Announcement

Collapse
No announcement yet.

หูทอง forum ภาคสั้น กำลังวัตต์บนแอมป์ สำคัญแค่ไหน

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • #16
    Originally posted by akikkik View Post
    กำลังสำรองดีไม่ดีดูจากไหนครับ ถ้าไม่ได้ดูจากหม้อแปลงตัวใหญ่ ดูจาก spec จะรู้ได้ไหมครับ
    ดูคร่าวๆ ได้จากกำลังขับเมื่อLoad ลงครับ เช่นที่ 8 ohm ได้ 50 W เมื่อ load ลดลงเหลือ 4 ohm ก็ควรมีกำลังขับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าครับคือ 100 W ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคขยายสามารถจ่ายกระแสได้อย่างเพียงพอครับ แต่กรณีนี้ใช้ได้กับแอมป์ class Bและ AB เท่านั้น อาจใช้ไม่ได้กับแอมป์ประเภท single end class A บางประเภทนะครับ สุดท้ายก็ต้องตัดสินที่การฟังอยู่ดีครับ
    Last edited by tanwa_kang; 27 May 2010, 20:12:10.

    Comment


    • #17
      ความรู้ทั้งนั้น

      Comment


      • #18
        มาแชร์นะครับ
        กำลังวัตต์ที่ทางผู้ผลิตแจ้งต้องดูรายละเอียดต่อท้ายเพิ่มด้วยครับ

        PMPO (peak music power output) หรือ RMS (root mean square)
        ซึ่ง pmpo วัดแบบแป๊บเดียว rms วัดแบบต่อเนื่อง

        ป้อนค่าความถี่ input ที่เท่าไหร 20-20000 หรือแค่ค่าเดียว
        ถ้าอยากได้เยอะๆมักใช้ที่ 1K

        load 8 หรือ 4 หรือ 2 บางรายพวกแอมป์รถวัดกันที่ 1 Ohm
        รายละเอียดตามความเห็นท่านด้านบนเลยครับ

        ความเพี้ยน ถ้ามาตรฐานหน่อยจะวัดกันที่ 0.1% หรือ 0.01% THD (total harmonic distortion)
        ถ้าวัดที่ความเพี้ยนน้อยก็ได้ค่าW น้อยตาม

        ตัวอย่างนะครับ
        1. 30W rms, 20-20000 Hz, 0.01%THD @ 8 Ohm per chanel
        ถ้าวัดอีกแบบ ที่พวก mini compo ชอบใช้อาจจะได้ถึง

        2. 3000W PMPO (ที่ 1K, 1%THD @ 4 Ohm) แล้วยังเอา chanel ซ้ายกับขวามาบวกกันอีก

        ต่างกัน 100 เท่าพอดี...555

        Comment


        • #19
          Originally posted by sssppp555 View Post
          สอบถามนิดครับ เนื่องจากความรู้ด้านนี้ผมมีน้อย อยากสอบถามว่าถ้าเครื่องแอมป์หลอดวัตต์ต่ำๆ อย่างประมาณ 7-9 วัตต์ นี่ถ้าเทียบก้ับแอมป์ SS 30 w มันเทียบวัตต์กันตรงๆ ได้เลยหรือเปล่าครับ ว่าแอมป์ SS วัตต์สูงกว่า ขอบคุณครับ
          มาว่ากันต่อที่วัตต์ของเอมป์หลอดครับ ขอยืนยันว่าวัตต์ของแอมป์หลอดกับแอมป์ SS เหมือนกันครับ แต่เหตุที่ทำให้วัตต์ของแอมป์หลอดเหมือนจะสูงกว่าแอมป์ SS เพราะว่า พฤติกรรมของการเกิด Clipping ของภาคขขายครับ หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างครับว่าClipping อะไร ขอลงทฤษฎีนิดนึงนะครับ

