น่าจะคลายประจุครับ
Announcement
Collapse
No announcement yet.
D.I.Y.ตอน ต่อแอมป์ 40+40 w. ราคาไม่ถึงพัน
Collapse
X
-
เพิ่มกระแสนี่ผมว่าไม่น่าเป็นไปได้ ยกเว้นว่าเป็นตัวกำหนด
ค่าของ แร็คกลูเรเตอร์ รูปล่าง ถ้ากระแสไฟผ่านตัวต้านทาน
แบบตรงๆเลย พลังงานจำนวนมาก(ขึ้นอยู่กับค่าความต้านทาน)
จะถูกถ่ายเทไปที่ตัวต้านทาน เต็มๆ ทำให้ตัวต้านทานขาดได้
หรือไม่ก็ต้อง เป็นค่าวัตต์สูงๆถึงจะไม่ขาด
ในเมื่อพลังงานถูกถ่ายเท ไปแล้วกระแสย่อมลดลง แน่นอน
ท่านเสือไปเห็นวงจรที่ไหนหรอครับ
Comment
-
-
ถ้าเอา R มาขนานกับภาคจ่ายไฟ + กับ - เวลาเราไม่ใช้งาน(ปิดเครื่อง) มันจะช่วยคลายประจุที่ค้างใน C ออกครับ ใส่ค่าน้อยก็คลายไวมากๆ ส่วนมากเขาจะใส่กัน 1k 10k
ในวงจรแอมป์หูฟัง Cmoy เหมือนจะมีนะครับในภาคจ่ายไฟ 10kohm ที่ซีก + และ -
ผิดถูกยังไงผมก็ขออภัยนะครับ ถ้าผิดก็ช่วยแนะนำผมด้วยLast edited by carbon_za; 23 Apr 2011, 10:51:24.
Comment
-
Originally posted by tiger X-fiอย่างโวลล์ DC ออกมา 35 V (หลังไดโอด)ใช้ R 2.2 ตัดก่อนเข้า C
นี่ไว้สำหรับเพิ่มแอมแปร์ หรือไว้สำหรับคายประจุครับ
Rค่า2.2Kที่คุณเสือพูดถึง น่าจะหมายถึงR 2.2K 2Wattที่ต่อคร่อมC
ถ้าใช่ Rตัวนี้จะทำหน้าที่ > เมื่อปิดสวิทช์เครื่อง ตัวCจะมีประจุไฟตกค้างอยู่ภายใน ตัวRจะช่วยดิสชาร์ทไฟให้ตัวC
ค่าRไม่ควรต่ำเกินไปเพราะจะทำให้Cเสื่อมเร็วขึ้นเพราะอุณหภูมิภายในตัวCมีค่าสูงขึ้นแบบรวดเร็วกว่าปรกติ
ควรใช้ค่าRสูงหน่อยเพื่อให้Cค่อยๆดิสชาร์ทไฟ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของตัวCเอง
ในทางกลับกัน ถ้าไม่มีRตัวนี้ ที่ตัวCจะไฟค้างอยู่ภายในตลอดเวลา มีผลตามมา2อย่าง
- มีไฟค้างในตัวCนานๆบ่อยๆ จะมีผลให้Cเสื่อมเร็วขึ้นเพราะทำงานตลอดเวลา
- ศักย์ไฟนั้นจะย้อนกลับไปหาไดโอดที่ต่ออยู่ข้างหน้า ไฟในตัวCนั้นจะกลายเป็นไฟไปจ่ายให้ไดโอด เป็นไฟแบบกลับขั้วของไดโอดด้วย(ดูรูปเปรียบเทียบ) ซึ่งตัวไดโอดจะไม่ทำงาน(ไม่มีไฟไหลผ่านตัวมัน)
ซึ่งถ้าค่าไฟสูงเกินค่าreverse voltageของตัวไดโอด จะส่งผลให้ไดโอดเสียหายได้
แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะไฟจากCนั้นมีศักย์ไฟต่ำกว่าที่ไดโอดรับได้อยู่แล้ว
