling in the signals in the lower audio
band for good bass response.
Distortion is introduced as the audio signal approaches the
lower -3dB point, determined as discussed in the section
above. By using larger values of capacitors such that the -3dB
point is well outside of the audio band will reduce this distortion
and improve THD+N performance.
Increasing the value of the large supply bypass capacitors will
improve burst power output. The larger the supply bypass
capacitors the higher the output pulse current without supply
droop increasing the peak output power. This will also increase
the headroom of the amplifier and reduce THD.

ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้ลองอ่ะน่ะ เลยมายุให้เป็นหนูทดลองแทน
เพื่อจะคนบ้าจี้ทำแล้วเอามาเล่าให้ฟัง

[LoveHifi]

จำได้ว่ามันมีทริคแถวนี้ที่ดาต้าชีทlm4780เขียนไว้ แต่lm3875กับ3886ไม่ได้เขียน



ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้ลองอ่ะน่ะ เลยมายุให้เป็นหนูทดลองแทน
เพื่อจะคนบ้าจี้ทำแล้วเอามาเล่าให้ฟัง

อันนี้เป็นเรื่องจริงครับ ที่เขาเขียนไว้เกี่ยวกับเรื่องการเลือกใช้ขนาดอะไหล่ตัว C อันนี้แล้วแต่ความชอบของผู้ที่ DIY อย่างที่พี่ keang เคยว่าไว้การเลือกใช้อะไหล่ตัวไหนมันก็มีเสียงของอะไหล่ตัวนั้นติดมาด้วย

[carbon_za]

ใช่ครับเคยอ่านเหมือนกันแต่ยังไม่เคยลอง เพราะตอนนี้ 4780 มันเงียบมากกกก อย่าว่าแต่จี่ฮัมเลย เปิดเครื่องผมยังไม่ได้ยินอะไรเลย เอาหูแนบกับลำโพงเลยครับ ขอบคุณที่มาแชร์กันครับ



เคยครับลองกับ 3886 ลองถอด C ออก มีผลในเรื่องวามถี่ต่ำแต่จำไม่ได้ว่าต่างกันมากน้อยแค่ไหน



มันเป็น Feedback capacitor ใช้สูตร fc = 1/(2?Ri Ci) จะใส่หรือไม่ใส่ก็ทำงานได้ครับน่าจะเกี่ยวกับการป้องกันไม่ให้ขยายไฟ DC ในวงจร ดังนั้นเลยใส่ไว้น่าจะดีกว่าค่าที่ใส่ก็ทั่วๆไป 10-100uf แล้วแต่ผู้ที่สร้างวงจรต้องการครับ

c ที่ผ่าน r แล้วลงดินใช่ไหมครับ แล้วก็ rป้อนกลับอีกทีนึง ใส่ค่าน้อยๆเสียงกระฉับกระเฉงกว่า ใส่ค่าเยอะๆเสียงจะนุ่มกว่า มันปรับแต่งได้เยอะครับ

[ManiacMaew]

ตำแหน่งนั้น มีใครเคยขนานค่ามากกับน้อยเข้าด้วยกันมั้ย?

[carbon_za]

ตำแหน่งนั้น มีใครเคยขนานค่ามากกับน้อยเข้าด้วยกันมั้ย?

ผมไม่เคยขนานนะ แต่ผมชอบค่าที่ 100uf เสียงจะออกโทนนุ่มดี