          สัญญาณเสียงที่เข้ามาขยายที่ภาคขยายจะอยู่ในรูปของของคลื่นตามภาพครับและหากสัญญาณถูกขยายจนยอดคลื่นสูงกว่าระดับไฟเลี้ยงของวงจรจะทำให้ยอดคลื่นโดนตัดที่ระดับแรงดันไฟเลี้ยงวงจรครับ แล้วสิ่งที่ทำให้แอมป์หลอดต่างจากแอมป์SS ก็อยู่ตรงนี้ครับ ในกรณีของแอมป์ SS ลูกคลื่นที่เกิดการ Clip จะถูกตัดเป็นยอดคมตามรูปครับ ซึ่งจะเกิดความเพี้ยนสูงมาก และฟังออกได้อย่างชัดเจนครับนอกจากนี้ยังเป็นอันตรายต่อลำโพงเสียงแหลมอีกด้วยครับ และในกรณีแอมป์หลอดนั้นการ clipping ก็มีอาการแบบเดียวการครับ เพียงแต่ยอดเคลื่อนไม่ถูกตัดป็นยอดคมเหมือนแอมป์ SS ครับ เนื่องจากมีอุปกรณืตัวหนึ่งที่ช่วยลดอาการเหล่านี้คือ Output Transformer นั้นเองครับ ซึ่งจะช่วยลบขอบคมๆของยอดคลื่นที่ถูกตัดให้มนๆทำให้เกิดความเพี้ยนน้อยกว่าครับ แต่ก็สามารถฟังออกได้จากอาการเสียงกลางแหลมนำหน้าครับ หรือบางคนเรียกว่าตื้อครับ
          ฟังอย่างนี้เหมือนแอมป์หลอดจะดีกว่าแอมป์ SS นะครับแต่จริงๆ แล้วก็มีได้มีเสียครับ Output Transformer เองนี้แหละตัวดีครับ เพราะเป็นตัวจำกัดการตอบสนองความถี่และความสามารถในการจ่ายกระแสของภาคขยายครับ ดังนั้นจะพบว่าแอมป์หลอดจะไม่ค่อยเก่งเรื่องความถี่ต่ำและความถี่สูงก็เพราะสาเหตุนี้นี่เองครับ แต่เสียงกลางที่มีความนุ่มนวลมีมวลของแอมป์หลอดก็เป็นที่ชื่นชอบของชมรมหลงเสียงนางเช่นกัน สังเกตุได้จากการ demonstrate แอมป์หลอดส่วนใหญ่จะใช้เพลงร้องครับ

          Comment


          • #20
            ขอบคุณทุกท่านมากครับ ความรู้ทั้งนั้นอ่านเข้าใจง่ายด้วยครับ

            Comment


            • #21
              Originally posted by tanwa_kang View Post
              มาว่ากันต่อที่วัตต์ของเอมป์หลอดครับ ขอยืนยันว่าวัตต์ของแอมป์หลอดกับแอมป์ SS เหมือนกันครับ แต่เหตุที่ทำให้วัตต์ของแอมป์หลอดเหมือนจะสูงกว่าแอมป์ SS เพราะว่า พฤติกรรมของการเกิด Clipping ของภาคขขายครับ หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้างครับว่าClipping อะไร ขอลงทฤษฎีนิดนึงนะครับ

              สัญญาณเสียงที่เข้ามาขยายที่ภาคขยายจะอยู่ในรูปของของคลื่นตามภาพครับและหากสัญญาณถูกขยายจนยอดคลื่นสูงกว่าระดับไฟเลี้ยงของวงจรจะทำให้ยอดคลื่นโดนตัดที่ระดับแรงดันไฟเลี้ยงวงจรครับ แล้วสิ่งที่ทำให้แอมป์หลอดต่างจากแอมป์SS ก็อยู่ตรงนี้ครับ ในกรณีของแอมป์ SS ลูกคลื่นที่เกิดการ Clip จะถูกตัดเป็นยอดคมตามรูปครับ ซึ่งจะเกิดความเพี้ยนสูงมาก และฟังออกได้อย่างชัดเจนครับนอกจากนี้ยังเป็นอันตรายต่อลำโพงเสียงแหลมอีกด้วยครับ และในกรณีแอมป์หลอดนั้นการ clipping ก็มีอาการแบบเดียวการครับ เพียงแต่ยอดเคลื่อนไม่ถูกตัดป็นยอดคมเหมือนแอมป์ SS ครับ เนื่องจากมีอุปกรณืตัวหนึ่งที่ช่วยลดอาการเหล่านี้คือ Output Transformer นั้นเองครับ ซึ่งจะช่วยลบขอบคมๆของยอดคลื่นที่ถูกตัดให้มนๆทำให้เกิดความเพี้ยนน้อยกว่าครับ แต่ก็สามารถฟังออกได้จากอาการเสียงกลางแหลมนำหน้าครับ หรือบางคนเรียกว่าตื้อครับ
              ฟังอย่างนี้เหมือนแอมป์หลอดจะดีกว่าแอมป์ SS นะครับแต่จริงๆ แล้วก็มีได้มีเสียครับ Output Transformer เองนี้แหละตัวดีครับ เพราะเป็นตัวจำกัดการตอบสนองความถี่และความสามารถในการจ่ายกระแสของภาคขยายครับ ดังนั้นจะพบว่าแอมป์หลอดจะไม่ค่อยเก่งเรื่องความถี่ต่ำและความถี่สูงก็เพราะสาเหตุนี้นี่เองครับ แต่เสียงกลางที่มีความนุ่มนวลมีมวลของแอมป์หลอดก็เป็นที่ชื่นชอบของชมรมหลงเสียงนางเช่นกัน สังเกตุได้จากการ demonstrate แอมป์หลอดส่วนใหญ่จะใช้เพลงร้องครับ
              +1 ครับ output ดีๆมักจะแพง แต่ส่วนใหญ่มักจะพันกันเองมากกว่า ลักษณะการเรียงขดลวด
              มีผลกับบุคลิกของเสียง