-----------------------------------------------------------------
Originally posted by carbon_zaในวงจรแอมป์หูฟัง Cmoy เหมือนจะมีนะครับในภาคจ่ายไฟ 10kohm ที่ซีก + และ -Originally posted by ManiacMaewในวงจร cmoy
เออ ที่ผมเข้าใจมันแบบนี้น่ะ
R2 R3 ไว้ทำvirtual ground
R1 ใส่จำกัดกระแสให้ led
R2กับR3ต่ออนุกรมกันเป็นvoltage divider(แบ่งแรงดัน) เพื่อให้เกิดความต่างทางศักย์ไฟ
ในจุดนี้เค้าประยุกต์ใช้ประโยชน์ ใช้เป็นวงจรกราวน์เสมือน(virtual ground)
สำหรับเพิ่มจุดเปรียบเทียบศักย์ไฟเพิ่มขึ้นมาอีก1จุด สำหรับใช้เป็นขั้วกราวน์
จะเป็นคนละจุดประสงค์กับการต่อตัวต้านทานเพื่อช่วยCดิสชาร์ทไฟ
แต่ในความเป็นจริง ขณะวงจรทำงาน R2กับR3ก็ช่วยดิสชาร์ทให้C1กับC2ด้วยLast edited by keang; 23 Apr 2011, 12:03:37.
Comment
-
Originally posted by milestone View PostC ตรงวงจรโซเบิลมีผลต่อเสียงแค่ไหนครับ
จำเป็นต้องใช้ของดีมากหรือเปล่าครับ
ตอนนี้ติดฝนอยู่เคี้ยงหลี ช่วยตอบทีจ้า
จะซื้อแล้ว *-*
Last edited by tiger X-fi; 23 Apr 2011, 16:01:44.
Comment
-
Bridge LM1875 เสร็จแล้วจ้า
สังเกตการต่อคาปาซิเตอร์ภาคจ่ายไฟไว้นะครับ มันมีอะไรที่ต้องแตกต่างจากวงจรแอมป์โอซีแอลธรรมดาพอสมควรเลย
มาดูกันใกล้ๆ
แอมป์ข้างขวา
และข้างซ้าย
ตอนนี้กำลังค่อยๆ ลองอยู่ แต่เจอปัญหาเบื้องต้นคือ"ร้อนมาก" เสียบปลั๊กไว้เฉยๆ ยังไม่ส่งสัญญาณเสียงเข้า อุณหภูมิซิ้งไปเพ่นพ่านอยู่แถวๆ 60-70องศา!!! (ไม่มีพัดลม)Last edited by Rev; 23 Apr 2011, 16:34:48.
Comment
-
Originally posted by Rev View Post
ปรกติจะบวกกราวน์ กับ ลบกราวน์ด
ตอบถูกมั้ยเนี้ย?
แล้วทำแบบนี้มันเห็นผลต่างจากปกติยังไงเหรอ
Comment
-
หน้าตารูปสัญญาณ DIGITAL INPUT ของเบอร์WM8740
WM8740: High performance stereo DAC
LRCK(LRCIN), BCK(BCKIN), MCLK, ADATA(DIN) digital signal pattern
( สังเกตุที่ยอดขอบบนล่างของแต่ละลูกคลื่นสัญญาณ จะเห็นเป็นเส้นยึกยือหนาๆ จุดนี้คือสัญญาณดิจิตอลที่มีการม็อด(รวม)สัญญาณหลายๆอย่างมาพร้อมกัน )
Digital Lover ส่วนใหญ่จะบอกว่าดิจิตอลมีแต่โลจิค01 ลองดูรูปแล้วกันว่า โลจิค01จริงเท็จแค่ไหนLast edited by keang; 23 Apr 2011, 17:16:16.
Comment
Comment