              Comment


              • #22
                เรื่องนี้ความรู้ผมยังน้อยเหมือนกัน อ่านเพื่อเพิ่มความรู้ครับ ^^

                Comment


                • #23
                  ของผม Moon i-1 แค่ 50 วัตต์ที่ 8 โอห์ม 100 วัตต์ที่ 4 โอห์ม
                  สังเกตุตรงนี้ว่ากำลังมันเพิ่มขึ้นเท่าตัว แปลว่ากำลังสำรองดี
                  ขับ Totem Model 1 สบายๆ ทางเซลล์ที่จำหน่ายให้ผมเขาบอกว่าอยู่ที่ร้านเขาขับตัวตั้งพื้นสบายๆด้วยซ้ำ
                  เปิด 9 นาฬิกาดังเต็มห้อง แต่มีอีกหลายยี่ห้อ ต้องบิดวอลลุ่มประมาณเที่ยง ถึง บ่ายสอง

                  ผมเคยบอกว่าอยากเปลี่ยนเป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น เขาบอกว่าไม่ต้องหรอกที่เห็นเขียนกำลังขับมากๆมันไปช่วยเรื่องรายละเอียดของเสียงมากกว่า และใช้แค่พอเพียงก็พอ ประหยัดด้วย
                  เขายังบอกผมว่าถ้ามีแอมป์ญี่ปุ่นสัก 300 วัตต์ กับ มาร์ค เลวินสัน 100 วัตต์ น้ำหนัก 40-50 กิโล ผมจะเลือกอันไหน

                  ส่วนเรื่องแอมป์หลอดนั้น บางที่ตัวที่วัตต์มากอาจขับลำโพงที่ออกแบบสมัยใหม่มากๆไม่ได้
                  เพราะครอสโอเวอร์ด้านในมันมีความซับซ้อนทันสมัย
                  และแอมป์แต่ละตัวความไพเราะของเสียงต่างกัน แนวเสียงต่างกัน
                  สรุปคือวัตต์ให้พอเพียง และ แนวเสียงของแอมป์แบบที่เราชอบ
                  ส่วนขับไหวไม่ไหวนี่ง่ายนิดเดียวคือเอามาลองดูครับ อิอิ
                  Last edited by naraklive; 28 May 2010, 14:40:30.

                  Comment


                  • #24
                    ไม่รู้จะใช้ฟันธงได้ไหมครับ แต่เห็นแอมป์ราคาแพงๆนั้นโดยส่วนใหญ่มักจะมีข้อดีที่เราคิดไม่ถึงอยู่ เช่นแอมป์ naim 50w@8ohm เป็นแอมป์ที่มีกำลังขับเหลือมากๆ ขับลำโพงที่ขับยากๆได้หลุดตู้เพียง 50w แต่ราคา ครึ่งแสน * *

                    Originally posted by naraklive View Post
                    ของผม Moon i-1 แค่ 50 วัตต์ที่ 8 โอห์ม 100 วัตต์ที่ 4 โอห์ม
                    สังเกตุตรงนี้ว่ากำลังมันเพิ่มขึ้นเท่าตัว แปลว่ากำลังสำรองดี
                    ขับ Totem Model 1 สบายๆ ทางเซลล์ที่จำหน่ายให้ผมเขาบอกว่าอยู่ที่ร้านเขาขับตัวตั้งพื้นสบายๆด้วยซ้ำ
                    เปิด 9 นาฬิกาดังเต็มห้อง แต่มีอีกหลายยี่ห้อ ต้องบิดวอลลุ่มประมาณเที่ยง ถึง บ่ายสอง

                    ผมเคยบอกว่าอยากเปลี่ยนเป็นรุ่นที่ใหญ่ขึ้น เขาบอกว่าไม่ต้องหรอกที่เห็นเขียนกำลังขับมากๆมันไปช่วยเรื่องรายละเอียดของเสียงมากกว่า และใช้แค่พอเพียงก็พอ ประหยัดด้วย
                    เขายังบอกผมว่าถ้ามีแอมป์ญี่ปุ่นสัก 300 วัตต์ กับ มาร์ค เลวินสัน 100 วัตต์ น้ำหนัก 40-50 กิโล ผมจะเลือกอันไหน

                    ส่วนเรื่องแอมป์หลอดนั้น บางที่ตัวที่วัตต์มากอาจขับลำโพงที่ออกแบบสมัยใหม่มากๆไม่ได้
                    เพราะครอสโอเวอร์ด้านในมันมีความซับซ้อนทันสมัย
                    และแอมป์แต่ละตัวความไพเราะของเสียงต่างกัน แนวเสียงต่างกัน
                    สรุปคือวัตต์ให้พอเพียง และ แนวเสียงของแอมป์แบบที่เราชอบ
                    ส่วนขับไหวไม่ไหวนี่ง่ายนิดเดียวคือเอามาลองดูครับ อิอิ

                    Comment


                    • #25
                      Originally posted by HiddenDragon View Post
                      ไม่รู้จะใช้ฟันธงได้ไหมครับ แต่เห็นแอมป์ราคาแพงๆนั้นโดยส่วนใหญ่มักจะมีข้อดีที่เราคิดไม่ถึงอยู่ เช่นแอมป์ naim 50w@8ohm เป็นแอมป์ที่มีกำลังขับเหลือมากๆ ขับลำโพงที่ขับยากๆได้หลุดตู้เพียง 50w แต่ราคา ครึ่งแสน * *
                      แหมท่านกระทู้ย้ายมาอยู่ห้องนี้นี่เอง

                      แอมป์ราคาถูกกับราคาแพงบางทีวงจรก็ไม่ต่างกันมากครับแต่ที่ทำให้เสียงต่างกันก็ไอ้ภาคจ่ายไฟนี่แหละครับ เพราะต้นทุนหลักๆของแอมป์ก์อยู่ที่ส่วนนี้แหละครับ และมีนิดหน่อยเป็นส่วนของ trick เล็กๆน้อยๆของแต่ละผู้ผลิตครับ และบางทีก็ขายชื่อเสียงเก่าๆในอดีตครับ ประเภทคนยังไม่ทันฟังเห็นแค่ชื่อก็บอกเสียงดีแล้วครับ ของอย่างนี้ต้องลองฟังสถานเดียวครับ ปัญหาก็คือใครจะมีโอกาสได้ลองฟังแอมป์หลายๆตัวเทียบกันในสภาพเดียวกันนี้สิ เฮ้อ....
                      Last edited by tanwa_kang; 28 May 2010, 18:22:29.

                      Comment


                      • #26
                        naim เป็นแอมป์น่าอัศจรรย์จริงๆ ภาคจ่ายไฟก็ไม่ใหญ่โตมหึมาเหมือนแอมป์อเมริกัน และวัตต์ก็ไม่สูงมาก แต่สามารถขับลำโพงที่โหลดโหดๆได้ง่ายๆ แถมเสียงดีต่างหาก

                        แต่ที่ดูภายใน จะเห็นว่า naim เน้นภาคจ่ายไฟและระบบกราวน์มาก รวมทั้งคัดของดีที่สามารถทำงานเข้ากันได้ดีมากกว่าคัดแต่ของดีๆทั้งหมดมาใส่รวมกันเหมือนแอมป์หลายตัวที่เรียกว่าเปิดเครื่องมา นับค่าอะไหล่ในเครื่องก็คุ้มราคาแล้ว แต่เรื่องเสียงนั้นอีกเรื่องหนึ่ง

                        คุณ tanwa kang นี้สงสัยไม่ใช่แค่หูทอง สงสัยเป็นนัก DIY ด้วย เรื่องวัตต์ของแอมป์หลอด ผมรู้ว่าการวัดค่าวัตต์เหมือนกัน แต่จำไม่ได้เพราะอะไร อ่านเที่ยวนี้เข้าใจเลยครับ อธิบายง่ายๆ ชัดเจนดีครับ

                        ผมอยากจะบอกว่าเรื่องเสียงนี้ดูจากสเป็คไม่ได้ก็ไม่เชิง แต่ผมว่าวิธีการวัดที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน มันยังไม่มีมากกว่า แต่ผมเคยได้ยินว่า สายสัญญาณของ MIT เค้ามีวิธีการวัดค่าความชัดของเสียง โดยใช้เครื่องมือวัดนี้แหละ ไม่ใช้หูวัด ถ้าค่ามากกว่าแสดงว่าชัดกว่า ก็ใช้ได้ในสายรุ่นซี่รีย์เดียวกัน แต่พอรุ่นใหม่แพงขึ้น กลับวัดค่าได้ลดลง แต่ทาง MIT ก็ยืนยันว่ารุ่นใหม่นี้เสียงดีกว่ารุ่นเดิม แสดงว่าเสียงชัดกว่าก็ยังไม่ใช่ข้อสรุปว่าเสียงดีกว่า แต่ในสายรุ่นใหม่ด้วยกัน สายที่มีค่าความชัดมากกว่า ราคาก็แพงกว่าครับ

                        Comment


                        • #27
                          Originally posted by pongxxx View Post
                          naim เป็นแอมป์น่าอัศจรรย์จริงๆ ภาคจ่ายไฟก็ไม่ใหญ่โตมหึมาเหมือนแอมป์อเมริกัน และวัตต์ก็ไม่สูงมาก แต่สามารถขับลำโพงที่โหลดโหดๆได้ง่ายๆ แถมเสียงดีต่างหาก

                          แต่ที่ดูภายใน จะเห็นว่า naim เน้นภาคจ่ายไฟและระบบกราวน์มาก รวมทั้งคัดของดีที่สามารถทำงานเข้ากันได้ดีมากกว่าคัดแต่ของดีๆทั้งหมดมาใส่รวมกันเหมือนแอมป์หลายตัวที่เรียกว่าเปิดเครื่องมา นับค่าอะไหล่ในเครื่องก็คุ้มราคาแล้ว แต่เรื่องเสียงนั้นอีกเรื่องหนึ่ง

                          คุณ tanwa kang นี้สงสัยไม่ใช่แค่หูทอง สงสัยเป็นนัก DIY ด้วย เรื่องวัตต์ของแอมป์หลอด ผมรู้ว่าการวัดค่าวัตต์เหมือนกัน แต่จำไม่ได้เพราะอะไร อ่านเที่ยวนี้เข้าใจเลยครับ อธิบายง่ายๆ ชัดเจนดีครับ

                          ผมอยากจะบอกว่าเรื่องเสียงนี้ดูจากสเป็คไม่ได้ก็ไม่เชิง แต่ผมว่าวิธีการวัดที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน มันยังไม่มีมากกว่า แต่ผมเคยได้ยินว่า สายสัญญาณของ MIT เค้ามีวิธีการวัดค่าความชัดของเสียง โดยใช้เครื่องมือวัดนี้แหละ ไม่ใช้หูวัด ถ้าค่ามากกว่าแสดงว่าชัดกว่า ก็ใช้ได้ในสายรุ่นซี่รีย์เดียวกัน แต่พอรุ่นใหม่แพงขึ้น กลับวัดค่าได้ลดลง แต่ทาง MIT ก็ยืนยันว่ารุ่นใหม่นี้เสียงดีกว่ารุ่นเดิม แสดงว่าเสียงชัดกว่าก็ยังไม่ใช่ข้อสรุปว่าเสียงดีกว่า แต่ในสายรุ่นใหม่ด้วยกัน สายที่มีค่าความชัดมากกว่า ราคาก็แพงกว่าครับ
                          แหะๆๆ ผมมันพวกชอบดูข้างในน่ะครับ เอ๊ะ
                          คือว่าผมมักจะอยากรู้ว่า แอมป์ดีขายกันราคาแพงๆมันมีอะไรอยู่ข้างใน เลยพยามหารูปภายในของเครื่องเสียงมาดู ดูของจริงบ้างตามงานHifi และพยายามศึกษาดูครับ ตอนหลังๆรู้มากก็เลยลองทำเองบ้างทำให้รู้ว่าทำเองแล้วให้ได้ดีนั้นแพงกว่าซื้ออีกครับ555
                          แต่ที่บอกว่า" ผมอยากจะบอกว่าเรื่องเสียงนี้ดูจากสเป็คไม่ได้ก็ไม่เชิง แต่ผมว่าวิธีการวัดที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน มันยังไม่มีมากกว่า" นี่ใฃ่เลยครับ ตอนนี้เรายังไม่มีเครื่องมือ ที่มีความละเอียดทัดเทียมกับหูของคนครับ

                          Comment


                          • #28
                            แต่ผมก็ยังยืนยันความคิดเดิมครับ เห็นแอมป์สเปคแรงๆมาหลายละ พะยี่ห้อว่าชื่อเสียงดี เปิดออกมา
                            โอย ไม่ไหว ฟังไม่ได้เอาเสียเลย แบบเควไงครับ รุ่นใหม่ของเคว ฟังไม่ค่อยดีเท่ารุ่นเก่าเลย เสียงไปไม่ได้ วัสดุห่วย ที่สำคัญเมดอินไชน่า
                            ไชน่า สุดๆแล้ว ครับ
                            Originally posted by pongxxx View Post
                            naim เป็นแอมป์น่าอัศจรรย์จริงๆ ภาคจ่ายไฟก็ไม่ใหญ่โตมหึมาเหมือนแอมป์อเมริกัน และวัตต์ก็ไม่สูงมาก แต่สามารถขับลำโพงที่โหลดโหดๆได้ง่ายๆ แถมเสียงดีต่างหาก

                            แต่ที่ดูภายใน จะเห็นว่า naim เน้นภาคจ่ายไฟและระบบกราวน์มาก รวมทั้งคัดของดีที่สามารถทำงานเข้ากันได้ดีมากกว่าคัดแต่ของดีๆทั้งหมดมาใส่รวมกันเหมือนแอมป์หลายตัวที่เรียกว่าเปิดเครื่องมา นับค่าอะไหล่ในเครื่องก็คุ้มราคาแล้ว แต่เรื่องเสียงนั้นอีกเรื่องหนึ่ง

                            คุณ tanwa kang นี้สงสัยไม่ใช่แค่หูทอง สงสัยเป็นนัก DIY ด้วย เรื่องวัตต์ของแอมป์หลอด ผมรู้ว่าการวัดค่าวัตต์เหมือนกัน แต่จำไม่ได้เพราะอะไร อ่านเที่ยวนี้เข้าใจเลยครับ อธิบายง่ายๆ ชัดเจนดีครับ

                            ผมอยากจะบอกว่าเรื่องเสียงนี้ดูจากสเป็คไม่ได้ก็ไม่เชิง แต่ผมว่าวิธีการวัดที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน มันยังไม่มีมากกว่า แต่ผมเคยได้ยินว่า สายสัญญาณของ MIT เค้ามีวิธีการวัดค่าความชัดของเสียง โดยใช้เครื่องมือวัดนี้แหละ ไม่ใช้หูวัด ถ้าค่ามากกว่าแสดงว่าชัดกว่า ก็ใช้ได้ในสายรุ่นซี่รีย์เดียวกัน แต่พอรุ่นใหม่แพงขึ้น กลับวัดค่าได้ลดลง แต่ทาง MIT ก็ยืนยันว่ารุ่นใหม่นี้เสียงดีกว่ารุ่นเดิม แสดงว่าเสียงชัดกว่าก็ยังไม่ใช่ข้อสรุปว่าเสียงดีกว่า แต่ในสายรุ่นใหม่ด้วยกัน สายที่มีค่าความชัดมากกว่า ราคาก็แพงกว่าครับ

                            Comment


                            • #29
                              ไชน่านี่ต้องระวัง เดี้ยงง่ายหน่อย
                              ผมก็ไม่ค่อยมีความรู้ รู้แต่ดูหม้อแปลงเทอร์รอยด์ข้องในมันใหญ่ดี

                              Comment


                              • #30
                                ขอดันหน่อยนะครับ กระทู้ดีมีประโยชน์

                                Comment

                                Working...
                                X